More Related Content
Similar to โครงงาน Mpeg4 ม.5.2
Similar to โครงงาน Mpeg4 ม.5.2 (20)
More from juthaporn22 (17)
โครงงาน Mpeg4 ม.5.2
- 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รายวิชา เทคโนโลยี2(ง 32102)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
………………………………………………………………………………………
………………
1.ชื่อโครงงาน การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Blogger
เรื่องMpeg4
2.ประเภทของโครงงาน
r โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
r โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
r โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
r โครงงานประเภทการพัฒนาเกณฑ์
3. ชื่อ-สกุล ผู้เสนอโครงงาน
นางสาวจุฑาพร ศรีประสงค์ ชั้น ม.5/2 เลขที่ 9
4. ชื่อครูที่ปรึกษาโครงงาน
นางสาวเบญญาสิริ แก้วเบี่ยง ตำาแหน่ง ครู ค.ศ.1
5. ชื่อครูที่ปรึกษาโครงงาน
-
6. แนวคิด ที่มาและความสำาคัญ
มาตรฐานในแวดวงมัลติมีเดียปัจจุบันถูกกำาหนดโดยสอง
องค์กรหลักๆ องค์การแรกคุ้นกันดีคือ MPEG ย่อมาจาก Moving
Picture Expert Group ส่วนอีกองค์กรก็เป็นพันธมิตรกัน คือ ITU-
- 2. Tซึ่งเป็นหน่วยที่มีหน้าที่ออกมาตรฐานทางโทรคมนาคม ของ ITU
อีกที (International Telecom Union) ถ้าใครเรียนสายเน็ตเวิร์คมา
คงคุ้นกับพวก X.25/Framerelay หรือ X.509/LDAP กันดี ฝีมือ
ITU-T เค้าล่ะครับ แต่วันนี้เราจะสนใจแค่มาตรฐาน H.XXX ที่เกี่ยว
กับมัลติมีเดียเท่านั้น
ผลงานของ MPEG ผมเชื่อว่าห่างจากตัวคุณไม่เกินสามเมตร
มาตรฐานอื่นๆ ที่เทียบเคียง MP3 ได้ก็มี ATRAC ของ
โซนี, AC-3 ของ Dolby Digital, mp3PRO และ Windows Media
่
Audio (.wma) ของไมโครซอพท์
MPEG-2 ปี 94 โลกก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นเมื่อมาตรฐาน MPEG-2 ถูก
คิดมาไว้รอรับ DVD ความแตกต่างกับ MPEG-1 ก็มีไม่มากนัก ยกเว้น
เรื่องการเข้ารหัส/ถอดรหัสทีใช้วิธีทันสมัยมากขึ้น แผ่นดีวีดีทุกแผ่นที่
่
จับอยู่ก็เก็บข้อมูลเป็น MPEG-2 นี่ล่ะครับ
MPEG-3 เมื่อเทรนด์ HDTV (High Definition TV) มาแรง ซึ่งเมือง
นอกเค้าก็แรงจริงเริ่มมีใช้กันแล้ว บ้านเราขอแค่สัญญาณไม่ขาดก็ดี
ถมเถ ทาง MPEG เลยคิดค้นมาตรฐานมาใช้กับ HDTV ด้วย แต่
สุดท้ายก็ลมไป เพราะพบว่าแค่ MPEG-2 ที่มีอยู่เดิมก็พอสำาหรับ
้
HDTV แล้ว
MPEG-4 เป็นส่วนขยายของ MPEG-1 เพื่อรับรูปแบบมัลติมีเดีย
ต่างๆ เช่น 3D หรือการเข้ารหัสที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเคยว่า
MPEG-4 แบ่งออกเป็นหลายส่วนตามหน้าที่แต่ละส่วน และทาง
MPEG จะปล่อยให้ผู้ผลิตซอพท์แวร์เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมทีใช้จริงๆ่
เอง ไม่จำาเป็นต้องตาม MPEG-4 เต็มชุดก็ได้ พัฒนาได้เป็นบางส่วน
ก็พอ (แบบเดียวกับ MP3 ทีหยิบแต่ส่วนออดิโอไปทำา) รายละเอียด
่
ว่าทั้งหมดมีอะไรบ้าง ดูตามลิงค์ ผมยกมาเฉพาะอันสำาคัญๆ
MPEG-4 part 2 รับผิดชอบกับการจัดการวิดีโอ ฟอร์แมตวิดีโอ
สำาคัญๆ หลายตัวอิมพลีเมนต์ตาม part 2 นี้
MPEG-4 part 3 ใน part 2 รับเรื่องวิดีโอไป part 3 เป็น
เรื่องของออดิโอครับAAC(Advance Audio Coding) เป็นการอิมพลี
เมนต์ตาม MPEG-4 part 3 แน่นอนว่า MPEG-1 หรือจะสู้ MPEG-4
คุณภาพเค้าบอกว่า 96 kbps AAC เท่ากับ 128 kbps MP3 เลยล่ะ ผู้
ผลักดันหลักคือแอปเปิล เพลงทุกเพลงที่ขายออกจาก iTunes
Music Store เป็น AAC ครับ นามสกุลของมันเป็น .mp4 หรือ .m4a
- 3. ด้วยเหตุผลทางการตลาดของแอปเปิลว่า 4 มันต้องดีกว่า 3 สิ
