SlideShare a Scribd company logo
1 of 99
Download to read offline
1
บทที่ 3
ซอฟต์แวร์
2
 1.ซอฟต์แวร์ระบบ (System
Software)
 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application
Software)
3
ซอฟต์แวร์
4
1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
เกี่ยวข้องกับการควบคุมการทางานที่ใกล้ชิด
กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มากที่สุด
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ระบบปฎิบัติการ (operating systems)
โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility programs)
5
2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้เฉพาะด้านเท่านั้น
แบ่งออกตามเกณฑ์ที่ใช้แบ่งได้ดังนี้
แบ่งตามลักษณะการผลิต
แบ่งตามกลุ่มการใช้งาน
6
2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
แบ่งตามลักษณะการผลิต ได้ 2
ประเภทคือ
ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้เองโดยเฉพาะ
ซอฟต์แวร์ที่หาซื้อได้โดยทั่วไป
7
2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
แบ่งตามกลุ่มการใช้งาน ได้ 3 กลุ่มใหญ่
คือ
กลุ่มการใช้งานทางด้านธุรกิจ
กลุ่มการใช้งานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย
กลุ่มใช้งานบนเว็บและการติดต่อสื่อสาร
8
การจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้งาน
1. แบบสาเร็จรูป (Package Software)
2. แบบว่าจ้าง (Custom Software)
3. แบบทดลองใช้ (Shareware)
4. แบบใช้งานฟรี (Freeware)
5. แบบโอเพ่นซอร์ส (Public-
Domain/Open Source)
9
1. แบบสาเร็จรูป (Package Software)
 หาซื้อได้กับตัวแทนจาหน่ายซอฟต์แวร์ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก
บริษัทผู้ผลิตโดยตรง
 นาไปติดตั้งเพื่อการใช้งานได้โดยทันที โดยมีบรรจุภัณฑ์และ
เอกสารคู่มือการใช้งานไว้แล้ว
 อาจเข้าไปในเว็บไซท์ของบริษัทผู้ผลิตเพื่อซื้อได้เช่นกัน
10
2. แบบว่าจ้าง (Custom Software)
 เหมาะกับลักษณะงานที่เป็นแบบเฉพาะ
 จาเป็นต้องผลิตขึ้นมาใช้เองหรือว่าจ้างให้ทา
 อาจมีค่าใช้จ่ายที่แพงพอสมควร
11
3. แบบทดลองใช้ (Shareware)
ลูกค้าสามารถทดสอบการใช้งานของโปรแกรม
ก่อนได้ฟรี
ผู้ผลิตจะกาหนดระยะเวลาของการใช้งานหรือ
เงื่อนไขอื่น เช่น ใช้ได้ภายใน 30 วัน หรือ ใช้ได้ แต่
ปรับลดคุณสมบัติบางอย่างลง
อาจดาวน์โหลดได้จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
12
4. แบบใช้งานฟรี (Freeware)
สามารถดาวน์โหลดบนอินเทอร์เน็ตได้
ส่วนใหญ่จะเป็นโปรแกรมขนาดเล็กและใช้เวลา
เพียงไม่กี่นาทีในการดาวน์โหลด
ให้ใช้งานได้ฟรี แต่ไม่สามารถนาไปพัฒนาต่อหรือ
แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้
ลิขสิทธิ์เป็นของบริษัทหรือทีมงานผู้ผลิต
13
5. แบบโอเพ่นซอร์ส
(Public-Domain/Open Source)
 Open Source = ซอฟต์แวร์ที่มีการเปิดให้แก้ไขปรับปรุงตัว
โปรแกรมต่างๆได้
 นาเอาโค้ดโปรแกรมไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ได้ภายใต้
เงื่อนไขที่กาหนด
 มีนักพัฒนาจากทั่วโลก ช่วยกันเขียนโค้ดและนาไปแจกจ่าย
ต่อ
 ประหยัดเงินและค่าใช้จ่าย
 การพัฒนาโปรแกรมทาได้เร็วขึ้น
14
ระบบปฏิบัติการ (operating systems)
ใช้สาหรับการควบคุมและประสานงานอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ทั้งหมดโดยเฉพาะกับส่วนนาเข้าและ
ส่งออกผลลัพธ์ (I/O Device) บางครั้งเรียกว่า
แพล็ตฟอร์ม (platform)
คอมพิวเตอร์จะทางานได้จาเป็นต้องมี
ระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่ในเครื่องเสียก่อน
15
คุณสมบัติในการทางาน
 การทางานแบบ Multi-Tasking
16
คุณสมบัติในการทางาน
 การทางานแบบ Multi-User
17
ประเภทของระบบปฏิบัติการ
อาจแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
2. ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (network OS)
3. ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (embeded OS)
18
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
 มุ่งเน้นและให้บริการสาหรับผู้ใช้เพียงคนเดียว (เจ้าของ
เครื่องนั้นๆ)
 นิยมใช้สาหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลและทางาน
แบบทั่วไป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ตามบ้านหรือสานักงาน
 รองรับการทางานบางอย่าง เช่น พิมพ์รายงาน ดูหนัง ฟัง
เพลงหรือเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
 ปัจจุบันสามารถเป็นเครื่องลูกข่ายเพื่อขอรับบริการจาก
เครื่องแม่ข่ายได้ด้วย
19
2.ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (network OS)
 มุ่งเน้นและให้บริการสาหรับผู้ใช้หลายๆคน (multi-user)
 นิยมใช้สาหรับงานให้บริการและประมวลผลข้อมูลสาหรับ
เครือข่ายโดยเฉพาะ
 มักพบเห็นได้กับการนาไปใช้ในองค์กรธุรกิจทั่วไป
 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฎิบัติการเหล่านี้จะเรียกว่า
เครื่อง server (เครื่องแม่ข่าย)
20
3.ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (embeded OS)
พบเห็นได้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก เช่น พี
ดีเอ หรือ smart phone บางรุ่น
สนับสนุนการทางานแบบเคลื่อนที่ได้เป็นอย่างดี
บางระบบมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับระบบปฎิบัติการ
แบบเดี่ยว เช่น ดูหนัง ฟังเพลงหรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ได้
21
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
DOS (Disk Operating System)
พัฒนาขึ้นเมื่อประมาณปี 1980
ใช้สาหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็น
หลัก
ป้อนชุดคาสั่งที่เรียกว่าcommand-line
22
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
DOS (Disk Operating System)
