More Related Content
More from Taraya Srivilas
More from Taraya Srivilas (20)
บทสัมภาษณ์
- 1. คอลัมน์ บทสัมภาษณ์ความเห็นทางวิชาการ
ชื่อเรื่อง พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อานวยการหลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข
สถาบันพระปกเกล้า สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
เรื่อง “การปฏิรูปประเทศไทย : ทิศทางการปฏิรูปและการวางกติกาของบ้านเมือง
เพื่อก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน”
เมื่อวันอังคารที่ ๒๕พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณห้องรับรองสมาชิกรัฐสภาอาคารรัฐสภา ๑
ผู้เขียน กองบรรณาธิการ
จุลนิติ : ขอทราบถึงความเป็นมา แนวคิด และหลักการที่สาคัญในการปฏิรูปประเทศหรือการ
ปฏิรูปสังคมในกรณีของต่างประเทศหรือบางประเทศที่ประสบความสาเร็จนั้นได้มีแนวทางการ
ดาเนินการอย่างไรจนเป็นที่ยอมรับของประชาชนในสังคมทุกฝ่ าย
พลเอก เอกชัยฯ:จากการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าที่ผ่านมาพบว่า แนวความคิดในการ
ปฏิรูปในหลาย ๆ ประเทศมักมีที่มาอันเกิดจากความขัดแย้งของคนในประเทศนาไปสู่การปฏิรูป บาง
ประเทศก็นาไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อสร้างความปรองดอง ก็จะ
สอดคล้องกับแนวคิดในการจัดทาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ของประเทศไทย
ในขณะนี้ ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากรอบการจัดทารัฐธรรมนูญ คณะที่ ๑๐ ได้พิจารณาใน
ภาค ๔ การปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง หมวด ๒ การสร้างความปรองดอง ได้เสนอกรอบ
แนวคิดเบื้องต้นในการยกร่างรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ไว้โดยได้กาหนดสภาพปัญหาหลักว่า เงื่อนไข
ของความขัดแย้งโดยทั่วไปเกิดขึ้นจากความเชื่อทางศาสนา ปรัชญา แนวคิดทางการเมือง การพัฒนา
ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เหลื่อมล้า โดยได้เสนอหลักการที่สาคัญเพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา
ดังกล่าว อาทิ การออกแบบและเชื่อมโยงหมวดอื่น ๆ ในรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างความปรองดอง
ตลอดจนกาหนดให้บุคคลมีหน้าที่ในการเสริมสร้างความปรองดองเพื่อเสถียรภาพความมั่นคงทาง
เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของชาติ หากเราศึกษาปัจจัยแห่งความสาเร็จในการปฏิรูปของ
ต่างประเทศจะพบว่า ในต่างประเทศจะพยายามสร้างประชาธิปไตยที่ทาให้เกิดการมีส่วนร่วมของ
ภาคประชาชน ในขณะที่ประเทศไทยเรามีความพยายามที่จะกาหนดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
มากยิ่งขึ้นเห็นได้จากที่ผ่านมามีการกาหนดในรัฐธรรมนูญถึงแนวนโยบายด้านการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนโดยการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบายและวางแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนใน
- 2. ๒
การตัดสินใจทางการเมืองรวมถึงการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐทุกระดับ นอกจากนี้ยังมีการ
กาหนดให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิเข้าชื่อเสนอกฎหมายด้วย แต่ในความเป็นจริงประชาชน
มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมน้อยมาก ยกตัวอย่างกรณีการเข้าชื่อเพื่อเสนอกฎหมายของประชาชน ที่
บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญกาหนดให้กระทาได้แต่กฎหมายที่ประชาชนเสนอเหล่านั้นกลับไม่ได้รับ
การพิจารณาจากรัฐสภา
สิ่งสาคัญอีกประการหนึ่งที่เราต้องกาหนดให้ประชาชนมีสิทธิและหน้าที่ตลอดจนเข้ามามี
ส่วนร่วมคือ การเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการใช้อานาจรัฐและการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
