SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
Download to read offline
แบบทดสอบปลายภาค
โรงเรียนสนมวิทยาคาร อําเภอสนม จังหวัดสุรินทร๑
กลุํมสาระการเรียนรู๎ภาษาไทย
ระดับชั้น ปวช. ๑
รหัสวิชา ๒๐๐๐-๑๑๐๑
รายวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ
___________________________________________________________________________
คําชี้แจง
๑. แบบทดสอบ ๒ ตอน ใช๎เวลา ๑.๓๐ ชั่วโมง
๒. ตอนที่ ๑ แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จํานวน ๖๐ ข๎อ
ตอนที่ ๒ แบบทดสอบอัตนัย จํานวน ๓ ข๎อ
๓. ให๎นักเรียนเลือกคําตอบที่เป็นคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว แล๎วทําเครื่องหมาย X ทับ
อักษร ก, ข, ค, และ ง ที่เป็นคําตอบที่ถูกลงในกระดาษคําตอบ
๔. ถ๎านักเรียนต๎องการที่จะเปลี่ยนคําตอบใหมํ ให๎นักเรียนทําเครื่องหมายขีดฆําข๎อที่ไมํต๎องการออก
แล๎วจึงกากบาททับข๎อใหมํ ดังตัวอยําง
ก

ข

ค

ง

๕. ห๎ามนักเรียนทําเครื่องหมายหรือขีดเขียนข๎อความใด ๆ ลงในแบบทดสอบ
๖. เมื่อนักเรียนทําแบบทดสอบเสร็จแล๎ว ให๎นําสํงทั้งกระดาษคําตอบและแบบทดสอบกลางภาค
นางวารุณี หมายสุข ผู๎ออกข๎อสอบ
กลุํมสาระการเรียนรู๎ภาษาไทย
๑
ข๎อสอบวัดผลปลายภาค
รายวิชา ภาษาไทยเพื่ออาชีพ
รหัสวิชา ๒๐๐๐-๑๑๐๑
ระดับชั้น ปวช. ๑
ข๎อสอบปรนัยจํานวน ๖๐ ข๎อ
อัตนัย ๓ ข๎อ
เวลา ๑.๓๐ ชั่วโมง
..........................................................................................
สาระที่ ๑ การอําน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช๎กระบวนการอํานสร๎างความรู๎และความคิด เพื่อนําไปใช๎ตัดสินใจ แก๎ป๓ญหาในการดําเนิน
ชีวิตและมีนิสัยรักการอําน
๑.. ข๎อความใดแบํงจังหวะวรรคตอนในการอํานได๎ถูกต๎อง
ก. มีคน/จํานวนไมํน๎อย/เชื่อวําความตายเป็นสิ่งที่จัดการได๎//จัดการในที่นี้หมายถึง/
ข. เราเชื่อวํา/ทุกอยํางจัดการได๎/เพราะเรามีเทคโนโลยี/เรามีเงิน/เรามีความรู/เราจึงมั่นใจวํา/เราสามารถ
๎
จัดการ/สิ่งตํางๆ ได๎
ค. เราสามารถจัดการธรรมชาติ/เราสามารถจัดการสังคม/และเราเชื่อวํา/เราสามารถจัดการรํางกายของเรา
ได๎
ง. โฆษณาทุกวันนี้/บอกเราวําทุกอยํางจัดการได๎//เราจึงเชื่อจริงๆ วํา/ไมํมีอะไรในโลกนี้ที่จัดการไมํได๎/
รวมทั้งความตาย
๒. ข๎อใดเป็นการอํานเพื่อความรู๎
ก. สมชายอํานหนังสือพิมพ๑ขณะรอรถไฟ
ข. วิไลอํานตําราถักโครเชฑ๑ฃ
ค. ธนากรอํานลิลิตยวนพําย
ง. ชวลิตอํานป้ายประกาศรับสมัครงาน
๓. ข๎อใดเป็นองค๑ประกอบของการอํานออกเสียง
ก. มีสมาธิในการอําน
ข. มีความรู๎ความเข๎าใจวิธีการอําน
ค. น้ําเสียงชัดเจน แจํมใส ไมํช๎าหรือเร็วเกินไป ง. มีความรู๎เกี่ยวกับหนังสือเลํมนั้น
๔. ป๓จจัยสําคัญที่ทําให๎การอํานเป็นเรื่องยากหรืองําย
ก. พื้นความรู๎เดิม
ข. สายตา
ค. สติป๓ญญา
ง. ข๎อเท็จจริงในเรื่อง
๕. การอํานในใจกับการอํานออกเสียงข๎อใดแตกตํางกัน
ก. ไมํเหนื่อยขณะที่อําน
ข. ความเข๎าใจเรื่องราว
ค. สมาธิในการอําน
ง. ความอดทน
๖. ใจความสําคัญของเรื่อง จะพบได๎จากสํวนใดของเรื่องที่อําน
ก. ตอนต๎นและตอนกลาง
ข. ตอนต๎นและตอนท๎าย
ค. ตอนกลางและตอนท๎าย
ง. ตอนต๎น ตอนกลางและตอนท๎าย
๗. ป๓ญหาในการอํานข๎อใดสําคัญที่สุก
ก. อํานไมํแตก
ข. ไมํชอบอําน
ค. อํานไมํเข๎าใจ
ง. ไมํรู๎จักเลือกหนังสืออําน
๘. ข๎อใดเป็นองค๑ประกอบสําคัญของการใช๎เทคโนโลยีการสื่อสาร
ก. ความสามารถเฉพาะตัว
ข. ความคิดสร๎างสรรค๑
ค. ทักษะทางภาษา
ง. ความถนัด
๒
๙. “นี่เป็นสํวนหนึงของความประทับใจที่จะเปลี่ยนคํานิยมเดิมๆในพริบตา” เป็นสํานวนภาษาใด
่
ก. ภาษาการประพันธ๑
ข. ภาษาโฆษณา
ค. ภาษาสื่อมวลชน
ง. ภาษาพูด
๑๐. นักเรียนอํานแบบฟอร๑มสัญญา ตัวอยํางสัญญาไมํถูกต๎อง
ก. สัญญาจ๎าง
ข. สัญญาปากเปลํา
ค. สัญญาจะซื้อจะขายสินค๎า
ง. สัญญาเชําซื้อสินค๎าหรือบ๎านเรือน
๑๑. ข๎อใดไมํใชํคุณสมบัติพื้นฐานของผู๎กรอกแบบฟอร๑ม
ก. มีความขยัน
ข. มีความซื่อตรง
ค. มีความรับผิดชอบ
ง. มีความสามารถทางภาษา
๑๒. ในการกรอกแบบฟอร๑มข๎อใดสําคัญที่สุด
ก. เขียนด๎วยลายมือที่สวยงาม
ข. รักษาความสะอาดเรียบร๎อย
ค. กรอกข๎อความที่เป็นจริง
ง. อํานข๎อความในแบบฟอร๑มให๎เข๎าใจ
สาระที่ ๒ สาระการเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ
เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
๑๓. การเขียนเรียงความเรื่อง “กล๎วยพันธุ๑ไม๎สารพัดประโยชน๑” โครงเรื่องข๎อใดจําเป็นน๎อยที่สุด
ก. ลักษณะของกล๎วย
ข. ประเภทของกล๎วย
ค. ประโยชน๑ของกล๎วย
ง. ความเชื่อเกี่ยวกับกล๎วย
๑๔. ข๎อใดที่ต๎องเขียนให๎สอดคล๎องกับจุดประสงค๑ของโครงงาน
ก. ข๎อเสนอแนะ
ข. ที่มาของโครงงาน
ค. สรุปและอภิปรายผล
ง. ประโยชน๑ที่คาดวําจะได๎รับ
๑๕. บุคคลใดมีมารยาทในการเขียนที่ไมํเหมาะสม
ก. สุมิตราใช๎ถ๎อยคําที่สุภาพ ไพเราะในการเขียนสื่อสาร
ข. แก๎วตาเขียนสื่อสารโดยใช๎ถ๎อยคําสุภาพ เหมาะสมกับระดับของผู๎อําน
