Ten
1. Present Simple

   โครงสร้าง ประธาน + กริยา
ช่องที่ 1+ กรรม (ถ้ามี)
-แสดงการกระทำา เป็นปกตินิสัย
หรือทำาเสมอๆ
-เหตุการณ์ที่เป็นจริงเสมอ หรือ
เป็นจริงตามธรรมชาติ
Present Simple
         Tense
โครงสร้าง : Subject + Verb 1 +
(Object)

หลักการใช้
1. ใช้กบเหตุการณ์ทเป็นจริงเสมอ หรือ
       ั          ี่
เหตุการณ์ทเป็นไปตามธรรมชาติ เช่น
           ี่
2. ใช้แสดงถึงการกระทำาที่เป็น
ปรกตินิสัย หรือการกระทำานั้นเกิด
ขึนเป็นประจำา มี Adverb of
  ้
Frequency แสดง
    I have my breakfast
everyday. (ผมรับประทานอาหาร
เช้าทุกวัน)
    Everybody wears thick
clothes in winter. (ทุกๆ คนสวม
3. ใช้แสดงถึงการกระทำาที่เกิด
ขึนในปัจจุบัน หรือสภาพที่เป็น
  ้
ปัจจุบัน เช่น
      She understands what
you say. (เธอเข้าใจที่คณพูด)
                       ุ
    I have four notebooks in
the suitcase. (ฉันมีสมุด 4
เล่มอยู่ในกระเป๋า)
4. ใช้แสดงถึงการกระทำาใน
อนาคต ซึงตัดสินใจแน่นอนแล้ว
          ่
ว่าจะปฏิบัติ
   The next semester begins
in two weeks. (อีก 2 อาทิตย์
จึงจะเปิดเทอมหน้า)
   He sets sail on Saturday
for Samui. (เขาจะออกเรือไป
2. Present
        Continuous
โครงสร้าง ประธาน + is,
am,are + กริยาที่เติม ing
-เพื่อบอกการกระทำาที่กำาลังเกิด
ขึ้นหรือกำาลังดำาเนินอยู่ในขณะที่
พูด
Present
   Continuous Tense
โครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb
-ing + ( Object )
หลักการใช้
1. เมื่อการกระทำาดำาเนินอยูในปัจจุบน (ขณะ
                            ่      ั
พูด) และต่อเนื่องมาถึงบัดนั้น และจบใน
อนาคต เช่น
    My uncle is listening to the radio.(ลุง
ของผมกำาลังฟังวิทย)ุุ
2. การกระทำาทีเกิดขึ้น ต้องเกิด
                 ่
ขึ้นขณะนั้นจริง เช่น
    More and more people
are using Internet. (ผู้คนเริ่ม
เล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทุกที)
   Accidents are happening
more and more frequently.
(อุบติเหตุเกิดขึ้นมากและบ่อย
    ั
3. แสดงเหตุการณ์ในอนาคต
เกิดขึ้นแน่นอน เช่น
    We are planning to go
to the beach next week.
(พวกเราวางแผนจะไปเที่ยว
ทะเลอาทิตย์หน้า)
    She is going abroad
4. ถ้าประโยคเชื่อมด้วย
and ( 2 ประโยค) ให้ตัด
Verb to be ที่อยู่หลัง and
ออก เช่น
   My father is smoking
a cigarette and
watching television.
*กริยาที่นำามาใช้ใน
Tense นี้ไม่ได้!!!*

1. กริยาที่เกี่ยวกับ
ประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น
 I see the beautiful
mountain.
(ฉันดูภเขาอันงดงาม) ไม่
       ู
2. กริยาทีแสดงถึงภาวะของ
           ่
จิต, แสดงความรู้สึก, ความ
ผูกพัน ไม่นยมนำามาใช้ เช่น
             ิ
    I know him very well
(ผมรู้จักเขาดี) อย่าใช้ : I am
knowing him very well.
