Recommended
More Related Content
Featured
Featured (20)
ธรรมชาติทางเลือกยางพารา
- 1. จัดทำำโดยจัดทำำโดย นำงสำว วิมุตตำ บุญทันใจ เลขที่นำงสำว วิมุตตำ บุญทันใจ เลขที่ 2727 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5/105/10 นำำเสนอนำำเสนอ คุณครู พิสิษฐ์ วัฒนำไชยคุณครู พิสิษฐ์ วัฒนำไชย
- 3. อำกำรเปลือกแห้ง Tapping panel dryness ลักษณะอำกำร •หลังจำกกรีดยำงแล้วนำ้ำยำงแห้ง เป็นจุด อยู่ตำมรอยกรีดยำง •นำ้ำยำงจำงลง •เปลือกเปลี่ยนเป็นสีนำ้ำตำลอ่อน แยกจำกกันเป็นชั้นๆ
- 5. สำเหตุ •ยังไม่ทรำบสำเหตุที่แน่นอน •มีรำยงำนว่ำเป็นควำมผิดปกติทำง สรีรวิทยำของต้นยำง เช่น - กำรใช้ระบบกรีดหักโหม - กำรใช้สำรเคมีเร่งนำ้ำยำง - ควำมผิดปกติของพันธุ์ยำง และ สภำพแวดล้อม
- 6. กำรป้องกันกำำจัด •ถ้ำเริ่มแสดงอำกำรเปลือกแห้งให้ หยุดกรีดทันที อย่ำงน้อย 6-12 เดือน หรือจนกว่ำนำ้ำยำงจะ ไหลเป็นปกติ •ใส่ปุ๋ยบำำรุงต้นยำง •ใช้ระบบกรีดให้เหมำะสมกับพันธุ์ ยำงและไม่กรีดหักโหมติดต่อกัน เป็นเวลำนำน •ไม่ควรใช้สำรเคมีเร่งนำ้ำยำง
- 7. อำกำรตำยจำกยอด Die back ลักษณะอำกำร • ใบอ่อนเริ่มเหี่ยวและแห้งจำกปลำยกิ่ง หรือปลำยยอด ลุกลำมเข้ำมำหำส่วนโคน ทีละน้อย • กรณีอำกำรเป็นอย่ำงช้ำๆ กิ่งและลำำต้นที่
- 9. สำเหตุ •อำกำศแห้งแล้งจัดเป็นเวลำนำน ติดต่อกัน ทำำให้ดินบริเวณรอบๆ รำกขำดนำ้ำ หรือในดินทรำยจัดซึ่ง มีลักษณะไม่อุ้มนำ้ำ •กำรมีแผ่นหินดำน หรือโครงสร้ำง คล้ำยดินดำน อยู่ใต้พื้นดินระดับสูง กว่ำ 1 เมตร ขึ้นมำ •เชื้อสำเหตุโรคบำงชนิดเข้ำทำำลำย เช่น โรคใบจุดนูน โรครำแป้ง โรค ใบจุดก้ำงปลำ
- 10. กำรป้องกันกำำจัด •ตัดกิ่งหรือยอดส่วนที่แห้งออก โดย ตัดให้ตำ่ำลงมำ 1-2 นิ้วแล้วใช้สำร เคมีป้องกันกำำเชื้อรำทำบริเวณรอย แผล •บำำรุงรักษำต้นยำงให้สมบูรณ์อยู่ เสมอ •แก้ไขสภำพแวดล้อมที่ไม่เหมำะสม เช่น ควำมแห้งแล้งให้รดนำ้ำตำม ควำมจำำเป็น หรือใช้วัสดุคลุมดิน รอบโคนต้น
- 11. อำกำรที่เกิดจำกฟ้ำผ่ำ Lightning strike ลักษณะอำกำร •พบทุกระยะกำรเจริญเติบโต ต้นที่ ถูกทำำลำยจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม อำจเป็น 5-6 ต้น อำกำรจะปรำกฏ ทันที •ใบที่มีสีเขียวร่วงหล่นเหลือแต่ ก้ำนใบติดอยู่
- 12. ลักษณะอำกำร(ต่อ) •ลำำต้นอำจปริ เปลือกแตก นำ้ำยำง ไหล •เมื่อเฉือนเปลือกออก พบว่ำเนื้อเยื่อ ส่วนที่เป็นท่อนำ้ำท่ออำหำรเป็นสี นำ้ำตำล •ต่อมำจะเป็นสีม่วงอย่ำงรวดเร็ว และ กลำยเป็นสีดำำในที่สุด •ลำำต้นของต้นยำงที่ถูกฟ้ำผ่ำ อำจ พบแผล ท่อนำ้ำท่ออำหำรเป็นสีนำ้ำตำ
