Dioxin
- 3. ไดออกซิน (dioxins) เป็นผลิตผลทางเคมีที่เกิดขึ้น
มาโดยมิได้ตั้งใจผลิตขึ้น (unintentional products)
จากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เป็น
สารประกอบในกลุ่มคลอริเนตเตท อะโรเมติก
(chlorinated aromatic compounds) ทีมีออกซิเจน
่
(O) และคลอรีน (Cl) เป็นองค์ประกอบ 1 ถึง 8
อะตอม ไดออกซิน มีชื่อเรียกเต็ม คือ โพลีคลอริเนต
เตท ไดเบนโซ พารา-ไดออกซิน (polychlorinated
dibenzo-para-dioxins: PCDDs) มีทงหมด 75
ั้
ชนิด
- 4. โครงสร้างของสารไดออกซิน/ฟิวแรน ทีประกอบ
่
ด้วยคลอรีนอะตอมเกาะเกี่ยวด้วยพันธะทางเคมีกับ
วงแหวนเบนซีน ละลายได้ดีในไขมัน ทำาให้สารใน
กลุ่มนีมความคงทนสูงอยู่ในสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต
้ ี
ละลายนำ้าได้นอย สามารถถ่ายทอดและสะสมได้ใน
้
ห่วงโซ่อาหาร (food chain) สามารถเคลื่อนย้ายและ
แพร่กระจายในอากาศและตกลงสู่ดิน รวมทังแหล่ง
้
นำ้า สามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ทงทางตรงและทาง
ั้
อ้อม มีความเป็นพิษโดยมีการจัดการลำาดับความเป็น
พิษของ WHO ซึ่งเทียบให้เป็นสารทีมความเป็นพิษ
่ ี
ระดับ 1
- 5. สารกลุ่มไดออกซิน/ฟิวแรนทีเกิดขึ้น
่
ในรูปของผลผลิตพลอยได้จากหลาย
กระบวนการและแพร่กระจายสู่
สิงแวดล้อม สามารถสรุปได้ ดังนี้
่
1. กระบวนการผลิตเคมีภณฑ์ทมคลอรีนโบรมีน ฟี
ั ี่ ี
นอล เป็นองค์ประกอบ
2. กระบวนการเผาไหม้จากเตาเผาอุณหภูมสูง
ิ
(incinerator)
3. กระบวนการทางธรรมชาติ หรือ กิจกรรมของ
มนุษย์ทมีคลอรีนเป็นองค์ประกอบ
ี่
4. กระบวนการเกิดปฏิกิริยาเคมีแสง
- 6. dioxins เข้าสู่ร่างกายได้โดยถูกดูดซึมทางผิวหนัง
และทางปาก คนและสัตว์ได้รับ dioxins จากสิ่ง
แวดล้อม เช่น ดิน อากาศ นำ้า รวมทั้งจากอาหาร มา
เป็นเวลานานแล้ว มีการประมาณว่า 90% ของ
dioxins ทีคนได้รับมาจากอาหาร โดยเฉพาะเนือสัตว์
่ ้
ปลา และผลิตภัณฑ์นม ร่างกายคนและสัตว์สามารถ
กำาจัด dioxins ออกได้บางส่วน แต่ส่วนใหญ่จะสะสม
อยู่ในตับและไขมัน ร่างกายคนและสัตว์ขับ dioxins
ออกทางนำ้านมและผ่านรกได้ half life ของ dioxins
ในคนมีค่าประมาณ 2 – 6 ปี ซึ่งนานกว่าในสัตว์มาก
- 7. 1. พิษ เฉีย บพลัน ไดออกซิน ไม่ท ำา ให้เ กิด
อาการพิษ หรือ ตายอย่า งเฉีย บพลัน แต่อ าการ
จะค่อ ยๆเกิด ขึ้น และทวีความรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต
ได้ภายในเวลา 14 – 28 ชั่วโมง อาการที่จัดเป็น
ลักษณะของพิษทีเกิดจากสาร
่
ไดออกซินคือ อาการทีเรียกว่า “Wasting
่
Syndrome” โดยลักษณะอาการแบบนีจะเกิดการสูญ
้
เสียนำ้าหนักตัวอย่างรวดเร็วจากการได้รับสารเป็น
2-3 วัน
2. พิษ เรื้อ รัง ไดออกซิน /ฟิว แรน จะทำา ให้น ำ้า
หนัก ตัว ลดลงและเกิด ความผิด ปกติท ต ับ ทำาให้
ี่
เซลล์ตับตาย และเกิดอาการโรคผิวหนังอักเสบ
- 9. 7. การแพร่กระจายสารไดออกซินจากการไม้ฟนใน ื
ครัวเรือน
8. การแพร่กระจายของสารไดออกซินในนมมารดา
9. การแพร่กระจายของไดออกซินในอาหารจากการ
ปนเปื้อนของไดออกซินในอาหารเลี้ยงสัตว์ (animal
feed) ผ่านทางห่วงโซ่อาหารและเข้าสูร่างกายของ
่
มนุษย์
นอกจากนี้ยงสามารถพบ
ั
ไดออกซินในนำ้าลาย (saliva)
ของมนุษย์ดวย้
- 10. การตรวจวิเคราะห์สารได
ออกซินนันสามารถอ้างอิงได้
้
หลายวิธี ซึ่งวิธีมาตรฐาน
เหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงไป
ตามตัวอย่างประเภทต่างๆ
เช่น ตัวอย่างอากาศจาก
ปล่อง ตัวอย่างในบรรยากาศ
ตัวอย่างนำ้าทิง ตัวอย่าง
้
ชีวภาพ ตัวอย่างอาหาร ฯลฯ
นอกจากนันแต่ละประเทศก็