MPEG-4 part 10 ในส่วนที่ 10 นี้ดูแล Advance Video Coding
หรือส่วนของวิดีโอที่ดีกว่า part 2 เรียกย่อๆ ว่า AVC
ดังนั้น ผู้จัดทำาจึงได้มีความคิดที่จะนำาเสนอเอารูปแบบของ
เว็บไซต์ Blogger มาใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง
Mpeg4 เพื่อศึกษา เผยแพร่ความรู้ดังกล่าวสู่ผู้สนใจต่อไป
7. วัตถุประสงค์
7.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก ด้วย Blogger เรื่อง
Mpeg4
7.2 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ เรื่อง Mpeg4
7.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บ
บล็อก ด้วย Blogger เพื่อนำามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของ
ตนเองมากกว่ายิงขึ้น
่
7.4 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อน
และผู้สนใจทัว ๆไป
่
8. หลักการและทฤษฎี
8.1 ความหมายของเว็บบล็อก
เว็บบล็อก (Weblog) เป็นคำาทีมาจากคำาว่า เว็บ (Web)
่
กับคำาว่า
บล็อก (Blog) รวมกันเรียกว่าเว็บบล็อก ความหมายของเว็บบล็อก
คือ เครื่องมือสื่อสารทีใช้งานบนเว็บไซต์มีลักษณะเหมือนกับ เว็บ
่
บอร์ด แต่เน้นการใช้งานไปที่การบันทึกเรื่องราวหรือข้อมูลส่วนตัว
เหมือนกับไดอารี่ จะแสดงข้อมูลในลักษณะที่เป็นหัวข้อประกอบ
บทคัดย่อ แต่จะดีกว่าไดอารีที่เขียนด้วยมือ ก็คือเป็นเว็บที่สามารถ
เชื่อมโยงไปหาบทความที่เว็บไซด์อื่น และเปิดรับความเห็นจากผู้อื่น
ได้ด้วยโดยทัวๆไปแล้ว คุณสมบัติของบล็อก ก็คือ 1 มีการจัดหัวข้อ
่
ของเนื้อหา บทความ โดยให้เรื่องใหม่สุดอยู่ด้านบนสุด มักจะจัดกลุ่ม
เรื่องแบบเดียวกันไว้ด้วยกัน 2 มีการเก็บสะสมบทความอย่างเป็น
ระบบต่อเนื่องกัน 3 ผู้อ่านบทความนั้นๆ สามารถแสดงความเห็น
ได้ 4 มีลิสต์ของ link ไปเว็บหรือบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกัน หรือ
ที่เราเรียกว่า blogrollเนื้อหาของบล็อก เนื้อหาของบล็อกก็เป็นไป
ตามประเภทของบล็อก แต่ไม่วาจะเป็นบล็อกแบบไหนก็ตาม ควรจะ
่
- 4. มีการอัพเดทบ่อยๆ มีอะไรใหม่ๆ ให้คนอยากมาเยียมชม ่
8.2 ประเภทของเว็บบล็อก
บล็อกมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดมีข้อมูลทีแตกต่าง
่
กันไปทังผู้เขียนและ
้
ผู้เข้าชม โดยบล็อกจะเน้นไปที่เรื่องต่างๆ เช่น learner blogs,
political blogs, travel blogs, fashion blogs, project blogs,legal
blogs และอื่นๆบล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่
เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่ง
บล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้
1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อก
ได้แก่
1.1. Linklog บล็อกแบบเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ ทีรวมลิ๊
่
งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจ
เอาไว้ แม้วาจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเห
่
มือนว็บไดเร็กทอรี่
เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์
เท่านั้น
1.2 Photoblog บล็อกประเภทนี้เน้นโพสต์ภาพถ่าย
ที่เจ้าของบล็อกอยากนำาเสนอ และมักจะไม่เน้นเขียนข้อความ
มากนัก
1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวม
วิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่
นิยมทำากันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด
อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ทีทำาให้การ
่
ถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie
2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่