    He believes that taxes
are too high.(เขาเชื่อว่าภาษี
แพงเกินไป) อย่าใช้ : He is
believing
หลักการเติม -ing
 1). กริยาที่ลงท้ายด้วย E ให้ตัด E ทิ้ง แล้ว
 เติม -ing
 2). กริยาที่ลงท้ายด้วย EE ให้เติม -ing ได้
 เลย
 3). กริยาที่ลงท้ายด้วย IE ให้เปลี่ยนเป็น Y
 ก่อน แล้วเติม -ing
 4). กริยาที่มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว
 พยางค์เดียว เพิ่มตัวสะกดอีกตัวหนึ่ง แล้วเติม
 -ing
 5). กริยาที่มี 2 พยางค์ออกเสียงหนักที่พยางค์
3. Present Perfect

     โครงสร้าง ประธาน + have,
has + กริยาช่องที่ 3
-เพื่อบอกการกระทำาที่เกิดขึนแล้วใน
                           ้
อดีตจนถึงปัจจุบัน
-บอกการกระทำาที่เกิดขึนบ่อยๆใน
                      ้
อดีตซึงเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นอีกใน
       ่
esent Perfect Tense Subj
 โครงสร้าง: Subject + Verb to
 have +Verbช่อง 3
 หลักการใช้
 1. การกระทำาที่เกิดขึนใน
                      ้
 อดีต ดำาเนินเรื่อยมาจน
 ปัจจุบน เช่น
       ั
    I have lived in Chiang
 Mai since 1979.(ฉันอาศัย
 อยูในเชียงใหม่ตั้งปี ค.ศ.
    ่
2. เหตุการณ์เพิ่งสิ้นสุดลง มี
 คำาว่า just, already, yet เช่น
      I have already finished
 my homework. (ผมเพิง     ่
 ทำาการบ้านของผมเสร็จ)
     He has not read that
3. เหตุyet.(เขายังไม่ได้อ่าน
 book การณ์ที่เกิดในอดีต และสินสุด
                                 ้
แล้วงสือเล่ลของเหตุการณ์ก็ยงมีมา
 หนั แต่ผ มนั้นเลย)            ั
จนปัจจุบันใน เช่น
    I have read them before.(ฉัน
เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน)
4. การกระทำาซึ่งเริ่มต้น และ
สินสุดในอดีต แต่อาจเกิดได้
  ้
อีก มี Adverb of Frequency
ด้วย เช่น
    I have visited Los
หลักการใช้ Yet, Just, และ
Angeles twice.(ผมไปเที่ยว
Already
ลอสแองเจลลิสมา 2 ครั้ง)
       Yet (ยัง) ใช้ในประโยค
ปฏิเสธเสมอ วางไว้ท้าย
ประโยค
       Just (เพิ่งจะ) Already
(เรียบร้อยแล้ว) ใช้ในประโยค
Past
               Simple
 โครงสร้าง: Subject + Verb ( Past Form
) + ( Object ) Tense
 หลักการใช้
1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
และสิ้นสุดแล้ว มี Adverb บอก
เวลาในอดีตกำากับด้วย เช่น
    She saw you yesterday.
(หล่อนเห็นคุณเมือวานนี้)
                  ่
    I went to Berline last year.
2. เหตุการณ์หนึ่งกระทำาเป็นประจำาในอดีต
แต่บัดนี้ไม่ได้ทำาอีก เช่น
    When he was young, he was very
clever. (เมือตอนเขายังเด็ก เขาเป็นคนที่
             ่
ฉลาดมาก)
    I used to get up early in the
morning. (ฉันเคยตื่นนอนตอนเช้าตรู่
( ปัจจุบนไม่ได้ตื่นเช้าแล้ว )
        ั
3. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ในอดีต และระยะเวลานั้นได้ล่วงเลยมาแล้ว
เช่น
    They lived there during last spring.
4. ใช้แสดงถึงการสมมุติหรือ
ข้อแม้ ในปัจจุบนหรือใน
               ั
อนาคต ตามหลังคำาว่า If,
Unless, Wish เช่น
    If I were you I would
love her. (ถ้าผมเป็นคุณ ผม
จะรักเธอ)
Past Continuous Tense
  โครงสร้าง: Subject + was, were +
  V-ing + Object
  หลักการใช้
  1. ใช้ในเหตุการณ์ทแสดงอาการ
                     ี่
  กำาลังกระทำาในอดีต เช่น
      They were speaking in the
  bookstore.(พวกเขากำาลังพูดอยู่ใน
  ร้านขายหนังสือ)
2. ใช้แสดงถึงการกระทำาที่ต่อเนื่องกันในอดีต
เช่น
    What were you doing all last summer?
(เธอทำาอะไรตลอดฤดูร้อนที่แล้วเหรอ?)
    I was enjoying myself at the seaside.
