SlideShare a Scribd company logo
LOGO
นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเรียนการสอน
(Instructional Innovation and Media Technology)
Company Logo
ความหมายของนวัตกรรม
นวัตกรรม และเทคโนโลยีการศึกษา
“นวัตกรรม (Innovation)” เป็นคำที่มีรำกศัพท์มำจำกภำษำลำตินว่ำ Innovare
แปลว่ำ to renew หรือ to modify ได้มีนักกำรศึกษำ ได้ให้ควำมหมำยไว้
หลำกหลำย ได้แก่
Company Logo
ทอมัส ฮิวช์ (Thomasl Hughes)
ความหมายของนวัตกรรม
“เป็นการนาวิธีการใหม่ ๆ มาปฏิบัติหลังจากได ้ผ่านการทดลอง
หรือได ้รับการพัฒนามาเป็นขั้น ๆ แล ้ว โดยเริ่มมาตั้งแต่การคิดค ้น
(Invention) พัฒนาการ (Development) ซึ่งอาจจะเป็นไปในรูป
ของโครงการทดลองปฏิบัติก่อน (Pilot Project) แล ้วจึงนาไป
ปฏิบัติจริง ซึ่งมีความแตกต่างไปจากการปฏิบัติเดิมที่เคยปฏิบัติ
มา และเรียกว่า นวัตกรรม (Innovation)”
มอร์ตัน (Morton, J.A.)
“การทาให ้ใหม่ขึ้นอีกครั้ง (Renewal) ซึ่งหมายถึงการ
ปรับปรุงของเก่า และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร
ตลอดจนหน่วยงาน หรือองค์การนั้น ๆ นวัตกรรมไม่ใช่การ
ขจัด หรือล ้มล ้างสิ่งเก่าให ้หมดไป แต่เป็นการปรับปรุง
เสริมแต่ง และพัฒนาเพื่อความอยู่รอดของระบบ”
ความหมายของนวัตกรรม
Your site here
ไชยยศ เรืองสุวรรณ
“วิธีการปฏิบัติใหม่ ๆ ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได ้มาจาก
การคิดค ้นพบวิธีการใหม่ ๆ ขึ้นมา หรือการปรุงแต่งของเก่าให ้
ใหม่เหมาะสม และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได ้รับการทดลอง พัฒนา
มาจนเป็นที่เชื่อถือได ้แล ้วว่าได ้ผลดีในทางปฏิบัติ ทาให ้ระบบ
ก ้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได ้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น”
ความหมายของนวัตกรรม
นวัตกรรม คืออะไร
นวัตกรรม
นว + อัตต + กรรม
ใหม่ + ตนเอง + การกระทา
• การกระทาที่ใหม่ของตนเอง
• การกระทาของตนเองที่ใหม่
นวัตกรรม คืออะไร
กระทรวง
ศึกษาธิการInnovation นวัตกรรม =
การนาสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา
เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม
วิธีการที่ทาอยู่เดิมเพื่อให้
ใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น
นวกรรม, นวการ, นวกิจ = การก่อสร้าง
นวกรรมมิก = ผู้ดูแลการก่อสร้าง
Innovator = นวัตกร = ผู้นาสิ่งใหม่มาใช้
นวัตกรรม เป็นวิธีการปฏิบัติใหม่ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได้มาจากการ
คิดค้น หรือการปรับปรุงเสริมแต่งของเก่า และสิ่งเหล่านี้ได้รับการทดลองและ
พัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้ ทาให้ระบบบรรลุจุดมุ่งหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(อัญชลี โพธิ์ทอง และคณะ)
ตรงกับศัพท์บัญญัติทางวิชาการ ที่ว่า :
นวัตกรรม หมายถึง การนาสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมวิธีการที่ทาอยู่เดิม
โดยผ่านการทดลองเพื่อให้ใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น
ความหมายของ “นวัตกรรม” : สรุป
Your site here
เทคโนโลยีสมัยใหม่ (ในปัจจุบัน)
Your site here Company Logo
Your site here Company Logo