23
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
Windows
ส่วนประสานงานกับผู้ใช้แบบGUI (Graphical User
Interface)
ใช้งานได้ง่าย ผู้ใช้ไม่ต้องจดจาคาสั่งให้ยุ่งยาก
แบ่งงานออกเป็นส่วนๆที่เรียกว่าหน้าต่างงาน หรือ
Windows
24
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
Windows
25
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
Unix
ผู้ใช้กับต้องมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์
พอสมควร
รองรับกับการทางานของผู้ใช้ได้หลายๆคนพร้อม
กัน (multi-user)
มีการพัฒนาระบบที่สนับสนุนให้ใช้งานได้ทั้งแบบ
เดี่ยวและแบบเครือข่าย
26
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
Unix
27
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
Mac OS X
ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทแอปเปิ้ล
เท่านั้น
เหมาะสมกับการใช้งานประเภทสิ่งพิมพ์เป็นหลัก
มีระบบสนับสนุนแบบ GUIเช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการ
Windows
28
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
Mac OS X
29
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
Linux
พัฒนามาจากระบบ Unix
ใช้โค้ดที่เขียนประเภทโอเพ่นซอร์ส(open source)
มีการผลิตออกมาหลายชื่อเรียกแตกต่างกันไป
มีทั้งแบบที่ใช้สาหรับงานแบบเดี่ยวตามบ้านและแบบที่ใช้
สาหรับงานควบคุมเครือข่ายเช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการ
แบบ Unix
30
1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-alone OS)
 Linux
31
2.ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (Network OS)
 Windows Server
 ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบ
เครือข่าย
 โดยเฉพาะ เดิมมีชื่อว่า Windows NT
 รองรับกับการใช้งานในระดับองค์กร
ขนาดเล็กและขนาดกลาง พัฒนาโดย
บริษัทไมโครซอฟท์
 เหมาะกับการติดตั้งและใช้งานกับ
เครื่องประเภทแม่ข่าย (server)
32
ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (Network OS)
 OS/2 Warp Server
พัฒนาโดยบริษัทไอบีเอ็ม
ใช้เป็นระบบเพื่อควบคุม
เครื่องแม่ข่ายหรือ server
เช่นเดียวกัน
33
2.ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (Network OS)
Solaris
ทางานคล้ายกับ
ระบบปฏิบัติการแบบ Unix
(Unix compatible)
ผลิตโดยบริษัทซัน ไมโครซิส
เต็มส์
34
3.ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (Embedded OS)
 Pocket PC OS (Windows CE
เดิม)
 ย่อขนาดการทางานของ Windows
ให้มีขนาดที่เล็กลง (scaled-down
version)
 รองรับการทางานแบบ multi-tasking
ได้
 มักติดตั้งบนเครื่อง Pocket PC หรือ
อาจพบเห็นในมือถือประเภท smart
phone บางรุ่น
35
3.ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (Embedded OS)
 Palm OS
 พัฒนาขึ้นมาก่อน Pocket PC OS
 ลักษณะงานที่ใช้จะคล้ายๆกัน
 ใช้กับเครื่องที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทปาล์ม
และบางค่ายเท่านั้น เช่น Visor (ของ
ค่ายHandspring) และ CLIE (ของ
ค่าย Sony)
36
3.ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (Embedded OS)
 Symbian OS
 รองรับกับเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย (wireless) โดยเฉพาะ
 นิยมใช้กับโทรศัพท์มือถือประเภท smart phone
 สนับสนุนการทางานแบบหลายๆงานในเวลาเดียวกัน (multi-
tasking)
37
โปรแกรมอรรถประโยชน์
หรือโปรแกรมยูทิลิตี้(Utility Program)
 ส่วนใหญ่จะมีขนาดของไฟล์ที่เล็กกว่าระบบปฏิบัติการ
 มีคุณสมบัติในการใช้งานค่อนข้างหลากหลายหรือใช้งานได้แบบ
อรรถประโยชน์
 นิยมเรียกสั้นๆว่า ยูทิลิตี้(utility)
 อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ
ยูทิลิตี้สาหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs)
ยูทิลิตี้อื่นๆ (stand-alone utility programs)
38
ยูทิลิตี้สาหรับระบบปฏิบัติการ
(OS Utility Programs)
ตัวอย่างของยูทิลิตี้ที่ทางานด้านต่างๆ
ประเภทการจัดการไฟล์ (File Manager)
ประเภทการลบทิ้งโปรแกรม (Uninstaller)
ประเภทการสแกนดิสก์ (Disk Scanner)
ประเภทการจัดเรียงพื้นที่เก็บข้อมูล (Disk
Defragmenter)
ประเภทรักษาหน้าจอ (Screen Saver)
39
ยูทิลิตี้สาหรับระบบปฏิบัติการ
(OS Utility Programs)
 ประเภทการจัดการไฟล์ (File
Manager)
 มีหน้าที่หลักในการจัดการเกี่ยวกับ
ไฟล์ต่างๆเช่น การคัดลอก การ
เปลี่ยนชื่อ การลบและการย้ายไฟล์
เป็นต้น
 ระบบปฏิบัติการ Windows รุ่น
ใหม่ๆยังได้เพิ่มคุณสมบัติที่เรียกว่า
image viewer เพื่อนามาปรับใช้กับ
ไฟล์รูปภาพได้
40
ยูทิลิตี้สาหรับระบบปฏิบัติการ
(OS Utility Programs)
 ประเภทการลบทิ้งโปรแกรม
(Uninstaller)
 ลบหรือกาจัดโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้
ออกไปจากระบบ
 ทาให้พื้นที่เก็บข้อมูลมีเหลือเพิ่ม
มากขึ้น
 ทางานได้อย่างง่ายดาย
41
ยูทิลิตี้สาหรับระบบปฏิบัติการ
(OS Utility Programs)
 ประเภทการสแกนดิสก์ (Disk
Scanner)
 สแกนหาข้อผิดพลาดต่างๆพร้อมทั้ง
หาทางแก้ปัญหาในดิสก์
 ประยุกต์ใช้เพื่อสแกนหาไฟล์ที่ไม่
ต้องการใช้งาน (unnecessary files)
เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ไประยะหนึ่งได้
42
ยูทิลิตี้สาหรับระบบปฏิบัติการ
(OS Utility Programs)
 ประเภทการจัดเรียงพื้นที่เก็บ
ข้อมูล (Disk Defragmenter)
 ช่วยในการจัดเรียงไฟล์ข้อมูลให้
เป็นระเบียบ และเป็นกลุ่มเป็น
ก้อน
 เมื่อต้องการใช้งานไฟล์ข้อมูลใน
ภายหลังจะเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
และรวดเร็วกว่าเดิม
43
ยูทิลิตี้สาหรับระบบปฏิบัติการ
(OS Utility Programs)
 ประเภทรักษาหน้าจอ
(Screen Saver)
 ช่วยถนอมอายุการใช้งานของ