ค. สมปรารถนาค๎นคว๎าข๎อมูลอยํางรอบด๎านและหลากหลายกํอนลงมือเขียน
ง. ลีลาศึกษางานเขียนของผู๎อื่น แล๎วลงมือเขียนโดยคัดลอกข๎อความนั้นๆ มา เพื่อแสดงหลักฐาน การค๎นคว๎า
๑๖. อํานข๎อความตํอไปนี้ แล๎วระบุวําเป็นการเขียนที่มีวัตถุประสงค๑อยํางไร
“มะรุมจอมพลัง คนเรารู๎จักใช๎มะรุมเป็นยารักษาโรคผิวหนัง โรคทางเดินหายใจ โรคระบบทางเดิน อาหาร และ
โรคภัยไข๎เจ็บอื่นๆ มานานหลายร๎อยปีแล๎ว อีกทั้งป๓จจุบันยังได๎รับการกลําวขวัญถึงวํา อาจ เป็นทางออกหนึ่งใน
การรับมือกับความอดอยากและภาวะทุพโภชนาการ พืชทนแล๎งที่เติบโตเร็วในอัตรา สูงถึง ๓.๖ เมตรตํอปี
ชนิดนี้มีใบอุดมไปด๎วยวิตามินและเกลือแรํ”
ก. การเขียนโน๎มน๎าวให๎เชื่อ
ข. การเขียนเพื่อให๎ความบันเทิง
ค. การเขียนเพื่อให๎ความรู๎
ง. การเขียนเพื่อชี้แจง
๓
๑๗. ข๎อใดมีความเกี่ยวข๎องกับศิลปะการเขียนเรียงความน๎อยที่สุด
ก. การเลือกใช๎ถ๎อยคําเพื่อสร๎างลีลาการเขียนของตนเอง
ข. การเขียนข๎อความในแตํละสํวนให๎มีความสัมพันธ๑สอดคล๎องกัน
ค. การเลือกใช๎ถ๎อยคําที่มีความกระชับ ชัดเจน สื่อความตรงไปตรงมา
ง. ควรวางโครงเรื่องเพื่อให๎การจัดลําดับความคิดในการนําเสนอเป็นไปโดยสมบูรณ๑
๑๘. การอํานในข๎อใดที่ไมํควรใช๎หลักการยํอความ
ก. การอํานโฆษณาจากหนังสือพิมพ๑
ข. การอํานสารคดีเชิงทํองเที่ยวจากจุลสาร
ค. การอํานบทความเชิงอนุรักษ๑จากนิตยสาร
ง. การอํานขั้นตอนการประดิษฐ๑จากนิตยสารรายป๓กษ๑
๑๙. บุคคลใดตํอไปนี้ใช๎วิธีการอํานเพื่อยํอความได๎ถูกต๎อง
ก. บุปผาใช๎วิธีการอํานไปยํอไปเพื่อความรวดเร็ว
ข. มาลีอํานเฉพาะยํอหน๎าสุดท๎ายเพื่อให๎จับใจความสําคัญได๎
ค. นารีอํานเนื้อเรื่องให๎เข๎าใจโดยตลอดจนจบกํอนลงมือยํอความ
ง. ชํอผกาอํานเฉพาะหัวข๎อใหญํแล๎วนํามาเรียบเรียงเป็นใจความสําคัญ
๒๐. ข๎อใดกลําวถึงลักษณะสําคัญของการเขียนวิเคราะห๑วิจารณ๑ได๎ถูกต๎องที่สุด
ก. เป็นกระบวนการเขียนเพื่อแสดงความรู๎ของผู๎เขียน
ข. เป็นกระบวนการเขียนเพื่อทําให๎ผู๎อํานเกิดอารมณ๑ความรู๎สึกคล๎อยตาม
ค. เป็นกระบวนการเรียบเรียงเนื้อหาสาระที่ได๎จากการศึกษาในประเด็นหนึง่ ๆ
ง. เป็นกระบวนการเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น โดยชี้ให๎เห็นทั้งข๎อดี และข๎อด๎อย
๒๑. การเขียนอธิบายควรใช๎โวหารประเภทใด
ก. บรรยายโวหาร
ข. พรรณนาโวหาร
ค. สาธกโวหาร
ง. เทศนาโวหาร
๒๒. เพราะเหตุใดจึงต๎องมีการเขียนจดหมายกิจธุระ
ก. เพื่อประโยคทางด๎านธุรกิจ
ข. เพื่อประโยชน๑ทางด๎านภาษา
ค. เพื่อติดตํอธุระสํวนตัวบางประการ
ง. เพื่อสื่อสารแทนการพูดเมื่ออยูํหํางไกลกัน
๒๓. คําภาษาอังกฤษที่เขียนทับศัพท๑ในข๎อใดถูกต๎องทุกคํา
ก. คริสต๑มาส สวิชต๑ ลอกเก็ต
ข. คลินิก ไอศกรีม แอลกอฮอล๑
ค. ทรัมเป็ด อิเลคโทน กีตาร๑
ง. เต็นท๑ ฮอกกี้ มัสตาดร๑
๒๔. สิ่งตํอไปนี้ ข๎อใดที่สื่อมวลชนตําง ๆ ให๎แกํผู๎รับน๎อยที่สุดในป๓จจุบัน
ก. ความเชื่อถือ
ข. ความรู๎
ค.ความคิด
ง. ความบันเทิง
สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟ๓งและดูอยํางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู๎ ความคิด และ
ความรู๎สึกในโอกาสตํางๆ อยํางมีวิจารณญาณและสร๎างสรรค๑
๔
๒๕. พฤติกรรมการแสดงความคิดเห็นของบุคคลที่กําหนดให๎ตํอไปนี้ ใครแสดงความคิดเห็นได๎เหมาะสม ที่สุด
ก. พรแสดงความคิดเห็นในเรื่องสํวนตัวของกุ๎ง
ข. หนํอยแสดงความคิดเห็นตํอความเชื่อของน๎อย
ค. นิดแสดงความคิดเห็นโดยยึดเหตุผลของตนเองเป็นใหญํ
ง. แป้งแสดงความคิดเห็นตํอขําวอาชญากรรมที่อํานจากหนังสือพิมพ๑
๒๖. บุคคลใดตํอไปนี้มีลักษณะของผู๎ฟ๓งและดูที่ดี
ก. มาลีจะตั้งจุดมุํงหมายกํอนการฟ๓งและดูทุกครั้ง
ข. สมพิศไมํชอบผูดําเนินรายการทํานนี้จึงไมํรับชมรายการ
๎
ค. สมปองฟ๓งสมชายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกลําวหาสมศรี แล๎วเชื่อทันที
ง. สมพงศ๑ไมํได๎จดบันทึกการฟ๓งบรรยายของวิทยากรเพราะคิดวําตนเองมีความจําที่ด
๒๗. บุคคลใดตํอไปนี้นําจะประสบผลสําเร็จในการพูดเพื่อโน๎มน๎าวใจมากที่สุด
ก. ปรานีใช๎ถ๎อยคําเพื่อแสดงความรู๎สึกของตนเอง
ข. บรรจงใช๎ถ๎อยคําเพื่อสํงผํานความปรารถนาดีไปยังผู๎ฟ๓ง
ค. เสาวลักษณ๑ใช๎ถ๎อยคําเพื่อแสดงความคิดเห็นของตนเอง
ง. รุํงโรจน๑ใช๎ถ๎อยคําเพื่อทําให๎ผู๎ฟ๓งรู๎สึกวําเขาเข๎าใจความรู๎สึกของผู๎ฟ๓ง
๒๘. สถานการณ๑ใดแสดงวําบุคคลผู๎นั้นปราศจากแนวทางการฟ๓งเพื่อจับใจความสําคัญ
ก. นารีหาข๎อมูลเตรียมพร๎อมเพื่อฟ๓งการสัมมนาประชาคมอาเซียน
ข. สมยศจดบันทึกสาระสําคัญที่ได๎จากการฟ๓งสัมมนาเรื่องประชาคมอาเซียน
ค. ขณะที่ฟ๓งการสัมมนาประชาคมอาเซียน มนตรีหันไปสนทนากับสนธยาเกี่ยวกับประเด็นที่เพิ่งผํานไป
ง. ขณะที่ฟ๓งการสัมมนาประชาคมอาเซียน อรทัยคิดตั้งคําถามกับตนเองเกี่ยวกับเรื่องที่ฟ๓ง
อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคาถามข้อ ๔๖-๔๘
“ผู๎แทนนักเรียนผู๎หนึ่งกลําวแสดงความรู๎สึกตํอ
อาจารย๑เนื่องในวาระเกษียณอายุราชการของทําน
ซึ่งทางโรงเรียนได๎จัดงานแสดงมุทิตาจิตให๎แกํ
