SlideShare a Scribd company logo
1 of 33
นายพัชร กุลโกวิท ม.
 6/3 ว2นายภิฏฐา สุร
สบู่       โครงสร้ำงสบู่         GO
                               ปฏิกิริยำกำรเกิดสบู่   GO
                                ชนิดของสบู่           GO
                               กำรทำำงำนของสบู่       GO


                     ผงซักฟอก ำงผงซักฟอก
                          โครงสร้                     GO

                          ปฏิกิริยำกำรเกิดผงซักฟอก GO
                          ส่วนประกอบของผงซักฟอก GO
                          ผลเสียจำกกำรใช้ผงซักฟอก GO
                       กำรตรวจสอบปริมำณฟอสเฟตในนำำำ GO


                     เครื่อควำมหมำยของเครื่องสำำอำง GO
                           งสำำอำง
                                กำำเนิดและวิวฒนำกำร
                                             ั         GO
                            ส่วนประกอบของเครื่องสำำอำง GO
สำรบัญ อนกลับถัดไป
      ย้                       ประเภทของเครื่องสำำอำง GO
สบู่
     คือ เกลือโซเดียมของกรดไขมัน มีสูตร
โครงสร้ำงทั่วไปคือ
                      โครงสร้างของสบู่
                              โมเลกุลของสบู่ ประกอบ
                      ด้วย 2 ส่วน ได้แก่
                      1.) ส่วนที่ไม่มีขว เป็นด้ำนของ
                                         ัำ
                      ไฮโดรคำร์บอน
                      2.) ส่วนที่มีขัำว เป็นด้ำนของโซเดียม
                      คำร์บอกซิเลต
                              -
                         (-COO Na+)


สบู่ที่ดีควรมีจำำนวน C อะตอมในหมู่    R   พอเหมำะ จะเป็น
สบู่ที่ละลำยนำำำได้ดี                           สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                      ย้
ปฏิกิริยาการเกิดสบู่
        เรียกว่ำ ปฏิกิริยำสะปอนนิฟิเคชัน (Saponification) เป็น
ปฏิกิริยำไฮโดรลิซสไขมันและนำำำมันด้วยเบส เกิดเกลือของ
                    ิ
กรดไขมัน (สบู่) กับกลีเซอรอล
ดังนีำ




                                                สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                      ย้
กระบวนกำรผลิตสบู่ในอุตสำหกรรมทำำได้โดยผสม
ไขมันหรือนำำำมันกับสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์ และ
ให้ควำมร้อนโดยกำรผ่ำนไอนำำำลงไปในสำรผสมเป็นเวลำ
 12 – 24 ชัวโมง จำกนัำนจึงเติมโซเดียมคลอไรด์ลงไปเพื่อ
           ่
แยกสบู่ออกจำกสำรละลำย ทำำสบู่ให้บริสุทธิ์ ผสมนำำำหอม
หรือสีลงไปเพือให้ได้กลิ่นหรือสีตำมที่ตองกำร แล้วทำำให้
               ่                        ้
             เป็นก้อนเพื่อจำำหน่ำยต่อไป




       กลีเซอรอลซึงเป็นผลพลอยได้จำกกระบวนกำรทำำ
                  ่
 สบู่จะแยกออกจำกสำรละลำยและนำำไปใช้ประโยชน์ใน
อุตสำหกรรมเครื่องสำำอำง พลำสติก และใช้เป็นสำรให้รส
                หวำนในอำหำรหรือยำ        สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                               ย้
ชนิดของสบู่
          สบู่มีหลำยชนิดขึนอยูกับส่วนผสมที่ใช้ โดยทั่วไป
                          ำ   ่
       จะมีคำควำมเป็นกรด-ด่ำง (pH) อยู่ระหว่ำง 9.0-10.0
            ่

   สบู่ก้อน (Hard soap) ลักษณะเป็น
 1.)
ก้อนสีขำวหรือเทำขำวเมื่อเวลำแห้ง
 และเย็น มีโซดำเป็นส่วนประกอบ
 หลัก และมีเกลือโปแตสเซียมของ่
กรดไขมัน ใช้สำำหรับภำยนอกเท่ำนัำน
                        2.) สบู่ชนิดอ่อน (soft soap) ลักษณะ
                       คล้ำยนำำำผึงหรือเยลลี่ (Jelly) สีเหลือง
                                   ำ
                        ใสทำำด้วยนำำำมันมะกอกและโซดำ

                                                  สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                        ย้
3.)สบู่เหลว (liquid soap) มีส่วนผสม
ของเกลือโปแตสเซียมของกรดไขมัน
                     ่
และอำจมีส่วนผสมของนำำำมันมะกอก
         เมล็ดถัว เมล็ดฝ้ำย
                ่

                        4.)ซินเดท (synndet) เป็นสบู่ที่มีส่วน
                        ผสมของสำร ที่ให้ควำมชุ่มชืนกับ  ำ
                        ผิวหนัง
      นอกจำกนีำ อำจมีสบู่ชนิดต่ำงๆ ซึงจะมีส่วนประกอบแตก
                                     ่
  ต่ำงกันไปตำมวัตถุประสงค์กำรใช้ เช่น สบู่ยำที่มีส่วนผสม
  ของไทรโคลซำน (triclosan) และไทรโคคำร์บอน (trichocarbon)
   ซึงมีฤทธิ์ยับยัำงฤทธิ์ของแบคทีเรีย สบู่ที่มีส่วนผสมของ
      ่
lanolin เพือทำำให้มีควำมชุมชืนมำกขึำนซึ่งกำรเลือกใช้สบู่ก็ขึำน
           ่               ่ ำ
    อยู่กบลักษณะของผิวหนังและวัตถุประสงค์ของกำรใช้ บถัดไป
         ั                                         สำรบัญ อนกลั
                                                         ย้
การทำางาน
ของสบูสบู่ละลำยนำำำ จะแตกตัวให้ไอออนบวกและไอออน
   เมื่อ่
ลบ ส่วนที่เป็นไอออนลบจะเป็นตัวที่ใช้ชำำระล้ำงสิ่งต่ำงๆได้
โดยหันด้ำนที่มขัำวละลำยในนำำำที่ล้อมรอบ และด้ำนที่ไม่มีขัำว
               ี
ล้อมรอบหยดนำำำมันและสิ่งสกปรก ทำำให้สิ่งสกปรกนัำนหลุด
ออกมำและแพร่กระจำยอยู่ในนำำำในรูปของอิมัลชัน สบู่จึงใช้
                    ทำำควำมสะอำดได้




                                               สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                     ย้
สบู่กบนำำากระด้าง
                      ั
      นำำากระด้าง เป็นนำำำที่ประกอบด้วย Fe2+, Mg2+ และ Ca  2+


