2. (hitchhiking) ไปทั่วยุโรป แต่พอรู้ว่ามีเพลงชื่อ "Poor People
Of Paris" แล้ว เขาก็เลยเปลี่ยนชื่อเพลงเป็น "Streets of
London"
4
McTell ทำาเพลงนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1968 แต่รู้สึกว่ามันหดหู่เกิน เลยทิ้ง
ไว้อีกหลายปีกว่าจะออกเป็นแผ่นซิงเกิ้ลในปี 1974 ออกมาปุ๊บ ก็
ขายแผ่นได้ถึง 90,000 แผ่นภายในวันเดียว (ถ้าเป็นสมัยนี้ นึก
ไม่ออกเหมือนกันว่าจะได้กี่วิว) และฮิตติดอันดับ
5
เพลงนี้เปรียบเทียบปัญหาในแต่ละวันของคนเราทั่วๆ ไปกับปัญหา
ของคนไร้บ้าน คนที่โดดเดี่ยวว้าเหว่ คนชรา และคนในสังคมที่ถูก
ละเลยเพิกเฉยและหลงลืม
6
อ่านเนื้อแล้ว ฟังเพลงแล้ว ไม่ว่าเมื่อไหร่ ก็ต้องบอกตัวเองว่า “นั่น
น่ะสิ เราเองน่ะ อย่าเยอะนัก”
7
Have you seen the old man คุณเคยเห็นชายชราคนนั้นไหม
In the closed-down market ในตลาดที่ปิดกิจการไปแล้ว (ถ้า
ร้าน closed up หมายถึงปิดในวันนั้นๆ หมดเวลาทำาการ แต่ถ้า
closed down หมายถึงปิดกิจการ ไม่ดำาเนินการอีกต่อไป)
Kicking up the paper, with his worn out shoes? (เขา)
ใช้รองเท้าที่สึกเก่าเตะหนังสือพิมพ์ (paper ในที่นี้ หมายถึง
หนังสือพิมพ์)
In his eyes you see no pride คุณไม่เห็นความภาคภูมิใดใน
ดวงตาของเขา
Hand held loosely at his side มือปล่อยลู่หลวมๆ อยู่ข้างตัว
Yesterday's paper telling yesterday's news หนังสือพิมพ์
ของเมื่อวานเล่าข่าวของเมื่อวาน
Chorus: So how can you tell me you're lonely, ประสาน
เสียง: เพราะฉะนั้น คุณจะมาบอกฉันได้ยังไงว่าคุณโดดเดี่ยว
3. ว้าเหว่
And say for you that the sun don't shine? และพูดว่า
พระอาทิตย์ไม่ฉายแสงสำาหรับคุณ (ชีวิตคุณมืดมน) (ให้ถูก
ไวยากรณ์ ต้องเป็น doesn’t แต่ในที่นี้เป็นภาษาพูดและอาจไม่
ได้มาตรฐานนัก)
Let me take you by the hand and lead you through
the streets of London ยอมให้ฉันจูงมือคุณ พาคุณผ่านไป
ตามถนนหนทางในลอนดอนสิ
Show you something to make you change your mind
ให้คุณได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่จะเปลี่ยนใจคุณ
Have you seen the old girl คุณเห็นหญิงชราคนนั้นไหม
Who walks the streets of London ที่เดินไปตามถนนใน
ลอนดอน
Dirt in her hair and her clothes in rags? ผมสกปรกและ
เสื้อผ้าเก่าเป็นผ้าขี้ริ้ว
She's no time for talking, เธอไม่มีเวลามาคุย (ปกติ she’s
จะย่อมาจาก she is แต่เช่นเดียวกัน เป็นภาษาพูด ย่อมาจาก
she has)
She just keeps right on walking เธอได้แต่เดินต่อไปเรื่อยๆ
Carrying her home in two carrier bags. พร้อมถือสมบัติที่
มีทั้งหมดอยู่ในถุงใส่ของสองใบ (home ในที่นี้ไม่ได้เป็นบ้าน
จริงๆ)
In the all night café ในร้านกาแฟที่เปิดตลอดคืน
At a quarter past eleven, เวลาห้าทุ่มสิบห้านาที
Same old man sitting there on his own ชายชราคนเดิม
นั่งอยู่ตามลำาพัง
Looking at the world over the rim of his teacup,มอง
โลกเหนือขอบถ้วยชา (ได้แต่นั่งจิบชา มองชาไป)
Each tea lasts an hour ชาแต่ละถ้วย (กว่าจะหมด) ใช้เวลา
หนึ่งชั่วโมง
And he wanders home alone แล้วเขาก็เตร็ดเตร่กลับบ้าน
คนเดียว
Have you seen the old man คุณเคยเห็นชายชราคนนั้นไหม
Outside the Seaman's Mission ข้างนอก (องค์กรการกุศล)
4. Seaman’s Mission (หรือ Mission to Seafarers ของคริสต
ศาสนิกชนที่ช่วยเหลือพวกกลาสีหรือคนเดินเรือทั้งหลาย ตั้งอยู่
ตามท่าต่างๆ ทั่วโลก)
Memory fading with the medal ribbons that he wears
ความทรงจำาค่อยเลือนลางไปกับเหรียญตราและโบว์เกียรติยศที่
เขาสวมอยู่
In our winter city, ในเมืองหน้าหนาวของเรา
The rain cries a little pity ฝนรำ่าไห้ความสงสารลงมาเล็ก
น้อย
For one more forgotten hero ให้แก่วีรบุรุษอีกคนหนึ่งที่ถูก
ลืม
And a world that doesn't care และโลกหนึ่งที่ไม่ใยดี
8
คลิปนี้ ดีเหมือนกันตรงที่มีรูปที่มีความหมายประกอบด้วย
แต่ผิดไปนิดหนึ่ง คือตอนที่พูดถึงเวลา นาฬิกาในคลิปบอก สี่ทุ่ม
สิบห้า อันที่จริงคือห้าทุ่มสิบห้า
(a quarter past eleven)
https://www.youtube.com/watch?v=YKu4DaPi-qY