SlideShare a Scribd company logo
1 of 52
ยาฆ่าเชื้อ 1
ยาฆ่าเชื้อ 2
• Sterilization (การทำาให้ปราศจากเชื้อ)
คือ การทำาลายจุลชีพทุกชนิดรวมทั้งส
ปอร์ให้หมดสิ้นไป เช่น การต้มนึ่ง การ
อบแห้ง (hot air oven)
• Disinfection (การทำาลายการติดเชื้อ)
คือ การลด หรือการกำาจัด
จุลชีพ ทั้งทำาให้เกิดโรค และ ที่ไม่ทำาให้
เกิดโรค
การทำาลาย
การติดเชื้อ
Steriliz
ation
Disinfe
ction
Antis
eptic
Disinf
ectant
ความ
ร้อน
แสง
ต้ม
นึ่ง
อบ
แห้ง
ยาฆ่าเชื้อ 3
ปัจจัยทางฟิสิกส์ที่สามารถ
ทำาลายเชื้อได้คือ
ความร้อน แบ่งได้เป็นความร้อนแห้ง(dry heat)
และความร้อนเปียก (moist heat)
moist heat ใช้ได้ผลดีในการแทรกเข้าภายใน
สารอินทรีย์ที่สารเคมีเข้าไปไม่ถึง โดยทำาให้
โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่วน dry heat นั้น
ต้องใช้ความร้อนสูงกว่าและนานกว่าแสงที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้คือ แสง
ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลื่น 2540-2800
angstorm สามารถใช้ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และ
แบคทีเรียที่ไม่มีสปอร์
แต่ใช้ได้ผลไม่ดีต่อ Staphylococcus,
Streptococcus และ virus
ยาฆ่าเชื้อ 4
Antiseptics (ยาฆ่าเชื้อ/ ยาระงับ
เชื้อ)
• คือ สารเคมีที่ทำาลายหรือยับยั้งการเจริญ
เติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทำาให้เกิดโรค (มี
ความจำาเพาะต่อชนิดของเชื้อ)
• ใช้กับผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่งมีชีวิต
และใช้กับ “ภายนอก” ร่างกายโดยไม่
ทำาอันตรายต่อเนื้อเยื่อบริเวณนั้น
Disinfectant (ยาทำาให้ปราศจากเชื้อ
/ ยาล้างเชื้อ)
ยาฆ่าเชื้อ 5
การใช้ยา antiseptic หรือ disinfectant
จะได้ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ
• 1. ความเข้มข้นของยา
• 2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ยา
• 3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทำาให้ฤทธิ์ยา
เพิ่มขึ้น
• 4. ความไวของแบคทีเรียต่อยา
• 5. จำานวนแบคทีเรียที่มี
• 6. คุณสมบัติของ media บริเวณที่มีเชื้อ
โรค เช่น เป็นโปรตีน กรด/ ด่าง อิน
ทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ 6
วิธีปฏิบัติในการใช้
antiseptic และ
disinfectant1. ทำาความสะอาดเอาสิ่งสกปรกที่ปกคลุม
เชื้อออก เพื่อไม่ให้มีผลต่อประสิทธิภาพ
ของยา โดยใช้ detergent
2. ล้างบริเวณนั้นด้วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์
หรือ gasoline ขาว เพื่อเอา
นำ้ามันตามผิวหนังและสิ่งอื่นที่อาจป้องกัน
ไม่ให้ยาสัมผัสกับแบคทีเรียโดยตรง
ยาฆ่าเชื้อ 7
คุณสมบัติของ Antiseptics และ
Disinfectant ในอุดมคติ
• 1. มีฤทธิ์ทำาลายจุลชีพได้ทุกชนิด
• 2. ออกฤทธิ์ได้รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่
นาน
• 3. ละลายนำ้าได้ง่ายและมีความคงตัวสูง
• 4. ฤทธิ์ไม่เสียไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ
