SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Download to read offline
รูปแบบของประโยค
                                                             Sentence Patterns

    1.ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence)
               ประโยค (Sentence) คือ ขอความที่มีความหมายสมบูรณ..ประกอบดวยภาคประธาน (Subject) และภาคแสดง (Predicate)
    ดังนี้ –

•                ภาคประธาน คือ คนหรือสิ่งของที่กระทําอาการ..หรือไดรบการกลาวถึง
                                                                           ั
•                ภาคแสดง คือ คํากริยาและคําอื่น ๆ ที่เกี่ยวของ..ที่แสดงถึงกริยาอาการของประธาน
                                  ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence)             ประโยคเดี่ยวมี 6 รูปแบบดังนี้ –

    1. ประธาน + กริยาไมตองการกรรม              ตัวอยางประโยค

•         The train arrives on time.
•         Jack studied diligently.
•         Paul and Jack are sleeping soundly in his bedroom.
  2. ประธาน + กริยา to be / linking verb + สวนเติมเต็ม    ตัวอยางประโยค

•         Bangkok is the capital of Thailand.
•         His face turned red.
  3. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรม                ตัวอยางประโยค

•         Bob kicked the ball.
•         The tornado swept mobile phone up in the air.
  4. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรมรอง + กรรมตรง                    ตัวอยางประโยค

•         James sent his girlfriend a Valentine card.
•         Tom mailed his parents a letter.
  5. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรมตรง + to/for + กรรมรอง                   ตัวอยางประโยค

•         Chris sent a Christmas gift to his nephew.
•         Rick packed a suitcase for his wife.
  6. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรมตรง + สวนขยายกรรม                     ตัวอยางประโยค

•                They consider themselves professional dancers.
•                Working on weekends keeps me very busy.
ประโยคความรวม (Compound Sentence)
      2. ประโยคความรวม (Compound Sentence) คือ..ประโยคเดี่ยว 2 ประโยคขึ้นไป..รวมกันเปนประโยคเดียวกัน

                                                            หลักการทําประโยค

          หลักการในการทําประโยคความรวมมี 3 แบบคือ

    1. ใชเครื่องหมาย Semicolon (;)

          ตัวอยางประโยค

•             Jack sees the tree; Jane hears the birds. = แจ็คเห็นตนไม เจนไดยินเสียงนก
    2. ใช coordinators หรือ conjunctions (คําเชื่อมความ)        คําเชื่อมความมีดังตอไปนี้..

          and = และ, or = มิฉะนั้น, yet = แตกระนั้น, but = แต, so = ดังนั้น, nor = และไม, for = because = เพราะ..ตัวอยางประโยค

•             Jack sees the tree, and Jane hears the birds. = แจ็คเห็นตนไมและเจนไดยินเสียงนก
•             Bob is rich, for he saves up a lot. = บอบร่ํารวยเพราะเขาประหยัด
•             Jack reads a book, but Jane sleeps. = แจ็คอานหนังสือแตเจนนอนหลับ
•             Linda is discouraged, yet she does not give up. = ลินดาทอถอยแตกระนั้นเธอยังไมยอมแพ
•             We must be patient, or we may fail. = เราตองอดทนหรือมิฉะนั้นเราอาจจะลมเหลว
•             She will not go abroad, nor will she further her studies. = เธอจะไมไปตางประเทศและไมเรียนตอ
•             He cheated her, so she broke up with him. = เขาหลอกลวงเธอดังนั้นเธอจึงตัดความสัมพันธกับเขา
  3. ใชเครื่องหมาย semicolon (;) + คําวิเศษณเชื่อม + comma (,)           คําวิเศษณเชื่อมมีดังตอไปนี้..

