SlideShare a Scribd company logo
1 of 39
Nuclear
Physics
วิชา ฟิสิกส์ 5 รหัสวิชา ว30210 ชั้นมััยมัึกกาาีท ีท่ 6
ครูผู้สอนม : ครูีิ มนมุช ลอมเลิึหล้า
เบ็กเคอเรล (Antoine Henri
Becquerel)
ทดลองพบว่าธาตุยูเรเนียมจะปล่อย
รังสีออกมาจากธาตุยูเรเนียมตลอดเวลาแม้ไม่
โดนแสงแดด และพบว่ารังสียังสามารถผ่าน
วัตถุทึบแสงออกมาภายนอกได้
การค้นมพบกัััันมตภาพรังสท
Pierre Curie and Marie Curie
ได้ทาการทดลองพบว่ายังมีธาตุอื่น
เช่น ทอเรียม เรเดียม ก็สามารถแผ่รังสี
ออกมาได้เช่นเดียวกัน
การค้นมพบกัััันมตภาพรังสท
ยาตุกัััันมตรังสท (radioactive element) คือ ยาตุีท่สาัารถแผ่
รังสทเองได้
ีรากฏการณ์ีท่ยาตุแผ่รังสทได้เองอม่างต่อเนมื่องเรทมกว่า กัััันมตภาพรังสท
(radioactivity) ซก่งเี็ นมีรากฏการณ์ีท่นมิวเคลทมสของไอโซโีีีท่ไั่
เสถทมรเกิดการเีลท่มนมแีลงเพื่อีรับตัวให้ัทเสถทมรภาพ โดมการีล่อม
อนมุภาคบางชนมิดออกัา
Radiation Type
รังสทีท่แผ่ออกัาจากยาตุกัััันมตรังสทัท 3 ชนมิด คือ
การเคลื่อนมีท่ของรังสทีั้ง 3 ชนมิด ผ่านมสนมาัแั่เหล็ก
สัญลักาณ์ของยาตุและอนมุภาคบางอม่างีท่ควรีราบ
อานมาจีะลุผ่านมของรังสท
Decay Type
Radioactiv
e Decay
Series
Radioactive Decay
Series
กฎการสลามตัวของยาตุกัััันมตรังสท กล่าวไว้ว่า
1. จานวนนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่สลายไปในหนึ่งหน่วยเวลา
(อัตราการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี) จะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจานวน
นิวเคลียสที่มีอยู่
2. ในการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี โอกาสที่นิวเคลียสแต่ละตัวจะ
สลายไปในหนึ่งเวลาเท่ากันหมดทุกนิวเคลียส ซึ่งเป็นสมบัติเฉพาะตัวของธาตุ
กัมมันตรังสีแต่ละชนิด
3. อัตราการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีไม่ขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เช่น
อุณหภูมิ หรือความดัน
การสลามกัััันมตรังสท ( radioactive
decay )
การสลามกัััันมตรังสท
N
dt
dN

เป็นไปตามสถิติหรือโอกาสตามธรรมชาติ
คือ อัตราการสลายตัว
N
dt
dN

เครื่องหมายลบ แสดงถึงการลดลง ค่าคงตัวในการสลายตัว
dt
dN
สมการการสลายกัมมันตรังสี
t
eNN 
 0
เวลาที่สารกัมมันตรังสีใช้ในการสลายตัวจนเหลือครึ่งหนึ่ง
ของที่มีอยู่เดิมเมื่อตั้งต้นเรียกว่า เวลาครก่งชทวิต (half life ),
T1/2

693.0
2/1 T
N คือ จานวนนิวเคลียสที่เหลืออยู่
N0 คือ จานวนนิวเคลียสตั้งต้น
จาก t
eN
dt
dN 
 