สารอินทรีย์ เช่น เลือด หนอง ฯลฯ
• 5. ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของ
ยาฆ่าเชื้อ 8
คุณสมบัติของ Antiseptics และ
Disinfectant ในอุดมคติ (ต่อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้น้อย
และไม่ก่อให้เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้าไปในสิ่งของที่
ต้องการ ทำาให้ปราศจากเชื้อได้ดี และ
ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนต่อวัตถุที่ใช้
• 8. ไม่มีสี และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
• 9. ราคาถูก
ยาฆ่าเชื้อ 9
ส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อที่ถูกระบุ
ว่าเป็น disinfectant ก็ต้องฆ่า
เชื้อในสิ่งไม่มีชีวิตเท่านั้น เพราะมี
ฤทธิ์ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อปกติ
การทำาลายไวรัสจึงหมายถึง
ทำาลายไวรัสที่ปนเปื้อนใน
สิ่งแวดล้อมนอกร่างกายสัตว์
เท่านั้น
ยาฆ่าเชื้อ 10
ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
ม
า
ก
น้อ
ย ที่มา: Prince et al., 1991
ความไว เชื้อโรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses
Otherenvelopedviruses;
gram-negativerodsandsomefilamentousfungi; somegram-positiverod
2
Staphylococcusaureus, somediphasicandfilamentousfungi, yeasts
andalgae, somegramnegativerods, hepatitisB
3 adenoviruses
4
Mycobacteriumtuberculosis, rotaviruses, reoviruses, somemold
ascospores
5 picornaviruses, parvoviruses, hepatitisA
6 bacterialendospores; viroids
7 prion
1
ยาฆ่าเชื้อ 11
• ชนิดของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ง
ตามโครงสร้างทางเคมี ได้แก่
1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy
metals
5. Oxidizing
agents
6. Phenols
7. Surface active
agents
8. Acids
9.
Nitrofurazone
10. Ethylene
oxide
11.
ยาฆ่าเชื้อ 12
กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อ
และยาล้างเชื้อ
ที่มา: Prince et al., 1991
กลไก ชนิดยาฆ่าเชื้อ
quarternaryammoniumcompound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
สร้างหรือทำาลายแรงยึดเหนี่ยว aldehydes, enzymes
CSN( oxidant)เพิ่มขั้วบวกของ เป็น halogens, H2O2, ozone
ทำาให้โครงสร้างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
ยาฆ่าเชื้อ 13
ALCOHOL
กลไกการออกฤทธิ์
•โดยละลายไขมันที่อยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์
และทำาให้โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
•ทำาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและ
กรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา
และไวรัสบางชนิด แต่ไม่มีผลต่อส
Alcohol ที่ใช้มากมี 2 ชนิด คือ
Ethanol และ Isopropanol
ยาฆ่าเชื้อ 14
Ethanol
•นิยมใช้มากที่สุด สามารถใช้ได้ที่
ความเข้มข้น 60-95%
•ความเข้มข้นที่ใช้คือ 70% (โดยนำ้า
หนัก) จะออกฤทธิ์ได้เร็วที่สุด สามารถ