                 ของHCO3-, Cl- และ SO42-
       Mg2+ และ Ca2+ จะเข้ำไปแทนที่ Na+ ในสบู่ ทำำให้เกิด
สำรประกอบที่ไม่ละลำยนำำำลอยขึนมำเป็นฝ้ำอยู่บนผิวนำำำเรียก
                                ำ
                      ว่ำ “ไคลสบู”่




        เนื่องจำกสบู่จะเกิดตะกอนไอออนในนำำำกระด้ำงทำำให้
เกิดกำรสิำนเปลืองในกำรใช้สบู่ จึงได้มี กำรสังเครำะห์สำรอื่น
ใช้ชำำระล้ำงซักฟอกได้เช่นเดียวกับสบู่ สำรสังเครำะห์นัำนก็คอ
                                                          ื
                                              สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                    ย้
ผงซักฟอก
     คือ เกลือโซเดียมซัลโฟเนตของสำรไฮโดรคำร์บอน
มีสมบัติชำำระล้ำงสิ่งสกปรกทัำงหลำยได้เช่นเดียวกับสบู่ มี
                สูตรโครงสร้ำงทั่วไป คือ

โครงสร้างของผงซักฟอก
        โมเลกุลประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
1.) ส่วนที่ไม่มีขว เป็นด้ำนของไฮโดรคำร์บอน
                   ัำ
2.) ส่วนที่มีขัำว เป็นด้ำนของโซเดียมซัลโฟเนต




                                               สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                     ย้
โดยผงซักฟอกทีใช้อยู่ในปัจจุบัน จะมีโครงสร้าง
                       ่
  1.) ส่วนที่ไม่มีขาเป็นนในส่วนที่ไม่มขโซ่ตรงทัำงหมด
          แตกต่ว งกั ไฮโดรคำร์บอนชนิี ด ัำว ดังนีำ
                   ัำ
        ผงซักฟอกชนิดนีำ จุลินทรีย์ในนำำำสำมำรถย่อยสลำย
 ได้อย่ำงสมบูรณ์ ถ้ำมีออกซิเจนอยูในนำำำอย่ำงเพียงพอ ก่อ
                                   ่
          ให้เกิดปัญหำต่อสภำวะแวดล้อมได้น้อย

      2.) ส่วนที่ไม่มีขวเป็นไฮโดรคำร์บอนชนิดโซ่ตรงเกือบ
                       ัำ
              ทัำงหมด มีโซ่กิ่งและเบนซีนบ้ำง
  จุลินทรีย์สำมำรถย่อยสลำยผงซักฟอกได้เป็นส่วนใหญ่
เหลือตกค้ำงอยู่บ้ำง ก่อให้เกิดปัญหำต่อสภำวะแวดล้อมได้

  ส่วนที่ไม่มีขวเป็นไฮโดรคำร์บอนชนิดโซ่กิ่งเป็นส่วนใหญ่
3.)            ัำ
 และมีเบนซีน ระบบเอนไซม์ของจุลนทรีย์ไม่สำมำรถย่อย
                                 ิ
   สลำยได้ จึงก่อให้เกิดปัญหำต่อสภำวะแวดล้อมมำก
                                               สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                     ย้
ปฏิกิริยาการเกิดผงซักฟอก
1.)แอลกอฮอล์โซ่ยำวทำำปฏิกิริยำกับกรดซัลฟิวริก
ดังสมกำร




2.)ผลิตภัณฑ์ของสำรปิโตรเลียมทำำปฏิกิริยำ
กับกรดซัลฟิวริก
   ดังสมกำร



                                           สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                 ย้
ส่วนประกอบของผงซักฟอก
       1.) สำรลดแรงตึงผิว     เป็นพวกสำรอินทรีย์ ทำำหน้ำที่
เป็นตัวละลำยไขมัน ช่วยลดแรงตึงผิวของนำำำ ทำำให้นำำซึม
 เข้ำไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่ำง ๆ ได้ จึงสำมำรถชำำระล้ำง
สิ่งสกปรกออกมำได้ทัำงในนำำำกระด้ำงและนำำำธรรมดำ สำรนีำ
    ต้องเป็นสำรเคมีประเภทมีประจุลบ (anionic) ประจุบวก
  (cationic) หรือไม่มประจุ (nonionic) ประเภทใดประเภทหนึ่ง
                     ี
                        หรือผสมกัน




