SlideShare a Scribd company logo
ศักยภาพการลงทุนในเวียดนาม

           บทนา

           เนื่องจากเวีย ดนามเป็ น ประเทศในคาบสมุท รอิน โดจีน ที่ ได๎รั บ ความสนใจในปั จ จุ บั น และได๎
กลายเป็นประเทศที่มีความสาคัญตํอภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ ทั้งในด๎านการเมือง เศรษฐกิจ และ
ยุทธศาสตร๑ความมั่นคง นับตั้งแตํเวียดนามได๎ดาเนินนโยบายปฏิรูปทางเศรษฐกิจ หรือ Doi Moi ในปี 1986
เป็นต๎นมา เวียดนามก็ยิ่งได๎รับความสนใจมากขึ้นจากประชาคมโลก ซึ่งการดาเนินการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ
ดังกลําว เป็นจุดเริ่มต๎นที่ปลดเวียดนามออกจากการโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจ และทาให๎ประเทศไทยเริ่มหัน
มาสนใจเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะการมุํงไปที่ประเด็นทางเศรษฐกิจ มากกวําประเด็นอื่นๆ ซึ่งประเด็น
ทางเศรษฐกิ จ สํวนใหญํ ได๎ รับ ความสาคั ญ จากนัก ธุรกิ จ หรือแม๎แตํนัก การเมืองไทยบางคนก็ สนใจใน
ประเด็นของการค๎าและการลงทุนเชํนกัน ทาให๎ประเด็นทางด๎านความมั่นคงและประเด็นทางประวัติศาสตร๑
สังคม วัฒนธรรมของเวียดนามถูกมองข๎ามไป
           การปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่กาลังดาเนินอยูํมีจุดมุํงหมายที่จะดึงศักยภาพที่เวียดนามมีอยูํออกมาใช๎
เพื่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิ จ ในภาคตํ างๆ ซึ่ง สํว นหนึ่ง ได๎รับ ความรํวมมือจากตํางประเทศเชํน เคย
ศักยภาพดังกลําวมีอยูํในทรัพยากรธรรมชาติ และในทรัพยากรมนุษย๑ เนื่องจากเวียดนามมีความสมบูรณ๑
ทางทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นตลาดแรงงานที่กว๎าง รวมทั้งแรงงานชาวเวียดนามนี้มีความสามารถใน
การเรียนรู๎ฝึกฝน อดทน และอัตราคําแรงงานขั้นต่าอยูํในระดับที่ไมํสูงจนเกินไป ทาให๎เวียดนามอยูํให๎ความ
สนใจของประเทศตํางๆในโลก ทั้งในด๎านการค๎า การลงทุน การให๎ ความชํวยเหลือเพื่อการพัฒนา และใน
เรื่องที่เกี่ยวกับบทบาทของเวียดนามในการเมืองในภูมิภาค การเจริญเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
ของเวียดนาม จึงเป็นอีกปัจจัยอันหนึ่งที่จะนาไปสูํความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและสันติภาพในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต๎1
           ตํอมาเมื่อเวียดนามเข๎าเป็นสมาชิกอาเซียนแล๎ว มูลคําการลงทุนจากอาเซียนก็เพิ่มขึ้นอยํางรวดเร็ว
ใน ค.ศ.1995 เงินทุนจดทะเบียนในโครงการลงทุนจากอาเซียนมีมูลคํา 3.24 พันล๎านเหรียญสหรัฐ เมื่อถึง
ค.ศ. 1997 ตัวเลขนี้ก็เพิ่มเป็นกวํา 7.8 พันล๎านเหรียญสหรัฐ และอีก 3 ปีตํอมาก็เพิ่มขึ้นไปเป็น 9.2 พันล๎าน
เหรียญสหรัฐ และเฉพาะชํวง ค.ศ.2008-2009 เงินลงทุนจากอาเซียนเพิ่มขึ้นอยํางมโหฬารจาก 11 พันล๎าน
เหรียญสหรัฐ เป็น 46.4 พันล๎านเหรียญสหรัฐ
           ในแงํของการประเมินความพร๎อมของประเทศตํางๆ ในการรับมือการแขํงขันในประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล๎นี้ เวียดนามเป็นประเทศที่มีความพร๎อมมากที่สุดในบรรดาประเทศ

1
    ธัญญาทิพย๑ ศรีพนา. (2541). เมื่อเวียดนามปฏิรูป. กรุงเทพฯ: ดํานสุทธาการพิมพ๑.
สมาชิกทั้งหลาย คือ มีความพร๎อมถึงร๎อยละ 85 รองลงมาคือ มาเลเซีย ร๎อยละ 72 ตามด๎วยไทย ร๎อยละ 67
อินโดนีเซีย ร๎อยละ 63 บรูไน ร๎อยละ 58 และฟิลิปปินส๑ ร๎อยละ 57 (จากข๎อมูลของ ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธานกรรมการมูลนิธิประเมินคําทรัพย๑สินแหํงประเทศไทย)
        จะเห็นได๎วํา เวียดนามเป็นประเทศใหญํมากที่สุดเป็นลาดับที่สามในเอเซียน คือ มีประชากรเกือบ
90 ล๎านคน รองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส๑ ที่สาคัญคือ มีประชากรอยูํในวัยหนุํมสาวเป็นจานวนมาก
และคนเหลํานี้มีการศึกษาดี ทาให๎เศรษฐกิจเวียดนามตั้งแตํชํวงทศวรรษ 1990 เป็นต๎นมา คือ หลังจากมี
การใช๎นโยบายปฏิรูปที่เรียกวํา “Doi Moi” มีเติบโตทางเศรษฐกิจอยํางตํอเนื่อง
        การเปลี่ยนแปลงของเวียดนาม
        หลังจากที่เวียดนามได๎ประกาศนโยบายปฏิรูป เศรษฐกิจ (Doi Moi Policy) เมื่อปี 1986 ทาให๎
เวียดนามเข๎ามาสูํระบบเศรษฐกิจตามกลไกตลาดมากขึ้น นับวําประสบผลสาเร็จด๎วยดี เพราะกลไกตลาด
เป็นปัจจัยที่ชํวยทาให๎มีการหลั่งไหลของความชํวยเหลือด๎านเงินกู๎ และการลงทุนจากตํางประเทศ รวมทั้ง
การขยายตัวทางด๎านการค๎ากับตํางประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น อยํางไรก็ตาม พรรคคอมมิวนิสต๑เวียดนาม ได๎
กาหนดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงยึดมั่นหลักการของสังคมนิยมอยํางมั่นคง แตํจะ
ดาเนินการตามแนวนโยบายปฏิรูปอยํางตํอเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาประเทศไปสูํการเป็นประเทศ
อุตสาหกรรมและทันสมัย
              1. การเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง การปกครอง
        การเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่สาคัญในสํวนของการเมือง คือ เวียดนามได๎มีความพยายามในการสร๎าง
ความสัมพันธ๑ระหวํางประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกา ทั้งยังมีความใกล๎ชิดกับประเทศในกลุํมอาเซียน
และคาดหวังวําจะเกิดความสัมพันธ๑ที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นกับประเทศจีน ประเทศในกลุํมยุโรป ญี่ปุ่น
และเกาหลี รวมทั้งความสัมพันธ๑กับประเทศไทยด๎วย
        การเมืองในเวียดนามถือได๎วํามีความมั่นคงเป็นอยํางมาก และนโยบายตํางๆได๎มีการพัฒนาและ
ปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ผํานการศึกษาจากข๎อดีข๎อเสีย และแนวทางในการดาเนินงานของประเทศ
เพื่อนบ๎าน
            2. การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
       เดิมเวียดนามเป็นสังคมเกษตรกรรมโดยมีประชากรราว 56.8%อยูํในภาคเกษตรกรรม เมื่อมีการ
เปิดประเทศทาให๎มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากขึ้น โดยคนรุํนใหมํมีการเข๎าสูํภาคอุตสาหกรรมและ
อพยพเข๎าสูํเมืองใหญํเพื่อทางานมากขึ้น อีกทั้งประชากรยังมีความต๎องการที่จะเป็นเจ๎าของธุรกิจของตัวเอง
ชอบการแขํงขัน กระตือรือร๎น และให๎ความสาคัญ กับ การศึก ษาเป็ นอยํ างมาก โดยเฉพาะความรู๎ด๎าน
ภาษาตํางประเทศ ซึ่งจะทาให๎พวกเขาสามารถเข๎าทางานในบริษัทตํางชาติ และได๎เงินเดือนที่สูงขึ้น ซึ่งคน
จานวนมากจะใช๎เวลาหลังเลิกงานเพื่อเรียนหนังสือ และหากครอบครัวไหนที่มีฐานะดีก็จะสํงลูกไปเรียนยัง
ตํางประเทศ
        การเปลี่ยนแปลงทางสังคมประกอบกับโอกาสในการหารายได๎ที่มากขึ้นทาให๎รูปแบบการดารงชีวต         ิ
ของชาวเวีย ดนามเปลี่ย นแปลงไป ไมํวําจะเป็ น การทานอาหารนอกบ๎ านมากขึ้น มีความต๎องการที่จ ะ
จับ จํายใช๎สอยมากขึ้น รวมทั้งการซื้อสิน ค๎าเริ่มเปลี่ย นจากการจับ จํายในตลาดสดเป็น ตลาดซุป เปอร๑
มาร๑เกตแทน อีกทั้งยังมีความต๎ องการที่จ ะซื้อสินค๎าที่มีแบรนด๑ สินค๎าไอที อาจกลําวได๎วําเวีย ดนามใน
ปัจจุบันมีความทันสมัยแมํแพ๎กับประเทศเราเลย
        สภาพบ๎านเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเป็นอยํางมาก กลําวคือ มีอาคารสานักงานขนาดใหญํ มี
โรงแรมที่ทันสมัย และร๎านค๎าตํางๆ เกิดขึ้นอยํางมากมาย
        ความยากจนถือเป็นประเด็นสาคัญประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลให๎ความสาคัญ โดยที่ผํานมาถือวําการ
ทางานของรัฐบาลประสบความสาเร็จเป็นอยํางมาก เพราะสามารถลดระดับความยากจนจากร๎อยละ 60
ในปี 1990 มาอยูํที่ระดับร๎อยละ 18 ในปี 2004 ซึ่งเป็นที่ยอมรับของUNDP (United Nation Development
Programs)
            3. การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ
           เศรษฐกิจภายในประเทศของเวียดนาม ได๎มีการเปลี่ยนแปลงจากในอดีตจากหน๎ามือเป็นหลังมือ
ตัวอยํางที่เห็นได๎ชัดคือ แตํกํอนนั้นเวียดนามเคยประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ถึงกับต๎องนาเข๎าข๎าวจาก
ตํางประเทศ แตํหลังจากการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจได๎เพียง 2 ปี เวียดนามก็สามารถผลิตอาหารได๎
เพียงพอตํอความต๎องการภายในประเทศ และก๎าวขึ้นสูํประเทศที่มีการสํงออกข๎าวเป็นอันดับหนึ่งของโลก
แซงหน๎าประเทศไทยที่เคยเป็นอันดันหนึ่งเดิมได๎สาเร็จ
           เวียดนามถื อเป็น ประเทศที่มีบทบาทมากยิ่งขึ้น ในภู มิภาค โดยเฉพาะอยํางยิ่ งในกลุํมประเทศ
อาเซียนและพัฒนาตัวเองเป็นประเทศอุตสาหกรรมในอนาคตซึ่งมีแนวโน๎มที่เป็นไปได๎เนื่องจากมีทรัพยากร
ที่คํอนข๎างสมบูรณ๑ โดยในปัจจุบันนั้นหลายๆประเทศได๎มีการย๎ายฐานการผลิตจากไทยไปยังเวียดนามมาก
ขึ้น2
           เวียดนามถือเป็นประเทศที่ถูกมองวําเป็นมังกรน๎อยที่มีศักยภาพในการเติบโตตามประเทศจีนตํอไป
ในอนาคต ภายหลังที่ได๎มีการเปิดประเทศและสมัครเข๎าเป็นสมาชิกองค๑การค๎าโลกหรือ WTO ซึ่งถือเป็น
การเปิดประเทศสูํการค๎าโลกและเปิดรับระบบทุนนิยมมาใช๎ในการพัฒนาประเทศ



2
    พ. ประไพพงษ๑, อภิชาต สิริผาติ. (2550). เวียดนามตลาดพันล๎านที่นําลงทุน. กรุงเทพฯ: บิสซี่เดย๑.
เวียดนามสามารถสร๎างการเติบโตทางเศรษฐกิจให๎กับประเทศอยํางมาก โดยอัตราการเติบโตทาง
เศรษฐกิจเป็นไปอยํางก๎าวกระโดด ซึ่งพลังการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สาคัญของเวียดนามมาจากการลงทุน
จากตํางประเทศ การสํงออกวัตถุดิบ สิ่งทอ เครื่องหนังและสินค๎าเกษตร รวมถึงการพัฒนาของภาคบริการ
การทํองเที่ยว

        การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม

        เวียดนามมีการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั้งระยะสั้น และระยะยาวภายใต๎การกากับดูแล
ของกระทรวงวางแผนและการลงทุน (Ministry of Planning and Investment: MPI) โดยขณะนี้อยูํระหวําง
การใช๎แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะยาว 10 ปี (ปี 2544-2553) และระยะสั้น 5 ปี (ปี 2549-2553)
        MPI วางเป้ าหมายของการพัฒนาประเทศไว๎อยํ า งชัด เจนโดยก าหนดวิ สัย ทัศ น๑ที่จ ะพัฒนา
เวียดนามไปสูํการเป็นประเทศอุตสาหกรรม มุํงขจัดปัญหาความยากจน และเปิดประเทศให๎เจริญทัดเทียม
กับนานาประเทศ
        แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั้งระยะสั้นและระยะยาวมีบทบาทสาคั ญตํอการพัฒนาประเทศ
ดังนี้
        1. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะยาว 10 ปี วางเป้าหมายให๎เวียดนามหลุดพ๎นจากการ
เป็นประเทศด๎อยพัฒนาและก๎าวไปสูํการเป็นประเทศอุตสาหกรรมในอนาคต พร๎อมทั้งยกระดับคุณภาพ
ชีวิตและความเป็นอยูํของประชาชนให๎ดีขึ้น
        รัฐบาลเวียดนามวางเป้าหมายให๎อั ตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เทํา
ของปี 2544 โดยจะลดสัดส่วนของภาคเกษตรกรรมและให้ความสาคัญกับภาคอุตสาหกรรมและ
บริการเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 6.9% ในปี 2544 และขยายตัวสูงถึง 8.2% ในปี
2549 คาดวําเมื่อสิ้นสุดแผนในปี 2553 เวียดนามจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว๎ได๎
        2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะสั้น 5 ปี เน๎นการเปิดประเทศและดึงดูดการลงทุนจาก
ตํางประเทศเพื่อพัฒนาประเทศให๎เ จริญ ทัดเทีย มกั บ นานาประเทศ รัฐบาลเวีย ดนามตั้งเป้ าหมายให๎
เศรษฐกิจขยายตัวอยูํในระดับ 7.5-8% สาหรับการพัฒนาด๎านสังคมรัฐบาลเวียดนามมุํงขจัดปัญหาความ
ยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให๎ดีขึ้น
        รัฐบาลเวียดนามกาหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในแตํละภูมิภาคไว๎อยํางชัดเจน โดยมี
เป้าหมายสร๎างความแข็งแกรํงในแตํละภูมิภาคภายใต๎โครงสร๎างระบบเศรษฐกิจเปิด มุ่งเน้นการค้ากับ
ต่างประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศเป็นสาคัญ รวมทั้งขยายตลาดการค๎าของแตํละภูมิภาค
ออกไปทั้งในระดับประเทศและตํางประเทศ
เวียดนามเรํงยกระดับเขตสํงเสริมการลงทุน ทั้งเขตนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Zones: IZs)
และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก (Export Processing Zones: EPZs) ที่มีอยูํเดิมให๎มี
ประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันสํงเสริมให๎มีการจัดตั้งเขตสํงเสริมการลงทุนแหํงใหมํๆ เพื่อกระตุ๎นให๎
เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจอยํางยั่งยืนในแตํละภูมิภาค3
         ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐบาลเวียดนามแบํงพื้นที่การพัฒนาออกเป็น 6
ภูมภาคได๎แกํ ภาคเหนือและพื้นที่ภูเขา พื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแมํน้าแดง ภาคเหนือตอนกลางและ
    ิ
พื้นที่ชายฝั่งทะเลตอนกลาง พื้นที่ที่ราบสูงภาคกลาง ภาคใต๎ฝั่งตะวันออก และพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปาก
แมํน้าโขง
         ภายใต๎แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะยาว 10 ปี และระยะสั้น 5 ปี รัฐบาลเวียดนามจะ
ประเมิน ผลการพัฒนาทุก ปี เพื่อ ปรับ แผนพั ฒนาเศรษฐกิ จ และสัง คมของประเทศให๎ส อดคล๎ องกั บ
สถานการณ๑ของโลกในปัจจุบัน
นโยบายด้านเศรษฐกิจการค้า
          นโยบายการนาเข้า เวียดนามใช๎มาตรการชะลอการนาเข๎าเพื่อแก๎ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยลง
การสํงเสริมให๎มีการนาเข๎าแบบแลกเปลี่ยนสินค๎า (Barter Trade) เพื่อประหยัดเงินตราตํางประเทศของ
รัฐบาลเวียดนามเป็นสมาชิกสหภาพศุลกากร และได๎รับในฐานะเป็นผู๎สังเกตการณ๑ของแกตต๑ และได๎เข๎า
รํวมเป็นสมาชิกอาเซียนตั้งแตํเดือนกรกฎาคม 2538 กาหนดเริ่มดาเนินการลดภาษีตามข๎อตกลงวําด๎วย
อัตราภาษีพิเศษที่เทํากัน สาหรับอาเซียน (The Agreement on the Common Effective Preferential
Tariff: CEPT) ตั้งแตํวันที่ 1 มกราคม 2539
          เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ (2002) GDP อยูํที่ 34,452.30 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราเจริญเติบโตของ
GDP ที่ 6.7 % รายได๎ตํอหัว 600 USD และมีทุนสารองเงินตราตํางประเทศอยูํที่ 1,350 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ
          โครงสร๎างเศรษฐกิจปัจจุบัน ประกอบด๎วย ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม อาหารสาเร็จรูป 695.73 ล๎าน
เหรียญสหรัฐฯ น้ามันเชื้อเพลิง 380.10 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ๑เคมี 176.09 ล๎านเหรียญสหรัฐ วัสดุ
กํอสร๎าง 174.63 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ๑สิ่งทอ 172.13 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ การผลิตกระแสไฟฟ้า
140.03 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ เครื่องจักรและอุปกรณ๑ 46.55 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ไม๎และผลิตภัณฑ๑ไม๎ 61.80
ล๎านเหรียญสหรัฐฯ อาหาร 60.33 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ เครื่องใช๎ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส๑ 46.04 ล๎านเหรียญ
สหรัฐฯ และอื่น ๆ 284.95 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ (มูลคําตามราคาปี 2543)


3
    ศรีประไพร เพชรมีศรี. (2542). การพัฒนาเศรษฐกิจการเมืองของเวียดนาม. กรุงเทพฯ: โครงการจัดพิมพ๑คบไฟ.
ด๎านโครงสร๎าง การกระจายการจ๎างงาน ประกอบด๎วย ด๎านเกษตรกรรมและป่าไม๎ 26.75 ล๎านคน
ด๎านอุตสาหกรรม 5.46 ล๎านคน ด๎านพาณิชยกรรม 1.95 ล๎านคน ด๎านการกํอสร๎าง 0.97 ล๎านคน ด๎านการ
ขนสํง 0.68 ด๎านบริการ 0.66 ล๎านคน และอื่น ๆ 1.95 ล๎านคน
        ในด๎านของอุตสาหกรรมที่ไทยพอมีศักยภาพและลูํทางที่จะเข๎าไปดาเนินธุรกิจการค๎าที่เกี่ยงข๎อง
หรือในการเข๎าไปรํวมลงทุนทาการผลิตในเวียดนาม รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เวียดนามสามารถพัฒนาการ
ผลิตในเวีย ดนาม รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เ วียดนามสามารถพัฒนาการผลิต และเป็ นแหลํงวัตถุ ดิบหรือ
วัตถุดิบแปรรูปที่ตรงกับความต๎องการของไทย ดังเชํน อุตสาหกรรมแปรรูปสินค๎าเกษตร ไมํวําจะเป็นข๎าว
ยางพารา มัน สาปะหลั ง กาแฟ อ๎ อย ผัก และผลไม๎ รวมทั้งอุตสาหกรรมแปรรู ป สิน ค๎าประมง จ าพวก
ผลิตภัณฑ๑อาหารทะเลบรรจุกระป๋องและแชํแข็ง และอุตสาหกรรมเหมืองแรํ น้ามันดิบ แก๏สธรรมชาติ ถําน
หิน และอัญมณี อุตสาหกรรมทํองเที่ยวและบริการอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช๎ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส๑
โทรทัศน๑ วิทยุ พัดลม ตู๎เย็น อุปกรณ๑เครื่องเสียงตําง ๆ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องโทรคมนาคม อาทิ วิทยุ
ติดตามตัว โทรศัพท๑เคลื่อนที่ และโทรศัพท๑ตั้งโต๏ะ วิทยุรับสํงเคลื่อนที่ของการสร๎างระบบเครือขํายตําง ๆ
อุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอและผ๎าผืน อุตสาหกรรมการผลิตสินค๎าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมการผลิต
วัสดุกํ อสร๎างและตกแตํ งภายใน อุตสาหกรรมการกํอสร๎างและพัฒนาโครงการพื้น ฐานตําง ๆ เชํน ถนน
สะพาน สนามบิน ทําเรือ นิคมอุตสาหกรรม ตึกอาคาร สานักงาน และที่พักอาศัย
        ทางด๎ านนโยบาย การลงทุน จากตํางประเทศ รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายให๎ความสาคัญและ
สนับสนุนในโครงการลงทุนของตํางชาติ อาทิเชํน โครงการขนาดใหญํที่ผลิตเพื่อสํงออกและทดแทนการ
นาเข๎า โครงการที่ต๎องใช๎เทคโนโลยีสูง ใช๎แรงงานที่มีทักษะและใช๎ทรัพยากรธรรมชาติของเวียดนามเป็นไป
อยํางมีประสิทธิภาพ โครงการผลิตที่เน๎นการใช๎แรงงานและวัตถุดิบตําง ๆ ภายในประเทศ โครงการกํอสร๎าง
ปัจจัยพื้นฐานตําง ๆ และโครงการด๎านการให๎บริการที่เป็นแหลํงที่มาของเงินตราตํางประเทศ
        สํวนในด๎านของการคมนาคมและขนสํงเสียดนามนั้น การขนสํงทางน้า เวีย ดนามมีทําเรือหลักละ
สิ่งอานวยความสะดวกที่ทําเรือ อยํางเชํน ทําเรือไฮฟอง ตั้งอยูํในเมืองไฮฟอง ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือนี้มี
ประมาณ 7-10 ล๎านตัน ตํอปี สามารถรับ เรือระวางบรรทุก 7,000-10,000 ตัน ทําเรือมีขนาดความยาว
2,366 เมตร ซึ่งแบํงเป็นเขตทําเรือยํอยได๎ 4 เขต คือ ทําเรือหลัก มีความยาว 1,722 เมตร ลึก 8.4 เมตร
ทําเรือเหวิดกั๊ด มีความยาว 314 เมตร ลึก 3 เมตร ทําเรือจั่วแหวะมีความยาว 330 เมตร ลึก 8.4 เมตร
ทําเรือดิงห๑หวู ตั้งอยูํในเขตเมืองไฮฟอง ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือ ปีละประมาณ 2-7 ล๎านตัน สามารถรับ
เรือระวางบรรทุก 10,000 – 30,000 ตัน ทําเรือมีขนาดความยาวประมาณ 2 – 3 กม. ทําเรือก๐ายเลิน ตั้งอยูํ
ในเขตจังหวัดกวํางนิงห๑ ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือนี้ปีละประมาณ 3 – 20 ล๎านตัน สามารถรับเรือระวาง
บรรทุก 40,000 – 50,000 ตัน ทําเรือมีขนาดความยาวประมาณ 165 เมตร ลึก 9 เมตร และถึงปี 1010 จะ
ขยายลึก 12 เมตร ทําเรือกั่วโอง ตั้งอยูํในเขตจังหวัดกวํานิงห๑ ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือนี้ปีละประมาณ 2 –
5 ล๎านตัน สามารถรับเรือระวางบรรทุกได๎ 30,000 – 50,000 ตัน คาดวําจะเสร็จปี 2005 ปัจจุบันมีทํายาว
ประมาณ 300 เมตร ระดับความลึก 8.4 เมตร ทําเรือเดี่ยนก็ อง ตั้งอยูํในเขตจังหวัดกวํางนิงห๑ เป็นทําเรือ
สาหรับสินค๎าถํานหิน ปัจจุบันมีทํา 200 เมตร ลึก 7 เมตร กาลังขยายให๎กว๎างขึ้นและเพิ่มระดับความลึก
ทําเรือดานัง สํวนทางภาคกลาง ทําเทียบเรือ 4 ทํา พื้นที่โกดัง 15,000 ตัน เครนขนาด 2 – 25 ตัน และ
ทําเรือไซํงํอน ทําเรือที่ใหญํที่สุดของประเทศ ตั้งอยูํในนครโฮจิมินห๑ บนสองฝั่งของแมํน้าไซํงํอน มีทําเทียบ
เรือโดยสารเดินทะเล 1 ทํา ทําเทียบเรือขนสํงสินค๎า 31 ทํา พื้นที่โกดัง 73,600 ตารางเมตร เครนขนาด 25 –
100 ตัน 16 ตัว
        การบริการด๎ านการเดิน เรือจากประเทศไทย ปั จจุบันปรากฏวํายังมีเที่ย วเรือขนสํงสินค๎าประจ า
ระหวํางไทยกับเวียดนามคํอนข๎างจ ากัด คือ มีเที่ยวเรือขนสํงสินค๎าแบบตู๎คอนเทนเนอร๑ ระหวํางทําเรือ
กรุงเทพ – ทําเรือไซํงํอน เดือนละ 2 เที่ยว การขนสํงสินค๎าจากประเทศไทยสํวนใหญํ จึงเป็นการสํงผํานทาง
สิงค๑โปรที่มีเที่ยวเรือจากทําเรือกรุงเทพ สิงค๑โปร ไซํงํอน หรือไฮฟอง ประจาทุกสัปดาห๑ สํวนการขนสํงสินค๎า
ทางเรือแบบ Bulk ขึ้นอยูํกับผู๎สํงออกจะทาการเช๎าเป็นเที่ยว
        ด๎า นของการคมนาคมทางอากาศ ในปั จ จุบั น เวีย ดนามมี สนามบิ น นานาชาติ 3 สนามบิ น
ประกอบด๎วย สนามบิ น Noi Bai International Airport ตั้งอยูํ ทางตอนเหนือของกรุงฮานอยออกไป
ประมาณ 30 กิ โลเมตร ให๎บ ริก ารทั้งด๎ านการขนสํงผู๎โดยสารและสิน ค๎า สามารถบิน ตรงไปยัง ฮํองกง
กั วลาลั มเปอร๑ ไทเป ดู ไบ ปารี ส เบอร๑ลิน มอสโค มะนิ ลา และกรุง เทพฯ เป็ น ต๎ น สนามบิ น Danang
International Airport ตั้ งอยูํ ท างภาคกลางในอดี ต เคยเป็ น ฐานทัพของสหรัฐ ฯ ปั จ จุ บั น นี้ข าดการ
บารุงรักษาสํวนใหญํจึงใช๎สาหรับเครื่องบินภายในประเทศเทํานั้น ในการขนสํงสินค๎าและผู๎โดยสาร แตํ
บางครั้งมีการรับเครื่องบินเชําเหมาจากตํางประเทศที่นานักทํองเที่ยวบินตรงมายังเมืองดานัง และสนามบิน
Tan Son Nhat International Airport เป็นสนามบินที่ใหญํที่สุดของประเทศ ตั้งอยูํหํางจากนครโฮจิมินฟ์ 7
กิโลเมตร สามารถจอดเครื่องบินในเวลาเดียวกันได๎ 600 ลา สามารถบินตรงไปยัง เบอร๑ลิน แฟรงค๑เฟริต
อัมสเตอร๑ดัม ปารีส โซล โอซาก๎า กวางโจว ไทเป ฮํองกง กรุงเทพฯ สิงค๑โปร กัวลาลัมเปอร๑ จาร๑กาต๎า ซิดนี่ย๑
มอสโค มะนิลา เป็ นต๎ น สํวนสายการบิน Vietnam Airlines เป็ นสายการบิ นแหํงชาติ ให๎บ ริก ารบิ นทั้ง
ภายในและภายนอกประเทศ Pacific Airline เป็นสายการบินที่จัดตั้งขึ้นจากการรํวมทุนของหนํวยงานตําง
ๆ ของรัฐบาลของเวียดนาม สํวนใหญํจะให๎บริการภายในประเทศ
        ด๎า นการคมนาคมทางบอก ถนนเวี ย ดนามมีร ะยะเส๎ น ทางขนสํ งหลั ก ประกอบด๎ว ยเส๎ น ทาง
หมายเลข 1 เป็นเส๎นทางสายหลักของประเทศที่มีความยาวที่สุดจากเหนือสุดติดชายแดนจีนจาก Lang
Son เชื่อมถึง Hanoi – Danang –Ho Chi Minh City ไปจรดใต๎สุดที่จังหวัด Minh hai รวมความยาวทั้งสิ้น
2,289 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 2 ระหวําง Hanoi – Ha Giang ขึ้นไปทางเหนือ ติดชายแดนจีนที่มณฑล
ยูนนานยาว 319 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 3 ระหวําง Hanoi – Cao Bang ติดชายแดนจีน ทางมณฑล
ยูนนาน เชํนกัน ยาว 218 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 5 ระหวําง Hanoi – Hai Phong ยาว 105 กิโลเมตร
เส๎นทางหมายเลข 8 ระหวําง Ha Tinh – Vinh และมีเส๎นทางถนนตํอไป ถึงชายแดนติดกับจังหวัดบุริคัมไซ
ของลาว ยาวประมาณ 90 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 9 ระหวําง Danang – Hue – Quang Tri ไปจนถึง
ชายแดนติดกับจังหวัดสุวรรณเขตของลาว ยาวประมาณ 250 กิโลเมตร และเส๎นทางหมายเลข 51 ระหวําง
Ho Chi Minh City – Nung Yau ยาวประมาณ 75 กิโลเมตร
        สาหรับ การคมนาคมทางรถไฟ เวีย ดนามมีเส๎น ทางรถไฟทั่วทั้งประเทศ 6 สาย ความยาวรวม
3,259 กิโลเมตร โดยมีระยะทางเพียง 166 กิโลเมตรที่ใช๎รางความกว๎างขนาดมาตรฐานสากล ที่เหลือเป็น
รางกว๎างเพียง 1 เมตร ปัจจุบันมีหัวรถจักรโบกี้ตู๎โดยสารและโบกี้ตู๎สินค๎าที่ใช๎งานได๎ดังนี้ หัวรถจักร 428 คัน
โบกี้ตู๎โดยสาร 785 คัน โบกี้ตู๎สินค๎า 4,649 คัน ทั้งนี้เส๎นทางการเดินรถไฟระหวํางจังหวัดตําง ๆ ซึ่งสํวนใหญํ
อยูํทางเหนือ ประกอบด๎วย Hanoi – Ho Chi Minh City ระยะทาง 1,726 กิโลเมตร Hanoi-hai Phong
ระยะทาง 102 กิโลเมตร เป็นต๎น
        ในเรื่องของการค๎าตํางประเทศโดยรวมของเวียดนาม ที่ผํานมา เวียดนามสํงออกไปยังตํางประเทศ
ทั่วโลก มีอันดั บ 10 อันดับแรก ประกอบด๎วย ญี่ปุ่ น สิงคโปร๑ ไต๎หวัน เยอรมัน จีน ออสเตรเลีย สหรัฐ ฯ
ฟิลิปปินส๑ อังกฤษ และฮํองกง สํวนประเทศคูํค๎าที่เวียดนามนาเข๎าจากประเทศตําง ๆ ซึ่งมีมูลคําสูงสุด 10
อันดับแรกประกอบด๎วย สิงคโปร๑ ญี่ปุ่น เกาหลีใต๎ ไต๎หวัน ไทย ฮํองกง จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส และอเมริกา
ตามลาดับ
         ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเป็นประเทศที่เวียดนามสํงออกมากเป็นอันดับที่ 10 ในปี 2543
ซึ่งมีมูลคําการสํงออกได๎ 332.1 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 2.30% ของมูลคําสํงออกทั้งหมดของเวียดนาม
และในปี 2544 เวียดนามสํงออกไปได๎ 268.5 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 4.60% ของมูลคําสํงออกทั้งหมด
ของเวียดนาม
ในขณะที่ไทยเป็นประเทศที่เวี ยดนามนาเข๎าอันดับที่ 6 ในปี 2543 มีมูลคําการนาเข๎าได๎ 848.5
ล๎านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 5.43% ของมูลคําการนาเข๎าทั้งหมดของเวียดนาม และอันดับที่ 5 ในปี 2544
ซึ่งมีมูลคําการค๎ารวมที่ 1,127.02 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่ไทยสํงออกได๎ที่ 801.23 และนาเข๎าที่ 325.77
ดุลการค๎าไทยอยูํที่ 475.46 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ มาในปี 2545 ไทยและเวียดนามมีมูลคําการค๎ารวมที่
1,186.56 แบํงเป็นไทยสํงออกที่ 947.98 และนาเข๎าที่ 238.57 ดุลการค๎าไทยได๎ที่ 709.41 ตํอมาปี 2546
ไทยค๎าขายกั บ เวีย ดนามมีมูลคํ ารวม 1,565.01 โดยที่ไทยสํงออกได๎ 1,263.28 และน าเข๎าที่ 331.73
ดุลการค๎าไทยอยูํที่ตั วเลข 931.55 และเมื่อเทียบกั บการน าเข๎าสิน ค๎าของเวีย ดนามกั บประเทศในกลุํม
อาเซียนด๎วยกัน การนาเข๎าสินค๎าจากประเทศไทยอยูํอันดับที่ 2 รองจากสิงคโปร๑
          สาหรับสินค๎าสาคัญของไทยสํงออก ประกอบด๎วย เม็ดพลาสติก เหล็กกล๎า และผลิตภัณ ฑ๑ น้ามัน
สาเร็จรูป ก๏าซปิโตรเลียมเหลว ปูนซีเมนต๑ เคมีภัณฑ๑ รถจักรยายนต๑และสํวนประกอบ หนังและผลิตภัณฑ๑
หนังฟอก และเครื่องจักรกล ตามลาดับ สํวนสินค๎าไทยนาเข๎าจากเวียดนาม อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้า ถํานหิน
น้ามันดิบ กุ๎งสด แชํเย็น สบูํ ผงซักฟอก และเครื่องสาอาง เป็นต๎น
          ด๎านของคูํแขํงจากอาเซียนด๎วยกันนั้น เวียดนามนาเข๎าสินค๎าสาคัญที่มีมูลคํานาเข๎าสูง ได๎แกํ ยา
และเวชภัณฑ๑ คอมพิวเตอร๑ อุปกรณ๑และสํวนประกอบ เครื่องจักรและสํวนประกอบ สิ่งทอ เสื้อผ๎า และ
เครื่องหนัง อุปกรณ๑การแพทย๑ ปูนซีเมนต๑ ปุ๋ย อะไหลํรถ เหล็ก และปิโตรเลียม จากประเทศสิงคโปร๑ ไทย
มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส๑ และลาว ตามลาดับ4