ฆ่าเชื้อได้ดีที่สุด มีผลต่อเชื้อทุกชนิด
ยกเว้น สปอร์ ออกฤทธิ์ในเวลา 1-2
นาที
•อาการไม่พึงประสงค์
– ทำาให้ผิวแห้งและตกสะเก็ดเนื่องจากไข
ยาฆ่าเชื้อ 15
Ethanol
(ต่อ)
ประโยชน์
•ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ เช่น
ทำาความสะอาดที่ผิวหนัง ใช้แช่เครื่อง
มือภายในเวลา 5 นาที
•ใช้ผสมกับ 20% formalin จะฆ่าส
ปอร์ได้ในเวลา 30 นาที
•ไม่ใช้แช่เครื่องมือ เพราะทำาให้เป็น
สนิม แต่ถ้าเติม 0.2% โซเดียมไนไตร
ยาฆ่าเชื้อ 16
ALDEHY
DE
กลไกการออกฤทธิ์
•โดยทำาให้โปรตีนตกตะกอนด้วยวิธี
alkylation
•ทำาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและ
กรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา
ไวรัส และมีผลช้าๆ ต่อสปอร์และเชื้อ
ชนิด acid fast
ที่ใช้ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde
และ Glutaraldehyde
ยาฆ่าเชื้อ 17
FORMALDEH
YDE
•มีขายในท้องตลาด ชื่อ Formalin
(Formaldehyde 37%)
•ยาทำาปฏิกริยากับโปรตีนใน
เนื้อเยื่อ ทำาให้ประสิทธิภาพลดลง
•อาการไม่พึงประสงค์ คือ เป็น
อันตรายต่อผิวหนัง และไอระเหย
ทำาให้ระคายเคืองเยื่อบุจมูกและ
นัยน์ตา
ยาฆ่าเชื้อ 18
GLUTARALDE
HYDE
•มีขายในท้องตลาด ชื่อ Cidex
(Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายที่เป็นเบสผสมกับ 70%
Isopropanol)
•ใช้ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ผลดีกว่า
formaldehyde ระเหยเป็นไอน้อย
กว่า รวมทั้ง กลิ่น ไอ มีความ
ระคายเคืองน้อยกว่า
ยาฆ่าเชื้อ 19
HALOGENS
กลไกการออกฤทธิ์
•โดยการ ออกซิไดซ์
sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็น S-S group ทำาให้
โปรตีนถูกทำาลายและตกตะกอน
Halogens ที่ใช้มาก คือ Iodine, chlorine
และ อนุพันธ์ของสารทั้งสอง
ยาฆ่าเชื้อ 20
IODINE
S•เมื่อละลายนำ้า จะปล่อยไอโอดีนอิสระ
ทำาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและ
กรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา
และไวรัส
•ทิงเจอร์ไอโอดีน 2% ใช้ทาแผลสด
หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน ใช้
ล้างมดลูกในกรณีที่เป็นหนอง
•ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่าเชื้อ
แบคทีเรียได้ภายใน 1 นาที และฆ่าส
ปอร์ได้ภายใน 15 นาที
ยาฆ่าเชื้อ 21
IODOPHO
RES
•เป็นสารประกอบเชิงซ้อนของไอโอดีน
กับโมเลกุลที่เป็น carrier
•ชนิดที่รู้จักกันดี คือ Povidone-Iodine
(Betadine®
, Isodine®
)
•ประกอบด้วย Iodine +
Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลาย
นำ้าจะปล่อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่าง
ช้าๆ
•ที่ความเข้มข้น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ 22
สารจำาพวก
คลอรีน
•คลอรีนเป็นก๊าซ แต่มีพิษมาก จึงใช้
ละลายนำ้าทำาให้เกิดกรดไฮโปรคลอรัส
(HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปร
โตซัว และไวรัส รวมทั้งมีฤทธิ์กัดสี
ด้วย
•ส่วนใหญ่ใช้ฆ่าเชื้อในนำ้าประปา และ
