SlideShare a Scribd company logo
1 of 13
มวยไทย มรดกไทย - มรดกโลก
มวยไทยเป็นกีฬาเก่าแก่ของไทยเป็นที่นิยมของ
ประชาชนทุกชั้นทุกสมัย ในชั้นต้นมวยไทยไม่ได้มีกติกา
เป็นลายลักษณ์อักษร แต่นายสนามย่อมชี้แจงให้นักมวย
คู่แข่งขันทราบถึงหลักเกณฑ์ในการแข่งขันนั้นๆ
หลักเกณฑ์ต่างๆเหล่านี้เมื่อได้ใช้กันมากขึ้นก็กลายเป็น
ประเพณี และใช้เป็นหลักเกณฑ์สาหรับการแข่งขันใน
เวลาต่อมาฯ
 ประวัติความเป็ นมาของมวยไทย
 มวยไทยเริ่มขึ้นในสมัยไม่ปรากฏ และไม่มีหนังสือเล่มใดเขียนไว้ว่าจะเกิดขึ้นในสมัยใด แต่เท่าที่
ได้ปรากฏนั้นมวยไทยได้เกิดขึ้นมานานแล้วและอาจเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับชาติไทย เพราะมวย
ไทยนั้นเป็นศิลปประจาชาติไทยเราจริงๆยากที่ชาติอื่นจะลอกเลียนแบบได้
 มวยไทยในสมัยก่อนเท่าที่ทราบจะมีการฝึกฝนอยู่ในบรรดาหมู่ทหาร เพราะในสมัยก่อนไทยเรา
ได้มีการรบพุ่งและสู้รบกันกับประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้ง การสู้รบในสมัยนั้นยังไม่มีปืนจะสู้กัน
แต่ดาบสองมือและมือเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้การรบพุ่งก็มีการรบประชิดตัว คนไทยเห็นว่าในสมัย
นั้นการรบด้วยดาบเป็นการรบพุ่งที่ประชิดตัวมากเกินไปบางครั้งคู่ต่อสู้อาจเข้ามาฟันเราได้ง่าย
คนไทยจึงได้ฝึกหัดการถีบและเตะคู่ต่อสู้เอาไว้เพื่อคู่ต่อสู้จะได้เสียหลักแล้วเราจะได้เลือกฟันง่าย
ขึ้นทาให้คู่ต่อสู้แพ้ได้
 ต่อมาเมื่อในหมู่ทหารได้มีการฝึกถีบเตะแล้วก็เกิดมีผู้คิดว่าทาอย่างไรจึงจะใช้การถีบเตะนั้นมา
เป็นศิลปสาหรับการต่อสู้ด้วยมือได้ จึงต้องให้มีผู้ที่จะคิดจะฝึกหัดการต่อสู้ป้องกันตัวสาหรับการ
ใช้แสดงเวลามีงานเทศกาลต่างๆไว้อวดชาวบ้านและเป็นของแปลกสาหรับชาวบ้าน เมื่อเป็น
เช่นนี้นานเข้า ชาวบ้านหรือคนไทยได้เห็นการถีบเตะแพร่หลายและบ่อยครั้งเข้า จึงทาให้ชาวบ้าน
มีการฝึกหัดมวยไทยกันมากจนถึงกับตั้งเป็นสานักฝึกกันมากมาย แต่สาหรับที่ฝึกมวยไทยนั้นก็
ต้องเป็นสานักดาบที่มีชื่อดีมาก่อนและมีอาจารย์ดีไว้ฝึกสอน
ดังนั้นมวยไทยในสมัยนั้นจึงฝึกเพื่อความหมาย ๒ อย่างคือ
 ๑. เพื่อไว้สาหรับสู้รบกับข้าศึก
 ๒. เพื่อไว้ต่อสู้ป้ องกันตัว
 ในสมัยนั้นใครมีเพลงดาบดีและเก่งกาจทางรบพุ่งนั้นจะต้องเก่งทางมวย
ไทยด้วย เพราะเวลารบพุ่งนั้นต้องอาศัยมวยไทยเข้าช่วย ดังนั้นวิชามวย
ไทยในสมัยนั้นจึงมุ่งหมายที่จะฝึกฝนเพลงดาบและวิชามวยไทยไป
พร้อมๆกันเพื่อที่จะรับใช้ประเทศชาติด้วยการเป็ นทหารได้เป็ นอย่างดี
 แต่เมื่อพ้นจากหน้าสงครามก็จะมีการชกมวยกันเพื่อความสนุกสนาน และ
มีการพนันขันต่อกันระหว่างนักมวยที่เก่งจากหมู่บ้านหนึ่งกับนักมวยที่เก่ง
จากอีกหมู่บ้านหนึ่งมาชกกันในหน้าที่มีงานเทศกาล หรือเกิดมีการท้าทาย
กันขึ้นและมีการพนันขันต่อ มวยในสมัยนั้นชกกันด้วยหมัดเปล่าๆยังไม่มี
การคาดเชือก เช่น สมัยอยุธยาตอนต้น ในสมัยนั้นคนไทยที่ทาชื่อเสียง
ให้กับประเทศในวิชามวยไทยมากที่สุดคือนายขนมต้ม ซึ่งได้ใช้วิชามวย
ไทยต่อสู้พม่าถึง ๑๐ คนและพม่าก็ได้แพ้นายขนมต้มหมดทุกคน จนถึง