          ปัจจัยสาคัญที่สนับสนุนให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าลงทุน
          1) ความมีเสถียรภาพของรัฐบาล เวียดนามปกครองด๎วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต๑ มีพรรค
การเมืองเพียงพรรคเดียว คือ พรรคคอมมิวนิสต๑เวียดนาม (Communist Party of Vietnam: CPV) ซึ่งมี
บทบาทในการกาหนดแนวทางการบริหารประเทศทุกด๎าน ทาให๎การบริหารประเทศเป็นไปอยํางราบรื่น
และนโยบายตําง ๆ ได๎รับการปฏิบัติอยํางตํอเนื่อง ขณะเดียวกันผู๎นาประเทศมีวิสัยทัศน๑ที่ชัดเจนในการ
บริหารประเทศ และมีความมุํงมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจอยํางจริงจัง ซึ่งชํวยสร๎างความมั่นใจให๎แกํนัก
ลงทุนตํางชาติที่สนใจเข๎ามาลงทุนในเวียดนาม



4
    สุรกิจ จุฑาเทศ. (2547). เปิดเส้นทางการค้า การลงทุน หกเหลี่ยมเศรษฐกิจ. กรุงเทพ: สานักพิมพ๑อินฟอร๑มีเดีย
บุ๏คส๑.
2) ทรัพยากรธรรมชาติ อุดมสมบูรณ๑ โดยเฉพาะพลังงานและแรํธาตุ เชํน การมีแหลํงน้ามันดิบ
กระจายอยูํทั่วทุกภาค ทาให๎เวียดนามกลายเป็นประเทศผู๎สํงออกน้ามันดิบรายสาคัญอันดับ 3 ของภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ รองจากมาเลเซีย และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ เวียดนามมีปริมาณเชื้อเพลิงสารอง
เชํน ก๏าซธรรมชาติ ปิโตรเลียม และถํานหินอยูํมาก รวมทั้ง แรํธาตุ สาคัญ คือ บอกไซต๑ โปแตสเซียม และ
เหล็ก นอกจากนี้ ยังมี ทรัพยากรป่าไม๎ ซึ่งล๎วนเป็นวัตถุดิบสาคัญสาหรับการลงทุน รวมทั้ง ทรัพยากรดิน
และน้าที่มีอยํางเพียงพอทั้งในด๎านปริมาณและคุณภาพก็เอื้อตํอการเพาะปลูก สํงผลให๎เวียดนามเป็นแหลํง
ผลิตสินค๎าเกษตรหลายรายการจนติดอันดับประเทศผู๎สํงออกสินค๎าเกษตรรายใหญํของโลก เชํน พริกไทย
(อันดับ 1 ของโลก) ข๎าว (อันดับ 2 ของโลก รองจากไทย) กาแฟ (อันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล ) เม็ด
มะมํวงหิมพานต๑ (อันดับ 2 ของโลกรองจากอินเดีย) และอาหารทะเล (อันดับ 6 ของโลก)
        3) เป็นตลาดขนาดใหญํที่มีศักยภาพ เวียดนามมีประชากรมากถึง 87 ล๎านคน จากการที่เวียดนาม
ปิดประเทศมานาน ทาให๎ประชากรตื่นตัวกับสินค๎าและบริการใหมํ ๆ ทาให๎มีการจับจํายใช๎สอยมากขึ้นหลัง
การเปิดประเทศ ประกอบกับชาวเวียดนามเริ่มมีกาลังซื้อมากขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อยูํในชํวง
ขาขึ้น อีก ทั้งปริ มาณเงิน โอนกลับ ประเทศของชาวเวีย ดนามโพ๎น ทะเล หรือที่เ รีย กวํา ”เวียดกิ ว ” ซึ่งมี
ประมาณ 3 ล๎านคน และโอนเงินกลับมาประเทศปีละประมาณ 3,200 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ชาวเวียดนาม
สํวนใหญํมีความต๎องการสินค๎าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพดีจานวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้ ประชากรที่มี
กาลังซื้อสูงสํวนใหญํอาศัยอยูํในนครโฮจิมินห๑และจังหวัดรอบนอก กรุงฮานอย และจังหวัดตํางๆบริเวณใกล๎
สามเหลี่ยมปากแมํน้าโขง ซึ่งเป็นพื้นที่สาคัญทางเศรษฐกิจ
        4) เน๎นนโยบายเป็นมิตรกับทุกประเทศ และให๎ความสาคัญกับความปลอดภัย ทาให๎เวียดนามไมํ
เคยตกเป็นเป้าหมายในการกํอการร๎าย และแทบไมํมีปัญหาอาชญากรรมขั้นร๎ายแรงเนื่องจากเวียดนามมี
กฎหมายที่เข๎มงวดและมีบทลงโทษที่รุนแรง สํงผลให๎เวียดนามเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงแหํงหนึ่ง
ของโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญที่ทาให๎นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจเข๎ามาลงทุน
        5) เวียดนามให๎ความสาคัญกั บการพัฒนาเส๎นทางคมนาคมขนสํง ทั้งทางบก ทางน้า และทาง
อากาศ ตลอดจนสาธารณูปโภคตําง ๆ ให๎มีความสะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของ
เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic
Corridor: EWEC)
        6) ความได๎เปรียบด๎านแรงงาน ร๎อยละ 55 ของประชากรในเวียดนามอยูํในวัยทางาน หรือจานวน
48 ล๎านคน ซึ่งมีอายุระหวําง 15-64 ปี และอัตราการรู๎หนังสือของชาวเวียดนามสูงกวําร๎อยละ 90 ทาให๎
เวียดนามมีแรงงานคุณภาพจานวนมาก อัตราคําจ๎างแรงงานต่า และยังสามารถหาแรงงานได๎งําย นายจ๎าง
สามารถรับ สมัครแรงงานได๎ โดยตรง ไมํต๎ องผํานกระทรวงแรงงานของเวีย ดนาม ในขณะเดีย วกัน ชาว
เวียดนามก็มีความสนใจสมัครงาน ซึ่งสิ่งเหลํานี้เป็นจุดแข็งของตลาดแรงงานในเวียดนาม5

          จุดแข็ง – จุดอ่อน ต่อการเข้ามาทาการค้าและการลงทุนในเวียดนาม
          เวียดนามเป็นประเทศที่มีแรงดึงดูดนักลงทุนตํางชาติอยํางมาก ทาให๎มีจุดแข็งที่นําจะเป็นโอกาส
สาหรับนัก ลงทุน แตํ ในขณะเดี ยวกั น เวียดนามก็ยั ง มีอุปสรรคในการลงทุน อยูํบ๎ างในหลายๆ ประเด็น
กลําวคือ

          จุดแข็ง
          - การเมืองมีเสถียรภาพ
          จากการที่ประเทศเวียดนามปกครองด๎วยระบอบสังคมนิยม มีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว คือ
พรรคคอมมิวนิสต๑แหํงเวียดนาม ทาให๎กาหนดนโยบายและการกากับดูแลเป็นไปในทิศทางเดียวกันอยําง
ตํอเนื่อง ผู๎ลงทุนสามารถวางแผนการประกอบธุรกิจและการลงทุนในระยะยาวได๎อยํางมีความมั่นใจ
          - คําจ๎างแรงงานต่า
          แม๎วําต๎นทุนแรงงานในประเทศเวียดนามจะเพิ่มขึ้นมากแตํเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ แล๎วยัง
นับวํามีต๎นทุนต่ากวํา โดยอัตราคําจ๎างแรงงานทั่วไป วิศวกร และผู๎จัดการระดับกลางของเวียดนามมี
สัดสํวนเพียง 17 – 32 % และ 29 – 42 % ของอัตราเฉลี่ยของประเทศในเอเชียและอาเซียน ตามลาดับ
แรงงานในวัยหนุํมสาวของเวียดนามมีเป็นจานวนมาก จานวนประชากรประมาณ 60 % มีอายุต่ากวํา 30 ปี
นอกจากจานวนแรงงานที่มีปริมาณมากแล๎ว แรงงานเหลํานี้ยังมีการศึก ษาดีทาให๎เวีย ดนามยั งคงเป็ น
เป้าหมายของนักลงทุนตํางประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งยังมองวําลูํทางการลงทุนในเวียดนามยังมีแนวโน๎ม
แจํมใส และบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนแล๎วในเวียดนามมีแผนการที่จะขยายการผลิต ภายใน 1- 2 ปีข๎างหน๎าอีก
ด๎วย นอกจากนั้นแล๎ว ผลของการสารวจของ JETRO ยังพบอีกวําในอีก 5 – 10 ข๎างหน๎า เวียดนามจะเป็น
อันดับหนึ่งแหํงเอเชียในการเป็นจุดหมายปลายทางสาหรับการตั้งโรงงานผลิตสินค๎าแม๎จะมีการคาดการณ๑
เกี่ยวกับเศรษฐกิจของเวียดนามในแงํลบก็ตาม