- 13. ลักษณะอำกำร(ต่อ) • แผลเน่ำจะเกิดทุกแห่ง บนลำำต้น ขนำดแผล 2-3 ตำรำงนิ้ว • มีของเหลวสีม่วงไหล ออกมำ • ถ้ำตัดแผลเน่ำออกดูจะ เห็นชั้นใต้เปลือกแทนที่ จะเป็นสีครีมกลับเป็นสี คล้ำยเหล้ำองุ่น ซึ่งจะมีสี ม่วงแดงภำยใน 2-3 วัน บริเวณโคนต้นยังสดอย
- 19. อำกำรที่เกิดจำกกำรขำด ธำตุโปแตสเซียม(K) • เนื้อเยื่อของใบแก่หรือใบล่ำง มีสีเหลือง และพบอำกำรไหม้ ที่ปลำยใบ • ในต้นยำงที่สร้ำงทรงพุ่มแล้ว ใบจะมี อำกำรเหลืองซีด แต่สีไม่ สมำ่ำเสมอ
- 21. อำกำรที่เกิดจำกกำรขำด ธำตุแมกนีเซียม(Mg) ใบแก่หรือใบล่ำง มีสีเหลืองซีดแต่ไม่สมำ่ำเสมอ ส้นใบมีสีเหลืองไปจนถึงขอบใบ นใบที่ได้รับแสงเต็มที่ ปกติพบที่ยอดใบมีอำกำ ำเสมอ เนื้อเยื่อระหว่ำงเส้นใบมีสีเหลือง จนถึง
- 22. อำกำรที่เกิดจำกกำรขำด ธำตุแคลเซียม(Ca) • อำกำรบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ใน ใบมีรูปร่ำงปกติปลำยใบและขอบใบไหม้ สี นำ้ำตำลซีดโดยไม่มีอำกำรเหลืองซีดมำก่อน • ต้นยำงแก่ที่สร้ำงทรงพุ่มแล้ว บนใบที่อยู่ใน
- 25. อำกำรที่เกิดจำกกำรขำด ธำตุเหล็ก(Fe) • อำกำรบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ใน ใบที่มีรูปร่ำงปกติ ใบจะมีขนำดเล็กมำก ไม่มีอำกำรไหม้ สีเขียวซีดถึงเหลืองอม เขียว
- 26. อำกำรที่เกิดจำกกำรขำด ธำตุแมงกำนีส (Mn) • อำกำรบนใบแก่ หรือใบล่ำง ใบมีสีเหลืองซีด แต่สีไม่สมำ่ำเสมอทั้งใบ เนื้อเยื่อระหว่ำงเส้น ใบมีสีเหลืองไปจนถึงขอบใบ • อำกำรที่ใบกลำงลำำต้นจนถึงปลำยยอดใบ เหลืองซีด หรือสีเขียวอ่อน ส่วนบริเวณเส้น กลำงใบและเส้นใบมีสีเขียวเข้ม
- 27. อาการที่เกิดจากการขาด ธาตุโบรอน(B) •อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตก ใหม่ ในใบผิดรูปผิดร่าง ใบมีขนาด เล็กลงเล็กน้อย มีสีเขียวเข้ม รูปร่าง
- 28. อาการที่เกิดจากการขาด ธาตุทองแดง(Cu) •อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตก ใหม่ ในใบที่มีรูปร่างปกติ ใบเล็ก
- 29. อาการที่เกิดจากการขาด ธาตุสังกะสี(Zn) •อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่ แตกใหม่ ในใบผิดรูปผิดร่าง ใบ จะเล็ก มีลักษณะเรียวยาว ขอบ
- 30. อาการที่เกิดจากการขาด ธาตุโมลิบดินัม(Mo) •อาการบนใบแก่ หรือ ใบล่าง ใบมีสีเขียว ปกติ แต่มีอาการขอบ ใบไหม้ขยายวงกว้าง
- 31. การป้องกันและแก้ไข •ก่อนปลูกยางพารา ควรทำาการ วิเคราะห์ดินว่ามีความเหมาะสมหรือ ไม่ หากสภาพของดินอยู่ในสภาวะที่ ยากต่อการแก้ไขควรหลีกเลี่ยงการ ปลูกยางในพื้นที่นั้น ในกรณีที่สามารถ ปรับปรุงสภาพดินได้ ควรกระทำาก่อน เริ่มลงมือปลูกยาง •การปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่ว จะช่วย ลดอาการขาดธาตุไนโตรเจนได้ และ การปลูกพืชแซมบางชนิดจะมีผล ทำาให้ต้นยางขาดธาตุอาหารได้ จึง
