SlideShare a Scribd company logo
ส่งวันที่ 21/8/2013
บทที่ 1
บทนำ
เนื่องจำกกำรเติบโตของจำนวนประชำกรทำให้เกิดควำมต้องกำรในกำรบริโภคของสินค้ำและบริกำรเพิ่ม
สูงขึ้นส่งผลให้ทรัพยำกรที่มีอยู่อย่ำงจำกัด ถูกใช้ไปอย่ำงรวดเร็วทรัพยำกรเริ่มขำดแคลนจึงเป็นแรงกดดันให้หลำยประเทศให้
ควำมสนใจในกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืนเพิ่มขึ้น ทั้งในด้ำนกำรเพิ่มประสิทธิภำพในกำรใช้ทรัพยำกร กำรนำกลับมำใช้ใหม่ กำร
เปลี่ยนเทคโนโลยีในกำรผลิตเพื่อลดกำรปล่อยมลภำวะ ล้วนเป็นทำงเลือกที่ทำให้เกิดกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืน แต่ก็มีนัก
สิ่งแวดล้อมบำงกลุ่มที่ได้ให้ควำมสนใจในกำรนำเอำระบบนิเวศมำประยุกต์ใช้กับกำรผลิตภำคอุตสำหกรรมโดยมองว่ำ กำรที่
ระบบนิเวศตำมธรรมชำติสำมำรถดำรงรูปแบบมำได้อย่ำงยำวนำนเพรำะรูปแบบของควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสิ่งมีชีวิตในระบบ
นิเวศในหลำยๆวงจร ช่วยปรับให้เกิดควำมสมดุลของระบบในภำครวม จึงได้มีกำรประยุกต์ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสิ่งมีชีวิตใน
ระบบนิเวศ มำปรับใช้กับควำมสัมพันธ์ระหว่ำงโรงงำนอุตสำหกรรมที่อยู่ในเขตเดียวกัน และเรียกระบบนี้ว่ำระบบอุตสำหกรรม
เชิงนิเวศ ที่ประกอบไปด้วย ผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ย่อยสลำย ผู้ให้บริกำรพิเศษ (Calow ,1998)&(Liwarska-Bizukojc et. al.,
2008) เพื่อให้เกิดกำรแลกเปลี่ยนของมวลสำร พลังงำน และทรัพยำกร ต่ำงๆระหว่ำงกัน โดยมีกำรทดลองทำจริง ครั้งแรกใน
เมือง คำลุนเบิร์ก ประเทศเดนมำร์ก ซึ่งเป็นกำรปรับโรงงำนเดิม ให้สำมำรถแบ่งปันทรัพยำกรระหว่ำงกัน มีกำรแลกเปลี่ยนผล
พลอยได้จำกกำรผลิต เช่นไอน้ำ Fly Ash เป็นต้น ทำให้ลดปริมำณมลภำวะ ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในกำรจัดทำรำยงำนแนวคิดอุตสำหกรรมเชิงนิเวศกับกำรประยุกต์ใช้กับอุตสำหกรรมปิโตรเคมีและ
อุตสำหกรรมที่เกี่ยวเนื่องนี้ ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบรูปแบบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงโรงงำนอุตสำหกรรมที่อยู่ในเขตนิคม
อุตสำหกรรมเดียวกัน เพื่อให้เกิดควำมคิดใหม่ๆในกำรพัฒนำระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศของอุตสำหกรรมปิโตรเคมีและ
อุตสำหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง โดยใช้กำรประเมินประสิทธิภำพเชิงเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือเพื่อต้องกำรแสดงให้เห็นว่ำ ถ้ำหำกใช้
แบบจำลองอุตสำหกรรมเชิงนิเวศนี้ แล้วจะได้รับผลตอบแทนอย่ำงไร และถ้ำหำกจะให้มีผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ผู้เขียนก็ได้เสนอ
แนวทำงในกำรปรับปรุงว่ำควรทำอย่ำงไร เพื่อให้เกิดแนวคิดในกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืน สำหรับกำรออกแบบนิคมอุตสำหกรรมเชิง
นิเวศของอุตสำหกรรมปิโตรเคมีและอุตสำหกรรมที่เกี่ยวเนื่องต่อไป
บทที่ 2
ทบทวนวรรณกรรม
แนวคิดในการทานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ควำมหมำยของแนวคิดนิคมอุตสำหกรรมเชิงนิเวศ( Eco-Industrial Approach) หรือในอดีตถูกเรียกว่ำระบบนิเวศน์
อุตสำหกรรม(Industrial Ecology) มำจำกกำรนำเอำกรอบควำมคิดในเรื่องของกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อม มำประยุกต์ใช้กับ
รูปแบบของระบบของอุตสำหกรรมเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่ำงกำรใช้ผลพลอยได้จำกกำรผลิตมำผลิตเป็นผลผลิตหรือสินค้ำที่มีต่อ
ขีดควำมสำมำรถในกำรรับมลภำวะ(Carrying Capacity)ของท้องถิ่นและโลก โดยมีจุดมุ่งหมำยที่จะปรับกระบวนกำรของกำร
ผลิตและกำรบริโภคของมนุษย์จำกเดิมที่อยู่ในระบบเชิงเส้นมำเป็นระบบวงจรปิด เพื่อให้โลกของอุตสำหกรรมเข้ำใกล้ควำมเป็น
