โครงงานคอมพิวเตอร์
- 5. คาว่า ซีฟู้ ด (Seafood) เป็นศัพท์บัญญัติในสมัยศตวรรษที่ 19
ในอเมริกา หมายถึง บรรดาสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจากทะเลที่กินได้ อาทิ
ปลา กุ้ง หอย ปู เป็นต้น ซีฟู้ ดหรืออาหารทะเล น่าจะหมายถึงอาหาร
ทะเลสดเป็นหลัก คงไม่มีใครที่พูดถึงซีฟู้ ด หรือพูดว่าจะไปกินอาหาร
ทะเล แต่จะไปกิน ปลาเค็ม ปูดอง ปลาหมึก (แห้ง) ย่าง หรือ กะปิกุ้ง
ฯลฯ เป็นแน่ จะว่าไปของเค็มและของตากแห้งเหล่านี้ก็เป็นอาหาร
ทะเลอันโอชะเหมือนกันแถม แพร่หลายมากกว่าเก่าด้วย
- 6. ในประวัติศาสตร์การทาอาหารของคนเรา การถนอมอาหาร โดยการ
หมักเกลือและตากแห้ง จึงเป็นวิธีการหลักของครัวท้องถิ่น การทากับข้าวจาก
อาหารแห้ง การทาเครื่องปรุงจากของหมัก ของแห้ง และของดอง จึงมี
ความสาคัญพอ ๆ กันหรือมากกว่า การทากับข้าวจากของสด ในยุโรปสมัย
ศตวรรษที่ 15 มีการทาการประมงจับปลาค็อด (Cod) แถบน่านน้าหมู่เกาะ
นิวฟาวน์แลนด์กันมากเมื่อได้ปลาลูกเรือจะแล่เนื้อหมัก เกลือ และตากแห้ง
ทาเค็มกันบนเรือ ปลาค็อดเค็มจึงเป็นอาหารยอดนิยมอย่างหนึ่งในยุโรป
โปรตุเกสและสเปนก็เคยส่งปลาค็อดเค็มไปเลี้ยงทาสในอาณานิคม หมู่เกาะ
คาริบเบียนในอเมริกากลาง จนกระทั่งทุกวันนี้ปลาค็อดเค็มก็ยังเป็นอาหาร
ยอดนิยมอย่างหนึ่งของคนในถิ่นนี้
- 8. อาหาร ทะเลนั้นมีแร่ธาตุที่จาเป็นสาหรับมนุษย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไอโอดีน
ธาตุเหล็ก สังกะสี และแคลเซียม โดยเฉพาะไอโอดีนนั้นพบว่า มีมากถึง 600
ไมโครกรัม ในอาหารทะเลสดหนัก 1 กิโลกรัม ซึ่งมีมากกว่าในเนื้อหมูและเนื้อไก่ 2
ถึง 3 เท่า
อาหารทะเลบางชนิด เช่น หอยแครง หอยแมลงภู่ หอยนางรม จะเป็นแหล่ง
ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง และแคลเซียมที่สาคัญ นอกจากนี้อาหารทะเลยังเป็น
แหล่งวิตามินบีรวม และในตับปลาบางชนิดยังมีวิตามินเอที่สาคัญอีกด้วย
- 9. อาหาร ทะเลได้ชื่อว่าเป็นแหล่งของกรดอะมิโนที่มีความจาเป็นต่อร่างกาย เช่น วาลีน
(valine) ทรีโอนีน (threonine) เมทิโอนีน (methionine) ไลซีน (lysine) เป็นต้น ซึ่ง
กรดอะมิโนเหล่านี้จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
อาหาร ทะเลส่วนใหญ่มีกรดไขมันอยู่ในปริมาณต่า และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีส่วน
ช่วยลดระดับของโคเลสเตอรอลในเลือด นอกจากนี้อาหารทะเลเกือบทุกชนิดมีปริมาณ
โคเลสเตอรอลต่า ยกเว้นกุ้ง ปลาหมึก และปู ที่มีปริมาณโคเลสเตอรอลสูง ถึงแม้ว่าอาหาร
ทะเลจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีพิษภัยติดตัวตามมาอีกเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าอาหารทะเลจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้าบริโภคมากเกินไปอาจจะกลายเป็ น
โทษได้นะคะ เพราะสัตว์ทะเลบางประเภทจะมีคอเรสเตอรอลค่อนข้างสูง หรือการบริโภค
โปรตีนมากเกินไปในระยะเวลานานอาจทาให้เกิดโรคมะเร็งลาไส้ได้ อีกทั้งจะทาให้แร่ธาตุ
