จับกระแสเที่ยวไทย Final กว่า4. การท่องเที่ยวแห่ง
Fieldwork Location & Demographic
• ผู้ประกอบการที่พักในพื้นที่
600 ราย
• ประชาชนในพื้นที่ 1,200
ราย
** สำารวจระหว่างวันที่ 1 - 8
มีนาคม 2557
จำานวนกลุ่มตัวอย่าง =
1,800 ราย
พื้นที่การสำารวจ 6
พื้นที่
4
กรุงเทพฯ กาญจนบุรี
ชลบุรี
ขอนแก่น เชียงใหม่
สงขลา
13. การท่องเที่ยวแห่ง
เทศกาลฟุตบอลโลก
(12 –มิถุนายน 13 กรกฎาคม)
ท่านจะติดตามดูการถ่ายทอดสด
ติดตาม
ดู
57.
5%
ไม่
ติดตามดู
42.5
%สถานที่ที่จะดูการแข่งขันสถานที่ที่จะดูการแข่งขัน
• บ้านตนเอง 40.1%
• บ้านเพื่อน 39.5%
• ร้านอาหาร 35.0%
• ลานจัดกิจกรรมต่างๆ13
26. การท่องเที่ยวแห่ง
สาระสำาคัญ จากผลโพล
ประชาชน : ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 50.6)
ยังมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวใน
ไตรมาสสองของปีนี้ สำาหรับแหล่งท่องเที่ยว
ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเดือนเมษายน คือ
เชียงใหม่ ขณะที่ในเดือนพฤษภาคม คือ
เพชรบุรีจากผลการสำารวจโดยสรุปแล้ว คาดว่า
สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ
ไตรมาสที่สอง ประชาชนชาวไทยจะยังคงอยู่ใน
บรรยากาศของการเดินทางท่องเที่ยวต้อนรับ
เทศกาลสงกรานต์ และพาครอบครัวเที่ยวหาด
ทรายชายทะเลสำาหรับช่วงปิดเทอมฤดูร้อน
27
27. การท่องเที่ยวแห่ง
ผู้ประกอบการที่พัก : ครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50.8) ได้
รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง
แต่ร้อยละ 79.2 ของผู้ประกอบการที่พักทั้งหมด
มั่นใจว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะสามารถกลับมา
ครึกครื้นได้ในช่วงเดือนเมษายน และร้อยละ
53.7 เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะสามารถ
กลับมาครึกครื้นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม
จากผลการสำารวจโพล กล่าวได้ว่าผู้ประกอบ
การส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าบรรยากาศการท่องเที่ยว
จะกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
28
สาระสำาคัญ จากผลโพล
Editor's Notes คำกล่าวการแถลงผลการสำรวจโพล “จับกระแสเที่ยวไทยในวันหยุดยาว”
เรียน ท่านแขกผู้มีเกียรติ ผู้เข้าร่วมงาน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และสื่อมวลชนทุกท่าน
สำหรับการแถลงผลโพล “จับกระแสเที่ยวไทยในวันหยุดยาว” ในวันนี้ จะนำเสนอใน 3 ส่วนหลัก คือ
1. ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน
2. ผลการสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการ และ
3. สรุปสาระสำคัญจากการสำรวจโพล
ก่อนอื่นผมขออนุญาตกล่าวถึง วัตถุประสงค์ของการจัดทำโพลครั้งนี้ : เพื่อมองภาพบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทย ในช่วงเดือนเมษายน ถึงมิถุนายน ปีนี้ และนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจมาใช้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ททท. ได้จัดทำการสำรวจความคิดเห็นของภาคเอกชนและประชาชน เพื่อรับทราบข้อมูลโดยตรงจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก รวม 6 พื้นที่ คือ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และสงขลา (ดังภาพ) โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1-8 มีนาคม 2557 จำนวนรวม 1,800 ตัวอย่าง แบ่งเป็น ผู้ประกอบการที่พักในพื้นที่ จำนวน 600 ตัวอย่าง และประชาชนในพื้นที่ จำนวน 1,200 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนการวางแผนท่องเที่ยวในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2557 พบว่าประชาชนร้อยละ 50.6 วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่วางแผนที่จะเดินทางในเมษายนมากที่สุด
ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในช่วงเดือนเมษายน :
วัตถุประสงค์หลักในการเดินทาง ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางเพื่อไปเยี่ยมญาติ ร้อยละ 52.1 รองลงมาคือ เพื่อการท่องเที่ยว ร้อยละ 47.4
ซึ่งมีจำนวนผู้ร่วมเดินทางด้วยประมาณ 2-5 คน ส่วนใหญ่นิยมเดินทางกับคู่รักหรือสมาชิกในครอบครัว และมีระยะเวลาการเดินทางเฉลี่ย 7 วัน
โดยจะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางร้อยละ 56.5 และรถโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 31.8