การทาให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ เพื่อดูว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้อานาจ
รัฐในกระบวนการขั้นตอนใดบ้างเริ่มตั้งแต่กระบวนการคิด การวางแผน นาไปสู่การปฏิบัติ ต่อเนื่อง
ถึงการติดตามเพื่อประเมินผล ทั้งนี้ ประชาชนต้องสามารถเข้ามามีส่วนร่วมตลอดทั้งกระบวนการ
เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เราต้องพยายามออกแบบให้สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากภาวะความ
ขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในยุคหลังนี้ผมเห็นว่าเกิดขึ้นจากการที่ภาคประชาชนเริ่มเติบใหญ่ เริ่มมี
พลัง เริ่มเข้มแข็งและกดดันภาครัฐมากขึ้น กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ เช่น ประเทศ
เกาหลีใต้ ประเทศอินโดนีเซีย ที่ในระยะหลังภาคประชาชนมีความเข้มแข็งมากขึ้นและกดดัน
ภาครัฐจนนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศในที่สุด
จุลนิติ : ขอทราบถึงที่มาและแนวคิดในการที่จะต้องมีการปฏิรูปประเทศไทยอีกคารบหนึ่ง
ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน ตลอดจนสภาพปัญหาและอุปสรรคที่สาคัญอันเกี่ยวกับการปฏิรูป
ประเทศที่เกิดขึ้นในอดีตถึงปัจจุบัน
พลเอก เอกชัยฯ: ในสถานการณ์ปัจจุบันเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าอานาจอธิปไตยทั้ง
๓ อานาจ ได้แก่ อานาจนิติบัญญัติ อานาจบริหาร และอานาจตุลาการ ซึ่งถูกออกแบบมาให้เกิดการ
ดุลและคานอานาจซึ่งกันและกัน แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นที่ผ่านมานักการเมืองมีความ
เข้มแข็งและมีอานาจมากจนทาให้บางครั้งฝ่ายนิติบัญญัติก็ตกอยู่ภายใต้อานาจของฝ่ายการเมือง
ทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่การใช้อานาจอธิปไตยในระบอบประชาธิปไตยได้ถูกออกแบบมาให้ใช้อานาจแยก
จากกันทั้ง ๓ ส่วน และเราต้องยอมรับว่าอานาจของตุลาการกลับมามีบทบาท และอานาจเหนือทั้ง
- 3. ๓
ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ นอกจากนี้ในบางครั้งข้าราชการก็กลับขึ้นมามีบทบาทสาคัญ
เหนือกว่าบทบาทอานาจของฝ่ายการเมืองเสียอีก ยกตัวอย่างเช่น การกาหนดทิศทางกรอบและ
แนวทางในการพัฒนาประเทศด้านเศรษฐกิจและสังคมก็มาจากการดาเนินการของสภาพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติซึ่งมีภารกิจในการกาหนดทิศทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ในการ
จัดทาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตัวอย่างของต่างประเทศเช่น ประเทศฟิลิปปินส์กับ
ประเทศอินโดนีเซีย การกาหนดนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ
รัฐสภา ส่วนฝ่ ายบริหารมีหน้าที่ในการบริหารอย่างเดียว ต่างจากประเทศไทยของเราที่ผ่านมาล้วน
แล้วแต่ให้รัฐบาลทาหน้าที่ในการกาหนดทิศทางประเทศในทุกๆด้านเอง คิดเรื่องงบประมาณเอง
รวมถึงบริหารงบประมาณเอง และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าบางส่วนไปประมูลงบประมาณนั้นเองซึ่งไม่
ถูกต้องนัก ผมเห็นว่านี่คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่เราออกแบบไว้แล้วทาให้เกิดปัญหาเรื่อง
ผลประโยชน์ทับซ้อน เกิดปัญหาคอร์รัปชั่นตามมา ซึ่งในต่างประเทศจะแยกอานาจการบริหารไว้
อย่างชัดเจน เช่น ถ้าคุณมีอานาจในการกาหนดเรื่องทิศทางประเทศและงบประมาณแล้ว คุณจะไม่
สามารถจับเงินได้ เรื่องเหล่านี้ถูกแยกจากกันอย่างชัดเจน ส่งผลให้ทั้งประเทศอินโดนีเซีย และ
ประเทศฟิลิปปินส์ในขณะนี้สถานการณ์การเมืองเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น
สาหรับประเทศไทยนั้นแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ผมมีความเห็นว่าเราจาเป็นต้องสร้าง
ดุลยภาพให้เกิดขึ้นใน ๔ ภาคส่วนของอานาจ ได้แก่ ๑. ทหาร ๒. ข้าราชการ ๓. การเมือง และ ๔.