ในสระว่ายนำ้า ในขนาดเข้มข้น 1-3
ppm และใช้ตามคอกโค โรงรีดนม
รวมทั้งเช็ดเต้านม
ยาฆ่าเชื้อ 23
SODIUM
HYPOCHLORITE
(NaOCl)
•รู้จักทั่วไปใช้เป็นนำ้ายาซักผ้าขาว “ไฮ
เตอร์”
•สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา
โปรโตซัว และไวรัส โดยเฉพาะชนิดที่
มีไขมันเป็นส่วนประกอบของเปลือกหุ้ม
เช่น
เชื้อไวรัสไข้หวัดนก
•ถ้าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่
ถ้าเป็นผงใช้ 2-3 กรัมต่อลิตร
ยาฆ่าเชื้อ 24
HEAVY METALS
กลไกการออกฤทธิ์
•ทำาให้โปรตีนของจุลชีพตกตะกอน
และยับยั้งการทำางานของ sulfhydryl
group
•สามารถยับยั้งการทำางานของ
เอนไซม์ของแบคทีเรีย และ ของ
ใช้ในรูปเกลือ เช่น เกลือปรอท
และเกลือเงิน
ยาฆ่าเชื้อ 25
เกลือปรอท
•เกลืออนินทรีย์เป็นพิษมาก ที่ยังคงใช้
อยู่คือ ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้เป็นยาฆ่าเชื้อแผล
พุพอง
•ส่วนเกลืออินทรีย์จะมีพิษน้อยกว่า เช่น
MerthiolateR
(thimerosal) ซึ่งมีขาย
ในรูปทิงเจอร์เมอไธโอเลท ใช้
ทำาความสะอาดผิวหนังก่อนผ่าตัด และ
ยาแดง (Mercurochrome)
ยาฆ่าเชื้อ 26
เกลือเงิน
•เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ระคายเคืองต่อ
ผิวหนังและยังคงใช้กันมากคือ silver
nitrate
•ที่ความเข้มข้น 0.1 % สามารถทำาลาย
เชื้อเกือบทุกชนิด ส่วนนำ้ายาเข้มข้น
1% ใช้หยอดตาทารกแรกเกิด เพื่อ
ป้องกันการติดเชื้อหนองในที่เยื่อบุลูก
ตา นอกจากนี้ความเข้มข้น 0.5% ใช้
ป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลไฟลวก
ยาฆ่าเชื้อ 27
OXIDIZING AGENTS
เป็นกลุ่มที่นิยมใช้อยู่ทั่วไป เช่น
•ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
•ด่างทับทิม
•ฟีนอล
•ครีซอล
ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ
anaerobic หรือ facultative
anaerobic microorganism
ได้จากนำ้ามันดินจาก
ถ่านหินและไม้
ยาฆ่าเชื้อ 28
HYDROGEN
PEROXIDE (H2O2)
•ที่ความเข้มข้น 3% เมื่อสัมผัสกับ
เอนไซม์ catalase ในเนื้อเยื่อและเลือด
จะทำาให้เกิดแตกตัวเป็นนำ้า และ
ออกซิเจน
•H2O2 ทำาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free
radical จะมีผลต่อไขมันที่
เยื่อหุ้มเซลล์และที่องค์ประกอบอื่นของ
เซลล์
ยาฆ่าเชื้อ 29
HYDROGEN
PEROXIDE (H2O2)
•นำ้ายานี้ไม่คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา
oxidation ทำาให้ ออกซิเจนถูกปล่อย
ออกมาช้าๆ มีผลให้ประสิทธิภาพลดลง
จึงต้องเก็บในภาชนะปิดสนิท ป้องกัน
แสง อุณหภูมิ 15-30 C
•ประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ยังคงมีอยู่
ตราบเท่าที่มีออกซิเจนทำาให้เกิดเป็น
ฟอง
ยาฆ่าเชื้อ 30
POTASSIUM
PERMANGANATE (KMnO4)
•ออกฤทธิ์เป็น oxidizing agent เช่น
กัน แต่ไม่ให้ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่างรวดเร็วเมื่อ
สัมผัสกับเนื้อเยื่อ ซึ่งจะเห็นว่านำ้ายา
เปลี่ยนเป็นสีนำ้าตาล
•ความเข้มข้นที่ใช้คือ 1: 10000 ฆ่า
แบคทีเรียภายใน 1 ชม.
