More Related Content Similar to 03 kanchit-malaivong-royin-20190828 (20) 03 kanchit-malaivong-royin-201908283. ความพร้อมของประเทศไทย
• ไม่พร้อมในหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่นในระดับกรม
• มีคอมพิวเตอร์ใช้ แต่ไม่มีระบบสารสนเทศครบวงจร ไม่มีการ
จัดเก็บข้อมูลเพื่อการใช้งานร่วมกัน
• ไม่มีกระบวนงานที่ชัดเจน
• ไม่มีศูนย์ข้อมูล (สาหรับหน่วยงานขนาดเล็ก) หรือ ศูนย์ไอที
• ขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่จะปรับเปลี่ยน
• ขาดผู้บริหารที่เข้าใจความสาคัญของการปรับเปลี่ยน
• ผู้บริหารไม่ได้ใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ
• ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่ควรเปิดเผยให้ประชาชนทราบ
• ไม่ได้ให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัลในแบบ ทั่วถึง ทันที
ทุกเวลา ผ่านระบบอะไรก็ได้
• ไม่ได้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและระบบ
4. การเตรียมความพร้อมเป็ นเรื่องจาเป็ น
• รัฐบาลจะต้องสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานเตรียมความ
พร้อมให้สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่ความเป็ น
หน่วยงานดิจิทัล ด้วยการกาหนดนโยบายเรื่องนี้ให้
ชัดเจน
• กาหนดให้หน่วยงาน DGA (Digital Government
Agency) ทาหน้าที่สนับสนุนในงานปรับเปลี่ยน
• ผลักดันให้ผู้บริหาร ข้าราชการ และ ผู้ปฏิบัติงาน มีความ
เข้าใจ และ มีทัศนคติที่ดีต่อการปรับเปลียน รวมทั้งเต็ม
ใจเสียสละเวลาเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อปรับเปลี่ยน
องค์การทางด้านดิจิทัล
5. ประเด็นที่ต้องดาเนินการ
ประเด็นหลักคือ การปรับเปลี่ยนให้ทุกหน่วยงานทางานใน
ลักษณะเป็ น digital government ตามขั้นตอน 5 ขั้น คือ
1. ขั้น e-Government คือ เน้นการให้บริการอย่าง
ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
2. ขั้น Open คือ มีความโปร่งใส และ เปิดเผยข้อมูล
3. ขั้น Data-Centric คือ เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อ
นาไปใช้ในการวางแผนการให้บริการ
4. ขั้น Fully digital คือ การปรับเปลี่ยนกระบวนงานเป็ น
ดิจิทัลเต็มรูปแบบ
5. ขั้น Smart คือ การเน้นที่ความยั่งยืน
6. การแก้ไขอุปสรรค
การปรับเปลี่ยนองค์การของไทยยังมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไข
อยู่อีกมาก นอกเหนือไปจากที่ได้เคยกล่าวไปแล้ว
• ด้านกฎหมาย ยังมีปัญหาเรื่อง กม.ที่ไม่ชัดเจน, กม. ที่อาจเป็ น
อุปสรรคต่อการปรับเปลียน, และ กม.ที่ควรมีแต่ยังไม่มี
• ด้านการบริหารประเทศ ผู้นาระดับสูง, สส., สว. ยังขาดความ
เข้าใจเกี่ยวกับการบริหารประเทศด้วยดิจิทัล
• ด้านการดาเนินงาน งานส่วนมาก ยังไม่เป็ นบริการดิจิทัล
• ด้านการทางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน และ กับ
ภาคเอกชน ยังมีปัญหาอีกมากที่ต้องแก้ไข
• ด้านสังคม ประชาชนยังไม่เข้าใจดิจิทัล และ ถูกหลอกลวงผ่าน
สื่อสังคมออนไลน์เป็ นข่าวเสมอ
• ด้านภัยอันตราย ยังมีปัญหาด้านภัยดิจิทัลที่ยังไม่ได้ดาเนินการ
อีกมาก เช่น ransom ware
7. หน่วยงานระดับกรมที่ปรับเปลี่ยนแล้ว ควรมี
ลักษณะอย่างไร
• มีนโยบายปรับเปลี่ยนองค์การอย่างชัดเจน
• มีกระบวนงานทางานเชิงดิจิทัลทุกด้านที่ชัดเจน และ
คานึงถึงการใช้ข้อมูลร่วมกันกับหน่วยงานอื่น
• ให้บริการประชาชนตามพันธกิจ ผ่านระบบดิจิทัล ที่ใช้ได้
ทุกแพล็ตฟอร์ม และ มีลักษณะทั่วถึงทุกที่ทุกเวลา
• การบริการเน้น personalization
• ทุกหน่วยเน้นการเปิดเผยข้อมูล open data
• บางหน่วยอาจเน้นงานด้าน spatial data
• ทุกหน่วยมีการ ปชส ให้คาแนะนาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่
เกี่ยวข้องกับพันธกิจของหน่วยงาน
8. มหาวิทยาลัยที่ปรับเปลี่ยนแล้ว ควรมี
ลักษณะอย่างไร
• มีนโยบายปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน
• มีกระบวนงานทางานเชิงดิจิทัลทุกด้านที่ชัดเจน ทั้งด้าน
หลักสูตร การเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ และ คานึงถึงการ
ใช้ข้อมูลร่วมกันกับหน่วยงานอื่น แม้กระทั่งผู้จ้างบัณฑิต
• ให้บริการแก่นักศึกษา, ผู้ปกครอง, อาจารย์, พนักงาน,
นายจ้าง, และ บัณฑิต ตามพันธกิจ ผ่านระบบดิจิทัล ที่ใช้ได้
ทุกแพล็ตฟอร์ม และ มีลักษณะทั่วถึงทุกที่ทุกเวลา
• การบริการเน้น personalize ตามความสามารถของผู้เรียน
• ทุกมหาวิทยาลัยเน้นการเปิดเผยข้อมูล open data
• มหาวิทยาลัยควรเน้นการวิจัยและนวัตกรรมนอกเหนือการสอน
• ทุกมหาวิทยาลัย ให้คาแนะนาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการ
ทางานของนักศึกษาและบัณฑิตอย่างต่อเนื่อง
10. ผู้เกี่ยวข้องต้องทาอะไรบ้าง
• ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ จะต้องรอบรู้ด้านดิจิทัล และ มี
ทักษะที่เพียงพอในการใช้ดิจิทัล
• ผู้บริหารองค์การจะต้องเข้าใจการทางานแบบดิจิทัลใน
ภาพรวมและใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ
• ผู้บริหารไอที (CIO) จะต้องรู้จักนวัตกรรมดิจิทัลที่
สามารถนามาใช้ในการปรับเปลี่ยนองค์การ, รู้จัก
มาตรฐานสาคัญทางด้านดิจิทัล และ วิธีการอนุวัติ
มาตรฐานเหล่านี้
• อาจารย์ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง และ สามารถสอนและ
ชี้นาการใช้ดิจิทัลในสาขาวิชาของตนได้
• นักไอทีและนักดิจิทัล ต้องคร่าเคร่งปรับตนเองให้เข้าใจ
การใช้ดิจิทัลในยุคใหม่ และ สามารถพัฒนาระบบดิจิทัล