ระบบนิเวศน์ในเชิงพลวัตร ระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศรวบรวมกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งในกำรพัฒนำระบบวงจรปิดทั้งในระดับโรงงำน
เขตอุตสำหกรรม หรือระดับภูมิภำค แนวคิดและโครงกำรจะได้แสดงให้เห็นขั้นตอนสำคัญที่จะนำไปสู่กำรพัฒนำที่ยั่งยืน(Lowe
& Evans,1995)
ระบบวงจรปิด(Closed loop system) คือระบบที่ผลิตผล(ผลพลอยได้จำกกำรผลิต)จำกกำรผลิตบำงส่วนหรือทั้งหมด
ถูกใช้เป็นปัจจัยกำรผลิต(BusinessDictionary.com) สำมำรถช่วยลดกำรใช้วัตถุดิบใหม่ๆอันจะนำไปสู่กำรทำลำยสิ่งแวดล้อม
และทรัพยำกรธรรมชำติที่เพิ่มขึ้น ประเทศที่เป็นผู้นำในระบบวงจรปิดคือประเทศเยอรมันและญี่ปุ่นเพรำะได้สร้ำงควำมล้ำหน้ำ
อย่ำงสำคัญในกำรสร้ำงแรงจูงใจในกำรนำเอำกำรรีไซเคิลมำประยุกต์ใช้ในระบบอุตสำหกรรมของตนและแสวงหำควำม
ได้เปรียบกำรแข่งขันจำกกำรทำเช่นนั้น(Mathews & Tan, 2011) ในขณะที่จีนซึ่งเป็นประเทศที่พัฒนำระบบนี้ตำมมำภำยใต้
ชื่อของ ระบบเศรษฐกิจแบบวงจรปิด (Circular Economy System) ได้เพิ่มควำมเข้มข้นขึ้นไปด้วยกำรประกำศเป็นกฎหมำย
อย่ำงเป็นทำงกำรในปี 2002 และใช้เป็นเป้ำหมำยในกำรพัฒนำเศรษฐกิจของตน (Mathews & Tan, 2011) อันเนื่องมำกจำก
ควำมเสื่อมโทรมของสภำพแวดล้อมและควำมขำดแคลนทรัพยำกร( Su et. al.,2013),(Yong,2007) โดยเป็นกลยุทธกำร
พัฒนำที่ยั่งยืนเพื่อพัฒนำประสิทธิภำพในกำรใช้วัตถุดิบและพลังงำนและได้ถูกนำไปใช้และพัฒนำในหลำยพื้นที่นำร่องของ
ประเทศจีน และได้มีกรณีศึกษำมำกมำยในระบบเศรษฐกิจวงกลมทั้งจำกแนวคิดขั้นพื้นฐำนถึงกำรนำไปใช้ในทำงปฏิบัติใน ปักกิ่ง
เซี่ยงไฮ้และเทียนจิน( Su et. al.,2013)
สำหรับประเทศที่พัฒนำแล้วกำรปรับเปลี่ยนอุตสำหกรรมในประเทศมำเป็นอุตสำหกรรมเชิงนิเวศมีควำมจำเป็นเพื่อลด
มลภำวะที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กรณีศึกษำกำรหมุนเวียนของวัตถุดิบและพลังงำนของอุตสำหกรรมที่อยู่ร่วมกันใน
เมือง Kymenlaakso ในฟินแลนด์ โดยพิจำรณำกำรใช้เชื้อเพลิงและพลังงำนร่วมกับกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจกระหว่ำง
อุตสำหกรรมผลิตเยื่อกระดำษและกระดำษ พบว่ำมีควำมเป็นไปได้ในกำรลดกำรใช้พลังงำนและกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจก
ทั้งหมด(Sokka et. al.,2011) ต่ำงจำก เมืองเฟลนเดอร์ส(Flanders)ในเบลเยี่ยม ที่ได้ริเริ่มแผนกำรลดกำรปล่อยก๊ำซ
คำร์บอนไดออกไซด์ในเขตอุตสำหกรรม กำรสร้ำงอำคำรและกระบวนกำรผลิตที่ประหยัดพลังงำน เพื่อเป็นแรงบันดำลใจสำหรับ
กำรผลิตและบริโภคไฟฟ้ำสีเขียว(กำรผลิตไฟฟ้ำที่ลดกำรก่อมลพิษ)แต่จำกกำรศึกษำพบว่ำโรงงำนและกระบวนกำรผลิตไม่เอื้อ
ต่อกำรลดกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจกซึ่งเมืองควรแก้ปัญหำด้วยกำรหันไปใช้พลังงำนทดแทน ในส่วนของกำรประหยัดพลังงำนก็
ขำดควำมยืดหยุ่นและควำมเชี่ยวชำญซึ่งเมืองต้องแก้ปัญหำด้วยกำรออกแบบระบบกำรแลกเปลี่ยนพลังงำนและควำมร้อนให้มี
ควำมยืดหยุ่น(Maes et. al., 2011) แสดงถึงกำรเป็นอุตสำหกรรมที่มีควำมเกี่ยวเนื่องกัน มีผลต่อควำมสำมำรถในกำรลดกำร
ใช้พลังงำนและกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจก
ส่วนผลกำรศึกษำในประเทศกำลังพัฒนำ กรณีศึกษำประเทศเวียดนำมที่ยังไม่มีอุตสำหกรรมเชิงนิเวศแต่ได้มีผู้ศึกษำ
ควำมเป็นไปได้เพื่อพัฒนำกลุ่มอุตสำหกรรมกำรเกษตรเชิงนิเวศ ในกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ,บริษัทที่ดำเนินกำรเกี่ยวกับประมง,
โรงงำนที่ใช้ปัจจัยกำรผลิตที่เกี่ยวข้องและโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งพบว่ำควำมคุ้มค่ำในกำรลงทุนทำงเศรษฐกิจในกำรออกแบบกลุ่ม
อุตสำหกรรมเกษตรเชิงเศรษฐนิเวศของเวียดนำมขึ้นอยู่กับกำรประหยัดพลังงำนและรำยรับที่เพิ่มขึ้นจำกกำรขำยของเหลือจำก
กำรผลิตที่ถูกเพิ่มมูลค่ำ อันได้แก่ ไคโตซำนและอำหำรสัตว์(Anh et. al.,2011) ใน อียิปต์ พบว่ำปัจจัยของควำมสำเร็จและ