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวหากการชุมนุมยังคงยืดเยื้อ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 88.5 ยังคงยืนยันที่จะเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากคิดว่าสถานที่ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนร้อยละ 90 ตั้งใจออกไปเล่นน้ำ
โดยสถานที่ที่ตั้งใจจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ ได้แก่ พัทยา รอบคูเมืองเชียงใหม่ ถนนข้าวเหนียว
แต่เมื่อถามสถานที่ที่ประชาชนอยากไปเล่นน้ำสงกรานต์มากที่สุด
อันดับ 1 : พัทยา (ร้อยละ 28.3)
อันดับ 2 : ถนนข้าวสาร (ร้อยละ 22.9)
อันดับ 3 : รอบคูเมืองเชียงใหม่ (ร้อยละ 15.5)
ส่วนประชาชนที่คาดว่าจะไม่เล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เหตุผลหลักคือ ไม่อยากเปียก และ กังวลเรื่องความปลอดภัย โดยจะเลือกทำกิจกรรมอื่นแทน เช่น พักผ่อน 50.4% และ ทำบุญไหว้พระ 24.4%
โดยวัตถุประสงค์หลักในการเดินทาง ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ร้อยละ 51.1 รองลงมาคือ เพื่อไปเยี่ยมญาติ ร้อยละ 33.3 ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ 95.6 นิยมเดินทางกับคู่รักหรือสมาชิกในครอบครัว และมีระยะเวลาการเดินทางเฉลี่ย 5 วัน โดยจะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางร้อยละ 53.3 และรถโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 44.4
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวหากการชุมนุมยังคงยืดเยื้อ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.4 ยังคงยืนยันที่จะเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากเห็นว่าสถานที่ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน : เป็นช่วงที่มีการจัดเทศกาลระดับโลก คือ เทศกาลฟุตบอลโลก ที่กำหนดจัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ณ กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ระหว่าง 12 มิถุนายน – 13 กรกฏาคม ซื่งกิจกรรมนี้มีส่วนช่วยกระตุ้นผู้คนให้ออกมาติดตามการแข่งขัน จากผลการสำรวจฯ พบว่าประชาชนร้อยละ 57.5 สนใจและติดตามดูการถ่ายทอดสด โดยประชาชนนิยมออกมาชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนอกบ้าน ถึงร้อยละ 59.9
สถานที่ยอดนิยมที่จะเดินทางไปรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ 3 อันดับแรก คือ บ้านเพื่อน (ร้อยละ 39.5%) ร้านอาหาร (ร้อยละ 35.0%) และลานกิจกรรม (ร้อยละ 23.5%)
ทั้งนี้ หากมีการจัดกิจกรรมการถ่ายทอดการแข่งขันตามสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ต่างๆ ประชาชนร้อยละ 63.7 สนใจจะเดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรม
ส่วนประเด็นผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในช่วงเดือนมิถุนายน ประชาชนร้อยละ 90.8 จะยังคงเดินทางอยู่แต่อาจเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ จะเห็นได้ว่าหากมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการชมฟุตบอลโลก จะสามารถกระตุ้นให้คนออกเดินทางจากบ้านไปร่วมกิจกรรมได้
ในส่วนของผู้ประกอบ ททท ได้ทำการสำรวจข้อมูลจากผู้ประกอบการจำนวน 600 ราย โดยกระจายไปยังพื้นที่ที่มีการจัดงานสงกรานต์เป็นหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ และ สงขลา
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการที่พัก เกี่ยวกับสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2557 พบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการสถานที่พักมีสัดส่วนที่เปลี่ยนไป โดยในปีนี้มีการพึ่งพิงนักท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่า จะเห็นได้จากสัดส่วนของนักท่องเที่ยวปีนี้คิดเป็นร้อยละ 51.1 (จากเดิมมีสัดส่วนร้อยละ 35)
จากการสำรวจข้อมูล พบว่า 3 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้บริการสถานที่พักในประเทศไทยระหว่างช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน ได้แก่ จีน (ร้อยละ 52.2) อังกฤษ (ร้อยละ 36.6) และ ญี่ปุ่น (ร้อยละ 33.2)
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่พักร้อยละ 50.8 ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยผลกระทบที่ได้รับ คือ
- จำนวนลูกค้าลดลง (ให้คะแนนระดับความรุนแรงที่ 3 จากค่า 5)
- รายได้ลดลง (ให้คะแนนระดับความรุนแรงที่ 3.2 จากค่า 5)
- รายจ่ายเพิ่มขึ้น (ให้คะแนนระดับความรุนแรงที่ 3.2 จากค่า 5)