5
    คูํมือการค๎าและการลงทุนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
- วัตถุดิบและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ๑
           เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลายของเวียดนามทาให๎เวียดนามเป็นประเทศ
หนึ่งที่ยังมีทรัพย๑ในดิน-สินในน้าที่อุดมสมบูรณ๑นับตั้งแตํสินแรํที่สาคัญ ๆ เชํน ถํานหิน เหล็ก ทองแดง ก๏าซ
ธรรมชาติและน้ามันเวียดนามยังมีพื้นที่ที่เหมาะแกํการทาเกษตรกรรมอีกเป็นจานวนมาก จึงสามารถผลิต
ผลผลิตทางการเกษตรได๎เป็นจานวนมากในอันดับต๎น ๆ ของโลก เชํน ข๎าว (เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก
ไทย) กาแฟ (เป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล) ยางพารา (อันดับ 4) พริกไทยดา (อันดับ 1) ซึ่งสิ่งตําง ๆ เหลํานี้
เป็นแรงดึงดูดให๎นักลงทุนตํางชาติยังให๎ความสนใจที่จะเข๎ามาลงทุนผลิตสินค๎าในเวียดนาม
         จุดอ่อน
         - แรงงานขาดทักษะ
         เวียดนามยัง ขาดแคลนผู๎บริหารระดับกลางปัจจุบันแรงงานดังกลําวสามารถสนองความต๎องการ
ของโครงการลงทุนจากตํางชาติได๎เพียง 1 ใน 4 สํวนแรงงานที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลั ยก็ยังขาด
ทักษะและไมํมีการฝึกอบรม (training)
         - ต๎นทุนการลงทุนสูง
         จากรายงานของผู๎ศึกษาบางแหํง ได๎ชี้ให๎เห็นวําต๎นทุนการลงทุนในประเทศเวียดนามสูงกวําใน
ประเทศอื่น ๆ โดยเปรียบเทียบ อัตราคําเชําสานักงานในกรุงฮานอยสูงเป็นลาดับ 5 ในเอเชียรองจาก มุมไบ
นิวเดลี ฮํองกง และสิงคโปร๑ ต๎นทุนการขนสํงทางทะเลไป – กลับ ทําเรือเมืองดานัง มีอัตราสูงที่สุดในเอเชีย
สูงกวําต๎นทุนโดยเฉลี่ยของประเทศในอาเซียนอื่น ๆ ประมาณ 1.5 เทํา สํวนคําเชําที่พักอาศัยในเวียดนามมี
อัตราใกล๎เคียงกับคําเชําที่พักในสิงคโปร๑และเป็น 2 เทําของอัตราคําเชําในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต๎
         - โครงสร๎างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสนับสนุนยังล๎าหลังและไมํเพียงพอ
         นักลงทุนจากบางประเทศผิดหวังกับ บรรยากาศการลงทุน ในเวียดนามโดยพิจารณาจากอัตรา
ความพอใจลดลงจากเดิม 75.4 % เหลือ 41.7% โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัยคือ โครงสร๎างพื้นฐาน
ทางเศรษฐกิ จที่ยั งล๎าหลังและขาดอุต สาหกรรมสนับ สนุน ด๎านวัสดุอุปกรณ๑ รวมทั้งผู๎จัดหา (service
supplier) ก็ยังไมํมีประสิทธิภาพ หากจะเปรียบเทียบแล๎ว ถ๎าเงินทุนเพื่อการพัฒนามีเทํากับ 100 การลงทุน
ในโครงสร๎างพื้นฐานทางเศรษฐกิจมีประมาณ 10 และเกือบจะไมํมีการลงทุนพัฒนาใน อุตสาหกรรม
สนับสนุนที่เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ๑เลย
           “นักลงทุนจากบางประเทศผิดหวังกับบรรยากาศการลงทุนในเวียดนามโดยพิจารณาจาก
อัตราความพอใจลดลงจากเดิม 75.4 % เหลือ 41.7% โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัยคือ
โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังล้าหลัง และขาดอุตสาหกรรมสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์”
           อุตสาหกรรมสนับสนุน ในเวียดนามเป็นปัญหาอยํางมาก เพราะสัดสํวนของการจัดซื้อจัดจ๎างวัสดุ
อุปกรณ๑จากในประเทศของบริษัทญี่ปุ่นในเวียดนามมีอัตราต่าที่สุดในภูมิภาคคือมีเพียง 26.5% เมื่อเทียบ
กับอัตราโดยเฉลี่ยในภูมิภาค คือ 40.1% ในขณะที่อัตราดังกลําวในไทยซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาค มี
มากกวําเวียดนามถึง 2 เทํา
           การที่วัสดุอุปกรณ๑ในประเทศเวียดนามมีน๎อยทาให๎ต๎นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนต๎อง
สั่งซื้ออุปกรณ๑เหลํานั้นจากตํางประเทศ ดังนั้นแม๎วําในระยะยาว เวียดนามยังคงเป็นแหลํงการลงทุน ที่
นําสนใจของนักลงทุน แตํหลายบริษัทที่มีแผนจะเพิ่มปริมาณการจัดซื้อวัตถุดิบในประเทศ จึงต๎องให๎มีการ
ปรับปรุงทั้ง Service supplier ในท๎องถิ่นและคุณภาพของวัตถุดิบและชิ้นสํวนอุปกรณ๑
           นักลงทุนตํางชาติจานวนมากพบวํายากที่จะเป็นเจ๎าของที่อยูํอาศัยในเวียดนามแม๎วําเมื่อเร็ว ๆ นี้
สภาแหํงชาติจะผํานกฎหมายยินยอมให๎ตํางชาติมีที่อยูํอาศัยได๎ก็ตาม แตํยังไมํชัดเจนวํากฎหมายดังกลําว
จะมีผลใช๎บังคับเมื่อใด คุณภาพของการให๎บริการอื่น ๆ ซึ่งมีจานวนน๎อยก็นําผิดหวังมากกวํา เนื่องจาก
ขั้นตอนยุํงยากและมีอุปสรรคด๎านภาษี การขาดแคลนลํามที่มีคุณภาพ ทาให๎เป็นปัญหาสาหรับนักลงทุนใน
การเจรจากับบริษัท และหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องโดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคกลางของเวียดนาม6
        ทิศทางการลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

        ประเทศเวียดนามนับวําเป็นอีกประเทศหนึ่งในคาบสมุทรอินโดจีนที่กาลังเป็นที่นําจับตามองของ
เหลํานักลงทุนตํางชาติ โดยหากพิจารณาในชํวงระยะ 10 ปีที่ผํานมา พบวํา เวียดนามมีการพัฒนาทาง
เศรษฐกิ จ ที่ดี แ ละปรั บ ตั วในทิศ ทางที่ สอดคล๎ องกั บ ระบบเศรษฐกิ จ โลก ซึ่ง เป็ น ไปตามทิ ศทางของ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติฉบับปี 2549-2553 โดยเป้าหมายหนึ่งคือการสร๎างความเข๎มแข็ง
ให๎กับระบบเศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยมเพื่อก๎าวสูํความเป็นประเทศอุตสาหกรรมภายในปี 2563
        ใน ปี 2530 รัฐบาลเวียดนามได๎มีการประกาศใช๎กฎหมายการลงทุนโดยตรงจากตํางชาติ หรือ Law
on Foreign Direct Investment เพื่อรับประกันการปฏิบัติอยํางเป็นธรรมและเทําเทียมให๎กับนักลงทุน


6
 AEC ศูนย๑ข๎อมูลความรู๎ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. AEC กับนโยบายการลงทุนในประเทศเวียดนาม. (ระบบ
ออนไลน๑) แหลํงที่มา http://www.thai-aec.com/67#ixzz25gu6bXCI. (10 กันยายน 2555)
ประกอบการเข๎าเป็นสมาชิก WTO ของเวียดนามในปี 2550 เป็นผลให๎รัฐบาลเรํงเปิดเสรีด๎านการลงทุน ซึ่ง
มีสํวนอยํางมากในการสร๎างและเพิ่มความมั่นใจให๎แกํนักลงทุนตํางชาติ
         นอกจากนี้ยังพบวํา อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจชํวงปี 2553 อยูํที่ร๎อยละ 6.78 และเพิ่มขึ้น
ในปี 2554 ร๎อยละ 5.89 ถือวําเป็นอัตราการเติบโตที่สูงเป็นอันดับต๎น ๆ หากเทียบกับประเทศในกลุํม
อาเซียนด๎วยกัน จากการสารวจข๎อมูลชํวงปี 2531-2553 พบวํา มูลคําการลงทุนจากตํางประเทศสะสม อยูํ
ที่ 194.4 พันล๎านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศที่มีมูลคําการลงทุนสะสมมากที่สุดคือ เกาหลีใต๎ ไต๎หวัน
มาเลเซีย และญี่ปุ่นตามลาดับ ธุรกิจที่มีการลงทุนสูงที่สุดคือ อุตสาหกรรมการผลิต รองลงมาคือ ธุรกิจด๎าน
อสังหาริมทรัพย๑ อยํางไรก็ดี ในปี 2553-2554 มีการรายงานวํา อุตสาหกรรมหลักที่มีการลงทุนมาที่สุดคือ
อุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะสิ่งทอ และสิน ค๎าสํงออกที่สาคัญ ของเวียดนามคือ สิ่งทอและเสื้อผ๎า
สาเร็จรูป ซึ่งแซงหน๎าการสํงออกน๎ามันดิบนับตั้งแตํปี 2552 จนทาให๎อุตสาหกรรมด๎านสิ่งทอและเสื้อผ๎า
สาเร็จรูป เป็นสาขาการผลิตเพื่อการสํงออกที่ได๎รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนาม7
         หนํวยงานที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรงในด๎านการลงทุนของตํางชาติ คือ กระทรวงวางแผนและการ
ลงทุน หรือ Ministry of Planning and Investment: MPI เป็นหนํวยงานที่ทาหน๎าที่บริหารจัดการวางแผน
นโยบายและสิทธิประโยชน๑ในการลงทุนทั้งชาวเวียดนามและตํางชาติ รวมถึงกากับดูแล ให๎ความชํวยเหลือ
ในด๎านข๎อมูลและสํงเสริมการลงทุนในเวียดนาม อีกทั้งมีอานาจในการพิจารณาอนุมัติการลงทุนในโครงการ
ตํางๆ

สรุป

        จะเห็นได๎วํา นโยบายเศรษฐกิจการค๎าของเวียดนามยังคงเป็นไปในทิศทางเดิมนับจากการปฏิรูป
เศรษฐกิจและสังคมตามนโยบาย “โดํย เหมย” เมื่อกวํา 20 ปีที่แล๎ว ดังจะเห็นได๎จากเป็นหมายและทิศทาง
ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติปี 2549-2553 ข๎อหนึ่งที่ระบุให๎สร๎างความเข๎มแข็งให๎กับระบบ
เศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยมเพื่อก๎าวสูํความเป็นประเทศที่กาลังพัฒนาและทันสมัยภายในปี 2563
เวีย ดนามมีการปรับตั วให๎เข๎ากั บระบบเศรษฐกิจ แบบเสรีของโลก ทาให๎เ ศรษฐกิ จของเวีย ดนามมีการ
เจริญเติบโตและมีรูปแบบที่เป็นสากลอยํางมาก การเข๎าเป็นสมาชิกของ WTO ทาให๎เวียดนามต๎องมีการ
ปรับปรุงกฎระเบียบ กฎหมาย ตลอดจนกลไกภาครัฐ เพื่อเปิดตลาดสินค๎าภาคบริการและการลงทุนใน
ประเทศให๎กับประเทศสมาชิก WTO


7
    คูํมือการค๎าการลงทุนในเวียดนาม, กรมสํงเสริมการสํงออก กระทรวงพาณิชย๑
นโยบายการค๎าระหวํางประเทศของเวียดนาม คือ มีการสํงเสริมการค๎าเสรีโดยรัฐบาลได๎มีการ
ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบให๎เอื้ออานวยตํอการค๎าระหวํางประเทศ มีการจัดตั้งหนํวยงานของรัฐเพื่อ
ประสานงานกับบริษัทการค๎าตํางประเทศของรัฐและบริษัทเอกชนในการติดตํอการค๎ากับตํางประเทศซึ่งมี
หนํวยงานที่สาคัญ ได๎แกํ กระทรวงเศรษฐกิจสัมพันธ๑กับตํางประเทศ ศูนย๑พัฒนาการสํงออกหอการค๎าและ
อุตสาหกรรมแหํงเวียดนามบริษัทจัดแสดงสินค๎าและนิทรรศการ เป็นต๎น อยํางไรก็ตาม ปัจจุบันเวียดนาม
ยังคงมีน โยบายปกป้องการใช๎ประโยชน๑จากทรัพย๑สินและทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศ รวมทั้ง
คุ๎มครองกิ จการภายในประเทศโดยมีมาตรการควบคุมทั้งด๎านสํงออกและนาเข๎า เชํน การควบคุมการ
สํงออกและนาเข๎าสินค๎าบางประเภท และการกาหนดโควตาการสํงออกและนาเข๎าสินค๎าบางประเภท เป็น
ต๎น
          และในชํวงเวลา 2550 - 2553 ประเทศเวียดนามประสบกับปัญหาการขาดดุลการค๎าอยํางตํอเนื่อง
ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากภาวะเงินเฟ้อในประเทศที่สูงขึ้นอยํางตํอเนื่อง สํงผลให๎ราคาสินค๎าสํงออกมีราคาสูงขึน
                                                                                                    ้
ด๎วยทาให๎สูญเสียโอกาสในการแขํงขันกับคูํแขํงในตลาดโลกได๎ และในปี 2554 รัฐบาลเวียดนามได๎สํงเสริม
ให๎ประชาชนซื้อสินค๎าที่ผลิตขึ้นภายในประเทศเพื่อลดการนาเข๎า และลดการขาดดุลการค๎า อีกทั้งยังลด
ความสาคัญของการจัดกิจกรรมแสดงสินค๎าของตํางชาติในประเทศลง
          ทาให๎เ วีย ดนามเองต๎องการมีบ ทบาทตํอระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย -แปซิฟิ ก และมูลคํา
ทางการตลาดทั้งโลกด๎วย ที่สาคัญคือสํวนแบํงในตลาดเกิดใหมํอยําง เขตการค๎าเสรี อาเซียน ที่จะสํงผลไป
ถึงตลาดในกลุํม APEC และ WTO อีกด๎วย แนํนอน ประโยชน๑ด๎านการค๎าและการลงทุนเวียดนามกั บ
อาเซียนและตลาดอื่นๆไมํน๎อยกวําร๎อยละ 30-40 จะเกิดขึ้น พร๎อมๆ กับการได๎รับสิทธิพิเศษทางการค๎า
อยํางเชํน GSP อยํ างน๎อย 10 ปี ที่จะกลายเป็นแต๎มตํอที่สาคัญ ให๎เวียดนามด๎วย นับตั้งแตํเวียดนาม
ประกาศใช๎กฎหมายวําด๎วยการลงทุนตํางชาติ ประเทศสมาชิกอาเซียนสนใจลงทุนในเวียดนามสูงขึ้นทันที
เพราะเวียดนามเองก็ถือเป็นตลาดใหญํกวํา 89 ล๎านคน สมบูรณ๑พร๎อมด๎วยทรัพยากรธรรมชาติ มีแรงงานที่
มีคําแรงถูก ศักยภาพของเวียดนามสํงผลให๎ปัจจุบันมีสมาชิกอาเซียนอยํางสิงคโปร๑เข๎าไปลงทุนมากเป็น
อันดับ 1 มูลคํา 5.3 พันล๎านเหรียญสหรัฐ มาเลเซีย และไทยลงทุนเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลาดับ โดยกลุํม
ธุรกิจที่เวียดนามเปิดให๎มีการลงทุนและพัฒนา สํวนใหญํอยูํในกลุํมอุตสาหกรรมการผลิต การกํอสร๎างที่อยูํ
อาศัย การผลิตสินค๎าอุปโภคบริโภคและการแปรรูปอาหาร

More Related Content

What's hot

Ed building-asea ncommunity
Ed building-asea ncommunityEd building-asea ncommunity
Ed building-asea ncommunitysiripon25
 
การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2
พัน พัน
 
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงKowin Butdawong
 
Ppt ปัจจัยการผลิต
Ppt ปัจจัยการผลิตPpt ปัจจัยการผลิต
Ppt ปัจจัยการผลิต1707253417072534
 
บทนำ แผนพัฒนา 3 ปี
บทนำ แผนพัฒนา 3 ปีบทนำ แผนพัฒนา 3 ปี
บทนำ แผนพัฒนา 3 ปี
เทศบาลตำบลท่าวังตาล
 
การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่
การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่
การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่Thosaporn Sirisumphand
 
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
National Science and Technology Development Agency (NSTDA) - Thailand
 
เอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯ
เอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯเอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯ
เอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯthnaporn999
 
งานนำเสนอbm702
งานนำเสนอbm702งานนำเสนอbm702
งานนำเสนอbm702Tanapon_V
 
World Think Tank Monitors l กันยายน 2559
World Think Tank Monitors l กันยายน 2559World Think Tank Monitors l กันยายน 2559
World Think Tank Monitors l กันยายน 2559
Klangpanya
 
3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย
3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย
3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย
National Science and Technology Development Agency (NSTDA) - Thailand
 
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563
องค์การบริหารส่วนตำบล ห้วยยาง
 
World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559
World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559
World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559
Klangpanya
 

What's hot (13)

Ed building-asea ncommunity
Ed building-asea ncommunityEd building-asea ncommunity
Ed building-asea ncommunity
 
การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2
 
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 
Ppt ปัจจัยการผลิต
Ppt ปัจจัยการผลิตPpt ปัจจัยการผลิต
Ppt ปัจจัยการผลิต
 
บทนำ แผนพัฒนา 3 ปี
บทนำ แผนพัฒนา 3 ปีบทนำ แผนพัฒนา 3 ปี
บทนำ แผนพัฒนา 3 ปี
 
การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่
การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่
การบริหารการพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่
 
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
 
เอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯ
เอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯเอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯ
เอกสารประกอบการเรียน เศรษฐกิจ1ฯ
 
งานนำเสนอbm702
งานนำเสนอbm702งานนำเสนอbm702
งานนำเสนอbm702
 
World Think Tank Monitors l กันยายน 2559
World Think Tank Monitors l กันยายน 2559World Think Tank Monitors l กันยายน 2559
World Think Tank Monitors l กันยายน 2559
 