แคลเซียมถูกขับออกจากร่างกายมากขึ้น จึงทาให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนสูง
- 20. ปู วิธีเลือก ซื้อปูที่สดนั้น ควรเลือกซื้อปูที่ยังเป็น กดดูที่ส่วนท้อง
จะต้องแน่น ไม่ยุบบุ๋ม ตาลักษณะเป็นเม็ดกลม เปลือกและกระดอง
ของปูไม่มีรอยแตกร้าว ก้ามไม่หักเสียหาย
กลับ
- 22. ปัจจุบันอาหารทะเล เป็นอาหารที่นิยมบริโภคกันมาก โดยสังเกตจากร้านขาย
อาหารทะเลที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นริมฟุตปาทจนถึงยกระดับไปอยู่ใน
ภัตตาคารใหญ่ๆ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คุณค่าและความเป็นพิษของ
อาหารทะเลก็ไม่ได้ลดลงตามไปด้วยเลย
ใน ขณะที่สิ่งแวดล้อมเป็นพิษที่เกิดขึ้นในขณะนี้ อาหารทะเลก็ไม่ได้รอดพ้น
จากมลภาวะต่างๆ เช่นเดียวกัน พบว่า มีโลหะหนักหลายชนิดที่สามารถตรวจพบใน
อาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว สังกะสี แคดเมียม และทองแดง พบว่า สารพิษพวก
นี้มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกๆปี และสามารถตรวจพบได้ในอาหารทะเลประเภทต่างๆ ไม่ว่า
จะเป็นปลา ปูม้า กั้งตั๊กแตน หอยนางรม และปลาหมึก โดยพบว่ามีค่าสูงกว่าเกณฑ์
มาตรฐานทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีพิษภัยอื่นๆ ที่อาจพบได้ในอาหารทะเลอีก
- 23. ขี้ปลาวาฬเกิดขึ้นจากแพลงก์ตอนพวกไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellate) ซึ่ง
โดยปกติสามารถพบได้ในน้าทะเลทั่วๆ ไป สังเกตได้จากน้ามีสีน้าตาลแดง เมื่อมีอุณหภูมิ
พอเหมาะ เช่น มีอากาศร้อนจัด สัตว์พวกนี้จะแบ่งเซลล์และเจริญเติบโตในน้าทะเลอย่าง
รวดเร็ว
ไดโนแฟลก เจลเลตเข้าสู่สัตว์ทะเลโดยผ่านทางห่วงโซ่อาหาร พบมากในหอย โดย
แพลงก์ตอนเหล่านี้จะสร้างสารพิษพวกไบโอท็อกซิน (biotoxin) ที่ทนความร้อน ดังนั้น
จึงไม่สามารถทาลายได้ในกระบวนการปรุงอาหาร กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ
หอยแมลงภู่เป็นพิษที่บริเวณปากแม่น้า ปราณบุรี ในปี พ.ศ.2526 พบว่า มีผู้ป่วย
ประมาณ 50 ราย และมีเด็กเสียชีวิต 1 ราย โดยผู้ป่วยมีอาการชาบริเวณปากและแผ่ไปยัง
อวัยวะต่างๆ แน่นหน้าอก เคลื่อนไหวลาบาก และบางรายมีอาการอาเจียน
- 26. อาหาร ที่ทาการตรวจพบสารฟอร์มาลีนนั้นได้แก่ อาหารทะเล และ
อาหารจาพวกเนื้อสัตว์ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะคุณสมบัติของสารฟอร์มาลีน ซึ่ง
ช่วยในการศพไม่ให้เน่าเปื่อย โดยฟอร์มาลินจะเข้าไปทาให้โปรตีน ในเซลล์
เกิดการตกตะกอน ทาให้ไม่สามารถแบ่งตัวได้ ทั้งยังฆ่าทาลาย
เชื้อจุลินทรีย์ เชื้อรา ดังนั้นเนื้อเยื่อของศพจึงแข็งและไม่อ่อนนุ่ม ทาให้คง
สภาพไว้ได้เช่นเดิม ทาให้พ่อค้าแม่ขายบางคนจึงคิดใช้ประโยชน์จากสารเคมี
ชนิดนี้ โดยนาสารฟอร์มาลินมาใส่ในอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเน่าเสีย
เร็ว เพื่อที่จะได้ทาการเก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้น
