โครงร่าง

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน ดื่มน้าเท่าไหร่ถึงจะพอ
ชื่อผู้ท้าโครงงาน
1. นางสาว ลิปิการ์ พุทธวัตร์ เลขที่ 41 ชั้น ม.6 ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาด้าเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
ส้านักงานเขตพืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดท้าข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกกลุ่ม
1. น.ส. ลิปิการ์ พุทธวัตร์ เลขที่ 41 ม.6/5
ค้าชีแจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี
ชื่อโครงงาน
“ดื่มน้าเท่าไหร่ถึงจะพอ”
ชื่อโครงงาน
How much water to drink?
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ท้าโครงงาน นางสาวลิปิการ์ พุทธวัตร์
ชื่อที่ปรึกษา คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาด้าเนินงาน 1 เดือนเต็ม
ที่มาและความส้าคัญของโครงงาน
ด้วยความที่ตนเองนันเป็นคนที่ดื่มน้าน้อยมากต่อวันท้าให้ตนเองรู้สึกไม่ค่อยสดชื่นเลย ปากแห้ง หน้า
แห้ง ปัสสาวะสีเข้มในแต่ละวัน ในปัจจุบันนีผู้คนต่างก็ยอมรับว่าการดื่มน้านันมีส่วนช่วยในการท้างานของระบบ
ต่างๆในร่างกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบห้าหมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของ
เราแข็งแรง แต่สิ่งหนึ่งที่ร่างกายเราขาดไม่ได้เลยก็คือ การดื่มน้าให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม แล้วการดื่มน้าเป็นเรื่อง
ง่ายๆในชีวิตประจ้าวันของเราขาดไม่ได้ เพียงแค่เรามีวินัยในตนเองร่างกายของเราก็จะแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี
ขึนเมื่อเรามีสุขภาพที่ดีแล้วเราก็อยากจะให้คนที่เรารักสุขภาพดีด้วยเหมือนกันเพราะคนในครอบครัวของเราท่าน
มีอายุมากขึนระบบในร่างกายก็ท้างานแย่ลง หน้าตาดูไม่สดใส ท้าให้คนในบ้านมีความหดหู่หน้าตาหม่นหมองแต่
ถ้ารู้จักดื่มน้าตามความเหมาะสมในแต่ละวันจะช่วยดูแลผิวพรรณของเราให้ชุ่มชืน ผิวสดใส เปล่งปลั่งทุกคนที่เรา
รักหน้าตาก็จะยิมแย้มหน้ามองสดใสเพราะส่วนตัวแล้วชอบที่จะให้คนรอบข้างและตัวเรามีสุขภาพที่ดี โดยเริ่ม
จากสิ่งเล็กที่สามารถท้าได้ง่ายๆท้ากันได้ทั่วถึงถ้าเราศึกษามันมาได้อย่างถูกต้องเพียงแค่เราดื่มน้าทุกวัน
ดังนันจึงอยากจะศึกษาเรื่องการดื่มน้าให้ตนเองเข้าใจมากขึนและเมื่อศึกษาแล้วอยากให้ผู้ที่ศึกษาได้
เกิดประโยชน์สูงสุด
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ทุกคนนาไปปรับใช้ในชีวิตประจาได้อย่างถูกต้อง
2. เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่ดี
3. ฝึกความมีวินัยในตนเอง