         1. แสดงความขัดแยง – however = อยางไรก็ตาม, although = ถึงแมวา, still = ยังคง, nevertheless = ถึงแมวา
         2. แสดงเพิ่มเติม – besides = นอกจากนั้น, furthermore = ยิ่งกวานั้น, moreover = ยิ่งไปกวานั้น, meanwhile = ใน
            ขณะเดียวกัน
         3. แสดงเปนเหตุเปนผล – therefore = เพราะฉะนั้น, so = ดังนั้น, thus = ดังนั้น, finally = ในที่สุด, consequently = ผลที่
            ตามมา, similarly = ในทํานองเดียวกัน, otherwise = มิฉะนั้น          ตัวอยางประโยค -

•               Linda is discouraged; however, she never gives up. = ลินดาทอถอยแตอยางไรก็ตามเธอไมเคยยอมแพ
•               Joy wants to be as writer; meanwhile, she practices every day. = จอยตองการเปนนักเขียนในขณะเดียวกันนี้เธอฝกฝน
       ทุกวัน
•               John is handsome; moreover, he is very helpful. = จอหนหนาตาดียิ่งไปกวานั้นเขาชอบชวยเหลือ
•               You must study harder; otherwise, you may fail the exam. = คุณตองขยันเรียนมากกวานี้มิฉะนั้นคุณอาจจะสอบตก
•            Mary works so hard; consequently, she is ill. = แมรี่ทํางานหนักมากผลที่ตามมาคือเธอลมปวย
                                            ประโยคความซอน (Complex Sentence)
          3. ประโยคความซอน คือ ประโยคที่ประกอบดวยประโยคหลัก (Main/Independent clause) หนึ่งประโยค..กับประโยค
    รอง (Subordinate/Dependent Clause) อีกหนึ่งประโยคหรือมากกวา..มารวมกันเปนประโยคเดียวกัน

        1. ประโยคหลัก คือ ประโยคที่มีใจความสมบูรณ..สามารถอยูไดตามลําพัง
        2. ประโยครอง คือ ประโยคที่อยูตามลําพังแลว..จะไมไดใจความที่สมบูรณ..จะตองไปอาศัยประโยคหลัก..ดวยคําเชื่อมแฝง
           ตาง ๆ เชน.. Who, what, where, when, why, which, whether, while, if, since, so that, how, as, after, although, before,
           because, once, unless, until, than, that, though เหลานี้เปนตน   ตัวอยางประโยค

•          Before Bob went out, he had checked all the windows. = กอนที่บอบออกจากบาน เขาตรวจดูหนาตางทุกบาน
•          When I was young, I swam every day. = เมื่อฉันเปนเด็ก ฉันวายน้ําทุกวัน
•          The man who will come tomorrow is my ex-boss. = ผูชายทีจะมาพรุงนี้คือเจานายเกาของฉัน
                                                                          ่
•          The place where he lives is flooded. = สถานที่ที่เขาอยูน้ําทวม
•          He will go without her if she is late. = เขาจะไปโดยไมมีเธอ ถาเธอมาชา
•          John felt better after he had taken some medicine. = จอหนรูสึกดีขึ้น หลังจากไดรับประทานยา
•          Jack failed because he was absent so many times. = แจ็คสอบตก เพราะวาเขาขาดเรียนหลายครั้ง
•          The dancers will perform unless there is any cancellation. = นักเตนรําจะแสดง ถาไมมีการยกเลิก
•          Linda cut her hair short although her mother disagreed. = ลินดาตัดผมสั้น ถึงแมวาแมจะไมเห็นดวย
•          Jill did not attend class since she was very sick. = จิลไมไดเขาเรียน เพราะวาเธอปวยหนัก
•          We have planned every step carefully so that we will succeed. = เราวางแผนทุกขั้นตอนอยางรอบคอบ เพื่อวาเราจะได
       ประสบผลสําเร็จ
                                                  ประโยครอง (Subordinate Clauses)

              แบงออกเปน 3 กลุม

    1. An Adjective Clause

         คือ อนุประโยคยอยที่ทําหนาที่เปนคุณศัพทขยาย, บงชี้, หรือใหขอมูลเกี่ยวกับคํานามหรือสรรพนามที่อยูขางหนาa) การใช
    who – ใชกับคํานามที่เปนคน..และหลัง who ตองเปนคํากริยา (who + verb)           ตัวอยางประโยค