(ผมรื่นเริงกับการเที่ยวทะเล)
3. เหตุการณ์เกิด 2 เหตุการณ์ ขณะที่
เหตุการณ์หนึ่งดำาเนินก่อน และเหตุการณ์ทสอง  ี่
มาแทรก
      มีหลักการ คือ เหตุการณ์ที่ดำาเนินอยูใช้
                                          ่
Past Con เหตุการณ์หลังใช้ Past Sim เช่น
4. เหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นพร้อม
กันในอดีต ต้องใช้ Past Con ทั้งคู่ มี
คำาว่า while หรือ as มาเชือม เช่น
                            ่
   I was playing while you were
studying. (ฉันกำาลังเล่นในขณะที่เธอ
กำาลังเรียน)
5. เหตุการณ์ที่ดำาเนินอยู่ ณ เวลาจุด
ใดจุดหนึ่งในอดีตทีระบุไว้ชัดเจน
                    ่
เช่น
    They were cleaning the room
6. ใช้ในการสมมุติ เป็นข้อแม้
การคาดคะเน แสดงถึงการก
ระทำาที่ตอเนื่อง เช่น
          ่
     What would you do if it
was raining? (คุณจะทำา
อย่างไรถ้าฝนกำาลังตก?)
*หมายเหตุ :กรุณากลับไป
อ่าน Present Continuous
เรื่องกริยาทีนำามาใช้ใน
             ่
Tense ไม่ได้ดวยนะ*
                ้
Future
       Simple Tense will
หลักการใช้
      การกระทำาในอนาคต เช่น He
travel to Singapore next year. (เขาจะไป
เที่ยวสิงคโปร์ปีหน้า)
     หลักการใช้ (be) going to แทน will หรือ
shall
1. ใช้ (be) going to + V1 แสดงความตั้งใจ
แทน will และ shall เช่น
 She is going to buy a car next month.
3. ใช้ (be) going to +
V1 แสดงข้อความซึ่งเชื่อ
ว่าเป็นจริงโดยไม่สงสัย
แทน will และ shall เช่น
   His wife is going to
have a baby.(ภรรยา
ของเขาจะมีลูกแล้ว)
    ห้ามใช้ (be) going
to + V1 ในกรณีต่อไปนี้
1. เหตุการณ์ที่เป็นอนาคตอันแท้จริง
ต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น
   I will be twenty-one next year.
ผมจะมีอายุ 21 ในปีหน้า (ห้ามใช้ :I
am going to be twenty-one next
year.)
2. ในประโยคที่เชือมด้วย If ใช้ได้
                   ่
เฉพาะ will และ shall เท่านั้น
   John will be successful if he
tries hard.(ห้ามใช้ :John is going
to be successful if he tries hard.)
3. กริยาที่แสดงการรับรู้
เช่น
  I will remember this
experience forever.
(ห้ามใช้ :I am going to
remember this
experience forever.)
Question Tag
 Question Tag คือ การตังคำาถามท้าย
                       ้
 ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธ
  หลักการตังประโยคคำาถาม
           ้
  1. ถ้าประโยคหน้าเป็นบอกเล่า Tag
  ต้องเป็นปฏิเสธ
  2. ถ้าประโยคหน้าเป็นปฎิเสธ Tag
  ต้องเป็นบอกเล่า
  3. ต้องใส่ Comma คันระหว่าง
                      ่
  ประโยคหลักกับ Tag เสมอ
5. หากไม่มีกริยาช่วยในประโยคหลัก
ใช้ V. to do มาช่วย
6. กริยาช่วยตรง Tag ต้องใช้รูปย่อ
เสมอ ไม่มีรูป amn't I ใช้ aren't I
แทน
7. กริยาช่วย ต้องเปลียนตาม Tense
                     ่
ทีประโยคหลัก
  ่
8. ประโยคคำาสัง ขอร้อง เชือเชิญ
               ่           ้
ตรง Tag เติม คำาว่า will you ได้เลย
ข้อควรจำาในการทำา Question Tag .
1. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้นด้วย That is,
This is ส่วน Tag ใช้ isn't it? หรือ is
it
2. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้นด้วย There
is/ are/ was/ were ส่วน Tag ใช้ V.
to be ตามประธานและ Tense + there
3. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้ประโยคความซ้อน
 4. ถ้าประโยคหน้าเป็น นด้วย These/
Those are ส่วอากริยาในประโยคหลักนะ
 ส่วน Tag ให้เ น Tag ใช้ aren't they
หรือ าประโยคหน้ามีคำาที่ให้ความหมาย
 5. ถ้ are they แล้วแต่กรณี
 เชิงปฏิเสธ ส่วน Tag นั้น ต้องเป็นบอก
จัดทำาโดย
1.น.ส. นาตยา สิริชำานญพงศ์   ม. 4/2
  เลขที่ 27
ครูวีนัส ประจันบาน

Tense

  • 1.