3. 3
ขอบเขตโครงงาน
ศึกษาการดื่มน้าที่เพียงพอต่อวัน ปริมาณน้าที่ควรบริโภคของแต่ละบุคคล ประโยชน์และโทษของการดื่มน้า
ดื่มน้าแล้วสุขภาพของเราจะเป็นอย่างไร โรคที่จะเกิดขึ้นเมื่อขาดน้า
หลักการและทฤษฎี
ดื่มน้ารักษาโรค
Question of พระมหาณรงค์ศักดิ์ : Detail : เจริญพรถามปัญหาคุณหมอ อาตมาเคยอ่านหนังสือเรื่อง ทฤษฎี
ดื่มน้ารักษาโรคและมีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เขาบอกว่า ตื่นเช้ามาไม่ต้องเข้าห้องน้า ล้างหน้าแปลงฟัน ให้ดื่มน้า
ทีเดียว 5 แก้ว จะสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น โรคกระเพาะ ตับ ไต ลาไส้ และอื่น ๆ อีกมากมาย อาตมา
ขอเจริญพรถามคุณหมอดังนี้
1. ที่เขาเรียกว่าทฤษฎี แสดงว่ามีการผ่านการตั้งสมมติฐานและพิสูจน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทฤษฎีนี้คุณหมอมีความ
คิดเห็นอย่างไรครับ
2. การดื่มน้ามากดังกล่าวมีผลเสียและผลดีต่อร่างกายอย่างไรบ้างครับ
3. การดื่มน้ามากจะทาให้ไตต้องทางานหนักหรือไม่อย่างไรครับ
4. ถ้าทฤษฎีดังกล่าวเป็นความจริง มันสามารถอธิบายด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างไรบ้างครับ ขอเจริญพร
ให้คุณหมอตอบทุกประเด็นคาถามด้วยครับ เพราะอาตมามีความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมากครับ ขอเจริญพร
ขอบคุณคุณหมอเป็นอย่างยิ่งครับ
Answer from Administrator : น.พ. ระพีพันธุ์ กัลยาวินัย ประโยชน์ของน้า มีดังนี้ครับ
1. แก้ภาวะขาดน้า
2. ช่วยระบาย โดยเฉพาะตอนเช้าอย่างท่านพระมหากล่าวมาครับ ถ้าเราท้องผูกก็ทาให้เกิดปัญหาแบคทีเรียในท้อง
ตามมา ก็อาจทาให้เกิดการย่อยเก็บไขมันสูง การดื่มน้าก็เท่ากับการจัดการไขมันได้ดี ป้องกันโรคหัวใจได้บ้าง แต่ไม่
มากนักครับ ภาวะท้องผูก อาจสัมพันธ์กับมะเร็งลาไส้ และ ระบบในช่องท้องด้วย
3. ช่วยในการย่อย แต่ร่างกายไม่ได้รอคนดื่มน้าครับ ลาไส้ปล่อยน้าเข้ามาทางลาไส้ โดยผ่านท่อตับอ่อนหลั่งด่าง 1500
ซีซี และ ในลาไส้เล็กอีก 4000 - 5000 ซีซี เพื่อช่วยย่อยครับ
4. ช่วยขับน้าลาย น้าลายก็จะช่วยฆ่าเชื้อโรคในปาก และ กาจัดกลิ่นปากได้ด้วย รวมทั้งป้องกันไข้หวัดด้วย ผมจะ
แนะนาให้ผู้ป่วยเป็นหวัดดื่มน้ามะนาวอุ่น นอกจากช่วยให้น้าลายในปากมากขึ้นจากน้า และ น้าลายหลั่งเพราะเปรี้ยว
ปากจึงหลั่งมากขึ้น ความอุ่นของน้ายังช่วยเส้นเลือดไหลเวียนดี ควรดื่มหลังอาหารเย็นบ่อย ๆ ครับ
5. การดื่มน้ายังแก้ปากอักเสบ ร้อนใน และ แก้ฟันผุได้ด้วยครับ เพราะน้าลายเช่นกันครับ
6. การดื่มน้าช่วยลาเลียงอาหารออกจากกระเพาะ ทาให้กระเพาะย่อยง่าย ก็เป็นโรคกระเพาะ และ ลมในท้องลดลง
ครับ
7. การดื่มน้า ยังทาให้การจับของภูมิต้านทานต่อผิวลาไส้ IgG และ ระบบ complement ทางานได้ดีขึ้น ก็คล้ายไป
ช่วยภูมิต้านทานทางอ้อมครับ
8. - คนเราจะมีการรับน้าเข้ามาได้ 3 ทาง
1. การกินน้าแล้วแต่คนไม่เท่ากันครับ
2. น้าที่อยู่ในอาหาร ผัก และผลไม้ เช่นกินแตงโมก็ได้น้าในเนื้อแตงโมมากทีเดียว
3. น้าที่ได้จากการทาปฎิกิริยาจากอาหาร (oxidation of carbohydrates, proteins, and fats)
- น้าที่ได้จาก ข้อ 2 และ 3 รวมแล้วได้ถึง 1200 ซีซีต่อวันทีเดียว : คนเราจะเสียน้าผ่าน ผิวหนัง การขับถ่าย
และ ปัสสาวะ รวมแล้วยังไง ก็ต้องออกอย่างน้อย 1600 ซีซีต่อวันครับ
- เฉลี่ยแล้ว เราจึงต้องดื่มน้าอย่างน้อยที่สุด มากกว่า 400 ซีซีต่อวันครับ
- แต่ในที่แนะนาให้ดื่ม มากกว่าวันละ 6 - 8 แก้วน้าครับ

4. 4
- ข้อเสียของการดื่มน้าคือ ห้ามในคนที่มีปัญหาการขับน้า เช่น คนเป็นโรคไต โรคหัวใจ โรคตับ การดื่มน้ามากไป
อาจถึงหัวใจวาย และ บวมตามตัวได้ครับ โดยทั่วไปในคนปกติ ดื่มน้ามากยิ่งดีครับ แต่ไม่ควรเกินวันละ 5 - 6 ลิตร
เพราะ ไตจะเสียกลไกการกรองน้า ทาให้ปัสสาวะกลับกรองได้ไม่ดี เกิดภาวะน้าปัสสาวะมากกว่าที่ทานไปได้ครับ
- การเดินทางสายกลาง และ ดื่มน้าค่อนไปทางมากเล็กน้อย โดยเฉพาะน้าหลังตื่นช่วยขับถ่าย และ น้าอุ่นก่อน
นอนกันไข้หวัด จึงควรทาสม่าเสมอครับ
วิธีด้าเนินงาน
แนวทางการด้าเนินงาน
-เลือกหัวข้อที่จะศึกษา
-นาเสนอหัวข้อกับครูที่ปรึกษา
-รวบรวมข้อมูลตามขอบเขตที่ต้องการจะศึกษาและสนใจ
-ทารายงานเกี่ยวกับหัวข้อ
-นาเสนอ
-นามาปรับปรุงแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเทอร์เน็ต
-คอมพิวเตอร์
-กระดาษ A4
-เครื่องปริ้นส์
-สันรูด
งบประมาณ
-ประมาณ100บาท

5. 5
ขันตอนและแผนด้าเนินงาน
ล้าดับ
ที่
ขันตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้ศึกษาจะหันมาใส่ใจสุขภาพตนเอง
2. ผู้ศึกษาจะได้เห็นถึงความสาคัญของสิ่งเล็กๆที่ใกล้ตัว
3. ผู้ศึกษาจะมีสุขภาพที่ดี
4. ได้ความมีวินัยในการดื่มน้าให้เหมาะสมต่อวัน
5. ได้รู้ถึงประโยชน์และโทษของการดื่มน้า
สถานที่ด้าเนินการ
-ห้องคอม
-บ้านของตนเอง
-โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มสาระการศึกษาวิชาสุขศึกษา
-กลุ่มสาระการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง
-ดื่มน้ารักษาโรค https://www.praram9.com/talktodoctor_detail.php?id=06592