                                               สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                     ย้
ในกรณีที่เป็นสำรเคมีประเภท
มีประจุลบ ต้องไม่เป็นแอลคิลเบน
ซีนซัลโฟเนตที่มีโครงสร้ำงแบบกิง่
   (branched alkylbenzene sulphonate)
   ตัวอย่ำงเช่นโซเดียมแอลคิลอะ
     ริลซัลโฟเนต (sodium alkyl aryl
   sulphonate) ส่วนสำรลดแรงตึงผิว
 ประเภทมีประจุบวก เช่น เซทิลไตร
เมทิลแอมโมเนียมโบรไมด์(cetyl trimeth
 yl ammonium bronide) และสำรลดแรง
 ตึงผิวประเภทไม่มีประจุ เช่น เอทิลิ
     นออกไซด์คอนเดนเซตออฟ
แอลคิลแฟตตีแอลกอฮอล์ (ethylene
  oxide condonsatc of alkyl fatty alcohols) ถัดไป
                              สำรบัญ อนกลับ
                                     ย้
2.)  สำรลดควำมกระด้ำง
 ของนำำำ เช่น โซเดียม ไตรโพลี
 ฟอสเฟต (sodium tripolyphosphare,
STPP) โซเดียมไพโรฟอสเฟต (so
dium pyrophosphate) เกลือของกรด
ไนทริโลไตรแอซีตค (nitrilotriaceti
                     ิ
c acid, NTA) เกลือของกรดเอทิลีน
          ไดแอมีนเททระ แอซีติก(ethylenediamine tetracetic
                           acid, EDTA) สำรใดสำรหนึ่ง หรือ
                           ผสมกัน สำรพวกนีำไม่ชวยให้สิ่ง
                                                 ่
                          สกปรกหลุดออกจำกเสืำอผ้ำหรือ
                             จำกของใช้โดยตรง แต่ทำำ
                            หน้ำที่เสริมประสิทธิภำพของ
                           สำรลดแรงตึงผิว โดยทำำให้นำำ
                          เป็นด่ำงเหมำะแก่กำรปฏิญย้อนกลับถัดไป
                                              สำรบั
                                                    บัติงำน
สำรลดควำมกระด้ำงมีหน้ำที่
                        ช่วยแก้ควำมกระด้ำงของนำำำ เนื่องจำก
                         ควำมกระด้ำงของนำำำ Ca+2, Mg+2) จะ
                         รบกวนกำรทำำงำนของสำรลดแรงตึง
                           ผิวที่จะดึงสิ่งสกปรกออกจำกผ้ำ
                          นอกจำกนีำ สำรลดควำมกระด้ำง ยัง
                        ช่วยควบคุมสมดุลของค่ำ ควำมเป็นก
                         รดเป็นด่ำงให้อยู่ในระดับที่พอเหมำะ
                        และคงที่ได้ด้วย สำรลดควำมกระด้ำง
         3.) สำรรักษำระดับควำมเป็นด่ำง (alkaline buider) เป็นสำร
                       มีหลำยชนิด ตัวอย่ำงเช่น สำรโซเดียม
   ที่รักษำระดับควำมเป็นด่ำงให้คงที่ตลอดช่วงกำรใช้งำน
                            ไตรโพลิฟอสเฟต สำรทดแทน
  ได้แก่ โซเดียมซิลิเกต (sodium silicatc) โซเดียมคำร์บอเนต
                                   สำรประกอบ STPP
(sodium carbonate) โซเดียมเซสควิ-คำร์บอเนต (sodium sesquicar
bonate) สำรใดสำรหนึ่ง หรือผสมกัน ช่วยให้ผงซักฟอกไม่กัด
  ภำชนะที่ใช้ซก กันสนิม และช่วยเสริมสร้ำงประสิทธิภำพ
                   ั
                                                   สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                         ย้
4.)สำรกันครำบคืน (anti
 soil redeposition agent) เช่น โซ
     เดียมคำร์บอกซีเมทิล
เซลลูโลส (sodium carboxymethyl
 cellulose) เป็นตัวกันไม่ให้เกิด
  ตะกอนขึนในระหว่ำงองค์
              ำ
          ประกอบต่ำงๆ
         5.) สำรเพิ่มควำมสดใส
(optical brightening agent of optical bri
        เป็นสำรที่มีสมบัติดด
  ghtener)                    ู
 แสงอัลตรำไวโอเลตไว้ ทำำให้
เกิดกำรเรืองแสงสะท้อนเข้ำตำ
 และทำำให้เสืำอผ้ำแลดูขำวนิยม
ใช้กันมำกได้แก่ Stibene derivative
                                            สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                  ย้
ผลเสียทีเกิดจากการใช้ผงซักฟอก
             ่
       1.) มีกำรเติมสำรจำำพวกฟอสเฟตเช่น โซเดียมไตรพอ
ลิฟอสเฟต ลงไปในผงซักฟอก เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภำพใน
กำรทำำควำมสะอำดและลดควำมกระด้ำงของนำำำ สำร
ฟอสเฟตที่ตกค้ำงอยู่ในนำำำทิำงจำกกำรซักล้ำง เมื่อปล่อยลงสู่
แหล่งนำำำ จะทำำให้พืชนำำำเจริญเติบโต รวดเร็ว ทำำให้ขวำงทำง
คมนำคมทำงนำำำ ทำำลำยทัศนียภำพ ทำำให้ O2 ละลำยลงสู่นำำ
ไม่ได้ เมื่อพืชนำำำตำยจะเกิดกำรย่อยสลำยซึงต้องใช้ o2 ในนำำำ
                                           ่
มำก ทำำให้สิ่งมีชวิตขำด O2 และล้มตำยได้ ทำำให้นำำขำด O2
                   ี
เกิดปัญหำนำำำเน่ำเสีย
        2.) ผงซักฟอกชนิดที่ C อะตอม ใน R แตกกิ่งก้ำน
 สำขำมำก จุลินทรีย์ในนำำำย่อยสลำยไม่ได้ ทำำให้เกิดปัญหำ
  ตกค้ำงในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพำะในนำำำ เมื่อเข้ำสู่ร่ำงกำย
           ของคนจะทำำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ญย้อนกลับถัดไป
                                            สำรบั
การตรวจสอบปริมาณฟอสเฟตในนำำา
     กำรตรวจสอบปริมำณฟอสเฟตในนำำำ สำมำรถทำำได้
โดย เติมสำรละลำยแอมโมเนียมโมลิบเดต (NH4)2MoO4 ลง
   ไปในนำำำตัวอย่ำง จะเกิดตะกอนสีเหลืองดังสมกำร

3NH4+ + 12MoO42- + PO43- + 24H+




                         (NH4)3PO4.12MoO3 + 12H2O




                                        สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                              ย้
เครืองสำาอาง
    ่
         เครื่องสำำอำง หมำยถึง ผลิตภัณฑ์สิ่งปรุงเพื่อใช้บน
  ผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหึ่งของร่ำงกำย โดยใช้ทำ ถู
  นวด พ่น หรือโรย มีจุดประสงค์เพือทำำควำมสะอำด หรือ
                                    ่
  ส่งเสริมให้เกิดควำมสวยงำม หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงรูป
  ลักษณะ ำว่ำ cosmetics มีรำกศัพท์มำจำก
         คำ
  ภำษำกรีกว่ำ kosmetikos ซึงมีควำมหมำย
                            ่
   ว่ำ ตกแต่งให้สวยงำมเพื่อดึงดูดควำม
   สนใจจำกผูพบเห็น ( คำำว่ำ komosแปล
                ้
   ว่ำ เครื่องประดับ) โดยในสมัยแรกๆนัำน
    ใช้เครื่องสำำอำงเนื่องจำกควำมจำำเป็น
  เพือให้เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมหรือ
      ่
                   ธรรมชำติ
                                               สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                     ย้
กำาเนิดและ
วิวฒนาการ
   ั เท่ำที่ปรำกฎในโบรำณคดี        สันนิษฐำนว่ำคงมีกำรใช้
 เครื่องหอมในพิธีศำสนำ สำำหรับบูชำพระเจ้ำโดยกำรเผำ
ใช้นำำมันพืชทำตัวหรือใช้อำบศพเพื่อไม่ให้เน่ำเปื่อย มีกำร
แลกเปลี่ยนซือขำยกันจำกประเทศตะวันออก และใช้เครื่อง
              ำ
 หอมนีำไม่ตำ่ำกว่ำ 5000 ปี เชือว่ำอียิปต์เป็นชำติแรกที่รู้จัก
                               ่
  ศิลปะกำรตกแต่งและกำรใช้เครื่องสำำอำงและแพร่ไปถึง
แลสซีเรีย บำบีโลน เปอร์เซียและกรีก เมื่อครำวที่พระเจ้ำ
  อเล็กซำนเดอร์มหำรำชได้ยกทัพเข้ำยึดประเทศอียิปต์
 ประเทศในยุโรปบำงส่วน ตลอดจนถึงกรีก ทำำให้ควำมรู้
                เรื่องเครืองสำำอำงแพร่หลำย
                          ่