- 32. การป้องกันและแก้ไข(ต่อ) •รักษาความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม เพื่อความ สมดุลย์ของธาตุอาหารต่างๆ ในดิน •การใส่ธาตุอาหารบางตัวมากเกินไป อาจชักนำาให้เกิดอาการของธาตุ อาหารอีกชนิดหนึ่ง เช่น การใส่ โปแตสเซียมมากเกินไปอาจชักนำา ให้เกิดการขาดแมกนีเซียม •หากพบความผิดปกติหลังจากปลูก
- 34. โรคราแป้ง Powdery mildew ลักษณะอาการ •ปลายใบยางพาราอ่อนบิดงอ เน่า มี สีดำาจากปลาย แล้วร่วงหล่นจากต้น ะแผลเป็นรอยสีเหลืองซีดบนใบเพสลาด รอยแผลสีนำ้าตาลที่มีขนาด รูปร่างไม่แน่นอนบนใบแก
- 38. การแพร่ระบาด •ระบาดในช่วงยางผลิใบใหม่ •มักแพร่ระบาดในสภาพอากาศ กลางวันค่อนข้างร้อน •กลางคืนอากาศเย็น มีหมอกใน ตอนเช้า มีความชื้นสูง •มีฝนตกปรอยๆ ในบางวัน •เชื้อแพร่ระบาดโดยลมและแมลง พืชอาศัย หญ้ายาง เงาะ
- 39. การป้องกันกำาจัด •ใช้วิธีการเขตกรรม เช่นการใส่ปุ๋ย ในอัตราที่สูงกว่าปกติก่อนสิ้นฤดูกาล ผลัดใบ เพื่อให้ต้นยางสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในขณะที่เริ่มผลิใบ •ใช้สารกำาจัดเชื้อรา เบโนมิล (benomyl), คาร์เบนดา ซิม(carbendazim), ซัลเฟอร์(sulfur), ไตรดีมาร์ฟ* (tridemorph), กำามะถันผง
- 40. โรคใบจุดนูน Colletotrichum leaf spot ลักษณะอาการ •ปลายใบยางอ่อนที่เชื้อเข้าทำาลาย บิดงอ เหี่ยวเน่าดำา หลุดร่วง •ระยะใบเพสลาด ใบบางส่วนบิดงอ •พบจุดแผลสีนำ้าตาล •ขอบแผลสีเหลือง ขนาดประมาณ
- 43. ลักษณะอาการ(ต่อ) ใบอ่อนที่เป็นโรคมีลักษณะเน่าดำา และร่วง เหลือแต่ก้านใบ แผลบนกิ่งอ่อนรูปร่างยาวรี
- 45. การแพร่ระบาด •ระบาดรุนแรงกับยางที่แตกใบอ่อน •ในช่วงที่มีฝนตกชุก •ความชื้นสูง •เชื้อแพร่ระบาดโดยนำ้าฝน ลม และ แมลง พืชอาศัย อาโวกาโด โกโก้ กาแฟ ชา ส้ม กล้วย มะละกอ
- 46. การป้องกันกำาจัด • ต้นยางที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ใช้สาร เคมีพ่นบนใบยางเมื่อเริ่มพบการ ระบาด เช่น ไซเนบ(zineb), คลอโรธา โลนิล(chlorothalonil), เบโน มิล(benomyl), โพรพิเนบ(propineb)
- 47. โรคใบจุดก้างปลา Corynespora leaf disease ลักษณะอาการ • เป็นจุดแผลขนาดใหญ่ที่ใบ ถ้า เป็นขณะที่ใบยังอ่อน ปลายใบ จะไหม้เนื่องจากมีแผลลุกลาม ติดต่อกัน • เริ่มแรกเป็นแผลที่เนื้อเยื่อใบ และลุกลามออกไปตามเส้นใบ • เห็นใบชำ้าเป็นลายสีนำ้าตาลหรือ
- 49. สาเหตุ เชื้อรา Corynespora cassicola (Burk. & Curt.) Wei.