•            I failed the students who/that did not do the exam. = ฉันไมใหนักเรียนซึ่งไมเขาสอบผานการสอบ
•            Jane buys an ice cream to the pupil who is watching TV in that room. = เจนซื้อไอศกรีมใหกับเด็กนักเรียนคนที่กําลัง
     นั่งดูทีวีอยูในหองนั้น
  b) การใช which – ใชแทนสัตวหรือสิ่งของ           ตัวอยางประโยค
•           The flowers which/that are in the living room are for the actors. = ดอกไมชอที่อยูในหองนั่งเลนนั้นเตรียมไวให
     นักแสดง
•           The movie which we saw last night was very terrifying. = ภาพยนตรเรื่องทีเ่ ราดูเมื่อคืนนี้นากลัวจริง ๆ
  c) การใช whom – ใชแทนคํานามที่เปนคน..และทําหนาที่เปนกรรม (whom + สรรพนาม/นาม)                    ตัวอยางประโยค

•           The man whom/that I saw was a department store owner. = ผูชายคนที่ฉันเห็นนั้นเปนเจาของหางสรรพสินคาแหงหนึ่ง
•           He is the man whom I told you about. = เขาเปนผูชายคนที่ฉันเลาใหคุณฟง
  d) การใช whose – ใชแทนคํานามที่เปนคน..เพื่อแสดงความเปนเจาของ (whose + นาม)          ตัวอยางประโยค

•           I know the boy whose bicycle was stolen. = ฉันรูจักเด็กชายคนนั้นซึ่งรถจักรยานของเขาถูกขโมยไป
•           He is the football player whose trophy guarantees his performance. = เขาเปนนักฟุตบอลซึ่งโลหรางวัลของเขาแสดง
     รับรองฝมือของเขา
  e) การใช where – ใชแทนคํานามที่แสดงสถานที่           ตัวอยางประโยค

•           The building where he lives is a skyscraper. = อาคารที่ซ่งเขาอาศัยอยูเปนตึกสูงระฟา
                                                                     ึ
•           The office where he is working is on Silom road. = สํานักงานที่ซึ่งเขากําลังทํางานอยูตั้งอยูบนถนนสีลม
  f) การใช when – ใชแทนคํานามที่แสดงเวลา           ตัวอยางประโยค

•            I’ll never forget the day when I won the award. = ฉันไมลืมเลือนวันที่ฉันชนะการประกวด
•            Jack and Jill will meet again on December when they finished the exam. = แจ็คและจิลลจะพบปะกันอีกครั้งในราว
     เดือนธันวาคมเมื่อพวกเขาสอบเสร็จ
  ขอสังเกตุ

        1.   Who, whom, whose ใชกับคํานามที่เปนคน
        2.   Which ใชกับคํานามที่เปนสิ่งของ
        3.   That ใชไดกับคํานามที่เปนไดทั้งคนและสิ่งของ
        4.   ประพันธสรรพนามที่ทําหนาที่เปนกรรม..สามารถละออกได..แตถาทําหนาที่เปนประธาน..ไมสามารถละออกได
        5. คําบุพบทจะวางหนาประพันธสรรพนามคือ whom หรือ which เทานั้น..จะใชคําบุพบท that วางหนาไมได

    From: http://equik.spaces.live.com/blog/cns!32489D382F8DB579!272.entry

More Related Content

What's hot

ปริมาณสารสัมพันธ์
ปริมาณสารสัมพันธ์ปริมาณสารสัมพันธ์
ปริมาณสารสัมพันธ์
Arocha Chaichana
 
โจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหา
Aon Narinchoti
 
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชันแบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
phaephae
 
แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการเตรียมสารละลาย
แบบทดสอบก่อนเรียน  เรื่องการเตรียมสารละลายแบบทดสอบก่อนเรียน  เรื่องการเตรียมสารละลาย
แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการเตรียมสารละลาย
yaowaluk
 
ตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัด
ตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัดตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัด
ตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัด
ทับทิม เจริญตา
 
Ch 02 ionic bond
Ch 02 ionic bond Ch 02 ionic bond
Ch 02 ionic bond
kruannchem
 
The first conditional
The first conditionalThe first conditional
The first conditional
Ratty Krutae
 
ตัวอย่างรายงานโครงงาน
ตัวอย่างรายงานโครงงานตัวอย่างรายงานโครงงาน
ตัวอย่างรายงานโครงงาน
Thanawadee Prim
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
suchinmam
 
เนื้อหาเมทริกซ์
เนื้อหาเมทริกซ์เนื้อหาเมทริกซ์
เนื้อหาเมทริกซ์
Beer Aksornsart
 

What's hot (20)

บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆบทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชนเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
 