ข้อจำกัดที่สำคัญคือ กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์แบบพึ่งพำ, กำรรับรู้และกำรแบ่งปันข้อมูล, ผลตอบแทนทำงกำรเงิน,โครงสร้ำงของ
องค์กร และกรอบของระเบียบข้อบังคับและกฎหมำย(Sakr et. al.,2011) ขณะที่กรณีศึกษำในเมืองริโอเดอจำเนโร บรำซิล
อุตสำหกรรมเชิงนิเวศถูกประกำศเป็นกฎหมำยซึ่งเป็นกำรส่งเสริมให้เกิดกำรพัฒนำที่ยั่งยืนและช่วยเยียวยำควำมทุกข์ที่เกิดจำก
กำรพัฒนำเขตอุตสำหกรรมและตัวเมืองอย่ำงไม่ได้วำงแผน โดยผลกำรศึกษำพบว่ำเมืองริโอมีศักยภำพในกำรพัฒนำเป็นเขต
อุตสำหกรรมที่ยั่งยืนตำมแบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศ แต่ระบบนี้จะสำเร็จได้เมื่อทุกฝ่ำยที่เกี่ยวข้องให้ควำมสนใจที่จะร่วมมือกันใน
กำรพัฒนำ(Veiga & Magrini,2009)
1 เหตุที่ทาให้เกิดแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ผลกระทบด้ำนมลภำวะ
เนื่องกำรกำรผลิตในภำคอุตสำหกรรมเป็นกำรนำเอำวัตถุดิบมำเข้ำสู่กระบวนกำรในกำรผลิตและก่อให้เกิดของเสียที่ถูก
ปล่อยออกมำในรูปมลภำวะ เช่นกำรนำเอำเชื้อเพลิงจำกฟอสซิลมำใช้เผำไหม้เป็นพลังงำนควำมร้อน ก่อให้เกิดก๊ำซเรือนกระจก
เป็นต้น(Carr,1998) ซึ่งมีผลให้เกิดผลกระทบต่อน้ำในรูปของกำรเจือปนของสำรที่เป็นพิษเช่น สำรหนู ปรอท เป็นต้น
ผลกระทบของดินในรูปของโลหะหนักประเภท ตะกั่ว โครเมี่ยม แบเรี่ยม หรือปรอท เป็นต้น ผลกระทบด้ำนอำกำศ ในรูปของก๊ำซ
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เป็นต้น ดังนั้นในช่วงแรกแนวคิดในกำรคิดระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศ จึงให้ควำมสำคัญกับกำรลดปริมำณ
ของเสียที่เกิดขึ้นจำกกระบวนกำรผลิตหนึ่ง โดยนำมำใช้เป็น วัตถุดิบในกำรผลิตของอีกกระบวนกำรหนึ่ง เช่น กำรนำเอำก๊ำซ
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มำผ่ำนกระบวนกำร ( Sulphur Recovery Unit) เพื่อให้ได้กรดซัลฟุริก เป็นต้น
กำรขำดแคลนทรัพยำกร
เนื่องจำกกำรเพิ่มขึ้นของจำนวนประชำกรทำให้ควำมต้องกำรสินค้ำและบริกำรเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรในกำร
อุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นส่งผลให้จำเป็นต้องมีกำรพัฒนำให้สำมำรถนำของเสียหรือวัสดุเหลือใช้จำกกำรผลิตจำกกำรผลิตหรือซำก
มำ Recycle Reuse Repair เพื่อให้นำกลับมำใช้ได้ใหม่ หรือ กำรปรับกระบวนกำรผลิต ให้สำมำรถลดกำรใช้วัตถุดิบ(Reuse)
หรือกำรเปลี่ยนวัตถุดิบ(Reproduct)ในกำรผลิตใหม่ทั้งหมดเพื่อลดมลพิษที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมเช่น เปลี่ยนกำรผลิต
กระแสไฟฟ้ำจำก ก๊ำซธรรมชำติและถ่ำนหิน มำเป็นกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำจำกลมและแสงแดด เป็นต้น ในกรณีของประเทศจีนที่
มีกำรตั้งเป้ำให้เศรษฐกิจเติบโตเป็น 4 เท่ำ ในปี 2020 นับจำกปี 2000 จะส่งผลให้ต้องมีกำรบริโภค ทรัพยำกรเป็นจำนวนมำก
เพื่อให้เกิดกำรเติบโตเพียงนั้น แรงกดดันนี้จะทำให้เกิดกำรขำดแคลนทรัพยำกร จีนจึงมีควำมจำเป็นต้องเริ่มระบบเศรษฐกิจ
วงจรปิด(Circular Economy System) เพื่อมุ่งสู่กำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืนในอนำคต (Yong,2007)
2 การพัฒนาแนวความคิดในการนาระบบการหมุนเวียนของสสารและพลังงานในระบบนิเวศน์มา
ประยุกต์ใช้กับกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
นับตั้งแต่ปี 1989 มีควำมพยำยำมที่จะนำระบบนิเวศน์เข้ำมำประยุกต์ใช้ในภำคอุตสำหกรรม โดยเริ่มจำกข้อตกลง
Bruntland ในปี 1987 ซึ่งนำมำสู่กำรปฏิบัติจริง เป็นควำมสัมพันธ์ในระบบนิเวศน์ของภำคอุตสำหกรรมที่เมือง คำลุนเบิร์ก
ประเทศเดนมำร์ก อุตสำหกรรมเชิงนิเวศ ได้รวบรวมวิธีกำรที่จะให้โรงงำนต่ำงๆพัฒนำควำมได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในทำง
กำยภำพในกำรแลกเปลี่ยน วัตถุดิบ พลังงำน น้ำและผลพลอยได้จำกกำรผลิต โดยผ่ำนกำรร่วมมือและกำรทำงำนร่วมกัน ใน