2.1 บล็อกส่วนตัว (Personal Blog) นำาแสนอความ
คิดเห็น กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก
2.2 บล็อกข่าว (News Blog) บล็อกทีนำาเสนอข่าว
่
เป็นหลัก
2.3 บล็อกกลุ่ม (Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่
- 5. เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com
2.4 บล็อกการเมือง (Politic Blog) ว่าด้วยเรื่อง
การเมืองล้วน ๆ
2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม (Environment Blog) พูด
ถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม
2.6 มีเดียบล็อก (Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์
สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/
black ของสุทธิชัย หยุ่น
2.7 บล็อกบันเทิง (Entertainment Blog) บล็อกที่นำา
เสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา
กองถ่าย ฯลฯ
2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา (Educational Blog) ใน
โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็น
สื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน
2.9 ติวเตอร์บล็อก (Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำา
เสนอวิธีการต่าง
3. แบ่งตามรูปแบบของเนื้อหาเฉพาะที่เห็น
เด่นชัด
3.1 Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้สำาหรับ
นำาเสนอแหล่งข้อมูลที่ตนสนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดย
ปกติมักจะเป็นข่าว บทความ หรือความคิดเห็นของบุคคลใน
วงการที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก
“Bookmark” หรือ มีชื่อเฉพาะ ว่า Social Bookmarkบล็อก
ลักษณะนี้ จะนำาเสนอแค่หัวข้อเรื่อง และ URL ของเว็บเพจหรือ
เว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำาอธิบายเว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้
ด้วย และบางที่อาจจะสามารถเพิ่มความคิดเห็นของผู้จัดทำา
บล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่นกรองข้อมูลให้ทราบว่า
เว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำาลังได้รับความนิยม ซึ่งจะเป็นการช่วย
จัดลำาดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้เช่น
กัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://del.icio.us/ เป็นต้น
- 6. 3.2 Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา
จะใช้สำาหรับนำาเสนอความคิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเอง
ผ่านข้อเขียน โดยอาจจะมีภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยง
ออกไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความ
น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะนี้ เป็นบล็อกตามความ
เข้าใจของบุคคลทัวไป ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://
่
www.exteen.comหรือ http://www.blogger.com เป็นต้น
3.3 Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับเก็บภาพ
(ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และสามารถใส่รายละเอียดของภาพ
ใส่คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บภาพเป็นระบบและง่ายต่อการ
ค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่
http://www.flickr.com เป็นต้น
3.4 Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่ใช้
สำาหรับเก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทัศน์
ใส่คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อ