อาจารย๑ผู๎นั้นที่หอประชุมใหญํ ผู๎แทนนักเรียนจึง
ได๎เตรียมตัวในการพูดครั้งนี้เป็นอยํางดีเพื่อให๎
การพูดสัมฤทธิ์ผล”
๒๙. การพูดครั้งนี้ ผู๎พุดควรใช๎ภาษาระดับใด
ก. ระดับกันเอง
ข. ระดับสนทนา
ค. ระดับทางการ
ง. ระดับกึ่งทางการ
๓๐. ข๎อใดคือจุดมุํงหมายสําคัญที่สุดในการพูดครั้งนี้
ก. แสดงความหํวงใยตํออาจารย๑
ข. บรรยายความรู๎สึกสํวนตัวและความปรารถนา ดีที่มีตํออาจารย๑
ค. แสดงความกตัญ๒ูและความอาลัยที่มีตํอ อาจารย๑
ง. กลําวขอบคุณในความรักและความหวังดีของอาจารย๑
๕
๓๑. ข๎อใดคือลักษณะของผู๎พูดที่ดี
ก. มีความเสียสละ
ข. รู๎จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผํ
ค. รับฟ๓งความคิดเห็นของผู๎ฟ๓ง
ง. พยายามซักถามเรื่องสํวนตัวของผู๎ฟ๓ง
๓๒. ข๎อใดเป็นการแสดงให๎ผู๎ฟ๓งเห็นวําผู๎พูดสมควรเชื่อถือได๎
ก. ใช๎คําพูดที่สุภาพอํอนโยน
ข. วางสีหน๎าเครํงขรึม
ค. แสดงทีทํานําเกรงขาม
ง. มีข๎อมูลอ๎างอิงประกอบการพูด
๓๓. ข๎อความตํอไปนี้แสดงวําผู๎พูดเป็นคนอยํางไร
“ไมํขอรับทรัพย๑จากใครหมด
ทั้งยศศักดิ์สดใสลาภไพศาล
ไมํหวังใครหนุนบุญบันดาล
ชอบผลงานทุกอยํางสร๎างด๎วยตัว”
ก. ยโส
ข. ทะนง
ค. ผยอง
ง. จองหอง
๓๔. ข๎อใดใช๎ภาษาเป็นทางการที่สุด
ก. จํานวนบ๎านจัดสรรในเมืองหลวงที่เพิ่มขึ้นนิด
หนํอยในระยะไมํกี่ปีที่ผํานมา
ข. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตํางประเทศ
หายหํวงไมํหวั่นวําประวัติศาสตร๑จะซ้ํารอย
ค. แผํนดินไหวในประเทศนิวซีแลนด๑ครั้งนี้
ยังประมาณคําเสียหายไมํได๎
ง. รัฐมนตรีตํางประเทศรัสเซีย ป้อนคําหวานวํา ประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงามละมี
ประวัติศาสตร๑อันยาวนาน
๓๕. ควรเติมคําข๎อใดลงในชํองวําง
“..........เป็นสิ่งทุกคนปรารถนาในประเทศที่
............ความขัดแย๎งทางความคิเป็นของธรรมดา
แตํ.......ควรแก๎ป๓ญหาโดย................”
ก. สันติธรรม อารยะ อารยชน สันติ
ข. สันติสุข พัฒนาการ ปวงชน สันติธรรม
ค. สันติวิธี วิวัฒนาการ ประชาชน สันติภาพ
ง. สันติภาพ พัฒนา อารยชน สันติวิธี
๓๖. ข๎อความใดใช๎คําเหมาะสมแกํบุคคล
ก. ทํานครับใครก็ไมํรู๎มาหา
ข. แดงแกจะไปดูหนังกับฉันไหม
ค. แมํจะใช๎อะไรลูกก็วํามาเลยคํะ
ง. คุณป้าคะทั้งหมดราคาเทําไหรํกันคะ
สาระที่ ๔ หลักการใช๎ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข๎าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ
ภาษา ภูมิป๓ญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว๎เป็นสมบัติของชาติ
๓๗. คําในข๎อใดเป็นคําไทยแท๎ทุกคํา
ก. เฆี่ยน ขจี กุศล
ข. กีฬา กรีฑา ปฏิวัติ
ค. เผด็จ กระจาย ก๐วยเตี๋ยว
ง. มะขาม กระถิน กระโจน
๖
๓๘. คําในข๎อใดเป็นคําที่ยืมมาจากภาษาสันสกฤต
ก. อัชฌาสัย
ข. พฤกษา
ค. บรรทัด
ง. อิจฉา
๓๙. คําในข๎อใดเป็นคําที่ยืมมาจากภาษาเขมร
ก. บูรณะ
ข. มรกต
ค. เพชร
ง. เพลิง
๔๐. ข๎อควรคํานึงเมื่อต๎องใช๎ข๎อมูลสารสนเทศจากอินเทอร๑เน็ตในการแสวงหาความรู๎ คือข๎อใด
ก. ความรวดเร็วในการสืบค๎นข๎อมูล
ข. ความคุ๎มคําของการสืบค๎นข๎อมูล
ค. ความมีประโยชน๑ของแหลํงข๎อมูล
ง. ความนําเชื่อถือของแหลํงข๎อมูล
๔๑. ข๎อใดใช๎ภาษาได๎เหมาะสมกับฐานะบุคคล
ก. เชิญรํวมกันตักบาตรพระสงฆ๑ ๒,๕๐๐ องค๑เนื่องในวันเข๎าพรรษา
ข. หลินปิงแพนด๎าน๎อยรับประทานต๎นไผํได๎เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้
ค. ลูกชายช๎างไทยที่กําเนิดที่ออสเตรเลียจะมีอายุครบ ๑ ปีเดือนหน๎า
ง. ขอบคุณครับ โอกาสหน๎าขอเชิญมาใช๎บริการของเราใหมํนะครับ
๔๒. ข๎อใดกลําวไมํถุกต๎องเกี่ยวกับอิทธิพลของภาษา
ตํางประเทศตํอภาไทย
ก. ทําให๎คําในภาษาไทยมีหลายพยางค๑
ข. ทําให๎มีคําศัพท๑ในภาษาไทยเพิ่มมากขึ้น
ค. ทําให๎คําในภาษาไทยมีตัวสะกดเพิ่มมากขึ้น
ง. ทําให๎พยัญชนะควบกล้ําที่มีอยูํเดิมในภาษาไทยลดลง
๔๓. ข๎อใดเป็นประโยคความเดียว
ก. ผู๎หญิงคนนั้นชอบดอกไม๎สวย
ข. ครูสอนดีแตํศิษย๑อาจสอบตก
ค. ผู๎หญิงชอบดอกไม๎ สํวนเด็กชอบเลํนสิ่งของ
ง. ผู๎หญิงที่นั่งข๎าง ๆ ฉันชอบดอกไม๎ที่อยูํใน แจกัน
๔๔. “ครูสอนดีแตํ ศิษย๑อาจสอบตก” เป็นประโยคชนิดใด
ก. ประโยคความเดียว
ข. ประโยคความซ๎อน
ค.ประโยคความรวม
ง. ประโยคเงื่อนไข
๔๕. คําใดใช๎ราชาศัพท๑ผิด
“พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวเสด็จออก ณ
พระตําหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชทาน
พระราชวโรกาสให๎เอกอัครราชทูตเฝ้าทูลละออง
ธุลีพระบาท"
ก. เสด็จออก
ข. พระราชทาน
ค. พระราชวโรกาส
ง. เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
๔๖. ข๎อใดใช๎คําผิดความหมาย
ก. นทีเป็นหนุํมที่มีปฏิภาณดีมาก
ข. สมภารกรํางมีปฏิปทานําเลื่อมใส
ค. นิสิตกลําวคําปฏิญญาตามผู๎แทน
ง. คณะลูกเสือปฏิญาณตนตํอหน๎าอนุสาวรีย๑
๗
๔๗. ข๎อใดใช๎คําวิเศษณ๑ที่บรรยายความรู๎สึกเกี่ยว
กับผัสสะตําง ๆได๎ถูกต๎อง
ก. ลาบจานนี้เผ็ดจี๋
ค. แคบหมูนี้แข็งเป๋ง
๔๘. ข๎อใดใช๎คําขยายสีได๎ถูกต๎อง
ก. เขียวปี๋
ค. แดงแปร๐