Your site here Company Logo
Your site here Company Logo
Your site here Company Logo
Your site here Company Logo
Your site here Company Logo
จาแนกได้ 4 ประการ
 ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different)
 ความพร้อม (Readiness)
 การใช้เวลาเพื่อการศึกษา
 การขยายตัวทางวิชาการ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม
แนวคิดพื้นฐานที่ส่งผลต่อนวัตกรรมการศึกษา
แผนการศึกษาของชาติ ให้มุ่งจัดการศึกษาตามความถนัด ความสนใจ และ
ความสามารถของแต่ละคนเป็นเกณฑ์
เช่น การจัดระบบห้องเรียนโดยใช้อายุเป็นเกณฑ์ หรือใช้ความสามารถเป็นเกณฑ์
นวัตกรรมที่เกิดขึ้น ได้แก่
 การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded School)
 แบบเรียนสาเร็จรูป (Programmed Text Book)
 เครื่องสอน (Teaching Machine)
 การสอนเป็นคณะ (Team Teaching)
 การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different)
แนวคิดเดิมเชื่อกันว่า เด็กจะเริ่มเรียนได้ก็ต้องมีความพร้อมซึ่งเป็นพัฒนาการตาม
ธรรมชาติ
ปัจจุบันการวิจัยทางด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นว่าความพร้อมในการเรียน
เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นได้ ถ้าหากสามารถจัดบทเรียนให้พอเหมาะกับระดับ
ความสามารถของเด็กแต่ละคน วิชาที่เคยเชื่อว่ายาก และไม่เหมาะสมสาหรับเด็ก
เล็ก ก็สามารถนามาให้ศึกษาได้
นวัตกรรมที่เกิดขึ้น ได้แก่
 ศูนย์การเรียน (Learning Center)
 การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
 การปรับปรุงการสอนสามชั้น (Instructional Development in 3
Phases)
2. ความพร้อม (Readiness)
การจัดเวลาเพื่อการสอน หรือตารางสอนในรูปแบบเก่า มักจัดโดยอาศัยความ
สะดวกเป็นเกณฑ์ เช่น ถือหน่วยเวลาเป็นชั่วโมง เท่ากันทุกวิชาทุกวันและจัดเวลา
เรียนเอาไว้แน่นอน
ปัจจุบันมีความคิดในการจัดเป็นหน่วยเวลาสอนให้สัมพันธ์กับลักษณะของแต่ละ
วิชา ซึ่งจะใช้เวลาไม่เท่ากัน บางวิชาอาจใช้ช่วงสั้น ๆ แต่สอนบ่อยครั้ง การเรียนก็ไม่
จากัดอยู่แต่เฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น
นวัตกรรมที่เกิดขึ้น ได้แก่
 การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น (Flexible Scheduling)
 มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)
 แบบเรียนสาเร็จรูป (Programmed Text Book)
 การเรียนทางไปรษณีย์
3. การใช้เวลาเพื่อการศึกษา
ทาให้มีสิ่งต่าง ๆ ที่คนจะต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้นมาก แต่การจัดระบบการศึกษาใน
ปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจึงจาเป็นต้องแสวงหาวิธีการใหม่ที่มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านปัจจัยเกี่ยวกับตัวผู้เรียน และปัจจัยภายนอก
นวัตกรรมที่เกิดขึ้น ได้แก่
 มหาวิทยาลัยเปิด
 การเรียนทางวิทยุการเรียนทางโทรทัศน์
 การเรียนทางไปรษณีย์แบบเรียนสาเร็จรูป
 ชุดการเรียน
4. การขยายตัวทางวิชาการ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม
เป็นความคิดเห็นหรือปฏิบัติการใหม่อย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่มีใครค้นพบมาก่อน
ซึ่งนวัตกรรมประเภทนี้จะถูกต่อต้านอยู่เสมอ