•ความเข้มข้น 1: 5000 จะระคายเคือง
ยาฆ่าเชื้อ 31
PHENO
LS
•เป็นยาฆ่าเชื้อชนิดแรกที่ใช้ในวงการ
แพทย์
•ที่ความเข้มข้น 1-2% สามารถทำาลาย
เชื้อได้หลายชนิด สามารถซึมผ่าน
ผิวหนังและเนื้อเยื่อได้ดี แต่ทำาให้
ผิวหนังระคายเคืองได้ง่าย
•ปัจจุบันเลิกใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ แต่ใช้ล้าง
เชื้อเท่านั้น
– ที่ความเข้มข้น 1% ใช้เป็นยาล้างเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ 32
CRESO
LS
•ใช้เป็น disinfectant เท่านั้น
•ออกฤทธิ์คล้าย Phenol แต่ดีกว่าและ
ถูกกว่า มีกลิ่นแรงคล้ายกัน
•เป็นส่วนผสมระหว่าง isomer ของ
อนุพันธ์ของ Phenol 3 ชนิด ทำาให้เพิ่ม
ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ในขณะที่
ความเป็นพิษลดลง
•ใช้ผสมกับสบู่ ได้สารละลายใหม่เรียก
ยาฆ่าเชื้อ 33
HEXACHLOROPHENE
•คือ xylenol ที่มี Cl เป็นส่วนประกอบ
เป็นยาฆ่าเชื้อที่ใช้อย่างแพร่หลายใน
โรงพยาบาล มีพิษน้อย
•ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก
มากกว่ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ค่อย
มีผลต่อไวรัส หรือ สปอร์
เช่น CHLORHEXIDINE,
CHLOROXYLENOL (Dettol)
ยาฆ่าเชื้อ 34
DYES
•ชนิดที่รู้จักกันดี คือ
Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยา
ม่วง)
ยาฆ่าเชื้อ 35
ยาเหลือง
(Acriflavin)• ออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อกรัมบวกที่ทำาให้เกิด
หนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูกเลือดและ
หนอง
• เหมาะจะใช้ทาแผลเรื้อรัง
• มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์
และ Dermatophytes เช่น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก
esp. Staphylococcus แต่ไม่มีผลต่อส
ยาม่วง
(Gentian
violet)
ยาฆ่าเชื้อ 36
Brilliant
Green• เป็นผลึกสีทอง นำ้ายาที่เป็นนำ้าและเป็นด่าง
มีสีเขียว แต่เมื่อออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแล้วจะ
เปลี่ยนเป็นกรดเกลือได้สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp.
Staphylococcus และเป็น
bacteriostatic ต่อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้
เป็นยาป้าย หรือใช้ทาภายนอก ใช้ใส่
แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้
ยาฆ่าเชื้อ 37
สารที่อยู่เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้และรู้จักกันดี
คือ detergent หรือ ผงซักฟอกมี
คุณสมบัติคือ
• ทำาให้เปียก โดยลดความตึงผิว ทำาให้
เกิดการสัมผัสระหว่างนำ้ายาและพื้นผิว
สิ่งของ
• ทำาให้กระจาย
• ทำาให้แทรกซึม
• ทำาให้เป็นฟอง แต่มีบางชนิดไม่ทำาให้
SURFACE-ACTIVE
AGENTS
ยาฆ่าเชื้อ 38
SURFACE-ACTIVE
AGENTS
Anionic
•สบู่
•เป็น
emulsifier ที่
ดี ทำาให้เชื้อ
แบคทีเรียหลุด
ออกมาพร้อม
Cationic (ดีกว่าAnionic)
•Quaternary ammonium co
mpound
•ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ามกับ Anionic) มีผลฆ่า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก
Emulsify = การสลายไขมัน เป็นการแยกไขมัน
และนำ้าเป็นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูกแขวนลอย
ยาฆ่าเชื้อ 39
Quaternary Ammonium
