SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
นำเสนอ
         อ.ปิยวรรณ รัตนภำนุศร

                จัดทำโดย
นำย วีรภัทร ทองธรรมชำติ ม.4/2 เลขที่ 23
   นำย พำทิศ สืบศิริ ม.4/2 เลขที่ 32
คลืนวิทยุ (อังกฤษ: Radio waves) เป็นคลืนแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึงทีเกิดขึ้นในช่วงความถี่
    ่                                   ่                    ่ ่
วิทยุบนเส้นสเปรกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าซึงสามารถไช้ตมนาร้อนได้แล้วช่วยลดโลกร้อนได้เป็น
                                                 ้
การบวกที่ดี
คลืนวิทยุถกค้นพบครังแรกระหว่างการตรวจสอบทางคณิตศาสตร์โดยเจมส์ เคลิรก แมกซ์
      ่          ู     ้                                                    ์
เวลล์ ในปี ค.ศ. 1865 แมกซ์เวลล์สงเกตพบคุณสมบัติของแสงบางประการทีคล้ายคลึงกับ
                                ั                                      ่
คลืน และคล้ายคลึงกับผลการเฝ้าสังเกตกระแสไฟฟ้าและแม่เหล็ก เขาจึงนาเสนอสมการที่
        ่
อธิบายคลืนแสงและคลืนวิทยุในรูปแบบของคลืนแม่เหล็กไฟฟ้าทีเดินทางในอวกาศ ปี ค.ศ.
            ่            ่                 ่               ่
1887 เฮนริค เฮิรตซ ได้สาธิตสมการของแมกซ์เวลล์วาเป็นความจริงโดยจาลองการสร้าง
                   ์                               ่
คลืนวิทยุขนในห้องทดลองของเขา หลังจากนั้นก็มีสงประดิษฐ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และทา
          ่   ึ้                              ิ่
ให้เราสามารถนาคลืนวิทยุมาใช้ในการส่งข้อมูลผ่านห้วงอวกาศได้
                     ่
คลืนวิทยุทกระจายออกจากสายอากาศจะเดินทางไปทุกทิศทางในทุกระนาบ
   ่       ี่
การกระจายคลืนนีมลักษณะเป็นการขยายตัวของพลังงานออกเป็นทรง
                 ่ ้ ี
กลม           ถ้าจะพิจารณาในส่วนของพืนที่แทนหน้าคลืนจะเห็นได้วามันพุง
                                     ้             ่          ่     ่
ออกไปเรือย ๆ จากจุดกาเนิด และสามารถเขียนแนวทิศทางเดินของหน้าคลืนได้
         ่                                                            ่
ด้วยเส้นตรงหรือเส้นรังสี เส้นรังสีทลากจากสายอากาศออกไปจะทามุมกับ
                                       ี่
ระนาบแนวนอน มุมนี้เรียกว่า มุมแผ่คลืน อาจมีคาเป็นบวก (มุมเงย) หรือ
                                          ่          ่
มีค่าเป็นลบ (มุมกดลง) ก็ได้ มุมของการแผ่คลืนนีอาจนามาใช้เป็นตัวกาหนด
                                              ่ ้
ประเภทของคลืนวิทยุได้
                  ่
โดยทั่วไปคลืนวิทยุอาจแออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ คลื่นดิน (GROUND
            ่
WAVE ) กับคลืนฟ้า (SKY WAVE ) พลังงานคลืนวิทยุส่วนใหญ่จะเดินทางอยูใกล้ ๆ
                  ่                                  ่                       ่
ผิวโลกหรือเรียกว่าคลื่นดิน ซึงคลืนนีจะเดินไปตามส่วนโค้งของโลก คลืนอีกส่วนทีออกจาก
                             ่ ่ ้                               ่         ่
สายอากาศ ด้วยมุมแผ่คลื่นเป็นค่าบวก จะเดินทางจากพืนโลกพุงไปยังบรรยากาศจนถึงชัน
                                                       ้   ่                   ้
เพดานฟ้าและจะสะท้อนกลับลงมายังโลกนี้เรียกว่า คลืนฟ้าบ่ง
                                                   ่
องค์ประกอบของคลืนแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบด้วยกันคือ
                      ่
1.คลืนผิวดิน หมายถึง คลืนทีเดินตามไปยังผิวโลกอาจเป็นผิวดิน หรือผิวน้าก็ได้ พิสยของ
     ่                      ่ ่                                               ั