  • 2.
    1. Present Simple โครงสร้าง ประธาน + กริยา ช่องที่ 1+ กรรม (ถ้ามี) -แสดงการกระทำา เป็นปกตินิสัย หรือทำาเสมอๆ -เหตุการณ์ที่เป็นจริงเสมอ หรือ เป็นจริงตามธรรมชาติ
  • 3.
    Present Simple Tense โครงสร้าง : Subject + Verb 1 + (Object) หลักการใช้ 1. ใช้กบเหตุการณ์ทเป็นจริงเสมอ หรือ ั ี่ เหตุการณ์ทเป็นไปตามธรรมชาติ เช่น ี่
  • 4.
    2. ใช้แสดงถึงการกระทำาที่เป็น ปรกตินิสัย หรือการกระทำานั้นเกิด ขึนเป็นประจำามี Adverb of ้ Frequency แสดง I have my breakfast everyday. (ผมรับประทานอาหาร เช้าทุกวัน) Everybody wears thick clothes in winter. (ทุกๆ คนสวม
  • 5.
    3. ใช้แสดงถึงการกระทำาที่เกิด ขึนในปัจจุบัน หรือสภาพที่เป็น ้ ปัจจุบัน เช่น She understands what you say. (เธอเข้าใจที่คณพูด) ุ I have four notebooks in the suitcase. (ฉันมีสมุด 4 เล่มอยู่ในกระเป๋า)
  • 6.
    4. ใช้แสดงถึงการกระทำาใน อนาคต ซึงตัดสินใจแน่นอนแล้ว ่ ว่าจะปฏิบัติ The next semester begins in two weeks. (อีก 2 อาทิตย์ จึงจะเปิดเทอมหน้า) He sets sail on Saturday for Samui. (เขาจะออกเรือไป
  • 7.
    2. Present Continuous โครงสร้าง ประธาน + is, am,are + กริยาที่เติม ing -เพื่อบอกการกระทำาที่กำาลังเกิด ขึ้นหรือกำาลังดำาเนินอยู่ในขณะที่ พูด
  • 8.
    Present Continuous Tense โครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb -ing + ( Object ) หลักการใช้ 1. เมื่อการกระทำาดำาเนินอยูในปัจจุบน (ขณะ ่ ั พูด) และต่อเนื่องมาถึงบัดนั้น และจบใน อนาคต เช่น My uncle is listening to the radio.(ลุง ของผมกำาลังฟังวิทย)ุุ
  • 9.
    2. การกระทำาทีเกิดขึ้น ต้องเกิด ่ ขึ้นขณะนั้นจริง เช่น More and more people are using Internet. (ผู้คนเริ่ม เล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทุกที) Accidents are happening more and more frequently. (อุบติเหตุเกิดขึ้นมากและบ่อย ั
  • 10.
    3. แสดงเหตุการณ์ในอนาคต เกิดขึ้นแน่นอน เช่น We are planning to go to the beach next week. (พวกเราวางแผนจะไปเที่ยว ทะเลอาทิตย์หน้า) She is going abroad
  • 11.
    4. ถ้าประโยคเชื่อมด้วย and (2 ประโยค) ให้ตัด Verb to be ที่อยู่หลัง and ออก เช่น My father is smoking a cigarette and watching television.
  • 12.
  • 13.
    2. กริยาทีแสดงถึงภาวะของ ่ จิต, แสดงความรู้สึก, ความ ผูกพัน ไม่นยมนำามาใช้ เช่น ิ I know him very well (ผมรู้จักเขาดี) อย่าใช้ : I am knowing him very well. He believes that taxes are too high.(เขาเชื่อว่าภาษี แพงเกินไป) อย่าใช้ : He is believing
  • 14.
    หลักการเติม -ing 1).กริยาที่ลงท้ายด้วย E ให้ตัด E ทิ้ง แล้ว เติม -ing 2). กริยาที่ลงท้ายด้วย EE ให้เติม -ing ได้ เลย 3). กริยาที่ลงท้ายด้วย IE ให้เปลี่ยนเป็น Y ก่อน แล้วเติม -ing 4). กริยาที่มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว พยางค์เดียว เพิ่มตัวสะกดอีกตัวหนึ่ง แล้วเติม -ing 5). กริยาที่มี 2 พยางค์ออกเสียงหนักที่พยางค์
  • 15.