ข. น้ําในตุํมนี้ร๎อนจี๊ด
ง. มะมํวงผลนี้เปรียวปี๋
้
ข. ขาวโพลน
ง. เหลืองอ๐อย

สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข๎าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ๑วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยํางเห็นคุณคําและ
นํามาประยุกต๑ใช๎ในชีวิตจริง
๔๙. คุณสมบัติที่ทําให๎วรรณกรรมเป็นวรรณคดีคือข๎อใด
ก. ศิลปะการเรียบเรียงถ๎อยคํา
ข. ความสะเทือนอารมณ๑
ค. จินตนาการ
ง. เนื้อเรื่อง
๕๐. เราศึกษาวรรณคดี เพื่ออะไร
ก. ให๎อํานวรรณคดีได๎ซาบซึ้ง
ข. ให๎เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ
ค. ให๎เกิดความรู๎และความเพลิดเพลิน
ง. ให๎ทราบถึงวิวัฒนาการของวรรณคดี
๕๑. เพราะเหตุใดการศึกษาวรรณคดี จึงต๎องศึกษาเหตุการณ๑ทางประวัติศาสตร๑ไปด๎วย
ก. ประวัติศาสตร๑มีสํวนรํวมสร๎างวรรณคดี
ข. วรรณคดีทุกเรื่องมีที่มาจากประวัติศาสตร๑
ค. ให๎รู๎วําวรรณคดีเรื่องนั้น ๆ เกิดขึ้นในชํวงใดของประวัติศาสตร๑
ง. ให๎รู๎วําพระมหากษัตริย๑องค๑ใดสร๎างวรรณคดีไว๎
๕๒. ข๎อใดไมํใชํลักษณะการพิจารณาหรือการพินิจวรรณคดี
ก. การบอกสาระสําคัญของหนังสือที่อํานได๎
ข. การแยกแยะหาเหตุผล หาสํวนดี สํวนเสียของเรื่องที่อํานได๎
ค. การประเมินคําของเรื่องที่อํานได๎อยํางมีเหตุผล
ง. การอํานหนังสืออยํางตรวจตราใช๎ความคิดไตรํตรอง กลั่นกรอง
๕๓. “วรรณคดี” มีความหมายตรงกับข๎อใดมากที่สุด
ก. หนังสือที่แตํงดีมีสาระ
ข. หนังสือที่แตํงดีมีวรรณศิลป์ทําให๎ผู๎อํานเพลิดเพลิน มีความรู๎สึกรํวมกับผู๎แตํง
ค. หนังสือที่มุํงให๎ความรู๎ด๎านตําง ๆ
ง. หนังสือที่มุํงให๎ความรู๎สึกนึกคิดแกํมนุษย๑ในด๎านอารมณ๑
ใช๎ตอบคําถามข๎อ ๕๔-๕๘
ก. เรื่องอิเหนา
ข. เรื่องหัวใจนักรบ
ค. เรื่องเสภาขุนช๎างขุนแผน
๘
ง. เรื่องลิลิตพระลอ
จ. เรื่องสามก๏ก
๕๔. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของลิลิต
๕๕. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของบทละครพูด
๕๖. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของความเรียงนิทาน
๕๗. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของกลอนสุภาพ
๕๘. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของกลอนบทละคร
๕๙. ข๎อใดไมํใชํวรรณกรรมพื้นบ๎าน
ก. นิทานพื้นบ๎าน
ข. ปริศนาคําทาย
ค. ความเชื่อ โชคลาง
ง. วรรณคดี
๖๐. ข๎อใดเป็นภาษาชํวยจรรโลงใจ
ก. วางสายสิญจน๑เลกลงเลขยันต๑ คนสําคัญคอยดูซึ่งฤกษ๑ดี
ข. พี่เล็งแลดูกระแสสายสมุทร ละลิ่วสุดสายตาเห็นฟ้าขวาง
ค. ระลอกน้ําระรินรวย ระยับพริบระยิบพราว
ง. อันคดอื่นหมื่นคดกําหนดแนํ เว๎นเสียแตํใจมนุษย๑สุดกําหนด
...............................................................................................
ชื่อ..................................................................................ชั้น..................เลขที่.................
ตอนที่ ๒ ข้อสอบอัตนัย ๓ ข้อ
๑. ทําข๎อสอบในกระดาษคําตอบที่แจกให๎
๒. ทําทุกข๎อในเวลาที่กําหนด
๓. รักษาความสะอาดของผลงาน อํานงําย ชัดเจนและถูกต๎อง
สาระที่ ๒ สาระการเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ใช้กระบวนกา ยนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ
รเขี
เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
1.คําชี้แจง ให๎นักเรียนดูผังมโนภาพ แล๎วเขียนเป็นเรื่องราว ข๎อความสั้นๆ พร้อมตั้งชื่อเรื่อง
ผังมโนภาพ เรื่อง .........................................

หัวเราะ
เต็มที่

เล็กน๎อย

ทําให๎

ทําให๎

รํางกายผํอนคลาย

ชํวยลด
ความดันโลหิต

กระตุ๎น
น้ํายํอย

จิตใจแจํมใส

สร๎าง
ภูมิคุ๎มกันโรค

............................................................................................................................. ............................. ..........................................
............................................................................................................................. ............................. ..........................................
............................ ............................................................................................................................. ...........................................
....................................................................................... ................................................................... .............................................
............................................................................................................................. .................. ........................................................
............................................................................................................................. ............................. .............................................
............................................................................................................................. ............................. .............................................
....................................................... ................................................................................................... .............................................
๒. นักเรียนเรียนวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพในภาคเรียนที่ ๑/๒๕๕๖ ให๎นักเรียนนําเนื้อหาในบทเรียนบทใด
ก็ได๎ที่ประทับใจที่สด เพียง ๑ บทหรือ ๑ เรื่อง วําหลังจาเรียนจบแล๎วสามารถนํามาประยุกต๑ใช๎ใน
ุ
ชีวิตประจําวันของนักเรียนได๎อยํางไร อธิบายพร๎อมทั้งบอกเหตุผล( อยํางน๎อย ๕ บรรทัด)
บทที่..........................เรื่อง.............................................................................................................
.
อธิบายเนื้อหาพอสังเขป
.............................................................................................................................
..................................
.............................................................................................................................................................
...
...............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................
...................................
................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................
...................................
...............................................................................................................................................................
เหตุผลที่ประทับใจเนื้อหาบทนี้
.............................................................................................................................
...................................
...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
.
นําไปประยุกต๑ใช๎ในการเรียนหรือในชีวิตประจําวัน คือ
.......................................................................................................... ........................... .............................................
............................................................................................................................. ................. .............................................

.............................................................................................................................
...................................
...............................................................................................................................................................
.
...............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..................
๓. จงคัดลายมือ “วิสัยทัศน๑ของโรงเรียนสนมวิทยาคาร” ตัวบรรจงเต็มบรรทัด
................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................
...................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
.
...............................................................................................................................................................
......................................................................................................................................
..........................
...............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................
...................................
...............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................
...................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
.
...............................................................................................................................................................
แบบทดสอบปลายภาค

More Related Content

What's hot

ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลยข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลยKhunnawang Khunnawang
 
ข้อสอบ ม.4 ส41101
ข้อสอบ ม.4  ส41101ข้อสอบ ม.4  ส41101
ข้อสอบ ม.4 ส41101thnaporn999
 
แนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษา
แนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษาแนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษา
แนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษาประพันธ์ เวารัมย์
 
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4Thanawut Rattanadon
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 8
สุขฯ ม.2 หน่วย 8สุขฯ ม.2 หน่วย 8
สุขฯ ม.2 หน่วย 8supap6259
 
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3teerachon
 
เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557peter dontoom
 
แบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำ
แบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำแบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำ
แบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำPiyarerk Bunkoson
 
แบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdf
แบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdfแบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdf
แบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdfPuttidaSuttiprapa
 
แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑
แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑
แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑bangonchin
 
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3Mam Chongruk
 
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56Dhanee Chant
 
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2dnavaroj
 
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Design
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Designตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Design
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Designคุณครูพี่อั๋น
 