3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย
3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย
3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย
 
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2560 - 2563
 
World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559
World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559
World Think Tank Monitors l สิงหาคม 2559
 

Similar to ศักยภาพการลงทุนในเวียดนาม

Megatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontier
Megatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontierMegatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontier
Megatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontier
Songyos SRIJOHN
 
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคมการรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคมjeabjeabloei
 
02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน
02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน
02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนKannika Maitachak
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
สุปราณี เขื่อนขันธ์
 
ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11
ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11
ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11Ong-art Chanprasithchai
 
Opportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
Opportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมOpportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
Opportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
Thailand Board of Investment North America
 
แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗
แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ  คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ  คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗
แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗นายจักราวุธ คำทวี
 
Thai Education Master Plan # 11
Thai Education Master Plan # 11Thai Education Master Plan # 11
Thai Education Master Plan # 11
Boonlert Aroonpiboon
 
แผนพัฒนาการศึกษา 11
แผนพัฒนาการศึกษา 11แผนพัฒนาการศึกษา 11
แผนพัฒนาการศึกษา 11
Ch Khankluay
 
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงKowin Butdawong
 
Aec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไร
Aec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไรAec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไร
Aec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไร
Utai Sukviwatsirikul
 
คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)
คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)
คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)
wonvisa
 
Overall asean
Overall aseanOverall asean
Overall aseani_cavalry
 
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคม
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคม
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมdomwitlism
 
Book 50 คำถาม
Book 50 คำถามBook 50 คำถาม
Book 50 คำถามsammychimrueng
 
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลยใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลยthnaporn999
 

Similar to ศักยภาพการลงทุนในเวียดนาม (20)

Megatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontier
Megatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontierMegatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontier
Megatrends & Thailand : Opportunities for new investment frontier
 
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคมการรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
 
02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน
02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน
02 ไทยกับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11
ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11
ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญแผนฯ 11
 
ประชาคมอาเซียน
ประชาคมอาเซียนประชาคมอาเซียน
ประชาคมอาเซียน
 
Opportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
Opportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมOpportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
Opportunity Thailand - เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
 
แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗
แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ  คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ  คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗
แผนพัฒนาฯ 11 จักราวุธ คำทวี ๑๓ มิ.ย.๕๗
 
Thai Education Master Plan # 11
Thai Education Master Plan # 11Thai Education Master Plan # 11
Thai Education Master Plan # 11
 
แผนพัฒนาการศึกษา 11
แผนพัฒนาการศึกษา 11แผนพัฒนาการศึกษา 11
แผนพัฒนาการศึกษา 11
 
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 
Aec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไร
Aec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไรAec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไร
Aec ประเทศเราจะได้รับประโยชน์อะไร
 
คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)
คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)
คู่มือส่งเสริมความรู้การทำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (e-Business)
 
Overall asean
Overall aseanOverall asean
Overall asean
 
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคม
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคม
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจสังคม
 
บทที่3
บทที่3บทที่3
บทที่3
 
บทที่3
บทที่3บทที่3
บทที่3
 
Asean...pongsak
Asean...pongsakAsean...pongsak
Asean...pongsak
 
Book 50 คำถาม
Book 50 คำถามBook 50 คำถาม
Book 50 คำถาม
 
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลยใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
 