จะต้องเป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด หรือบางส่วนอาจเป็นของเก่าที่ใช้ไม่ได้ผลในอดีต แล้ว
นามาปรับปรุงให้ดีขึ้น
มีการจัดระบบขั้นตอนการดาเนินงานให้เหมาะสมก่อนที่จะทาการเปลี่ยนแปลง
โดยพิจาณาตั้งแต่ข้อมูล กระบวนการ และผลลัพธ์
ลักษณะของนวัตกรรมทางการศึกษา
มีการพิสูจน์ด้วยการวิจัย หรืออยู่ระหว่างการวิจัยว่า “สิ่งใหม่” นั้น จะช่วยให้การ
แก้ปัญหา และดาเนินการบางอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม
ยังไม่เป็นส่วนหนึ่งของระบบงานในปัจจุบัน หาก“สิ่งใหม่” นั้นได้รับการ
เผยแพร่และยอมรับจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบงานที่ดาเนินอยู่ในขณะนี้ ไม่
ถือว่า “สิ่งใหม่” นั้น เป็นนวัตกรรมต่อไป แต่จะเปลี่ยนสภาพเป็น “เทคโนโลยี”
อย่างเต็มที่
ลักษณะของนวัตกรรมทางการศึกษา
ความเจริญในด้านต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นผลมาจากการศึกษา
ค้นคว้าทดลองประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่าง ๆ โดยอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เมื่อ
ศึกษาค้นพบและทดลองใช้ได้ผลแล้ว ก็นาออกเผยแพร่ใช้ในกิจการด้านต่าง ๆ
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาคุณภาพ และประสิทธิภาพในกิจการต่าง ๆ
เหล่านั้น
วิชาการที่ว่าด้วยการนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาใช้ในกิจการด้านต่าง ๆ จึงเรียก
กันว่า "วิทยาศาสตร์ประยุกต์" หรือนิยมเรียกกันทั่วไปว่า "เทคโนโลยี"
(Technology)
ความหมายของ “เทคโนโลยี”
เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง กระบวนการผลิต การสร้าง
วิธีการดาเนินงาน เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
ผู้ที่นาเอาเทคโนโลยีมาใช้ เรียกว่า นักเทคโนโลยี (Technologist)
ความหมายของ “เทคโนโลยี”
นวัตกรรม และ เทคโนโลยี มักจะเขียนคู่กันเสมอ
ใช้รวมเป็นคาเดียวคือ Innotech
นวัตกรรม และ เทคโนโลยี มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
นวัตกรรม เป็นเรื่องของการกระทาสิ่งใหม่ ซึ่งอยู่ในขั้นทดลอง ยังไม่เป็นที่ยอมรับ
ในสังคม
เทคโนโลยี เป็นเรื่องของการนาเอาสิ่งต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
การนาเอานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เรียกว่าเป็นเทคโนโลยี
การใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ เรียกสิ่งใหม่ว่า นวัตกรรม
นวัตกรรม และ เทคโนโลยี
นวัตกรรมและเทคโนโลยี คือ INNOTECH
การใช้นวัตกรรม(Innovation)และเทคโนโลยี(Technology)ในการจัด
การศึกษาคือใช้ในการเรียนการสอนถ้าใช้ทั้ง2อย่างร่วมกันด้วยการนาเอาเทคนิค
และสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆทางวิทยาศาสตร์มาใช้เรียก“INNOTECH”ซึ่งมาจากคาเต็ม
ว่า“Innovation Technology”เป็นการนาเอาคานวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน
นวัตกรรม และ เทคโนโลยี
เทคโนโลยี นวัตกรรม
ใช้เผยแพร่ในระบบปกติ
การเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมและเทคโนโลยี
เทคโนโลยี
การพัฒนา
(ปรับปรุง
เปลี่ยนแปลง) เผยแพร่
นวัตกรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT)
