More Related Content
Similar to ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์ดไดค์ (20)
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์ดไดค์
- 3. ประวัติ
เอ็ดเวิร์ด ลี ธอร์ นไดค์ (Edward Lee Thorndike) เป็ น
นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน เกิดวันที่ 31 สิ งหาคม ค.ศ. 1814 ที่
เมื อ งวิ ล เลี่ ย มเบอรี่ (Williambury) รั ฐ แมซซาชู เ สท
(Massachusetts) และสิ้นชี วิตวันที่ 9 สิ งหาคม ค.ศ. 1949 ที่
เมืองมอนท์ โร รัฐนิวยอร์ ค
- 4. ทฤษฎีของเขาเน้ นความสั มพันธ์ เชื่ อมโยงระหว่ างสิ่ ง
เร้ ากับการตอบสนอง และได้ รวบรวมเป็ นสถิติที่เชื่ อถือได้
ผลงานของเขาได้ ส่งให้ วิลเลียม เจมส์ (William James) เป็ นผู้
ตรวจสอบ รวบรวมได้ ประมาณ 507 ฉบับ โดยการเชื่ อมโยง
ระหว่ างสิ่ งเร้ ากั บ การตอบสนอง โดยเริ่ มทดลองที่
มหาวิทยาลัยฮาร์ วาร์ ด (Harvard University) และสาเร็จที่
มหาวิ ท ยาลั ย โคลั ม เบี ย ซึ่ ง ได้ ตี พิ ม พ์ ล งในหนั ง สื อ พิ ม พ์
นิวยอร์ คไทม์ (New York Time) ในปี ค.ศ. 1934
- 6. เขาเริ่มการทดลองเมื่อปี ค.ศ. 1898 เกียวกับการใช้ หีบ
่
กล (Puzzle-box) ทดลองการเรียนรู้ จนมีชื่อเสี ยง หลังจากนั้น
ในปี ค.ศ. 1899 เขาได้ ครู สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
เขาได้ ศึ กษาเกี่ย วกับการเรี ย นรู้ กระบวนการต่ า ง ๆ ในการ
เรี ยนรู้ และธรรมชาติของมนุ ษย์ และสั ต ว์ และได้ ให้ กาเนิ ด
ทฤษฎีการเรียนรู้ทฤษฎีหนึ่งขึนมา ซึ่งเป็ นทียอมรับแพร่ หลาย
้ ่
ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1899 เป็ นต้ น มาจนถึงปัจจุบัน
- 7. การเรี ยนรู้ เกิดจากการเชื่ อมโยงระหว่ างสิ่ งเร้ ากับการ
ตอบสนอง โดยที่การตอบสนองมักจะออกมาเป็ นรู ป แบบ
ต่ าง ๆ หลายรู ปแบบ จนกว่ าจะพบรู ปแบบที่ดี หรื อเหมาะสม
ทีสุด โดยไม่ มีผู้ใดมากาหนดหรือชี้ช่องทางในการปฏิบัติ เรา
่
เรี ยกการตอบสนองเช่ นนี้ว่า การลองถูกลองผิด (Trial and
error) ธอร์ นไดค์ ได้ สร้ างสถานการณ์ ขึนในห้ องทดลอง เพือ
้ ่
ทดลองให้ แมวเรี ยนเรี ยนรู้ การเปิ ดประตูกรงของหีบกลหรื อ
กรงปริศนา พบว่ า
- 8. 1. แมวจะแสดงพฤติกรรมเดาสุ่ มเพือจะออกมาจากกรงมากิน
่
อาหารให้ ได้
2. ความสาเร็ จในครั้ งแรก เกิดขึนโดยบังเอิญ โดยที่เท้ าของ
้
แมวบังเอิญไปแตะเข้ าที่คานทาให้ ประตูเปิ ดออก แมวจะวิ่ง
ออกไปทางประตูเพือกินอาหาร
่
3. พบว่ ายิ่งทดลองซ้ามากเท่ าใดพฤติกรรมเดาสุ่ มของแมวจะ
ลดลง จนในทีสุดแมวเกิดการเรียนรู้ได้
่
- 9. 4. เมื่อทาการทดลองซ้าอีกต่ อไปเรื่อย ๆ แมวเริ่มเกิดการเรียนรู้
โดยการลองถูกลองผิดและรู้ จักที่จะเลือกวิธีที่สะดวกและสั้ น
ทีสุดในการแก้ปัญหา
่
5. หลังจากการทดลองครบ 100 ครั้ ง ทิ้งระยะเวลานาน
ประมาณ 1 สั ปดาห์ แล้วทดสอบ โดยจับแมวตัวนั้นมาทาให้ หิว
แล้ วจับใส่ กรงปริ ศนาใหม่ แมวจะใช้ อุ้งเท้ ากดคานออกมากิน
อาหารทางประตูทเี่ ปิ ดออกได้ ทนที
ั
- 10. สรุป ได้ ว่า แมวเรี ย นรู้ วิธีการเปิ ดประตู โดยการกด
คานได้ ด้วยตนเองจากการเดาสุ่ ม หรือแบบลองถูกลองผิด จน
ได้ วิธีที่ถูกต้ องที่สุด และพบว่ ายิ่งใช้ จานวนครั้ งการทดลอง
มากขึนเท่ าใด ระยะเวลาที่ใช้ ในการแก้ ปัญหาคือเปิ ดประตูกรง
้
ออกมาได้ ยิ่งน้ อยลงเท่ านั้น และจากผลการทดลองดังกล่ าว
สามารถสรุปเป็ นกฎการเรียนรู้
- 11. สรุปเป็ นกฎการเรียนรู้ ได้ ดงนี้
ั
1. กฎแห่ งความพร้ อม (Law of Readiness)
2. กฎแห่ งการฝึ กหัด (Law of Exercise)
3. กฎแห่ งการใช้ (Law of Use and Disuse)
4. กฎแห่ งผลที่พงพอใจ (Law of Effect)
ึ
- 13. 1. การเปิ ดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ ลองผิดลองถูกด้ วยตนเองบ้ าง
2. สารวจหรือสร้ างความพร้ อมทางการเรียนให้ แก่ผู้เรียน
3. หากต้ องการให้ ผู้เรียนเกิดทักษะในเรื่องใดแล้ ว ต้ องให้ ผู้เรียน
มีความรู้และความเข้ าใจในเรื่องนั้น ๆ
4. เมื่อผู้เรี ยนเกิดการเรี ยนรู้ แล้ ว ควรให้ ผู้เรี ยนฝึ กนาการเรี ยนรู้
นั้น
5. การให้ ผู้เรียนได้ รับผลที่น่าพึงพอใจ จะช่ วยให้ การเรียนการ
สอนประสบความสาเร็จ