- 50. การแพร่ระบาด •เชื้อระบาดโดยลม ฝน •โรคระบาดในสภาพอากาศร้อน ความชื้นสูง พืชอาศัย •มีมากกว่า 80 ชนิด เช่น งา ถั่ว เหลือง ถั่วเขียว ฝ้าย ป่านรามี ยาสูบ มะละกอ แตงโม มะเขือเทศ ผักกาดหอม สะระแหน่ ฟักเขียว
- 51. การป้องกันกำาจัด •ทำาลายต้นที่เป็นโรค •ไม่ควรปลูกพืชอาศัยของเชื้อรา เป็นพืชแซมยาง •ต้นยางที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ใช้ สารเคมีพ่นใบเมื่อเริ่มสังเกตพบ อาการของโรค เช่น ไตรดี มอร์ฟ(tridemorph), เบโน มิล(benomyl)
- 52. โรคใบจุดตานก Bird’s eye spot ลักษณะอาการ • จุดคล้ายตานก เห็นได้อย่าง ชัดเจน • จุดค่อนข้างกลม ขอบแผล มีสีนำ้าตาลล้อมรอบ • มีรอยโปร่งแสงที่บริเวณ กลางจุด
- 53. ลักษณะอาการ(ต่อ) •เมื่อเกิดโรคที่บริเวณยอด ใบอ่อน จะเหี่ยวย่นมีสีนำ้าตาลดำา ม้วน และ ร่วงจนหมดยอด •ยอดอ่อนจะบวมโต ลักษณะคล้าย มวนบุหรี่ซิการ์ •ต้นยางแคระแกร็น
- 56. การป้องกันกำาจัด •หลีกเลี่ยงการปลูกในพื้นที่ดินทราย •เพิ่มปุ๋ยคอกแก่ต้นยางพาราเพื่อให้ ดินอุ้มนำ้าได้ดี •ใช้สารป้องกันกำาจัดเชื้อรา เช่น แมนโคเซบ(mancozeb), โปรพิเนบ (propineb), คลอโรธา โลนิล(chlorothalonil)
- 59. ลักษณะอาการ(ต่อ) •เชื้อเข้าทำาลายฝักยางได้ทุก ระยะ ทำาให้ฝักเน่า •ถ้าความชื้นในอากาศสูง จะพบ เชื้อราสีขาว เจริญปกคลุมฝัก •ฝักที่ถูกทำาลายจะเน่าดำาค้างอยู่ บนต้น •ไม่แตกและร่วงหล่นตาม ธรรมชาติกลายเป็นแหล่งเชื้อ
- 61. สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา Phytophthora botrysa Chee, P. palmivora (Butl.) Butl., P. nicotianae Van Breda de Haan var. parasitica (Dastur) Waterhouse
- 62. การแพร่ระบาด •ระบาดโดยลม ฝน •ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับปริมาณ นำ้าฝน จำานวนวันฝนตอ •เชื้อนี้ต้องการนำ้าเพื่อการขยายพันธุ์ •ระบาดได้ดีในสภาพอากาศเย็น ฝน ตกชุก •มีความชื้นต่อเนื่องกันอย่างน้อย 4 วัน •มีแสงแดดน้อยกว่า 3 ชม./วัน
- 63. การป้องกันกำาจัด •ไม่ควรปลูกพืชอาศัยของเชื้อรา เป็นพืชแซมยาง •กำาจัดวัชพืชและต้นแต่งกิ่งในสวน ยาง ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวนยาง •ต้นยางที่เป็นโรคอย่างรุนแรงจนใบ ร่วงหมดต้น ให้หยุดกรีดยาง และ ใส่ปุ๋ยบำารุงต้นยางให้สมบูรณ์ •หากระบาดกับต้นยางที่มีอายุน้อย กว่า 2 ปี ป้องกันกำาจัดโดยพ่นด้วย
- 64. โรคเส้นดำา black stripe ลักษณะอาการ • เชื้อเข้าทำาลายบริเวณหน้า กรีดยาง ขั้นแรกมีลักษณะเป็น รอยชำ้าบริเวณเปลือกเหนือ รอยกรีด • ระยะต่อมาจะกลายเป็นรอยบุ๋ม สีดำา เมื่อเฉือนเปลือกบริเวณ แผล จะพบลายเส้นดำาบนเนื้อ ไม้เป็นรอยยาวตามแนวยืน
