สารสนเทศเพื่อประกอบการตัดสินใจ

1. สารสนเทศเพื่อประกอบการตัดสินใจ
หน่วยการเรียนรู้ที่4
จัดทาโดย
ม.5/13
น.ส.ปาณิสรา อนันทรังสรรค์
เลขที่ 2
น.ส.ปิยะนุช ศิริอุดมไพศาล
เลขที่ 3
นายกิตติชัย ไพรพณา
เลขที่ 11
นายพงศภัค เฟื่องฟู
เลขที่ 17
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.5

2. ความหมาย
เกี่ยวกับ
สารทนเทศ
ข้อมูล
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือเป็นข่าวสารที่ยังไม่
ผ่านการประมวลผลยังไม่มีความหมายในกานนาไปใช้งาน ข้อมูล
อาจเป็นตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์ รูปภาพ เสียงหรือ
ภาพเคลื่อนไหว
สารสนเทศ
ข้อมูลที่ได้ผ่านการประมวลผลหรือวิเคราะห์ จัดระบบ
แล้ว เพื่อให้มีความหายและคุณค่าสาหรับผู้ใช้

3. ความหมาย
เทคโนโลยี
สารทนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีที่ประกอบด้วยระบบจัดเก็บและ
ประมวลผลข้อมูล ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์
สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านสารสนเทศที่มีการวางแผน
จัดการและใช้งานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ความหมายระบบ
สารทนเทศ
ระบบสารสนเทศ
คือ กระบวนการประมวลผลข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่ ให้อยู่ในรูป
ของข่าวสารที่เป็นประโยชน์สูงสุด เพื่อเป็นข้อสรุปที่ใช้สนับสนุน
การตัดสินใจของบุคคล ระดับบริหาร กระบวนการ ที่ทาให้เกิด
ข่าวสารสนเทศนี้เรียกว่า
“การประมวลผลสารสนเทศ”
และเรียกวิธีการประมวลผลสารสนเทศด้วยเครื่องมือทาง
อิเล็กทรอนิกส์ว่า
“เทคโนโลยีสารสนเทศ”
(Information Technology : IT)

5. ขั้นตอนการทาข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
มี 3 ขั้นตอน

6. การรวบรวมและ
ตรวจสอบข้อมูล
ประกอบด้วย2อย่าง
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลที่มีจานวนมากนั้น ต้องจัดเก็บ
ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนและทันเวลา เช่น ข้อมูลประวัติ
ส่วนตัว
การจัดเก็บข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จะ
ออกแบบให้สามารถจัดเก็บได้อย่างรวดเร็วและแม่นยา มี
ความผิดพลาดน้อยที่สุด และยังสามารถตรวจสอบความ
ถูกต้องได้ทันที

7. การตรวจสอบข้อมูล
เมื่อมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเข้ามาแล้วต้องมีการ
ตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้อง ข้อมูลที่เก็บเข้าในระบบ
จะต้องเชื่อถือได้ทาให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันมากที่สุด
การตรวจสอบข้อมูลสามารถทาได้หลายวิธี โดยสามารถใช้
วิธีการทางคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบ หรือใช้มนุษย์ใน
การตรวจสอบร่วมด้วยก็ได้

8. การดาเนินการ
ประมวลผลข้อมูลให้
กลายเป็นสารสนเทศ
การจัดแบ่งข้อมูล
ข้อมูลที่จัดเก็บจะต้องมีการแบ่งแยกกลุ่ม เพื่อเตรียมไว้
สาหรับการใช้งาน เช่น การเก็บข้อมูลประวัตินักเรียน
การจัดเรียงข้อมูล
ควรมีการจัดเรียงข้อมูลตามลาดับ โดยใช้หลักเกณฑ์ใด
หลักเกณฑ์หนึ่งเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลแนะนาไปใช้
ประโยชน์ได้เช่น การเรียงข้อมูลนักเรียนตามเลขประจาตัว

