การลำเลียงของพืช
- 2. การลาเลียงน้าในท่อ Xylem จากรากไปยอด
ปัจจัยที่ทาให้น้าเกิดการลาเลียงได้คือ แรงดึงจากการคายน้า……………………………………..
เกิดจากการคายน้าออกทางปากใบ
พืชขนาดเล็ก ที่อยู่ในบริเวณที่มีอากาศเย็นและความชื้นภายนอกสูง(อัตราการคายน้าต่า)
ในช่วงกลางคืนปากใบปิดจึงไม่มีการคายน้า แต่การลาเลียงแร่ธาตุต่างๆยังเกิดขึ้นตลอดเวลา
ทาให้ท่อไซเล็ม………………………....…….. น้าจากถายนอกจึง……………………………………
ทาให้น้าถูกดันขึ้นไปด้านบนได้ แล้วจะออกทางรู……………………
ซึ่งจะเรียกกระบวนการสูญเสียน้าในรูปหยดน้าแบบนี้ว่า……………………………….
- 3. การลาเลียงน้าจากใบออกสู่สิ่งแวดล้อม
การคายน้า…………………………สูญเสียน้าในรูปของไอน้า………………… เกิดได้ 2
บริเวณคือ บริเวณปากใบ ………………….. และบริเวณรอยแตกของเปลือกไม้………………….
การเปิด-ปิดปากใบ สรุปเป็นขั้นตอนได้ดังนี้
ปัจจัยที่มีผลต่อการคายน้าของพืช
1. อุณหภูมิ ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นอัตราการคายน้าของพืชจะสูงขึ้น
2. ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ถ้าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูง อัตราการคายน้าจะต่า
3. ลม ถ้าลมแรงอัตราการสูญเสียน้าจะเพิ่มขึ้น
4. สภาพน้าในดิน ถ้าพืชขาดน้าปากใบจะปิด
5. ความเข้มแสง มีผลควบคุมการเปิด-ปิดปากใบ
6. CO2 ในใบมีต่าปากใบจะเปิดเพื่อให้ก๊าซ CO2 เข้ามาได้ง่ายขึ้น
- 4. ธาตุอาหารและการลาเลียงธาตุอาหารเข้าสู่ราก
ธาตุอาหารจาเป็น ………………………………………… ใช้เกณฑ์ต่อไปนี้
- เมื่อพืชขาดธาตุต่อไปนี้ทาให้การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตไม่ครบวงจร
- ความค้องการของธาตุมีความจาเพาะเจาะจง ไม่สามารถใช้ธาตุอื่นแทนได้
- จาเป็นต่อกระบวนการเมแทบอลึซึมและการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง
ธาตุอาหารจาเป็นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1. Macronutrients …………………………………………………………………………………..
2. Micronutrients……………………………………………………………………………………
การขาดธาตุอาหารของพืชเกิดขึ้นได้ 2 แบบหลัก
1. ธาตุอาหารที่เคลื่อนที่ได้ ……………………………………..
จะแสดงอาการที่ใบแก่ก่อน เพราะธาตุอาหารถูกนาไปเลี้ยงใบอ่อน
ตัวอย่าง Mg ทาให้เกิดใบสีเหลืองระหว่างเส้นใบ ปลายและขอบใบม้วน
N จะมีอาการใบเหลืองทั้งใบหรืออาจเกิดใบเหลืองทั้งต้น
2. ธาตุอาหารที่เคลื่อนที่ไม่ได้ …………………………………..
จะแสดงอาการที่ใบอ่อนก่อน
ตัวอย่าง Fe ใบเหลืองระหว่างเส้นใบ แต่เส้นใบมีสีเขียว
S ใบเหลืองทั้งใบ หรือ ใบเหลืองทั้งต้น