Antiseptic and disinfectant (2)
- 2. ยาฆ่าเชื้อ 2
• Sterilization (การทำาให้ปราศจากเชื้อ)
คือ การทำาลายจุลชีพทุกชนิดรวมทั้งส
ปอร์ให้หมดสิ้นไป เช่น การต้มนึ่ง การ
อบแห้ง (hot air oven)
• Disinfection (การทำาลายการติดเชื้อ)
คือ การลด หรือการกำาจัด
จุลชีพ ทั้งทำาให้เกิดโรค และ ที่ไม่ทำาให้
เกิดโรค
การทำาลาย
การติดเชื้อ
Steriliz
ation
Disinfe
ction
Antis
eptic
Disinf
ectant
ความ
ร้อน
แสง
ต้ม
นึ่ง
อบ
แห้ง
- 3. ยาฆ่าเชื้อ 3
ปัจจัยทางฟิสิกส์ที่สามารถ
ทำาลายเชื้อได้คือ
ความร้อน แบ่งได้เป็นความร้อนแห้ง(dry heat)
และความร้อนเปียก (moist heat)
moist heat ใช้ได้ผลดีในการแทรกเข้าภายใน
สารอินทรีย์ที่สารเคมีเข้าไปไม่ถึง โดยทำาให้
โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่วน dry heat นั้น
ต้องใช้ความร้อนสูงกว่าและนานกว่าแสงที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้คือ แสง
ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลื่น 2540-2800
angstorm สามารถใช้ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และ
แบคทีเรียที่ไม่มีสปอร์
แต่ใช้ได้ผลไม่ดีต่อ Staphylococcus,
Streptococcus และ virus
- 4. ยาฆ่าเชื้อ 4
Antiseptics (ยาฆ่าเชื้อ/ ยาระงับ
เชื้อ)
• คือ สารเคมีที่ทำาลายหรือยับยั้งการเจริญ
เติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทำาให้เกิดโรค (มี
ความจำาเพาะต่อชนิดของเชื้อ)
• ใช้กับผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่งมีชีวิต
และใช้กับ “ภายนอก” ร่างกายโดยไม่
ทำาอันตรายต่อเนื้อเยื่อบริเวณนั้น
Disinfectant (ยาทำาให้ปราศจากเชื้อ
/ ยาล้างเชื้อ)
- 5. ยาฆ่าเชื้อ 5
การใช้ยา antiseptic หรือ disinfectant
จะได้ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ
• 1. ความเข้มข้นของยา
• 2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ยา
• 3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทำาให้ฤทธิ์ยา
เพิ่มขึ้น
• 4. ความไวของแบคทีเรียต่อยา
• 5. จำานวนแบคทีเรียที่มี
• 6. คุณสมบัติของ media บริเวณที่มีเชื้อ
โรค เช่น เป็นโปรตีน กรด/ ด่าง อิน
ทรียสาร
- 7. ยาฆ่าเชื้อ 7
คุณสมบัติของ Antiseptics และ
Disinfectant ในอุดมคติ
• 1. มีฤทธิ์ทำาลายจุลชีพได้ทุกชนิด
• 2. ออกฤทธิ์ได้รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่
นาน
• 3. ละลายนำ้าได้ง่ายและมีความคงตัวสูง
• 4. ฤทธิ์ไม่เสียไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ
สารอินทรีย์ เช่น เลือด หนอง ฯลฯ
• 5. ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของ
- 8. ยาฆ่าเชื้อ 8
คุณสมบัติของ Antiseptics และ
Disinfectant ในอุดมคติ (ต่อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้น้อย
และไม่ก่อให้เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้าไปในสิ่งของที่
ต้องการ ทำาให้ปราศจากเชื้อได้ดี และ
ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนต่อวัตถุที่ใช้
• 8. ไม่มีสี และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
• 9. ราคาถูก
- 10. ยาฆ่าเชื้อ 10
ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
ม
า
ก
น้อ
ย ที่มา: Prince et al., 1991
ความไว เชื้อโรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses
Otherenvelopedviruses;
gram-negativerodsandsomefilamentousfungi; somegram-positiverod
2
Staphylococcusaureus, somediphasicandfilamentousfungi, yeasts
andalgae, somegramnegativerods, hepatitisB
3 adenoviruses
4
Mycobacteriumtuberculosis, rotaviruses, reoviruses, somemold
ascospores
5 picornaviruses, parvoviruses, hepatitisA
6 bacterialendospores; viroids
7 prion
1
- 11. ยาฆ่าเชื้อ 11
• ชนิดของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ง
ตามโครงสร้างทางเคมี ได้แก่
1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy
metals
5. Oxidizing
agents
6. Phenols
7. Surface active
agents
8. Acids
9.
Nitrofurazone
10. Ethylene
oxide
11.