ลำดับเลขคณิต (Arithmetic sequence)
ลำดับเลขคณิต (Arithmetic sequence)ลำดับเลขคณิต (Arithmetic sequence)
ลำดับเลขคณิต (Arithmetic sequence)
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงานแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
 
ปริมาณสารสัมพันธ์
ปริมาณสารสัมพันธ์ปริมาณสารสัมพันธ์
ปริมาณสารสัมพันธ์
 
1.แบบฝึกหัดลิมิต
1.แบบฝึกหัดลิมิต1.แบบฝึกหัดลิมิต
1.แบบฝึกหัดลิมิต
 
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุลบทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
 
โจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหา
 
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชันแบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
 
แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการเตรียมสารละลาย
แบบทดสอบก่อนเรียน  เรื่องการเตรียมสารละลายแบบทดสอบก่อนเรียน  เรื่องการเตรียมสารละลาย
แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการเตรียมสารละลาย
 
บริการจัดวางตัวบุคคล
บริการจัดวางตัวบุคคลบริการจัดวางตัวบุคคล
บริการจัดวางตัวบุคคล
 
ตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัด
ตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัดตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัด
ตัวอย่างข้อสอบตามมาตรฐานและตัวชี้วัด
 
Ch 02 ionic bond
Ch 02 ionic bond Ch 02 ionic bond
Ch 02 ionic bond
 
The first conditional
The first conditionalThe first conditional
The first conditional
 
Access m.3 wordlists
Access m.3 wordlistsAccess m.3 wordlists
Access m.3 wordlists
 
ตัวอย่างรายงานโครงงาน
ตัวอย่างรายงานโครงงานตัวอย่างรายงานโครงงาน
ตัวอย่างรายงานโครงงาน
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
 
03 มวลแรงและการเคลื่อนที่
03 มวลแรงและการเคลื่อนที่03 มวลแรงและการเคลื่อนที่
03 มวลแรงและการเคลื่อนที่
 
เนื้อหาเมทริกซ์
เนื้อหาเมทริกซ์เนื้อหาเมทริกซ์
เนื้อหาเมทริกซ์
 
ข้อสอบตรรกศาตร์ม.4
ข้อสอบตรรกศาตร์ม.4ข้อสอบตรรกศาตร์ม.4
ข้อสอบตรรกศาตร์ม.4
 

Viewers also liked

Viewers also liked (10)

Worksheet 1
Worksheet 1Worksheet 1
Worksheet 1
 
Animals
AnimalsAnimals
Animals
 
ใบความรู้ Sugesstion
ใบความรู้ Sugesstionใบความรู้ Sugesstion
ใบความรู้ Sugesstion
 
Past continuous tense quiz key
Past continuous tense quiz keyPast continuous tense quiz key
Past continuous tense quiz key
 
Familytreegap answer
Familytreegap answerFamilytreegap answer
Familytreegap answer
 
Loy krathong2
Loy krathong2Loy krathong2
Loy krathong2
 
Loy krathong
Loy krathongLoy krathong
Loy krathong
 
How to make happy to your self
How to make happy to your selfHow to make happy to your self
How to make happy to your self
 
Unit 2 part 2 making an appointment
Unit 2 part 2 making an appointmentUnit 2 part 2 making an appointment
Unit 2 part 2 making an appointment
 
Unit 2 part 1 making a phone call
Unit 2 part 1 making a phone callUnit 2 part 1 making a phone call
Unit 2 part 1 making a phone call
 

Similar to Sentence pattern

Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Nattharika Phumnum
 
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องโครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
Ninew Koonvong
 
Eng602 short all
Eng602 short allEng602 short all
Eng602 short all
dtjatlove
 
สรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษสรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษ
wisita42
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
vino_3026
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
vino_3026
 

Similar to Sentence pattern (20)

Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
 
Sentence
SentenceSentence
Sentence
 
Grammar
GrammarGrammar
Grammar
 
Number 3
Number 3Number 3
Number 3
 
Te500 10
Te500 10Te500 10
Te500 10
 
06 preposition
06 preposition06 preposition
06 preposition
 
9.tense
9.tense9.tense
9.tense
 
Relative clauses
Relative clausesRelative clauses
Relative clauses
 
Grammar123
Grammar123Grammar123
Grammar123
 
English conversation
English conversationEnglish conversation
English conversation
 
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องโครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
 
Unit 2 a helping hand
Unit 2 a helping handUnit 2 a helping hand
Unit 2 a helping hand
 
Past simple
Past simplePast simple
Past simple
 
Eng602 short all
Eng602 short allEng602 short all
Eng602 short all
 
สรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษสรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษ
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
 
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
การร้อยเรียงประโยค ครูคุณานนต์
 
โครงสร้างทางไวยากรณ์
โครงสร้างทางไวยากรณ์โครงสร้างทางไวยากรณ์
โครงสร้างทางไวยากรณ์
 
Ba ch01 grammar
Ba ch01 grammarBa ch01 grammar
Ba ch01 grammar
 

More from Sopa

Familytreegap
FamilytreegapFamilytreegap
Familytreegap
Sopa
 
Giving directions
Giving  directionsGiving  directions
Giving directions
Sopa
 
รายงายEng christmas2010
รายงายEng christmas2010รายงายEng christmas2010
รายงายEng christmas2010
Sopa
 
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
Sopa
 
Document1
Document1Document1
Document1
Sopa
 
Eng ppt
Eng pptEng ppt
Eng ppt
Sopa
 
Eng ppt
Eng pptEng ppt
Eng ppt
Sopa
 

More from Sopa (8)

Familytreegap
FamilytreegapFamilytreegap
Familytreegap
 
Giving directions
Giving  directionsGiving  directions
Giving directions
 
รายงายEng christmas2010
รายงายEng christmas2010รายงายEng christmas2010
รายงายEng christmas2010
 
Past continuous tense quiz key
Past continuous tense quiz keyPast continuous tense quiz key
Past continuous tense quiz key
 
