SlideShare a Scribd company logo
1 of 10
Download to read offline
º··Õè     1
           ¤ÇÒÁÃÙŒ·ÑÇä»à¡ÕÂǡѺ¡ÕÌÒà·¹¹ÔÊ
	        เทนนิส เป็นกีฬาทีมประวัตยาวนานกว่า 800 ปี (Lawn Tennis Associa-
                          ่ี     ิ
tion, 2000) มีผสนใจเล่นอย่างมากมายทังเพือสุขภาพและเพือการแข่งขัน ส�ำหรับ
               ู้                    ้ ่                  ่
การแข่งขันในระดับโลกมีการถ่ายทอดการแข่งขันอย่างต่อเนืองและเป็นประจ�ำทาง
                                                        ่
โทรทัศน์ พอล เดล (P. Dale, personal communication, August 10, 1999) ผู้
ฝึกสอนนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดการแข่งขันเอเชียนเกม ครังที่ 13 ทีกรุงเทพมหานคร
                                                   ้         ่
กล่างถึงสาเหตุของความสนใจและความนิยมในการเล่นกีฬาเทนนิสอาจเป็นเพราะ
เทนนิสเป็นกีฬาที่เล่นยากมาก (รองจากกีฬาชกมวย) และเป็นกีฬาที่ท้าทาย

	         นักกีฬาและนักจิตวิทยาการกีฬาหลายคนเรียกกีฬาเทนนิสว่า กีฬาของ
ใจ (mental game) (Gallaway, 1974; Weinberg, 1988; Nideffer, 1992)   
เพราะผลแพ้ชนะของการแข่งขันหลายๆ ครั้งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากความคิด
และความรู้สึกทางจิตใจของนักกีฬาขณะเล่นและฝึกซ้อม ฮิกดอน (Higdon, 1996
: 93-94) กล่าวและให้เหตุผลไว้อย่างน่าสนใจว่า นักกีฬาเทนนิสเป็นนักกีฬาทียงใหญ่
                                                                       ่ ิ่
ทีสด (Why tennis players are the greatest athletes?) ไม่วาจะเป็นการส่งลูก
  ุ่                                                         ่
เข้าเล่น (serve) การเคลื่อนไหวและความเร็วหรือแม้แต่ความอดทนในการเล่นอัน
ยาวนานในการแข่งขันบางครัง ทีเ่ คยบันทึกสถิตเิ วลาการแข่งขันทีนานทีสดเมือวันที่
                            ้                                  ่   ุ่ ่
25 มิถุนายน 2553 ในรายการ Wimbledon ระหว่าง John Isner และ Nicolas
                                       1
                        ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
Mahut ซึ่งมาแข่งกันต่อในวันที่ 3 อีก 1 ชั่วโมงกับ 5 นาที ปรากฏว่า John Isner
เอาชนะ Nicolas Mahut ไปด้วย score 6-4 3-6 6-7 (7-9) 7-6 (7-3) 70-68 รวม
เวลาการแข่งขัน 11 ชัวโมง 5 นาที เป็นการแข่งขันเทนนิสทีใช้เวลานานทีสดในโลก
                     ่                                   ่          ุ่
ซึ่งคงยากที่จะถูกท�ำลาย

	         เทนนิสยังเป็นกีฬาอาชีพประเภทบุคคลที่ท�ำเงินให้กับนักกีฬาเทนนิสอย่าง
มหาศาล เช่น อิวาล เลนเดิล (Ivan Lendl) นักกีฬาเทนนิสที่สามารถท�ำรายได้
จากการแข่งขันสูงสุดตลอดชีวิต เป็นเงินมากกว่า 19 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
หรือประมาณ 712.5 ล้านบาท (Record book, 1993 : 97) การแข่งขันเทนนิส          
ยูเอสโอเพ่น (U.S. Open) ในปีคริสต์ศักราช 1999 มียอดเงินรางวัลรวมสูงที่สุด
ถึงประมาณ 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 550 ล้านบาท (U.S.  
open 99 : Fast fact, 2000) นักเทนนิสชายไทยที่ท�ำรายได้ในการแข่งขันเทนนิส
อาชีพซึ่งดูเหมือนว่าจะมีไม่มากนักที่พอจะยกตัวอย่างได้เห็นชัด เช่น คุณภราดร    
ศรีชาพันธ์ุ, คุณดนัย อุดมโชค, คุณสนฉัตร รติวัฒน์ และคุณสรรค์ชัย รติวัฒน์               
ที่เป็นนักเทนนิสคู่แฝดของไทยที่แข่งขันประเภทคู่เป็นประจ�ำ  ส่วนนักเทนนิส                
ผู้หญิงคือคุณแทมมารีน ธนสุกาญจน์ และคุณนพวรรณ เลิศชีวกานต์

	          การเล่นเทนนิสส�ำหรับนิสิตในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เป็นการเล่นเทนนิส
ครั้งแรกไม่เคยเล่นหรือไม่มีประสบการณ์ที่ไหนมาก่อน อาจเป็นเพราะหลายคนไม่
สามารถทีจะหาสนามเทนนิสเล่นได้งายนัก อุปกรณ์การเล่นเทนนิสค่อนข้างมีราคา
            ่                       ่
สูง จึงยิงท�ำให้โอกาสทีบคคลทัวไปจะมีประสบการณ์ในการเล่นตังแต่เยาว์วยมีนอย
         ่             ่ ุ    ่                            ้        ั ้
ประกอบกับผูเ้ ล่นต้องมีสมรรถภาพของร่างกายและมีทกษะการเล่นทีดี ผูเ้ ล่นต้องมี
                                                   ั           ่
ความแข็งแรงในการถือไม้ขนาดใหญ่ ลูกเทนนิสที่มีความหนักเมื่อผสมกับความเร็ว
ของลูกเทนนิสแล้ว ยิ่งท�ำให้แรงปะทะที่เกิดจากลูกเทนนิสเมื่อสัมผัสหน้าไม้นั้นมี
สูงมาก รวมทั้งผู้เล่นต้องมีสายตาและความสัมพันธ์ของแขนและตาอย่างดี เมื่อลูก
                                          2
                              เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
เทนนิสวิงเข้าหาตัวผู้ตีทงแบบกระดอนพื้นและลอยในอากาศในระดับความสูงและ
        ่               ั้
ความเร็วทีแตกต่างกัน จึงเห็นได้วาการเล่นเทนนิสทีดตองมีความพร้อมในหลายด้าน
          ่                     ่                 ่ี้
การเรียนทักษะพืนฐานการเล่นกีฬาเทนนิสจึงเป็นสิงจ�ำเป็นทีจะท�ำให้เกิดพัฒนาการ
                 ้                              ่       ่
อย่างรวดเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่เล่นแบบลองผิดลองถูกด้วยตนเอง

 	         ในการเขียนหนังสือเทนนิสเล่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมี    
ความรู้พื้นฐานในการเล่นเทนนิสแล้ว ยังเป็นหนังสือประกอบการเรียนของนิสิต
ระดับปริญญาตรี และยังต้องการให้ผเู้ รียนสามารถดูและติดตามการแข่งขันเทนนิส
ด้วยความสนุกสนานและน�ำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในการออกก�ำลังกาย อีก   
ทั้งเพื่อนันทนาการและการแข่งขันในระดับสูงต่อไป