9. การดาเนินการ
ประมวลผลข้อมูลให้
กลายเป็นสารสนเทศ
การสรุปผล
เนื่องจากข้อมูลที่จัดเก็บมีจานวนมาก ทาให้
ไม่สามารถนาหน่วยของข้อมูลมาตัดสินใจได้
จาเป็นต้องมีการสรุปผลหรือสร้างรายงานย่อย เพื่อ
นาไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจ ข้อมูลที่สรุปได้นี้
อาจสื่อความหมายได้ดีกว่า เช่น สถิติการขาดเรียน
ของนักเรียน

10. การดาเนินการ
ประมวลผลข้อมูลให้
กลายเป็นสารสนเทศ
การคานวณ
การสร้างสนเทศจากข้อมูลสามารถอาศัยการ
คานวณข้อมูลที่เก็บไว้โดยใช้วิธีการคานวณให้สัมพันธ์กับ
ประเภทของข้อมูลและระดับของข้อมูล เช่น การคานวณ
จานวนนักเรียนชายและหญิงโดยใช้อัตราร้อยละ

11. การดูแลรักษา
สารสนเทศเพื่อการ
ใช้งาน
การเก็บรักษาข้อมูล
นาข้อมูลมาบันทึกเก็บไว้ในสื่อบันทึกต่างๆเพื่อให้เพียงพอต่อ
การประมวลผลและการตัดสินใจ
การค้นหาข้อมูล
ข้อมูลที่จัดเก็บไว้มีจุดประสงค์ให้เรียกใช้งานได้การค้นหา
ข้อมูลจึงต้องค้นหาได้อย่างถูกต้องแม่นยา รวดเร็ว โดยนาคอมพิวเตอร์
เข้ามามีส่วนช่วยในการทางาน

12. การดูแลรักษา
สารสนเทศเพื่อการ
ใช้งาน
การสาเนาข้อมูล
การทาสาเนาเพื่อนที่จะนาข้อมูลมาเก็บรักษาไว้อย่าง
ปลอดภัยหรือนาไปแจกจ่ายและใช้งานในภายหลัง ควรทาใน
รูปแบบที่ง่าย เช่น เก็บข้อมูลลงในแผ่นซีดี
การสื่อสาร
ข้อมูลต้องกระจายหรือส่งต่อไปยังผู้ใช้งานที่ห่างไกลได้
ง่าย การสื่อสารข้อมูลจึงเป็นปัจจัยสาคัญ จะทาให้การส่งข่าวสาร
ไปยังผู้ใช้ทาได้รวดเร็วและทันเวลา

13. ลักษณะ
สารสนเทศที่ดี
ความเที่ยงตรง
ทันต่อความต้องการใช้
ความสมบูรณ์
การสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้
ตรวจสอบได้

14. องค์ประกอบ
เทคโนโลยี
สารสนเทศ
ระบบประมวลผล
ทางานถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย
ระบบสื่อสารโทรคมนาคม
ผู้ใช้สารสนเทศที่อยู่ห่างกันสามารถสื่อสารกันได้
การจัดการข้อมูล
นาความรู้มาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับความ
ต้องการ

15. ระบบสารสนเทศ
เพื่อการจัดการ
เป็นระบบที่รวบรวมผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
ตางๆเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อการจัดทาสารสนเทศหรือการ
จัดทาข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล การคานวณทางสถิติ
โดยนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น รายงานสรุปยอดการ
ขาย

16. เครื่องมือในการ
สร้างระบบ
สารสนเทศเพื่อ
การจัดการ
ฐานข้อมูล(Database)
หัวใจสาคัญของระบบสื่อสาร
เครื่องมือ(Tools)
ใช้จัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ใช้คอมเป็นอุปกรณ์
หลัก ประกอบด้วย
อุปกรณ์(Hardware): ตัวเครื่องหรือ
ส่วนประกอบ ของคอมพิวเตอร์
ชุดคาสั่ง(Software): รวบรวมและจัดการ
เก็บ ข้อมูลเพื่อใช้ในการ
ตัดสินใจ

17. วิธีการหรือ
ขั้นตอนการ
ประมวลผล
การที่จะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ จะต้องมีการ
จัดลาดับ การวิเคราะห์วางแผนงานและวิธีการ
ประมวลผลให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลหรือ
สารสนเทศที่ต้องการ