หัวกระดาษข้อสอบ
หัวกระดาษข้อสอบหัวกระดาษข้อสอบ
หัวกระดาษข้อสอบworapanthewaha
 
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลยข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลยKhunnawang Khunnawang
 
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56Dhanee Chant
 

What's hot (20)

ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลยข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลย
 
ข้อสอบ ม.4 ส41101
ข้อสอบ ม.4  ส41101ข้อสอบ ม.4  ส41101
ข้อสอบ ม.4 ส41101
 
แนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษา
แนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษาแนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษา
แนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาเอกสุขศึกษาพลศึกษา
 
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 8
สุขฯ ม.2 หน่วย 8สุขฯ ม.2 หน่วย 8
สุขฯ ม.2 หน่วย 8
 
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
 
เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557
 
ข้อสอบ พลเมือง
ข้อสอบ พลเมืองข้อสอบ พลเมือง
ข้อสอบ พลเมือง
 
แบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำ
แบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำแบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำ
แบบทดสอบ องค์ประกอบของพยางค์และคำ
 
แบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdf
แบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdfแบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdf
แบบฝึกทักษะ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา (5).pdf
 
แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑
แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑
แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ๑
 
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
 
ข้อสอบการงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.5
ข้อสอบการงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.5ข้อสอบการงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.5
ข้อสอบการงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.5
 
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
 
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
 
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Design
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Designตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Design
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Design
 
หัวกระดาษข้อสอบ
หัวกระดาษข้อสอบหัวกระดาษข้อสอบ
หัวกระดาษข้อสอบ
 
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลยข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลย
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลย
 
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
แบบประเมินกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ56
 