 0
A
dt
dN
 00 NA 
t
eAA 
 0
เมื่อ
ดังนั้น
A0 เป็นกัมมันตภาพขณะเริ่มต้น
A เป็นกัมมันตภาพที่เวลา t ใดๆ
กัมมันตภาพ คือ อัตราการแผ่รังสีในขณะหนึ่ง มีหน่วยเป็นเบคเคอเรล
(Bq) หรือ คูรี (Ci)
1 Ci = 3.7 
การสลามตัวของ Radium -226
ปริมาตรนิวเคลียสเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจานวนนิวคลี
ออน (เลขมวล) ที่มีอยู่ในนิวเคลียสนั้นๆ
3
1
AR 
3
1
0 ARR 
R0 = 1.2  10 -15 m
รัศมีนิวเคลียส
Nuclear binding energy =
Δmc2
This binding energy can be
calculated from the Einstein
relationship :
Nucleus are made up
of protons and neutron, but the
mass of a nucleus is always less
than the sum of the individual
masses of the protons and neutron
BINDING ENERGY
- The energy that must be added
to separate
the nucleons- The magnitude of the energy by
which the
nucleons are bound together
EB = Δmc2
EB = ( ZMP + NMN - Z
AM )c2
EB = Binding energy (MeV)
MP = mass of protons (u)
MN = mass of neutron (u)
Z
AM = mass of atom (u)
c2 = 931.5 MeV/u
EB = ( ZMP + NMN - Z
AM ) c2
1 𝑀𝑒𝑉 = 1.602177 𝑥 10−13 J
Nuclear Decay Emissions and Their
Symbols
1 𝑢 = 1.660540 𝑥 10−27
kg
Binding Energy
THE BINDING ENERGY
The binding energy EB of a nucleus is the
energy required to separate a nucleus into
its constituent parts.
EB = mDc2 where c2 = 931.5 MeV/u
Nuclear reaction
X + a → Y + b หรือ X ( a ,b
)Y
X = นมิวเคลทมสีท่เี็ นมเี้ า
a = อนมุภาคีท่ชนมเี้ า
Y = นมิวเคลทมสยาตุใหั่ีท่เกิดขก้นมหลังการชนม
b = อนมุภาคีท่เกิดขก้นมหลังการชนม
Nuclear reaction
หลักของีฏิกิริมานมิวเคลทมร์
1. ผลบวกของเลขัวลตอนมก่อนม = ผลบวกของเลขัวลตอนม
หลัง
2. ผลบวกของเลขอะตอัตอนมก่อนม = ผลบวกของเลขอะตอัตอนม
หลัง
Fission reaction
เป็นปฏิกิริยาการแยกตัวของนิวเคลียส โดยมีนิวตรอนเป็นตัววิ่งเข้า
ชนนิวเคลียสหนักๆ ( A  230 ) เป็นผลทาให้ได้นิวเคลียสที่มีขนาด
ปานกลาง และมีนิวตรอนที่มีความเร็วสูงเกิดขึ้นประมาณ 2 - 3 ตัว และมี
การคายพลังงานออกมาด้วย
Chain reaction
เป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบฟิชชันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัย
นิวตรอนที่เกิดขึ้นเป็นตัวยิงนิวเคลียสของธาตุต่อไป
Fusion reaction
เป็นปฏิกิริยาหลอมตัวของนิวเคลียสและมีพลังงานคายออกมาด้วย
นิวเคลียสที่ใช้หลอมจะต้องเป็นนิวเคลียสเล็กๆ ( A < 20 ) หลอมรวม
กลายเป็นนิวเคลียสเบาที่ใหญ่กว่าเดิม
ีระโมชนม์ของกัััันมตภาพรังสท
ด้านมการแพีม์
ใช้ไอโอดีน -131 ในการติดตามเพื่อศึกษาความผิดปกติของต่อม
ไทรอยด์
ใช้โคบอลต์ -60 และเรเดียม -226 ใช้รักษาโรคมะเร็ง
ด้านมเกาตรกรรั
ใช้ฟอสฟอรัส -32 ศึกษาความต้องการปุ๋ ยของพืช
ใช้รังสีปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ที่ต้องการ
ด้านมอุตสาหกรรั
ใช้ธาตุกัมมันตรังสีตรวจหารอยตาหนิ เช่น รอยร้าวของโลหะ
หรือท่อขนส่งของเหลว ใช้ธาตุกัมมันตรังสีในการตรวจสอบและควบคุม
ความหนาของวัตถุ ใช้รังสีฉายบนอัญมณีเพื่อให้มีสีสันสวยงาม
ด้านมยรณทวิีมา
การใช้คาร์บอน -14 คานวณหาอายุของวัตถุโบราณหรือซากดึกดา
บรรพ์
ด้านมพลังงานม
มีการใช้พลังงานความร้อนที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ในเตาปฏิกรณ์
ปรมาณูต้มน้าให้กลายเป็นไอ แล้วผ่านไอน้าไปหมุนกังหัน เพื่อผลิต
กระแสไฟฟ้ า