18. การแสดง
ผลลัพธ์ อาจนาเสนอในรูปตาราง กราฟ ภาพหรือเสียง เพื่อให้การ
นาเสนอข้อมูลมีประสิทธิภาพ
(ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลและลักษณะการนาใช้งาน)

19. คุณสมบัติของ
ระบบสารสนเทศ
ความสามารถในการจัดการข้อมูล
ระบบสารสนเทศที่ดีต้องสามารถปรับปรุงแก้ไขและ
จัดการข้อมูลให้พร้อมนาไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
ความปลอดภัยของข้อมูล
ถ้าข้อมูลรั่วไหลออกไปสู่บุคคลภายนอกโดยเฉพาะ
คู่แข่ง อาจทาให้โอกาสทางการแข่งขันหรือสร้างความเสียหายแก่
ธุรกิจได้

20. คุณสมบัติของ
ระบบสารสนเทศ
ความยิดหยุ่น
ระบบสารสนเทศที่ดีต้องมีความสามารถในการปรับตัว
เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานหรือปัญหาที่เกิดขึ้น (ตอบสนอง
ความต้องการของผู้บริหานได้เสมอ)
ความพอใจของผู้ใช้
ระบบสารสนเทศที่ดีจะต้องกระตุ้นหรือโน้มน้าวให้ผู้ใช้
เกิดความสนใจในการใช้และยอมรับระบบสารสนเทศที่ได้
ออกแบบให้มากขึ้น

21. ระดับของ
สารสนเทศใน
การตัดสินใจ
ระดับวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว
ระดับวางแผนการบริหาร
ระดับวางแผนการปฏิบัติการ
ระดับผู้ปฏิบัติการ

22. ระบบ
ฐานข้อมูล
กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน นามาจัดเก็บในที่
เดียวกัน โดยข้อมูลสามารถเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลเดียวกัน
หรือแยกเก็บหลายๆแฟ้มข้อมูล โดยการสร้าง
ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลเพื่อประสิทธิภาพในการ
จัดการข้อมูล

23. การใช้ข้อมูลร่วมกัน
สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่
จัดเก็บในแหล่งใดแหล่งหนึ่งเท่านั้นและ
การใช้งานจากระบบอื่นๆสามารถใช้ข้อมูล
ที่แหล่งเดียวกันเช่นในองค์กร
สถานศึกษา
ระบบ
ฐานข้อมูล

24. ลดความซ้าซ้อนของข้อมูล
การเก็บข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลมี
โอกาสที่จะเป็นข้อมูลเดียวกันหรือซ้า โดยไม่มี
การตรวจสอบ
ระบบ
ฐานข้อมูล

25. ข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้น
ระบบฐานข้อมูลที่ได้รับการออกแบบ
พัฒนาอย่างเป็นระบบจะสามารถจัดเก็บข้อมูลได้
อย่างถูกต้อง มีระบบการตรวจสอบความถูกต้อง
ของข้อมูลก่อนเก็บ ตรวจสอบขณะเก็บและตรวจ
ความเสี่ยงของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้
ระบบ
ฐานข้อมูล

26. เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
ระบบสามารถกาหนดสิทธิมรการเข้าถึง
ข้อมูล สอทธิการปรับปรุงแก้ไข การลบการเพิ่ม
ของข้อมูลได้อย่างรัดกุม ทาให้ข้อมูลมีความ
ปลอดภัยมากขึ้น
ระบบ
ฐานข้อมูล

27. มีความเป็นอิสระขอข้อมูล
ในระบบจะมีความยืดหยุ่นที่สามารถ
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บ การเปลี่ยนชื่อตาราง
ในการจัดเก็บ การเปลี่ยนแปลงการกาหนดสิทธิ การ
เข้าถึงข้อมูล เช่น เปลี่ยนขนาดข้อมูลชื่อจาก 12
อักษรเพิ่มเป็น 50 อักษรได้
ระบบ
ฐานข้อมูล