ศักยภาพการลงทุนในเวียดนาม

  • 1. ศักยภาพการลงทุนในเวียดนาม บทนา เนื่องจากเวีย ดนามเป็ น ประเทศในคาบสมุท รอิน โดจีน ที่ ได๎รั บ ความสนใจในปั จ จุ บั น และได๎ กลายเป็นประเทศที่มีความสาคัญตํอภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ ทั้งในด๎านการเมือง เศรษฐกิจ และ ยุทธศาสตร๑ความมั่นคง นับตั้งแตํเวียดนามได๎ดาเนินนโยบายปฏิรูปทางเศรษฐกิจ หรือ Doi Moi ในปี 1986 เป็นต๎นมา เวียดนามก็ยิ่งได๎รับความสนใจมากขึ้นจากประชาคมโลก ซึ่งการดาเนินการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ดังกลําว เป็นจุดเริ่มต๎นที่ปลดเวียดนามออกจากการโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจ และทาให๎ประเทศไทยเริ่มหัน มาสนใจเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะการมุํงไปที่ประเด็นทางเศรษฐกิจ มากกวําประเด็นอื่นๆ ซึ่งประเด็น ทางเศรษฐกิ จ สํวนใหญํ ได๎ รับ ความสาคั ญ จากนัก ธุรกิ จ หรือแม๎แตํนัก การเมืองไทยบางคนก็ สนใจใน ประเด็นของการค๎าและการลงทุนเชํนกัน ทาให๎ประเด็นทางด๎านความมั่นคงและประเด็นทางประวัติศาสตร๑ สังคม วัฒนธรรมของเวียดนามถูกมองข๎ามไป การปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่กาลังดาเนินอยูํมีจุดมุํงหมายที่จะดึงศักยภาพที่เวียดนามมีอยูํออกมาใช๎ เพื่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิ จ ในภาคตํ างๆ ซึ่ง สํว นหนึ่ง ได๎รับ ความรํวมมือจากตํางประเทศเชํน เคย ศักยภาพดังกลําวมีอยูํในทรัพยากรธรรมชาติ และในทรัพยากรมนุษย๑ เนื่องจากเวียดนามมีความสมบูรณ๑ ทางทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นตลาดแรงงานที่กว๎าง รวมทั้งแรงงานชาวเวียดนามนี้มีความสามารถใน การเรียนรู๎ฝึกฝน อดทน และอัตราคําแรงงานขั้นต่าอยูํในระดับที่ไมํสูงจนเกินไป ทาให๎เวียดนามอยูํให๎ความ สนใจของประเทศตํางๆในโลก ทั้งในด๎านการค๎า การลงทุน การให๎ ความชํวยเหลือเพื่อการพัฒนา และใน เรื่องที่เกี่ยวกับบทบาทของเวียดนามในการเมืองในภูมิภาค การเจริญเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ของเวียดนาม จึงเป็นอีกปัจจัยอันหนึ่งที่จะนาไปสูํความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและสันติภาพในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต๎1 ตํอมาเมื่อเวียดนามเข๎าเป็นสมาชิกอาเซียนแล๎ว มูลคําการลงทุนจากอาเซียนก็เพิ่มขึ้นอยํางรวดเร็ว ใน ค.ศ.1995 เงินทุนจดทะเบียนในโครงการลงทุนจากอาเซียนมีมูลคํา 3.24 พันล๎านเหรียญสหรัฐ เมื่อถึง ค.ศ. 1997 ตัวเลขนี้ก็เพิ่มเป็นกวํา 7.8 พันล๎านเหรียญสหรัฐ และอีก 3 ปีตํอมาก็เพิ่มขึ้นไปเป็น 9.2 พันล๎าน เหรียญสหรัฐ และเฉพาะชํวง ค.ศ.2008-2009 เงินลงทุนจากอาเซียนเพิ่มขึ้นอยํางมโหฬารจาก 11 พันล๎าน เหรียญสหรัฐ เป็น 46.4 พันล๎านเหรียญสหรัฐ ในแงํของการประเมินความพร๎อมของประเทศตํางๆ ในการรับมือการแขํงขันในประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล๎นี้ เวียดนามเป็นประเทศที่มีความพร๎อมมากที่สุดในบรรดาประเทศ 1 ธัญญาทิพย๑ ศรีพนา. (2541). เมื่อเวียดนามปฏิรูป. กรุงเทพฯ: ดํานสุทธาการพิมพ๑.
  • 2. สมาชิกทั้งหลาย คือ มีความพร๎อมถึงร๎อยละ 85 รองลงมาคือ มาเลเซีย ร๎อยละ 72 ตามด๎วยไทย ร๎อยละ 67 อินโดนีเซีย ร๎อยละ 63 บรูไน ร๎อยละ 58 และฟิลิปปินส๑ ร๎อยละ 57 (จากข๎อมูลของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการมูลนิธิประเมินคําทรัพย๑สินแหํงประเทศไทย) จะเห็นได๎วํา เวียดนามเป็นประเทศใหญํมากที่สุดเป็นลาดับที่สามในเอเซียน คือ มีประชากรเกือบ 90 ล๎านคน รองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส๑ ที่สาคัญคือ มีประชากรอยูํในวัยหนุํมสาวเป็นจานวนมาก และคนเหลํานี้มีการศึกษาดี ทาให๎เศรษฐกิจเวียดนามตั้งแตํชํวงทศวรรษ 1990 เป็นต๎นมา คือ หลังจากมี การใช๎นโยบายปฏิรูปที่เรียกวํา “Doi Moi” มีเติบโตทางเศรษฐกิจอยํางตํอเนื่อง การเปลี่ยนแปลงของเวียดนาม หลังจากที่เวียดนามได๎ประกาศนโยบายปฏิรูป เศรษฐกิจ (Doi Moi Policy) เมื่อปี 1986 ทาให๎ เวียดนามเข๎ามาสูํระบบเศรษฐกิจตามกลไกตลาดมากขึ้น นับวําประสบผลสาเร็จด๎วยดี เพราะกลไกตลาด เป็นปัจจัยที่ชํวยทาให๎มีการหลั่งไหลของความชํวยเหลือด๎านเงินกู๎ และการลงทุนจากตํางประเทศ รวมทั้ง การขยายตัวทางด๎านการค๎ากับตํางประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น อยํางไรก็ตาม พรรคคอมมิวนิสต๑เวียดนาม ได๎ กาหนดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงยึดมั่นหลักการของสังคมนิยมอยํางมั่นคง แตํจะ ดาเนินการตามแนวนโยบายปฏิรูปอยํางตํอเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาประเทศไปสูํการเป็นประเทศ อุตสาหกรรมและทันสมัย 1. การเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง การปกครอง การเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่สาคัญในสํวนของการเมือง คือ เวียดนามได๎มีความพยายามในการสร๎าง ความสัมพันธ๑ระหวํางประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกา ทั้งยังมีความใกล๎ชิดกับประเทศในกลุํมอาเซียน และคาดหวังวําจะเกิดความสัมพันธ๑ที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นกับประเทศจีน ประเทศในกลุํมยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลี รวมทั้งความสัมพันธ๑กับประเทศไทยด๎วย การเมืองในเวียดนามถือได๎วํามีความมั่นคงเป็นอยํางมาก และนโยบายตํางๆได๎มีการพัฒนาและ ปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ผํานการศึกษาจากข๎อดีข๎อเสีย และแนวทางในการดาเนินงานของประเทศ เพื่อนบ๎าน 2. การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม เดิมเวียดนามเป็นสังคมเกษตรกรรมโดยมีประชากรราว 56.8%อยูํในภาคเกษตรกรรม เมื่อมีการ เปิดประเทศทาให๎มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากขึ้น โดยคนรุํนใหมํมีการเข๎าสูํภาคอุตสาหกรรมและ อพยพเข๎าสูํเมืองใหญํเพื่อทางานมากขึ้น อีกทั้งประชากรยังมีความต๎องการที่จะเป็นเจ๎าของธุรกิจของตัวเอง ชอบการแขํงขัน กระตือรือร๎น และให๎ความสาคัญ กับ การศึก ษาเป็ นอยํ างมาก โดยเฉพาะความรู๎ด๎าน ภาษาตํางประเทศ ซึ่งจะทาให๎พวกเขาสามารถเข๎าทางานในบริษัทตํางชาติ และได๎เงินเดือนที่สูงขึ้น ซึ่งคน
  • 3. จานวนมากจะใช๎เวลาหลังเลิกงานเพื่อเรียนหนังสือ และหากครอบครัวไหนที่มีฐานะดีก็จะสํงลูกไปเรียนยัง ตํางประเทศ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมประกอบกับโอกาสในการหารายได๎ที่มากขึ้นทาให๎รูปแบบการดารงชีวต ิ ของชาวเวีย ดนามเปลี่ย นแปลงไป ไมํวําจะเป็ น การทานอาหารนอกบ๎ านมากขึ้น มีความต๎องการที่จ ะ จับ จํายใช๎สอยมากขึ้น รวมทั้งการซื้อสิน ค๎าเริ่มเปลี่ย นจากการจับ จํายในตลาดสดเป็น ตลาดซุป เปอร๑ มาร๑เกตแทน อีกทั้งยังมีความต๎ องการที่จ ะซื้อสินค๎าที่มีแบรนด๑ สินค๎าไอที อาจกลําวได๎วําเวีย ดนามใน ปัจจุบันมีความทันสมัยแมํแพ๎กับประเทศเราเลย สภาพบ๎านเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเป็นอยํางมาก กลําวคือ มีอาคารสานักงานขนาดใหญํ มี โรงแรมที่ทันสมัย และร๎านค๎าตํางๆ เกิดขึ้นอยํางมากมาย ความยากจนถือเป็นประเด็นสาคัญประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลให๎ความสาคัญ โดยที่ผํานมาถือวําการ ทางานของรัฐบาลประสบความสาเร็จเป็นอยํางมาก เพราะสามารถลดระดับความยากจนจากร๎อยละ 60 ในปี 1990 มาอยูํที่ระดับร๎อยละ 18 ในปี 2004 ซึ่งเป็นที่ยอมรับของUNDP (United Nation Development Programs) 3. การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจภายในประเทศของเวียดนาม ได๎มีการเปลี่ยนแปลงจากในอดีตจากหน๎ามือเป็นหลังมือ ตัวอยํางที่เห็นได๎ชัดคือ แตํกํอนนั้นเวียดนามเคยประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ถึงกับต๎องนาเข๎าข๎าวจาก ตํางประเทศ แตํหลังจากการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจได๎เพียง 2 ปี เวียดนามก็สามารถผลิตอาหารได๎ เพียงพอตํอความต๎องการภายในประเทศ และก๎าวขึ้นสูํประเทศที่มีการสํงออกข๎าวเป็นอันดับหนึ่งของโลก แซงหน๎าประเทศไทยที่เคยเป็นอันดันหนึ่งเดิมได๎สาเร็จ เวียดนามถื อเป็น ประเทศที่มีบทบาทมากยิ่งขึ้น ในภู มิภาค โดยเฉพาะอยํางยิ่ งในกลุํมประเทศ อาเซียนและพัฒนาตัวเองเป็นประเทศอุตสาหกรรมในอนาคตซึ่งมีแนวโน๎มที่เป็นไปได๎เนื่องจากมีทรัพยากร ที่คํอนข๎างสมบูรณ๑ โดยในปัจจุบันนั้นหลายๆประเทศได๎มีการย๎ายฐานการผลิตจากไทยไปยังเวียดนามมาก ขึ้น2 เวียดนามถือเป็นประเทศที่ถูกมองวําเป็นมังกรน๎อยที่มีศักยภาพในการเติบโตตามประเทศจีนตํอไป ในอนาคต ภายหลังที่ได๎มีการเปิดประเทศและสมัครเข๎าเป็นสมาชิกองค๑การค๎าโลกหรือ WTO ซึ่งถือเป็น การเปิดประเทศสูํการค๎าโลกและเปิดรับระบบทุนนิยมมาใช๎ในการพัฒนาประเทศ 2 พ. ประไพพงษ๑, อภิชาต สิริผาติ. (2550). เวียดนามตลาดพันล๎านที่นําลงทุน. กรุงเทพฯ: บิสซี่เดย๑.
  • 4. เวียดนามสามารถสร๎างการเติบโตทางเศรษฐกิจให๎กับประเทศอยํางมาก โดยอัตราการเติบโตทาง เศรษฐกิจเป็นไปอยํางก๎าวกระโดด ซึ่งพลังการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สาคัญของเวียดนามมาจากการลงทุน จากตํางประเทศ การสํงออกวัตถุดิบ สิ่งทอ เครื่องหนังและสินค๎าเกษตร รวมถึงการพัฒนาของภาคบริการ การทํองเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม เวียดนามมีการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั้งระยะสั้น และระยะยาวภายใต๎การกากับดูแล ของกระทรวงวางแผนและการลงทุน (Ministry of Planning and Investment: MPI) โดยขณะนี้อยูํระหวําง การใช๎แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะยาว 10 ปี (ปี 2544-2553) และระยะสั้น 5 ปี (ปี 2549-2553) MPI วางเป้ าหมายของการพัฒนาประเทศไว๎อยํ า งชัด เจนโดยก าหนดวิ สัย ทัศ น๑ที่จ ะพัฒนา เวียดนามไปสูํการเป็นประเทศอุตสาหกรรม มุํงขจัดปัญหาความยากจน และเปิดประเทศให๎เจริญทัดเทียม กับนานาประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั้งระยะสั้นและระยะยาวมีบทบาทสาคั ญตํอการพัฒนาประเทศ ดังนี้ 1. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะยาว 10 ปี วางเป้าหมายให๎เวียดนามหลุดพ๎นจากการ เป็นประเทศด๎อยพัฒนาและก๎าวไปสูํการเป็นประเทศอุตสาหกรรมในอนาคต พร๎อมทั้งยกระดับคุณภาพ ชีวิตและความเป็นอยูํของประชาชนให๎ดีขึ้น รัฐบาลเวียดนามวางเป้าหมายให๎อั ตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เทํา ของปี 2544 โดยจะลดสัดส่วนของภาคเกษตรกรรมและให้ความสาคัญกับภาคอุตสาหกรรมและ บริการเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 6.9% ในปี 2544 และขยายตัวสูงถึง 8.2% ในปี 2549 คาดวําเมื่อสิ้นสุดแผนในปี 2553 เวียดนามจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว๎ได๎ 2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะสั้น 5 ปี เน๎นการเปิดประเทศและดึงดูดการลงทุนจาก ตํางประเทศเพื่อพัฒนาประเทศให๎เ จริญ ทัดเทีย มกั บ นานาประเทศ รัฐบาลเวีย ดนามตั้งเป้ าหมายให๎ เศรษฐกิจขยายตัวอยูํในระดับ 7.5-8% สาหรับการพัฒนาด๎านสังคมรัฐบาลเวียดนามมุํงขจัดปัญหาความ ยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให๎ดีขึ้น รัฐบาลเวียดนามกาหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในแตํละภูมิภาคไว๎อยํางชัดเจน โดยมี เป้าหมายสร๎างความแข็งแกรํงในแตํละภูมิภาคภายใต๎โครงสร๎างระบบเศรษฐกิจเปิด มุ่งเน้นการค้ากับ ต่างประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศเป็นสาคัญ รวมทั้งขยายตลาดการค๎าของแตํละภูมิภาค ออกไปทั้งในระดับประเทศและตํางประเทศ
  • 5. เวียดนามเรํงยกระดับเขตสํงเสริมการลงทุน ทั้งเขตนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Zones: IZs) และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก (Export Processing Zones: EPZs) ที่มีอยูํเดิมให๎มี ประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันสํงเสริมให๎มีการจัดตั้งเขตสํงเสริมการลงทุนแหํงใหมํๆ เพื่อกระตุ๎นให๎ เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจอยํางยั่งยืนในแตํละภูมิภาค3 ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐบาลเวียดนามแบํงพื้นที่การพัฒนาออกเป็น 6 ภูมภาคได๎แกํ ภาคเหนือและพื้นที่ภูเขา พื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแมํน้าแดง ภาคเหนือตอนกลางและ ิ พื้นที่ชายฝั่งทะเลตอนกลาง พื้นที่ที่ราบสูงภาคกลาง ภาคใต๎ฝั่งตะวันออก และพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปาก แมํน้าโขง ภายใต๎แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะยาว 10 ปี และระยะสั้น 5 ปี รัฐบาลเวียดนามจะ ประเมิน ผลการพัฒนาทุก ปี เพื่อ ปรับ แผนพั ฒนาเศรษฐกิ จ และสัง คมของประเทศให๎ส อดคล๎ องกั บ สถานการณ๑ของโลกในปัจจุบัน นโยบายด้านเศรษฐกิจการค้า นโยบายการนาเข้า เวียดนามใช๎มาตรการชะลอการนาเข๎าเพื่อแก๎ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยลง การสํงเสริมให๎มีการนาเข๎าแบบแลกเปลี่ยนสินค๎า (Barter Trade) เพื่อประหยัดเงินตราตํางประเทศของ รัฐบาลเวียดนามเป็นสมาชิกสหภาพศุลกากร และได๎รับในฐานะเป็นผู๎สังเกตการณ๑ของแกตต๑ และได๎เข๎า รํวมเป็นสมาชิกอาเซียนตั้งแตํเดือนกรกฎาคม 2538 กาหนดเริ่มดาเนินการลดภาษีตามข๎อตกลงวําด๎วย อัตราภาษีพิเศษที่เทํากัน สาหรับอาเซียน (The Agreement on the Common Effective Preferential Tariff: CEPT) ตั้งแตํวันที่ 1 มกราคม 2539 เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ (2002) GDP อยูํที่ 34,452.30 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราเจริญเติบโตของ GDP ที่ 6.7 % รายได๎ตํอหัว 600 USD และมีทุนสารองเงินตราตํางประเทศอยูํที่ 1,350 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ โครงสร๎างเศรษฐกิจปัจจุบัน ประกอบด๎วย ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม อาหารสาเร็จรูป 695.73 ล๎าน เหรียญสหรัฐฯ น้ามันเชื้อเพลิง 380.10 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ๑เคมี 176.09 ล๎านเหรียญสหรัฐ วัสดุ กํอสร๎าง 174.63 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ๑สิ่งทอ 172.13 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ การผลิตกระแสไฟฟ้า 140.03 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ เครื่องจักรและอุปกรณ๑ 46.55 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ไม๎และผลิตภัณฑ๑ไม๎ 61.80 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ อาหาร 60.33 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ เครื่องใช๎ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส๑ 46.04 ล๎านเหรียญ สหรัฐฯ และอื่น ๆ 284.95 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ (มูลคําตามราคาปี 2543) 3 ศรีประไพร เพชรมีศรี. (2542). การพัฒนาเศรษฐกิจการเมืองของเวียดนาม. กรุงเทพฯ: โครงการจัดพิมพ๑คบไฟ.