กลุ่มอุตสำหกรรมปิโตรเคมี มีโอกำสที่จะแลกเปลี่ยนกันใน 3 รูปแบบ ดังนี้ (Chertow , 2007)
1.กำร Reuse ผลพลอยได้จำกกำรผลิต ได้แก่กำรแลกเปลี่ยนผลพลอยได้จำกกำรผลิตของโรงงำนหนึ่งไปเป็นวัตถุดิบ
ในกำรผลิตของอีกโรงงำนหนึ่งเช่นกำรนำเอำน้ำมันหนักจำกโรงงำนหนึ่งไปเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในกำรผลิตน้ำมันหล่อลื่นของอีก
โรงงำนหนึ่ง
2.กำรแบ่งปันระบบสำธำรณูปโภคร่วมกัน ได้แก่กำรแบ่งปัน กำรบำบัดน้ำเสีย กระแสไฟฟ้ำ พลังงำนควำมร้อน และ
น้ำ ร่วมกัน
3.กำรให้บริกำรร่วมกัน ได้แก่ ระบบดับเพลิง ระบบกำรขนส่งร่วมกัน
ซึ่งจะถูกนำมำใช้เป็นแนวทำงในกำรออกแบบ Model ของรำยงำนฉบับนี้
ดัดแปลงจำก (Liwarska-Bizukojc
et. al.,
3 ส่วนประกอบของระบบนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศเป็นระบบที่ถูกพัฒนำมำจำกทฤษฎีระบบนิเวศน์ ดังนั้นจึงใช้กำรแบ่งส่วนประกอบของ
ระบบนิเวศน์เป็นพื้นฐำน สำมำรถแบ่งออกได้เป็น 5 ส่วนประกอบดังนี้ (Calow ,1998)&(Liwarska-Bizukojc et. al., 2008)
1. ผู้ผลิตอุตสำหกรรม(Industrial Producer) ในระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศ แบ่งได้เป็น
a. ผู้ผลิตวัตถุดิบที่ต้องกำร เพื่อผลิตสินค้ำขั้นต้นและก่อให้เกิด ผลพลอยได้จำกกำรผลิต เพื่อป้อนเข้ำสู่
ระบบ
b. ผู้ผลิตพลังงำน(โรงไฟฟ้ำ) เป็นผู้ผลิตพลังงำนเพื่อส่งให้กับระบบฯ
2. ผู้บริโภคอุตสำหกรรม (Industrial Consumer) เป็นผู้ที่รับวัตถุดิบและพลังงำนในกำรผลิตมำจำก ผู้ผลิต
อุตสำหกรรม กระบวนกำรผลิตนี้จะทำให้เกิดของเสียที่เกิดจำกกระบวนกำรผลิต
3. ผู้ย่อยสลำยอุตสำหกรรม เป็นผู้ที่ทำหน้ำที่ในกำรเปลี่ยนรูป, Recycle, ทำผลพลอยได้จำกกำรผลิตให้เป็นกลำง
เพื่อลดสำรที่จะก่อให้เกิดมลพิษที่จะเกิดจำก ของเสียที่เป็นทั้งของเหลวและของแข็งที่เกิดจำกผู้ผลิตอื่นๆ
4. ผู้ให้บริกำรพิเศษในระบบ(Eury- and stenoenterprises) ได้แก่ผู้ที่ผลิตสินค้ำชนิดพิเศษที่เฉพำะเจำะจงเพื่อ
ตอบสนองลูกค้ำเฉพำะรำยในอุตสำหกรรมเชิงนิเวศเช่น ผู้ผลิตอะไหล่เครื่องบินรบ ผู้ผลิตสำรนำโนเพื่อเคลือบ
เสื้อผ้ำ เป็นต้น
5. ผู้รวบรวมข้อมูลกลำง(Nuero Center) ได้แก่หน่วยงำนกลำงที่ทำหน้ำที่ในกำรรวบรวมข้อมูลต่ำงๆเช่น ผลกำร
ติดตำมผลกระทบสิ่งแวดล้อมออนไลน์(BOD,COD Online) หรือกำรร่วมกันซื้อวัตถุดิบเพื่อต่อรองรำคำ เป็นต้น
ให้เป็นระบบเพื่อให้สำมำรถนำไปใช้ในกำรจัดสรรทรัพยำกรและติดตำมผลกระทบด้ำนสิ่งแวดล้อมจำกมลภำวะได้
อย่ำงมีประสิทธิภำพ(ธนกรม,2013 : เพิ่มเติมจำกที่ได้มีกำรทบทวนวรรณกรรม)
DATA
Effective
Distribution
1.4การหมุนเวียนของ สสารและพลังงาน ในระบบ
กำรหมุนเวียนของสสำรและพลังงำนในระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศมีควำมแตกต่ำงจำกระบบนิเวศน์ตำมธรรมชำติ
เพรำะในธรรมชำติพลังงำนมีไม่จำกัดเพรำะเป็นกำรรับพลังงำนจำกแสงอำทิตย์โดยตรงจำกกำรสังเครำะห์แสงของพืช
แต่ในระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศ พลังงำนจะมีจำกัดเพรำะแหล่งพลังงำนจะมำจำก วัตถุดิบที่ให้พลังงำน อันได้แก่
ถ่ำนหิน ก๊ำซธรรมชำติ หรือ พลังงำนนิวเคลียร์ เป็นต้น ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในรูปของของเสียมีพิษ โดย
ผังแสดงกำรเปรียบเทียบ กำรหมุนเวียนของสสำรและพลังงำน ระหว่ำงระบบอุตสำหกรรมเชิงนิเวศ(b)และระบบ
นิเวศน์ในธรรมชำติ(a)แสดงได้ดังรูป
NUERO CENTER
บทที่ 3
กรอบในกำรจำลองแนวคิดนิคมอุตสำหกรรมเชิงนิเวศกับกำรประยุกต์ใช้กับอุตสำหกรรมปิโตรเคมี
จำกกำรทบทวนวรรณกรรมในบทที่ผ่ำนมำจะแบ่งขั้นตอนของกำรพิจำรณำกรอบแนวคิดในกำรออกแบบจำลอง
ออกเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้
1. กำรกำหนดกรอบสมมติฐำน
2. กำรออกแบบจำลอง
3. กำรประเมินแบบจำลอง
1. กำรกำหนดกรอบสมมติฐำน
ข้อกำหนดขั้นต้น
1. Gasolineหรือน้ำมันเบนซินมีคำร์บอนต่อโมเลกุล อยู่ 4 – 12 อะตอม
2. Diesel หรือน้ำมันดีเซลมีคำร์บอนต่อโมเลกุลอยู่ 8- 21อะตอม
