More Related Content
Similar to น.ส.จุฑารัตน์ พรหมมิ เลขที 12 ม.4/5 (20)
น.ส.จุฑารัตน์ พรหมมิ เลขที 12 ม.4/5
- 2. ภาษาโลโกถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1967 ในเมืองเคมบริ ดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริ กา โดยนาย
Wally Feurzeig และ Seymour Papert ตัวภาษาครั้งแรกถูกพัฒนาขึ้นด้วยภาษาลิสป์ บนเครื่ อง
คอมพิวเตอร์ PDP-1 โดยมีจุดประสงค์ด้งเดิมคือการแก้ไขปัญหาง่ายๆ ด้วยการใช้ "เต่า" ในการตอบสนอง
ั
เพื่อค้นหาจุดบกพร่ อง
ภาษาโลโกเริ่ มขึ้นในปี พ.ศ.2513 เมื่อกลุ่มนักวิจยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ นาโดย เซย์มว
ั ั
พาเพิร์ต ได้ทาการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ คล้ายกับของ เกย์ วอลเทอร์ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเขียน
โปรแกรมคาสังที่ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย สังให้โปรแกรมทางานตามที่ตองการ พวกเขาจึงทาการพัฒนา
่ ่ ้
ภาษาคอมพิวเตอร์ข้ ึนใหม่ เรี ยกว่าภาษา “โลโก” เป็ นภาษาที่ง่ายสาหรับเด็ก ช่วยให้เด็กสามารถเขียนคาสังให้
่
หุ่นยนต์เต่า (Logo) เคลื่อนที่ไปมาและเปลี่ยนทิศทางตามที่ตองการ ภาษาโลโกจึงเป็ นทางเลือกใหม่ สาหรับ
้
เด็กในการฝึ กทักษะทางภาษาคอมพิวเตอร์ และสามารถสร้างงานจากจินตนาการ โดยอาศัยความเข้าใจ
พื้นฐานของวิชาคณิ ตศาสตร์ ที่ใช้ในชีวิตประจาวันได้ ในปัจจุบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ มี
ั
ราคาถูก จึงได้มีการพัฒนาโปรแกรมสาเร็ จรู ปให้สามารถจาลองหุ่นยนต์เต่าอิเล็กทรอนิกส์ เป็ นภาพกราฟิ ก
เต่า เคลื่อนที่ไปมาบนจอภาพคอมพิวเตอร์ ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงรู ปแบบของภาพกราฟิ กเต่า มาเป็ นภาพ
สัญลักษณ์สามเหลี่ยม
[แก้]
- 3. ่
รูปแบบและคาสังในภาษาโลโก้
หลักการเบื้องต้น คือ จะเป็ นการสังงานด้วยรู ปแบบของภาษาโลโกสั่งให้ตวเต่า(รู ปสามเหลี่ยมที่เห็นอยูกลาง
่ ั ่
จอภาพ) เคลื่อนที่ไปมาบนจอภาพโดยการเคลื่อนที่ของเต่าจะเกิดรอยเป็ นเส้นทางการเดินซึ่งจะทาให้เกิดเป็ น
รู ปทรงทางเรขาคณิ ต หรื อทาให้เกิดภาพต่างๆได้ นอกจากนี้ยงสามารถสังให้แสดงข้อความต่างๆได้อกด้วย
ั ่ ี
การสังงานจะทาได้โดยพิมพ์คาสั่งลงในช่องคาสั่งแล้วกดแปน Enter หรื อกดปุ่ม Execute ถ้า
่ ้
พิมพ์คาสั่งถูกต้องตามรู ปแบบของภาษาโลโกก็จะมีการฏิบติตามคาสัง แต่ถาไม่ใช่คาสังภาษาโลโกหรื อพิมพ์ไม่
ั ่ ้ ่
ถูกรู ปแบบจะมีขอความแสดงให้เห็นว่าปฏิบติไม่ถูกต้องเช่น ถ้าพิมพ์คาว่า "hello" เครื่ องจะแสดงข้อความ
้ ั
"I don't know how to hello" แสดงว่าใช้คาสั่งภาษาโลโกไม่ถูกต้อง
- 4. ในการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างงานที่มความซับซ้อน ควรแบ่งการเขียนโปรแกรม
ี to square
ออกเป็ นส่วน ๆ เพื่อให้สะดวกในการปรับปรุ งแก้ไขในภายหลัง โปรแกรมแต่ละส่วน repeat 4 [fd 40 rt 90]
เรียกว่าโปรแกรมย่อย (Procedure) โปรแกรมย่อยสามารถนามาใช้ใน end
โปรแกรมหลักได้ โดยไม่ตองพิมพ์คาสังทังหมดซาอีก เพียงพิมพ์ช่ ือโปรแกรมย่อยเท่านัน
้ ่ ้ ้ ้
to flower
ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงวิธการเขียนโปรแกรมย่อย เพื่อให้ได้ภาพสวนดอกไม้ โดยเขียน
ี
fd 100
โปรแกรมย่อยสร้างรู ปสี่เหลี่ยม (Square) ก่อน แล้วจึงเขียนโปรแกรมย่อยสร้างรู ป
ดอกไม้ (Flower) หลังจากนันจึงเขียนโปรแกรมสร้างสวนดอกไม้ (Garden)
้ repeat 36 [rt 10 square]
setpencolor [0 0 0]
bk 100end
to gardenpu setxy 0 0 pd
setpencolor [255 0 0] flower
pu setxy 150 0 pd
setpencolor [0 255 0] flower
pu setxy -150 0 pd
setpencolor [0 0 255] flower
end