  • 6. ด๎านโครงสร๎าง การกระจายการจ๎างงาน ประกอบด๎วย ด๎านเกษตรกรรมและป่าไม๎ 26.75 ล๎านคน ด๎านอุตสาหกรรม 5.46 ล๎านคน ด๎านพาณิชยกรรม 1.95 ล๎านคน ด๎านการกํอสร๎าง 0.97 ล๎านคน ด๎านการ ขนสํง 0.68 ด๎านบริการ 0.66 ล๎านคน และอื่น ๆ 1.95 ล๎านคน ในด๎านของอุตสาหกรรมที่ไทยพอมีศักยภาพและลูํทางที่จะเข๎าไปดาเนินธุรกิจการค๎าที่เกี่ยงข๎อง หรือในการเข๎าไปรํวมลงทุนทาการผลิตในเวียดนาม รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เวียดนามสามารถพัฒนาการ ผลิตในเวีย ดนาม รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เ วียดนามสามารถพัฒนาการผลิต และเป็ นแหลํงวัตถุ ดิบหรือ วัตถุดิบแปรรูปที่ตรงกับความต๎องการของไทย ดังเชํน อุตสาหกรรมแปรรูปสินค๎าเกษตร ไมํวําจะเป็นข๎าว ยางพารา มัน สาปะหลั ง กาแฟ อ๎ อย ผัก และผลไม๎ รวมทั้งอุตสาหกรรมแปรรู ป สิน ค๎าประมง จ าพวก ผลิตภัณฑ๑อาหารทะเลบรรจุกระป๋องและแชํแข็ง และอุตสาหกรรมเหมืองแรํ น้ามันดิบ แก๏สธรรมชาติ ถําน หิน และอัญมณี อุตสาหกรรมทํองเที่ยวและบริการอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช๎ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส๑ โทรทัศน๑ วิทยุ พัดลม ตู๎เย็น อุปกรณ๑เครื่องเสียงตําง ๆ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องโทรคมนาคม อาทิ วิทยุ ติดตามตัว โทรศัพท๑เคลื่อนที่ และโทรศัพท๑ตั้งโต๏ะ วิทยุรับสํงเคลื่อนที่ของการสร๎างระบบเครือขํายตําง ๆ อุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอและผ๎าผืน อุตสาหกรรมการผลิตสินค๎าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมการผลิต วัสดุกํ อสร๎างและตกแตํ งภายใน อุตสาหกรรมการกํอสร๎างและพัฒนาโครงการพื้น ฐานตําง ๆ เชํน ถนน สะพาน สนามบิน ทําเรือ นิคมอุตสาหกรรม ตึกอาคาร สานักงาน และที่พักอาศัย ทางด๎ านนโยบาย การลงทุน จากตํางประเทศ รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายให๎ความสาคัญและ สนับสนุนในโครงการลงทุนของตํางชาติ อาทิเชํน โครงการขนาดใหญํที่ผลิตเพื่อสํงออกและทดแทนการ นาเข๎า โครงการที่ต๎องใช๎เทคโนโลยีสูง ใช๎แรงงานที่มีทักษะและใช๎ทรัพยากรธรรมชาติของเวียดนามเป็นไป อยํางมีประสิทธิภาพ โครงการผลิตที่เน๎นการใช๎แรงงานและวัตถุดิบตําง ๆ ภายในประเทศ โครงการกํอสร๎าง ปัจจัยพื้นฐานตําง ๆ และโครงการด๎านการให๎บริการที่เป็นแหลํงที่มาของเงินตราตํางประเทศ สํวนในด๎านของการคมนาคมและขนสํงเสียดนามนั้น การขนสํงทางน้า เวีย ดนามมีทําเรือหลักละ สิ่งอานวยความสะดวกที่ทําเรือ อยํางเชํน ทําเรือไฮฟอง ตั้งอยูํในเมืองไฮฟอง ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือนี้มี ประมาณ 7-10 ล๎านตัน ตํอปี สามารถรับ เรือระวางบรรทุก 7,000-10,000 ตัน ทําเรือมีขนาดความยาว 2,366 เมตร ซึ่งแบํงเป็นเขตทําเรือยํอยได๎ 4 เขต คือ ทําเรือหลัก มีความยาว 1,722 เมตร ลึก 8.4 เมตร ทําเรือเหวิดกั๊ด มีความยาว 314 เมตร ลึก 3 เมตร ทําเรือจั่วแหวะมีความยาว 330 เมตร ลึก 8.4 เมตร ทําเรือดิงห๑หวู ตั้งอยูํในเขตเมืองไฮฟอง ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือ ปีละประมาณ 2-7 ล๎านตัน สามารถรับ เรือระวางบรรทุก 10,000 – 30,000 ตัน ทําเรือมีขนาดความยาวประมาณ 2 – 3 กม. ทําเรือก๐ายเลิน ตั้งอยูํ
  • 7. ในเขตจังหวัดกวํางนิงห๑ ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือนี้ปีละประมาณ 3 – 20 ล๎านตัน สามารถรับเรือระวาง บรรทุก 40,000 – 50,000 ตัน ทําเรือมีขนาดความยาวประมาณ 165 เมตร ลึก 9 เมตร และถึงปี 1010 จะ ขยายลึก 12 เมตร ทําเรือกั่วโอง ตั้งอยูํในเขตจังหวัดกวํานิงห๑ ปริมาณสินค๎าผํานทําเรือนี้ปีละประมาณ 2 – 5 ล๎านตัน สามารถรับเรือระวางบรรทุกได๎ 30,000 – 50,000 ตัน คาดวําจะเสร็จปี 2005 ปัจจุบันมีทํายาว ประมาณ 300 เมตร ระดับความลึก 8.4 เมตร ทําเรือเดี่ยนก็ อง ตั้งอยูํในเขตจังหวัดกวํางนิงห๑ เป็นทําเรือ สาหรับสินค๎าถํานหิน ปัจจุบันมีทํา 200 เมตร ลึก 7 เมตร กาลังขยายให๎กว๎างขึ้นและเพิ่มระดับความลึก ทําเรือดานัง สํวนทางภาคกลาง ทําเทียบเรือ 4 ทํา พื้นที่โกดัง 15,000 ตัน เครนขนาด 2 – 25 ตัน และ ทําเรือไซํงํอน ทําเรือที่ใหญํที่สุดของประเทศ ตั้งอยูํในนครโฮจิมินห๑ บนสองฝั่งของแมํน้าไซํงํอน มีทําเทียบ เรือโดยสารเดินทะเล 1 ทํา ทําเทียบเรือขนสํงสินค๎า 31 ทํา พื้นที่โกดัง 73,600 ตารางเมตร เครนขนาด 25 – 100 ตัน 16 ตัว การบริการด๎ านการเดิน เรือจากประเทศไทย ปั จจุบันปรากฏวํายังมีเที่ย วเรือขนสํงสินค๎าประจ า ระหวํางไทยกับเวียดนามคํอนข๎างจ ากัด คือ มีเที่ยวเรือขนสํงสินค๎าแบบตู๎คอนเทนเนอร๑ ระหวํางทําเรือ กรุงเทพ – ทําเรือไซํงํอน เดือนละ 2 เที่ยว การขนสํงสินค๎าจากประเทศไทยสํวนใหญํ จึงเป็นการสํงผํานทาง สิงค๑โปรที่มีเที่ยวเรือจากทําเรือกรุงเทพ สิงค๑โปร ไซํงํอน หรือไฮฟอง ประจาทุกสัปดาห๑ สํวนการขนสํงสินค๎า ทางเรือแบบ Bulk ขึ้นอยูํกับผู๎สํงออกจะทาการเช๎าเป็นเที่ยว ด๎า นของการคมนาคมทางอากาศ ในปั จ จุบั น เวีย ดนามมี สนามบิ น นานาชาติ 3 สนามบิ น ประกอบด๎วย สนามบิ น Noi Bai International Airport ตั้งอยูํ ทางตอนเหนือของกรุงฮานอยออกไป ประมาณ 30 กิ โลเมตร ให๎บ ริก ารทั้งด๎ านการขนสํงผู๎โดยสารและสิน ค๎า สามารถบิน ตรงไปยัง ฮํองกง กั วลาลั มเปอร๑ ไทเป ดู ไบ ปารี ส เบอร๑ลิน มอสโค มะนิ ลา และกรุง เทพฯ เป็ น ต๎ น สนามบิ น Danang International Airport ตั้ งอยูํ ท างภาคกลางในอดี ต เคยเป็ น ฐานทัพของสหรัฐ ฯ ปั จ จุ บั น นี้ข าดการ บารุงรักษาสํวนใหญํจึงใช๎สาหรับเครื่องบินภายในประเทศเทํานั้น ในการขนสํงสินค๎าและผู๎โดยสาร แตํ บางครั้งมีการรับเครื่องบินเชําเหมาจากตํางประเทศที่นานักทํองเที่ยวบินตรงมายังเมืองดานัง และสนามบิน Tan Son Nhat International Airport เป็นสนามบินที่ใหญํที่สุดของประเทศ ตั้งอยูํหํางจากนครโฮจิมินฟ์ 7 กิโลเมตร สามารถจอดเครื่องบินในเวลาเดียวกันได๎ 600 ลา สามารถบินตรงไปยัง เบอร๑ลิน แฟรงค๑เฟริต อัมสเตอร๑ดัม ปารีส โซล โอซาก๎า กวางโจว ไทเป ฮํองกง กรุงเทพฯ สิงค๑โปร กัวลาลัมเปอร๑ จาร๑กาต๎า ซิดนี่ย๑ มอสโค มะนิลา เป็ นต๎ น สํวนสายการบิน Vietnam Airlines เป็ นสายการบิ นแหํงชาติ ให๎บ ริก ารบิ นทั้ง
  • 8. ภายในและภายนอกประเทศ Pacific Airline เป็นสายการบินที่จัดตั้งขึ้นจากการรํวมทุนของหนํวยงานตําง ๆ ของรัฐบาลของเวียดนาม สํวนใหญํจะให๎บริการภายในประเทศ ด๎า นการคมนาคมทางบอก ถนนเวี ย ดนามมีร ะยะเส๎ น ทางขนสํ งหลั ก ประกอบด๎ว ยเส๎ น ทาง หมายเลข 1 เป็นเส๎นทางสายหลักของประเทศที่มีความยาวที่สุดจากเหนือสุดติดชายแดนจีนจาก Lang Son เชื่อมถึง Hanoi – Danang –Ho Chi Minh City ไปจรดใต๎สุดที่จังหวัด Minh hai รวมความยาวทั้งสิ้น 2,289 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 2 ระหวําง Hanoi – Ha Giang ขึ้นไปทางเหนือ ติดชายแดนจีนที่มณฑล ยูนนานยาว 319 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 3 ระหวําง Hanoi – Cao Bang ติดชายแดนจีน ทางมณฑล ยูนนาน เชํนกัน ยาว 218 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 5 ระหวําง Hanoi – Hai Phong ยาว 105 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 8 ระหวําง Ha Tinh – Vinh และมีเส๎นทางถนนตํอไป ถึงชายแดนติดกับจังหวัดบุริคัมไซ ของลาว ยาวประมาณ 90 กิโลเมตร เส๎นทางหมายเลข 9 ระหวําง Danang – Hue – Quang Tri ไปจนถึง ชายแดนติดกับจังหวัดสุวรรณเขตของลาว ยาวประมาณ 250 กิโลเมตร และเส๎นทางหมายเลข 51 ระหวําง Ho Chi Minh City – Nung Yau ยาวประมาณ 75 กิโลเมตร สาหรับ การคมนาคมทางรถไฟ เวีย ดนามมีเส๎น ทางรถไฟทั่วทั้งประเทศ 6 สาย ความยาวรวม 3,259 กิโลเมตร โดยมีระยะทางเพียง 166 กิโลเมตรที่ใช๎รางความกว๎างขนาดมาตรฐานสากล ที่เหลือเป็น รางกว๎างเพียง 1 เมตร ปัจจุบันมีหัวรถจักรโบกี้ตู๎โดยสารและโบกี้ตู๎สินค๎าที่ใช๎งานได๎ดังนี้ หัวรถจักร 428 คัน โบกี้ตู๎โดยสาร 785 คัน โบกี้ตู๎สินค๎า 4,649 คัน ทั้งนี้เส๎นทางการเดินรถไฟระหวํางจังหวัดตําง ๆ ซึ่งสํวนใหญํ อยูํทางเหนือ ประกอบด๎วย Hanoi – Ho Chi Minh City ระยะทาง 1,726 กิโลเมตร Hanoi-hai Phong ระยะทาง 102 กิโลเมตร เป็นต๎น ในเรื่องของการค๎าตํางประเทศโดยรวมของเวียดนาม ที่ผํานมา เวียดนามสํงออกไปยังตํางประเทศ ทั่วโลก มีอันดั บ 10 อันดับแรก ประกอบด๎วย ญี่ปุ่ น สิงคโปร๑ ไต๎หวัน เยอรมัน จีน ออสเตรเลีย สหรัฐ ฯ ฟิลิปปินส๑ อังกฤษ และฮํองกง สํวนประเทศคูํค๎าที่เวียดนามนาเข๎าจากประเทศตําง ๆ ซึ่งมีมูลคําสูงสุด 10 อันดับแรกประกอบด๎วย สิงคโปร๑ ญี่ปุ่น เกาหลีใต๎ ไต๎หวัน ไทย ฮํองกง จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส และอเมริกา ตามลาดับ ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเป็นประเทศที่เวียดนามสํงออกมากเป็นอันดับที่ 10 ในปี 2543 ซึ่งมีมูลคําการสํงออกได๎ 332.1 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 2.30% ของมูลคําสํงออกทั้งหมดของเวียดนาม และในปี 2544 เวียดนามสํงออกไปได๎ 268.5 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 4.60% ของมูลคําสํงออกทั้งหมด ของเวียดนาม
  • 9. ในขณะที่ไทยเป็นประเทศที่เวี ยดนามนาเข๎าอันดับที่ 6 ในปี 2543 มีมูลคําการนาเข๎าได๎ 848.5 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 5.43% ของมูลคําการนาเข๎าทั้งหมดของเวียดนาม และอันดับที่ 5 ในปี 2544 ซึ่งมีมูลคําการค๎ารวมที่ 1,127.02 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่ไทยสํงออกได๎ที่ 801.23 และนาเข๎าที่ 325.77 ดุลการค๎าไทยอยูํที่ 475.46 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ มาในปี 2545 ไทยและเวียดนามมีมูลคําการค๎ารวมที่ 1,186.56 แบํงเป็นไทยสํงออกที่ 947.98 และนาเข๎าที่ 238.57 ดุลการค๎าไทยได๎ที่ 709.41 ตํอมาปี 2546 ไทยค๎าขายกั บ เวีย ดนามมีมูลคํ ารวม 1,565.01 โดยที่ไทยสํงออกได๎ 1,263.28 และน าเข๎าที่ 331.73 ดุลการค๎าไทยอยูํที่ตั วเลข 931.55 และเมื่อเทียบกั บการน าเข๎าสิน ค๎าของเวีย ดนามกั บประเทศในกลุํม อาเซียนด๎วยกัน การนาเข๎าสินค๎าจากประเทศไทยอยูํอันดับที่ 2 รองจากสิงคโปร๑ สาหรับสินค๎าสาคัญของไทยสํงออก ประกอบด๎วย เม็ดพลาสติก เหล็กกล๎า และผลิตภัณ ฑ๑ น้ามัน สาเร็จรูป ก๏าซปิโตรเลียมเหลว ปูนซีเมนต๑ เคมีภัณฑ๑ รถจักรยายนต๑และสํวนประกอบ หนังและผลิตภัณฑ๑ หนังฟอก และเครื่องจักรกล ตามลาดับ สํวนสินค๎าไทยนาเข๎าจากเวียดนาม อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้า ถํานหิน น้ามันดิบ กุ๎งสด แชํเย็น สบูํ ผงซักฟอก และเครื่องสาอาง เป็นต๎น ด๎านของคูํแขํงจากอาเซียนด๎วยกันนั้น เวียดนามนาเข๎าสินค๎าสาคัญที่มีมูลคํานาเข๎าสูง ได๎แกํ ยา และเวชภัณฑ๑ คอมพิวเตอร๑ อุปกรณ๑และสํวนประกอบ เครื่องจักรและสํวนประกอบ สิ่งทอ เสื้อผ๎า และ เครื่องหนัง อุปกรณ๑การแพทย๑ ปูนซีเมนต๑ ปุ๋ย อะไหลํรถ เหล็ก และปิโตรเลียม จากประเทศสิงคโปร๑ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส๑ และลาว ตามลาดับ4 ปัจจัยสาคัญที่สนับสนุนให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าลงทุน 1) ความมีเสถียรภาพของรัฐบาล เวียดนามปกครองด๎วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต๑ มีพรรค การเมืองเพียงพรรคเดียว คือ พรรคคอมมิวนิสต๑เวียดนาม (Communist Party of Vietnam: CPV) ซึ่งมี บทบาทในการกาหนดแนวทางการบริหารประเทศทุกด๎าน ทาให๎การบริหารประเทศเป็นไปอยํางราบรื่น และนโยบายตําง ๆ ได๎รับการปฏิบัติอยํางตํอเนื่อง ขณะเดียวกันผู๎นาประเทศมีวิสัยทัศน๑ที่ชัดเจนในการ บริหารประเทศ และมีความมุํงมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจอยํางจริงจัง ซึ่งชํวยสร๎างความมั่นใจให๎แกํนัก ลงทุนตํางชาติที่สนใจเข๎ามาลงทุนในเวียดนาม 4 สุรกิจ จุฑาเทศ. (2547). เปิดเส้นทางการค้า การลงทุน หกเหลี่ยมเศรษฐกิจ. กรุงเทพ: สานักพิมพ๑อินฟอร๑มีเดีย บุ๏คส๑.
  • 10. 2) ทรัพยากรธรรมชาติ อุดมสมบูรณ๑ โดยเฉพาะพลังงานและแรํธาตุ เชํน การมีแหลํงน้ามันดิบ กระจายอยูํทั่วทุกภาค ทาให๎เวียดนามกลายเป็นประเทศผู๎สํงออกน้ามันดิบรายสาคัญอันดับ 3 ของภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ รองจากมาเลเซีย และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ เวียดนามมีปริมาณเชื้อเพลิงสารอง เชํน ก๏าซธรรมชาติ ปิโตรเลียม และถํานหินอยูํมาก รวมทั้ง แรํธาตุ สาคัญ คือ บอกไซต๑ โปแตสเซียม และ เหล็ก นอกจากนี้ ยังมี ทรัพยากรป่าไม๎ ซึ่งล๎วนเป็นวัตถุดิบสาคัญสาหรับการลงทุน รวมทั้ง ทรัพยากรดิน และน้าที่มีอยํางเพียงพอทั้งในด๎านปริมาณและคุณภาพก็เอื้อตํอการเพาะปลูก สํงผลให๎เวียดนามเป็นแหลํง ผลิตสินค๎าเกษตรหลายรายการจนติดอันดับประเทศผู๎สํงออกสินค๎าเกษตรรายใหญํของโลก เชํน พริกไทย (อันดับ 1 ของโลก) ข๎าว (อันดับ 2 ของโลก รองจากไทย) กาแฟ (อันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล ) เม็ด มะมํวงหิมพานต๑ (อันดับ 2 ของโลกรองจากอินเดีย) และอาหารทะเล (อันดับ 6 ของโลก) 3) เป็นตลาดขนาดใหญํที่มีศักยภาพ เวียดนามมีประชากรมากถึง 87 ล๎านคน จากการที่เวียดนาม ปิดประเทศมานาน ทาให๎ประชากรตื่นตัวกับสินค๎าและบริการใหมํ ๆ ทาให๎มีการจับจํายใช๎สอยมากขึ้นหลัง การเปิดประเทศ ประกอบกับชาวเวียดนามเริ่มมีกาลังซื้อมากขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อยูํในชํวง ขาขึ้น อีก ทั้งปริ มาณเงิน โอนกลับ ประเทศของชาวเวีย ดนามโพ๎น ทะเล หรือที่เ รีย กวํา ”เวียดกิ ว ” ซึ่งมี ประมาณ 3 ล๎านคน และโอนเงินกลับมาประเทศปีละประมาณ 3,200 ล๎านเหรียญสหรัฐฯ ชาวเวียดนาม สํวนใหญํมีความต๎องการสินค๎าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพดีจานวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้ ประชากรที่มี กาลังซื้อสูงสํวนใหญํอาศัยอยูํในนครโฮจิมินห๑และจังหวัดรอบนอก กรุงฮานอย และจังหวัดตํางๆบริเวณใกล๎ สามเหลี่ยมปากแมํน้าโขง ซึ่งเป็นพื้นที่สาคัญทางเศรษฐกิจ 4) เน๎นนโยบายเป็นมิตรกับทุกประเทศ และให๎ความสาคัญกับความปลอดภัย ทาให๎เวียดนามไมํ เคยตกเป็นเป้าหมายในการกํอการร๎าย และแทบไมํมีปัญหาอาชญากรรมขั้นร๎ายแรงเนื่องจากเวียดนามมี กฎหมายที่เข๎มงวดและมีบทลงโทษที่รุนแรง สํงผลให๎เวียดนามเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงแหํงหนึ่ง ของโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญที่ทาให๎นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจเข๎ามาลงทุน 5) เวียดนามให๎ความสาคัญกั บการพัฒนาเส๎นทางคมนาคมขนสํง ทั้งทางบก ทางน้า และทาง อากาศ ตลอดจนสาธารณูปโภคตําง ๆ ให๎มีความสะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของ เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาเส๎นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor: EWEC) 6) ความได๎เปรียบด๎านแรงงาน ร๎อยละ 55 ของประชากรในเวียดนามอยูํในวัยทางาน หรือจานวน 48 ล๎านคน ซึ่งมีอายุระหวําง 15-64 ปี และอัตราการรู๎หนังสือของชาวเวียดนามสูงกวําร๎อยละ 90 ทาให๎