ประชาชน คาถามคือจะทาอย่างไรให้ทั้ง ๔ ภาคส่วนนี้เกิดดุลยภาพระหว่างกัน ถ้าเรามองย้อนกลับ
ไปในอดีต จะพบว่าทหารมีอานาจเหนือกว่า และนักการเมืองก็กลับมามีอานาจเหนือกว่าทหาร
ต่อมาภายหลังรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ฝ่ายทหารได้ปรับโครงสร้าง
ทหารจนกระทั่งนักการเมืองไม่สามารถก้าวล่วงเข้าไปมีอานาจเหนือทหารได้ ส่วนภาคประชาชนก็
ยังคงไม่มีอานาจเช่นเดิม อานาจในที่นี้หมายถึงอานาจต่อรองทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม อานาจที่
จะเข้าไปมีสิทธิหรือมีส่วนร่วมในด้านการเมือง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งสาคัญที่เราจะเขียนรัฐธรรมนูญกัน
อย่างไรเพื่อจะสร้างดุลยภาพให้เกิดขึ้นได้เมื่อใดที่เกิดดุลยภาพใน ๔ ส่วนนี้ได้เราจะอยู่ร่วมกันได้
ยั่งยืนยาวนานตลอดไป
- 4. ๔
จุลนิติ : ในทรรศนะของท่านคิดว่าการปฏิรูปในแต่ละด้านตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๒๗ ควรมีแนวทางอย่างไร จึง
จะประสบผลสาเร็จตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
พลเอก เอกชัยฯ: ในเรื่องนี้ผมมีความเห็นว่าการกาหนดให้สภาปฏิรูปแห่งชาติมีหน้าที่ศึกษา
และเสนอแนะเพื่อให้เกิดการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ ทั้ง ๑๑ ด้านนั้นดูจะเป็นการกาหนดที่เฉพาะเจาะจง
จนเกินไป และอาจเกิดคาถามตามมาว่าจะกาหนดให้มีด้านอื่น ๆ มากกว่านี้ได้หรือไม่หรือสิ่งที่
กาหนดขึ้นมานี้บางเรื่องมีความจาเป็นหรือไม่ผมเห็นว่าในการขับเคลื่อนประเทศเราอาจกาหนดเป็น
๔ ยุทธศาสตร์ ได้แก่๑. ยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ๒. ยุทธศาสตร์ด้านการเมือง ๓. ยุทธศาสตร์ทาง
สังคมจิตวิทยา๔. ยุทธศาสตร์ด้านการป้ องกันประเทศ เกิดคาถามว่าเวลาเราขับเคลื่อนประเทศ จุด
แข็งของประเทศไทยคืออะไร ถ้าคาตอบคือ จุดแข็งด้านเศรษฐกิจ แล้วเหตุใดประเทศไทยจึงประสบ
ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจอยู่เรื่อยๆ นั่นหมายความว่าเศรษฐกิจไม่ใช่จุดแข็งที่แท้จริงในทัศนะของผมเห็น
ว่าประเทศไทยมีจุดแข็งอยู่ที่สังคมจิตวิทยา สังคมไทยเราเข้มแข็ง เห็นได้จากไม่ว่าจะเกิดภาวะวิกฤติ
ขนาดไหนหากคุณเดินกลับบ้านอย่างน้อยคุณยังมีข้าวปลาอาหารยังชีพชีวิตยังคงดารงต่อไปได้นี่คือ
ความเข้มแข็งของสังคมที่ไม่เหมือนประเทศอื่นๆ สิ่งเหล่านี้หากเรานามาวางแผนเพื่อการปฏิรูปจะ
เห็นได้ว่าในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเราจะศึกษาเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจเพียง
อย่างเดียวตามแบบอย่างในต่างประเทศคงไม่ได้เพราะสภาวะเศรษฐกิจของประเทศเราเป็น
เศรษฐกิจแบบพึ่งพาการเกษตรเป็นอย่างมาก ผมจึงเห็นว่าการจะอธิบายเรื่องเศรษฐกิจวิถีที่มีชีวิตให้
ทุกคนได้เข้าใจเราอาจต้องใช้เวลาศึกษากันยาวนาน แต่ถ้าเราลองดูตัวอย่างการดาเนินกิจการของ
บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ผลิตและจาหน่าย
อาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นได้มีการศึกษาแล้วพบว่า ภาคการเกษตรของประเทศไทยมีความยึดโยง
อยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกาหนดได้อย่างแน่นอน ดังนั้น จึงมีความพยายามที่
จะนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เพื่อควบคุมและจัดการสิ่งที่กาหนดไม่ได้ตาม
ธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น การกาหนดให้สุกรทุกตัวออกมาเป็นพันธุ์เดียวกันกับความต้องการของ
ตลาด เป็นต้น
- 5. ๕
การร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการกาหนดกรอบการจัดทารัฐธรรมนูญ
มาแล้วตั้งแต่ต้นเมื่อคณะกรรมาธิการได้พิจารณากรอบโครงสร้างการจัดทาและได้กาหนดแนวทาง
เบื้องต้นในการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ได้ แบ่งโครงสร้างการร่างรัฐธรรมนูญออกเป็น ๔
ภาค ดังนี้บททั่วไป ภาค ๑ พระมหากษัตริย์ และประชาชน ภาค ๒ ผู้นาการเมืองที่ดี และสถาบัน
การเมืองภาค ๓ นิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ ภาค ๔ การปฏิรูปและการสร้าง
ความปรองดอง จะเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในภาคประชาสังคมที่เริ่มเข้ามามีบทบาทและมี
ส่วนเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น การพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้เราต้องการสร้างความปรองดอง
ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยทาอย่างไรให้คนในสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้ท่ามกลางความขัดแย้ง สิ่ง
เหล่านี้คณะอนุกรรมาธิการคณะที่ ๑๐ ซึ่งมีศาสตราจารย์พิเศษอเนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน
อนุกรรมาธิการฯ ได้เสนอหลักการและสาระสาคัญที่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไว้โดยให้มี
คณะกรรมการเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติประกอบด้วยตัวแทนจากทุกฝ่ายและผู้ทรงคุณวุฒิ
จากภาคส่วนต่าง ๆ ที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางในการอยู่ร่วมกันบนความ
แตกต่างทางความคิดและเพื่อให้เกิดความสันติสุขที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงในระยะยาวที่จะส่งผลต่อ
เสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยอย่างแท้จริงต่อไป
จุลนิติ : บทสรุป และข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศอันจะเป็น
ประโยชน์กับทุกภาคส่วนในการร่วมแรงร่วมใจกันปฏิรูปประเทศไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืน
ตลอดไป
พลเอก เอกชัยฯ:การพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความพยายามที่จะสร้างสังคมไทย
ให้หลอมรวมกันได้และอาจเป็นรัฐธรรมนูญกาหนดจุดเปลี่ยนผ่านประเทศไทยครั้งแรกที่จะทาให้
ภาคประชาชนมีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมมากขึ้นกว่าเดิม แล้วก็ลดบทบาทใน
แง่ของอานาจด้านใดด้านหนึ่งที่เคยมีเหนือจากอีกด้านหนึ่ง พยายามจะลดบทบาทตรงนี้ให้อยู่ใน
สมดุลของทั้งหมดนี้ให้ได้อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็อาจจะเป็นเหมือนนัยว่าครั้งหนึ่งปี ๒๕๔๐ ก็
บอกเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี การมีส่วนร่วมและเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ถูกต้องไหม ก็อาจจะเป็น
รูปแบบนั้น เพียงแต่ว่าเผอิญช่วงนี้เป็นช่วงภาวะที่มาจากความขัดแย้ง เราจะทาอย่างปี ๒๕๔๐ ไม่ได้
เต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค สามารถทาได้แล้วเราคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่ไม่ใช่ว่าพอร่าง