- 22. ยาฆ่าเชื้อ 22
สารจำาพวก
คลอรีน
•คลอรีนเป็นก๊าซ แต่มีพิษมาก จึงใช้
ละลายนำ้าทำาให้เกิดกรดไฮโปรคลอรัส
(HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปร
โตซัว และไวรัส รวมทั้งมีฤทธิ์กัดสี
ด้วย
•ส่วนใหญ่ใช้ฆ่าเชื้อในนำ้าประปา และ
ในสระว่ายนำ้า ในขนาดเข้มข้น 1-3
ppm และใช้ตามคอกโค โรงรีดนม
รวมทั้งเช็ดเต้านม
- 30. ยาฆ่าเชื้อ 30
POTASSIUM
PERMANGANATE (KMnO4)
•ออกฤทธิ์เป็น oxidizing agent เช่น
กัน แต่ไม่ให้ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่างรวดเร็วเมื่อ
สัมผัสกับเนื้อเยื่อ ซึ่งจะเห็นว่านำ้ายา
เปลี่ยนเป็นสีนำ้าตาล
•ความเข้มข้นที่ใช้คือ 1: 10000 ฆ่า
แบคทีเรียภายใน 1 ชม.
•ความเข้มข้น 1: 5000 จะระคายเคือง
- 32. ยาฆ่าเชื้อ 32
CRESO
LS
•ใช้เป็น disinfectant เท่านั้น
•ออกฤทธิ์คล้าย Phenol แต่ดีกว่าและ
ถูกกว่า มีกลิ่นแรงคล้ายกัน
•เป็นส่วนผสมระหว่าง isomer ของ
อนุพันธ์ของ Phenol 3 ชนิด ทำาให้เพิ่ม
ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ในขณะที่
ความเป็นพิษลดลง
•ใช้ผสมกับสบู่ ได้สารละลายใหม่เรียก
- 33. ยาฆ่าเชื้อ 33
HEXACHLOROPHENE
•คือ xylenol ที่มี Cl เป็นส่วนประกอบ
เป็นยาฆ่าเชื้อที่ใช้อย่างแพร่หลายใน
โรงพยาบาล มีพิษน้อย
•ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก
มากกว่ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ค่อย
มีผลต่อไวรัส หรือ สปอร์
เช่น CHLORHEXIDINE,
CHLOROXYLENOL (Dettol)
- 36. ยาฆ่าเชื้อ 36
Brilliant
Green• เป็นผลึกสีทอง นำ้ายาที่เป็นนำ้าและเป็นด่าง
มีสีเขียว แต่เมื่อออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแล้วจะ
เปลี่ยนเป็นกรดเกลือได้สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp.
Staphylococcus และเป็น
bacteriostatic ต่อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้
เป็นยาป้าย หรือใช้ทาภายนอก ใช้ใส่
แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้
- 40. ยาฆ่าเชื้อ 40
ACIDS
กรดอนินทรีย์
•ออกฤทธิ์ใน
สภาพ pH กรด
•กรดเกลือ กรด
กำามะถัน
•เป็นอันตรายต่อ
เนื้อเยื่อ
กรดอินทรีย์
•ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
•ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่านเข้าเซลล์แบคทีเรีย ทำาให้
เยื่อหุ้มเซลล์ขาด
•ให้ผลดีกว่ากรดอนินทรีย์
•Acetic acid, Benzoic acid
- 44. ยาฆ่าเชื้อ 44
ยาฆ่าเชื้อ ความเข้มข้นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่าเชื้อ ข้อสังเกตในการใช้
สบู่และสารซักล้าง 10นาที Aล้างทำาความสะอาดฆ่าเชื้อไวรัสไม่ได้ยกเว้นไวรัสกลุ่ม
ใช้ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชำาระล้างและทำาให้ผิวสัมผัสเปียก
oxidizingสาร ไวรัสทุกกลุ่มเว้นแต่มีสารอินทรีย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
NaOCl, Ca(OCl)2 2-3% 10-30นาที และจะสลายตัวเมื่อมีความร้อน
ด่าง
โซดาไฟ 2%w/v 10นาที ไวรัสทุกกลุ่มไม่ควรใช้เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
โซดาซักผ้า 4-10%w/v 10-30นาที ไวรัสทุกกลุ่ม แม้เมื่อมีสารอินทรีย์ปะปน
กรด
กรดเกลือ 2%v/v 10นาที ใช้เมื่อหาสารเคมีอื่นไม่ได้มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงต่อโลหะคอนกรีต
กรดซิตริก 0.2%w/v 30นาที ใช้ล้างเสื้อผ้าร่างกาย
อัลดีไฮด์
glutaraldehyde 2%w/v 10-30นาที ไวรัสทุกกลุ่มใช้เข้มข้นแพง
formaldehyde 8%v/v 10-30นาที ปล่อยก๊าซซึ่งเป็นอันตราย
เปรียบเทียบการใช้ยาฆ่าเชื้อ
ชนิดต่างๆ
ที่มา :
- 45. ยาฆ่าเชื้อ 45
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการใช้
