More Related Content
Similar to ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Similar to ความหมายและความสำคัญของโครงงาน (20)
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
- 1. ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัด และ
ความสามารถของนักเรี ยน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ และเชื่อมโยงความรู ้ต่างๆ และความรู ้ดานคอมพิวเตอร์้
และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานที่เป็ นไปตามความต้องการอย่างเหมาะสม
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีผลกระทบต่อความเจริ ญก้าวหน้าของทุก ๆ สังคมในโลกปั จจุบนนี้ ั
เทคโนโลยีดานนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว จึงเป็ นเรื่ องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่
้
ตลอดเวลาและเป็ นสิ่ งที่ไม่เกิดประโยชน์คุมค่าอีกด้วย ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลีของคอมพิวเตอร์จึงต้องศึกษา
้
หลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็ นสาคัญ
การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็ นสิ่ งจาเป็ นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ ได้
เปลี่ยนแปลงโลกของเราในด้านต่าง ๆ มากมายได้แก่
- สังคมโดยส่ วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็ นสังคมสารสนเทศ
่ ั
- การตัดสิ นใจในเรื่ องต่าง ๆ มักขึ้นอยูกบข้อมูลซึ่ งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
- คอมพิวเตอร์ กลายเป็ นเครื่ องมือที่สาคัญแทนเครื่ องมืออื่น ๆ ในอดีต เช่น เครื่ องพิมพ์ดีด เครื่ องคิดเลขเป็ นต้น
- คอมพิวเตอร์ ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรื อปั ญหาที่ซบซ้อนต่าง ๆ
ั
- คอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการติดต่อสื่ อสารของโลกปั จจุบน ั
นักเรี ยนในระดับมัธยมศึกษาเรี ยนวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเพื่อความเข้าใจความเป็ นไปของธรรมชาติใน
โลก ในทานองเดียวกันนักเรี ยนต้องเรี ยนวิชาทางวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อความเข้าใจในสังคม เศรษฐกิจ และ
วัฒนธรรมของสังคมต่าง ๆ ในยุคสารสนเทศ เนื้อหาวิชาทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ในโรงเรี ยนระดับ
มัธยมศึกษามีเป้ าหมายที่จะพัฒนานักเรี ยนให้มีความรู้ความเข้าใจในวิทยาการของคอมพิวเตอร์และมี
ความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ ดังนั้นการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ จะเป็ นสิ่ งที่ทาให้นกเรี ยน ั
สามารถบรรลุเป้ าหมายได้อย่างสมบูรณ์
จุดมุ่งหมายที่สาคัญประการหนึ่งของการเรี ยนการสอนคอมพิวเตอร์ ในโรงเรี ยน คือการที่นกเรี ยนได้มี
ั
โอกาสฝึ กความสามารถในการนาความรู ้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรื อค้นคว้า
หาความรู้ต่าง ๆ ได้ดวยตนเอง ซึ่ งวิธีการที่มีประสิ ทธิ ภาพมากวิธีหนึ่งคือการที่นกเรี ยนได้มีโอกาสทาโครงงาน
้ ั
คอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นงานวิจยในระดับนักเรี ยน เป็ นการใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีอยูใน
ั ่
- 2. การศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อนาผลที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริ ง หรื อใช้เพื่อช่วยสร้างสื่ อเพื่อเสริ มการ
เรี ยนให้ได้ดีมีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้นกเรี ยนได้
่ ั
เรี ยนรู ้และฝึ กฝนการใช้ทกษะการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่ องมือต่าง ๆ ในการ
ั
แก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้างผลงานจริ งอีกด้วย
โครงงานคอมพิวเตอร์ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาเป็ นกิจกรรมการเรี ยนที่นกเรี ยนมีอิสระในการเลือกศึกษา
ั
ปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็ นปัญหาที่ตองใช้ความรู้ กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่ องคอมพิวเตอร์
้
และวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่ องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์
นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่ งนักเรี ยนจะต้องคิดออกแบบสร้างขึ้น หรื อดัดแปลงเพื่อใช้งานได้ตรงกับความต้องการ
่
โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ จะอยูภายใต้การดูแลและให้คาปรึ กษาของครู ในสาขาวิชาคอมพิวเตอร์
หรื อต่างสาาวิชารวมทั้งผูทรงคุณวุฒิดานต่าง ๆ ด้วย
้ ้
โครงงานคอมพิวเตอร์ ที่จะทาในระดับมัธยมศึกษาควรเป็ นประเด็นหรื อปั ญหาที่นกเรี ยนสนใจใคร่ รู้ และ