compound
•เป็นยาฆ่าเชื้อที่มีกลิ่นหอม ทำาให้น่าใช้
•ความเข้มข้น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรีย
ที่ผิวหนังน้อยกว่า Ethanol 70%
•เมื่อใช้กับบาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็น
แผ่นบางๆ คลุมผิวหนังไว้ ในขณะที่ยัง
มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่อให้เกิด
การระบาดได้
•การใช้ยานี้ต้องระวังในเรื่อง
ยาฆ่าเชื้อ 40
ACIDS
กรดอนินทรีย์
•ออกฤทธิ์ใน
สภาพ pH กรด
•กรดเกลือ กรด
กำามะถัน
•เป็นอันตรายต่อ
เนื้อเยื่อ
กรดอินทรีย์
•ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
•ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่านเข้าเซลล์แบคทีเรีย ทำาให้
เยื่อหุ้มเซลล์ขาด
•ให้ผลดีกว่ากรดอนินทรีย์
•Acetic acid, Benzoic acid
ยาฆ่าเชื้อ 41
ACETIC ACID
•ที่ความเข้มข้น 1% มีฤทธิ์ยับยั้ง
แบคทีเรีย ใช้ล้างแผล
•ที่ความเข้มข้น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
แบคทีเรียได้หลายชนิด
•ที่ความเข้มข้น 10-40% ใช้จี้หูดและ
SALICYLIC
ACID
ยาฆ่าเชื้อ 42
BORIC ACID
•ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและ
แบคทีเรียอย่างอ่อนๆ
•ที่ความเข้มข้น 3% ใช้เป็นยาล้างตา
•glycerine borax ใช้ป้ายแผลที่ปาก
และหยอดหู
•Benzoic acid + Salicylic acid =
BENZOIC
ACID
ยาฆ่าเชื้อ 43
ประสิทธิภาพของการทำาให้
ปราศจากเชื้อ
การทำาความ
สะอาดเบื้องต้น
ชนิดของ
ยาที่ใช้
ความ
เข้มข้น
ระยะ
เวลา
กรด เบส
อุณหภูมิ
คุณภ
าพ
จุลชีพ
ชนิดและ
จำานวน
Stage ของ
เชื้อโรค
ยาฆ่าเชื้อ 44
ยาฆ่าเชื้อ ความเข้มข้นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่าเชื้อ ข้อสังเกตในการใช้
สบู่และสารซักล้าง 10นาที Aล้างทำาความสะอาดฆ่าเชื้อไวรัสไม่ได้ยกเว้นไวรัสกลุ่ม
ใช้ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชำาระล้างและทำาให้ผิวสัมผัสเปียก
oxidizingสาร ไวรัสทุกกลุ่มเว้นแต่มีสารอินทรีย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
NaOCl, Ca(OCl)2 2-3% 10-30นาที และจะสลายตัวเมื่อมีความร้อน
ด่าง
โซดาไฟ 2%w/v 10นาที ไวรัสทุกกลุ่มไม่ควรใช้เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
โซดาซักผ้า 4-10%w/v 10-30นาที ไวรัสทุกกลุ่ม แม้เมื่อมีสารอินทรีย์ปะปน
กรด
กรดเกลือ 2%v/v 10นาที ใช้เมื่อหาสารเคมีอื่นไม่ได้มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงต่อโลหะคอนกรีต
กรดซิตริก 0.2%w/v 30นาที ใช้ล้างเสื้อผ้าร่างกาย
อัลดีไฮด์
glutaraldehyde 2%w/v 10-30นาที ไวรัสทุกกลุ่มใช้เข้มข้นแพง
formaldehyde 8%v/v 10-30นาที ปล่อยก๊าซซึ่งเป็นอันตราย
เปรียบเทียบการใช้ยาฆ่าเชื้อ
ชนิดต่างๆ
ที่มา :
ยาฆ่าเชื้อ 45
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการใช้
ยาฆ่าเชื้อชนิดต่างๆ
ที่มา : Quinn,
ยาฆ่าเชื้อ สารอินทรีย์ pH ความชื้นสัมพัทธ์สบู่และการซักล้าง นำ้ากระด้าง
Acids + + - - +/-
Alcohols + - - - -
Bases + + - - +/-
Formalin +/- - + - -
Formadehyde(g) + - + - -
Glutaraldehyde +/- + - - +/-
Halogens + + - - +/-
Oxidizingagents + - - - -
Phenolic
compound +/- + - - +/-
Quaternary
ammonium