More Related Content

What's hot

6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
npapak74
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
Janova Kknd
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
dnavaroj
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
Sirintip Arunmuang
 
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
Jariya Jaiyot
 
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
Wijitta DevilTeacher
 
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
yangclang22
 
การคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้าการคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้า
sripai52
 
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
Wijitta DevilTeacher
 

What's hot (20)

แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
Atomic structures m4
Atomic structures m4Atomic structures m4
Atomic structures m4
 
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
ยีนและโครโมโซม
ยีนและโครโมโซมยีนและโครโมโซม
ยีนและโครโมโซม
 
(6) สื่อ ppt เรื่อง อะตอม
(6) สื่อ ppt เรื่อง อะตอม(6) สื่อ ppt เรื่อง อะตอม
(6) สื่อ ppt เรื่อง อะตอม
 
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐานสรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
 
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
 
1111111111111111111
11111111111111111111111111111111111111
1111111111111111111
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
 
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
 
สสารและการเปลี่ยนแปลง
สสารและการเปลี่ยนแปลงสสารและการเปลี่ยนแปลง
สสารและการเปลี่ยนแปลง
 
ใบงาน 3.1 3.2
ใบงาน 3.1 3.2ใบงาน 3.1 3.2
ใบงาน 3.1 3.2
 
การคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้าการคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้า
 
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
 
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
 

More from Piyanuch Plaon (8)

การวัดปริมาณทางไฟฟ้า
การวัดปริมาณทางไฟฟ้าการวัดปริมาณทางไฟฟ้า
การวัดปริมาณทางไฟฟ้า
 
เวอร์เนียคาลิเปอร์ และ ไมโครมิเตอร์
เวอร์เนียคาลิเปอร์ และ ไมโครมิเตอร์เวอร์เนียคาลิเปอร์ และ ไมโครมิเตอร์
เวอร์เนียคาลิเปอร์ และ ไมโครมิเตอร์
 
กฏของแก๊ส ม.5
กฏของแก๊ส ม.5กฏของแก๊ส ม.5
กฏของแก๊ส ม.5
 
แบบฝึกหัดเพิ่มเติม เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับเสียง
แบบฝึกหัดเพิ่มเติม เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับเสียงแบบฝึกหัดเพิ่มเติม เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับเสียง
แบบฝึกหัดเพิ่มเติม เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับเสียง
 
Electrostatics for m.6
Electrostatics for m.6Electrostatics for m.6
Electrostatics for m.6
 
Electrostatics for M.6
Electrostatics for M.6Electrostatics for M.6
Electrostatics for M.6
 
Sound wave
Sound waveSound wave
Sound wave
 
State of matter 21 june 2013
State of matter 21 june 2013State of matter 21 june 2013
State of matter 21 june 2013
 

ฟิสิกส์นิวเคลียร์ ม.6