โดยผู้ประกอบการร้อยละ 64.5 ยังไม่ได้เตรียมแผนการรับมือใดๆ เนื่องจากเห็นว่า เหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการร้อยละ 35.5 ได้ดำเนินการการรับมือไปบ้างแล้ว เช่นการจัดโปรโมชั่นส่วนลดค่าที่พัก และ การประชาสัมพันธ์ที่พักให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ (ร้อยละ 79.2) มีความคิดเห็นว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะสามารถกลับมาครึกครื้นได้ในช่วงเดือนเมษายน เนื่องจากเห็นว่าได้มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่องเที่ยวอย่างมาก ในขณะที่ผู้ประกอบการที่เห็นว่าสถานการณ์จะยังไม่ครึกครื้น (ร้อยละ 20.8) เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่มั่นใจ สถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง ทำให้กังวลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังไม่ค่อยดีในช่วงนี้
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงยอดการจอดงห้องพักในช่วงเดือนเมษายน พบว่ามียอดการจองลดลงร้อยละ 48.2
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ (ร้อยละ 53.7) มีความคิดเห็นว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะสามารถกลับมาครึกครื้นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงวันหยุดยาวและประชาชนนิยมเดินทางท่องเที่ยวพร้อมครอบครัวในช่วงนี้ ขณะที่ผู้ประกอบการที่เห็นว่าสถานการณ์จะยังไม่ครึกครื้น (ร้อยละ 46.3) เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วง Low Season ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคิดว่าสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองยังคงยืดเยื้อ รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังคงไม่ดีต่อเนื่อง
จากการสอบถามถึงยอดการจองห้องพักในช่วงเดือนพฤษภาคมพบว่ามียอดการจองลดลงร้อยละ 42
ในส่วนของเดือนมิถุนายน เทศกาลบอลโลกที่กำลังจะมาถึง ผู้ประกอบการที่พักส่วนใหญ่ยังไม่ได้เตรียมแผนการใดๆ คิดเป็นร้อยละ 65.7 โดยผู้ประกอบการจำนวนหนึ่ง จะขยายเวลาการปิดห้องอาหาร/ผับ ในโรงแรม และ จะจัดลานกิจกรรมในโรงแรม เพื่อรองรับเทศกาลดังกล่าว
เมื่อถามว่าหากมีการจัดกิจกรรมให้ประชาชนไปชมฟุตบอลในสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ของจังหวัด ผู้ประกอบการร้อยละ 45.7 เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ โดยพร้อมให้ความร่วมมือในการช่วยโปรโมทกิจกรรมดังกล่าว (ร้อยละ 88.3)
ผู้ประกอบการยังต้องการให้ภาครัฐช่วยประชาสัมพันธ์ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว เช่น ผ่านทางสื่อโทรทัศน์ทั้งในและต่างประเทศ ร้อยละ 67.2 ผ่านศูนย์บริการท่องเที่ยวและบริษัททัวร์ ร้อยละ 62.8 และ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ร้อยละ 54.0
เมื่อถามถึงการส่งเสริมด้านอื่นๆ ผู้ประกอบการเห็นว่าการสนับสนุนให้มีการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่จะเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวไทย โดยผู้ประกอบการ ร้อยละ 51.0 เห็นว่าการสร้างสวนสนุกใหม่ เช่น Universal Studio หรือ Disneyland รวมถึง พิพิธภัณฑ์อาหาร ร้อยละ 46.2 และ พิพิธภัณฑ์เครื่องรางและของขลัง ร้อยละ 31.8 จะส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยได้
สรุปสาระสำคัญจากผลโพล
จากข้อมูลดังกล่าว สามารถสรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
ประชาชน : ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 50.6) ยังมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในไตรมาสสองของปีนี้ สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดเดือนเมษายน คือ เชียงใหม่ ขณะที่ในเดือนพฤษภาคม คือ เพชรบุรี
จากผลโพลสรุปได้ว่า ประชาชนชาวไทยจะยังคงอยู่ในบรรยากาศของการเดินทางท่องเที่ยวต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ และการท่องเที่ยวทางของครอบครัวในช่วงปิดเทอมฤดุร้อน
ผู้ประกอบการ : ครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50.8) ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง
แต่ร้อยละ 79.2 ของผู้ประกอบการที่พักทั้งหมดมั่นใจว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะสามารถกลับมาครึกครื้นได้ในช่วงเดือนเมษายน และร้อยละ 53.7 เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะสามารถกลับมาครึกครื้นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม
จากผลการสำรวจโพล กล่าวได้ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวจะกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
สุดท้ายนี้ ในนามของ “การท่องเที่ยวของไทย” ต้องขอกล่าวขอบคุณทุกท่านที่ได้สละเวลามาร่วมงานในครั้งนี้ครับ