compound +/- + - + +/-
ยาฆ่าเชื้อ 46
การ ล้างฆ่าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมี
โรคระบาดเกิดขึ้นในฟาร์ม
• จัดบริเวณล้างฆ่าเชื้อไว้ใกล้จุดที่ออกจาก
บริเวณปนเปื้อน นำ้าล้างจะต้องไม่ไหลไปสู่
บริเวณที่สะอาด
• ใช้สบู่ในการล้างหน้า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมกับเชื้อโรคที่มีการ
ระบาด
• เตรียมนำ้ายาในถังนำ้าและจุ่มรองเท้าบู๊ทในถัง
นำ้ายา
• พ่นนำ้ายาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้อน อาบนำ้า สระผม และ
ยาฆ่าเชื้อ 47
การ ล้าง ฆ่าเชื้อ
อุปกรณ์ โรงเรือน
• กำาจัดเศษวัสดุ สิ่งสกปรก สิ่งปนเปื้อน เพราะเศษ
อินทรียวัตถุที่ตกค้างจะทำาให้ประสิทธิภาพของยา
ฆ่าเชื้อลดลง ให้ใช้แปรงขัดสิ่งสกปรกแล้วจึงฉีดนำ้า
ล้าง เมื่อมีสัตว์ป่วยอยู่ในโรงเรือนให้ล้างด้วยความ
ระมัดระวัง อย่าใช้นำ้าที่มีแรงดันสูง เนื่องจากจะ
เป็นการสร้าง bioaerosols สำาหรับไวรัส ทำาให้
ไวรัสกระจายไปสู่บริเวณใกล้เคียง และทำาให้สิ่ง
สกปรกกระจายในวงกว้าง สิ่งสกปรกนั้นให้ทำาการ
ฝังและราดนำ้ายาฆ่าเชื้อ
• เล็งเป้าหมายใช้ยาฆ่าเชื้อกับสิ่งของหรือสิ่ง
แวดล้อมรอบตัวสัตว์ เช่น คอก ทางเดิน รางอาหาร
• ปล่อยให้ยาฆ่าเชื้อมีเวลาสัมผัสกับเชื้อโรคอย่าง
ยาฆ่าเชื้อ 48
การ ล้าง ฆ่าเชื้อ
อุปกรณ์ โรงเรือน (ต่อ)
1. เมื่อไม่มีสัตว์ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้พ่นนำ้ายาฆ่าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พื้น
2. เมื่อมีสัตว์ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนำ้ายาฆ่าเชื้อลงพื้นด้วยฝักบัวรดนำ้าธรรมดา
โดยรอบตัวสัตว์ป่วย ไม่พ่นยาฆ่าเชื้อ
ใส่ตัวสัตว์โดยตรง และจะต้องล้างฆ่าเชื้อซำ้าใน
ตำาแหน่งนั้นเป็นประจำาวันละ 2 ครั้ง
เช้า- เย็น จนกระทั่งหมดสัตว์แสดงอาการป่าย จึง
ลดความถี่ในการล้าง ฆ่าเชื้อเป็นวันเว้นวัน และ
อาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ล้างฆ่าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์การเลี้ยง
ยาฆ่าเชื้อ 49
การ ล้าง ฆ่าเชื้อ
อุปกรณ์ โรงเรือน (ต่อ)
3. เมื่อสัตว์ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่น การกัก
โค กระบือ
• ใช้ซองกักสัตว์ป่วยกลางแจ้ง ให้พ่นด้วยนำ้ายา
ฆ่าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมื่อเลิกการกัก
ให้ทำาการฆ่าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือ
เผา
ยาฆ่าเชื้อ 50
ไวรัสที่มีการติดต่อทางการหายใจ ไม่มีความ
จำาเป็นต้องฆ่าเชื้อโดยการพ่นยาเป็นละอองใน
อากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสัมผัสกับยา
ฆ่าเชื้อน้อยเกินไปและสัตว์มีการขับเชื้ออยู่
ตลอดเวลาและยังทำาให้เกิด bioaerosol ทำาให้
ไวรัสฟุ้งกระจายได้ดียิ่งขึ้นในกรณีดังกล่าว ให้ทำาการฆ่าเชื้อ
ด้วยการใช้ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิด
ซึ่งมักดำาเนินการหลังจากได้ทำาลาย
สัตว์ป่วยแล้ว และไม่มีสัตว์เหลืออยู่
ในโรงเรือน
เอกสารอ้างอิงเรื่องการใช้ยาล้างฆ่าเชื้อในสัตว์จาก
บรรจง จงรักษ์วัฒนา. 2546. คู่มือควบคุมโรคปากและ
เท้าเปื่อย สำานักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9.
สงขลา. 95 น.