จอคอมพิวเตอร์ให้ยาวนานมากขึ้น
 ใช้ภาพเคลื่อนไหวไปมา และเลือก
ลวดลายหรือภาพได้ด้วยตนเอง
 อาจพบเห็นกับการตั้งค่ารหัสผ่าน
ของโปรแกรมรักษาหน้าจอเอาไว้ได้
44
ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-Alone Utility Programs)
เป็นยูทิลิตี้ที่ทางานด้านอื่นโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับ
ระบบปฎิบัติการ
มักทางานเฉพาะอย่าง หรือด้านใดด้านหนึ่ง
มีทั้งที่แจกให้ใช้ฟรีและเสียเงิน
มีให้เลือกใช้เยอะและหลากหลายมาก
ใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่
45
ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-Alone Utility Programs)
 โปรแกรมป้องกันไวรัส (Anti
Virus Program)
 ติดตั้งไว้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา
เกี่ยวกับโปรแกรมประสงค์ร้าย
 ต้องอัพเดทข้อมูลใหม่อยู่เสมอ
เพื่อให้รู้จักและหาทางยั้บยั้งไวรัส
ใหม่ๆที่เกิดขึ้นทุกวัน
 ควรติดตั้งไว้ในเครื่องทุกเครื่อง
46
ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-Alone Utility Programs)
 โปรแกรมไฟร์วอลล์ (Personal
Firewall)
 ป้องกันการบุกรุกจากผู้ไม่ประสงค์ดี
 สามารถติดตามและตรวจสอบรายการ
ต่างๆของผู้บุกรุกได้
 เหมาะกับเครื่องที่ต้องการรักษาความ
ปลอดภัยของข้อมูลเป็นอย่างมาก
47
ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-Alone Utility Programs)
 โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (File
Compression Utility)
 เป็นโปรแกรมที่ทาหน้าที่บีบอัดไฟล์
ให้มีขนาดที่เล็กลง
 ไฟล์ที่ได้จากการบีบอัดไฟล์บางครั้ง
นิยมเรียกว่า ซิปไฟล์ (zip files)
 ยูทิลิตี้ที่นิยมใช้และรู้จักกันเป็นอย่าง
ดี เช่น PKZip, WinZip เป็นต้น
48
2.2 ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์
แบ่งตามลักษณะการผลิตได้เป็น 2 ประเภท
ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเอง (proprietary software)
ซอฟต์แวร์ที่หาซื้อได้โดยทั่วไป (off-the-shelf
software)
49
ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเอง (proprietary software)
เพราะหน่วยงานไม่สามารถหาซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม
และมีประสิทธิภาพดีเพียงพอกับความต้องการได้
วิธีการพัฒนาอาจทาได้ 2 วิธีคือ
in-house developed สร้างและพัฒนาโดยหน่วยงาน
ในบริษัทเอง
contract หรือ outsource เป็นการจ้างบุคคลภายนอก
ให้ทาขึ้นมา
50
ซอฟต์แวร์ที่หาซื้อได้โดยทั่วไป
(Off-the-shelf Software)
 มีวางขายตามท้องตลาดทั่วไป (off-the-shelf) โดยบรรจุ
หีบห่ออย่างดีและสามารถนาไปติดตั้งและใช้งานได้ทันที
 บางครั้งนิยมเรียกว่า โปรแกรมสาเร็จรูป (package
software)
 อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
โปรแกรมเฉพาะ (customized package)
โปรแกรมมาตรฐาน (standard package)
51
โปรแกรมเฉพาะ (customized package)
เป็นโปรแกรมที่อาจต้องขอให้ผู้ผลิตทาการเพิ่มเติม
คุณสมบัติบางอย่างลงไปเพียงเล็กน้อย
เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบเฉพาะองค์กร
มากขึ้น
บางครั้งนิยมเรียกว่าเป็นซอฟต์แวร์ตามคาสั่ง
(tailor-made software)
52
โปรแกรมมาตรฐาน (standard package)
 สามารถใช้ได้กับงานทั่วไป
 มีคุณสมบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
 ใช้งานง่าย ศึกษาคู่มือและรายละเอียดการใช้เพียง
เล็กน้อย
 ไม่จาเป็นต้องไปปรับปรุงหรือแก้ไขส่วนของโปรแกรม
เพิ่มเติม
 เช่น กลุ่มโปรแกรมสาเร็จรูปทางด้าน Microsoft Office
53
ข้อดีของซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเอง
สามารถเพิ่มเงื่อนไขและความต้องการต่างๆได้
ไม่จากัด
สามารถควบคุมให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ตลอด
ระยะเวลาการพัฒนานั้น
ยืดหยุ่นการทางานได้ดีกว่า เมื่อข้อมูลใดๆมีการ
เปลี่ยนแปลง
54
ข้อเสียของซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเอง
 ใช้เวลาในการออกแบบและพัฒนานานมาก เพื่อให้ได้
คุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ
 ทีมงานถูกกดดัน เพราะจะถูกคาดหวังว่าต้องได้
คุณสมบัติตรงตามความต้องการทุกประการ
 เสียเวลาดูแลและบารุงรักษาระบบนั้นๆตามมา
 เสี่ยงต่อความผิดพลาดสูง อาจทาให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้
55
ข้อดีของซอฟต์แวร์ที่หาซื้อได้โดยทั่วไป
 ซื้อได้ในราคาถูก เพราะนาออกมาจาหน่ายเป็นจานวนมาก
 ความเสี่ยงในการใช้งานต่า และสามารถศึกษาคุณสมบัติ
และประสิทธิภาพของโปรแกรมได้โดยตรงจากคู่มือที่มีให้
 โปรแกรมที่ได้มีคุณภาพดีกว่า เนื่องจากมีผู้ใช้หลายราย
ทดสอบและแจ้งแก้ไขปัญหาให้กับผู้ผลิตมาเป็นอย่างดี
แล้ว
56
ข้อเสียของซอฟต์แวร์ที่หาซื้อได้โดยทั่วไป
 คุณสมบัติบางอย่างเกินความจาเป็นและต้องการ
 คุณสมบัติบางอย่างอาจไม่มีให้ใช้
 เมื่อต้องการเพิ่มคุณสมบัติต้องจ่ายเงินมากขึ้น แต่ใน
บางโปรแกรมก็ไม่สามารถทาได้
 ไม่ยืดหยุ่น จึงไม่เหมาะสมกับงานที่จาเป็นต้อง
ปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขระบบอยู่บ่อยๆ
57
ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์
แบ่งตามกลุ่มการใช้งานได้ 3 กลุ่มดังนี้
กลุ่มการใช้งานทางด้านธุรกิจ (business)
กลุ่มการใช้งานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย
(graphic and multimedia)
กลุ่มสาหรับการใช้งานบนเว็บและการ
ติดต่อสื่อสาร (web and communications)
58
ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านธุรกิจ
มุ่งเน้นให้ใช้งานเพื่อประโยชน์สาหรับงาน
ทางด้านธุรกิจโดยเฉพาะ
ทาให้การทางานมีประสิทธิภาพดีขึ้นมากกว่าการ
ใช้แรงงานคน
ตัวอย่างงาน เช่น ใช้สาหรับการจัดพิมพ์รายงาน
เอกสาร นาเสนองาน รวมถึงการบันทึกนัดหมาย
ต่างๆ
59
ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านธุรกิจ
 อาจแบ่งซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ออกเป็นประเภท ได้ดังนี้
ซอฟต์แวร์ประมวลผลคา (Word processing)
ซอฟต์แวร์ตารางคานวณ (Spreadsheet)
ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database)
ซอฟต์แวร์นาเสนองาน (Presentation)
ซอฟต์แวร์สาหรับพีดีเอ (PDA Software)
ซอฟต์แวร์แบบกลุ่ม (Software Suite)
ซอฟต์แวร์สาหรับจัดการโครงการ (Project management)
ซอฟต์แวร์สาหรับงานบัญชี (Accounting)
60
ซอฟต์แวร์ประมวลผลคา (Word processing)
 เป็นกลุ่มของโปรแกรมที่ช่วยในการ
ประมวลผลคา
 สามารถจัดการเอกสารต่างๆได้ เช่น
ขนาดตัวอักษรใหญ่ เล็ก รูปแบบ
ตัวอักษร เป็นต้น
 นาเอารูปภาพมาผนวกเข้ากับเอกสาร
ได้ (คลิปอาร์ตและภาพถ่าย)
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น
MicrosoftWord, Sun StarOffice
Writer
61
ซอฟต์แวร์ตารางคานวณ (Spreadsheet)
 กลุ่มของซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการ
คานวณต่างๆ
 นาเอา ตารางคานวณ (spreadsheet) มา
ใช้ในการทางาน
 หน่วยที่เล็กที่สุดบริเวณทางานเรียกว่า
เซล
 นิยมใช้กับงานด้านบัญชีและรายการ
คานวณอื่น
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft
Excel,Sun StarOffice Calc
62
ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database)
 สร้างและรวบรวมข้อมูลต่างๆให้อ
เป็นระบบ
 แก้ไขปรับปรุงรายการข้อมูลต่างๆ
เช่น การเพิ่มข้อมูล การ
เปลี่ยนแปลงข้อมูล การลบข้อมูล
หรือการจัดเรียงข้อมูลให้เป็นไปได
โดยง่าย
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft
Access,Oracle, MySQL
63
ซอฟต์แวร์นาเสนองาน (Presentation)
 ช่วยในเรื่องของการนาเสนองานเป็นหลัก
 อาจใส่ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร รูปภาพ
ตลอดจนเสียงต่างๆรวมถึงเทคนิคการ
นาเสนอให้มีความสวยงามและน่าสนใจ
ได้
 การนาเสนองานบางครั้งนิยมเรียกว่า
slide show
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft
PowerPoint, Sun StarOffice Impress
64
ซอฟต์แวร์สาหรับพีดีเอ (PDA Software)
 เป็นซอฟต์แวร์เฉพาะที่มีการใช้งานในพีดีเอ
 อาจเป็นซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า PIM
(Personal Information Manager) ซึ่ง
ทางานแบบพื้นฐานทั่วไป
 ทางานร่วมกันกับเครื่องพีซีได้โดยการถ่าย
โอนข้อมูล (synchronization)
 บางโปรแกรมที่เห็นบนพีซีอาจนามาใช้บน
พีดีเอได้
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft Pocket
Outlook, Microsoft Pocket Excel,
QuickNotes
65
ซอฟต์แวร์แบบกลุ่ม (Software Suite)
 นาเอาซอฟต์แวร์หลายตัวมาจาหน่าย
รวมกันเป็นกลุ่มเดียว
 ทาให้การทางานคล่องตัวและสะดวก
 เนื่องจากจัดกลุ่มซอฟท์แวร์ที่ทางาน
ใกล้เคียงกันไว้เป็นกลุ่มเดียว
 ราคาจาหน่ายถูกกว่าการเลือกซื้อ
ซอฟต์แวร์แต่ละตัวมาใช้
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft Office,
Sun StarOffice, Pladao Office
66
ซอฟต์แวร์สาหรับจัดการโครงการ
(Project management)
 ใช้กับการวิเคราะห์และวางแผนโครงการ
เป็นหลัก
 จัดการเกี่ยวกับกิจกรรมงาน (schedule)
ติดตามงาน วิเคราะห์และหาต้นทุน
ค่าใช้จ่ายต่างๆของโครงการได้ง่ายขึ้น
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft Project,
Macromedia Sitespring
67
ซอฟต์แวร์สาหรับงานบัญชี (Accounting)
 บันทึกข้อมูลและแสดงรายงานทางการเงินต่าง ๆ
 ออกรายงานงบกาไรขาดทุน งบดุล รวมถึงรายงานซื้อ-ขายได้
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Intuit QuickBooks, Peachtree Complete
Accounting
68
ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งาน
ด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย
 เพื่อช่วยสาหรับจัดการงานด้านกราฟิกและมัลติมีเดียให้
ง่ายขึ้น
 มีความสามารถเสมือนเป็นผู้ช่วยในการออกแบบงาน
 มีความสามารถหลากหลาย เช่น ตกแต่งภาพ วาดรูป ปรับ
เสียง ตัดต่อภาพเคลื่อนไหวรวมถึงการสร้างและออกแบบ
พัฒนาเว็บไซท์
69
ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งาน
ด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย
 อาจแบ่งซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ออกเป็นประเภท ได้ดังนี้
 ซอฟต์แวร์สาหรับงานออกแบบ (CAD - Computer-aided design)
 ซอฟต์แวร์สาหรับสิ่งพิมพ์ (Desktop publishing)
 ซอฟต์แวร์สาหรับตกแต่งภาพ (Paint/image editing)
 ซอฟต์แวร์สาหรับการตัดต่อวิดีโอและเสียง (Video and audio editing)
 ซอฟต์แวร์สาหรับสร้างสื่อมัลติมีเดีย (Multimedia authoring)
 ซอฟต์แวร์สาหรับสร้างเว็บ (Web page authoring)
70
ซอฟท์แวร์สาหรับงานออกแบบ
(CAD - Computer-aided design)
 ช่วยสาหรับการออกแบบแผนผัง
การออกแบบและตกแต่งบ้าน
รวมถึงการจัดองค์ประกอบอื่นๆ
 เหมาะสาหรับงานด้านวิศกรรม
สถาปัตยกรรม รวมถึงงานด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบาง
ประเภท
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่นAutodesk
AutoCAD, Microsoft Visio
Professional
71
ซอฟท์แวร์สาหรับสิ่งพิมพ์
(Desktop publishing)
 สาหรับการจัดการกับสิ่งพิมพ์ เช่น
หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ โบร์ชัวร์
แผ่นพับ โลโก้
 เหมาะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสื่อ
สิ่งพิมพ์ เช่น สานักพิมพ์ โรงพิมพ์หรือ
บริษัทออกแบบกราฟิก
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Adobe
InDesign, Adobe PageMaker,
Corel VENTURA, QuarkXPress
72
ซอฟท์แวร์สาหรับตกแต่งภาพ
(Paint/image editing)
 สาหรับการสร้างและจัดการรูปภาพ การ
จัดองค์ประกอบแสง-สีของภาพ รวมถึง