การกระจายคลืนชนิดนี้ขนอยูกบค่าความนาทางไฟฟ้าของผิวทีคลื่นนีเดินทางผ่านไป เพราะ
                  ่      ึ้ ่ ั                        ่      ้
ค่าความนาจะเป็นตัวกาหนดการถูกดูดกลืนพลังงานของคลืนผิวโลก การถูกดูดกลืนของ
                                                    ่
คลืนผิวนีจะเพิมขึนตามความถีที่สงขึน
   ่         ้ ่ ้              ่ ู ้
2.คลืนตรง หมายถึง คลืนทีเดินทางออกไปเป็นเส้นตรงจากสายอากาศ ส่งผ่านบรรยากาศ
           ่               ่ ่
ตรงไปยังสายอากาศรับโดยมิได้มการสะท้อนใด ๆ
                                   ี
3.คลืนสะท้อนดิน หมายถึง คลืนทีออกมาจากสายอากาศ ไปกระทบผิวดินแล้วเกิดการ
       ่                         ่ ่
สะท้อนไปเข้าที่สายอากาศรับ
4.คลืนหักเหโทรโปสเฟียร์ หมายถึง คลืนหักเหในบรรยากาศชั้นต่าของโลกทีเรียกว่า โทร
         ่                            ่                              ่
โปสเฟียร์ การหักเหนีมใช่เป็นการหักเหแบบปกติทเกิดขึนจากการเปลียนแปลงความ
                        ้ ิ                    ี่ ้              ่
หนาแน่นของชันบรรยากาศของโลกกับความสูง แต่เป็นการหักเหทีเกิดการเปลียนแปลง
                ้                                           ่           ่
ความหนาแน่นของชันบรรยากาศอย่างทันทีทนใด และไม่สม่าเสมอของความหนาแน่นและใน
                    ้                    ั
ความชื้นของบรรยากาศ ได้แก่ ปรากฏการณ์ทเรียกว่า อุณหภูมิแปรกลับ
                                           ี่
คลืนผิวดิน (Surface wave propagation )
     ่
เป็นคลืนทีแพร่กระจายออกจากสายอากาศโดยผิวพืนดินเป็นสื่อนา คลืนผิวดินจะมีขน
            ่ ่                                 ้                    ่         ึ้
ได้กตอเมือสายอากาศของเครืองส่งจะต้องอยูใกล้ชิดกับพืนดิน ซึงจะมีอทธิพลต่อความถี่
         ็ ่ ่               ่            ่          ้     ่     ิ
ในย่าน VLF , LF และ MF การแพร่กระจายคลื่นชนิดนี้ สามารถ
แพร่กระจายได้ระยะทางไกลมาก ส่วนย่าน VHF , UHF ก็สามารถทีจะ             ่
แพร่กระจายคลื่นชนิดนี้ได้ เช่นกัน แต่ระยะทางติดต่อไม่ไกลนัก เพราะค่าคุณสมบัติทาง
ไฟฟ้าของพืนดินจะมีผลต่อความถี่สง ๆ เป็นอย่างมาก เพราะจะทาให้เกิดความสูญเสีย
                    ้               ู
กาลังไปในพืนดิน นันคือ เมื่อคลืนแพร่ผานผิวดินไป เส้นแรงของสนามไฟฟ้าของ
                      ้ ่         ่     ่
คลืนจะเหนียวนาให้เกิดประจุไฟฟ้าเกิดขึนบนดิน ทาให้เกิดกระแสไหลในดินขึน และ
       ่          ่                   ้                                  ้
เนืองจากพืนดินมิใช่เป็นตัวนาสมบูรณ์แบบ ทาให้มความต้านทานเกิดขึนเป็นเหตุให้เกิด
   ่            ้                                 ี                ้
การสูญเสียกาลัง ( I2R) ขึ้น
2. คลืนตรง ( Direct wave propagation )
         ่
คลืนตรงมีลกษณะการแพร่กระจายคลื่นวิทยุเหมือนกับการเดินทางของแสง คือ พุงเป็น
    ่          ั                                                       ่
เส้นตรง และการกระจายคลืนชนิดนีจะอยูในระดับสายตา (line of sight)
                              ่   ้     ่
การกระจายคลืนชนิดนีจะมีการถ่าง ของ Radio beam และมีการแตกกระจายหรือสะท้อน
                   ่    ้
ได้ เมือพบกับสิงกีดขวาง เช่น ตึก ภูเขา โดยทีระยะทางของการแพร่กระจายคลืนจะมาก
       ่         ่                              ่                         ่
หรือน้อยนันต้องขึนอยูกบความสูงของสายอากาศเป็นสาคัญ การแพร่กระจายคลื่นชนิดนี้ จะมีผล
             ้       ้ ่ ั
ต่อการแพร่กระจายคลืน ในย่านความถีที่สงกว่าย่าน VHF ขึ้นไป แต่สวนใหญ่ จะใช้ความถี่
                          ่           ่ ู                       ่