ยาฆ่าเชื้อชนิดต่างๆ
ที่มา : Quinn,
ยาฆ่าเชื้อ สารอินทรีย์ pH ความชื้นสัมพัทธ์สบู่และการซักล้าง นำ้ากระด้าง
Acids + + - - +/-
Alcohols + - - - -
Bases + + - - +/-
Formalin +/- - + - -
Formadehyde(g) + - + - -
Glutaraldehyde +/- + - - +/-
Halogens + + - - +/-
Oxidizingagents + - - - -
Phenolic
compound +/- + - - +/-
Quaternary
ammonium
compound +/- + - + +/-
- 46. ยาฆ่าเชื้อ 46
การ ล้างฆ่าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมี
โรคระบาดเกิดขึ้นในฟาร์ม
• จัดบริเวณล้างฆ่าเชื้อไว้ใกล้จุดที่ออกจาก
บริเวณปนเปื้อน นำ้าล้างจะต้องไม่ไหลไปสู่
บริเวณที่สะอาด
• ใช้สบู่ในการล้างหน้า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมกับเชื้อโรคที่มีการ
ระบาด
• เตรียมนำ้ายาในถังนำ้าและจุ่มรองเท้าบู๊ทในถัง
นำ้ายา
• พ่นนำ้ายาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้อน อาบนำ้า สระผม และ
- 47. ยาฆ่าเชื้อ 47
การ ล้าง ฆ่าเชื้อ
อุปกรณ์ โรงเรือน
• กำาจัดเศษวัสดุ สิ่งสกปรก สิ่งปนเปื้อน เพราะเศษ
อินทรียวัตถุที่ตกค้างจะทำาให้ประสิทธิภาพของยา
ฆ่าเชื้อลดลง ให้ใช้แปรงขัดสิ่งสกปรกแล้วจึงฉีดนำ้า
ล้าง เมื่อมีสัตว์ป่วยอยู่ในโรงเรือนให้ล้างด้วยความ
ระมัดระวัง อย่าใช้นำ้าที่มีแรงดันสูง เนื่องจากจะ
เป็นการสร้าง bioaerosols สำาหรับไวรัส ทำาให้
ไวรัสกระจายไปสู่บริเวณใกล้เคียง และทำาให้สิ่ง
สกปรกกระจายในวงกว้าง สิ่งสกปรกนั้นให้ทำาการ
ฝังและราดนำ้ายาฆ่าเชื้อ
• เล็งเป้าหมายใช้ยาฆ่าเชื้อกับสิ่งของหรือสิ่ง
แวดล้อมรอบตัวสัตว์ เช่น คอก ทางเดิน รางอาหาร
• ปล่อยให้ยาฆ่าเชื้อมีเวลาสัมผัสกับเชื้อโรคอย่าง
- 48. ยาฆ่าเชื้อ 48
การ ล้าง ฆ่าเชื้อ
อุปกรณ์ โรงเรือน (ต่อ)
1. เมื่อไม่มีสัตว์ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้พ่นนำ้ายาฆ่าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พื้น
2. เมื่อมีสัตว์ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนำ้ายาฆ่าเชื้อลงพื้นด้วยฝักบัวรดนำ้าธรรมดา
โดยรอบตัวสัตว์ป่วย ไม่พ่นยาฆ่าเชื้อ
ใส่ตัวสัตว์โดยตรง และจะต้องล้างฆ่าเชื้อซำ้าใน
ตำาแหน่งนั้นเป็นประจำาวันละ 2 ครั้ง
เช้า- เย็น จนกระทั่งหมดสัตว์แสดงอาการป่าย จึง
ลดความถี่ในการล้าง ฆ่าเชื้อเป็นวันเว้นวัน และ
อาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ล้างฆ่าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์การเลี้ยง
- 49. ยาฆ่าเชื้อ 49
การ ล้าง ฆ่าเชื้อ
อุปกรณ์ โรงเรือน (ต่อ)
3. เมื่อสัตว์ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่น การกัก
โค กระบือ
• ใช้ซองกักสัตว์ป่วยกลางแจ้ง ให้พ่นด้วยนำ้ายา
ฆ่าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมื่อเลิกการกัก
ให้ทำาการฆ่าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือ
เผา
- 50. ยาฆ่าเชื้อ 50
ไวรัสที่มีการติดต่อทางการหายใจ ไม่มีความ
จำาเป็นต้องฆ่าเชื้อโดยการพ่นยาเป็นละอองใน
อากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสัมผัสกับยา
ฆ่าเชื้อน้อยเกินไปและสัตว์มีการขับเชื้ออยู่
ตลอดเวลาและยังทำาให้เกิด bioaerosol ทำาให้
ไวรัสฟุ้งกระจายได้ดียิ่งขึ้นในกรณีดังกล่าว ให้ทำาการฆ่าเชื้อ
ด้วยการใช้ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิด
ซึ่งมักดำาเนินการหลังจากได้ทำาลาย
สัตว์ป่วยแล้ว และไม่มีสัตว์เหลืออยู่
ในโรงเรือน
เอกสารอ้างอิงเรื่องการใช้ยาล้างฆ่าเชื้อในสัตว์จาก
บรรจง จงรักษ์วัฒนา. 2546. คู่มือควบคุมโรคปากและ
เท้าเปื่อย สำานักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9.