การวาดภาพลายเส้น
 เหมาะสาหรับออกแบบงานกราฟิก เช่น
งานพาณิชย์ศิลป์ งานออกแบบและ
ตกแต่งสินค้า
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Adobe
Illustrator,Adboe Photoshop,
CorelDRAW,Macromedia FreeHand
73
ซอฟต์แวร์สาหรับการตัดต่อวิดีโอและเสียง
(Video and audio editing)
 ใช้จัดการกับข้อมูลเสียง เช่น ผสมเสียง
แก้ไขเสียง สร้างเอฟเฟ็คต์หรือเสียง
ใหม่ๆ
 เหมาะสาหรับใช้กับงานวงการตัดต่อ
ภาพยนตร์ โทรทัศน์ สตูดิโอบันทึกเสียง
หรืองานบนอินเทอร์เน็ตบางชนิด
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Adobe
Premiere,Cakewalk SONAR,
Pinnacle Studio DV
74
ซอฟต์แวร์สาหรับสร้างสื่อมัลติมีเดีย
(Multimedia authoring)
 ซอฟต์แวร์ที่เป็นการผนวกเอาสื่อหลาย
ชนิด(multimedia) มาประกอบกันเพื่อให้
การนาเสนองานมีความน่าสนใจ
 อาจสร้างชิ้นงานประเภทสื่อปฎิสัมพันธ์
กับผู้ใช้ (interractive) เช่น บทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้
 ตัวอย่างโปรแกรมเช่น Toolbook
Instructor,Macromedia Authorware,
Macromedia Director Shockwave
Studio
75
ซอฟต์แวร์สาหรับสร้างเว็บ
(Web page authoring)
 สามารถจัดการและออกแบบเว็บ
ไซท์ได้โดยง่าย
 สามารถแทรกข้อมูลประเภทเสียง
ข้อความ รูปภาพเคลื่อนไหว เพื่อ
นาเสนอบนเว็บไซท์ได้เป็นอย่างดี
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Adobe
GoLive, Macromedia
Dreamweaver, Macromedia
Fireworks, Macromedia Flash,
Microsoft FrontPage
76
ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บและการสื่อสาร
 เน้นเฉพาะการใช้งานด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
 ส่วนใหญ่ใช้สาหรับการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล
 เกิดขึ้นมาเป็นจานวนมาก และพัฒนาออกมาหลายเวอร์ชั่น
หลายโปรแกรม เนื่องจากการขยายตัวของการใช้งานที่
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
77
ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บและการสื่อสาร
 กลุ่มของโปรแกรมประเภทนี้เช่น
 ซอฟต์แวร์สาหรับจัดการอีเมล์ (Electronic mail Software)
 ซอฟต์แวร์สาหรับท่องเว็บ (Web browser)
 ซอฟต์แวร์สาหรับจัดประชุมทางไกล (Video Conference)
 ซอฟต์แวร์สาหรับถ่ายโอนไฟล์ (File Transfer)
 ซอฟต์แวร์ประเภทส่งข้อความด่วน (Instant Messaging)
 ซอฟท์แวร์สาหรับสนทนาบนอินเทอร์เน็ต (Internet Relay Chat)
78
ซอฟต์แวร์สาหรับจัดการอีเมล์
(Electronic mail Software)
 กลุ่มของซอฟต์แวร์ที่ใช้สาหรับการส่ง
ข้อความจดหมาย
 สามารถตรวจรับจดหมายเข้า ส่ง
จดหมายออกหรือสาเนาจดหมายได้
 นอกจากนั้นยังแทรกรูปภาพหรือไฟล์
เพื่อส่งแนบไปกับจดหมายได้
 ตัวอย่างโปรแกรมเช่น Microsoft
Outlook
79
ซอฟต์แวร์สาหรับท่องเว็บ (Web browser)
 มักเรียกย่อว่า บราวเซอร์ (browser)
 เป็นโปรแกรมหลักสาหรับการเรียกดูข้อมูล
บนเว็บไซท์ที่เผยแพร่อยู่ในอินเทอร์เน็ต
 มีคุณสมบัติสาหรับการรับชมเว็บเพจได้ดี
เช่น แสดงผลหลายภาษา ชมเว็บเพจแบบ
ออฟไลน์ ทางานร่วมกับโปรแกรมเสริมได้
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft Internet
Explorer, Nestcape Comunication,
Opera
80
ซอฟต์แวร์สาหรับจัดประชุมทางไกล
(Video Conference)
 สาหรับการประชุมแบบทางไกลโดยเฉพาะ
 สามารถให้ข้อมูลที่เป็นทั้งภาพเคลื่อนไหว
และเสียงที่ใช้ในการประชุมและถ่ายทอด
ออกไปในระยะไกลได้
 อาจพบเห็นกับการนาเอาไปประยุกต์ใช้ใน
การติดต่อสื่อสารระหว่างเพื่อนหรือคนรู้จักที่
อยู่ต่างถิ่นได้
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Microsoft
Netmeeting
81
ซอฟต์แวร์สาหรับถ่ายโอนไฟล์ (File
Transfer)
 นามาใช้ในการถ่ายโอนไฟล์ข้อมูล (file
transfer) บนอินเทอร์เน็ต
 เหมาะสาหรับนักพัฒนาเว็บไซท์และผู้ดูแล
เว็บไซท์เพื่อส่งข้อมูลขึ้นไปเก็บไว้บน
อินเทอร์เน็ต
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น Cute_FTP,
WS_FTP
82
ซอฟต์แวร์ประเภทส่งข้อความด่วน
(Instant Messaging)
 ผู้รับและผู้ส่งสามารถที่จะเปิดการเชื่อมต่อ
โปรแกรมและส่งข้อความถึงกันได้โดยทันที
ผ่านเบอร์อีเมล์หรือหมายเลขที่ระบุ
 การพูดคุยผ่านข้อความนี้จะเป็นแบบ
ส่วนตัวมากขึ้น
 บางโปรแกรมอาจสนทนาแบบกลุ่มได้ด้วย
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น ICQ , MSN
Messenger,Yahoo Messenger
83
ซอฟต์แวร์สาหรับสนทนาบนอินเทอร์เน็ต
(Internet Relay Chat)
 โปรแกรมสาหรับการสนทนาเฉพาะกลุ่ม
 เรียกสั้นๆว่าโปรแกรม แชท (chat)
 ติดต่อกันโดยพิมพ์ข้อความโต้ตอบกันไปมา
 ผู้สนทนาสามารถตั้งห้องและพูดคุยกันในแชท
รูม (chat room) ได้
 ตัวอย่างโปรแกรม เช่น PIRCH, MIRC
84
ภาษาคอมพิวเตอร์
 เป็นเสมือน “ล่ามแปลภาษา”
 แบ่งออกได้หลายระดับ
 หากใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ จะอยู่กลุ่มระดับต่า
 หากใกล้เคียงกับมนุษย์ จะอยู่กลุ่มระดับสูง
85
ยุคของภาษาคอมพิวเตอร์
 ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (first generation language)
 ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 (second generation
language)
 ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 (third generation language)
 ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 4 (fourth generation language)
 ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 5 (fifth generation language)
86
ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1
(first generation language)
 การทางานใช้ภาษาระดับต่า (low-level language)
 เช่น ภาษาเครื่อง (machine language) ที่ประกอบด้วย
ตัวเลขเฉพาะ 0 และ 1 เท่านั้น
 เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทาความเข้าใจได้ทันที
 การเขียนโปรแกรมค่อนข้างยุ่งยากและไม่สะดวก
87
ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 2
(second generation language)
 เอาสัญลักษณ์ (symbol) มาแทนรูปแบบของตัวเลขใน
ภาษาเครื่อง
 ภาษาที่ใช้คือ ภาษาแอสแซมบลี (assembly language) ซึ่งได้
นาเอาคาย่อ รวมถึงสัญลักษณ์ต่างๆมาใช้แทนตัวเลข 0 กับ 1
 เป็นกลุ่มภาษาระดับต่าเช่นเดียวกับภาษาเครื่อง เพราะการ
ทางานยังใกล้เคียงกับภาษาของคอมพิวเตอร์
 มีตัวช่วยแปลภาษาที่เรียกว่า แอสแซมเบลอร์ ( assembler) เพื่อ
เป็นตัวกลางแปลภาษาให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ
88
ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 3
(third generation language)
 พัฒนาให้มีรูปแบบใกล้เคียงกับภาษาของมนุษย์เรียกว่า ภาษา
ระดับสูง(high-level language)
 มีกลุ่มคาภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายขึ้น
 เป็นภาษาเชิงกระบวนการหรือ procedural language ทางาน
เป็นขั้นตอน เรียงตามลาดับคาสั่งที่เขียน
 เขียนโปรแกรมที่ซับซ้อนได้มากขึ้น แต่ก็ยังยุ่งยากอยู่บ้าง
 หากเป็นโปรแกรมขนาดใหญ่ต้องอาศัยประสบการณ์และ
ความชานาญ
89
ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 4
(fourth generation language)
 ช่วยเหลือการเขียนโปรแกรมได้มาก โดยใช้ ภาษาระดับสูงมาก
(very-high level language)
 อาศัยหลักการแบบ nonprocedural language
 เขียนโปรแกรมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
 ได้โปรแกรมที่มีความสมบูรณ์และสวยงามมากขึ้น
90
ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 5
(fifth generation language)
 เป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษาของมนุษย์มากที่สุดหรือที่
เรียกว่าภาษาธรรมชาติ (natural language)
 ทางานโดยอาศัยระบบฐานความรู้ (knowledge base
system)เพื่อช่วยในการแปลความหมายของคาสั่ง
 นิยมใช้กับคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสาขาปัญญาประดิษฐ์
(AI - Artificial Intelligence)
 ตัวอย่างเช่น การพัฒนาความรู้และการจาในหุ่นยนต์ การ
สั่งงานโปรแกรมด้วยเสียง
91
ตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์
 เป็นตัวกลางในการแปลความหมายหรือภาษาของชุดคาสั่งที่
มนุษย์
 เขียนให้อยู่ในรูปแบบของภาษาที่คอมพิวเตอร์จะเข้าใจได้
 แปลงซอร์สโค้ด (source code) ให้เป็น รหัสคาสั่ง (object code)
92
ตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์
แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ
แอสแซมเบลอร์ (Assemblers)
อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreters)
คอมไพเลอร์ (Compilers)
93
ตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์
แอสแซมเบลอร์ (Assemblers)
 ตัวแปลภาษาของภาษาแอสแซมบลี
 แปลความหมายสัญลักษณ์ชุดคาสั่งให้เป็นภาษาเครื่อง
 ใช้งานร่วมกับการเขียนโปรแกรมของภาษาระดับต่า (low-level
language)
94
ตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์
อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreters)
 สาหรับการเขียนโปรแกรมในภาษาระดับสูง (high-level
language)
 แปลความหมายของชุดคาสั่งทีละบรรทัดคาสั่ง
 เหมาะสาหรับการเขียนโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก
95
ตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์
 คอมไพเลอร์ (Compilers)
 ใช้กับการทางานในภาษาระดับสูง (high-level language)
 แปลความหมายของชุดคาสั่งที่เขียนทั้งหมดในคราวเดียวกัน
 เป็นชุดของรหัสคาสั่งเก็บไว้ใช้เมื่อต้องการ
 ไม่ต้องเสียเวลาไปแปลชุดคาสั่งซ้าอีก
 เหมาะกับการการเขียนโปรแกรมขนาดใหญ่และซับซ้อน
96
แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 3
 ซอฟต์แวร์ประยุกต์เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
 ระบบปฏิบัติการโดยทั่วไป มีกี่ประเภท จงยกตัวอย่างประกอบ
 Symbian OS คืออะไร นิยมใช้กับอุปกรณ์ประเภทใด
 โปรแกรมป้องกันไวรัส มีความสาคัญอย่างไรกับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์
 นายอภิชาติต้องการเก็บข้อมูลไฟล์หลายๆไฟล์ เป็นอันเดียวกันและให้มี
ขนาดที่เล็กลง ควรจะใช้โปรแกรม
 ประเภทใด
97
แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 3
 ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านธุรกิจประเภท Word Processing ที่
นักศึกษารู้จักมีอะไรบ้าง จงยกตัวอย่างประกอบ 3 โปรแกรม
 ซอฟต์แวร์แบบกลุ่ม (Software Suite) คืออะไร
 นางสาวศิริพรต้องการทารายงานการรับจ่ายเงินในแต่ละวันอย่าง
ง่าย ควรใช้โปรแกรมประเภทใด
 Internet Ralay Chat คืออะไร แตกต่างต่าง Instant Messaging
อย่างไรบ้าง
98
แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 3
 โปรแกรมประเภทการนาเสนองาน เหมาะสมกับกลุ่มคน
ประเภทใด จงให้เหตุผลประกอบ
 ในการเรียกค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โปรแกรมใดที่นิยมเอาใช้
มากที่สุด และมีคุณสมบัติเด่นๆอะไรบ้าง
 จงยกตัวอย่าง web application ที่นักศึกษารู้จักหรือใช้บริการ
อยู่ในปัจจุบันมาอย่างน้อย 3 รายการพร้อมทั้งอธิบายหลักการ
ทางานด้วย
99
แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 3
 ผู้ที่ทางานด้านออกแบบและจัดการ website เช่น
webmaster ควรจะเลือกใช้โปรแกรมอะไรบ้างเพื่อช่วยเหลือ
และสนับสนุนในการทางาน
 ซอฟต์แวร์ประเภท Open Source คืออะไร
 ภาษาระดับสูงมาก หรือ very-high level language มี
หลักการทางานอย่างไรบ้าง
 จงยกตัวอย่างของการนาเอาภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 5 ไปใช้
งาน มาอย่างน้อย 2 ตัวอย่างพร้อมทั้งอธิบายประกอบ