ในย่านที่สงกว่า UHF ขึ้นไป เนืองจากการใช้ความถี่ในย่าน VHF และ UHF (LOW
           ู                        ่
BAND ) จะมีการสะท้อนบนพืนดินด้วย (reflection propagation) เกิดขึนเป็นอย่างมาก
                                ้                                 ้
จากการแพร่กระจายคลืนตรงนี้ ยังแบ่งการแพร่กระจายออกเป็น 2 แบบคือ
                            ่
1.การแพร่กระจายเป็นแนวโค้ง เนืองจากการเบียงเบนในชันบรรยากาศ (Refraction Propagation)
                                ่             ่          ้
โดยปกติ คลืนวิทยุที่แพร่กระจายไปในอากาศ จะมีลกษณะเป็นเส้นตรงเช่นเดียวกับแสง แต่
               ่                                  ั
ข้อเท็จจริงประการหนึง คือ ชันบรรยากาศก็ยอมมีความแตกต่างกัน ดังนันคลืนวิทยุที่สงออกอากาศ
                       ่      ้             ่                      ้ ่         ่
ไป ย่อมทีจะเบียงเบนไปบ้างนอกเหนือจากทีพงเป็นเส้นตรงแล้ว ด้วยเหตุนทาให้สามารถรับสัญญาณ
          ่ ่                          ่ ุ่                         ี้
คลืนวิทยุทอยู่หางไกลจากระดับสายตาได้ การแพร่กระจายคลืนชนิดนีจะมีอทธิพลต่อการ
     ่     ี่ ่                                            ่     ้     ิ
ติดต่อสือสารความถีวิทยุในย่านสูงกว่า VHF ขึนไป
        ่            ่                          ้
การกระจายคลืนดังกล่าวนี้ไม่มทฤษฎีทแน่นอนว่า คลื่นวิทยุที่สงออกไปแล้วจะเบียงเบนลงสูพนดิน
                   ่        ี       ี่                       ่           ่        ่ ื้
ในช่วงใดบ้าง แต่จากการทดลองพบว่า คลืนวิทยุทเบียงเบนจะมีลกษณะเป็น Multi part
                                         ่          ี่ ่       ั
เบียงเบนลงสูพนดินเป็นจานวนมาก
   ่          ่ ื้
2.การแพร่กระจายคลื่นไปยังด้านทีมองไม่เห็นในระยะ
                                  ่
สายตา ( Diffraction Propagation )
                     เป็นการกระจายคลืนโดยการแตกกระจายของคลืนวิทยุ ลักษณะของการ
                                        ่                      ่
ติดต่อกล่าวคือ เมือคลืนวิทยุที่สงออกไปจะกระทบกับสิงทีกดขวาง พลังงานบางส่วนจะเกิด
                    ่ ่         ่                  ่ ่ ี
การแตกกระจายรอบๆบริเวณสิงกีดขวางนัน ในทางปฏิบติ เราจะให้คลืนวิทยุพงไปกระทบ
                              ่           ้            ั           ่     ุ่
กับส่วนบนของสิงกีดขวางนั้นๆ สืบเนืองจากเหตุผลทีว่า คลื่นทีเกิดการแตกกระจายไปนัน
                 ่                  ่          ่          ่                   ้
สามารถเคลือนทีตอไปได้ตามหลักการของ Ray Theory จะถือเอาส่วนโค้งของผิว
             ่ ่ ่
โลก อาคาร ต้นไม้ เนินเขา ทีราบสูง ภูเขา หรืออากาศยาน เหล่านีเป็นต้น แต่
                                      ่                                ้
ถ้าสิ่งกีดขวางมีขนาดเล็กและมียอดแหลมคล้ายสันมีด (มุมยอดเล็ก) คลืนทีมาตกกระทบจะไม่
                                                                  ่ ่
มีผลต่อการทีจะทาให้เกิด Diffraction loss หรือ Shower effect ได้ แต่ถาหาก
              ่                                                                 ้
สิงกีดขวางมีขนาดใหญ่ ค่าของ Shower effect จะเกิดขึนมาก ซึงเป็นผลทาให้ความ
  ่                                                         ้        ่
แรงของสัญญาณลดลง
1.คลืนวิทยุคืออะไร
     ่
2.แบ่งเป็นกีประเภทใหญ่ใหญ่
             ่
3.คลืนผิวดินคืออะไร
       ่
4.คลืนตรงมีลกษณะการพุงอย่างไร
         ่     ั       ่
5.คลืนตรงมีการแตกกระจายหรือสะท้อนได้ เมือพบกับสิงกีดขวางใด
           ่                            ่       ่