3. ถ่ำนหิน Bituminous ให้พลังงำน 23,000,000 กิโลแคลอรี่ต่อตัน และเมื่อเผำไหม้แล้วจะเหลือ Fly Ash 94%ของ
น้ำหนักเดิม
4. น้ำมันดิบมีควำมหนำแน่นเท่ำกับ 0.88
5. 1 บำร์เรล เท่ำกับ 158.9872972 ลิตร
6. จำก 1 บำร์เรล เท่ำกับ 158.9872972 ลิตร
โดยมีควำมหนำแน่นเท่ำกับ 0.88 เท่ำของน้ำ
ดังนั้น น้ำมันดิบ 1 บำร์เรล จะมีน้ำหนักเท่ำกับ
158.9872972 x 0.88 = 139.908821536 กิโลกรัม (น้ำ 1 ลิตร หนัก 1 กิโลกรัม) เมื่อเทียบเป็นเมตริกตันจะได้ว่ำ
น้ำมันดิบ 1 บำร์เรล หนัก 0. 139908821536 เมตริกตัน
ทำให้น้ำมันดิบ 200,000 บำร์เรล มีน้ำหนัก 27,982 เมตริกตัน
สมมติฐำนในกำรสร้ำงแบบจำลอง
1. กำรระบำยควำมร้อนเป็นแบบ หอระบำยควำมร้อน Cooling Tower
2. น้ำมันดิบมีกำรนำเข้ำ 200,000 บำร์เรลต่อวัน คิดเป็น 27,982 ตัน/วัน
3. น้ำมันดิบเป็นประเภท Sweet Oil Arabian Light ที่มำจำกแหล่ง ซำอุดิอำรำเบีย
4. Naphtha กลั่นได้ 15 % จำกน้ำมันดิบ
5. น้ำมันใส กลั่นได้ 20% จำกน้ำมันดิบ
6. น้ำมันหล่อลื่น 10% จำกน้ำมันดิบ
7. น้ำมันเตำและน้ำมันหนัก 40% จำกน้ำมันดิบ
8. Asphalt, Wax และผลิตภัณฑ์อื่น 15% จำกน้ำมันดิบ
9. โรงกลั่นมีระบบ Sulphur Recovery และ Mercury Recovery
10. โรงกลั่นเป็นหอกลั่นแบบลดควำมดัน
11. โรงไฟฟ้ำเป็นแบบใช้ถ่ำนหิน ที่มีระบบดักกรองฝุ่นละอองเป็นอย่ำงดี
12. ท่ำเรือมี 2 ท่ำ เป็นท่ำเรือขนสินค้ำปิโตรเลียมและสินค้ำเหลว 1 ท่ำ และ ท่ำเรือสินค้ำเทกอง 1 ท่ำ
13. ไอน้ำแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ไอน้ำควำมดันสูง (50 บรรยำกำศ)และไอน้ำควำมดันต่ำ(25 บรรยำกำศ)
14. ในกำรผลิตน้ำDemin น้ำประปำ 1.1 เท่ำ จะผลิตเป็นน้ำ Demin ได้ 1 เท่ำ (อ้ำงอิงจำก กระบวนกำรผลิตจริงของ
บริษัท ไออำร์พีซี จำกัด (มหำชน) )
15. โรงบำบัดน้ำเสีย จะมีระบบ Pre-Treatment เพื่อทำให้น้ำเสียสำมำรถเข้ำสู่ระบบกำรกำจัดที่เป็นแบบ
Activated Sludge แบบเชื้อที่มีควำมทนทำนสูงได้
2. กำรออกแบบจำลอง
รูปแบบ IPO Model ของแบบจำลองจะแสดงได้ดังนี้
น้ำมันดิบ
น้ำดิบ
ถ่ำนหิน
โรงกลั่นน้ำมัน
โรงผลิตปิโตรเคมี
โรงผลิตน้ำประปำ
โรงผลิตไฟฟ้ำ
โรงบำบัดน้ำเสีย
ท่ำเทียบเรือ
โรงผลิตน้ำ Demin
โรงงำนผลิตปูนซีเมนต์
ชุมชน
น้ำมันใส
เม็ดพลำสติก
ไฟฟ้ำ
ปุย
น้ำประปำ
Product By Product
น้ำประปำ
Naphtha
Sludge
ไอน้ำ
ควำมร้อน
Fly Ash
มีเทน
น้ำDemin
น้ำมันหล่อลื่น
น้ำมันหนัก
น้ำมันหนักและน้ำมันเตำ
รูปแบบควำมสัมพันธ์ในระบบนิเวศของแบบจำลอง
1. ภำวะพึ่งพำ ( Mutualism : +,+) หมำยถึง กำรอยู่ร่วมกันของหน่วยผลิต 2ชนิดโดยต่ำงก็ได้รับประโยชน์ซึ่งกัน
และกัน หำกแยกกันอยู่จะไม่สำมำรถดำเนินงำนต่อไปได้ ได้แก่ ท่ำเทียบเรือและโรงกลั่นน้ำมัน เพรำะถ้ำขำดโรง
กลั่น น้ำมันดิบที่รับมำก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ และถ้ำขำดท่ำเทียบเรือ ก็ขำดสถำนที่รับน้ำมันดิบมำใช้ในกำรผลิต
และขำดที่ระบำยน้ำมันเตำและน้ำมันหนักที่จะขำยไปให้กับเรือเดินทะเลขนำดใหญ่เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงของเรือ
โรงบำบัดน้ำเสียกับโรงกลั่นและโรงปิโตรเคมี โดยโรงบำบัดน้ำเสียต้องเรำน้ำเสียมำบำบัดถ้ำไม่มีน้ำเสียก็ไม่
สำมำรถดำเนินกำรได้ ส่วนโรงกลั่นและโรงปิโตรเคมีต้องมีกำรบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำสำธำรณะเพื่อ
ไม่ให้ผิดกฎหมำย
2. ภำวะได้ประโยชน์ร่วมกัน ( Protocooperation : + ,+ ) หมำยถึง กำรอยู่ร่วมกันของหน่วยผลิต 2 ชนิดโดยก็
ได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกัน แม้แยกกันอยู่ก็สำมำรถดำรงชีวิตได้ตำมปกติ เช่น โรงไฟฟ้ำกับท่ำเทียบเรือ โดยท่ำ
เทียบเรือได้รำยได้จำกกำรขนถ่ำยถ่ำนหินและได้ไฟฟ้ำจำกโรงไฟฟ้ำ ส่วนโรงไฟฟ้ำได้แหล่งรับถ่ำนหิน แต่ถ้ำ
แยกกันโรงไฟฟ้ำก็ยังรับถ่ำนหินจำกทำงรถได้แม้อำจจะมีรำคำแพง และท่ำเรือก็ยังมีรำยได้หลักจำกกำรขนถ่ำย