More Related Content

What's hot

ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการKrusine soyo
 
Operating System Chapter 3
Operating System Chapter 3Operating System Chapter 3
Operating System Chapter 3Nuth Otanasap
 
ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์
ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์
ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์rungtip boontiengtam
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการWirot Chantharoek
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้ครู อินดี้
 
องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์
องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์
องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์Tieno Karan
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้Bhisut Boonyen
 
Operating System Chapter 5
Operating System Chapter 5Operating System Chapter 5
Operating System Chapter 5Nuth Otanasap
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์Tonkaw Napassorn
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์Tonkaw Napassorn
 
Work3-ศวิตา40
Work3-ศวิตา40Work3-ศวิตา40
Work3-ศวิตา40savimint
 
ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]Pheeranan Thetkham
 
ระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมวระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมวPheeranan Thetkham
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวMilkSick
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวMilkSick
 

What's hot (16)

ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
Operating System Chapter 3
Operating System Chapter 3Operating System Chapter 3
Operating System Chapter 3
 
ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์
ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์
ความหมายเรื่องซอฟต์แวร์
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
 
องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์
องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์
องค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้
 
ระบบปฏิบัติการ Windows
ระบบปฏิบัติการ Windowsระบบปฏิบัติการ Windows
ระบบปฏิบัติการ Windows
 
Operating System Chapter 5
Operating System Chapter 5Operating System Chapter 5
Operating System Chapter 5
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
 
Work3-ศวิตา40
Work3-ศวิตา40Work3-ศวิตา40
Work3-ศวิตา40
 
ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]
 
ระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมวระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมว
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
 