  คำตอบ
  1. เป็นคลืนแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึงที่เกิดขึ้นในช่วงความถีวิทยุบนเส้น
            ่                    ่                       ่
  สเปรกตรัม
คลื่นวิทยุ(วีรภัทร พาทิศ)402

More Related Content

Viewers also liked

De vob op weg naar een digitale collectie
De vob op weg naar een digitale collectieDe vob op weg naar een digitale collectie
De vob op weg naar een digitale collectieBibliotheek20
 
Reputation action plan
Reputation action planReputation action plan
Reputation action planmarionjollivet
 
Power point 1 a publier
Power point 1 a publierPower point 1 a publier
Power point 1 a publiermarionjollivet
 
Power point 1 a publier
Power point 1 a publierPower point 1 a publier
Power point 1 a publiermarionjollivet
 
Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)
Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)
Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)Yunita Wirapraja
 
Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)
Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)
Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)Yunita Wirapraja
 
English speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpointEnglish speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpointteachersocorro
 
Designing Breakthrough product
Designing Breakthrough productDesigning Breakthrough product
Designing Breakthrough productMaeMe Kulyapha
 
English speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpointEnglish speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpointteachersocorro
 
Հաշվետվություն
ՀաշվետվությունՀաշվետվություն
Հաշվետվությունmaqojan
 
Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)
Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)
Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)Bibliotheek20
 

Viewers also liked (15)

Joie de vivre hôtels
Joie de vivre hôtelsJoie de vivre hôtels
Joie de vivre hôtels
 
De vob op weg naar een digitale collectie
De vob op weg naar een digitale collectieDe vob op weg naar een digitale collectie
De vob op weg naar een digitale collectie
 
FINETECH SYSTEMS
FINETECH SYSTEMSFINETECH SYSTEMS
FINETECH SYSTEMS
 
Reputation action plan
Reputation action planReputation action plan
Reputation action plan
 
Power point 1 a publier
Power point 1 a publierPower point 1 a publier
Power point 1 a publier
 
Power point 1 a publier
Power point 1 a publierPower point 1 a publier
Power point 1 a publier
 
Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)
Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)
Komunikasi dengan Budaya Organisasi (Menyusun kerangka teori)
 
Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)
Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)
Teori semiotika (Kelompok Komunikasi Massa)
 
English speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpointEnglish speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpoint
 
Designing Breakthrough product
Designing Breakthrough productDesigning Breakthrough product
Designing Breakthrough product
 
English speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpointEnglish speaking countries powerpoint
English speaking countries powerpoint
 