 	      ถึงแม้ว่าการเรียนการสอนจะมุ่งเน้นที่การฝึกปฏิบัติทักษะพื้นฐาน แต่ก็
มีการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมากีฬาเทนนิสทั้งของต่างประเทศและ
ประเทศไทย วัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเล่น เช่น ไม้เทนนิส ลูกเทนนิส สนาม
เทนนิส กติกาและมารยาทในการเล่น และวิธีการชมกีฬาเทนนิสที่ถูกต้องเหมาะ
สม สุดท้ายคือผู้เรียนสามารถเข้าใจทักษะพื้นฐานในการเล่นกีฬาเทนนิส สามารถ
นับและเข้าใจการเล่นและการแข่งขันได้ และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ
วงการเทนนิสได้อย่างถูกต้องและสนุกสนาน

	      ประวัติและวิวัฒนาการของกีฬาเทนนิส
	        แม้วาจะมีเอกสารหลักฐานจากหนังสือหลายเล่มกล่าวถึงประวัตความเป็น
             ่                                                      ิ
มาเกี่ยวกับกีฬาชนิดต่างๆ โดยเฉพาะกีฬาเทนนิส แต่ดูเหมือนว่าเอกสารดังกล่าว
ยังมีความแตกต่างกันออกไป การจะสรุปว่าประวัติที่เขียนไว้ของใครถูกหรือผิดจึง
ยากที่จะท�ำได้ อย่างไรก็ตาม หนังสือเรื่องกีฬาเริ่มต้นอย่างไร (How did sports

                                         3
                          ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
begin?) รวบรวมโดย แบรสช์ (Brasch, 1995) เป็นหนังสือที่พูดถึงความเป็นมา
และประวัติการเกิดของกีฬาแต่ละชนิดโดยตรง ผู้เขียนจึงน�ำมาใช้เป็นข้อมูลหลัก
ในส่วนของประวัติและความเป็นมาของกีฬาประเภทเทนนิสเป็นกีฬาที่มีอายุเก่า
แก่ที่สุดประเภทหนึ่งของชาวอียิปต์ เปอร์เซียโบราณ และกรีก กีฬาเทนนิสที่เห็น
อยู่ในปัจจุบันในสมัยเก่าก่อนเล่นในสนามหญ้า ซึ่งต่อมาจึงเรียกกันว่า ลอนเทนนิส
(Lawn tennis) เขากล่าวด้วยว่า ประวัติของกีฬาชนิดนี้มีมานานและมีการอธิบาย
ทีมาของต้นก�ำเนิดได้หลายอย่าง บางคนกล่าวว่าในช่วงต้น ๆ ของการเริมเล่นเทนนิส
    ่                                                                ่
นีเ้ ป็นกีฬาทีไม่ใช่การเล่นเพือฆ่าเวลาหรือในยามว่าง แต่เป็นการเล่นทีมพธการอย่าง
              ่               ่                                     ่ี ิี
เอาจริงเอาจังอย่างมาก โดยเริ่มต้นเล่นกันในประเทศอียิปต์และหลายประเทศใน
ตะวันออกกลาง

	       บางคนอ้างว่าเทนนิสคล้ายกีฬาโปโล กล่าวคือในช่วงต้น ๆ จะเล่นบนหลัง
ม้าและถือไม้เทนนิส โดยเล่นกันที่เมืองไบแซนไทน์ (Byzantine) หรือเมืองคอน-       
สแตนติโนเปิล (Constantinople) และเมื่อชาวคริสเตียนท�ำสงครามชนะชาวตุรกี
พวกเขาได้น�ำเกมนี้เข้ามาเผยแพร่ในยุโรป ซึ่งน�ำไปสู่ความนิยมในฝรั่งเศสในที่สุด

	         มีนกภาษาศาสตร์เสนอแนะว่า ค�ำว่าเทนนิสน่าจะมาจากการออกเสียงของ
             ั
ค�ำว่า เทเนซ (Tenez) แปลว่า ถือหรือระวัง ซึงเป็นการเรียกเตือนฝ่ายตรงข้ามก่อน
                                               ่
ที่จะท�ำการส่งลูก แต่ชาวอังกฤษมีมุมมองที่เกี่ยวกับค�ำว่าเทนนิสว่า น่าจะเป็นชื่อ
เมืองในประเทศอียิปต์ที่ตั้งอยู่ริมแม่น�้ำไนล์ ที่มีชื่อว่า ทินนิส (Tinnis) หรือทานิส
(Tanis) ในภาษากรีกมากกว่า เหตุผลเพราะเมืองนี้มีชื่อเสียงจากการท�ำผ้าและลูก
เทนนิสก็ท�ำจากผ้าเหล่านัน จึงคาดเดาว่า ค�ำว่าเทนนิสมาจากวัตถุทใช้ท�ำลูกเทนนิส
                        ้                                             ี่
นั่นเอง

	        ทีมาของค�ำว่าเทนนิสอีกทางหนึงคาดว่าอาจมาจากภาษากรีก ลาติน หรือ
           ่                         ่
                                         4
                             เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
เยอรมัน เช่น อาจจะมาจากค�ำกริยาของภาษาลาตินว่า เทเนอซ (tenerc) ที่แปล
ว่า จับ ซึ่งเป็นลักษณะส�ำคัญของการเล่นกีฬาเทนนิสในอดีต (ที่ขึ้นอยู่กับการจับ
และตีลูกด้วยมือ) อีกทางหนึ่งคือ การที่มีการเด้งของลูกเทนนิสจากด้านหนึ่งไปยัง
อีกด้านหนึ่งของตาข่าย ท�ำให้มีบางคนเห็นการเล่นเทนนิสมีลักษณะเหมือนภาพ
การเต้นร�ำแบบเยอรมัน ที่เรียกว่า เทนี่ (tany) นอกจากนี้ ค�ำว่าเทนนิสอาจมาจาก
จ�ำนวนของผู้เล่น เพราะในการเล่นเทนนิสช่วงต้นจะมีผู้เล่นจ�ำนวน 10 คน (ten)
ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าการอธิบายเกี่ยวกับค�ำว่าเทนนิสจะหาจุดสิ้นสุดไม่ได้

	        ในช่วงศตวรรษที่ 12 นักรบที่ท�ำสงครามกับตุรกีได้น�ำค�ำบางค�ำกลับมา
ยุโรปด้วย เช่น ค�ำว่าแร็กเก็ต (racket) นันเอามาจากภาษาอาหรับว่าราหัต (rahat)
                                         ้
ซึ่งแปลว่า ฝ่ามือ ส่วนค�ำว่าดิวซ์ (deuce) เอามาจากภาษาฝรั่งเศสว่า เอ ดิวซ์ (a
deux) ซึ่งแปลว่า 2 หรือหมายถึง 2 แต้มติดต่อกันส�ำหรับการชนะในเกมนั้น

	         ในการฝึกหัดเล่นเทนนิสในสมัยต้นๆ นั้น จะมีการเรียกให้คนใช้ส่งบอลให้
เล่น ซึ่งอาจจะเป็นการได้มาของค�ำว่า เสิร์ฟ (service) ก็ได้ มีการบันทึกยืนยันว่า
เทนนิสถูกน�ำมาเล่นในประเทศฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 12 เป็นการเล่นโดยใช้มือตี
ลูก ส่วนการเล่นเทนนิสโดยใช้ไม้เทนนิสนั้นไม่ได้มีการกล่าวไว้ นั้นคือเหตุผลที่คน
ฝรั่งเศสในสมัยนั้นไม่ได้เรียกกีฬานี้ว่า เทนนิส แต่เรียกว่ากีฬาของมือ (the game
of the hand) ต่อมาการตบลูกด้วยมือเปล่าท�ำให้เกิดการบาดเจ็บ พวกเขาจึงเริ่ม
สวมถุงมือช่วยป้องกันการบาดเจ็บ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเร็วของลูกด้วย