ั
สามารถใช้ความรู ้ ทักษะ ตลอดจนประสบการณ์ในระดับของนักเรี ยน เพื่อคิดแนวทางในการแก้ปัญหาและการ
พัฒนาโปรแกรม เพื่อให้โครงงานคอมพิวเตอร์ น้ นมีคุณค่ายิง อย่างไรก็ตาม เรื่ องที่นกเรี ยนสนใจและคิดที่จะทา
ั ่ ั
โครงงานอาจมีผสนใจทามาก่อน หรื อเป็ นเรื่ องที่นกพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนามาแล้ว แต่
ู้ ั
นักเรี ยนก็ยงสามารถทาโครงงานดังกล่าวได้ เพียงแต่คิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษาวิเคราะห์ขอมูล การ
ั ้
พัฒนาโปรแกรม หรื อศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผรายงานไว้ ู้
กิจกรรมที่จดว่าเป็ นโครงานคอมพิวเตอร์ ควรมีองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้
ั
- เป็ นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอต์ฟแวร์ และเครื่ องคอมพิวเตอร์
- นักเรี ยนเป็ นผูริเริ่ มและเลือกเรื่ องที่จะศึกษาค้นคว้า พัฒนาด้วยตนเองตามความสนใจและระดับความรู้
้
ความสามารถ
- นักเรี ยนเป็ นผูวางแผนในการศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนการพัฒนาเก็บรวบรวมข้อมูลหรื อประดิษฐ์คิดค้น
้
รวมทั้งการสรุ ปผล และการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีครู อาจารย์หรื อผูทรงคุณวุฒิเป็ นผูให้
้ ้
คาปรึ กษา
การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ มีของเขตกว้างขวางมาก ตั้งแต่เรื่ องที่ง่าย ๆ ไปจนถึงเรื่ องที่ยงยากซับซ้อน
ุ่
โครงงานคอมพิวเตอร์ บางเรื่ องอาจใช้เวลาสั้นในการพัฒนา จนถึงเรื่ องที่ใช้เวลาเป็ นภาคเรี ยนหรื อปี การศึกษา
โครงงานคอมพิวเตอร์บางเรื่ องเสี ยค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยจนถึงนับพันบาท นักเรี ยนจึงควรศึกษารายละเอียดและ
งบประมาณต่างๆ ของโครงงานก่อน จึงค่อยเลือกทาโครงงานที่เหมาะสมกับระดับความรู ้ ความสามารถ และ
ความสนใจของนักเรี ยน โดยทัว ๆ ไป การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ จดเป็ นส่ วนหนึ่งของการเรี ยนการสอน
่ ั
- 3. รายวิชาคอมพิวเตอร์ ทุกระดับการศึกษา โดยอาจจะทาเป็ นกลุ่มหรอทาเป็ นรายบุคคล ทั้งนี้ข้ ึนอยูกบความสนใจ
่ ั
ของนักเรี ยนแต่ละคนแต่ละกลุ่มเป็ นสาคัญ
ความสาคัญของการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ และการจัดงานแสดงโครงงานจะมีคุณค่าต่อการฝึ กฝนให้นกเรี ยนมีความรู ้ ั
ความชานาญ และมีความมันใจในการนาระบบคอมพิวเตอร์ ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรื อค้นคว้า
่
หาความรู ้ต่าง ๆ ด้วยตนเองและยังมีคุณค่าอื่น ๆ อีกดังต่อไปนี้
1. สร้างความสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
2. เปิ ดโอกาสให้นกเรี ยนได้พฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
ั ั
3. เปิ ดโอกาสให้นกเรี ยนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรี ยนรู ้ในเรื่ องที่นกเรี ยนสนใจได้ลึกซึ้ งกว่าการเรี ยนในห้อง
ั ั
ตามปกติ
4. ส่ งเสริ มและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสิ นใจ รวมทั้งการสื่ อสารระหว่างกัน
5. กระตุนให้นกเรี ยนมีความสนใจในการเรี ยนวิชาสาขาคอมพิวเตอร์ และมีความสนใจที่จะประกอบอาชีพ
้ ั
ทางด้านนี้
6. ส่ งเสริ มให้นกเรี ยนได้ใช้เวลาอย่างเป็ นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
ั
7. สร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรี ยนกับครู และชุมชน รวมทั้งส่ งเสริ มให้ชุมชนสนใจคอมพิว เตอร์ และ
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
8. เป็ นการบูรณาการเอาความรู ้จากวิชาต่าง ๆ ที่ได้รับมาจัดทาผสมผสานกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็ น
โครงงานเพื่อนาเสนอต่อชุมชน
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ น้ น นักเรี ยนควรมีความรู ้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่ องคอมพิวเตอร์
ั
เหตุผลที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น และการแทนข้อมูลใน
คอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่ มทาโครงงาน และใช้ความรู ้ดงกล่าวเป็ นพื้นฐานในการสร้างความรู ้ใหม่ในโครงงาน
ั
คอมพิวเตอร์ โดยในการทาโครงงานนักเรี ยนอาจจะมีโอกาสได้ทาความรู ้จกกับความรู ้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น
ั
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ฐานข้อมูล (Database) และการสื บค้นข้อมูล (Information Retrieval)
่ ั
เป็ นต้น ซึ่ งจะขึ้นอยูกบหัวข้อที่นกเรี ยนเลือกทาโครงงาน
ั
ที่มา http://www.lks.ac.th/kuanjit/s4.htm
http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_13.html
สื บค้นเมื่อ วันที่ 17 กรกฎาคม 2555