น้ำมันดิบและน้ำมันอื่นอยู่
3. ภำวะอิงอำศัยหรือภำวะเกื้อกูล ( Commensalism : + , 0) หมำยถึง กำรอยู่ร่วมกันของหน่วยผลิต 2ชนิดโดย
ฝ่ำยหนึ่งได้ประโยชน์ อีกฝ่ำยหนึ่งไม่ได้และไม่เสียประโยชน์ แต่ถ้ำแยกจำกกัน อีกฝ่ำยหนึ่งเสียประโยชน์ขณะที่อีก
ฝ่ำยหนึ่งเป็นกลำง เช่น โรงไฟฟ้ำ กับ โรงกลั่นและโรงปิโตรเคมี เพื่อโรงไฟฟ้ำสนับสนุนไอน้ำควำมดันสูงและควำม
ดันต่ำให้เพื่อใช้ในกำรขับเคลื่อนเครื่องจักรและให้ควำมร้อนในหอกลั่น แต่ไม่ได้อะไรกลับมำ แม้ว่ำอำจจะมีกำร
นำน้ำมันเตำและน้ำมันหนักมำเป็นเชื้อเพลิงในกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำได้แต่ ณ ปัจจุบัน จะทำให้ต้นทุนในกำรผลิต
กระแสไฟฟ้ำเพิ่มขึ้นมำกจึงไม่นำมำคิดในแบบจำลองนี้ แต่ถ้ำแยกจำกกัน โรงไฟฟ้ำก็ปล่อยไอน้ำทิ้งไปเฉยๆ แต่
โรงกลั่นและโรงปิโตรเคมีจะมีต้นทุนจำกกำรที่ต้องใช้เชื้อเพลิงผลิตไอน้ำเพิ่มขึ้น ชุมชนกับโรงบำบัดน้ำเสีย ถ้ำ
หำกร่วมกันชุมชนได้วัตถุดิบ ส่วน โรงบำบัด ถ้ำไม่ส่งชุมชนก็จะมีกำรฝังกลบอยู่แล้ว โรงบำบัดน้ำเสียและต้นไม้
รอบนิคม ต้นไม้ได้น้ำจำกกำรบำบัดน้ำเสียมำรดน้ำต้นไม้ร่วมถึงในช่วงฤดูแล้งที่ขำดแคลนน้ำด้วย ส่วนโรงบำบัด
ไม่มีผล แต่ถ้ำแยกกัน ต้นไม้จะขำดน้ำในช่วงฤดูแล้ง และโรงบำบัดไม่มีผลเช่นเดียวกัน
4. ลักษณะกำรอยู่ร่วมกัน:แบบภำวะมีกำรย่อยสลำย(Saprophytism:+,0) กำรอยู่ร่วมกันของหน่วยผลิต 2ชนิด
โดยฝ่ำยหนึ่งได้ประโยชน์ อีกฝ่ำยหนึ่งไม่ได้และไม่เสียประโยชน์ แต่ถ้ำแยกจำกกัน อีกฝ่ำยหนึ่งเสียประโยชน์
ขณะที่อีกฝ่ำยหนึ่งเป็นกลำง ได้เช่น โรงไฟฟ้ำกับโรงผลิตปูนซีเมนต์ โดยโรงผลิตปูนซีเมนต์ได้ประโยชน์จำก Fly
Ash ที่นำมำเป็นส่วนประกอบของปูนซีเมนต์แต่ถ้ำแยกจำกกัน โรงผลิตปูนซีเมนต์จะมีต้นทุนในกำรหำวัตถุดิบ
เพิ่มขึ้น ส่วนโรงไฟฟ้ำก็หำสถำนที่ฝังกลบ ชุมชนกับโรงปูนซีเมนต์ ที่ชุมชนส่งมีเทนจำกกำรหมักปุยไปให้โรง
ปูนซีเมนต์ทำเป็น อะเซทิลีน เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในกำรผลิตปูนซีเมนต์
5. ลักษณะกำรอยู่ร่วมกัน :แบบภำวะปรสิต (Parasitism :+,-)กำรอยู่ร่วมกันของหน่วยผลิต 2 ชนิดโดยฝ่ำยหนึ่งได้
ประโยชน์ อีกฝ่ำยหนึ่งเสียประโยชน์ แต่ถ้ำแยกจำกกัน อีกฝ่ำยหนึ่งเสียประโยชน์ขณะที่อีกฝ่ำยหนึ่งเป็นกลำงได้แก่
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำง ชุมชน และโรงกลั่นน้ำมันผ่ำนสถำนีบริกำร โดยกำรที่สถำนีบริกำรขำยน้ำมันในรำคำถูกให้
ชุมชน สถำนีบริกำรผลกำไรลดลง แต่ถ้ำแยกกันชุมชนต้องจ่ำยเงินซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้น
6. ลักษณะกำรอยู่ร่วมกัน : แบบภำวะ กำรแก่งแย่งแข่งขัน (Competition) กำรอยู่ร่วมกันของหน่วยผลิต 2 ชนิด
โดยทั้ง 2 ฝ่ำยเสียประโยชน์ แต่ถ้ำแยกจำกกัน ทั้ง 2 ฝ่ำยเป็นกลำง ได้แก่ โรงไฟฟ้ำ โรงกลั่นน้ำมัน และ โรงปิโตร
เคมี ในเรื่องของกำรแย่งใช้น้ำประปำเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกำรผลิต
7. ลักษณะกำรอยู่ร่วมกัน :แบบภำวกำรณ์หลั่งสำรยับยั้ง (Antibiosis : 0 , -) กำรอยู่ร่วมกันของหน่วยผลิต 2 ชนิด
โดยฝ่ำยหนึ่งเป็นกลำง อีกฝ่ำยหนึ่งเสียประโยชน์ แต่ถ้ำแยกจำกกัน แต่ถ้ำแยกจำกกัน ทั้ง 2 ฝ่ำยเป็นกลำง ได้แก่
ชุมชน และ โรงงำน ต่ำงๆในระบบ ในเรื่องของมลภำวะที่ปล่อยออกมำจำกโรงงำนจะมีผลต่อสุขภำพของคนใน
ชุมชน แต่ถ้ำแยก กันชุมชนจะได้รับมลภำวะน้อยลงและสุขภำพจะดีขึ้น
แผนผังแสดงกำรกระจำยของมวลสำร(Material) ของ นิคมอุตสำหกรรมปิโตรเคมีและกำรกลั่นเชิงนิเวศสมมติ
Inputมวล(ตัน)ผลิตภัณฑ์ขั้นที่1สัดส่วน%มวล(ตัน)ผลิตภัณฑ์ขั้นที่2มวล(ตัน)น้ำที่ผ่ำนกำรบำบัดแล้วมวล(ตัน)
สูญเสียในกำรผลิต
มวล(ตัน)
สูญเสียในกำรระเหย
มวล(ตัน)
น้ำมันดิบ27,982Naphtha15.004,197สูญเสียในกำรผลิตเม็ดพลำสติก197.30
น้ำมันใสอื่น20.005,596
น้ำมันหล่อลื่น10.002,798
น้ำมันหนักและน้ำมันเตำ40.0011,193
Asphalt,Waxและผลิตภัณฑ์อื่นๆ15.004,197