Store layout
Store layoutStore layout
Store layout
 
Komunikasi intrapersonal
Komunikasi intrapersonalKomunikasi intrapersonal
Komunikasi intrapersonal
 
Հաշվետվություն
ՀաշվետվությունՀաշվետվություն
Հաշվետվություն
 
Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)
Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)
Verkenning context en contextualisering (en de rol van de bibliotheek)
 

Similar to คลื่นวิทยุ(วีรภัทร พาทิศ)402

คลื่นวิทยุ เนตรธารา+พิทยา 403
คลื่นวิทยุ  เนตรธารา+พิทยา 403คลื่นวิทยุ  เนตรธารา+พิทยา 403
คลื่นวิทยุ เนตรธารา+พิทยา 403Piyawan
 
คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402
คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402
คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402ANelu Upperyard
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าuntika
 
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405Peammavit Supavivat
 
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405Peammavit Supavivat
 
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402Pitchayanis Kittichaovanun
 
ปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่นปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่นSom Kechacupt
 
ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404
ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404
ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404Sawita Jiravorasuk
 
ว32207p4 (2) for my thai students .pptx
ว32207p4 (2) for my thai students  .pptxว32207p4 (2) for my thai students  .pptx
ว32207p4 (2) for my thai students .pptxYanisaThatho
 
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403Supanut Maiyos
 
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสงดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสงnang_phy29
 
แสงและการหักเห2
แสงและการหักเห2แสงและการหักเห2
แสงและการหักเห2DAWKAJAY20
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าThaweekoon Intharachai
 
คลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟคลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟPeerapas Trungtreechut
 

Similar to คลื่นวิทยุ(วีรภัทร พาทิศ)402 (20)

คลื่นวิทยุ เนตรธารา+พิทยา 403
คลื่นวิทยุ  เนตรธารา+พิทยา 403คลื่นวิทยุ  เนตรธารา+พิทยา 403
คลื่นวิทยุ เนตรธารา+พิทยา 403
 
คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402
คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402
คลื่นวิทยุ(วิสันต์+ภัทร)402
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
 
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
 
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
 
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
คลื่นวิทยุ(ธีรวีร์+ภคพล)405
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
 
ปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่นปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่น
 
ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404
ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404
ไมโครเวฟ(มนัสชยา+ศวิตา)404
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
ว32207p4 (2) for my thai students .pptx
ว32207p4 (2) for my thai students  .pptxว32207p4 (2) for my thai students  .pptx
ว32207p4 (2) for my thai students .pptx
 
WAVEs
WAVEsWAVEs
WAVEs
 
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
 
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสงดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
 
แสงและการหักเห2
แสงและการหักเห2แสงและการหักเห2
แสงและการหักเห2
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
คลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟคลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟ
 