    3. Present Perfect โครงสร้าง ประธาน + have, has + กริยาช่องที่ 3 -เพื่อบอกการกระทำาที่เกิดขึนแล้วใน ้ อดีตจนถึงปัจจุบัน -บอกการกระทำาที่เกิดขึนบ่อยๆใน ้ อดีตซึงเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นอีกใน ่
  • 16.
    esent Perfect TenseSubj โครงสร้าง: Subject + Verb to have +Verbช่อง 3 หลักการใช้ 1. การกระทำาที่เกิดขึนใน ้ อดีต ดำาเนินเรื่อยมาจน ปัจจุบน เช่น ั I have lived in Chiang Mai since 1979.(ฉันอาศัย อยูในเชียงใหม่ตั้งปี ค.ศ. ่
  • 17.
    2. เหตุการณ์เพิ่งสิ้นสุดลง มี คำาว่า just, already, yet เช่น I have already finished my homework. (ผมเพิง ่ ทำาการบ้านของผมเสร็จ) He has not read that 3. เหตุyet.(เขายังไม่ได้อ่าน book การณ์ที่เกิดในอดีต และสินสุด ้ แล้วงสือเล่ลของเหตุการณ์ก็ยงมีมา หนั แต่ผ มนั้นเลย) ั จนปัจจุบันใน เช่น I have read them before.(ฉัน เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน)
  • 18.
    4. การกระทำาซึ่งเริ่มต้น และ สินสุดในอดีตแต่อาจเกิดได้ ้ อีก มี Adverb of Frequency ด้วย เช่น I have visited Los หลักการใช้ Yet, Just, และ Angeles twice.(ผมไปเที่ยว Already ลอสแองเจลลิสมา 2 ครั้ง) Yet (ยัง) ใช้ในประโยค ปฏิเสธเสมอ วางไว้ท้าย ประโยค Just (เพิ่งจะ) Already (เรียบร้อยแล้ว) ใช้ในประโยค
  • 19.
    Past Simple โครงสร้าง: Subject + Verb ( Past Form ) + ( Object ) Tense หลักการใช้ 1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และสิ้นสุดแล้ว มี Adverb บอก เวลาในอดีตกำากับด้วย เช่น She saw you yesterday. (หล่อนเห็นคุณเมือวานนี้) ่ I went to Berline last year.
  • 20.
    2. เหตุการณ์หนึ่งกระทำาเป็นประจำาในอดีต แต่บัดนี้ไม่ได้ทำาอีก เช่น When he was young, he was very clever. (เมือตอนเขายังเด็ก เขาเป็นคนที่ ่ ฉลาดมาก) I used to get up early in the morning. (ฉันเคยตื่นนอนตอนเช้าตรู่ ( ปัจจุบนไม่ได้ตื่นเช้าแล้ว ) ั 3. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ในอดีต และระยะเวลานั้นได้ล่วงเลยมาแล้ว เช่น They lived there during last spring.
  • 21.
    4. ใช้แสดงถึงการสมมุติหรือ ข้อแม้ ในปัจจุบนหรือใน ั อนาคต ตามหลังคำาว่า If, Unless, Wish เช่น If I were you I would love her. (ถ้าผมเป็นคุณ ผม จะรักเธอ)
  • 22.
    Past Continuous Tense โครงสร้าง: Subject + was, were + V-ing + Object หลักการใช้ 1. ใช้ในเหตุการณ์ทแสดงอาการ ี่ กำาลังกระทำาในอดีต เช่น They were speaking in the bookstore.(พวกเขากำาลังพูดอยู่ใน ร้านขายหนังสือ)
  • 23.
    2. ใช้แสดงถึงการกระทำาที่ต่อเนื่องกันในอดีต เช่น What were you doing all last summer? (เธอทำาอะไรตลอดฤดูร้อนที่แล้วเหรอ?) I was enjoying myself at the seaside. (ผมรื่นเริงกับการเที่ยวทะเล) 3. เหตุการณ์เกิด 2 เหตุการณ์ ขณะที่ เหตุการณ์หนึ่งดำาเนินก่อน และเหตุการณ์ทสอง ี่ มาแทรก มีหลักการ คือ เหตุการณ์ที่ดำาเนินอยูใช้ ่ Past Con เหตุการณ์หลังใช้ Past Sim เช่น
  • 24.