ยาฆ่าเชื้อ 51
ตัวอย่างวิธีการและยาฆ่าเชื้อ
สำาหรับโรคปากและเท้าเปื่อย
สิ่งปนเปื้อนยาฆ่าเชื้อ/
วิธีการ
สัตว์มีชีวิต ทำาลาย (ถ้า
ทำาได้)
ซาก ฝังหรือเผา,
3, 4
โรงเรือนเลี้ยงสัตว์/
อุปกรณ์ 2, 3
สิ่งแวดล้อม3
คน 1, 4.2
อุปกรณ์ไฟฟ้า 5.3
สิ่งปนเปื้อนยาฆ่าเชื้อ/
วิธีการ
นำ้า ถังเก็บนำ้า 3
อาหารสัตว์ฝังหรือ 5.2
ขยะ ฝัง หรือ 4
บ้านเรือน 2,
4.2
เครื่องจักร ยานพาหนะ
3, 4
เสื้อผ้า 2,
2.3, 3, 4.2
1 = สบู่และสารซักล้าง; 2 = สารออกซิไดส์: 2.1 =
sodium hpochloride, 2.2 calcium hypochloride; 3 =
ด่าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium
carbonate; 4 = กรด: 4.1 hdrochloric acid, 4.2 citric
ยาฆ่าเชื้อหลัก รูปแบบและความเข้มข้น ระยะเวลาที่ใช้
1. สบู่และนำ้ายาซักฟอก 10แช่ทิ้งไว้ นาที
2. Oxidizingagentsนำ้ายาฆ่าเชื้อกลุ่ม
2aโซเดียมไฮโปคลอไรท์
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
2-3%เข้มข้นที่
10-30นาทีแต่ใช้ไม่ได้ก
มีสารอินทรีย์ปนอยู่มากเช่น
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
2bแคลเซียมไฮโปคลอไรท์
2-3%ผงหรือของเหลวเจือจางที่
( 20 / )ใช้ผงกรัมลิตร
10-30นาทีแต่ใช้ไม่ได้ก
มีสารอินทรีย์ปนอยู่มากเช่น
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3aโซเดียมไฮดรอกไซด์
( )โซดาไฟ 2%(20 / )กรัมลิตร
10 (นาทีห้ามใช้บนพื้น
)เป็นอลูมิเนียม
3bโซเดียมคาร์บอเนต
( )โซดาชะล้าง
(Na2CO310H2O) 4%(40 / )กรัมลิตร
10นาทีในกรณีที่มีสาร
อินทรีย์ปะปนมากเช่นมูล
30สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้
นาที
4ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
4aกรดไฮโดรคลอริค2%(20 / )มิลลิลิตรลิตร
มีฤทธิ์กัดกร่อนควรเลือกใช้
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น
4bกรดซิตริค 0.2%(2 / )กรัมลิตร
30นาทีปลอดภัยสำาหร
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิบัติงานที่
อาจปนเปื้อน
5ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
15-24 .ชมต้องระวังเป็น
ต่อทางเดินหายใจผู้ปฏิบัติ
ชนิด มาตรการการทำาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก ฝังหรือเผา
พื้นคอกโรงเรือนวัสดุและอุปกรณ์ในโรงเรือน 1,2a,2b,3
ผู้ปฏิบัติงาน 1
วัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้า 5
อ่างหรือถังเก็บนำ้าหรือคาดว่ามีการปนเปื้อน ปล่อยนำ้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งนำ้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลี้ยงสัตว์ปีกอย่างหนาแน่นปล่อยนำ้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม 3,4ฝังหรือเผาหรือ
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชื้อ 1,2a,2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ 1,3
เสื้อผ้าของผู้ปฏิบัติงาน 1,2a,2b,3
เครื่องบิน 1
ตัวอย่างวิธีการและ
ยาฆ่าเชื้อ
สำาหรับโรคไข้หวัด
นก

More Related Content

Featured

AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfmarketingartwork
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsKurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summarySpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentLily Ray
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best PracticesVit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementMindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Applitools
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at WorkGetSmarter
 

Featured (20)

AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
 

Antiseptic and disinfectant (2)