	       พัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของกีฬาเทนนิสคือ การขึงเอ็นบนถุงมือ การขึงเป็น
ลักษณะคล้ายตาข่ายที่อาจเกี่ยวข้องกับการเล่นกีฬานี้ด้วย ถุงมือถูกน�ำมาเปรียบ
เทียบกับตะแกรงซึ่งในภาษาฝรั่งเศส เรียกว่าทามิส (tamis) ผลคือ ลูกบอลถูกตบ
ด้วยแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล สิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ไม้เทนนิส (racket)
                                       5
                         ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
ต่อมาจึงเกิดการพัฒนาถุงมือนี้และการเพิ่มด้ามของไม้เทนนิสเข้าไปด้วยในช่วง
ศตวรรษที่ 16

	       ส�ำหรับสนามเทนนิสนั้นเริ่มต้นในประเทศฝรั่งเศส โดยอัศวินของฝรั่งเศส
การเล่นในช่วงแรก ๆ จะเล่นกันในหมู่ของนักบวชและพระ สนามเทนนิสมีขนาด
ใหญ่มากและสร้างขึ้นระหว่างอาคาร 2 หลังที่เรียกว่า เพนต์เฮาส์ (penthouse)

 	      มีการบันทึกยืนยันว่า นักบวชและพระมีความสนใจในการเล่นเทนนิสอย่าง
มากโดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 12 บรรดาบิชอป (bishops) ทังหลายใช้กฬาเทนนิส
                                                     ้        ี
ส�ำหรับการสวดมนต์ พระและนักบวชจึงมักได้รบการต�ำหนิและถูกร้องเรียนให้เลิก
                                         ั
เล่นเทนนิส ในคริสต์ศักราช 1245 อาชบิชอป (archbishop) ของเรเอน (Rauen)
ได้ออกประกาศห้ามพระทุกรูปเล่นเทนนิส

 	        หลังการแพร่กระจายของกีฬาเทนนิสเป็นไปอย่างรวดเร็วในหมู่ของผู้ดี
ขุนนางและในพระราชวัง เทนนิสกลายเป็นกีฬาโปรดของพระมหากษัตริย์ ถึงขนาด
ท�ำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 ของฝรังเศสสินพระชนม์ดวยพระชนมายุเพียง 27 พรรษา
                                ่     ้        ้
จากการทีพระองค์ทรงเล่นเทนนิสในขณะทีอากาศหนาวเย็นมาก เพราะความสนใจ
          ่                               ่
และได้รบความนิยมอย่างสูงจากกษัตริยและราชวงศ์ตอกีฬาเทนนิส กีฬาเทนนิสจึง
        ั                               ์         ่
ถูกมองว่าเป็นกีฬาหลวงหรือกีฬาของกษัตริย์ (royal tennis) มีการพูดกันว่า อาจ
จะเป็นได้ที่มาจากภาษาอิตาลี ของค�ำว่า เรียล (real) ซึ่งแปลว่ากษัตริย์

 	       มีการกล่าวถึงกีฬาเทนนิสในวรรณกรรมของอังกฤษด้วย วรรณกรรมของ
เจฟฟรีย์ เชาเซอร์ (Geoffrey Chaucer) ได้กล่าวว่า ในคริสต์ศักราช 1389 ได้มี
ประกาศิตห้ามไม่ให้มีการเล่นเทนนิส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการจูงใจให้คนมา
สนใจการเล่นยิงธนู แต่การท�ำเช่นนันก็ไม่สามารถลดความนิยมทีมตอการเล่นเทนนิส
                                 ้                        ่ี่
                                    6
                          เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
ลงได้ ในคริสต์ศักราช 1530 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 ทรงให้มีการสร้างสนามเทนนิสใน
พระราชวังแฮมป์ตน (Hampton Court Palace) ของพระองค์ พระปรีชาสามารถ
                  ั
ในการเล่นเทนนิสของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 เทียบได้กับพระปรีชาสามารถของพระเจ้า
ชาร์ลที่ 2

	        ในช่วง 100 ปีต่อมา ระหว่างศตวรรษที่ 16-17 กีฬาเทนนิสได้รับความ
นิยมสูงสุด กฎและกติกาการแข่งขันกีฬาเทนนิสถูกเขียนขึ้นเป็นครั้งแรกในคริสต์
ศักราช 1592 โดยชาวฝรั่งเศส มีชื่อว่า ฟอร์เรท (Fottet)

 	         หลังจากคริสต์ศักราช 1800 การเล่นเทนนิสในร่มที่สนามอยู่ระหว่างตึก
เริ่มได้รับความนิยมน้อยลง การเล่นเทนนิสบนสนามหญ้ากลางแจ้งถูกน�ำเข้ามา
แทนที่ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มีสาเหตุมาจากราคาการก่อสร้างสนามที่ถูกกว่า
แต่เป็นเพราะนักเทนนิสเองอยากเล่นในสนามกลางแจ้งทีให้ความรูสกว่ามีชวตชีวา
                                                          ่        ้ึ      ีิ
และตื่นเต้นกว่า แม้ว่าขณะนั้นก็มีกีฬา โครเก้ (croquet) ที่เป็นกีฬากลางแจ้งอยู่
แล้ว แต่กีฬาโครเก้ถูกมองว่าเป็นกีฬาที่เชื่องช้า อุ้ยอ้าย และตื่นเต้นเกินไป

	         ในคริสต์ศักราช 1868 พันเอก ทีเอช เจม (T.H. Gem) และนายเจบี      
พีเรร่า (J.B. Pereira) เล่นกีฬาที่มีลักษณะคล้ายกับการเล่นกีฬาเทนนิสที่เมือง        
เอ็ดบาสตัน (Edgbaston) อย่างไรก็ตาม บุคคลที่ท�ำให้เทนนิสได้รับความนิยม        
อย่างมาก แม้ว่าอาจจะไม่ใช่คนคิดแต่ต้น แต่เป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ โดย
ใช้ค�ำว่าการสังสรรค์ในสวน (garden party) คือนายพันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์
(Walter C. Wingfield) นายทหารของประเทศอังกฤษ (ภาพประกอบ 1.1)




                                        7
                         ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
ภาพ 1.1 พันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์

	        พันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์ เป็นนายทหารที่เคยท�ำการรบในประเทศจีน
เมื่อเขากลับประเทศอังกฤษและสังเกตเห็นว่าประชาชนชอบเล่นกีฬากลางแจ้งกัน
มาก ท�ำให้เขารูสกว่าควรจะท�ำให้ประชาชนได้เล่นกีฬา และวิธการทีดทสดคือจัดให้
               ้ึ                                         ี ่ ี ี่ ุ
ประชาชนได้เล่นกีฬาเทนนิสบนสนามหญ้าตามชานเมืองต่าง ๆ

 	         แม้วารูปแบบการเล่นเทนนิสของพันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์ ยังคงอนุรกษ์
               ่                                                           ั
วิธีการดั้งเดิมของเทนนิสไว้หลายอย่าง เช่น ไม้ตี ลูกเทนนิส และตาข่าย แต่เขาก็ได้
ชี้แจงรายละเอียดในส่วนที่แตกต่างกันจากแบบดั้งเดิมไว้เหมือนกัน

	         ส�ำหรับสนามรูปนาฬิกาทรายที่ตรงกลางแคบกว่านี้ พันตรี วิงฟีลด์ได้ท�ำ
ดัดแปลงมาจากการเล่นกีฬาแบดมินตันในสมัยแรก ๆ ที่เล่นกันในห้องวาดรูปของ
ดยุค ออฟ บิวฟอร์ด (Duke of Beaufort) ในประเทศอังกฤษและที่เมืองการาจี
(Carachi) ประเทศอินเดีย และเพื่อให้เป็นสนามที่มีการออกแบบน่าจับตามากขึ้น
พันตรี วิงฟีลด์ เพิ่มเส้นคู่ข้างสนามเข้าไปด้วยทั้งสองด้าน แม้ว่าเส้นข้างที่เขียนนี้จะ
                                         8
                             เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับเกมการเล่นเลยก็ตาม