Viewers also liked

Mississippi mills police department interview questions
Mississippi mills police department interview questionsMississippi mills police department interview questions
Mississippi mills police department interview questionsselinasimpson989
 
BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)
BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)
BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)IAB Europe
 
Foodie Chachawan Bar Opening in Central
Foodie Chachawan Bar Opening in CentralFoodie Chachawan Bar Opening in Central
Foodie Chachawan Bar Opening in CentralLawrence Rogers
 
What have you learned from your audience feedback
What have you learned from your audience feedbackWhat have you learned from your audience feedback
What have you learned from your audience feedbackFelanQuirke
 
Year 12 Media DPS Analysis
Year 12 Media  DPS AnalysisYear 12 Media  DPS Analysis
Year 12 Media DPS AnalysisFelanQuirke
 
Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014
Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014
Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014Елена Савельева
 
Live nutrition FIT1050 Final Project
Live nutrition FIT1050 Final ProjectLive nutrition FIT1050 Final Project
Live nutrition FIT1050 Final ProjectJosh Letendre
 
INT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual Reality
INT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual RealityINT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual Reality
INT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual RealityIAB Europe
 
INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?
INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?
INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?IAB Europe
 
Lukács, györgy conversando com lukács
Lukács, györgy   conversando com lukácsLukács, györgy   conversando com lukács
Lukács, györgy conversando com lukácsFabíola Salvador
 

Viewers also liked (15)

Mississippi mills police department interview questions
Mississippi mills police department interview questionsMississippi mills police department interview questions
Mississippi mills police department interview questions
 
Percorso Naturalistico
Percorso NaturalisticoPercorso Naturalistico
Percorso Naturalistico
 
Слово аграрія №2
Слово аграрія №2Слово аграрія №2
Слово аграрія №2
 
Медіа та медіареальність
Медіа та медіареальністьМедіа та медіареальність
Медіа та медіареальність
 
BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)
BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)
BVDW Online sales study of the Circle of Online Marketers (OVK)
 
Foodie Chachawan Bar Opening in Central
Foodie Chachawan Bar Opening in CentralFoodie Chachawan Bar Opening in Central
Foodie Chachawan Bar Opening in Central
 
Moda
ModaModa
Moda
 
What have you learned from your audience feedback
What have you learned from your audience feedbackWhat have you learned from your audience feedback
What have you learned from your audience feedback
 
Year 12 Media DPS Analysis
Year 12 Media  DPS AnalysisYear 12 Media  DPS Analysis
Year 12 Media DPS Analysis
 
Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014
Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014
Курс "Куратор содержания. Итоги", Савельева Е. А. , 2014
 
Live nutrition FIT1050 Final Project
Live nutrition FIT1050 Final ProjectLive nutrition FIT1050 Final Project
Live nutrition FIT1050 Final Project
 
Old E-brochure Floor Plan
Old E-brochure Floor PlanOld E-brochure Floor Plan
Old E-brochure Floor Plan
 
INT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual Reality
INT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual RealityINT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual Reality
INT2016 Workshop - Simon Gosling (Happy Finish) - Experiment Virtual Reality
 
INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?
INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?
INT2016 Keynote - Dave Hendricks (Livelntent, Inc) - Is it the end of Freemium?
 
Lukács, györgy conversando com lukács
Lukács, györgy   conversando com lukácsLukács, györgy   conversando com lukács
Lukács, györgy conversando com lukács
 

Similar to software

software
softwaresoftware
softwarejzturbo
 
Software
SoftwareSoftware
Softwaresa
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์sapol tamgsongcharoen
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)SittichaiSppd
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์SittichaiSppd
 
ซอพต์แวร์(Software)
ซอพต์แวร์(Software)ซอพต์แวร์(Software)
ซอพต์แวร์(Software)Sirinat Sawengthong
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์sapol tamgsongcharoen
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไรโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไรT000 Ter
 
Ch03 handout
Ch03 handoutCh03 handout
Ch03 handoutNaret Su
 
โครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นโครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นwiratchadaporn
 
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นโครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นkvcthidarat
 
หน่วยที่ 6
หน่วยที่ 6หน่วยที่ 6
หน่วยที่ 6jzturbo
 
เรื่อง ซอฟต์แวร์
เรื่อง ซอฟต์แวร์เรื่อง ซอฟต์แวร์
เรื่อง ซอฟต์แวร์sarankorn
 
บทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศ
บทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศบทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศ
บทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศCpruce Labs
 

Similar to software (20)

บทที่3-49
บทที่3-49บทที่3-49
บทที่3-49
 
software
softwaresoftware
software
 
Software
SoftwareSoftware
Software
 
Os
OsOs
Os
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)
 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
 
ซอพต์แวร์(Software)
ซอพต์แวร์(Software)ซอพต์แวร์(Software)
ซอพต์แวร์(Software)
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
System
SystemSystem
System
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไรโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไร
 
Ch03 handout
Ch03 handoutCh03 handout
Ch03 handout
 
โครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นโครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงานระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
 
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นโครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
 
Chapter6 software
Chapter6 softwareChapter6 software
Chapter6 software
 
หน่วยที่ 6
หน่วยที่ 6หน่วยที่ 6
หน่วยที่ 6
 
เรื่อง ซอฟต์แวร์
เรื่อง ซอฟต์แวร์เรื่อง ซอฟต์แวร์
เรื่อง ซอฟต์แวร์
 
Lab
LabLab
Lab
 
Lab
LabLab
Lab
 
บทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศ
บทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศบทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศ
บทที่ 3 ซอฟต์แวร์ของระบบสารสนเทศ
 

More from jzturbo

หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์jzturbo
 
การจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลการจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลjzturbo
 
หน่วยที่ 4
หน่วยที่ 4หน่วยที่ 4
หน่วยที่ 4jzturbo
 
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์jzturbo
 
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์jzturbo
 
หน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศหน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศjzturbo
 
หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1jzturbo
 

More from jzturbo (7)

หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
การจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลการจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูล
 
หน่วยที่ 4
หน่วยที่ 4หน่วยที่ 4
หน่วยที่ 4
 
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
หน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศหน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยที่ 2 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1
 

software