โลกของเรา
โลกของเราโลกของเรา
โลกของเรา
 

คลื่นวิทยุ(วีรภัทร พาทิศ)402

  • 1. นำเสนอ อ.ปิยวรรณ รัตนภำนุศร จัดทำโดย นำย วีรภัทร ทองธรรมชำติ ม.4/2 เลขที่ 23 นำย พำทิศ สืบศิริ ม.4/2 เลขที่ 32
  • 2. คลืนวิทยุ (อังกฤษ: Radio waves) เป็นคลืนแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึงทีเกิดขึ้นในช่วงความถี่ ่ ่ ่ ่ วิทยุบนเส้นสเปรกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าซึงสามารถไช้ตมนาร้อนได้แล้วช่วยลดโลกร้อนได้เป็น ้ การบวกที่ดี คลืนวิทยุถกค้นพบครังแรกระหว่างการตรวจสอบทางคณิตศาสตร์โดยเจมส์ เคลิรก แมกซ์ ่ ู ้ ์ เวลล์ ในปี ค.ศ. 1865 แมกซ์เวลล์สงเกตพบคุณสมบัติของแสงบางประการทีคล้ายคลึงกับ ั ่ คลืน และคล้ายคลึงกับผลการเฝ้าสังเกตกระแสไฟฟ้าและแม่เหล็ก เขาจึงนาเสนอสมการที่ ่ อธิบายคลืนแสงและคลืนวิทยุในรูปแบบของคลืนแม่เหล็กไฟฟ้าทีเดินทางในอวกาศ ปี ค.ศ. ่ ่ ่ ่ 1887 เฮนริค เฮิรตซ ได้สาธิตสมการของแมกซ์เวลล์วาเป็นความจริงโดยจาลองการสร้าง ์ ่ คลืนวิทยุขนในห้องทดลองของเขา หลังจากนั้นก็มีสงประดิษฐ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และทา ่ ึ้ ิ่ ให้เราสามารถนาคลืนวิทยุมาใช้ในการส่งข้อมูลผ่านห้วงอวกาศได้ ่
  • 3. คลืนวิทยุทกระจายออกจากสายอากาศจะเดินทางไปทุกทิศทางในทุกระนาบ ่ ี่ การกระจายคลืนนีมลักษณะเป็นการขยายตัวของพลังงานออกเป็นทรง ่ ้ ี กลม ถ้าจะพิจารณาในส่วนของพืนที่แทนหน้าคลืนจะเห็นได้วามันพุง ้ ่ ่ ่ ออกไปเรือย ๆ จากจุดกาเนิด และสามารถเขียนแนวทิศทางเดินของหน้าคลืนได้ ่ ่ ด้วยเส้นตรงหรือเส้นรังสี เส้นรังสีทลากจากสายอากาศออกไปจะทามุมกับ ี่ ระนาบแนวนอน มุมนี้เรียกว่า มุมแผ่คลืน อาจมีคาเป็นบวก (มุมเงย) หรือ ่ ่ มีค่าเป็นลบ (มุมกดลง) ก็ได้ มุมของการแผ่คลืนนีอาจนามาใช้เป็นตัวกาหนด ่ ้ ประเภทของคลืนวิทยุได้ ่
  • 4. โดยทั่วไปคลืนวิทยุอาจแออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ คลื่นดิน (GROUND ่ WAVE ) กับคลืนฟ้า (SKY WAVE ) พลังงานคลืนวิทยุส่วนใหญ่จะเดินทางอยูใกล้ ๆ ่ ่ ่ ผิวโลกหรือเรียกว่าคลื่นดิน ซึงคลืนนีจะเดินไปตามส่วนโค้งของโลก คลืนอีกส่วนทีออกจาก ่ ่ ้ ่ ่ สายอากาศ ด้วยมุมแผ่คลื่นเป็นค่าบวก จะเดินทางจากพืนโลกพุงไปยังบรรยากาศจนถึงชัน ้ ่ ้ เพดานฟ้าและจะสะท้อนกลับลงมายังโลกนี้เรียกว่า คลืนฟ้าบ่ง ่