	          ในการตังชือการเล่นนี้ ต่อมาพันตรี วิงฟีลด์ ได้ใช้ค�ำจากภาษากรีกโบราณ
                  ้ ่
เพื่อเพิ่มความดึงดูดใจในเกมกีฬาของเขา คือใช้ค�ำว่า สแปริสไทก์ (Sphairistike)
ที่มาจากค�ำว่า สแปร่า (Sphaira) ที่แปลว่า ลูกบอล โดยไม่มีใครรู้ว่ามันเล่นอย่างไร
ซึงต่อมาพันตรี วิงฟีลด์ ได้ให้เหตุผลทีแท้จริงทีใช้ชอนีเ้ พียงเพราะว่าความแปลกของ
  ่                                   ่        ่ ื่
ค�ำว่า สแปริสไทค์ เท่านั้นเอง

	        เรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของค�ำว่าสแปริสไทก์ เป็นค�ำว่า
ลอนเทนนิส (lawn tennis) ได้รับค�ำบอกเล่าโดย มาร์ควิส ออฟ แลนส์โดม (Mar-
quis of Landsdowne) ว่า ในช่วงปีคริสต์ศักราช 1869 มีนายทหารปืนใหญ่ ซึ่ง
ก็คือ พันตรี วิงฟีลด์ นั่นเอง ได้มาพบและพูดคุยถึงเรื่องกีฬาที่พันตรี วิงฟีลด์คิด                     
ขึ้น และต้องการที่จะสาธิตวิธีการเล่นให้ดูที่บริเวณเบิร์กลีย์สแควร์ (Berkeley
Square) กรุงลอนดอน โดยได้เชิญเพื่อนอีก 2 คนมาร่วมในการสาธิตดังกล่าวด้วย
คือ วอลเตอร์ ลอง (Walter Long) และอาเธอร์ เบลฟอร์ (Arthur Balfour) และ
ในตอนบ่ายของวันต่อมา มาร์ควิส ออฟ แลนส์โดม กล่าวว่า ท่านระลึกถึงกีฬานั้น
ว่าเป็นเกมการออกก�ำลังกายทีดและน่าสนใจมาก แม้วาขณะทีเล่นไม้จะคดและลูก
                              ่ี                   ่        ่
ก็ไม่มอะไรพันคลุม วอลเตอร์ ลอง และอาเธอร์ เบลฟอร์ พอใจการเล่นดังกล่าวมาก
       ี
และนัดกันมาเล่นกันอีกเป็นระยะ ๆ ตลอดฤดูร้อน ยิ่งพวกเขาเล่นกันบ่อยเท่าไหร่
ก็ยิ่งชอบมากขึ้นเท่านั้น

	         มาร์ควิสและเพื่อนทั้งสองของเขามองเห็นว่า ชื่อในภาษากรีกดูเหมือนจะ
เยิ่นเย้อและจ�ำยากเกินไป วอลเตอร์ ลอง กล่าวว่า ถ้าอยากให้เกมนี้มีต่อไปต้องมี
การเปลี่ยนชื่อให้เหมาะสมกว่านี้ ทุกคนเห็นด้วยแต่ก็ยังหาค�ำมาแทนที่ไม่ได้ ตราบ
จนอาเธอร์ เบลฟอร์ เสนอแนะว่า ลอนเทนนิสซึ่งบ่งบอกว่าเป็นการเล่นกีฬาที่ใช้  
                                                 9
                               ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
ลูกยางโล้น ๆ ตีด้วยไม้รูปไข่บนสนามหญ้าดังกล่าว พันตรี วิงฟีลด์ จึงได้ใช้ค�ำนี้ใน
การจดสิทธิบัตรการเล่นกีฬานี้ในเดือนกุมภาพันธ์ของคริสต์ศักราช 1874 และได้
รับการรับรองอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมต่อมา ขณะเดียวกันเขาก็ได้สร้าง
โรงงานผลิตลูกเทนนิสและไม้เทนนิสขึน ส่วนกล่องบรรจุลกเทนนิสยังคงใช้ทงชือเก่า
                                  ้                ู                   ั้ ่
และใหม่

	       การคาดการของพันตรี วิงฟีลด์เกียวกับการเล่นกีฬานีไม่ผดพลาด การเล่น
                                      ่                 ้ ิ
ลอนเทนนิสได้รับความนิยมอย่างมากและได้รับผลส�ำเร็จอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ไม่
กลายเป็นเกมที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศอังกฤษ

	         ภายใน 2 ปีต่อมา สโมสรออล อิงแลนด์ โครเก้ (All England Croquet
Club) ได้นำการเล่นกีฬาชนิดนีเ้ ข้าเป็นส่วนหนึงของสโมสรทีวมเบิลดัน และจัดการ
            �                                  ่            ่ิ
แข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยผู้ที่เป็นแชมป์คนแรกคือ เอ ดับบลิว กอร์ (A.W.
Gore) ในคริสต์ศกราช 1877 (ภาพประกอบ 1.2) จากผูทเี่ ข้าร่วมการแข่งขันทังหมด
                   ั                                  ้                   ้
22 คน ในการชิงชนะเลิศครั้งนี้มผเข้าดูการแข่งขันประมาณ 200 คน โดยแต่ละคน
                                  ี ู้
จ่ายเงินค่าเข้าดูคนละ 1 ชิลลิง  ในปีเดียวกันความกระตือรือร้นต่อการเล่นลอนเทนนิส
                             ่
เกิดขึนอย่างมากและสโมสรได้รวมเอากีฬาลอนเทนนิสเป็นส่วนหนึงของการเล่นและ
      ้                                                         ่
การแข่งขันของสโมสรตราบเท่าจนถึงปัจจุบน ส่วนสนามรูปนาฬิกาทรายและค�ำว่า
                                             ั
สแปริสไทก์ ก็คอย ๆ เลือนหายไป ในหนังสือเล่มที่ 3 เกียวกับกีฬาลอนเทนนิสของ
                 ่                                      ่
พันตรี วิงฟีลด์ก็ไม่ปรากฏค�ำนี้อีกเลย นอกจากค�ำว่าลอนเทนนิส

	




                                      10
                            เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง

More Related Content

Viewers also liked (9)

الفجر 96
الفجر  96الفجر  96
الفجر 96
 
ชุดที่96
ชุดที่96ชุดที่96
ชุดที่96
 
974 rapport activité cdsp 2011
974 rapport activité cdsp 2011974 rapport activité cdsp 2011
974 rapport activité cdsp 2011
 
9 8-11
9 8-119 8-11
9 8-11
 
9789740330721
97897403307219789740330721
9789740330721
 
98 99年資訊志工成果報告 990048
98 99年資訊志工成果報告 99004898 99年資訊志工成果報告 990048
98 99年資訊志工成果報告 990048
 