- 67. การแพร่ระบาด •เชื้อบนฝักและใบที่เป็นโรคถูกชะล้าง โดยนำ้าฝนลงมาที่หน้ากรีด •พบระบาดรุนแรงเมื่อกรีดยางติดต่อกัน ในฤดูฝนโดยไม่มีการป้องกันรักษา หน้ากรีด •เมื่อความชื้นสูงกว่า 90% หน้ากรีดจะ เปียกอยู่ตลอดเวลา เหมาะต่อการ ขยายพันธุ์ของเชื้อ พืชอาศัย เช่น มะละกอ แตงโม ส้ม
- 68. การป้องกันกำาจัด •ไม่ควรปลูกพืชอาศัยของเชื้อราเป็น พืชร่วมหรือพืชแซมยาง •หลีกเลี่ยงการเปิดกรีดยางในช่วงฤดู ฝน ในพื้นที่ที่มีโรคระบาดรุนแรง •ระยะที่มีโรคใบร่วงระบาดใช้สารเคมี ทาป้องกันโรคที่หน้ากรีด เช่น เมทา แลกซิล(metalaxyl), ฟอสเอทธิล อลูมิ นัม(fosetyl-Al) •ถ้าพบอาการที่หน้ากรีด ต้องเฉือน ส่วนที่เป็นโรคออกก่อนแล้วทาด้วย
- 69. โรคเปลือกเน่า mouldy rot ลักษณะอาการ • เปลือเหนือรอยกรีดของ หน้ากรีดยางที่ถูก ทำาลายในระยะแรก จะ พบรอยบุ๋ม มีสีจาง • เมื่อลุกลามพบเส้นใย เกิดเป็นแถบขนานไป กับรอยกรีด • เมื่อมีการทำาลายอย่าง เส้นใยเชื้อราสีขาวเทา เจริญตรงรอยแผล
- 72. การแพร่ระบาด •สปอร์แพร่ระบาดโดยลม •แมลงเป็นพาหะนำาโรค •ผ่านทางมีดกรีดยาง •เชื้อเจริญได้ดีในสภาพอากาศที่มี ความชื้นสูง พืชอาศัย กาแฟ โกโก้ มะม่วง พืช ตระกูลถั่ว มะพร้าว มันฝรั่ง
- 73. การป้องกันกำาจัด •แก้ไขสภาพอากาศในสวน ยางพาราให้มีอากาศถ่ายเทได้ สะดวก •ตัดแต่งกิ่งก้าน •กำาจัดวัชพืช •ไม่ปลูกแน่นจนเกิดไป •ขูดส่วนที่เป็นโรคและใช้สาร ป้องกันกำาจัดเชื้อรา เช่น บีโนมิล อัตรา 20 กรัมผสมนำ้า 1 ลิตร อย่าง
- 74. โรคราสีชมพู Pink disease ลักษณะอาการ • เชื้อราเข้าทำาลายบริเวณ คาคบและกิ่งก้าน อาการ ในระยะแรก เปลือกจะปริ แตก มีหยดนำ้ายางติดอยู่ • เชื้อราสีขาวที่รอยแผลที่มี การทำาลายมาก มีลักษณะ เป็นแผ่นสีชมพู สามารถ
- 77. การแพร่ระบาด •ระบาดรุนแรงในสภาพอากาศชุ่ม ชื้น •มีปริมาณนำ้าฝนสูง •เมื่ออากาศแห้เชื้อราจะพักตัวและ เจริญลุกลามต่อในฤดูฝนปีถัดไป •เชื้อระบาดโดยลม และฝน พืชอาศัย กาแฟ โกโก้ ชา มะม่วง ขนุน ทุเรียน เงาะ
- 78. การป้องกันกำาจัด •ตัดแต่งทรงพุ่มใบ •กำาจัดวัชพืช •ไม่ควรปลูกพืชอาศัยเป็นพืชร่วม ยางหรือพืชแซมยาง •ต้นยางอายุน้อย ถ้าเป็นโรครุนแรง จนถึงกิ่งแห้งตาย และมีกิ่งใหม่งอก ใต้รอยแผล ควรตัดแต่งกิ่งแห้งตาย ทิ้ง ตัดให้ตำ่ากว่ารอยแผลประมาณ
- 79. การป้องกันกำาจัด(ต่อ) •ต้นยางที่ยังไม่เปิดกรีด เมื่อเป็นโรค ให้ใช้สารเคมีบอร์โดมิกซ์เจอร์ (bordeaux mixture) ที่มี อัตราส่วนผสมจุนสีหนัก 120 กรัม ปูนขาวหนัก 240 กรัม •ถ้าเป็นปูนเผาใหม่ใช้ประมาณ 150 กรัม ผสมนำ้า 10 ลิตรโดยผสมใหม่ๆ ทาบริเวณที่เป็นโรค