สงขลา. 95 น.
- 51. ยาฆ่าเชื้อ 51
ตัวอย่างวิธีการและยาฆ่าเชื้อ
สำาหรับโรคปากและเท้าเปื่อย
สิ่งปนเปื้อนยาฆ่าเชื้อ/
วิธีการ
สัตว์มีชีวิต ทำาลาย (ถ้า
ทำาได้)
ซาก ฝังหรือเผา,
3, 4
โรงเรือนเลี้ยงสัตว์/
อุปกรณ์ 2, 3
สิ่งแวดล้อม3
คน 1, 4.2
อุปกรณ์ไฟฟ้า 5.3
สิ่งปนเปื้อนยาฆ่าเชื้อ/
วิธีการ
นำ้า ถังเก็บนำ้า 3
อาหารสัตว์ฝังหรือ 5.2
ขยะ ฝัง หรือ 4
บ้านเรือน 2,
4.2
เครื่องจักร ยานพาหนะ
3, 4
เสื้อผ้า 2,
2.3, 3, 4.2
1 = สบู่และสารซักล้าง; 2 = สารออกซิไดส์: 2.1 =
sodium hpochloride, 2.2 calcium hypochloride; 3 =
ด่าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium
carbonate; 4 = กรด: 4.1 hdrochloric acid, 4.2 citric
- 52. ยาฆ่าเชื้อหลัก รูปแบบและความเข้มข้น ระยะเวลาที่ใช้
1. สบู่และนำ้ายาซักฟอก 10แช่ทิ้งไว้ นาที
2. Oxidizingagentsนำ้ายาฆ่าเชื้อกลุ่ม
2aโซเดียมไฮโปคลอไรท์
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
2-3%เข้มข้นที่
10-30นาทีแต่ใช้ไม่ได้ก
มีสารอินทรีย์ปนอยู่มากเช่น
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
2bแคลเซียมไฮโปคลอไรท์
2-3%ผงหรือของเหลวเจือจางที่
( 20 / )ใช้ผงกรัมลิตร
10-30นาทีแต่ใช้ไม่ได้ก
มีสารอินทรีย์ปนอยู่มากเช่น
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3aโซเดียมไฮดรอกไซด์
( )โซดาไฟ 2%(20 / )กรัมลิตร
10 (นาทีห้ามใช้บนพื้น
)เป็นอลูมิเนียม
3bโซเดียมคาร์บอเนต
( )โซดาชะล้าง
(Na2CO310H2O) 4%(40 / )กรัมลิตร
10นาทีในกรณีที่มีสาร
อินทรีย์ปะปนมากเช่นมูล
30สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้
นาที
4ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
4aกรดไฮโดรคลอริค2%(20 / )มิลลิลิตรลิตร
มีฤทธิ์กัดกร่อนควรเลือกใช้
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น
4bกรดซิตริค 0.2%(2 / )กรัมลิตร
30นาทีปลอดภัยสำาหร
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิบัติงานที่
อาจปนเปื้อน
5ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
15-24 .ชมต้องระวังเป็น
ต่อทางเดินหายใจผู้ปฏิบัติ
ชนิด มาตรการการทำาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก ฝังหรือเผา
พื้นคอกโรงเรือนวัสดุและอุปกรณ์ในโรงเรือน 1,2a,2b,3
ผู้ปฏิบัติงาน 1
วัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้า 5
อ่างหรือถังเก็บนำ้าหรือคาดว่ามีการปนเปื้อน ปล่อยนำ้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งนำ้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลี้ยงสัตว์ปีกอย่างหนาแน่นปล่อยนำ้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม 3,4ฝังหรือเผาหรือ
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชื้อ 1,2a,2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ 1,3
เสื้อผ้าของผู้ปฏิบัติงาน 1,2a,2b,3
เครื่องบิน 1
ตัวอย่างวิธีการและ
ยาฆ่าเชื้อ
สำาหรับโรคไข้หวัด
นก