ทดสอบเด็กป2
ทดสอบเด็กป2ทดสอบเด็กป2
ทดสอบเด็กป2
 

แบบทดสอบปลายภาค

  • 1. แบบทดสอบปลายภาค โรงเรียนสนมวิทยาคาร อําเภอสนม จังหวัดสุรินทร๑ กลุํมสาระการเรียนรู๎ภาษาไทย ระดับชั้น ปวช. ๑ รหัสวิชา ๒๐๐๐-๑๑๐๑ รายวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ ___________________________________________________________________________ คําชี้แจง ๑. แบบทดสอบ ๒ ตอน ใช๎เวลา ๑.๓๐ ชั่วโมง ๒. ตอนที่ ๑ แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จํานวน ๖๐ ข๎อ ตอนที่ ๒ แบบทดสอบอัตนัย จํานวน ๓ ข๎อ ๓. ให๎นักเรียนเลือกคําตอบที่เป็นคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว แล๎วทําเครื่องหมาย X ทับ อักษร ก, ข, ค, และ ง ที่เป็นคําตอบที่ถูกลงในกระดาษคําตอบ ๔. ถ๎านักเรียนต๎องการที่จะเปลี่ยนคําตอบใหมํ ให๎นักเรียนทําเครื่องหมายขีดฆําข๎อที่ไมํต๎องการออก แล๎วจึงกากบาททับข๎อใหมํ ดังตัวอยําง ก ข ค ง ๕. ห๎ามนักเรียนทําเครื่องหมายหรือขีดเขียนข๎อความใด ๆ ลงในแบบทดสอบ ๖. เมื่อนักเรียนทําแบบทดสอบเสร็จแล๎ว ให๎นําสํงทั้งกระดาษคําตอบและแบบทดสอบกลางภาค นางวารุณี หมายสุข ผู๎ออกข๎อสอบ กลุํมสาระการเรียนรู๎ภาษาไทย
  • 2. ๑ ข๎อสอบวัดผลปลายภาค รายวิชา ภาษาไทยเพื่ออาชีพ รหัสวิชา ๒๐๐๐-๑๑๐๑ ระดับชั้น ปวช. ๑ ข๎อสอบปรนัยจํานวน ๖๐ ข๎อ อัตนัย ๓ ข๎อ เวลา ๑.๓๐ ชั่วโมง .......................................................................................... สาระที่ ๑ การอําน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช๎กระบวนการอํานสร๎างความรู๎และความคิด เพื่อนําไปใช๎ตัดสินใจ แก๎ป๓ญหาในการดําเนิน ชีวิตและมีนิสัยรักการอําน ๑.. ข๎อความใดแบํงจังหวะวรรคตอนในการอํานได๎ถูกต๎อง ก. มีคน/จํานวนไมํน๎อย/เชื่อวําความตายเป็นสิ่งที่จัดการได๎//จัดการในที่นี้หมายถึง/ ข. เราเชื่อวํา/ทุกอยํางจัดการได๎/เพราะเรามีเทคโนโลยี/เรามีเงิน/เรามีความรู/เราจึงมั่นใจวํา/เราสามารถ ๎ จัดการ/สิ่งตํางๆ ได๎ ค. เราสามารถจัดการธรรมชาติ/เราสามารถจัดการสังคม/และเราเชื่อวํา/เราสามารถจัดการรํางกายของเรา ได๎ ง. โฆษณาทุกวันนี้/บอกเราวําทุกอยํางจัดการได๎//เราจึงเชื่อจริงๆ วํา/ไมํมีอะไรในโลกนี้ที่จัดการไมํได๎/ รวมทั้งความตาย ๒. ข๎อใดเป็นการอํานเพื่อความรู๎ ก. สมชายอํานหนังสือพิมพ๑ขณะรอรถไฟ ข. วิไลอํานตําราถักโครเชฑ๑ฃ ค. ธนากรอํานลิลิตยวนพําย ง. ชวลิตอํานป้ายประกาศรับสมัครงาน ๓. ข๎อใดเป็นองค๑ประกอบของการอํานออกเสียง ก. มีสมาธิในการอําน ข. มีความรู๎ความเข๎าใจวิธีการอําน ค. น้ําเสียงชัดเจน แจํมใส ไมํช๎าหรือเร็วเกินไป ง. มีความรู๎เกี่ยวกับหนังสือเลํมนั้น ๔. ป๓จจัยสําคัญที่ทําให๎การอํานเป็นเรื่องยากหรืองําย ก. พื้นความรู๎เดิม ข. สายตา ค. สติป๓ญญา ง. ข๎อเท็จจริงในเรื่อง ๕. การอํานในใจกับการอํานออกเสียงข๎อใดแตกตํางกัน ก. ไมํเหนื่อยขณะที่อําน ข. ความเข๎าใจเรื่องราว ค. สมาธิในการอําน ง. ความอดทน ๖. ใจความสําคัญของเรื่อง จะพบได๎จากสํวนใดของเรื่องที่อําน ก. ตอนต๎นและตอนกลาง ข. ตอนต๎นและตอนท๎าย ค. ตอนกลางและตอนท๎าย ง. ตอนต๎น ตอนกลางและตอนท๎าย ๗. ป๓ญหาในการอํานข๎อใดสําคัญที่สุก ก. อํานไมํแตก ข. ไมํชอบอําน ค. อํานไมํเข๎าใจ ง. ไมํรู๎จักเลือกหนังสืออําน ๘. ข๎อใดเป็นองค๑ประกอบสําคัญของการใช๎เทคโนโลยีการสื่อสาร ก. ความสามารถเฉพาะตัว ข. ความคิดสร๎างสรรค๑ ค. ทักษะทางภาษา ง. ความถนัด
  • 3. ๒ ๙. “นี่เป็นสํวนหนึงของความประทับใจที่จะเปลี่ยนคํานิยมเดิมๆในพริบตา” เป็นสํานวนภาษาใด ่ ก. ภาษาการประพันธ๑ ข. ภาษาโฆษณา ค. ภาษาสื่อมวลชน ง. ภาษาพูด ๑๐. นักเรียนอํานแบบฟอร๑มสัญญา ตัวอยํางสัญญาไมํถูกต๎อง ก. สัญญาจ๎าง ข. สัญญาปากเปลํา ค. สัญญาจะซื้อจะขายสินค๎า ง. สัญญาเชําซื้อสินค๎าหรือบ๎านเรือน ๑๑. ข๎อใดไมํใชํคุณสมบัติพื้นฐานของผู๎กรอกแบบฟอร๑ม ก. มีความขยัน ข. มีความซื่อตรง ค. มีความรับผิดชอบ ง. มีความสามารถทางภาษา ๑๒. ในการกรอกแบบฟอร๑มข๎อใดสําคัญที่สุด ก. เขียนด๎วยลายมือที่สวยงาม ข. รักษาความสะอาดเรียบร๎อย ค. กรอกข๎อความที่เป็นจริง ง. อํานข๎อความในแบบฟอร๑มให๎เข๎าใจ สาระที่ ๒ สาระการเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ๑๓. การเขียนเรียงความเรื่อง “กล๎วยพันธุ๑ไม๎สารพัดประโยชน๑” โครงเรื่องข๎อใดจําเป็นน๎อยที่สุด ก. ลักษณะของกล๎วย ข. ประเภทของกล๎วย ค. ประโยชน๑ของกล๎วย ง. ความเชื่อเกี่ยวกับกล๎วย ๑๔. ข๎อใดที่ต๎องเขียนให๎สอดคล๎องกับจุดประสงค๑ของโครงงาน ก. ข๎อเสนอแนะ ข. ที่มาของโครงงาน ค. สรุปและอภิปรายผล ง. ประโยชน๑ที่คาดวําจะได๎รับ ๑๕. บุคคลใดมีมารยาทในการเขียนที่ไมํเหมาะสม ก. สุมิตราใช๎ถ๎อยคําที่สุภาพ ไพเราะในการเขียนสื่อสาร ข. แก๎วตาเขียนสื่อสารโดยใช๎ถ๎อยคําสุภาพ เหมาะสมกับระดับของผู๎อําน ค. สมปรารถนาค๎นคว๎าข๎อมูลอยํางรอบด๎านและหลากหลายกํอนลงมือเขียน ง. ลีลาศึกษางานเขียนของผู๎อื่น แล๎วลงมือเขียนโดยคัดลอกข๎อความนั้นๆ มา เพื่อแสดงหลักฐาน การค๎นคว๎า ๑๖. อํานข๎อความตํอไปนี้ แล๎วระบุวําเป็นการเขียนที่มีวัตถุประสงค๑อยํางไร “มะรุมจอมพลัง คนเรารู๎จักใช๎มะรุมเป็นยารักษาโรคผิวหนัง โรคทางเดินหายใจ โรคระบบทางเดิน อาหาร และ โรคภัยไข๎เจ็บอื่นๆ มานานหลายร๎อยปีแล๎ว อีกทั้งป๓จจุบันยังได๎รับการกลําวขวัญถึงวํา อาจ เป็นทางออกหนึ่งใน การรับมือกับความอดอยากและภาวะทุพโภชนาการ พืชทนแล๎งที่เติบโตเร็วในอัตรา สูงถึง ๓.๖ เมตรตํอปี ชนิดนี้มีใบอุดมไปด๎วยวิตามินและเกลือแรํ” ก. การเขียนโน๎มน๎าวให๎เชื่อ ข. การเขียนเพื่อให๎ความบันเทิง ค. การเขียนเพื่อให๎ความรู๎ ง. การเขียนเพื่อชี้แจง
  • 4. ๓ ๑๗. ข๎อใดมีความเกี่ยวข๎องกับศิลปะการเขียนเรียงความน๎อยที่สุด ก. การเลือกใช๎ถ๎อยคําเพื่อสร๎างลีลาการเขียนของตนเอง ข. การเขียนข๎อความในแตํละสํวนให๎มีความสัมพันธ๑สอดคล๎องกัน ค. การเลือกใช๎ถ๎อยคําที่มีความกระชับ ชัดเจน สื่อความตรงไปตรงมา ง. ควรวางโครงเรื่องเพื่อให๎การจัดลําดับความคิดในการนําเสนอเป็นไปโดยสมบูรณ๑ ๑๘. การอํานในข๎อใดที่ไมํควรใช๎หลักการยํอความ ก. การอํานโฆษณาจากหนังสือพิมพ๑ ข. การอํานสารคดีเชิงทํองเที่ยวจากจุลสาร ค. การอํานบทความเชิงอนุรักษ๑จากนิตยสาร ง. การอํานขั้นตอนการประดิษฐ๑จากนิตยสารรายป๓กษ๑ ๑๙. บุคคลใดตํอไปนี้ใช๎วิธีการอํานเพื่อยํอความได๎ถูกต๎อง ก. บุปผาใช๎วิธีการอํานไปยํอไปเพื่อความรวดเร็ว ข. มาลีอํานเฉพาะยํอหน๎าสุดท๎ายเพื่อให๎จับใจความสําคัญได๎ ค. นารีอํานเนื้อเรื่องให๎เข๎าใจโดยตลอดจนจบกํอนลงมือยํอความ ง. ชํอผกาอํานเฉพาะหัวข๎อใหญํแล๎วนํามาเรียบเรียงเป็นใจความสําคัญ ๒๐. ข๎อใดกลําวถึงลักษณะสําคัญของการเขียนวิเคราะห๑วิจารณ๑ได๎ถูกต๎องที่สุด ก. เป็นกระบวนการเขียนเพื่อแสดงความรู๎ของผู๎เขียน ข. เป็นกระบวนการเขียนเพื่อทําให๎ผู๎อํานเกิดอารมณ๑ความรู๎สึกคล๎อยตาม ค. เป็นกระบวนการเรียบเรียงเนื้อหาสาระที่ได๎จากการศึกษาในประเด็นหนึง่ ๆ ง. เป็นกระบวนการเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น โดยชี้ให๎เห็นทั้งข๎อดี และข๎อด๎อย ๒๑. การเขียนอธิบายควรใช๎โวหารประเภทใด ก. บรรยายโวหาร ข. พรรณนาโวหาร ค. สาธกโวหาร ง. เทศนาโวหาร ๒๒. เพราะเหตุใดจึงต๎องมีการเขียนจดหมายกิจธุระ ก. เพื่อประโยคทางด๎านธุรกิจ ข. เพื่อประโยชน๑ทางด๎านภาษา ค. เพื่อติดตํอธุระสํวนตัวบางประการ ง. เพื่อสื่อสารแทนการพูดเมื่ออยูํหํางไกลกัน ๒๓. คําภาษาอังกฤษที่เขียนทับศัพท๑ในข๎อใดถูกต๎องทุกคํา ก. คริสต๑มาส สวิชต๑ ลอกเก็ต ข. คลินิก ไอศกรีม แอลกอฮอล๑ ค. ทรัมเป็ด อิเลคโทน กีตาร๑ ง. เต็นท๑ ฮอกกี้ มัสตาดร๑ ๒๔. สิ่งตํอไปนี้ ข๎อใดที่สื่อมวลชนตําง ๆ ให๎แกํผู๎รับน๎อยที่สุดในป๓จจุบัน ก. ความเชื่อถือ ข. ความรู๎ ค.ความคิด ง. ความบันเทิง สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟ๓งและดูอยํางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู๎ ความคิด และ ความรู๎สึกในโอกาสตํางๆ อยํางมีวิจารณญาณและสร๎างสรรค๑