9789740330691
97897403306919789740330691
9789740330691
 
97教育部專案期末報告
97教育部專案期末報告97教育部專案期末報告
97教育部專案期末報告
 
9652 Zadanie Iii
9652 Zadanie Iii9652 Zadanie Iii
9652 Zadanie Iii
 

More from CUPress

9789740337737
97897403377379789740337737
9789740337737CUPress
 
9789740337560
97897403375609789740337560
9789740337560CUPress
 
9789740337478
97897403374789789740337478
9789740337478CUPress
 
9789740337270
97897403372709789740337270
9789740337270CUPress
 
9789740337102
97897403371029789740337102
9789740337102CUPress
 
9789740337096
97897403370969789740337096
9789740337096CUPress
 
9789740337072
97897403370729789740337072
9789740337072CUPress
 
9789740337027
97897403370279789740337027
9789740337027CUPress
 
9789740336914
97897403369149789740336914
9789740336914CUPress
 
9789740336907
97897403369079789740336907
9789740336907CUPress
 
9789740336686
97897403366869789740336686
9789740336686CUPress
 
9789740336457
97897403364579789740336457
9789740336457CUPress
 
9789740336440
97897403364409789740336440
9789740336440CUPress
 
9789740336389
97897403363899789740336389
9789740336389CUPress
 
9789740336280
97897403362809789740336280
9789740336280CUPress
 
9789740336365
97897403363659789740336365
9789740336365CUPress
 
9789740336303
97897403363039789740336303
9789740336303CUPress
 
9789740336242
97897403362429789740336242
9789740336242CUPress
 
9789740336235
97897403362359789740336235
9789740336235CUPress
 
9789740336099
97897403360999789740336099
9789740336099CUPress
 

More from CUPress (20)