  • 5. องค์ประกอบของคลืนแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบด้วยกันคือ ่ 1.คลืนผิวดิน หมายถึง คลืนทีเดินตามไปยังผิวโลกอาจเป็นผิวดิน หรือผิวน้าก็ได้ พิสยของ ่ ่ ่ ั การกระจายคลืนชนิดนี้ขนอยูกบค่าความนาทางไฟฟ้าของผิวทีคลื่นนีเดินทางผ่านไป เพราะ ่ ึ้ ่ ั ่ ้ ค่าความนาจะเป็นตัวกาหนดการถูกดูดกลืนพลังงานของคลืนผิวโลก การถูกดูดกลืนของ ่ คลืนผิวนีจะเพิมขึนตามความถีที่สงขึน ่ ้ ่ ้ ่ ู ้ 2.คลืนตรง หมายถึง คลืนทีเดินทางออกไปเป็นเส้นตรงจากสายอากาศ ส่งผ่านบรรยากาศ ่ ่ ่ ตรงไปยังสายอากาศรับโดยมิได้มการสะท้อนใด ๆ ี 3.คลืนสะท้อนดิน หมายถึง คลืนทีออกมาจากสายอากาศ ไปกระทบผิวดินแล้วเกิดการ ่ ่ ่ สะท้อนไปเข้าที่สายอากาศรับ 4.คลืนหักเหโทรโปสเฟียร์ หมายถึง คลืนหักเหในบรรยากาศชั้นต่าของโลกทีเรียกว่า โทร ่ ่ ่ โปสเฟียร์ การหักเหนีมใช่เป็นการหักเหแบบปกติทเกิดขึนจากการเปลียนแปลงความ ้ ิ ี่ ้ ่ หนาแน่นของชันบรรยากาศของโลกกับความสูง แต่เป็นการหักเหทีเกิดการเปลียนแปลง ้ ่ ่ ความหนาแน่นของชันบรรยากาศอย่างทันทีทนใด และไม่สม่าเสมอของความหนาแน่นและใน ้ ั ความชื้นของบรรยากาศ ได้แก่ ปรากฏการณ์ทเรียกว่า อุณหภูมิแปรกลับ ี่
  • 6. คลืนผิวดิน (Surface wave propagation ) ่ เป็นคลืนทีแพร่กระจายออกจากสายอากาศโดยผิวพืนดินเป็นสื่อนา คลืนผิวดินจะมีขน ่ ่ ้ ่ ึ้ ได้กตอเมือสายอากาศของเครืองส่งจะต้องอยูใกล้ชิดกับพืนดิน ซึงจะมีอทธิพลต่อความถี่ ็ ่ ่ ่ ่ ้ ่ ิ ในย่าน VLF , LF และ MF การแพร่กระจายคลื่นชนิดนี้ สามารถ แพร่กระจายได้ระยะทางไกลมาก ส่วนย่าน VHF , UHF ก็สามารถทีจะ ่ แพร่กระจายคลื่นชนิดนี้ได้ เช่นกัน แต่ระยะทางติดต่อไม่ไกลนัก เพราะค่าคุณสมบัติทาง ไฟฟ้าของพืนดินจะมีผลต่อความถี่สง ๆ เป็นอย่างมาก เพราะจะทาให้เกิดความสูญเสีย ้ ู กาลังไปในพืนดิน นันคือ เมื่อคลืนแพร่ผานผิวดินไป เส้นแรงของสนามไฟฟ้าของ ้ ่ ่ ่ คลืนจะเหนียวนาให้เกิดประจุไฟฟ้าเกิดขึนบนดิน ทาให้เกิดกระแสไหลในดินขึน และ ่ ่ ้ ้ เนืองจากพืนดินมิใช่เป็นตัวนาสมบูรณ์แบบ ทาให้มความต้านทานเกิดขึนเป็นเหตุให้เกิด ่ ้ ี ้ การสูญเสียกาลัง ( I2R) ขึ้น
  • 7. 2. คลืนตรง ( Direct wave propagation ) ่ คลืนตรงมีลกษณะการแพร่กระจายคลื่นวิทยุเหมือนกับการเดินทางของแสง คือ พุงเป็น ่ ั ่ เส้นตรง และการกระจายคลืนชนิดนีจะอยูในระดับสายตา (line of sight) ่ ้ ่ การกระจายคลืนชนิดนีจะมีการถ่าง ของ Radio beam และมีการแตกกระจายหรือสะท้อน ่ ้ ได้ เมือพบกับสิงกีดขวาง เช่น ตึก ภูเขา โดยทีระยะทางของการแพร่กระจายคลืนจะมาก ่ ่ ่ ่ หรือน้อยนันต้องขึนอยูกบความสูงของสายอากาศเป็นสาคัญ การแพร่กระจายคลื่นชนิดนี้ จะมีผล ้ ้ ่ ั ต่อการแพร่กระจายคลืน ในย่านความถีที่สงกว่าย่าน VHF ขึ้นไป แต่สวนใหญ่ จะใช้ความถี่ ่ ่ ู ่ ในย่านที่สงกว่า UHF ขึ้นไป เนืองจากการใช้ความถี่ในย่าน VHF และ UHF (LOW ู ่ BAND ) จะมีการสะท้อนบนพืนดินด้วย (reflection propagation) เกิดขึนเป็นอย่างมาก ้ ้ จากการแพร่กระจายคลืนตรงนี้ ยังแบ่งการแพร่กระจายออกเป็น 2 แบบคือ ่