เป็นเทคโนโลยีที่เน้นถึงการจัดการในกระบวนการดาเนินงานสารสนเทศ หรือ
สารนิเทศในขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่การแสวงหา การวิเคราะห์ การจัดเก็บ การ
จัดการเผยแพร่ หรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้อง ความแม่นยา และความ
รวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อการนามาใช้ประโยชน์
ความหมายของ “เทคโนโลยีสารสนเทศ”
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (Computer Technology)
เทคโนโลยีโทรคมนาคม (Communication Technology)
ส่วนประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนาเข้าข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การแสดงผลข้อมูล
ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจานวนมหาศาลของแต่ละวัน
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสารสนเทศ
ช่วยให้สามารถเก็บสารสนเทศไว้ในรูปที่สามารถเรียกใช้ได้สะดวก
ช่วยให้สามารถจัดระบบอัตโนมัติ เพื่อการจัดเก็บประมวลผล และเรียกใช้
สารสนเทศ
ช่วยในการเข้าถึงสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
ช่วยในการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว ลดอุปสรรคเกี่ยวกับเวลา และระยะทาง
ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน
เพิ่มผลผลิต
เพิ่มคุณภาพในการให้บริการลูกค้า
ผลิตสินค้าใหม่และขยายผลิตภัณฑ์
สร้างทางเลือกในการแข่งขัน
สร้างโอกาสทางธุรกิจด้านใหม่ๆ
ดึงดูดลูกค้า ป้องกันคู่แข่ง
เป้าหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 เพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน
 สานักงาน
 อุตสาหกรรม
 การเงินและการพาณิชย์
 การบริการการสื่อสาร
 สาธารณสุข
 ฝึกอบรมและการศึกษา
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ด้านวิถีการดาเนินชีวิต
ด้านสังคมเมืองและชนบท
ด้านการดาเนินธุรกิจ
ด้านสังคมและเศรษฐกิจ
ด้านกฎหมาย ศีลธรรมและจริยธรรม
ด้านสุขภาพ
ด้านการศึกษา
ผลกระทบจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
ทางด้านบวก
สร้างความเจริญเติบโตให้สังคมในทุกๆด้าน เช่น ด้านการศึกษา ด้าน
เศรษฐกิจ ด้านสื่อสารมวลชน ด้านคมนาคม ด้านการแพทย์ฯลฯ
ทางด้านลบ
 ผลกระทบต่อชุมชน
 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
 ผลกระทบด้านจิตวิทยา
 ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม
 ผลกระทบทางด้านการศึกษา
หลักการสาคัญที่ควรพิจารณา
หลักการสาคัญที่ควรพิจารณา
The six E’s of Character Education
Example
Explanation
Exhortation or Moral courage
development
Ethos or Ethical Environment
Experience
Expectations of Excellence
การนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน
 ในปัจจุบันการเรียนการสอนได้นาทฤษฏีการเรียนรู้ และหลักการมา
ใช้ เพื่อให้เกิดคุณภาพของการสอน การใช้วัสดุอุปกรณ์เข้าช่วยใน
การจัดการเรียนการสอนก็เป็นวิธีการที่ทาให้บทเรียนมีประสิทธิภาพ
4 ประการ คือ
1. ให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้
2. ให้ผู้เรียนได้รับข้อมูลย้อนกลับอย่างฉับพลัน
3. ให้ผู้เรียนได้รับการเสริมแรง
4. ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เป็นขั้นตอนทีละน้อย
การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเสริมการเรียนการสอน
 ประเภทของนวัตกรรมสื่อ
 บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (Courseware)
 เนื้อหาดิจิทัล (Digital Content)
 สื่อมัลติมีเดียระบบเรียนรู้ด้วยตนเอง
 สื่อการสอนลักษณะ PowerPoint
 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ประเภทของสื่อ
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (Courseware)หมายถึง
เนื้อหาและเทคนิคการเรียนรู้ที่ถูกแปลงให้อยู่ในลักษณะของสื่ออิเล็กทรอนิกส์
- Class notes , scanned images, syllabi, textbooks, tutorials และ
assignments ของผู้สอนที่นาเสนอด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 สื่อรูปแบบปฏิสัมพันธ์ที่เผยแพร่ทั้งในลักษณะเชิงพาณิชย์และให้บริการ
ดาวน์โหลด
 บทเรียนที่พัฒนาด้วยAuthoring Tools เช่น Toolbook หรือ AuthorWare
 บทเรียนที่นาเสนอรูปแบบ Online และ Offline
 หนังสือ/วารสารอิเล็กทรอนิกส์ จัดทาในรูปแบบ Acrobat
 เทปเสียงดิจิทัล/วิดีทัศน์ดิจิตอล
รูปแบบของสื่อ Courseware
1 เอกสารการฝึกอบรม
2 สื่อมัลติมีเดียระบบเรียนรู้ด้วยตนเอง
3 สื่อการสอนในรูป PowerPoint
สื่อมัลติมีเดียระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ประกอบด้วย เนื้อหา รูปภาพ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ผสมผสานรวมกัน
พร้อมระบบโต้ตอบกับผู้ใช้ พัฒนาจากโปรแกรมสร้างสื่อเช่น
Macromedia, Authorware,Flash
เนื้อหาดิจิทัล (Digital Content)
เนื้อหาสาระสื่อประสมที่นักเรียนสามารถค้นหาและรวบรวมเป็น
ข้อมูลในการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย
วีดิทัศน์ ซีดีรอม เว็บไซต์อีเมล์ระบบการจัดการเรียนรู้ออนไลน์
สถานการณ์จาลองในคอมพิวเตอร์ การอภิปรายโต้ตอบ
ไฟล์ข้อมูล ฐานข้อมูล และเสียง
สื่อการสอนในลักษณะของ PowerPoint
ลักษณะของสื่อ
 ชื่อตอน
 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
 วัสดุ อุปกรณ์การเรียนรู้
 เนื้อหาโดยสรุป
 คาถาม ท้ายบท
 แหล่งข้อมูลอ้างอิง
 หมายเลขสไลด์
สื่อการสอนในลักษณะของ PowerPoint
หลักการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียและสื่อ PowerPoint
 มีรูปแบบการนาเสนอที่โดดเด่น น่าสนใจ
 ใช้ฟอนต์ที่ได้มาตรฐาน ขนาดเหมาะสม
 มีมาตรฐานเดียวกันทั้งสื่อ
 มีระบบโต้ตอบกับผู้ใช้ที่เหมาะสม
 มีความถูกต้องตามหลักภาษาไทย
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI)
เป็นขบวนการเรียนการสอนโดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ โดยตรงและเป็นการเรียน
แบบมีปฏิสัมพันธ์ (Interactive) สามารถโต้ตอบระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบสาคัญของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
การเสนอสิ่งเร้าใจให้กับผู้เรียน
การประเมินการตอบสนองกับผู้เรียน
การให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการเสริมแรง
การให้ผู้เรียนเลือกสิ่งเร้าในลาดับต่อไป
ชนิดและประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เพื่อการสอน (Tutorial Instruction)
 มีวัตถุประสงค์เพื่อสอนเนื้อหาใหม่ให้ผู้เรียน