รวม27,982100.0027,9820197.300.00
ถ่ำนหิน800FlyAsh94.00754
เผำไหม้เป็นพลังงำน46.00
รวม80094.00754046.00
น้ำประปำ30,000ใช้ในกระบวนกำรผลิต50.0015,000น้ำรดน้ำต้นไม้2,450
น้ำทิ้งบำบัดแล้วปล่อยลง
แหล่งน้ำสำธำรณะ2,500
ระเหยและสูญเสียในกำรดำเนินกำร10,000
น้ำDeminผลิตไอน้ำ45.3313,600ไอน้ำ13,600น้ำBlowdown3,600
ระเหยและสูญเสียในกำรดำเนินกำร10,000
คัดออกในกำรผลิตDemin1,400.00
รวม30,00095.3328,60013,6008,550020,000
Sludge50ปุ๋ยชีวภำพ94.34100สูญเสียในกำรผลิต4.00
วัสดุชีวภำพอื่น60ก๊ำซชีวภำพ5.666ก๊ำซอะเซทิลีน3
รวม11010634.000.00
รวมทั้งหมด58,89257,442ผลิตภัณฑ์ขั้นที่213,603น้ำทิ้งที่ผ่ำนกำรบำบัดแล้ว8,550สูญเสียในกำรผลิต1,647สูญเสียในกำรระเหย20,000
ตำรำงแสดงกำรกระจำยของมวลสำร(Material)ของนิคมอุตสำหกรรมปิโตรเคมีและกำรกลั่นเชิงนิเวศสมมติ
Input
ต้นทุน
(บำท/
ตัน)
รำยละเอียดต้นทุนรวม(บำท)สินค้ำ
รำคำ
ขำย
(บำท/
ลิตร)ควำมถ่วงจำเพำะเฉลี่ย
รำคำ
ขำย
(บำท/
ตัน)
รำยได้รวมสูญเสียในกำรผลิต
มวล(ตัน)
สูญเสียในกำรระเหย
มวล(ตัน)
น้ำมันดิบ22,515
น้ำมันดิบ1บำร์เรลหนัก0.
139908821536เมตริกตัน630,006,335Naphtha25ควำมถ่วงจำเพำะ0.7533,333139,908,601สูญเสียในกำรผลิตเม็ดพลำสติก197.30
1ดอลล่ำร์=30บำทน้ำมันใสอื่น30ควำมถ่วงจำเพำะ0.7540,000223,856,000
น้ำมันดิบ7.147512บำร์เรล=1ตันน้ำมันหล่อลื่น35ควำมถ่วงจำเพำะ0.938,889108,819,200
น้ำมันดิบรำคำ105$/บำร์เรล
น้ำมันหนักและ
น้ำมันเตำ15ควำมถ่วงจำเพำะ0.9815,306171,316,997
Asphalt,Wax
และผลิตภัณฑ์
อื่นๆ40ควำมถ่วงจำเพำะ220,00083,946,000
เม็ดพลำสติกผลิตได้4,000ตัน120,000480,000,000
รวม630,006,335รวม1,207,846,798
ถ่ำนหิน21,000รำคำตันละ700$16,800,000เผำไหม้เป็นพลังงำน46.00
น้ำประปำน้ำดิบไม่มีต้นทุน20,000น้ำประปำ20300,000คัดออกในกำรผลิตDemin1,400.00ระเหยและสูญเสียในกำรดำเนินกำร20,000
ค่ำสำรตกตะกอนคลอรีน
ค่ำไฟฟ้ำสูบน้ำ
น้ำDeminผลิตไอน้ำ100,000ไอน้ำ1001,500,000
โรงบำบัดน้ำเสียต้นทุนกำรเดินเครื่อง80,000ค่ำจ้ำงบำบัด100500,000
วัสดุชีวภำพอื่นค่ำขนส่งจำกแหล่งกำเนิด8,000สูญเสียในกำรผลิต4.00
647,014,3351,210,146,798
ตำรำงแสดงผลตอบแทนของแบบจำลอง
จำกกำรให้คำนิยำมของสภำธุรกิจโลกเพื่อกำรพัฒนำที่ยั่งยืน( The World Business for Sustainable
Development : WBCSD) ได้ให้คำนิยำมของ ประสิทธิภำพของนิเวศเชิงเศรษฐกิจไว้ว่ำ ประสิทธิภำพเชิงเศรษฐนิเวศสำมำรถ
ทำได้โดยกำรส่งมอบสินค้ำและบริกำรในรำคำที่สำมำรถแข่งขันได้ที่ตอบสนองควำมพอใจของมนุษย์และนำมำซึ่งคุณภำพชีวิต
ในขณะที่มีกระบวนกำรในกำรลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่ำงเข้มข้นของสินค้ำและมีกำรใช้ทรัพยำกรตลอดทั้งวงจรชีวิต
ผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในระดับที่น้อยที่สุดในแนวเดียวกันค่ำควำมสำมำรถในกำรรองรับของโลก โดยให้แนวทำงในกำรที่จะช่วยให้กำร
ดำเนินงำนด้ำนธุรกิจประสบควำมสำเร็จในเชิงนิเวศเศรษฐกิจ 7 ประกำร ซึ่งจะนำมำเป็นกรอบในกำรประเมินเชิงข้อเสนอแนะ
เพรำะข้อมูลเป็นข้อมูลสมมติไม่สำมำรถนำมำใช้ในกำรแสดงกำรเปรียบเทียบค่ำแตกต่ำงระหว่ำงปีได้ ดังนี้
1) ลดกำรใช้ทรัพยำกรหรือวัตถุดิบในกำรผลิตและกำรบริกำร
2) ลดกำรใช้พลังงำนในกำรผลิตและกำรบริกำร
3) ลดกำรระบำยสำรพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม
4) เสริมสร้ำงศักยภำพกำรนำวัสดุกลับมำใช้ใหม่
5) ส่งเสริมกำรใช้ทรัพยำกรหมุนเวียน
6) เพิ่มอำยุของผลิตภัณฑ์ และ
7) เพิ่มระดับกำรให้บริกำรแก่ผลิตภัณฑ์และเสริมสร้ำงธุรกิจบริกำร
สามารถวิเคราะห์เบื้องต้นได้ดังนี้
หัวข้อเรื่องกำรสูญเสียมวล(ตัน)รำคำ/ตันคิดเป็นเงินวิธีแก้ไขมวลสำรคิดเป็นเงิน(บำท)หมำยเหตุ
1)ลดกำรใช้ทรัพยำกรหรือวัตถุดิบ
ในกำรผลิตและกำรบริกำรNaphthaสูญเสียในกำรผลิตเม็ดพลำสติก197.3033,333.006,576,600.90นำมำrecycle1002,633,300.00