    4. เหตุการณ์ 2อย่างที่เกิดขึ้นพร้อม กันในอดีต ต้องใช้ Past Con ทั้งคู่ มี คำาว่า while หรือ as มาเชือม เช่น ่ I was playing while you were studying. (ฉันกำาลังเล่นในขณะที่เธอ กำาลังเรียน) 5. เหตุการณ์ที่ดำาเนินอยู่ ณ เวลาจุด ใดจุดหนึ่งในอดีตทีระบุไว้ชัดเจน ่ เช่น They were cleaning the room
  • 25.
    6. ใช้ในการสมมุติ เป็นข้อแม้ การคาดคะเนแสดงถึงการก ระทำาที่ตอเนื่อง เช่น ่ What would you do if it was raining? (คุณจะทำา อย่างไรถ้าฝนกำาลังตก?) *หมายเหตุ :กรุณากลับไป อ่าน Present Continuous เรื่องกริยาทีนำามาใช้ใน ่ Tense ไม่ได้ดวยนะ* ้
  • 26.
    Future Simple Tense will หลักการใช้ การกระทำาในอนาคต เช่น He travel to Singapore next year. (เขาจะไป เที่ยวสิงคโปร์ปีหน้า) หลักการใช้ (be) going to แทน will หรือ shall 1. ใช้ (be) going to + V1 แสดงความตั้งใจ แทน will และ shall เช่น She is going to buy a car next month.
  • 27.
    3. ใช้ (be)going to + V1 แสดงข้อความซึ่งเชื่อ ว่าเป็นจริงโดยไม่สงสัย แทน will และ shall เช่น His wife is going to have a baby.(ภรรยา ของเขาจะมีลูกแล้ว) ห้ามใช้ (be) going to + V1 ในกรณีต่อไปนี้
  • 28.
    1. เหตุการณ์ที่เป็นอนาคตอันแท้จริง ต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น I will be twenty-one next year. ผมจะมีอายุ 21 ในปีหน้า (ห้ามใช้ :I am going to be twenty-one next year.) 2. ในประโยคที่เชือมด้วย If ใช้ได้ ่ เฉพาะ will และ shall เท่านั้น John will be successful if he tries hard.(ห้ามใช้ :John is going to be successful if he tries hard.)
  • 29.
    3. กริยาที่แสดงการรับรู้ เช่น I will remember this experience forever. (ห้ามใช้ :I am going to remember this experience forever.)
  • 30.
    Question Tag QuestionTag คือ การตังคำาถามท้าย ้ ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธ หลักการตังประโยคคำาถาม ้ 1. ถ้าประโยคหน้าเป็นบอกเล่า Tag ต้องเป็นปฏิเสธ 2. ถ้าประโยคหน้าเป็นปฎิเสธ Tag ต้องเป็นบอกเล่า 3. ต้องใส่ Comma คันระหว่าง ่ ประโยคหลักกับ Tag เสมอ
  • 31.
    5. หากไม่มีกริยาช่วยในประโยคหลัก ใช้ V.to do มาช่วย 6. กริยาช่วยตรง Tag ต้องใช้รูปย่อ เสมอ ไม่มีรูป amn't I ใช้ aren't I แทน 7. กริยาช่วย ต้องเปลียนตาม Tense ่ ทีประโยคหลัก ่ 8. ประโยคคำาสัง ขอร้อง เชือเชิญ ่ ้ ตรง Tag เติม คำาว่า will you ได้เลย
  • 32.
    ข้อควรจำาในการทำา Question Tag. 1. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้นด้วย That is, This is ส่วน Tag ใช้ isn't it? หรือ is it 2. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้นด้วย There is/ are/ was/ were ส่วน Tag ใช้ V. to be ตามประธานและ Tense + there 3. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้ประโยคความซ้อน 4. ถ้าประโยคหน้าเป็น นด้วย These/ Those are ส่วอากริยาในประโยคหลักนะ ส่วน Tag ให้เ น Tag ใช้ aren't they หรือ าประโยคหน้ามีคำาที่ให้ความหมาย 5. ถ้ are they แล้วแต่กรณี เชิงปฏิเสธ ส่วน Tag นั้น ต้องเป็นบอก
  • 33.
    จัดทำาโดย 1.น.ส. นาตยา สิริชำานญพงศ์ ม. 4/2 เลขที่ 27 ครูวีนัส ประจันบาน