 แบ่งเนื้อหาเป็นหน่วยย่อย
 มีคาถามในตอนท้าย
 มีการวัดผล
ชนิดและประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ประเภทการฝึกหัด(Drill and Practice)
 มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกความแม่นยาหลังเรียน
 โปรแกรมจะไม่เสนอเนื้อหาแต่ใช้วิธีสุ่มคาถามที่นามาจากคลังข้อสอบ
 มีการเสนคาถามซ้าแล้วซ้าอีกเพื่อวัดความจริงมิใช่การเดา
 มีการประเมินผล
ชนิดและประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ประเภทสถานการณ์จาลอง (Simulation)
 เพื่อให้ผู้เรียนทดลองปฏิบัติกับสถานการณ์จาลองที่มีความใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริง
 เพื่อฝึกทักษะและเรียนรู้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก
ชนิดและประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ประเภทเกมส์การสอน (Instruction Games)
 เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน
 ให้ความรู้ผู้เรียนในแง่กระบวนการคิด
 เพิ่มบรรยากาศการเรียนรู้มากขึ้น
ประเภทการค้นพบ (Discovery)
 เพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสทดลองกระทาสิ่งต่างๆ ก่อน หาข้อสรุปได้ด้วยตนเอง
 โปรแกรมจะนาเสนอปัญหาให้ผู้เรียนได้ลองผิดลองถูก
 ให้ข้อมูลแก่ผู้เรียนเพื่อช่วยผู้เรียนในการค้นพบนั้นจนกว่าจะได้ข้อสรุป
ชนิดและประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ประเภทการแก้ปัญหา
 เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักคิด การตัดสินใจโดยกาหนดเกณฑ์ไว้ให้ผู้เรียนพิจารณาตามเกณฑ์
ประเภทการทดสอบ
 ไม่มีวัตถุเพื่อการสอน แต่ใช้ประเมินการสอนของครูหรือการเรียนของผู้เรียน
 คอมพิวเตอร์จะประเมินผลทันทีว่าผู้เรียนสอบได้ลาดับที่เท่าไร
ลักษณะของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
การนาเสนอเป็นตอนสั้นๆ
มีการโต้ตอบกับผู้เรียน
มีบททบทวน เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ
ควรใช้สื่อเพื่อสร้างแรงจูงใจ ความมั่นใจในการเรียนรู้
แบบฝึกปฏิบัติและแบบทดสอบ
ควรมีการเสริมแรงเมื่อผู้เรียนตอบผิด
บุคลากรที่เกี่ยวข้อง การจัดทาบทเรียน
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ
 ด้านหลักสูตรและเนื้อหา
 ด้านการสอน เป็นผู้มีประสบการณ์สอนในวิชานั้น
 ด้านสื่อ
 ด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์
กลุ่มผู้ออกแบบและสร้างบทเรียน
 วิเคราะห์เนื้อหา กิจกรรมต่างๆ
 สร้างStoryboard
บุคลากรที่เกี่ยวข้อง การจัดทาบทเรียน
ผู้บริหารโครงการ ทาหน้าที่จัดกรและบริหารงานต่างๆ ควบคุมคุณภาพ
บทเรียน ประสานงานกับกลุ่มต่างๆ ควบคุมงบประมาณ
การจักทาบทเรียนควร คานึงถึงส่วนประกอบดังนี้
บทนาเรื่อง (Title)
คาชี้แจงบทเรียน (Instruction)
วัตถุประสงค์บทเรียน (Objective)
รายการเมนูหลัก (Main Menu)
แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
เนื้อหาบทเรียน (Information)
แบบทดสอบท้ายบทเรียน (Post test)
บทสรุปและการนาไปใช้งาน (Summary)
การออกแบบหน้าจอของบทเรียน
ความละเอียดของจอภาพ
การใช้สี
รูปแบบของการจัดหน้าจอ
การนาเสนอเนื้อหาที่เป็นข้อความ
รูปแบบการนาเสนอ และควบคุมบทเรียน
การจัดการศึกษาทางไกล