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
 
Document1
Document1Document1
Document1
 
Eng ppt
Eng pptEng ppt
Eng ppt
 
Eng ppt
Eng pptEng ppt
Eng ppt
 

Sentence pattern

  • 1. รูปแบบของประโยค Sentence Patterns 1.ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ประโยค (Sentence) คือ ขอความที่มีความหมายสมบูรณ..ประกอบดวยภาคประธาน (Subject) และภาคแสดง (Predicate) ดังนี้ – • ภาคประธาน คือ คนหรือสิ่งของที่กระทําอาการ..หรือไดรบการกลาวถึง ั • ภาคแสดง คือ คํากริยาและคําอื่น ๆ ที่เกี่ยวของ..ที่แสดงถึงกริยาอาการของประธาน ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ประโยคเดี่ยวมี 6 รูปแบบดังนี้ – 1. ประธาน + กริยาไมตองการกรรม ตัวอยางประโยค • The train arrives on time. • Jack studied diligently. • Paul and Jack are sleeping soundly in his bedroom. 2. ประธาน + กริยา to be / linking verb + สวนเติมเต็ม ตัวอยางประโยค • Bangkok is the capital of Thailand. • His face turned red. 3. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรม ตัวอยางประโยค • Bob kicked the ball. • The tornado swept mobile phone up in the air. 4. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรมรอง + กรรมตรง ตัวอยางประโยค • James sent his girlfriend a Valentine card. • Tom mailed his parents a letter. 5. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรมตรง + to/for + กรรมรอง ตัวอยางประโยค • Chris sent a Christmas gift to his nephew. • Rick packed a suitcase for his wife. 6. ประธาน + กริยาที่ตองการกรรม + กรรมตรง + สวนขยายกรรม ตัวอยางประโยค • They consider themselves professional dancers. • Working on weekends keeps me very busy.
  • 2. ประโยคความรวม (Compound Sentence) 2. ประโยคความรวม (Compound Sentence) คือ..ประโยคเดี่ยว 2 ประโยคขึ้นไป..รวมกันเปนประโยคเดียวกัน หลักการทําประโยค หลักการในการทําประโยคความรวมมี 3 แบบคือ 1. ใชเครื่องหมาย Semicolon (;) ตัวอยางประโยค • Jack sees the tree; Jane hears the birds. = แจ็คเห็นตนไม เจนไดยินเสียงนก 2. ใช coordinators หรือ conjunctions (คําเชื่อมความ) คําเชื่อมความมีดังตอไปนี้.. and = และ, or = มิฉะนั้น, yet = แตกระนั้น, but = แต, so = ดังนั้น, nor = และไม, for = because = เพราะ..ตัวอยางประโยค • Jack sees the tree, and Jane hears the birds. = แจ็คเห็นตนไมและเจนไดยินเสียงนก • Bob is rich, for he saves up a lot. = บอบร่ํารวยเพราะเขาประหยัด • Jack reads a book, but Jane sleeps. = แจ็คอานหนังสือแตเจนนอนหลับ • Linda is discouraged, yet she does not give up. = ลินดาทอถอยแตกระนั้นเธอยังไมยอมแพ • We must be patient, or we may fail. = เราตองอดทนหรือมิฉะนั้นเราอาจจะลมเหลว • She will not go abroad, nor will she further her studies. = เธอจะไมไปตางประเทศและไมเรียนตอ • He cheated her, so she broke up with him. = เขาหลอกลวงเธอดังนั้นเธอจึงตัดความสัมพันธกับเขา 3. ใชเครื่องหมาย semicolon (;) + คําวิเศษณเชื่อม + comma (,) คําวิเศษณเชื่อมมีดังตอไปนี้.. 1. แสดงความขัดแยง – however = อยางไรก็ตาม, although = ถึงแมวา, still = ยังคง, nevertheless = ถึงแมวา 2. แสดงเพิ่มเติม – besides = นอกจากนั้น, furthermore = ยิ่งกวานั้น, moreover = ยิ่งไปกวานั้น, meanwhile = ใน ขณะเดียวกัน 3. แสดงเปนเหตุเปนผล – therefore = เพราะฉะนั้น, so = ดังนั้น, thus = ดังนั้น, finally = ในที่สุด, consequently = ผลที่ ตามมา, similarly = ในทํานองเดียวกัน, otherwise = มิฉะนั้น ตัวอยางประโยค - • Linda is discouraged; however, she never gives up. = ลินดาทอถอยแตอยางไรก็ตามเธอไมเคยยอมแพ • Joy wants to be as writer; meanwhile, she practices every day. = จอยตองการเปนนักเขียนในขณะเดียวกันนี้เธอฝกฝน ทุกวัน • John is handsome; moreover, he is very helpful. = จอหนหนาตาดียิ่งไปกวานั้นเขาชอบชวยเหลือ • You must study harder; otherwise, you may fail the exam. = คุณตองขยันเรียนมากกวานี้มิฉะนั้นคุณอาจจะสอบตก