- 81. โรคลำาต้นเน่าของยางชำา ถุง Twig rot of polybagrubber ลักษณะอาการ • กิ่งแขนงที่แตกออกจากตาของยางพันธุ์ดี เกิดรอยแผลสีนำ้าตาลเข้มหรือสีดำาชำ้าเป็น รูปยาวรีไปตามความยาวของลำาต้น • ขยายลุกลามไปรอบต้น ทำาให้กิ่งแขนง
- 82. สาเหตุ Phytophthora palmivora (Butl.) Butl., P. nicotianae Van Breda de Haan var. parasitica (Dastur) Waterhouse
- 85. โรครากขาว white root disease ลักษณะอาการ • ใบมีสีเหลือง ในระยะที่ เส้นไรโซมอฟส์ (rhizomorphs) ของเชื้อ เข้าทำาลายรากแขนง ขอบ ใบจะม้วนเข้าข้างใน • พบส่วนที่เป็นดอกเห็ดตรง บริเวณโคนต้น หรือรากที่ โผล่พ้นผิวดิน • ในระยะที่ฝนตก ดอกเห็ด
- 86. ลักษณะอาการ(ต่อ) • ผิวบนดอกเห็ดมีสีเหลืองส้มและมีขอบสี ขาว • ส่วนผิวล่างมีสีส้มแดงหรือนำ้าตาล • เมื่อเชื้อเข้าทำาลายถึงรากแก้ว ทำาให้ราก เน่า ใบร่วง และกิ่งเริ่มตาย • ในที่สุดต้นจะตายทั้งต้น
- 88. การแพร่ระบาด •ระบาดรวดเร็วในช่วงฤดูฝนซึ่งมีฝน ตกชุก •ความชื้นสูง พืชอาศัย ทุเรียน ขนุน จำาปาดะ มังคุด มะพร้าว ไผ่ ส้ม โกโก้ ชา กาแฟ เนียงนก พริกไทย พริกขี้หนู น้อยหน่า มันสำาปะหลัง สะเดาบ้าน สะเดาเทียม ทัง มะเขือเปราะ กระทกรก มันเทศ
- 89. การป้องกันกำาจัด •เตรียมพื้นที่ปลูกให้ปลอดโรค โดยขุด ทำาลายตอยางเก่า •ในแหล่งที่มีโรคระบาด หลังเตรียมดิน แล้วควรปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่วเพื่อ ปรับสภาพดินให้เหมาะกับการเจริญ เติบโตของพืช และจุลินทรีย์ในดินที่ เป็นพิษต่อเชื้อราสาเหตุโรคราก •หลังการปลูกยางไปแล้ว 1 ปี ควร ตรวจค้นหาต้นยางที่เป็นโรครากเป็น
- 90. การป้องกันกำาจัด •ต้นยางที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควร ขุดคูล้อมบริเวณต้นโรค เพื่อกั้น ระหว่างต้นที่เป็นโรคและต้นปกติ ไม่ ให้รากสัมผัสกัน •ไม่ควรปลูกพืชร่วม หรือพืชแซมที่เป็น พืชอาศัยในพื้นที่ที่เป็นโรคราก •ใช้สารเคมีสำาหรับรักษาต้นที่เป็นโรค เพียงเล็กน้อย และใช้กับต้นข้างเคียง เพื่อป้องกันโรค เช่น ไตรเดอร์ มอร์ฟ(tridemorph), ไซโปรโคนา
- 91. โรครากแดง red root disease ลักษณะอาการ •อาการแสดงที่พุ่มใบ มีสีเหลืองแกมส้ม มักเป็นกับต้นยางที่กรีดแล้ว •ถ้ามีการทำาลายมากจะแสดงอาการที่
- 94. การแพร่ระบาด •ระบาดรวดเร็วในช่วงฤดูฝนซึ่งมี ฝนตกชุก •ความชื้นสูง พืชอาศัย ทุเรียน ขนุน จำาปาดะ สัก สะเดาบ้าน ทัง โกโก้ กาแฟ ชา เงาะ พืชตระกูลถั่ว ลองกอง สะตอ