9789740337737
97897403377379789740337737
9789740337737
 
9789740337560
97897403375609789740337560
9789740337560
 
9789740337478
97897403374789789740337478
9789740337478
 
9789740337270
97897403372709789740337270
9789740337270
 
9789740337102
97897403371029789740337102
9789740337102
 
9789740337096
97897403370969789740337096
9789740337096
 
9789740337072
97897403370729789740337072
9789740337072
 
9789740337027
97897403370279789740337027
9789740337027
 
9789740336914
97897403369149789740336914
9789740336914
 
9789740336907
97897403369079789740336907
9789740336907
 
9789740336686
97897403366869789740336686
9789740336686
 
9789740336457
97897403364579789740336457
9789740336457
 
9789740336440
97897403364409789740336440
9789740336440
 
9789740336389
97897403363899789740336389
9789740336389
 
9789740336280
97897403362809789740336280
9789740336280
 
9789740336365
97897403363659789740336365
9789740336365
 
9789740336303
97897403363039789740336303
9789740336303
 
9789740336242
97897403362429789740336242
9789740336242
 
9789740336235
97897403362359789740336235
9789740336235
 
9789740336099
97897403360999789740336099
9789740336099
 

9789740329558

  • 1. º··Õè 1 ¤ÇÒÁÃÙŒ·ÑÇä»à¡ÕÂǡѺ¡ÕÌÒà·¹¹ÔÊ เทนนิส เป็นกีฬาทีมประวัตยาวนานกว่า 800 ปี (Lawn Tennis Associa- ่ี ิ tion, 2000) มีผสนใจเล่นอย่างมากมายทังเพือสุขภาพและเพือการแข่งขัน ส�ำหรับ ู้ ้ ่ ่ การแข่งขันในระดับโลกมีการถ่ายทอดการแข่งขันอย่างต่อเนืองและเป็นประจ�ำทาง ่ โทรทัศน์ พอล เดล (P. Dale, personal communication, August 10, 1999) ผู้ ฝึกสอนนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดการแข่งขันเอเชียนเกม ครังที่ 13 ทีกรุงเทพมหานคร ้ ่ กล่างถึงสาเหตุของความสนใจและความนิยมในการเล่นกีฬาเทนนิสอาจเป็นเพราะ เทนนิสเป็นกีฬาที่เล่นยากมาก (รองจากกีฬาชกมวย) และเป็นกีฬาที่ท้าทาย นักกีฬาและนักจิตวิทยาการกีฬาหลายคนเรียกกีฬาเทนนิสว่า กีฬาของ ใจ (mental game) (Gallaway, 1974; Weinberg, 1988; Nideffer, 1992) เพราะผลแพ้ชนะของการแข่งขันหลายๆ ครั้งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากความคิด และความรู้สึกทางจิตใจของนักกีฬาขณะเล่นและฝึกซ้อม ฮิกดอน (Higdon, 1996 : 93-94) กล่าวและให้เหตุผลไว้อย่างน่าสนใจว่า นักกีฬาเทนนิสเป็นนักกีฬาทียงใหญ่ ่ ิ่ ทีสด (Why tennis players are the greatest athletes?) ไม่วาจะเป็นการส่งลูก ุ่ ่ เข้าเล่น (serve) การเคลื่อนไหวและความเร็วหรือแม้แต่ความอดทนในการเล่นอัน ยาวนานในการแข่งขันบางครัง ทีเ่ คยบันทึกสถิตเิ วลาการแข่งขันทีนานทีสดเมือวันที่ ้ ่ ุ่ ่ 25 มิถุนายน 2553 ในรายการ Wimbledon ระหว่าง John Isner และ Nicolas 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
  • 2. Mahut ซึ่งมาแข่งกันต่อในวันที่ 3 อีก 1 ชั่วโมงกับ 5 นาที ปรากฏว่า John Isner เอาชนะ Nicolas Mahut ไปด้วย score 6-4 3-6 6-7 (7-9) 7-6 (7-3) 70-68 รวม เวลาการแข่งขัน 11 ชัวโมง 5 นาที เป็นการแข่งขันเทนนิสทีใช้เวลานานทีสดในโลก ่ ่ ุ่ ซึ่งคงยากที่จะถูกท�ำลาย เทนนิสยังเป็นกีฬาอาชีพประเภทบุคคลที่ท�ำเงินให้กับนักกีฬาเทนนิสอย่าง มหาศาล เช่น อิวาล เลนเดิล (Ivan Lendl) นักกีฬาเทนนิสที่สามารถท�ำรายได้ จากการแข่งขันสูงสุดตลอดชีวิต เป็นเงินมากกว่า 19 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 712.5 ล้านบาท (Record book, 1993 : 97) การแข่งขันเทนนิส ยูเอสโอเพ่น (U.S. Open) ในปีคริสต์ศักราช 1999 มียอดเงินรางวัลรวมสูงที่สุด ถึงประมาณ 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 550 ล้านบาท (U.S. open 99 : Fast fact, 2000) นักเทนนิสชายไทยที่ท�ำรายได้ในการแข่งขันเทนนิส อาชีพซึ่งดูเหมือนว่าจะมีไม่มากนักที่พอจะยกตัวอย่างได้เห็นชัด เช่น คุณภราดร ศรีชาพันธ์ุ, คุณดนัย อุดมโชค, คุณสนฉัตร รติวัฒน์ และคุณสรรค์ชัย รติวัฒน์ ที่เป็นนักเทนนิสคู่แฝดของไทยที่แข่งขันประเภทคู่เป็นประจ�ำ ส่วนนักเทนนิส ผู้หญิงคือคุณแทมมารีน ธนสุกาญจน์ และคุณนพวรรณ เลิศชีวกานต์ การเล่นเทนนิสส�ำหรับนิสิตในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เป็นการเล่นเทนนิส ครั้งแรกไม่เคยเล่นหรือไม่มีประสบการณ์ที่ไหนมาก่อน อาจเป็นเพราะหลายคนไม่ สามารถทีจะหาสนามเทนนิสเล่นได้งายนัก อุปกรณ์การเล่นเทนนิสค่อนข้างมีราคา ่ ่ สูง จึงยิงท�ำให้โอกาสทีบคคลทัวไปจะมีประสบการณ์ในการเล่นตังแต่เยาว์วยมีนอย ่ ่ ุ ่ ้ ั ้ ประกอบกับผูเ้ ล่นต้องมีสมรรถภาพของร่างกายและมีทกษะการเล่นทีดี ผูเ้ ล่นต้องมี ั ่ ความแข็งแรงในการถือไม้ขนาดใหญ่ ลูกเทนนิสที่มีความหนักเมื่อผสมกับความเร็ว ของลูกเทนนิสแล้ว ยิ่งท�ำให้แรงปะทะที่เกิดจากลูกเทนนิสเมื่อสัมผัสหน้าไม้นั้นมี สูงมาก รวมทั้งผู้เล่นต้องมีสายตาและความสัมพันธ์ของแขนและตาอย่างดี เมื่อลูก 2 เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
  • 3. เทนนิสวิงเข้าหาตัวผู้ตีทงแบบกระดอนพื้นและลอยในอากาศในระดับความสูงและ ่ ั้ ความเร็วทีแตกต่างกัน จึงเห็นได้วาการเล่นเทนนิสทีดตองมีความพร้อมในหลายด้าน ่ ่ ่ี้ การเรียนทักษะพืนฐานการเล่นกีฬาเทนนิสจึงเป็นสิงจ�ำเป็นทีจะท�ำให้เกิดพัฒนาการ ้ ่ ่ อย่างรวดเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่เล่นแบบลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ในการเขียนหนังสือเทนนิสเล่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมี ความรู้พื้นฐานในการเล่นเทนนิสแล้ว ยังเป็นหนังสือประกอบการเรียนของนิสิต ระดับปริญญาตรี และยังต้องการให้ผเู้ รียนสามารถดูและติดตามการแข่งขันเทนนิส ด้วยความสนุกสนานและน�ำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในการออกก�ำลังกาย อีก ทั้งเพื่อนันทนาการและการแข่งขันในระดับสูงต่อไป ถึงแม้ว่าการเรียนการสอนจะมุ่งเน้นที่การฝึกปฏิบัติทักษะพื้นฐาน แต่ก็ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมากีฬาเทนนิสทั้งของต่างประเทศและ ประเทศไทย วัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเล่น เช่น ไม้เทนนิส ลูกเทนนิส สนาม เทนนิส กติกาและมารยาทในการเล่น และวิธีการชมกีฬาเทนนิสที่ถูกต้องเหมาะ สม สุดท้ายคือผู้เรียนสามารถเข้าใจทักษะพื้นฐานในการเล่นกีฬาเทนนิส สามารถ นับและเข้าใจการเล่นและการแข่งขันได้ และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ วงการเทนนิสได้อย่างถูกต้องและสนุกสนาน ประวัติและวิวัฒนาการของกีฬาเทนนิส แม้วาจะมีเอกสารหลักฐานจากหนังสือหลายเล่มกล่าวถึงประวัตความเป็น ่ ิ มาเกี่ยวกับกีฬาชนิดต่างๆ โดยเฉพาะกีฬาเทนนิส แต่ดูเหมือนว่าเอกสารดังกล่าว ยังมีความแตกต่างกันออกไป การจะสรุปว่าประวัติที่เขียนไว้ของใครถูกหรือผิดจึง ยากที่จะท�ำได้ อย่างไรก็ตาม หนังสือเรื่องกีฬาเริ่มต้นอย่างไร (How did sports 3 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