การค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่
http://www.aolvideoblog.com เป็นต้น
3.5 บล็อกผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บ
ข้อมูลต่าง ๆ ได้หลายประเภท ทังเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิ
้
โอ เก็บลิงค์ (link) ต่าง ๆ หรือบันทึกประจำาวัน และใส่ปฏิทิน
รายการงานที่ต้องทำา ฯลฯ ได้ด้วย ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับ
ความนิยมสูงมาก โดยมีชื่อเฉพาะด้วย เรียกว่าSocial Network
Service ซึ่งนอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อให้สมาชิกแลกเปลี่ยน
ข้อมูลต่าง ๆ กันแล้ว ก็ยงมีจุดประสงค์หลักเพื่อการค้นหาและ
ั
สะสมเพื่อนจากทั่วโลก ตัวอย่าง Social
NetworkingWebsites ซึ่งให้บริการลักษณะนี้ ได้แก่
http://hi5.com หรือ http://multiply.com
หรือhttp://spaces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำาว่า blog
ใน Social Networking Websites นั้นจะกลายเป็นแค่ส่วนทีใช้ ่
เขียนข้อความเช่นบันทึกประจำาวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
และยังอาจใช้คำาว่า journal แทนคำาว่า blog ด้วย แต่เนื่องจาก
บริการนี้ เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆที่เคยมี มาอยู่ใน
ที่เดียว ทำาให้ผใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ู้
- 7. เพราะเพียงแค่เปิดใช้บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่
ต้องเสียเวลาไปสมัครใช้งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำายาก
อีกด้วย)
8.3 ประโยชน์ของ Web blog
Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหาของเจ้าของ blog ถึง
แม้ว่า blog จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกัน แต่ blog แต่ละแห่ง
จะมีบุคลิกเฉพาะตัว แตกต่างกันไปเหมือนบุคลิก บาง blog แค่
เล่าเรื่องชีวิตประจำาวัน บาง blog เกาะติดข่าว บางblog คุย
เรื่องการเมืองหรือปรัชญา จงนั้นอาจแบ่งประโยชน์ได้หลาย
แบบด้วยกัน ซึ่งอาจจะแจกแจงได้ดัง นี้
1. เปิดตัวเองให้โลกรู้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องราว
ของเจ้าของ blog เป็นการเล่า ประสบการณ์หรือความคิดของ
เจ้าของ เป็นการถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของเจ้าของ blog
เป็นการระบายความเคลียดอีกทางหนึ่ง
2. ทันข่าวทันเหตุการณ์ ประสบการณ์บางคนก็เป็นข่าว
เห็นอีกหลายคนได้ ข่าวจาก blog หลายแห่งเป็นข่าววงใน
บางคนเล่าเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมา หลาย blog พูดถึง
แนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ
3. กลั่นกรองข้อมูล blog บาง blog จะมีการกลั่น
กรองข้อมูลก่อนนำาลง blog ทำาให้ผู้อ่าน blog ไม่ต้องเสียเวลา
ในการกลั่นกรองข้อมูล เพราะมีการนำาเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ใน
การท่องเว็บ
4. รายงานการท่องเว็บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่
เป็นต้นกำาเนิดของการทำา blog หลาย blog มีการลิงก์ไปยังเว็บ
ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่งเป็นการแนะนำาว่าเว็บไหนดีก็
ไปที่เว็บนั้น
5. การแสดงความคิดเห็น ไม่วาจะเป็นความในใจ
่
ของเรื่องต่างๆ ความคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือการบ่นที่ทุกคนมีอยู่
ในใจ การทำา blog เป็นช่องทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่น
รับรู้
6. ถ่ายทอดประสบการณ์ หรือไดอะรี่ออนไลน์
เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำาวัน หรือเป็นการเล่าเรื่องการ
เดินทางท่องเทียว เช่น www.terrystrek.com
่
- 8. 7. โน้มน้าวใจผู้อ่าน ลักษณะนี้เป็นการ
โฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการขายความคิด อย่าง bl
og สำาหรับคอการเมืองอาจจะมีฝายซ้าย - ฝ่ายขวา,สายเหยียว
่ ่
- สายพิราบ จะพบว่าเนื้อหาจะเป็นการโพสต์โจมตีฝ่ายตรงข้าม
แล้วก็สนับสนุนแนวความคิดของตนเอง
8.4 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บล็อก
ขอนำารายชื่อผู้ให้บริการเขียน blog ฟรี เพื่อผู้ที่สนใจอยากจะทำา
blog เองแต่ยังไม่อยากจะลงทุนค่ะ
www.blogger.com www.exteen.com
www.mapandy.com
www.buddythai.com www.imigg.com
www.5iam.com
www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com
www.idatablog.com www.inewblog.com
www.onblogme.com www.freeseoblogs.com
www.sumhua.com www.diaryi.net
www.istoreblog.com
- 9. www.skypream.com www.thailandspace.com
www.sungson.com www.gujaba.com
www.sabuyblog.com www.ugetblog.com
www.jaideespace.com www.maxsiteth.com
www.my2blog.com
9. ขอบเขตของโครงงาน
1. จัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย Blogger
เรื่อง Mpeg4
2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการ
พัฒนา ได้แก่
2.1 เครื่องคอมพิเตอร์ พร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
2.2 เว็บไซต์ทให้บริการเว็บบล็อก คือ
ี่
www.Blogger.com
2.3 เว็บไซต์ทใช้ในการติดต่อ
ี่
สื่อสาร เช่น www.fagebook.com
www.gmail.com www.google.com
- 10. 2.4โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่น Adobe
Photoshop CS3 และ PhotoScape 2.0
10. ขันตอนและแผนการดำาเนินงาน
้
ที่ ขั้นตอนการดำาเนินงาน ระยะเวลาดำาเนินงาน
เดือน
เดือนธันวาคม
พฤศจิกายน
สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่
1 2 3 4 1 2
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทำาโครงร่างเพื่อนำาเสนอ
4 ปฎิบัติการจัดทำาโครงงาน
นำาเสนอรายงานความ
5 ก้าวหน้าของโครงงานครั้ง
ที่ 1
นำาเสนอรายงานความ
6 ก้าวหน้าของโครงงานครั้ง
ที่ 2
7 ปรับปรุง ทดสอบ
จัดทำาเอกสารรายงานโครง
8
งาน
9 ประเมินผล
นำาเสนอโครงงานผ่านเว็บ
9
บล็อก (WebBlog)
11. สถานที่ดำาเนินงาน
ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ICT โรงเรียนดงขุยวิทยาคม
อำาเภอชนแดน
- 11. จังหวัดเพชรบูรณ์
12.ผลที่คาดว่าจะได้รับ
12.1.ได้รับความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บบล็อก
(webBlog) ) ด้วยBlogger เรื่องMpeg4
12.2.ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นำามาเป็นบทเรียนในการ
สร้างเว็บบล็อกคือ เรื่อง Mpeg4
12.3.ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อกจาก
Blogger ได้ด้วยตนเอง
และนำามา ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
12.4.สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้
สนใจทัวไปเพื่อสร้างเป็น
่
เครือข่ายการเรียนรู้ผาเว็บบล็อกได้
่
12.5.ได้นำาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่มาใช้
อย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์
13. เอกสารอ้างอิง
http://www.cctvbangkok.com/cctvbangkok-
ipcamera-dome-dvr-ccd-infared-camera-dvr-card-quad-
page6.html
ลงชื่อ………………………….
- 12. (นายประเวศ เตียงทอง)
ผู้เสนอโครงงาน
ลงชื่อ…………………………..
(นางสาวเบญญาสิริ แก้วเบียง)
่
ครูที่ปรึกษาโครงงาน