- 95. การป้องกันกำาจัด •เตรียมพื้นที่ปลูกให้ปลอดโรค โดยขุด ทำาลายตอยางเก่า •ในแหล่งที่มีโรคระบาด หลังเตรียมดิน แล้วควรปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่วเพื่อ ปรับสภาพดินให้เหมาะกับการเจริญ เติบโตของพืช และจุลินทรีย์ในดินที่ เป็นพิษต่อเชื้อราสาเหตุโรคราก •หลังการปลูกยางไปแล้ว 1 ปี ควร ตรวจค้นหาต้นยางที่เป็นโรครากเป็น
- 96. การป้องกันกำาจัด •ต้นยางที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรขุดคูล้อมบริเวณต้นโรค เพื่อกั้น ระหว่างต้นที่เป็นโรคและต้นปกติ ไม่ ให้รากสัมผัสกัน •ไม่ควรปลูกพืชร่วม หรือพืชแซมที่ เป็นพืชอาศัยในพื้นที่ที่เป็นโรคราก •ใช้สารเคมีสำาหรับรักษาต้นที่เป็นโรค เพียงเล็กน้อย และใช้กับต้นข้างเคียง เพื่อป้องกันโรค เช่น ไตรเดอร์
- 97. โรครากสีนำ้าตาล Brown root disease ลักษณะอาการ • อาการเหมือนโรคราก ขาว แต่เชื้อนี้มีเส้นใยสี นำ้าตาลเป็นแผ่นเหมือน กำามะหยี่ • ทำาให้เกิดรอยสีนำ้าตาล เป็นลายสลับฟันปลา บนเนื้อไม้ • ต่อมาจะมีลักษณะร่วน ยุ่ยเบาและแห้ง ดอกเห็ด ของโรค ราก
- 98. สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา Phellinum noxius (Corner) G.H. Cunn
- 99. การแพร่ระบาด •ระบาดรวดเร็วในช่วงฤดูฝนซึ่งมี ฝนตกชุก •ความชื้นสูง พืชอาศัย ทุเรียน มังคุด ลองกอง สละ สะเดาบ้าน มะฮอกกานี สัก ปาล์มนำ้ามัน โกโก้ ส้ม กาแฟ เงาะ
- 100. การป้องกันกำาจัด •เตรียมพื้นที่ปลูกให้ปลอดโรค โดยขุด ทำาลายตอยางเก่า •ในแหล่งที่มีโรคระบาด หลังเตรียมดิน แล้วควรปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่วเพื่อ ปรับสภาพดินให้เหมาะกับการเจริญ เติบโตของพืช และจุลินทรีย์ในดินที่ เป็นพิษต่อเชื้อราสาเหตุโรคราก •หลังการปลูกยางไปแล้ว 1 ปี ควร
- 101. การป้องกันกำาจัด •ต้นยางที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรขุดคูล้อมบริเวณต้นโรค เพื่อกั้น ระหว่างต้นที่เป็นโรคและต้นปกติ ไม่ ให้รากสัมผัสกัน •ไม่ควรปลูกพืชร่วม หรือพืชแซมที่ เป็นพืชอาศัยในพื้นที่ที่เป็นโรคราก •ใช้สารเคมีสำาหรับรักษาต้นที่เป็นโรค เพียงเล็กน้อย และใช้กับต้นข้างเคียง
- 102. ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอกสารการสัมมนา แนวทางการต่อสู้ โรคยางพาราและโรคไม้ผล สมาคม โรคพืช แห่งประเทศไทย 11 ส.ค.34 ณ.โรงแรมสยามธานี จ.สุราษฎร์ธานี โรคและศัตรูยางพาราที่สำาคัญใน ประเทศไทย. สถาบันวิจัยยาง กรม วิชาการเกษตร กระทรวงเกษตร และสหกรณ์