  • 4. begin?) รวบรวมโดย แบรสช์ (Brasch, 1995) เป็นหนังสือที่พูดถึงความเป็นมา และประวัติการเกิดของกีฬาแต่ละชนิดโดยตรง ผู้เขียนจึงน�ำมาใช้เป็นข้อมูลหลัก ในส่วนของประวัติและความเป็นมาของกีฬาประเภทเทนนิสเป็นกีฬาที่มีอายุเก่า แก่ที่สุดประเภทหนึ่งของชาวอียิปต์ เปอร์เซียโบราณ และกรีก กีฬาเทนนิสที่เห็น อยู่ในปัจจุบันในสมัยเก่าก่อนเล่นในสนามหญ้า ซึ่งต่อมาจึงเรียกกันว่า ลอนเทนนิส (Lawn tennis) เขากล่าวด้วยว่า ประวัติของกีฬาชนิดนี้มีมานานและมีการอธิบาย ทีมาของต้นก�ำเนิดได้หลายอย่าง บางคนกล่าวว่าในช่วงต้น ๆ ของการเริมเล่นเทนนิส ่ ่ นีเ้ ป็นกีฬาทีไม่ใช่การเล่นเพือฆ่าเวลาหรือในยามว่าง แต่เป็นการเล่นทีมพธการอย่าง ่ ่ ่ี ิี เอาจริงเอาจังอย่างมาก โดยเริ่มต้นเล่นกันในประเทศอียิปต์และหลายประเทศใน ตะวันออกกลาง บางคนอ้างว่าเทนนิสคล้ายกีฬาโปโล กล่าวคือในช่วงต้น ๆ จะเล่นบนหลัง ม้าและถือไม้เทนนิส โดยเล่นกันที่เมืองไบแซนไทน์ (Byzantine) หรือเมืองคอน- สแตนติโนเปิล (Constantinople) และเมื่อชาวคริสเตียนท�ำสงครามชนะชาวตุรกี พวกเขาได้น�ำเกมนี้เข้ามาเผยแพร่ในยุโรป ซึ่งน�ำไปสู่ความนิยมในฝรั่งเศสในที่สุด มีนกภาษาศาสตร์เสนอแนะว่า ค�ำว่าเทนนิสน่าจะมาจากการออกเสียงของ ั ค�ำว่า เทเนซ (Tenez) แปลว่า ถือหรือระวัง ซึงเป็นการเรียกเตือนฝ่ายตรงข้ามก่อน ่ ที่จะท�ำการส่งลูก แต่ชาวอังกฤษมีมุมมองที่เกี่ยวกับค�ำว่าเทนนิสว่า น่าจะเป็นชื่อ เมืองในประเทศอียิปต์ที่ตั้งอยู่ริมแม่น�้ำไนล์ ที่มีชื่อว่า ทินนิส (Tinnis) หรือทานิส (Tanis) ในภาษากรีกมากกว่า เหตุผลเพราะเมืองนี้มีชื่อเสียงจากการท�ำผ้าและลูก เทนนิสก็ท�ำจากผ้าเหล่านัน จึงคาดเดาว่า ค�ำว่าเทนนิสมาจากวัตถุทใช้ท�ำลูกเทนนิส ้ ี่ นั่นเอง ทีมาของค�ำว่าเทนนิสอีกทางหนึงคาดว่าอาจมาจากภาษากรีก ลาติน หรือ ่ ่ 4 เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
  • 5. เยอรมัน เช่น อาจจะมาจากค�ำกริยาของภาษาลาตินว่า เทเนอซ (tenerc) ที่แปล ว่า จับ ซึ่งเป็นลักษณะส�ำคัญของการเล่นกีฬาเทนนิสในอดีต (ที่ขึ้นอยู่กับการจับ และตีลูกด้วยมือ) อีกทางหนึ่งคือ การที่มีการเด้งของลูกเทนนิสจากด้านหนึ่งไปยัง อีกด้านหนึ่งของตาข่าย ท�ำให้มีบางคนเห็นการเล่นเทนนิสมีลักษณะเหมือนภาพ การเต้นร�ำแบบเยอรมัน ที่เรียกว่า เทนี่ (tany) นอกจากนี้ ค�ำว่าเทนนิสอาจมาจาก จ�ำนวนของผู้เล่น เพราะในการเล่นเทนนิสช่วงต้นจะมีผู้เล่นจ�ำนวน 10 คน (ten) ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าการอธิบายเกี่ยวกับค�ำว่าเทนนิสจะหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ ในช่วงศตวรรษที่ 12 นักรบที่ท�ำสงครามกับตุรกีได้น�ำค�ำบางค�ำกลับมา ยุโรปด้วย เช่น ค�ำว่าแร็กเก็ต (racket) นันเอามาจากภาษาอาหรับว่าราหัต (rahat) ้ ซึ่งแปลว่า ฝ่ามือ ส่วนค�ำว่าดิวซ์ (deuce) เอามาจากภาษาฝรั่งเศสว่า เอ ดิวซ์ (a deux) ซึ่งแปลว่า 2 หรือหมายถึง 2 แต้มติดต่อกันส�ำหรับการชนะในเกมนั้น ในการฝึกหัดเล่นเทนนิสในสมัยต้นๆ นั้น จะมีการเรียกให้คนใช้ส่งบอลให้ เล่น ซึ่งอาจจะเป็นการได้มาของค�ำว่า เสิร์ฟ (service) ก็ได้ มีการบันทึกยืนยันว่า เทนนิสถูกน�ำมาเล่นในประเทศฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 12 เป็นการเล่นโดยใช้มือตี ลูก ส่วนการเล่นเทนนิสโดยใช้ไม้เทนนิสนั้นไม่ได้มีการกล่าวไว้ นั้นคือเหตุผลที่คน ฝรั่งเศสในสมัยนั้นไม่ได้เรียกกีฬานี้ว่า เทนนิส แต่เรียกว่ากีฬาของมือ (the game of the hand) ต่อมาการตบลูกด้วยมือเปล่าท�ำให้เกิดการบาดเจ็บ พวกเขาจึงเริ่ม สวมถุงมือช่วยป้องกันการบาดเจ็บ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเร็วของลูกด้วย พัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของกีฬาเทนนิสคือ การขึงเอ็นบนถุงมือ การขึงเป็น ลักษณะคล้ายตาข่ายที่อาจเกี่ยวข้องกับการเล่นกีฬานี้ด้วย ถุงมือถูกน�ำมาเปรียบ เทียบกับตะแกรงซึ่งในภาษาฝรั่งเศส เรียกว่าทามิส (tamis) ผลคือ ลูกบอลถูกตบ ด้วยแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล สิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ไม้เทนนิส (racket) 5 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
  • 6. ต่อมาจึงเกิดการพัฒนาถุงมือนี้และการเพิ่มด้ามของไม้เทนนิสเข้าไปด้วยในช่วง ศตวรรษที่ 16 ส�ำหรับสนามเทนนิสนั้นเริ่มต้นในประเทศฝรั่งเศส โดยอัศวินของฝรั่งเศส การเล่นในช่วงแรก ๆ จะเล่นกันในหมู่ของนักบวชและพระ สนามเทนนิสมีขนาด ใหญ่มากและสร้างขึ้นระหว่างอาคาร 2 หลังที่เรียกว่า เพนต์เฮาส์ (penthouse) มีการบันทึกยืนยันว่า นักบวชและพระมีความสนใจในการเล่นเทนนิสอย่าง มากโดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 12 บรรดาบิชอป (bishops) ทังหลายใช้กฬาเทนนิส ้ ี ส�ำหรับการสวดมนต์ พระและนักบวชจึงมักได้รบการต�ำหนิและถูกร้องเรียนให้เลิก ั เล่นเทนนิส ในคริสต์ศักราช 1245 อาชบิชอป (archbishop) ของเรเอน (Rauen) ได้ออกประกาศห้ามพระทุกรูปเล่นเทนนิส หลังการแพร่กระจายของกีฬาเทนนิสเป็นไปอย่างรวดเร็วในหมู่ของผู้ดี ขุนนางและในพระราชวัง เทนนิสกลายเป็นกีฬาโปรดของพระมหากษัตริย์ ถึงขนาด ท�ำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 ของฝรังเศสสินพระชนม์ดวยพระชนมายุเพียง 27 พรรษา ่ ้ ้ จากการทีพระองค์ทรงเล่นเทนนิสในขณะทีอากาศหนาวเย็นมาก เพราะความสนใจ ่ ่ และได้รบความนิยมอย่างสูงจากกษัตริยและราชวงศ์ตอกีฬาเทนนิส กีฬาเทนนิสจึง ั ์ ่ ถูกมองว่าเป็นกีฬาหลวงหรือกีฬาของกษัตริย์ (royal tennis) มีการพูดกันว่า อาจ จะเป็นได้ที่มาจากภาษาอิตาลี ของค�ำว่า เรียล (real) ซึ่งแปลว่ากษัตริย์ มีการกล่าวถึงกีฬาเทนนิสในวรรณกรรมของอังกฤษด้วย วรรณกรรมของ เจฟฟรีย์ เชาเซอร์ (Geoffrey Chaucer) ได้กล่าวว่า ในคริสต์ศักราช 1389 ได้มี ประกาศิตห้ามไม่ให้มีการเล่นเทนนิส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการจูงใจให้คนมา สนใจการเล่นยิงธนู แต่การท�ำเช่นนันก็ไม่สามารถลดความนิยมทีมตอการเล่นเทนนิส ้ ่ี่ 6 เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