  • 5. ๔ ๒๕. พฤติกรรมการแสดงความคิดเห็นของบุคคลที่กําหนดให๎ตํอไปนี้ ใครแสดงความคิดเห็นได๎เหมาะสม ที่สุด ก. พรแสดงความคิดเห็นในเรื่องสํวนตัวของกุ๎ง ข. หนํอยแสดงความคิดเห็นตํอความเชื่อของน๎อย ค. นิดแสดงความคิดเห็นโดยยึดเหตุผลของตนเองเป็นใหญํ ง. แป้งแสดงความคิดเห็นตํอขําวอาชญากรรมที่อํานจากหนังสือพิมพ๑ ๒๖. บุคคลใดตํอไปนี้มีลักษณะของผู๎ฟ๓งและดูที่ดี ก. มาลีจะตั้งจุดมุํงหมายกํอนการฟ๓งและดูทุกครั้ง ข. สมพิศไมํชอบผูดําเนินรายการทํานนี้จึงไมํรับชมรายการ ๎ ค. สมปองฟ๓งสมชายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกลําวหาสมศรี แล๎วเชื่อทันที ง. สมพงศ๑ไมํได๎จดบันทึกการฟ๓งบรรยายของวิทยากรเพราะคิดวําตนเองมีความจําที่ด ๒๗. บุคคลใดตํอไปนี้นําจะประสบผลสําเร็จในการพูดเพื่อโน๎มน๎าวใจมากที่สุด ก. ปรานีใช๎ถ๎อยคําเพื่อแสดงความรู๎สึกของตนเอง ข. บรรจงใช๎ถ๎อยคําเพื่อสํงผํานความปรารถนาดีไปยังผู๎ฟ๓ง ค. เสาวลักษณ๑ใช๎ถ๎อยคําเพื่อแสดงความคิดเห็นของตนเอง ง. รุํงโรจน๑ใช๎ถ๎อยคําเพื่อทําให๎ผู๎ฟ๓งรู๎สึกวําเขาเข๎าใจความรู๎สึกของผู๎ฟ๓ง ๒๘. สถานการณ๑ใดแสดงวําบุคคลผู๎นั้นปราศจากแนวทางการฟ๓งเพื่อจับใจความสําคัญ ก. นารีหาข๎อมูลเตรียมพร๎อมเพื่อฟ๓งการสัมมนาประชาคมอาเซียน ข. สมยศจดบันทึกสาระสําคัญที่ได๎จากการฟ๓งสัมมนาเรื่องประชาคมอาเซียน ค. ขณะที่ฟ๓งการสัมมนาประชาคมอาเซียน มนตรีหันไปสนทนากับสนธยาเกี่ยวกับประเด็นที่เพิ่งผํานไป ง. ขณะที่ฟ๓งการสัมมนาประชาคมอาเซียน อรทัยคิดตั้งคําถามกับตนเองเกี่ยวกับเรื่องที่ฟ๓ง อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคาถามข้อ ๔๖-๔๘ “ผู๎แทนนักเรียนผู๎หนึ่งกลําวแสดงความรู๎สึกตํอ อาจารย๑เนื่องในวาระเกษียณอายุราชการของทําน ซึ่งทางโรงเรียนได๎จัดงานแสดงมุทิตาจิตให๎แกํ อาจารย๑ผู๎นั้นที่หอประชุมใหญํ ผู๎แทนนักเรียนจึง ได๎เตรียมตัวในการพูดครั้งนี้เป็นอยํางดีเพื่อให๎ การพูดสัมฤทธิ์ผล” ๒๙. การพูดครั้งนี้ ผู๎พุดควรใช๎ภาษาระดับใด ก. ระดับกันเอง ข. ระดับสนทนา ค. ระดับทางการ ง. ระดับกึ่งทางการ ๓๐. ข๎อใดคือจุดมุํงหมายสําคัญที่สุดในการพูดครั้งนี้ ก. แสดงความหํวงใยตํออาจารย๑ ข. บรรยายความรู๎สึกสํวนตัวและความปรารถนา ดีที่มีตํออาจารย๑ ค. แสดงความกตัญ๒ูและความอาลัยที่มีตํอ อาจารย๑ ง. กลําวขอบคุณในความรักและความหวังดีของอาจารย๑
  • 6. ๕ ๓๑. ข๎อใดคือลักษณะของผู๎พูดที่ดี ก. มีความเสียสละ ข. รู๎จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผํ ค. รับฟ๓งความคิดเห็นของผู๎ฟ๓ง ง. พยายามซักถามเรื่องสํวนตัวของผู๎ฟ๓ง ๓๒. ข๎อใดเป็นการแสดงให๎ผู๎ฟ๓งเห็นวําผู๎พูดสมควรเชื่อถือได๎ ก. ใช๎คําพูดที่สุภาพอํอนโยน ข. วางสีหน๎าเครํงขรึม ค. แสดงทีทํานําเกรงขาม ง. มีข๎อมูลอ๎างอิงประกอบการพูด ๓๓. ข๎อความตํอไปนี้แสดงวําผู๎พูดเป็นคนอยํางไร “ไมํขอรับทรัพย๑จากใครหมด ทั้งยศศักดิ์สดใสลาภไพศาล ไมํหวังใครหนุนบุญบันดาล ชอบผลงานทุกอยํางสร๎างด๎วยตัว” ก. ยโส ข. ทะนง ค. ผยอง ง. จองหอง ๓๔. ข๎อใดใช๎ภาษาเป็นทางการที่สุด ก. จํานวนบ๎านจัดสรรในเมืองหลวงที่เพิ่มขึ้นนิด หนํอยในระยะไมํกี่ปีที่ผํานมา ข. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตํางประเทศ หายหํวงไมํหวั่นวําประวัติศาสตร๑จะซ้ํารอย ค. แผํนดินไหวในประเทศนิวซีแลนด๑ครั้งนี้ ยังประมาณคําเสียหายไมํได๎ ง. รัฐมนตรีตํางประเทศรัสเซีย ป้อนคําหวานวํา ประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงามละมี ประวัติศาสตร๑อันยาวนาน ๓๕. ควรเติมคําข๎อใดลงในชํองวําง “..........เป็นสิ่งทุกคนปรารถนาในประเทศที่ ............ความขัดแย๎งทางความคิเป็นของธรรมดา แตํ.......ควรแก๎ป๓ญหาโดย................” ก. สันติธรรม อารยะ อารยชน สันติ ข. สันติสุข พัฒนาการ ปวงชน สันติธรรม ค. สันติวิธี วิวัฒนาการ ประชาชน สันติภาพ ง. สันติภาพ พัฒนา อารยชน สันติวิธี ๓๖. ข๎อความใดใช๎คําเหมาะสมแกํบุคคล ก. ทํานครับใครก็ไมํรู๎มาหา ข. แดงแกจะไปดูหนังกับฉันไหม ค. แมํจะใช๎อะไรลูกก็วํามาเลยคํะ ง. คุณป้าคะทั้งหมดราคาเทําไหรํกันคะ สาระที่ ๔ หลักการใช๎ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข๎าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิป๓ญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว๎เป็นสมบัติของชาติ ๓๗. คําในข๎อใดเป็นคําไทยแท๎ทุกคํา ก. เฆี่ยน ขจี กุศล ข. กีฬา กรีฑา ปฏิวัติ ค. เผด็จ กระจาย ก๐วยเตี๋ยว ง. มะขาม กระถิน กระโจน
  • 7. ๖ ๓๘. คําในข๎อใดเป็นคําที่ยืมมาจากภาษาสันสกฤต ก. อัชฌาสัย ข. พฤกษา ค. บรรทัด ง. อิจฉา ๓๙. คําในข๎อใดเป็นคําที่ยืมมาจากภาษาเขมร ก. บูรณะ ข. มรกต ค. เพชร ง. เพลิง ๔๐. ข๎อควรคํานึงเมื่อต๎องใช๎ข๎อมูลสารสนเทศจากอินเทอร๑เน็ตในการแสวงหาความรู๎ คือข๎อใด ก. ความรวดเร็วในการสืบค๎นข๎อมูล ข. ความคุ๎มคําของการสืบค๎นข๎อมูล ค. ความมีประโยชน๑ของแหลํงข๎อมูล ง. ความนําเชื่อถือของแหลํงข๎อมูล ๔๑. ข๎อใดใช๎ภาษาได๎เหมาะสมกับฐานะบุคคล ก. เชิญรํวมกันตักบาตรพระสงฆ๑ ๒,๕๐๐ องค๑เนื่องในวันเข๎าพรรษา ข. หลินปิงแพนด๎าน๎อยรับประทานต๎นไผํได๎เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ ค. ลูกชายช๎างไทยที่กําเนิดที่ออสเตรเลียจะมีอายุครบ ๑ ปีเดือนหน๎า ง. ขอบคุณครับ โอกาสหน๎าขอเชิญมาใช๎บริการของเราใหมํนะครับ ๔๒. ข๎อใดกลําวไมํถุกต๎องเกี่ยวกับอิทธิพลของภาษา ตํางประเทศตํอภาไทย ก. ทําให๎คําในภาษาไทยมีหลายพยางค๑ ข. ทําให๎มีคําศัพท๑ในภาษาไทยเพิ่มมากขึ้น ค. ทําให๎คําในภาษาไทยมีตัวสะกดเพิ่มมากขึ้น ง. ทําให๎พยัญชนะควบกล้ําที่มีอยูํเดิมในภาษาไทยลดลง ๔๓. ข๎อใดเป็นประโยคความเดียว ก. ผู๎หญิงคนนั้นชอบดอกไม๎สวย ข. ครูสอนดีแตํศิษย๑อาจสอบตก ค. ผู๎หญิงชอบดอกไม๎ สํวนเด็กชอบเลํนสิ่งของ ง. ผู๎หญิงที่นั่งข๎าง ๆ ฉันชอบดอกไม๎ที่อยูํใน แจกัน ๔๔. “ครูสอนดีแตํ ศิษย๑อาจสอบตก” เป็นประโยคชนิดใด ก. ประโยคความเดียว ข. ประโยคความซ๎อน ค.ประโยคความรวม ง. ประโยคเงื่อนไข ๔๕. คําใดใช๎ราชาศัพท๑ผิด “พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวเสด็จออก ณ พระตําหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชทาน พระราชวโรกาสให๎เอกอัครราชทูตเฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาท" ก. เสด็จออก ข. พระราชทาน ค. พระราชวโรกาส ง. เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ๔๖. ข๎อใดใช๎คําผิดความหมาย ก. นทีเป็นหนุํมที่มีปฏิภาณดีมาก ข. สมภารกรํางมีปฏิปทานําเลื่อมใส ค. นิสิตกลําวคําปฏิญญาตามผู๎แทน ง. คณะลูกเสือปฏิญาณตนตํอหน๎าอนุสาวรีย๑