                                                สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                      ย้
ศูนย์กำรของควำมเจริญอยู่ที่เมืองอเล็กซำนเดรีย
 จนถึงสมัยจูเลียส ซีซำร์รบชนะกรีก ก็ได้รบศิลปวิทยำ
                                            ั
กำรต่ำงๆมำจำกกรีก ศูนย์กำรของศิลปวิทยำกำรต่ำงๆได้
 ย้ำยมำอยู่ที่กรุงโรม มีกำรอำบนำำำหอม ในระยะที่โรมัน
กำำลังรุ่งเรือง ซีซำร์ได้ยกกองทัพไปตีอยิปต์ซงมีพระนำง
                                        ี     ึ่
  คลีโอพัตรำเป็นรำชินี รูจักวิธีกำรใช้ศิลปะกำรตกแต่ง
                           ้
ใบหน้ำและร่ำงกำย ทำำให้กำรใช้เครื่องสำำอำงเป็นที่แพร่
    หลำยยิ่งขึำน ในคริสต์ศตวรรษที่ 2 Galen บิดำแห่ง
   เภสัชกรรม กำยวิภำค อำยุศำสตร์และปรัชญำ ได้
  ประดิษฐ์coldcreamขึนเป็นครัำงแรก ต่อมำ เมื่อจักรวรรดิ
                       ำ
 โรมันอ่อนกำำลังลง ประเทศที่นำำหน้ำเรื่องเครื่องสำำอำง
              คือฝรั่งเศส และมีสเปนเป็นคูแข่ง
                                          ่


                                             สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                   ย้
ส่วนประกอบของเครือง
                 ่
สำาอาง
1.   หัวนำำำหอม
         1.1 หัวนำำำหอมที่ได้จำกธรรมชำติ
         1.2 หัวนำำำหอมที่ได้จำกกำรสังเครำะห์

2.   ไขมัน
          2.1 ไขมันที่ได้จำกสัตว์หรือแมลง
          2.2 ไขมันที่ได้จำกพืช
        2.3 ไขมันที่ได้จำกนำำำมันแร่
          2.4 ไขมันที่ได้จำกกำรสังเครำะห์



                                                สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                      ย้
3.   นำำำมัน
               3.1 นำำำมันที่ได้จำกสัตว์
               3.2 นำำำมันที่ได้จำกพืช
               3.3 นำำำมันที่ได้จำกนำำำมันแร่
               3.4 นำำำมันที่ได้จำกกำรสังเครำะห์

4.    ตัวทำำละลำย
            4.1 นำำำ
            4.2 แอลกอฮอล์
            4.3 เอสเทอร์
            4.4 คีโตน

 5.   สี

                                                   สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                         ย้
เครืองสำาอางทีใช้ในชีวิตประจำาวัน จำาแนก
    ่         ่
เป็นประเภทตามวัตถุประสงค์ของการใช้เป็น
2 ประเภท คือ
1.)  เครื่องสำำอำงประเภทบำำรุงรักษำ ได้แก่ เครื่องสำำอำงที่
     ใช้ทำำควำมสะอำด และบำำรุง
       รักษำผม ใบหน้ำและลำำตัว
2.) เครื่องสำำอำงประเภทเสริมแต่ง ได้แก่ เครื่องสำำอำงที่ใช้
     เพื่อประโยชน์ในทำงส่งเสริม
     ให้ผใช้สวยงำมขึนโดยช่วยแก้ไขจุดบกพร่อง และเน้น
           ู้          ำ
     ส่วนที่ดอยู่แล้วให้ดีขน
              ี            ึำ



                                               สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                     ย้
ประเภทของเครืองสำาอาง
             ่
1.   เครื่องสำำอำงสำำหรับผม ได้แก่
      1.1 แชมพู
      1.2 นำำำยำโกรกผม
      1.3 นำำำยำจัดลอนผม
      1.4 นำำำยำดัดผม
      1.5 สิ่งปรุงแต่งเพือกำำจัดรังแค
                         ่
      1.6 สิ่งปรุงแต่งสีของเส้นผมและขน
      1.7 สิ่งปรุงแต่งปรับสภำพเส้นผม
      1.8 สิ่งปรุงแต่งทรงผม




                                         สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                               ย้
2.   เครื่องสำำอำงแอโรซอล

      3.   เครื่องสำำอำงสำำหรับใบหน้ำ ได้แก่
            3.1 ครีม และโลชันล้ำงหน้ำ
                               ่
            3.2 สิ่งปรุงสมำนผิว และ สิ่งปรุงทำำให้ผิวสดชื่น
            3.3 สิ่งปรุงรองพืำน
            3.4 สิ่งปรุงผัดหน้ำ
            3.5 สิ่งปรุงแต่งตำ
            3.6 รูจ
            3.7 ลิปสติก
            3.8 อีโมเลียนต์




                                                       สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                             ย้
4.   เครื่องสำำอำงสำำหรับลำำตัว ได้แก่
      4.1 ครีม และโลชันทำผิว
                         ่
      4.2 ครีม และโลชันทำมือ ทำตัว
                           ่
      4.3 สิ่งปรุงป้องกันแดด และ แต่งผิวให้คลำำำ
      4.4 นำำำยำทำเล็บ และ นำำำยำล้ำงเล็บ
      4.5 สิ่งปรุงระงับเหงื่อ และ กลินตัว
                                     ่
5.   เครื่องหอม ได้แก่
      5.1 นำำำหอม
      5.2 ครีมหอม




                                               สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                     ย้
6.   เบ็ดเตล็ด ได้แก่
      6.1 สิ่งปรุงสำำหรับทำ โกน
      6.2 สิ่งปรุงที่ทำำให้สีผิวจำง และ ฟอกสีผว
                                              ิ
      6.3 สิ่งปรุงผสมนำำำอำบ
      6.4 ฝุนโรยตัว
             ่
      6.5 สิ่งปรุงที่ทำำให้ขนร่วง




                                              สำรบัญ อนกลับถัดไป
                                                    ย้
จบกำรรำยงำนเพียง
    เท่ำนีำครับ
                   กลับหน้ำแร

More Related Content

What's hot

รายงานแลป ลิปสติก
รายงานแลป ลิปสติก รายงานแลป ลิปสติก
รายงานแลป ลิปสติก TODSAPRON TAWANNA
 
ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202
ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202
ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202พัน พัน
 
4 การเตรียมสารละลาย
4 การเตรียมสารละลาย4 การเตรียมสารละลาย
4 การเตรียมสารละลายSaipanya school
 
งานโลหะแผ่น3 3
งานโลหะแผ่น3 3งานโลหะแผ่น3 3
งานโลหะแผ่น3 3Pannathat Champakul
 

What's hot (6)

รายงานแลป ลิปสติก
รายงานแลป ลิปสติก รายงานแลป ลิปสติก
รายงานแลป ลิปสติก
 
ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202
ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202
ใบความรู้ เรื่อง สารละลาย วิชาเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ 2 ว 21202
 
4 การเตรียมสารละลาย
4 การเตรียมสารละลาย4 การเตรียมสารละลาย
4 การเตรียมสารละลาย
 
LOC
LOCLOC
LOC
 
การเตรียมสารละลาย
การเตรียมสารละลายการเตรียมสารละลาย
การเตรียมสารละลาย
 
งานโลหะแผ่น3 3
งานโลหะแผ่น3 3งานโลหะแผ่น3 3
งานโลหะแผ่น3 3
 

Viewers also liked

Jewelry Business Go ahead to digital economy by ATSI
Jewelry Business Go ahead to digital economy by ATSIJewelry Business Go ahead to digital economy by ATSI
Jewelry Business Go ahead to digital economy by ATSIApirak Chiangcharoen
 
ผงซักฟอก...
ผงซักฟอก...ผงซักฟอก...
ผงซักฟอก...thongdeenok
 
แรงตึงผิว]
แรงตึงผิว]แรงตึงผิว]
แรงตึงผิว]Janesita Sinpiang
 
โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน Jaturaphun Boontom
 
Minna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script Kaitou
Minna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script KaitouMinna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script Kaitou
Minna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script KaitouArtur Filipe Segumdo
 
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun Mondaishuu
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun MondaishuuMinna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun Mondaishuu
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun MondaishuuArtur Filipe Segumdo
 
Minna no Nihongo2 chuukyuu_i_notas_gramaticais_enus
Minna no Nihongo2  chuukyuu_i_notas_gramaticais_enusMinna no Nihongo2  chuukyuu_i_notas_gramaticais_enus
Minna no Nihongo2 chuukyuu_i_notas_gramaticais_enusArtur Filipe Segumdo
 
โครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูด
โครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูดโครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูด
โครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูดWannwipha Kanjan
 
3ความตึงผิว และความหนืด
3ความตึงผิว  และความหนืด3ความตึงผิว  และความหนืด
3ความตึงผิว และความหนืดWijitta DevilTeacher
 
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai Script
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai ScriptMinna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai Script
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai ScriptArtur Filipe Segumdo
 

Viewers also liked (12)

Toxico for extern
Toxico for externToxico for extern
Toxico for extern
 
Jewelry Business Go ahead to digital economy by ATSI
Jewelry Business Go ahead to digital economy by ATSIJewelry Business Go ahead to digital economy by ATSI
Jewelry Business Go ahead to digital economy by ATSI
 
ผงซักฟอก...
ผงซักฟอก...ผงซักฟอก...
ผงซักฟอก...
 
แรงตึงผิว]
แรงตึงผิว]แรงตึงผิว]
แรงตึงผิว]
 
โพรพิลีน
โพรพิลีนโพรพิลีน
โพรพิลีน
 
โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน
 
Minna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script Kaitou
Minna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script KaitouMinna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script Kaitou
Minna no NIhongo Chuukyuu 2 - Script Kaitou
 
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun Mondaishuu
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun MondaishuuMinna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun Mondaishuu
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Hyoujun Mondaishuu
 
Minna no Nihongo2 chuukyuu_i_notas_gramaticais_enus
Minna no Nihongo2  chuukyuu_i_notas_gramaticais_enusMinna no Nihongo2  chuukyuu_i_notas_gramaticais_enus
Minna no Nihongo2 chuukyuu_i_notas_gramaticais_enus
 
โครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูด
โครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูดโครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูด
โครงงานน้ำยาล้างจานกลิ่นมะกรูด
 
3ความตึงผิว และความหนืด
3ความตึงผิว  และความหนืด3ความตึงผิว  และความหนืด
3ความตึงผิว และความหนืด
 
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai Script
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai ScriptMinna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai Script
Minna no Nihongo Shokyuu 1 - Mondai Script
 

สารลดแรงตึงผิว

  • 1. นายพัชร กุลโกวิท ม. 6/3 ว2นายภิฏฐา สุร
  • 2. สบู่ โครงสร้ำงสบู่ GO ปฏิกิริยำกำรเกิดสบู่ GO ชนิดของสบู่ GO กำรทำำงำนของสบู่ GO ผงซักฟอก ำงผงซักฟอก โครงสร้ GO ปฏิกิริยำกำรเกิดผงซักฟอก GO ส่วนประกอบของผงซักฟอก GO ผลเสียจำกกำรใช้ผงซักฟอก GO กำรตรวจสอบปริมำณฟอสเฟตในนำำำ GO เครื่อควำมหมำยของเครื่องสำำอำง GO งสำำอำง กำำเนิดและวิวฒนำกำร ั GO ส่วนประกอบของเครื่องสำำอำง GO สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้ ประเภทของเครื่องสำำอำง GO
  • 3.
  • 4. สบู่ คือ เกลือโซเดียมของกรดไขมัน มีสูตร โครงสร้ำงทั่วไปคือ โครงสร้างของสบู่ โมเลกุลของสบู่ ประกอบ ด้วย 2 ส่วน ได้แก่ 1.) ส่วนที่ไม่มีขว เป็นด้ำนของ ัำ ไฮโดรคำร์บอน 2.) ส่วนที่มีขัำว เป็นด้ำนของโซเดียม คำร์บอกซิเลต - (-COO Na+) สบู่ที่ดีควรมีจำำนวน C อะตอมในหมู่ R พอเหมำะ จะเป็น สบู่ที่ละลำยนำำำได้ดี สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 5. ปฏิกิริยาการเกิดสบู่ เรียกว่ำ ปฏิกิริยำสะปอนนิฟิเคชัน (Saponification) เป็น ปฏิกิริยำไฮโดรลิซสไขมันและนำำำมันด้วยเบส เกิดเกลือของ ิ กรดไขมัน (สบู่) กับกลีเซอรอล ดังนีำ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 6. กระบวนกำรผลิตสบู่ในอุตสำหกรรมทำำได้โดยผสม ไขมันหรือนำำำมันกับสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์ และ ให้ควำมร้อนโดยกำรผ่ำนไอนำำำลงไปในสำรผสมเป็นเวลำ 12 – 24 ชัวโมง จำกนัำนจึงเติมโซเดียมคลอไรด์ลงไปเพื่อ ่ แยกสบู่ออกจำกสำรละลำย ทำำสบู่ให้บริสุทธิ์ ผสมนำำำหอม หรือสีลงไปเพือให้ได้กลิ่นหรือสีตำมที่ตองกำร แล้วทำำให้ ่ ้ เป็นก้อนเพื่อจำำหน่ำยต่อไป กลีเซอรอลซึงเป็นผลพลอยได้จำกกระบวนกำรทำำ ่ สบู่จะแยกออกจำกสำรละลำยและนำำไปใช้ประโยชน์ใน อุตสำหกรรมเครื่องสำำอำง พลำสติก และใช้เป็นสำรให้รส หวำนในอำหำรหรือยำ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 7. ชนิดของสบู่ สบู่มีหลำยชนิดขึนอยูกับส่วนผสมที่ใช้ โดยทั่วไป ำ ่ จะมีคำควำมเป็นกรด-ด่ำง (pH) อยู่ระหว่ำง 9.0-10.0 ่ สบู่ก้อน (Hard soap) ลักษณะเป็น 1.) ก้อนสีขำวหรือเทำขำวเมื่อเวลำแห้ง และเย็น มีโซดำเป็นส่วนประกอบ หลัก และมีเกลือโปแตสเซียมของ่ กรดไขมัน ใช้สำำหรับภำยนอกเท่ำนัำน 2.) สบู่ชนิดอ่อน (soft soap) ลักษณะ คล้ำยนำำำผึงหรือเยลลี่ (Jelly) สีเหลือง ำ ใสทำำด้วยนำำำมันมะกอกและโซดำ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 8. 3.)สบู่เหลว (liquid soap) มีส่วนผสม ของเกลือโปแตสเซียมของกรดไขมัน ่ และอำจมีส่วนผสมของนำำำมันมะกอก เมล็ดถัว เมล็ดฝ้ำย ่ 4.)ซินเดท (synndet) เป็นสบู่ที่มีส่วน ผสมของสำร ที่ให้ควำมชุ่มชืนกับ ำ ผิวหนัง นอกจำกนีำ อำจมีสบู่ชนิดต่ำงๆ ซึงจะมีส่วนประกอบแตก ่ ต่ำงกันไปตำมวัตถุประสงค์กำรใช้ เช่น สบู่ยำที่มีส่วนผสม ของไทรโคลซำน (triclosan) และไทรโคคำร์บอน (trichocarbon) ซึงมีฤทธิ์ยับยัำงฤทธิ์ของแบคทีเรีย สบู่ที่มีส่วนผสมของ ่ lanolin เพือทำำให้มีควำมชุมชืนมำกขึำนซึ่งกำรเลือกใช้สบู่ก็ขึำน ่ ่ ำ อยู่กบลักษณะของผิวหนังและวัตถุประสงค์ของกำรใช้ บถัดไป ั สำรบัญ อนกลั ย้
  • 9. การทำางาน ของสบูสบู่ละลำยนำำำ จะแตกตัวให้ไอออนบวกและไอออน เมื่อ่ ลบ ส่วนที่เป็นไอออนลบจะเป็นตัวที่ใช้ชำำระล้ำงสิ่งต่ำงๆได้ โดยหันด้ำนที่มขัำวละลำยในนำำำที่ล้อมรอบ และด้ำนที่ไม่มีขัำว ี ล้อมรอบหยดนำำำมันและสิ่งสกปรก ทำำให้สิ่งสกปรกนัำนหลุด ออกมำและแพร่กระจำยอยู่ในนำำำในรูปของอิมัลชัน สบู่จึงใช้ ทำำควำมสะอำดได้ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 10. สบู่กบนำำากระด้าง ั นำำากระด้าง เป็นนำำำที่ประกอบด้วย Fe2+, Mg2+ และ Ca 2+ ของHCO3-, Cl- และ SO42- Mg2+ และ Ca2+ จะเข้ำไปแทนที่ Na+ ในสบู่ ทำำให้เกิด สำรประกอบที่ไม่ละลำยนำำำลอยขึนมำเป็นฝ้ำอยู่บนผิวนำำำเรียก ำ ว่ำ “ไคลสบู”่ เนื่องจำกสบู่จะเกิดตะกอนไอออนในนำำำกระด้ำงทำำให้ เกิดกำรสิำนเปลืองในกำรใช้สบู่ จึงได้มี กำรสังเครำะห์สำรอื่น ใช้ชำำระล้ำงซักฟอกได้เช่นเดียวกับสบู่ สำรสังเครำะห์นัำนก็คอ ื สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 11.
  • 12. ผงซักฟอก คือ เกลือโซเดียมซัลโฟเนตของสำรไฮโดรคำร์บอน มีสมบัติชำำระล้ำงสิ่งสกปรกทัำงหลำยได้เช่นเดียวกับสบู่ มี สูตรโครงสร้ำงทั่วไป คือ โครงสร้างของผงซักฟอก โมเลกุลประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ 1.) ส่วนที่ไม่มีขว เป็นด้ำนของไฮโดรคำร์บอน ัำ 2.) ส่วนที่มีขัำว เป็นด้ำนของโซเดียมซัลโฟเนต สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 13. โดยผงซักฟอกทีใช้อยู่ในปัจจุบัน จะมีโครงสร้าง ่ 1.) ส่วนที่ไม่มีขาเป็นนในส่วนที่ไม่มขโซ่ตรงทัำงหมด แตกต่ว งกั ไฮโดรคำร์บอนชนิี ด ัำว ดังนีำ ัำ ผงซักฟอกชนิดนีำ จุลินทรีย์ในนำำำสำมำรถย่อยสลำย ได้อย่ำงสมบูรณ์ ถ้ำมีออกซิเจนอยูในนำำำอย่ำงเพียงพอ ก่อ ่ ให้เกิดปัญหำต่อสภำวะแวดล้อมได้น้อย 2.) ส่วนที่ไม่มีขวเป็นไฮโดรคำร์บอนชนิดโซ่ตรงเกือบ ัำ ทัำงหมด มีโซ่กิ่งและเบนซีนบ้ำง จุลินทรีย์สำมำรถย่อยสลำยผงซักฟอกได้เป็นส่วนใหญ่ เหลือตกค้ำงอยู่บ้ำง ก่อให้เกิดปัญหำต่อสภำวะแวดล้อมได้ ส่วนที่ไม่มีขวเป็นไฮโดรคำร์บอนชนิดโซ่กิ่งเป็นส่วนใหญ่ 3.) ัำ และมีเบนซีน ระบบเอนไซม์ของจุลนทรีย์ไม่สำมำรถย่อย ิ สลำยได้ จึงก่อให้เกิดปัญหำต่อสภำวะแวดล้อมมำก สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 15. ส่วนประกอบของผงซักฟอก 1.) สำรลดแรงตึงผิว เป็นพวกสำรอินทรีย์ ทำำหน้ำที่ เป็นตัวละลำยไขมัน ช่วยลดแรงตึงผิวของนำำำ ทำำให้นำำซึม เข้ำไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่ำง ๆ ได้ จึงสำมำรถชำำระล้ำง สิ่งสกปรกออกมำได้ทัำงในนำำำกระด้ำงและนำำำธรรมดำ สำรนีำ ต้องเป็นสำรเคมีประเภทมีประจุลบ (anionic) ประจุบวก (cationic) หรือไม่มประจุ (nonionic) ประเภทใดประเภทหนึ่ง ี หรือผสมกัน สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 16. ในกรณีที่เป็นสำรเคมีประเภท มีประจุลบ ต้องไม่เป็นแอลคิลเบน ซีนซัลโฟเนตที่มีโครงสร้ำงแบบกิง่ (branched alkylbenzene sulphonate) ตัวอย่ำงเช่นโซเดียมแอลคิลอะ ริลซัลโฟเนต (sodium alkyl aryl sulphonate) ส่วนสำรลดแรงตึงผิว ประเภทมีประจุบวก เช่น เซทิลไตร เมทิลแอมโมเนียมโบรไมด์(cetyl trimeth yl ammonium bronide) และสำรลดแรง ตึงผิวประเภทไม่มีประจุ เช่น เอทิลิ นออกไซด์คอนเดนเซตออฟ แอลคิลแฟตตีแอลกอฮอล์ (ethylene oxide condonsatc of alkyl fatty alcohols) ถัดไป สำรบัญ อนกลับ ย้
  • 17. 2.) สำรลดควำมกระด้ำง ของนำำำ เช่น โซเดียม ไตรโพลี ฟอสเฟต (sodium tripolyphosphare, STPP) โซเดียมไพโรฟอสเฟต (so dium pyrophosphate) เกลือของกรด ไนทริโลไตรแอซีตค (nitrilotriaceti ิ c acid, NTA) เกลือของกรดเอทิลีน ไดแอมีนเททระ แอซีติก(ethylenediamine tetracetic acid, EDTA) สำรใดสำรหนึ่ง หรือ ผสมกัน สำรพวกนีำไม่ชวยให้สิ่ง ่ สกปรกหลุดออกจำกเสืำอผ้ำหรือ จำกของใช้โดยตรง แต่ทำำ หน้ำที่เสริมประสิทธิภำพของ สำรลดแรงตึงผิว โดยทำำให้นำำ เป็นด่ำงเหมำะแก่กำรปฏิญย้อนกลับถัดไป สำรบั บัติงำน
  • 18. สำรลดควำมกระด้ำงมีหน้ำที่ ช่วยแก้ควำมกระด้ำงของนำำำ เนื่องจำก ควำมกระด้ำงของนำำำ Ca+2, Mg+2) จะ รบกวนกำรทำำงำนของสำรลดแรงตึง ผิวที่จะดึงสิ่งสกปรกออกจำกผ้ำ นอกจำกนีำ สำรลดควำมกระด้ำง ยัง ช่วยควบคุมสมดุลของค่ำ ควำมเป็นก รดเป็นด่ำงให้อยู่ในระดับที่พอเหมำะ และคงที่ได้ด้วย สำรลดควำมกระด้ำง 3.) สำรรักษำระดับควำมเป็นด่ำง (alkaline buider) เป็นสำร มีหลำยชนิด ตัวอย่ำงเช่น สำรโซเดียม ที่รักษำระดับควำมเป็นด่ำงให้คงที่ตลอดช่วงกำรใช้งำน ไตรโพลิฟอสเฟต สำรทดแทน ได้แก่ โซเดียมซิลิเกต (sodium silicatc) โซเดียมคำร์บอเนต สำรประกอบ STPP (sodium carbonate) โซเดียมเซสควิ-คำร์บอเนต (sodium sesquicar bonate) สำรใดสำรหนึ่ง หรือผสมกัน ช่วยให้ผงซักฟอกไม่กัด ภำชนะที่ใช้ซก กันสนิม และช่วยเสริมสร้ำงประสิทธิภำพ ั สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 19. 4.)สำรกันครำบคืน (anti soil redeposition agent) เช่น โซ เดียมคำร์บอกซีเมทิล เซลลูโลส (sodium carboxymethyl cellulose) เป็นตัวกันไม่ให้เกิด ตะกอนขึนในระหว่ำงองค์ ำ ประกอบต่ำงๆ 5.) สำรเพิ่มควำมสดใส (optical brightening agent of optical bri เป็นสำรที่มีสมบัติดด ghtener) ู แสงอัลตรำไวโอเลตไว้ ทำำให้ เกิดกำรเรืองแสงสะท้อนเข้ำตำ และทำำให้เสืำอผ้ำแลดูขำวนิยม ใช้กันมำกได้แก่ Stibene derivative สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 20. ผลเสียทีเกิดจากการใช้ผงซักฟอก ่ 1.) มีกำรเติมสำรจำำพวกฟอสเฟตเช่น โซเดียมไตรพอ ลิฟอสเฟต ลงไปในผงซักฟอก เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภำพใน กำรทำำควำมสะอำดและลดควำมกระด้ำงของนำำำ สำร ฟอสเฟตที่ตกค้ำงอยู่ในนำำำทิำงจำกกำรซักล้ำง เมื่อปล่อยลงสู่ แหล่งนำำำ จะทำำให้พืชนำำำเจริญเติบโต รวดเร็ว ทำำให้ขวำงทำง คมนำคมทำงนำำำ ทำำลำยทัศนียภำพ ทำำให้ O2 ละลำยลงสู่นำำ ไม่ได้ เมื่อพืชนำำำตำยจะเกิดกำรย่อยสลำยซึงต้องใช้ o2 ในนำำำ ่ มำก ทำำให้สิ่งมีชวิตขำด O2 และล้มตำยได้ ทำำให้นำำขำด O2 ี เกิดปัญหำนำำำเน่ำเสีย 2.) ผงซักฟอกชนิดที่ C อะตอม ใน R แตกกิ่งก้ำน สำขำมำก จุลินทรีย์ในนำำำย่อยสลำยไม่ได้ ทำำให้เกิดปัญหำ ตกค้ำงในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพำะในนำำำ เมื่อเข้ำสู่ร่ำงกำย ของคนจะทำำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ญย้อนกลับถัดไป สำรบั
  • 21. การตรวจสอบปริมาณฟอสเฟตในนำำา กำรตรวจสอบปริมำณฟอสเฟตในนำำำ สำมำรถทำำได้ โดย เติมสำรละลำยแอมโมเนียมโมลิบเดต (NH4)2MoO4 ลง ไปในนำำำตัวอย่ำง จะเกิดตะกอนสีเหลืองดังสมกำร 3NH4+ + 12MoO42- + PO43- + 24H+ (NH4)3PO4.12MoO3 + 12H2O สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 22.
  • 23. เครืองสำาอาง ่ เครื่องสำำอำง หมำยถึง ผลิตภัณฑ์สิ่งปรุงเพื่อใช้บน ผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหึ่งของร่ำงกำย โดยใช้ทำ ถู นวด พ่น หรือโรย มีจุดประสงค์เพือทำำควำมสะอำด หรือ ่ ส่งเสริมให้เกิดควำมสวยงำม หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงรูป ลักษณะ ำว่ำ cosmetics มีรำกศัพท์มำจำก คำ ภำษำกรีกว่ำ kosmetikos ซึงมีควำมหมำย ่ ว่ำ ตกแต่งให้สวยงำมเพื่อดึงดูดควำม สนใจจำกผูพบเห็น ( คำำว่ำ komosแปล ้ ว่ำ เครื่องประดับ) โดยในสมัยแรกๆนัำน ใช้เครื่องสำำอำงเนื่องจำกควำมจำำเป็น เพือให้เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมหรือ ่ ธรรมชำติ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 24. กำาเนิดและ วิวฒนาการ ั เท่ำที่ปรำกฎในโบรำณคดี สันนิษฐำนว่ำคงมีกำรใช้ เครื่องหอมในพิธีศำสนำ สำำหรับบูชำพระเจ้ำโดยกำรเผำ ใช้นำำมันพืชทำตัวหรือใช้อำบศพเพื่อไม่ให้เน่ำเปื่อย มีกำร แลกเปลี่ยนซือขำยกันจำกประเทศตะวันออก และใช้เครื่อง ำ หอมนีำไม่ตำ่ำกว่ำ 5000 ปี เชือว่ำอียิปต์เป็นชำติแรกที่รู้จัก ่ ศิลปะกำรตกแต่งและกำรใช้เครื่องสำำอำงและแพร่ไปถึง แลสซีเรีย บำบีโลน เปอร์เซียและกรีก เมื่อครำวที่พระเจ้ำ อเล็กซำนเดอร์มหำรำชได้ยกทัพเข้ำยึดประเทศอียิปต์ ประเทศในยุโรปบำงส่วน ตลอดจนถึงกรีก ทำำให้ควำมรู้ เรื่องเครืองสำำอำงแพร่หลำย ่ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 25. ศูนย์กำรของควำมเจริญอยู่ที่เมืองอเล็กซำนเดรีย จนถึงสมัยจูเลียส ซีซำร์รบชนะกรีก ก็ได้รบศิลปวิทยำ ั กำรต่ำงๆมำจำกกรีก ศูนย์กำรของศิลปวิทยำกำรต่ำงๆได้ ย้ำยมำอยู่ที่กรุงโรม มีกำรอำบนำำำหอม ในระยะที่โรมัน กำำลังรุ่งเรือง ซีซำร์ได้ยกกองทัพไปตีอยิปต์ซงมีพระนำง ี ึ่ คลีโอพัตรำเป็นรำชินี รูจักวิธีกำรใช้ศิลปะกำรตกแต่ง ้ ใบหน้ำและร่ำงกำย ทำำให้กำรใช้เครื่องสำำอำงเป็นที่แพร่ หลำยยิ่งขึำน ในคริสต์ศตวรรษที่ 2 Galen บิดำแห่ง เภสัชกรรม กำยวิภำค อำยุศำสตร์และปรัชญำ ได้ ประดิษฐ์coldcreamขึนเป็นครัำงแรก ต่อมำ เมื่อจักรวรรดิ ำ โรมันอ่อนกำำลังลง ประเทศที่นำำหน้ำเรื่องเครื่องสำำอำง คือฝรั่งเศส และมีสเปนเป็นคูแข่ง ่ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 26. ส่วนประกอบของเครือง ่ สำาอาง 1. หัวนำำำหอม    1.1 หัวนำำำหอมที่ได้จำกธรรมชำติ    1.2 หัวนำำำหอมที่ได้จำกกำรสังเครำะห์ 2. ไขมัน     2.1 ไขมันที่ได้จำกสัตว์หรือแมลง     2.2 ไขมันที่ได้จำกพืช 2.3 ไขมันที่ได้จำกนำำำมันแร่     2.4 ไขมันที่ได้จำกกำรสังเครำะห์ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 27. 3. นำำำมัน     3.1 นำำำมันที่ได้จำกสัตว์     3.2 นำำำมันที่ได้จำกพืช     3.3 นำำำมันที่ได้จำกนำำำมันแร่     3.4 นำำำมันที่ได้จำกกำรสังเครำะห์ 4. ตัวทำำละลำย     4.1 นำำำ     4.2 แอลกอฮอล์     4.3 เอสเทอร์     4.4 คีโตน 5. สี สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 28. เครืองสำาอางทีใช้ในชีวิตประจำาวัน จำาแนก ่ ่ เป็นประเภทตามวัตถุประสงค์ของการใช้เป็น 2 ประเภท คือ 1.) เครื่องสำำอำงประเภทบำำรุงรักษำ ได้แก่ เครื่องสำำอำงที่ ใช้ทำำควำมสะอำด และบำำรุง รักษำผม ใบหน้ำและลำำตัว 2.) เครื่องสำำอำงประเภทเสริมแต่ง ได้แก่ เครื่องสำำอำงที่ใช้ เพื่อประโยชน์ในทำงส่งเสริม ให้ผใช้สวยงำมขึนโดยช่วยแก้ไขจุดบกพร่อง และเน้น ู้ ำ ส่วนที่ดอยู่แล้วให้ดีขน ี ึำ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 29. ประเภทของเครืองสำาอาง ่ 1. เครื่องสำำอำงสำำหรับผม ได้แก่ 1.1 แชมพู 1.2 นำำำยำโกรกผม 1.3 นำำำยำจัดลอนผม 1.4 นำำำยำดัดผม 1.5 สิ่งปรุงแต่งเพือกำำจัดรังแค ่ 1.6 สิ่งปรุงแต่งสีของเส้นผมและขน 1.7 สิ่งปรุงแต่งปรับสภำพเส้นผม 1.8 สิ่งปรุงแต่งทรงผม สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 30. 2. เครื่องสำำอำงแอโรซอล 3. เครื่องสำำอำงสำำหรับใบหน้ำ ได้แก่ 3.1 ครีม และโลชันล้ำงหน้ำ ่ 3.2 สิ่งปรุงสมำนผิว และ สิ่งปรุงทำำให้ผิวสดชื่น 3.3 สิ่งปรุงรองพืำน 3.4 สิ่งปรุงผัดหน้ำ 3.5 สิ่งปรุงแต่งตำ 3.6 รูจ 3.7 ลิปสติก 3.8 อีโมเลียนต์ สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 31. 4. เครื่องสำำอำงสำำหรับลำำตัว ได้แก่ 4.1 ครีม และโลชันทำผิว ่ 4.2 ครีม และโลชันทำมือ ทำตัว ่ 4.3 สิ่งปรุงป้องกันแดด และ แต่งผิวให้คลำำำ 4.4 นำำำยำทำเล็บ และ นำำำยำล้ำงเล็บ 4.5 สิ่งปรุงระงับเหงื่อ และ กลินตัว ่ 5. เครื่องหอม ได้แก่ 5.1 นำำำหอม 5.2 ครีมหอม สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 32. 6. เบ็ดเตล็ด ได้แก่ 6.1 สิ่งปรุงสำำหรับทำ โกน 6.2 สิ่งปรุงที่ทำำให้สีผิวจำง และ ฟอกสีผว ิ 6.3 สิ่งปรุงผสมนำำำอำบ 6.4 ฝุนโรยตัว ่ 6.5 สิ่งปรุงที่ทำำให้ขนร่วง สำรบัญ อนกลับถัดไป ย้
  • 33. จบกำรรำยงำนเพียง เท่ำนีำครับ กลับหน้ำแร