คือ การถ่ายทอดความรู้ ทักษะและประการณ์ต่างๆ ผ่านสื่อ โดยผู้เรียนและผู้สอนไม่
ต้องพบกันเป็นประจา
โดยถ่ายทอดความรู้ผ่านสื่อ หนังสื่อพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เทปเสียง วีดิทัศน์
คอมพิวเตอร์และสื่ออื่นๆ
สื่อหลายมิติ (Hypermedia)
เทคโนโลยีของการอ่านและการเขียนที่ไม่เรียงลาดับเนื้อหากัน
นาเสนอลักษณะ ข้อความ ภาพ หรือภาพกราฟิก และมีการเชื่อมโยงกัน
จุดมุ่งหมายของการใช้สื่อหลายมิติ
ใช้เป็นเครื่องมือในการสืบค้น (Browsing)
ใช้เพื่อการเชื่อมโยง (Linking)
ใช้ในการสร้างบทเรียน (Authoring)
การเรียนการสอนผ่านเว็บไซต์
ลักษณะเด่น คือ ผู้เรียนสามารถเรียนเวลาใดหรือสถานที่ใดก็ได้
ข้อดี ข้อเสียของการเรียนการสอนผ่านเว็บไซต์
ข้อดี
 ติดต่อสื่อสารรวดเร็ว ไม่จาจัดเวลาสถานที่
 ผู้เรียนและผู้สอนไม่ต้องพบกันในห้องเรียน
 ผู้เรียนและผู้สอนไม่ต้องการเรียนและสอนเวลาเดียวกัน
 ผู้กล้าตอบคาถาม และตั้งคาถามมากขึ้น โดยอาศัย E-mail chat อื่นๆ
ข้อดี ข้อเสียของการเรียนการสอนผ่านเว็บไซต์
ข้อเสีย
 ไม่สามารถรับรู้ความรู้สึก ปฏิกิริยาที่แท้จริงของผู้เรียนและผู้สอน
 ไม่สามารถสื่อถึงความรู้สึก อารมณ์ในการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง
 ผู้เรียนและผู้สอนจะต้องมีความพร้อมในการใช้คอมพิวเตอร์
 ผู้เรียนบ้างคนไม่สามารถศึกษาด้วยตนเองได้
ประโยชน์ของการเรียนการสอนผ่านเว็บไซต์
เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน
สนับสนุนการเรียนการสอน
เกิดเครือข่ายความรู้
เน้นการเรียนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ลดช่องว่างระหว่างเมืองกับท้องถิ่น
ทฤษฎีการเรียนรู้ : Learning Theory
ธอร์นไดค์ (Edward L. Thorndike, 1874 - 1949) เป็นชาวอเมริกัน ได้
ตั้งทฤษฎีการ เรียนรู้ (Learning Theory) ซึ่งกล่าวว่า การเรียนรู้ของ
มนุษย์จะเกิดขึ้นด้วยการสร้างสิ่ง เชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองที่
เหมาะสมกัน และการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎ 3
ประการ คือ
 กฎแห่งความพร้อม (Law of Readiness)
 กฎแห่งผลความพอใจ (Law of Effect)
 กฎแห่งการฝึกหัด (Law of Exercise)
กฎแห่งความพร้อม : Law of Readiness
พร้อม พึงพอใจ การเรียนรู้
พร้อม ไม่พอใจ ไม่เกิดการเรียนรู้
ไม่พร้อม ไม่พอใจ ไม่เกิดการเรียนรู้
กฎแห่งการฝึกหัด
กฎแห่งการใช้ (Law of Used) เมื่อเกิดความเข้าใจหรือเรียนรู้แล้ว มีการ
กระทาหรือ นาสิ่งที่เรียนรู้นั้นไปใช้บ่อย ๆ จะทาให้การเรียนรู้นั้นคงทนถาวร
กฎแห่งการไม่ใช้ (Law of Disused) เมื่อเกิดความเข้าใจหรือเรียนรู้
แล้ว ไม่ได้กระทาซ้าบ่อย ๆ จะทาให้การเรียนรู้นั้นไม่คงทนถาวรหรือในที่สุดก็จะ
เกิดการลืม
กฎแห่งผลความพอใจ
ถ้าผลที่ได้รับเป็นที่พึงพอใจ อินทรีย์ย่อมอยากจะเรียนรู้อีกต่อไป แต่ถ้าผลที่ได้รับ
ไม่เป็นที่พอใจ อินทรีย์ก็ไม่อยากเรียนรู้หรือเกิดความเบื่อหน่ายต่อการเรียนรู้ได้
ดังนั้นถ้าจะให้การเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองมั่นคงถาวร ต้องให้
อินทรีย์ได้รับผลที่พึงพอใจ แม้กระทั่งทฤษฎีของสกินเนอร์ ก็มีรากฐานมาจากกฎ
ข้อนี้ คือผลที่พึงพอใจนั้น สกินเนอร์เรียกว่า การเสริมแรง
(Reinforcement) นั่นเอง