  • 11. เวียดนามมีแรงงานคุณภาพจานวนมาก อัตราคําจ๎างแรงงานต่า และยังสามารถหาแรงงานได๎งําย นายจ๎าง สามารถรับ สมัครแรงงานได๎ โดยตรง ไมํต๎ องผํานกระทรวงแรงงานของเวีย ดนาม ในขณะเดีย วกัน ชาว เวียดนามก็มีความสนใจสมัครงาน ซึ่งสิ่งเหลํานี้เป็นจุดแข็งของตลาดแรงงานในเวียดนาม5 จุดแข็ง – จุดอ่อน ต่อการเข้ามาทาการค้าและการลงทุนในเวียดนาม เวียดนามเป็นประเทศที่มีแรงดึงดูดนักลงทุนตํางชาติอยํางมาก ทาให๎มีจุดแข็งที่นําจะเป็นโอกาส สาหรับนัก ลงทุน แตํ ในขณะเดี ยวกั น เวียดนามก็ยั ง มีอุปสรรคในการลงทุน อยูํบ๎ างในหลายๆ ประเด็น กลําวคือ จุดแข็ง - การเมืองมีเสถียรภาพ จากการที่ประเทศเวียดนามปกครองด๎วยระบอบสังคมนิยม มีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว คือ พรรคคอมมิวนิสต๑แหํงเวียดนาม ทาให๎กาหนดนโยบายและการกากับดูแลเป็นไปในทิศทางเดียวกันอยําง ตํอเนื่อง ผู๎ลงทุนสามารถวางแผนการประกอบธุรกิจและการลงทุนในระยะยาวได๎อยํางมีความมั่นใจ - คําจ๎างแรงงานต่า แม๎วําต๎นทุนแรงงานในประเทศเวียดนามจะเพิ่มขึ้นมากแตํเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ แล๎วยัง นับวํามีต๎นทุนต่ากวํา โดยอัตราคําจ๎างแรงงานทั่วไป วิศวกร และผู๎จัดการระดับกลางของเวียดนามมี สัดสํวนเพียง 17 – 32 % และ 29 – 42 % ของอัตราเฉลี่ยของประเทศในเอเชียและอาเซียน ตามลาดับ แรงงานในวัยหนุํมสาวของเวียดนามมีเป็นจานวนมาก จานวนประชากรประมาณ 60 % มีอายุต่ากวํา 30 ปี นอกจากจานวนแรงงานที่มีปริมาณมากแล๎ว แรงงานเหลํานี้ยังมีการศึก ษาดีทาให๎เวีย ดนามยั งคงเป็ น เป้าหมายของนักลงทุนตํางประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งยังมองวําลูํทางการลงทุนในเวียดนามยังมีแนวโน๎ม แจํมใส และบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนแล๎วในเวียดนามมีแผนการที่จะขยายการผลิต ภายใน 1- 2 ปีข๎างหน๎าอีก ด๎วย นอกจากนั้นแล๎ว ผลของการสารวจของ JETRO ยังพบอีกวําในอีก 5 – 10 ข๎างหน๎า เวียดนามจะเป็น อันดับหนึ่งแหํงเอเชียในการเป็นจุดหมายปลายทางสาหรับการตั้งโรงงานผลิตสินค๎าแม๎จะมีการคาดการณ๑ เกี่ยวกับเศรษฐกิจของเวียดนามในแงํลบก็ตาม 5 คูํมือการค๎าและการลงทุนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
  • 12. - วัตถุดิบและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ๑ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลายของเวียดนามทาให๎เวียดนามเป็นประเทศ หนึ่งที่ยังมีทรัพย๑ในดิน-สินในน้าที่อุดมสมบูรณ๑นับตั้งแตํสินแรํที่สาคัญ ๆ เชํน ถํานหิน เหล็ก ทองแดง ก๏าซ ธรรมชาติและน้ามันเวียดนามยังมีพื้นที่ที่เหมาะแกํการทาเกษตรกรรมอีกเป็นจานวนมาก จึงสามารถผลิต ผลผลิตทางการเกษตรได๎เป็นจานวนมากในอันดับต๎น ๆ ของโลก เชํน ข๎าว (เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก ไทย) กาแฟ (เป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล) ยางพารา (อันดับ 4) พริกไทยดา (อันดับ 1) ซึ่งสิ่งตําง ๆ เหลํานี้ เป็นแรงดึงดูดให๎นักลงทุนตํางชาติยังให๎ความสนใจที่จะเข๎ามาลงทุนผลิตสินค๎าในเวียดนาม จุดอ่อน - แรงงานขาดทักษะ เวียดนามยัง ขาดแคลนผู๎บริหารระดับกลางปัจจุบันแรงงานดังกลําวสามารถสนองความต๎องการ ของโครงการลงทุนจากตํางชาติได๎เพียง 1 ใน 4 สํวนแรงงานที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลั ยก็ยังขาด ทักษะและไมํมีการฝึกอบรม (training) - ต๎นทุนการลงทุนสูง จากรายงานของผู๎ศึกษาบางแหํง ได๎ชี้ให๎เห็นวําต๎นทุนการลงทุนในประเทศเวียดนามสูงกวําใน ประเทศอื่น ๆ โดยเปรียบเทียบ อัตราคําเชําสานักงานในกรุงฮานอยสูงเป็นลาดับ 5 ในเอเชียรองจาก มุมไบ นิวเดลี ฮํองกง และสิงคโปร๑ ต๎นทุนการขนสํงทางทะเลไป – กลับ ทําเรือเมืองดานัง มีอัตราสูงที่สุดในเอเชีย สูงกวําต๎นทุนโดยเฉลี่ยของประเทศในอาเซียนอื่น ๆ ประมาณ 1.5 เทํา สํวนคําเชําที่พักอาศัยในเวียดนามมี อัตราใกล๎เคียงกับคําเชําที่พักในสิงคโปร๑และเป็น 2 เทําของอัตราคําเชําในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต๎ - โครงสร๎างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสนับสนุนยังล๎าหลังและไมํเพียงพอ นักลงทุนจากบางประเทศผิดหวังกับ บรรยากาศการลงทุน ในเวียดนามโดยพิจารณาจากอัตรา ความพอใจลดลงจากเดิม 75.4 % เหลือ 41.7% โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัยคือ โครงสร๎างพื้นฐาน ทางเศรษฐกิ จที่ยั งล๎าหลังและขาดอุต สาหกรรมสนับ สนุน ด๎านวัสดุอุปกรณ๑ รวมทั้งผู๎จัดหา (service supplier) ก็ยังไมํมีประสิทธิภาพ หากจะเปรียบเทียบแล๎ว ถ๎าเงินทุนเพื่อการพัฒนามีเทํากับ 100 การลงทุน
  • 13. ในโครงสร๎างพื้นฐานทางเศรษฐกิจมีประมาณ 10 และเกือบจะไมํมีการลงทุนพัฒนาใน อุตสาหกรรม สนับสนุนที่เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ๑เลย “นักลงทุนจากบางประเทศผิดหวังกับบรรยากาศการลงทุนในเวียดนามโดยพิจารณาจาก อัตราความพอใจลดลงจากเดิม 75.4 % เหลือ 41.7% โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัยคือ โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังล้าหลัง และขาดอุตสาหกรรมสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์” อุตสาหกรรมสนับสนุน ในเวียดนามเป็นปัญหาอยํางมาก เพราะสัดสํวนของการจัดซื้อจัดจ๎างวัสดุ อุปกรณ๑จากในประเทศของบริษัทญี่ปุ่นในเวียดนามมีอัตราต่าที่สุดในภูมิภาคคือมีเพียง 26.5% เมื่อเทียบ กับอัตราโดยเฉลี่ยในภูมิภาค คือ 40.1% ในขณะที่อัตราดังกลําวในไทยซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาค มี มากกวําเวียดนามถึง 2 เทํา การที่วัสดุอุปกรณ๑ในประเทศเวียดนามมีน๎อยทาให๎ต๎นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนต๎อง สั่งซื้ออุปกรณ๑เหลํานั้นจากตํางประเทศ ดังนั้นแม๎วําในระยะยาว เวียดนามยังคงเป็นแหลํงการลงทุน ที่ นําสนใจของนักลงทุน แตํหลายบริษัทที่มีแผนจะเพิ่มปริมาณการจัดซื้อวัตถุดิบในประเทศ จึงต๎องให๎มีการ ปรับปรุงทั้ง Service supplier ในท๎องถิ่นและคุณภาพของวัตถุดิบและชิ้นสํวนอุปกรณ๑ นักลงทุนตํางชาติจานวนมากพบวํายากที่จะเป็นเจ๎าของที่อยูํอาศัยในเวียดนามแม๎วําเมื่อเร็ว ๆ นี้ สภาแหํงชาติจะผํานกฎหมายยินยอมให๎ตํางชาติมีที่อยูํอาศัยได๎ก็ตาม แตํยังไมํชัดเจนวํากฎหมายดังกลําว จะมีผลใช๎บังคับเมื่อใด คุณภาพของการให๎บริการอื่น ๆ ซึ่งมีจานวนน๎อยก็นําผิดหวังมากกวํา เนื่องจาก ขั้นตอนยุํงยากและมีอุปสรรคด๎านภาษี การขาดแคลนลํามที่มีคุณภาพ ทาให๎เป็นปัญหาสาหรับนักลงทุนใน การเจรจากับบริษัท และหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องโดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคกลางของเวียดนาม6 ทิศทางการลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประเทศเวียดนามนับวําเป็นอีกประเทศหนึ่งในคาบสมุทรอินโดจีนที่กาลังเป็นที่นําจับตามองของ เหลํานักลงทุนตํางชาติ โดยหากพิจารณาในชํวงระยะ 10 ปีที่ผํานมา พบวํา เวียดนามมีการพัฒนาทาง เศรษฐกิ จ ที่ดี แ ละปรั บ ตั วในทิศ ทางที่ สอดคล๎ องกั บ ระบบเศรษฐกิ จ โลก ซึ่ง เป็ น ไปตามทิ ศทางของ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติฉบับปี 2549-2553 โดยเป้าหมายหนึ่งคือการสร๎างความเข๎มแข็ง ให๎กับระบบเศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยมเพื่อก๎าวสูํความเป็นประเทศอุตสาหกรรมภายในปี 2563 ใน ปี 2530 รัฐบาลเวียดนามได๎มีการประกาศใช๎กฎหมายการลงทุนโดยตรงจากตํางชาติ หรือ Law on Foreign Direct Investment เพื่อรับประกันการปฏิบัติอยํางเป็นธรรมและเทําเทียมให๎กับนักลงทุน 6 AEC ศูนย๑ข๎อมูลความรู๎ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. AEC กับนโยบายการลงทุนในประเทศเวียดนาม. (ระบบ ออนไลน๑) แหลํงที่มา http://www.thai-aec.com/67#ixzz25gu6bXCI. (10 กันยายน 2555)
  • 14. ประกอบการเข๎าเป็นสมาชิก WTO ของเวียดนามในปี 2550 เป็นผลให๎รัฐบาลเรํงเปิดเสรีด๎านการลงทุน ซึ่ง มีสํวนอยํางมากในการสร๎างและเพิ่มความมั่นใจให๎แกํนักลงทุนตํางชาติ นอกจากนี้ยังพบวํา อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจชํวงปี 2553 อยูํที่ร๎อยละ 6.78 และเพิ่มขึ้น ในปี 2554 ร๎อยละ 5.89 ถือวําเป็นอัตราการเติบโตที่สูงเป็นอันดับต๎น ๆ หากเทียบกับประเทศในกลุํม อาเซียนด๎วยกัน จากการสารวจข๎อมูลชํวงปี 2531-2553 พบวํา มูลคําการลงทุนจากตํางประเทศสะสม อยูํ ที่ 194.4 พันล๎านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศที่มีมูลคําการลงทุนสะสมมากที่สุดคือ เกาหลีใต๎ ไต๎หวัน มาเลเซีย และญี่ปุ่นตามลาดับ ธุรกิจที่มีการลงทุนสูงที่สุดคือ อุตสาหกรรมการผลิต รองลงมาคือ ธุรกิจด๎าน อสังหาริมทรัพย๑ อยํางไรก็ดี ในปี 2553-2554 มีการรายงานวํา อุตสาหกรรมหลักที่มีการลงทุนมาที่สุดคือ อุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะสิ่งทอ และสิน ค๎าสํงออกที่สาคัญ ของเวียดนามคือ สิ่งทอและเสื้อผ๎า สาเร็จรูป ซึ่งแซงหน๎าการสํงออกน๎ามันดิบนับตั้งแตํปี 2552 จนทาให๎อุตสาหกรรมด๎านสิ่งทอและเสื้อผ๎า สาเร็จรูป เป็นสาขาการผลิตเพื่อการสํงออกที่ได๎รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนาม7 หนํวยงานที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรงในด๎านการลงทุนของตํางชาติ คือ กระทรวงวางแผนและการ ลงทุน หรือ Ministry of Planning and Investment: MPI เป็นหนํวยงานที่ทาหน๎าที่บริหารจัดการวางแผน นโยบายและสิทธิประโยชน๑ในการลงทุนทั้งชาวเวียดนามและตํางชาติ รวมถึงกากับดูแล ให๎ความชํวยเหลือ ในด๎านข๎อมูลและสํงเสริมการลงทุนในเวียดนาม อีกทั้งมีอานาจในการพิจารณาอนุมัติการลงทุนในโครงการ ตํางๆ สรุป จะเห็นได๎วํา นโยบายเศรษฐกิจการค๎าของเวียดนามยังคงเป็นไปในทิศทางเดิมนับจากการปฏิรูป เศรษฐกิจและสังคมตามนโยบาย “โดํย เหมย” เมื่อกวํา 20 ปีที่แล๎ว ดังจะเห็นได๎จากเป็นหมายและทิศทาง ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติปี 2549-2553 ข๎อหนึ่งที่ระบุให๎สร๎างความเข๎มแข็งให๎กับระบบ เศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยมเพื่อก๎าวสูํความเป็นประเทศที่กาลังพัฒนาและทันสมัยภายในปี 2563 เวีย ดนามมีการปรับตั วให๎เข๎ากั บระบบเศรษฐกิจ แบบเสรีของโลก ทาให๎เ ศรษฐกิ จของเวีย ดนามมีการ เจริญเติบโตและมีรูปแบบที่เป็นสากลอยํางมาก การเข๎าเป็นสมาชิกของ WTO ทาให๎เวียดนามต๎องมีการ ปรับปรุงกฎระเบียบ กฎหมาย ตลอดจนกลไกภาครัฐ เพื่อเปิดตลาดสินค๎าภาคบริการและการลงทุนใน ประเทศให๎กับประเทศสมาชิก WTO 7 คูํมือการค๎าการลงทุนในเวียดนาม, กรมสํงเสริมการสํงออก กระทรวงพาณิชย๑
  • 15. นโยบายการค๎าระหวํางประเทศของเวียดนาม คือ มีการสํงเสริมการค๎าเสรีโดยรัฐบาลได๎มีการ ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบให๎เอื้ออานวยตํอการค๎าระหวํางประเทศ มีการจัดตั้งหนํวยงานของรัฐเพื่อ ประสานงานกับบริษัทการค๎าตํางประเทศของรัฐและบริษัทเอกชนในการติดตํอการค๎ากับตํางประเทศซึ่งมี หนํวยงานที่สาคัญ ได๎แกํ กระทรวงเศรษฐกิจสัมพันธ๑กับตํางประเทศ ศูนย๑พัฒนาการสํงออกหอการค๎าและ อุตสาหกรรมแหํงเวียดนามบริษัทจัดแสดงสินค๎าและนิทรรศการ เป็นต๎น อยํางไรก็ตาม ปัจจุบันเวียดนาม ยังคงมีน โยบายปกป้องการใช๎ประโยชน๑จากทรัพย๑สินและทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศ รวมทั้ง คุ๎มครองกิ จการภายในประเทศโดยมีมาตรการควบคุมทั้งด๎านสํงออกและนาเข๎า เชํน การควบคุมการ สํงออกและนาเข๎าสินค๎าบางประเภท และการกาหนดโควตาการสํงออกและนาเข๎าสินค๎าบางประเภท เป็น ต๎น และในชํวงเวลา 2550 - 2553 ประเทศเวียดนามประสบกับปัญหาการขาดดุลการค๎าอยํางตํอเนื่อง ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากภาวะเงินเฟ้อในประเทศที่สูงขึ้นอยํางตํอเนื่อง สํงผลให๎ราคาสินค๎าสํงออกมีราคาสูงขึน ้ ด๎วยทาให๎สูญเสียโอกาสในการแขํงขันกับคูํแขํงในตลาดโลกได๎ และในปี 2554 รัฐบาลเวียดนามได๎สํงเสริม ให๎ประชาชนซื้อสินค๎าที่ผลิตขึ้นภายในประเทศเพื่อลดการนาเข๎า และลดการขาดดุลการค๎า อีกทั้งยังลด ความสาคัญของการจัดกิจกรรมแสดงสินค๎าของตํางชาติในประเทศลง ทาให๎เ วีย ดนามเองต๎องการมีบ ทบาทตํอระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย -แปซิฟิ ก และมูลคํา ทางการตลาดทั้งโลกด๎วย ที่สาคัญคือสํวนแบํงในตลาดเกิดใหมํอยําง เขตการค๎าเสรี อาเซียน ที่จะสํงผลไป ถึงตลาดในกลุํม APEC และ WTO อีกด๎วย แนํนอน ประโยชน๑ด๎านการค๎าและการลงทุนเวียดนามกั บ อาเซียนและตลาดอื่นๆไมํน๎อยกวําร๎อยละ 30-40 จะเกิดขึ้น พร๎อมๆ กับการได๎รับสิทธิพิเศษทางการค๎า อยํางเชํน GSP อยํ างน๎อย 10 ปี ที่จะกลายเป็นแต๎มตํอที่สาคัญ ให๎เวียดนามด๎วย นับตั้งแตํเวียดนาม ประกาศใช๎กฎหมายวําด๎วยการลงทุนตํางชาติ ประเทศสมาชิกอาเซียนสนใจลงทุนในเวียดนามสูงขึ้นทันที เพราะเวียดนามเองก็ถือเป็นตลาดใหญํกวํา 89 ล๎านคน สมบูรณ๑พร๎อมด๎วยทรัพยากรธรรมชาติ มีแรงงานที่ มีคําแรงถูก ศักยภาพของเวียดนามสํงผลให๎ปัจจุบันมีสมาชิกอาเซียนอยํางสิงคโปร๑เข๎าไปลงทุนมากเป็น อันดับ 1 มูลคํา 5.3 พันล๎านเหรียญสหรัฐ มาเลเซีย และไทยลงทุนเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลาดับ โดยกลุํม ธุรกิจที่เวียดนามเปิดให๎มีการลงทุนและพัฒนา สํวนใหญํอยูํในกลุํมอุตสาหกรรมการผลิต การกํอสร๎างที่อยูํ อาศัย การผลิตสินค๎าอุปโภคบริโภคและการแปรรูปอาหาร