  • 8. 1.การแพร่กระจายเป็นแนวโค้ง เนืองจากการเบียงเบนในชันบรรยากาศ (Refraction Propagation) ่ ่ ้ โดยปกติ คลืนวิทยุที่แพร่กระจายไปในอากาศ จะมีลกษณะเป็นเส้นตรงเช่นเดียวกับแสง แต่ ่ ั ข้อเท็จจริงประการหนึง คือ ชันบรรยากาศก็ยอมมีความแตกต่างกัน ดังนันคลืนวิทยุที่สงออกอากาศ ่ ้ ่ ้ ่ ่ ไป ย่อมทีจะเบียงเบนไปบ้างนอกเหนือจากทีพงเป็นเส้นตรงแล้ว ด้วยเหตุนทาให้สามารถรับสัญญาณ ่ ่ ่ ุ่ ี้ คลืนวิทยุทอยู่หางไกลจากระดับสายตาได้ การแพร่กระจายคลืนชนิดนีจะมีอทธิพลต่อการ ่ ี่ ่ ่ ้ ิ ติดต่อสือสารความถีวิทยุในย่านสูงกว่า VHF ขึนไป ่ ่ ้ การกระจายคลืนดังกล่าวนี้ไม่มทฤษฎีทแน่นอนว่า คลื่นวิทยุที่สงออกไปแล้วจะเบียงเบนลงสูพนดิน ่ ี ี่ ่ ่ ่ ื้ ในช่วงใดบ้าง แต่จากการทดลองพบว่า คลืนวิทยุทเบียงเบนจะมีลกษณะเป็น Multi part ่ ี่ ่ ั เบียงเบนลงสูพนดินเป็นจานวนมาก ่ ่ ื้
  • 9. 2.การแพร่กระจายคลื่นไปยังด้านทีมองไม่เห็นในระยะ ่ สายตา ( Diffraction Propagation ) เป็นการกระจายคลืนโดยการแตกกระจายของคลืนวิทยุ ลักษณะของการ ่ ่ ติดต่อกล่าวคือ เมือคลืนวิทยุที่สงออกไปจะกระทบกับสิงทีกดขวาง พลังงานบางส่วนจะเกิด ่ ่ ่ ่ ่ ี การแตกกระจายรอบๆบริเวณสิงกีดขวางนัน ในทางปฏิบติ เราจะให้คลืนวิทยุพงไปกระทบ ่ ้ ั ่ ุ่ กับส่วนบนของสิงกีดขวางนั้นๆ สืบเนืองจากเหตุผลทีว่า คลื่นทีเกิดการแตกกระจายไปนัน ่ ่ ่ ่ ้ สามารถเคลือนทีตอไปได้ตามหลักการของ Ray Theory จะถือเอาส่วนโค้งของผิว ่ ่ ่ โลก อาคาร ต้นไม้ เนินเขา ทีราบสูง ภูเขา หรืออากาศยาน เหล่านีเป็นต้น แต่ ่ ้ ถ้าสิ่งกีดขวางมีขนาดเล็กและมียอดแหลมคล้ายสันมีด (มุมยอดเล็ก) คลืนทีมาตกกระทบจะไม่ ่ ่ มีผลต่อการทีจะทาให้เกิด Diffraction loss หรือ Shower effect ได้ แต่ถาหาก ่ ้ สิงกีดขวางมีขนาดใหญ่ ค่าของ Shower effect จะเกิดขึนมาก ซึงเป็นผลทาให้ความ ่ ้ ่ แรงของสัญญาณลดลง
  • 10. 1.คลืนวิทยุคืออะไร ่ 2.แบ่งเป็นกีประเภทใหญ่ใหญ่ ่ 3.คลืนผิวดินคืออะไร ่ 4.คลืนตรงมีลกษณะการพุงอย่างไร ่ ั ่ 5.คลืนตรงมีการแตกกระจายหรือสะท้อนได้ เมือพบกับสิงกีดขวางใด ่ ่ ่ คำตอบ 1. เป็นคลืนแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึงที่เกิดขึ้นในช่วงความถีวิทยุบนเส้น ่ ่ ่ สเปรกตรัม