ต้นทุนกำรรีไซเคิล7,000
บำท/ตัน
น้ำประปำคัดออกในกำรผลิตDemin1,400.0020.0028,000.00
น้ำประปำระเหยและสูญเสียในกำรดำเนินกำร10,000.0020.00200,000.009,000180000
น้ำDeminระเหยและสูญเสียในกำรดำเนินกำร10,000.00100.001,000,000.009,000900000
สูญเสียมวลในกำรผลิตปุ๋ย4.003,200.0012,800.00
7,817,400.90ประหยัดเงินได้3,713,300.00
หัวข้อเรื่องกำรสูญเสียMwatt/ชม.รำคำ/ตันคิดเป็นเงินวิธีแก้ไขคิดเป็นเงินหมำยเหตุ
2)ลดกำรใช้พลังงำนในกำรผลิต
และกำรบริกำรถ่ำนหิน800ตันให้พลังงำน8911MW=860420.652kcal/h
ใช้เป็นพลังงำนในกำรผลิตไฟฟ้ำ150Mwatt450
ถ่ำนหินBituminousให้
พลังงำน23,000,000
กิโลแคลอรี่ต่อตัน
เหลือใช้เป็นไอน้ำที่มีพลังงำนแฝง441
คิดกลับเป็นถ่ำนหิน/ชม.ได้
(441X860,420)/23,000,0001621,000346,4808,315,511
หัวข้อเรื่องกำรสูญเสียมวล(ตัน)รำคำ/ตันคิดเป็นเงินวิธีแก้ไขคิดเป็นเงิน(บำท)หมำยเหตุ
4)เสริมสร้ำงศักยภำพกำรนำวัสดุ
กลับมำใช้ใหม่FlyAsh76410,0007,640,000นำมำเป็นส่วนประกอบกำรผลิตปูน7,640,000
19,668,811
คำนวณจำกค่ำสมมติและ
ยังไม่ครบทุกตัว
เปลี่ยนวิธีระบำยควำมร้อน
เป็นแบบครีบระบำยควำม
ร้อน
เมื่อคิดที่24ชม.ประหยัดเงิน/วันได้
รวมประหยัดเงินได้ต่อวัน
ตำรำงแสดงผลกำรดำเนินกำรเพื่อเพิ่มประสิทธิภำพทำงเศรษฐกิจที่เป็นตัวเงิน
บทที่ 4
บทสรุปและข้อเสนอแนะ
บทสรุป
1. แบบจำลองนี้สร้ำงผลตอบแทนทำงตรงEBITDAได้เท่ำกับ 563,212,462 บำทต่อวัน
2. แบบจำลองนี้สร้ำงผลตอบแทนทำงอ้อม ได้เท่ำกับ 19,668,811 บำทต่อวัน
3. กำรแลกเปลี่ยนผลพลอยได้จำกกำรผลิต ทำให้มีผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น
4. แบบจำลองนี้ไม่เหมำะกับกำรแลกเปลี่ยนผลผลิตกับชุมชนเพรำะผลตอบแทนโดยเปรียบเทียบกับในระบบอุตสำหกรรม
ต่ำมำก
ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีกำรเก็บสถิติจริงเพื่อกำรวิเครำะห์ เพรำะจะทำให้สำมำรถวิเครำะห์ประสิทธิภำพเชิงเศรษฐกิจของระบบได้
2. ควรมีกำรวิเครำะห์ประสิทธิภำพเพิ่มขึ้นอีกเพรำะยังมีหลำยวงจรที่ยังไม่ได้วิเครำะห์เนื่องจำกเวลำที่จำกัด

More Related Content

Recently uploaded

1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 

Recently uploaded (10)

1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนา
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 

Featured

Everything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTEverything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPT
Expeed Software
 
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Pixeldarts
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
ThinkNow
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
marketingartwork
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
Skeleton Technologies
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Kurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
SpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Lily Ray
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
Rajiv Jayarajah, MAppComm, ACC
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
Christy Abraham Joy
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
Vit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
MindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Applitools
 

Featured (20)

Everything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTEverything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPT
 
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 

แนวคิดอุตสาหกรรมเชิงนิเวศกับการปรับประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี