Work3 26
- 2. ระบบปฏิบัติการ (operating system) หรือ โอเอส (OS) คือโปรแกรมที่ทา
หน้าที่เป็นตัวกลาง เชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์ (Hardware) กับ ซอฟต์แวร์
ประยุกต์ทั่วไปซึ่งทาหน้าที่รับข้อมูลจากผู้ใช้อีกที โดยจะทาหน้าที่ควบคุมการ
แสดงผล การทางานของฮาร์ดแวร์ ให้บริการกับซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไปในการ
รับส่งและจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์ และจัดสรรการใช้ทรัพยากรระบบ
(Resources) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ระบบปฏิบัติการบางตัวจาเป็นต้องใช้งานบนแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ
หรือกล่าวคือ เป็นซอฟต์แวร์ที่เอาไว้ใช้สาหรับควบคุมและประสานงานระหว่าง
อุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ตั้งแต่ซีพียู หน่วยความจา ไปจนถึงส่วน
ผลลัพธ์และส่งออก (Input/Output) บางครั้งก็เรียกว่า แพลตฟอร์ม (Platform)
ระบบปฏิบัติการ (Operating System)
คืออะไร?
โปรแกรมประยุกต์
กับการข้ามแพลตฟอร์ม
คือ โปรแกรมประยุกต์ที่สนับสนุนการทางานบนระบบปฏิบัติการได้หลายๆตัว ซึ่งทาให้การใช้
งานมีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์อาจจะมีการติดตั้งระบบปฏิบัติการที่ไม่
เหมือนกันการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เพื่อให้ทางานข้ามแพลตฟอร์มหรือข้ามระบบปฏิบัติการได้ จึง
เป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้ได้ได้ดีพอสมควร
- 3. ไบออส
(BIOS –Basic Input Output System)
กลุ่มคาสั่งที่บรรจุอยู่ในส่วนของหน่วยความจา ROM
ตัวโปรแกรมคาสั่งที่เก็บไว้จะอยู่ได้อย่างถาวร
ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ใช้เก็บโปรแกรมไบออสจะเป็นวงจร
หน่วยความจาแบบ Flash ROM ที่สามารถแก้ไข
โปรแกรมได้ (แต่ไม่บ่อยนัก)
การเริ่มต้นทางานของ
คอมพิวเตอร์(Boot Up)
ขั้นตอนที่1 Power supplyส่งสัญญาณไฟฟ้ า
ขั้นตอนที่2 BIOSเริ่มทางาน
ขั้นตอนที่3 กระบวนการpost ทาการตตรวจเช็คอุปกรณ์
ขั้นตอนที่4 นาไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในCMOS
ขั้นตอนที่5 BIOSอ่านไฟล์ระบบที่อยู่ในHarddisk
ขั้นตอนที่6 Kemelถ่านโอนข้อมูลลงram
ขั้นตอนที่7 OSเข้าควบคุมหน่วยดูแลพร้อมทั้งแสดงผลให้ผู้ใช้ทางาน
- 4. ส่วนประสานงานกับผู้ใช้
(User Interface)
คือ ส่วนการทางานของโปรแกรมที่ติดต่อหรือเป็นตัวกลางระหว่าง
ผู้ใช้งานและคอมพิวเตอร์ให้ทางานได้ตามที่ต้องการ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
1.ประเภทคอมมานด์ไลน์ (Command Line)
-อนุญาติให้ป้ อนรูปแบบคาสั่งที่เป็นตัวหนังสือ (text) สั่งการลงไปทีละบรรทัดคาสั่ง
- เรียกว่า คอมมานไลด์ (command line)
2. ประเภทกราฟิก (GUI - Graphical User Interface)
-นาเอารูปภาพมาปรับใช้สั่งงานแทนตัวอักษร เช่น ในระบบปฏิบัติการ Windows
-ผู้ใช้ไม่จาเป็นต้องจดจารูปแบบคาสั่งเพื่อใช้งานให้ยุ่งยาก
เหมือนกับแบบคอมมานด์ไลน์
- เพียงแค่เลือกรายการคาสั่งภาพที่ปรากฏบนจอนั้นผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด
ประเภทกราฟิก
(GUI - Graphical User Interface)
นาเอารูปภาพมาปรับใช้สั่งงานแทนตัวอักษร เช่น ใน
ระบบปฏิบัติการ Windows
ผู้ใช้ไม่จาเป็นต้องจดจารูปแบบคาสั่งเพื่อใช้งานให้ยุ่งยาก
เหมือนกับแบบคอมมานด์ไลน์
เพียงแค่เลือกรายการคาสั่งภาพที่ปรากฏบนจอนั้นผ่าน
อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด
- 5. ประเภท
ของ
การ
บู๊ตเครื่อง
- โคลบู๊ต (Cold boot)
การบู๊ตเครื่องที่อาศัยการทางานของฮาร์ดแวร์
1.กดปุ่มเปิดเครื่อง (Power On) เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางานโดยทันที
2.ปุ่มเปิดเครื่องเป็นเหมือนสวิตช์ปิดเปิดการทางานโดยรวมของคอมพิวเตอร์
เหมือนกับสวิตช์ของอุปกรณ์ไฟฟ้ าทั่วไป
- วอร์มบู๊ต (Warm boot)
การบู๊ตเครื่องเพื่อให้เกิดกระบวนการบู๊ตใหม่หรือที่เรียกว่าการรี
สตาร์ทเครื่อง (restart) สามารถทาได้สามวิธีคือ
1.กดปุ่ม Reset บนตัวเครื่อง
2.กดปุ่ม Ctrl+alt+delete จากแป้ นพิมพ์ แล้วเลือกคาสั่ง restart
3. สั่งรีสตารท์เครื่องได้จากเมนูบนระบบปฏิบัติการ
ลาดับโครงสร้างไฟล์
(Hierarchical File
System)
ไดเร็คทอรี (Directory)
- โฟลเดอร์หลักสาหรับจัดเก็บหมวดหมู่ไฟล์ขั้น
สูงสุดในระบบ บางครั้งอาจเรียกว่า root directory
ซับไดเร็คทอรี (Subdirectory)
- โฟลเดอร์ย่อยที่ถูกแบ่งและจัดเก็บไว้ออกมาอีก
ชั้นหนึ่ง
การบู๊ตเครื่อง คือ ขั้นตอนที่คอมพิวเตอร์เริ่มทาการ
โหลดระบบปฏิบัติการเข้าไปไว้ในหน่วยความจา RAM
สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะด้วยกันคือ
- 6. การจัดการกับไฟล์(file management)
การจัดการหน่วยความจา(memory management)
ใช้วิธีที่เรียกว่า หน่วยความจาเสมือน (VM- virtual memory) กรณีที่มีการประมวลผลกับข้อมูล
ปริมาณมากหรือหลายโปรแกรมพร้อมกัน ระบบปฏิบัติการจะเก็บข้อมูลทั้งหมดของโปรแกรมที่ทางาน
อยู่ขณะนั้นเอาไว้เป็นไฟล์ในฮาร์ดดิสก์ (เรียกว่า swap file) โดยแบ่งเนื้อที่เหล่านั้นออกเป็นส่วนๆเรียกว่า
เพจ (page) ซึ่งมีการกาหนดขนาดไว้แน่นอน
ไฟล์ (files)
หน่วยในการเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะเก็บอยู่ในสื่อเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น ฟล็
อปปี้ดิสก์, ฮาร์ดดิสก์หรือซีดีรอม เป็นต้น ประกอบด้วยส่วนย่อย 2 ส่วนด้วยกันคือ ชื่อไฟล์ (naming
files) และส่วนขยาย (extentions)
ตัวอย่างไฟล์
- 7. การจัดการอุปกรณ์นาเข้าและแสดงผลข้อมูล
I/O device management)
ใช้ บัฟเฟอร์ (buffer) เพื่อเป็นที่พักรอของข้อมูลที่อ่าน
เข้ามา เช่น การทา spolling ในการจัดการงานพิมพ์
เรียกใช้ดีไวซ์ไดรเวอร์ (device driver) เพื่อควบคุม
อุปกรณ์ชนิดนั้นๆโดยเฉพาะ
การจัดการกับหน่วยประมวลผลกลาง
(CPU Management)
แบ่งเวลาของซีพียูเพื่อประมวลผลในการทางานแบบ
multi-tasking
ทาให้ซีพียูตัวเดียว สามารถใช้ได้หลายๆคน หรือ multi-
user ที่พบเห็นในระบบเครือข่าย
ทาหน้าที่เป็นตัวประสานการทางานของซีพียูที่มากกว่า
หนึ่งตัวให้ทางานด้วยกันได้ในระบบ multi-processing