้
จะมีมาตรฐานการวิเคราะห์
ด้วยวิธีต่างๆ กัน
- 12. วิธีจัดการกากของเสียไดออกซินที่มผลกระทบต่อสิ่ง
ี
แวดล้อมน้อยและเป็นวิธีที่ USEPA แนะนำาคือ
การเผา (Incineration) โดยเตาเผาทีเหมาะสมมี 3
่
แบบ คือ
1. Rotary kiln อุณหภูมิ 850-1,600 °C ระยะเวลาที่
กากของเสียอยูในเตาเผาเป็นวินาที สำาหรับกากของ
่
เสียทีเป็นของเหลวหรือก๊าซและเป็นชั่วโมงสำาหรับ
่
ของแข็ง
2. Fluidized bed อุณหภูมิ 450-980 °C ระยะเวลา
ทีกากของเสียในเตาเผาเช่นเดียวกับเตาเผาชนิด
่
Rotary kiln
3. Liquid injection อุณหภูมิ 650-1,600 °C ระยะ
- 14. ฉบับ ที่ 2 ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. 2545
เรื่อง กำาหนดปริมาณสารเจือปนในอากาศทีปล่อย
่
ออกจากเตาเผา สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุทไม่ใช้แล้วทีเป็น
ี่ ่
อันตรายจากอุตสาหกรรม กำาหนดค่าปริมาณของ
สารเจือปนในอากาศประเภทไดออกซินและฟิวราน
(Dioxins/Furans I- TEQ) ไม่เกิน 0.5 นาโนกรัมต่อ
ลูกบาศก์เมตร
ฉบับ ที่ 3 ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิงแวดล้อม พ.ศ. 2548 เรื่องกำาหนดมาตรฐาน
่
ควบคุมการปล่อยทิงอากาศเสียจากเตาเผามูลฝอยติด
้
เชื้อ พ.ศ. 2546 ค่าสารประกอบไดออกซิน ซึ่ง
- 15. ฉบับ ที่ 4 ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิงแวดล้อม พ.ศ. 2549 เรื่อง กำาหนดมาตรฐาน
่
ควบคุมการปล่อยทิงอากาศเสียจากโรงงานปูนซิเมน
้
ต์ทใช้ของเสียเป็นเชื้อเพลิงหรือเป็นวัตถุดิบในการ
ี่
ผลิตค่าสารประกอบไดออกซิน ซึ่งคำานวณผลในรูป
ของหน่วยความเข้มข้นเทียบเคียงความเป็นพิษต่อ
มนุษย์ (Dioxins/Furans I- TEQ) ไม่เกิน 0.5 นาโน
กรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 16. โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP)
และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มความเห็น
ี
สอดคล้องกันคือ ต้องการให้มกลไกทางกฎหมาย
ี
ระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมการปลดปล่อยสารมลพิษ
ทีตกค้างยาวนาน (Persistent Organic
่
Pollutants : POPs) เบื้องต้น 12 ชนิด คือ อัลดริน
(aldrin) คลอเดน(chlordane) ดีดีที (DDT)
ดิลดริน (dieldrin) เอนดริน (endrin) เฮปตะคลอ
(heptachlor) เอชซีบี (hexachlorobenzene)
ไมเร็กซ์ (mirex)
ท็อกซาฟิน (toxaphene) พีซบี (polychlorinated
ี
Biphenyls : PCBs) ไดออกซิน(Polychlorinated
- 17. โดยพันธกรณีสำาคัญทีภาคีต้องปฏิบัติ หลังจาก
่
อนุสัญญา POPs มีผลบังคับใช้แล้ว มีดงนี้
ั
1. ใช้มาตรการทางกฎหมายและการบริหารในการ
ห้ามผลิตและใช้สาร POPs 9 ชนิดแรก
2. จะนำาเข้า/ ส่งออกสาร POPs ได้ก็เฉพาะตาม
วัตถุประสงค์ทอนุญาตให้ทำาได้ เช่น มีข้อยกเว้น
ี่
พิเศษเพือนำามาใช้เป็นสารกำาจัดปลวก สารกำาจัด
่
แมลง เป็นต้น
3. ต้องจัดทำาแผนปฏิบัติการในการลดหรือเลิกการ
ปล่อยสาร POPs จากกระบวนการผลิตภายใน 2 ปี
หลังจากอนุสัญญา POPs บังคับใช้
4. ส่งเสริมการใช้สารทดแทน แนวปฏิบัติทางด้านสิง่
- 18. 4. ส่งเสริมการใช้สารทดแทน แนวปฏิบัติทางด้านสิง ่
แวดล้อม และเทคนิคทีดีทสุด
่ ี่
5. ประกันว่าคลังสินค้าทีมสาร POPs ต้องได้รับการ
่ ี
ดูแลไม่ให้ส่งผลต่อสุขภาพมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมรวม
ทังต้องดูแลจัดการของเสียทีเกิดจากสาร POPs ใน
้ ่
ทำานองเดียวกัน
6. กำาหนดแผนและปฏิบัติตามแผนเพือเป็นไปตาม
่
อนุสัญญา POPs และส่งรายงานให้ทประชุมภาคี
ี่
ภายใน 2 ปีหลังจากอนุสัญญา POPs มีผลบังคับใช้