  • 7. ลงได้ ในคริสต์ศักราช 1530 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 ทรงให้มีการสร้างสนามเทนนิสใน พระราชวังแฮมป์ตน (Hampton Court Palace) ของพระองค์ พระปรีชาสามารถ ั ในการเล่นเทนนิสของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 เทียบได้กับพระปรีชาสามารถของพระเจ้า ชาร์ลที่ 2 ในช่วง 100 ปีต่อมา ระหว่างศตวรรษที่ 16-17 กีฬาเทนนิสได้รับความ นิยมสูงสุด กฎและกติกาการแข่งขันกีฬาเทนนิสถูกเขียนขึ้นเป็นครั้งแรกในคริสต์ ศักราช 1592 โดยชาวฝรั่งเศส มีชื่อว่า ฟอร์เรท (Fottet) หลังจากคริสต์ศักราช 1800 การเล่นเทนนิสในร่มที่สนามอยู่ระหว่างตึก เริ่มได้รับความนิยมน้อยลง การเล่นเทนนิสบนสนามหญ้ากลางแจ้งถูกน�ำเข้ามา แทนที่ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มีสาเหตุมาจากราคาการก่อสร้างสนามที่ถูกกว่า แต่เป็นเพราะนักเทนนิสเองอยากเล่นในสนามกลางแจ้งทีให้ความรูสกว่ามีชวตชีวา ่ ้ึ ีิ และตื่นเต้นกว่า แม้ว่าขณะนั้นก็มีกีฬา โครเก้ (croquet) ที่เป็นกีฬากลางแจ้งอยู่ แล้ว แต่กีฬาโครเก้ถูกมองว่าเป็นกีฬาที่เชื่องช้า อุ้ยอ้าย และตื่นเต้นเกินไป ในคริสต์ศักราช 1868 พันเอก ทีเอช เจม (T.H. Gem) และนายเจบี พีเรร่า (J.B. Pereira) เล่นกีฬาที่มีลักษณะคล้ายกับการเล่นกีฬาเทนนิสที่เมือง เอ็ดบาสตัน (Edgbaston) อย่างไรก็ตาม บุคคลที่ท�ำให้เทนนิสได้รับความนิยม อย่างมาก แม้ว่าอาจจะไม่ใช่คนคิดแต่ต้น แต่เป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ โดย ใช้ค�ำว่าการสังสรรค์ในสวน (garden party) คือนายพันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์ (Walter C. Wingfield) นายทหารของประเทศอังกฤษ (ภาพประกอบ 1.1) 7 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
  • 8. ภาพ 1.1 พันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์ พันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์ เป็นนายทหารที่เคยท�ำการรบในประเทศจีน เมื่อเขากลับประเทศอังกฤษและสังเกตเห็นว่าประชาชนชอบเล่นกีฬากลางแจ้งกัน มาก ท�ำให้เขารูสกว่าควรจะท�ำให้ประชาชนได้เล่นกีฬา และวิธการทีดทสดคือจัดให้ ้ึ ี ่ ี ี่ ุ ประชาชนได้เล่นกีฬาเทนนิสบนสนามหญ้าตามชานเมืองต่าง ๆ แม้วารูปแบบการเล่นเทนนิสของพันตรี วอลเตอร์ ซี วิงฟีลด์ ยังคงอนุรกษ์ ่ ั วิธีการดั้งเดิมของเทนนิสไว้หลายอย่าง เช่น ไม้ตี ลูกเทนนิส และตาข่าย แต่เขาก็ได้ ชี้แจงรายละเอียดในส่วนที่แตกต่างกันจากแบบดั้งเดิมไว้เหมือนกัน ส�ำหรับสนามรูปนาฬิกาทรายที่ตรงกลางแคบกว่านี้ พันตรี วิงฟีลด์ได้ท�ำ ดัดแปลงมาจากการเล่นกีฬาแบดมินตันในสมัยแรก ๆ ที่เล่นกันในห้องวาดรูปของ ดยุค ออฟ บิวฟอร์ด (Duke of Beaufort) ในประเทศอังกฤษและที่เมืองการาจี (Carachi) ประเทศอินเดีย และเพื่อให้เป็นสนามที่มีการออกแบบน่าจับตามากขึ้น พันตรี วิงฟีลด์ เพิ่มเส้นคู่ข้างสนามเข้าไปด้วยทั้งสองด้าน แม้ว่าเส้นข้างที่เขียนนี้จะ 8 เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง
  • 9. ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับเกมการเล่นเลยก็ตาม ในการตังชือการเล่นนี้ ต่อมาพันตรี วิงฟีลด์ ได้ใช้ค�ำจากภาษากรีกโบราณ ้ ่ เพื่อเพิ่มความดึงดูดใจในเกมกีฬาของเขา คือใช้ค�ำว่า สแปริสไทก์ (Sphairistike) ที่มาจากค�ำว่า สแปร่า (Sphaira) ที่แปลว่า ลูกบอล โดยไม่มีใครรู้ว่ามันเล่นอย่างไร ซึงต่อมาพันตรี วิงฟีลด์ ได้ให้เหตุผลทีแท้จริงทีใช้ชอนีเ้ พียงเพราะว่าความแปลกของ ่ ่ ่ ื่ ค�ำว่า สแปริสไทค์ เท่านั้นเอง เรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของค�ำว่าสแปริสไทก์ เป็นค�ำว่า ลอนเทนนิส (lawn tennis) ได้รับค�ำบอกเล่าโดย มาร์ควิส ออฟ แลนส์โดม (Mar- quis of Landsdowne) ว่า ในช่วงปีคริสต์ศักราช 1869 มีนายทหารปืนใหญ่ ซึ่ง ก็คือ พันตรี วิงฟีลด์ นั่นเอง ได้มาพบและพูดคุยถึงเรื่องกีฬาที่พันตรี วิงฟีลด์คิด ขึ้น และต้องการที่จะสาธิตวิธีการเล่นให้ดูที่บริเวณเบิร์กลีย์สแควร์ (Berkeley Square) กรุงลอนดอน โดยได้เชิญเพื่อนอีก 2 คนมาร่วมในการสาธิตดังกล่าวด้วย คือ วอลเตอร์ ลอง (Walter Long) และอาเธอร์ เบลฟอร์ (Arthur Balfour) และ ในตอนบ่ายของวันต่อมา มาร์ควิส ออฟ แลนส์โดม กล่าวว่า ท่านระลึกถึงกีฬานั้น ว่าเป็นเกมการออกก�ำลังกายทีดและน่าสนใจมาก แม้วาขณะทีเล่นไม้จะคดและลูก ่ี ่ ่ ก็ไม่มอะไรพันคลุม วอลเตอร์ ลอง และอาเธอร์ เบลฟอร์ พอใจการเล่นดังกล่าวมาก ี และนัดกันมาเล่นกันอีกเป็นระยะ ๆ ตลอดฤดูร้อน ยิ่งพวกเขาเล่นกันบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งชอบมากขึ้นเท่านั้น มาร์ควิสและเพื่อนทั้งสองของเขามองเห็นว่า ชื่อในภาษากรีกดูเหมือนจะ เยิ่นเย้อและจ�ำยากเกินไป วอลเตอร์ ลอง กล่าวว่า ถ้าอยากให้เกมนี้มีต่อไปต้องมี การเปลี่ยนชื่อให้เหมาะสมกว่านี้ ทุกคนเห็นด้วยแต่ก็ยังหาค�ำมาแทนที่ไม่ได้ ตราบ จนอาเธอร์ เบลฟอร์ เสนอแนะว่า ลอนเทนนิสซึ่งบ่งบอกว่าเป็นการเล่นกีฬาที่ใช้ 9 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส
  • 10. ลูกยางโล้น ๆ ตีด้วยไม้รูปไข่บนสนามหญ้าดังกล่าว พันตรี วิงฟีลด์ จึงได้ใช้ค�ำนี้ใน การจดสิทธิบัตรการเล่นกีฬานี้ในเดือนกุมภาพันธ์ของคริสต์ศักราช 1874 และได้ รับการรับรองอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมต่อมา ขณะเดียวกันเขาก็ได้สร้าง โรงงานผลิตลูกเทนนิสและไม้เทนนิสขึน ส่วนกล่องบรรจุลกเทนนิสยังคงใช้ทงชือเก่า ้ ู ั้ ่ และใหม่ การคาดการของพันตรี วิงฟีลด์เกียวกับการเล่นกีฬานีไม่ผดพลาด การเล่น ่ ้ ิ ลอนเทนนิสได้รับความนิยมอย่างมากและได้รับผลส�ำเร็จอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ไม่ กลายเป็นเกมที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศอังกฤษ ภายใน 2 ปีต่อมา สโมสรออล อิงแลนด์ โครเก้ (All England Croquet Club) ได้นำการเล่นกีฬาชนิดนีเ้ ข้าเป็นส่วนหนึงของสโมสรทีวมเบิลดัน และจัดการ � ่ ่ิ แข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยผู้ที่เป็นแชมป์คนแรกคือ เอ ดับบลิว กอร์ (A.W. Gore) ในคริสต์ศกราช 1877 (ภาพประกอบ 1.2) จากผูทเี่ ข้าร่วมการแข่งขันทังหมด ั ้ ้ 22 คน ในการชิงชนะเลิศครั้งนี้มผเข้าดูการแข่งขันประมาณ 200 คน โดยแต่ละคน ี ู้ จ่ายเงินค่าเข้าดูคนละ 1 ชิลลิง ในปีเดียวกันความกระตือรือร้นต่อการเล่นลอนเทนนิส ่ เกิดขึนอย่างมากและสโมสรได้รวมเอากีฬาลอนเทนนิสเป็นส่วนหนึงของการเล่นและ ้ ่ การแข่งขันของสโมสรตราบเท่าจนถึงปัจจุบน ส่วนสนามรูปนาฬิกาทรายและค�ำว่า ั สแปริสไทก์ ก็คอย ๆ เลือนหายไป ในหนังสือเล่มที่ 3 เกียวกับกีฬาลอนเทนนิสของ ่ ่ พันตรี วิงฟีลด์ก็ไม่ปรากฏค�ำนี้อีกเลย นอกจากค�ำว่าลอนเทนนิส 10 เรียนรู้เทนนิสด้วยตนเอง