More Related Content

Similar to นวัตกรรมและเทคคโนโลยีการสอน

การพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอน
การพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอนการพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอน
การพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอน
Drsek Sai
 
นวัตกรรมการศึกษา9
นวัตกรรมการศึกษา9นวัตกรรมการศึกษา9
นวัตกรรมการศึกษา9
nuttawoot
 
ใบงาน2
ใบงาน2ใบงาน2
ใบงาน2powe1234
 
ความหมายของโครงงาน2
ความหมายของโครงงาน2ความหมายของโครงงาน2
ความหมายของโครงงาน2
Paranee Srikhampaen
 
Commm
CommmCommm
Commm
Rujruj
 
ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภทประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภทmcf_cnx1
 
Com 1
Com 1Com 1
Com 1
Rujruj
 
แบบทดสอบที่ 1
แบบทดสอบที่ 1แบบทดสอบที่ 1
แบบทดสอบที่ 1
ohmzariffer
 
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
kanyaluk dornsanoi
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานFreshsica Chunyanuch
 
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์Atthaphon45614
 
โคงงานคอมพิวเตอร์
โคงงานคอมพิวเตอร์โคงงานคอมพิวเตอร์
โคงงานคอมพิวเตอร์Chalermkiat Aum
 
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
Thanatchaporn Yawichai
 
Teahingint
TeahingintTeahingint
Teahingintkorakate
 
Teahingint[1]
Teahingint[1]Teahingint[1]
Teahingint[1]numpueng
 
Teahingint
TeahingintTeahingint
Teahingintprisana2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์louispnn
 
ทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตรทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตร
Tawatchai Bunchuay
 

Similar to นวัตกรรมและเทคคโนโลยีการสอน (20)

Ci13501chap3
Ci13501chap3Ci13501chap3
Ci13501chap3
 
การพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอน
การพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอนการพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอน
การพัฒนานวัตกรรมด้านหลักสูตรและการสอน
 
นวัตกรรมการศึกษา9
นวัตกรรมการศึกษา9นวัตกรรมการศึกษา9
นวัตกรรมการศึกษา9
 
ใบงาน2
ใบงาน2ใบงาน2
ใบงาน2
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
ความหมายของโครงงาน2
ความหมายของโครงงาน2ความหมายของโครงงาน2
ความหมายของโครงงาน2
 
Commm
CommmCommm
Commm
 
ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภทประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท
 
Com 1
Com 1Com 1
Com 1
 
แบบทดสอบที่ 1
แบบทดสอบที่ 1แบบทดสอบที่ 1
แบบทดสอบที่ 1
 
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โคงงานคอมพิวเตอร์
โคงงานคอมพิวเตอร์โคงงานคอมพิวเตอร์
โคงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Teahingint
TeahingintTeahingint
Teahingint
 
Teahingint[1]
Teahingint[1]Teahingint[1]
Teahingint[1]
 
Teahingint
TeahingintTeahingint
Teahingint
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตรทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตร
 

นวัตกรรมและเทคคโนโลยีการสอน