More Related Content
More from Kubgife Yrc (15)
ใบงาน6
- 1. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูป ของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทา โครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงาน จาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรัน ย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
ตัวอย่างโครงงาน ประเภทของโครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
โครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจทาได้หลายรูปแบบ ถ้าพิจารณาลักษณะของ กิจกรรมการศึกษาค้นคว้าแล้ว จัดประเภทของโครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็น 4 ประเภท คือ
1. โครงงานประเภททดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ลักษณะของโครงงานประเภทนี้ ต้องมีการออกแบบการทดลอง เพื่อศึกษาผลของ ตัวแปรหรือตัวแปรอิสระ ที่มีผลต่อตัวแปรตามและมีการควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่ ต้องการศึกษา ที่จะส่งผลให้การศึกษาคลาดเคลื่อน ขั้นตอนการทาโครงงาน ประเภทนี้จะต้องมีการกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐาน ออกแบบ การทดลอง ดาเนินการทดลอง เพื่อหาคาตอบของปัญหาหรือตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้ แปร ผลและสรุปผล การทาโครงงานประเภททดลอง บางครั้งอาจจาเป็นต้องทดลอง
ใบงานที่ 6
เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
- 2. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น (Preliminary study) เสียก่อน เพื่อให้ได้ ข้อมูลบางประการมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการกาหนดรายละเอียดต่างๆ ของ การศึกษาค้นคว้าจริงต่อไป ผู้จัดทามีความเห็นว่า ข้อดีของโครงงานประเภทนี้ คือ จะมีการใช้วิธีวิทยาศาสตร์ครบทั้ง 5 ขั้น คือ ตั้งแต่การกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐานวางแผนการทดลอง รวบรวมข้อมูลและสรุปผล นอกจากนั้น ยังมีการ ควบคุมตัวแปรอีกด้วย ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการศึกษา ค้นคว้าทางงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ที่สาคัญ
โครงงานประเภททดลอง เป็นการตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐานหนึ่ง ซึ่งเริ่ม ตั้งแต่การออกแบบการทดลองอย่างมีขั้นตอน การใช้เครื่องมือในการทดลองอย่าง ถูกต้อง มีการออกแบบตารางหรือวิธีการบันทึกผลการทดลอง การใช้หน่วยวัดที่ ถูกต้อง มีการกาหนดตัวแปรต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูลมีการทดลองหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับสรุปผลการทดลองที่ชัดเจน ตัวอย่างของโครงงานประเภทการทดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น เครื่องตรวจสอบ SCR วงจรสวิตซ์ควบคุมด้วยแสงรีโมท เครื่องตรวจสอบสายไฟ (Test Lamp)
2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล
โครงงานประเภทนี้ เป็นการศึกษารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อศึกษาหาความรู้ที่มีอยู่หรือเป็นอยู่ในชีวิตประจาวัน โดยใช้วิธี สารวจและรวบรวมข้อมูลแล้วนาข้อมูลที่ได้ มาจัดกระทาให้เป็นระบบระเบียบและสื่อ ความหมายแล้วนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่นตาราง กราฟ แผนภูมิ และคาอธิบาย ประกอบ ตัวอย่างของโครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล
ก. การเก็บรวบรวมข้อมูลใสนามได้ทันที โดยไม่ต้องนาวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ใน ห้องปฏิบัติการ
ตัวอย่าง การสารวจความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงฝึกงาน
- 3. ข. การเก็บรวบรวมวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
ตัวอย่าง การสารวจวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังเกิดการลัดวงจร
โครงงานประเภทสารวจ เป็นการสารวจข้อมูลต่างๆ ที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็น เพื่อนามาประกอบการศึกษาหรือการจาแนกหมวดหมู่ ทั้งนี้ไม่ต้องคานึงถึงตัวแปร ต่างๆ การเก็บข้อมูลโดยการออกไปสารวจนอกห้องปฏิบัติการ หรือที่เรียกว่าสารวจ ภาคสนาม หรือบางครั้งอาจจะนาส่วนต่างๆ นั้นมาศึกษาในห้องปฏิบัติการด้วยก็ได้
3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือการประดิษฐ์
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ทฤษฎีหรือทักษะทาง งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มาประิดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ เพื่อ ประโยชน์ใช้สอยต่างๆ เพื่ออานวยความสะดวกแก่มนุษย์ อาจคิดประดิษฐ์ ของใหม่ๆ หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งมี ลักษณะของโครงงานที่ต้องการกาหนดตัวแปรที่ต้องศึกษา เหมือนกับ โครงงาน ประเภททดลอง แต่ผลของโครงงานประเภทนี้จะได้อุปกรณ์ หรือสิ่งประดิษฐ์ และมีข้อมูลต่างๆ ประกอบซึ่งต่างจากโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ ส่วนใหญ่จะ กาหนดตัวแปรที่จะศึกษา ดังนี้
ตัวแปรต้น ส่วนใหญ่จะศึกษาในด้านรูปทรง หรือ โครงสร้างที่เหมาะสมของ สิ่งประดิษฐ์ ชนิดของวัสดุที่เหมาะสมในการทาสิ่งประดิษฐ์
ตัวแปรตาม ส่วนใหญ่จะวัดได้ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งกาหนดเกณฑ์การวัด ต่างๆ กันออกไปตามชนิดของการประดิษฐ์
ส่วนตัวแปรที่ต้องควบคุมนั้น จะควบคุมในสิ่งที่จะทาให้ผลการวัดตัวแปรตาม คลาดเคลื่อน จะควบคุมอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งประดิษฐ์
โครงงานประเภทนี้ อาจจะมีลักษณะเป็นแบบจาลองได้ แต่ต้องแสดงให้เห็นการ ทางาน ของแบบ จาลองนั้นจริงๆ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ นอกจากจะมีข้อมูลต่างๆ ที่ได้จาก การศึกษาทดลองขั้นต้น เพื่อนามาใช้ประกอบในการทาสิ่งประดิษฐ์และมีการวัดประสิทธิภาพ ของ สิ่งประดิษฐ์ แล้งยังมีสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้งานได้จริงๆ หรือแบบจาลองที่แสดงการทางานได้
- 4. ซึ่งมองเห็นประโยชน์ของการนาไปใช้ได้ชัดเจน จึงเป็นโครงงานที่เหมาะสมกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ ตัวอย่างของโครงงานประเภทพัฒนาหรือการประดิษฐ์ จุดหลอด FL ด้วยถ่านไฟฉาย สัญญาณเตือนภัยอัตโนมัติ สัญญาณไฟกระพริบ LED 2 สี 2 ดวง
4. โครงงานประเภททฤษฎี เป็นโครงงานที่ผู้ทาโครงงานได้เสนอทฤษฎี หลักการหรือแนวความคิดใหม่ๆ ซึ่ง อาจอยู่ในรูปของสูตรสมการ หรือคาอธิบายก็ได้ โดยผู้นาเสนอได้ตั้งกติกา หรือข้อตกลง ขึ้นมาเอง แล้วเสนอทฤษฎี หลักการ แนวความคิดหรือจินตนาการของตนเองตามกติกา หรือ ข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกา หรือข้อตกลงเดิมมา อธิบายสิ่งหรือปรากฎการณ์ต่างๆ ในแนว ใหม่ ทฤษฎี หลักการ แนวความคิด หรือจินตนาการที่เสนออาจจะใหม่ ยังไม่มีใครคิดมา ก่อน หรืออาจขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม หรือเป็นการขยายทฤษฎี หรือแนวคิดเดิมก็ได้ การทาโครงงานประเภทนี้จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้นๆ อย่าง ดีจึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทนี้ได้อย่างมีเหตุมีผลน่าเชื่อถือโดยทั่วๆไป
ตัวอย่างของโครงงานประเภททฤษฎี นักวิทยาศาสตร์ ทาการทดลองเพื่อสร้างกฎของโอห์ม กฎของเคอร์ช๊อฟ เป็นต้น
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 ...…...http://www.nayoktech.ac.th/~choompol/ch02_5.html