  • 8. ๗ ๔๗. ข๎อใดใช๎คําวิเศษณ๑ที่บรรยายความรู๎สึกเกี่ยว กับผัสสะตําง ๆได๎ถูกต๎อง ก. ลาบจานนี้เผ็ดจี๋ ค. แคบหมูนี้แข็งเป๋ง ๔๘. ข๎อใดใช๎คําขยายสีได๎ถูกต๎อง ก. เขียวปี๋ ค. แดงแปร๐ ข. น้ําในตุํมนี้ร๎อนจี๊ด ง. มะมํวงผลนี้เปรียวปี๋ ้ ข. ขาวโพลน ง. เหลืองอ๐อย สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข๎าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ๑วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยํางเห็นคุณคําและ นํามาประยุกต๑ใช๎ในชีวิตจริง ๔๙. คุณสมบัติที่ทําให๎วรรณกรรมเป็นวรรณคดีคือข๎อใด ก. ศิลปะการเรียบเรียงถ๎อยคํา ข. ความสะเทือนอารมณ๑ ค. จินตนาการ ง. เนื้อเรื่อง ๕๐. เราศึกษาวรรณคดี เพื่ออะไร ก. ให๎อํานวรรณคดีได๎ซาบซึ้ง ข. ให๎เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ค. ให๎เกิดความรู๎และความเพลิดเพลิน ง. ให๎ทราบถึงวิวัฒนาการของวรรณคดี ๕๑. เพราะเหตุใดการศึกษาวรรณคดี จึงต๎องศึกษาเหตุการณ๑ทางประวัติศาสตร๑ไปด๎วย ก. ประวัติศาสตร๑มีสํวนรํวมสร๎างวรรณคดี ข. วรรณคดีทุกเรื่องมีที่มาจากประวัติศาสตร๑ ค. ให๎รู๎วําวรรณคดีเรื่องนั้น ๆ เกิดขึ้นในชํวงใดของประวัติศาสตร๑ ง. ให๎รู๎วําพระมหากษัตริย๑องค๑ใดสร๎างวรรณคดีไว๎ ๕๒. ข๎อใดไมํใชํลักษณะการพิจารณาหรือการพินิจวรรณคดี ก. การบอกสาระสําคัญของหนังสือที่อํานได๎ ข. การแยกแยะหาเหตุผล หาสํวนดี สํวนเสียของเรื่องที่อํานได๎ ค. การประเมินคําของเรื่องที่อํานได๎อยํางมีเหตุผล ง. การอํานหนังสืออยํางตรวจตราใช๎ความคิดไตรํตรอง กลั่นกรอง ๕๓. “วรรณคดี” มีความหมายตรงกับข๎อใดมากที่สุด ก. หนังสือที่แตํงดีมีสาระ ข. หนังสือที่แตํงดีมีวรรณศิลป์ทําให๎ผู๎อํานเพลิดเพลิน มีความรู๎สึกรํวมกับผู๎แตํง ค. หนังสือที่มุํงให๎ความรู๎ด๎านตําง ๆ ง. หนังสือที่มุํงให๎ความรู๎สึกนึกคิดแกํมนุษย๑ในด๎านอารมณ๑ ใช๎ตอบคําถามข๎อ ๕๔-๕๘ ก. เรื่องอิเหนา ข. เรื่องหัวใจนักรบ ค. เรื่องเสภาขุนช๎างขุนแผน
  • 9. ๘ ง. เรื่องลิลิตพระลอ จ. เรื่องสามก๏ก ๕๔. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของลิลิต ๕๕. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของบทละครพูด ๕๖. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของความเรียงนิทาน ๕๗. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของกลอนสุภาพ ๕๘. วรรณคดีที่ได๎รับยกยํองจากวรรณคดีสโมสรเป็นยอดของกลอนบทละคร ๕๙. ข๎อใดไมํใชํวรรณกรรมพื้นบ๎าน ก. นิทานพื้นบ๎าน ข. ปริศนาคําทาย ค. ความเชื่อ โชคลาง ง. วรรณคดี ๖๐. ข๎อใดเป็นภาษาชํวยจรรโลงใจ ก. วางสายสิญจน๑เลกลงเลขยันต๑ คนสําคัญคอยดูซึ่งฤกษ๑ดี ข. พี่เล็งแลดูกระแสสายสมุทร ละลิ่วสุดสายตาเห็นฟ้าขวาง ค. ระลอกน้ําระรินรวย ระยับพริบระยิบพราว ง. อันคดอื่นหมื่นคดกําหนดแนํ เว๎นเสียแตํใจมนุษย๑สุดกําหนด ...............................................................................................
  • 10. ชื่อ..................................................................................ชั้น..................เลขที่................. ตอนที่ ๒ ข้อสอบอัตนัย ๓ ข้อ ๑. ทําข๎อสอบในกระดาษคําตอบที่แจกให๎ ๒. ทําทุกข๎อในเวลาที่กําหนด ๓. รักษาความสะอาดของผลงาน อํานงําย ชัดเจนและถูกต๎อง สาระที่ ๒ สาระการเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ใช้กระบวนกา ยนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ รเขี เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ 1.คําชี้แจง ให๎นักเรียนดูผังมโนภาพ แล๎วเขียนเป็นเรื่องราว ข๎อความสั้นๆ พร้อมตั้งชื่อเรื่อง ผังมโนภาพ เรื่อง ......................................... หัวเราะ เต็มที่ เล็กน๎อย ทําให๎ ทําให๎ รํางกายผํอนคลาย ชํวยลด ความดันโลหิต กระตุ๎น น้ํายํอย จิตใจแจํมใส สร๎าง ภูมิคุ๎มกันโรค ............................................................................................................................. ............................. .......................................... ............................................................................................................................. ............................. .......................................... ............................ ............................................................................................................................. ........................................... ....................................................................................... ................................................................... ............................................. ............................................................................................................................. .................. ........................................................ ............................................................................................................................. ............................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................. ............................................. ....................................................... ................................................................................................... .............................................
  • 11. ๒. นักเรียนเรียนวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพในภาคเรียนที่ ๑/๒๕๕๖ ให๎นักเรียนนําเนื้อหาในบทเรียนบทใด ก็ได๎ที่ประทับใจที่สด เพียง ๑ บทหรือ ๑ เรื่อง วําหลังจาเรียนจบแล๎วสามารถนํามาประยุกต๑ใช๎ใน ุ ชีวิตประจําวันของนักเรียนได๎อยํางไร อธิบายพร๎อมทั้งบอกเหตุผล( อยํางน๎อย ๕ บรรทัด) บทที่..........................เรื่อง............................................................................................................. . อธิบายเนื้อหาพอสังเขป ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................... เหตุผลที่ประทับใจเนื้อหาบทนี้ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ . นําไปประยุกต๑ใช๎ในการเรียนหรือในชีวิตประจําวัน คือ .......................................................................................................... ........................... ............................................. ............................................................................................................................. ................. ............................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................... . ............................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. .................. ๓. จงคัดลายมือ “วิสัยทัศน๑ของโรงเรียนสนมวิทยาคาร” ตัวบรรจงเต็มบรรทัด ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... . ............................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... .......................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... . ...............................................................................................................................................................