  • 3. Mary works so hard; consequently, she is ill. = แมรี่ทํางานหนักมากผลที่ตามมาคือเธอลมปวย ประโยคความซอน (Complex Sentence) 3. ประโยคความซอน คือ ประโยคที่ประกอบดวยประโยคหลัก (Main/Independent clause) หนึ่งประโยค..กับประโยค รอง (Subordinate/Dependent Clause) อีกหนึ่งประโยคหรือมากกวา..มารวมกันเปนประโยคเดียวกัน 1. ประโยคหลัก คือ ประโยคที่มีใจความสมบูรณ..สามารถอยูไดตามลําพัง 2. ประโยครอง คือ ประโยคที่อยูตามลําพังแลว..จะไมไดใจความที่สมบูรณ..จะตองไปอาศัยประโยคหลัก..ดวยคําเชื่อมแฝง ตาง ๆ เชน.. Who, what, where, when, why, which, whether, while, if, since, so that, how, as, after, although, before, because, once, unless, until, than, that, though เหลานี้เปนตน ตัวอยางประโยค • Before Bob went out, he had checked all the windows. = กอนที่บอบออกจากบาน เขาตรวจดูหนาตางทุกบาน • When I was young, I swam every day. = เมื่อฉันเปนเด็ก ฉันวายน้ําทุกวัน • The man who will come tomorrow is my ex-boss. = ผูชายทีจะมาพรุงนี้คือเจานายเกาของฉัน ่ • The place where he lives is flooded. = สถานที่ที่เขาอยูน้ําทวม • He will go without her if she is late. = เขาจะไปโดยไมมีเธอ ถาเธอมาชา • John felt better after he had taken some medicine. = จอหนรูสึกดีขึ้น หลังจากไดรับประทานยา • Jack failed because he was absent so many times. = แจ็คสอบตก เพราะวาเขาขาดเรียนหลายครั้ง • The dancers will perform unless there is any cancellation. = นักเตนรําจะแสดง ถาไมมีการยกเลิก • Linda cut her hair short although her mother disagreed. = ลินดาตัดผมสั้น ถึงแมวาแมจะไมเห็นดวย • Jill did not attend class since she was very sick. = จิลไมไดเขาเรียน เพราะวาเธอปวยหนัก • We have planned every step carefully so that we will succeed. = เราวางแผนทุกขั้นตอนอยางรอบคอบ เพื่อวาเราจะได ประสบผลสําเร็จ ประโยครอง (Subordinate Clauses) แบงออกเปน 3 กลุม 1. An Adjective Clause คือ อนุประโยคยอยที่ทําหนาที่เปนคุณศัพทขยาย, บงชี้, หรือใหขอมูลเกี่ยวกับคํานามหรือสรรพนามที่อยูขางหนาa) การใช who – ใชกับคํานามที่เปนคน..และหลัง who ตองเปนคํากริยา (who + verb) ตัวอยางประโยค • I failed the students who/that did not do the exam. = ฉันไมใหนักเรียนซึ่งไมเขาสอบผานการสอบ • Jane buys an ice cream to the pupil who is watching TV in that room. = เจนซื้อไอศกรีมใหกับเด็กนักเรียนคนที่กําลัง นั่งดูทีวีอยูในหองนั้น b) การใช which – ใชแทนสัตวหรือสิ่งของ ตัวอยางประโยค
  • 4. The flowers which/that are in the living room are for the actors. = ดอกไมชอที่อยูในหองนั่งเลนนั้นเตรียมไวให นักแสดง • The movie which we saw last night was very terrifying. = ภาพยนตรเรื่องทีเ่ ราดูเมื่อคืนนี้นากลัวจริง ๆ c) การใช whom – ใชแทนคํานามที่เปนคน..และทําหนาที่เปนกรรม (whom + สรรพนาม/นาม) ตัวอยางประโยค • The man whom/that I saw was a department store owner. = ผูชายคนที่ฉันเห็นนั้นเปนเจาของหางสรรพสินคาแหงหนึ่ง • He is the man whom I told you about. = เขาเปนผูชายคนที่ฉันเลาใหคุณฟง d) การใช whose – ใชแทนคํานามที่เปนคน..เพื่อแสดงความเปนเจาของ (whose + นาม) ตัวอยางประโยค • I know the boy whose bicycle was stolen. = ฉันรูจักเด็กชายคนนั้นซึ่งรถจักรยานของเขาถูกขโมยไป • He is the football player whose trophy guarantees his performance. = เขาเปนนักฟุตบอลซึ่งโลหรางวัลของเขาแสดง รับรองฝมือของเขา e) การใช where – ใชแทนคํานามที่แสดงสถานที่ ตัวอยางประโยค • The building where he lives is a skyscraper. = อาคารที่ซ่งเขาอาศัยอยูเปนตึกสูงระฟา ึ • The office where he is working is on Silom road. = สํานักงานที่ซึ่งเขากําลังทํางานอยูตั้งอยูบนถนนสีลม f) การใช when – ใชแทนคํานามที่แสดงเวลา ตัวอยางประโยค • I’ll never forget the day when I won the award. = ฉันไมลืมเลือนวันที่ฉันชนะการประกวด • Jack and Jill will meet again on December when they finished the exam. = แจ็คและจิลลจะพบปะกันอีกครั้งในราว เดือนธันวาคมเมื่อพวกเขาสอบเสร็จ ขอสังเกตุ 1. Who, whom, whose ใชกับคํานามที่เปนคน 2. Which ใชกับคํานามที่เปนสิ่งของ 3. That ใชไดกับคํานามที่เปนไดทั้งคนและสิ่งของ 4. ประพันธสรรพนามที่ทําหนาที่เปนกรรม..สามารถละออกได..แตถาทําหนาที่เปนประธาน..ไมสามารถละออกได 5. คําบุพบทจะวางหนาประพันธสรรพนามคือ whom หรือ which เทานั้น..จะใชคําบุพบท that วางหนาไมได From: http://equik.spaces.live.com/blog/cns!32489D382F8DB579!272.entry