กับกษัตริย์พม่าพูดว่า
 "คนไทยถึงแม้ว่าจะไม่มีดาบ แม้แต่มือเปล่าก็ยังมีพิษสงรอบตัว"
 นายขนมต้มจึงเปรียบเสมือนผู้เป็นบิดาของวิชามวยไทยเพราะทาให้คนไทยมีชื่อเสียง
เกี่ยวกับวิชามวยไทยเป็นอันมากในสมัยนั้น และชื่อเสียงก็ได้เลื่องลือมาจนถึงกับปัจจุบัน
นี้
 ในสมัยต่อมามวยไทยก็ยังฝึกฝนคู่กับการฝึกเพลงดาบอยู่และยังฝึกและใช้เพื่อการทา
สงครามและฝึกฝนเพื่อการต่อสู้ป้องกันตัว บางทีก็ฝึกเพื่อชกในงานเทศกาลต่างๆ ใน
สมัยอยุธยาตอนปลายพระมหากษัตริย์ของไทยบางพระองค์มีฝีมือในทางมวยไทยอยู่มาก
เช่น พระเจ้าเสือหรือขุนหลวงสรศักดิ์ ซึ่งได้หนีออกจากพระราชวังไปชกมวยกับชาวบ้าน
และชกชนะด้วย ต่อมาประชาชนทราบและเห็นว่าพระองค์ก็เป็นผู้มีฝีมือในวิชามวยไทย
อยู่ในขั้นดีเยี่ยม ในสมัยต่อมา ผู้ที่มีฝีมือในทางมวยไทยก็มีมาก เช่น พระเจ้าตากสิน
 วิชามวยไทยได้ยั่งยืนมาจนถึงสมัยปัจจุบัน และในสมัยอยุธยาตอนปลายนี้ มวยไทยได้ชก
กันด้วยการคาดเชือกคือใช้เชือกเป็นผ้าพันมือ บางครั้งการชกก็อาจถึงตายเพราะเชือกที่
คาดมือนั้นบางครั้งก็ใช้น้ามันชุบเศษแก้วละเอียดชกถูกตรงไหนก็เป็นแผลตรงนั้น จะเห็น
ได้ว่ามวยไทยในสมัยนั้นมีอันตรายเป็นอันมาก
สนามมวย
 ที่เรียกกันว่าสนาม ครั้งก่อนๆนั้นเป็นสนามจริงๆ คือนายสนามเอาเชือกมากั้นพอเป็น
บริเวณเข้า แล้วมวยก็คาดเชือกชกกันบนพื้นดิน ใช้จอกหรือกะลาเจาะรูลอยน้าเป็น
มาตรากาหนดเวลา จมครั้งหนึ่งเรียกว่ายกหนึ่ง การต่อสู้ตามความรู้สึกในขณะนั้นเรียกว่า
ตื่นเต้น แต่ถ้าหากให้ชกกันเดี๋ยวนี้ก็คงจะถูกผู้ดูให้ลงกรรมการไล่ลงหรือออกจากเวทีแน่
เพราะกว่าจะชกกันแต่ละครั้งนั้นนานจนเมื่อยตา แต่ก็น่าเห็นใจเนื่องจากหมัดที่ใช้ชกคาด
ด้วยเชือกแทนสวมนวม อย่างไรก็ดีกีฬามวยเริ่มเข้าสู่ระเบียบอย่างจริงจังก็เมื่สร้างเวทีขึ้น
กลางสนามฟุตบอลสวนกุหลาบ พื้นใช้ไม้กระดาน เสื่อเป็นแบบเสื่อกระจูดทับข้างบน มี
การนับโดยจับเวลาเป็นนาที มีกรรมการขึ้นคอยห้าม ครั้งแรกเคยใช้กรรมการสองคน คน
หนึ่งคอยกันจับฝ่ายแดงอีกคนหนึ่งคอยกันจับฝ่ายน้าเงิน ในสมัยก่อนมีกรรมการ ๒ คน
คนหนึ่งคือพระยานนท์เสน อีกคนหนึ่งคือพระยานเรนทร์ราชา ที่เป็นกรรมการตัดสินที่
นิยมยกย่องแพร่หลายในระหว่างนักมวยและคณะหัวหน้านักมวยทั่วไป
 สาหรับการชกนั้นชกกันสลับคู่ อาทิคู่ ๑ ชกครบ ๑ ยก แล้วก็ลงจากเวทีแล้ว
ให้คุ่ที่ ๒ ขึ้นไปชกกันเพื่อมิให้คนดูเสียเวลา ถ้ายังไม่แพ้ชนะกันก็สลับไปถึงคู่ ๓
- ๔ - ๕ จนกว่าจะสิ้นแสงตะวัน หลักเกณฑ์และกติกาเบื้องต้นอนุญาตให้ซ้ากัน
ได้ในเวลาล้ม นักมวยตอนนั้นจึงต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้รอบตัวทีเดียวเพราะฟาวล์ไม่
มี แม้กระทั่งกัดใบหูก็เคยปรากฏ อีกอย่างหนึ่ง สมัยนั้นนักเรียนพลศึกษามีมาก
อยากจะขึ้นชกเป็นการแสดงฝีมือและสอบไล่มวยไทยไปในตัวเสร็จ แต่กลัวพวก
นักมวยต่างจังหวัด จึงตกลงวางหลักกติกาให้กรรมการใช้ยูยิตสูช่วยด้วย จึงเป็น
ของธรรมดาที่เราจะเห็นนักมวยต่างจังหวัดซึ่งไม่รู้ว่ายูยิตสูคืออะไร ถูกทุ่มถูก
ล็อคจนออกปากส่งเสียงร้องเอ็ดตะโรยอมแพ้ให้ไป นอกจากบางรายที่ถูกเตะ
เสียจนตั้งตัวไม่ติดและแพ้ไปก่อน
 ประโยชน์ของมวยไทย
 ผู้ที่ฝึกวิชามวยพอใช้การได้แล้วย่อมทาให้เกิดประโยชน์แก่ตน ดังนี้ (คนละส่วนกับการฝึกชกมวยเพื่อ
เงิน)
 ๑. มีความมั่นใจในตนเอง
 ๒. ทาให้เกิดความกล้าหาญ
 ๓. มีอานาจบังคับจิตใจดีขึ้น
 ๔. มีความสุขุมเยือกเย็นไม่ดีใจเสียใจง่าย
 ๕. มีความพินิจพิเคราะห์รู้จักหาเหตุผล
 ๖. มีความมานะอดทนเพื่อสร้างสมรรถภาพ
 ๗. มีเชาว์ไวไหวพริบทันเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วน
 ๘. มีความเข้มแข็งอดทนไม่ท้อแท้และจานนต่อเหตุการณ์ง่าย ๆ
 ๙. มีความรักสุจริตยุติธรรมโดยประมวลจากหัวข้อข้างต้น
 เหล่านี้ย่อมเป็นที่สังเกตุว่าวิชามวยเป็นสิ่งที่สร้างสมรรถภาพให้ร่างกายและจิตใจโดยสมบูรณ์ ผู้มุ่ง
ศึกษาวิชามวยพึงพยายามจนบรรลุผลที่มุ่งหมาย
 ไหว้ครูรามวย เป็นการร่ายราในกีฬามวยไทยเพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณและ
ความเคารพต่อครูมวย เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน เช่นเดียวกับวิชาการ
หลายแขนงของไทย ที่มักทาการไหว้ครูก่อน[1] และให้มีการสวมมงคลขณะทาการร่าย
ราไหว้ครู เนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์[2] ท่าที่นิยมทาการไหว้ครูมากที่สุดคือ พรหม
สี่หน้า[1], หงส์เหิร, ยูงฟ้อนหาง, สอดสร้อยมาลา, พระรามแผลงศร, พยัคฆ์ตามกวาง
, เสือลากหาง, สาวน้อยประแป้ง[2], ลับหอกโมกขศักดิ์ และกวางเหลียวหลัง ฯลฯ
 การราไหว้ครูเริ่มจากนั่ง กราบเบญจางคประดิษฐ์ คุกเข่าถวายบังคม ขึ้นพรหมนั่ง-
ยืน ท่ารามวย (อาจมีการเดินแปลง ย่างสามขุม การรูดเชือก การบริกรรมคาถา) เพื่อ
สารวจ ทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละค่าย หรือสานัก โดยมีการ
บรรเลงดนตรีให้จังหวะในการต่อสู้ซึ่งใช้ "เพลงสะหระหม่าแขก" ใช้ในการไหว้ครู
"เพลงบุหลันชกมวย" และ "เพลงเชิด" ใช้ในการต่อสู้ ส่วนเครื่องดนตรีไทยที่ใช้
บรรเลงประกอบด้วย ปี่ชวา,กลองแขก และฉิ่ง
มวยไทย

More Related Content

Featured

PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsKurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summarySpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentLily Ray
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best PracticesVit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementMindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Applitools
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at WorkGetSmarter
 
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...DevGAMM Conference
 

Featured (20)

Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
 
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
 

มวยไทย

  • 1.
  • 2. มวยไทย มรดกไทย - มรดกโลก มวยไทยเป็นกีฬาเก่าแก่ของไทยเป็นที่นิยมของ ประชาชนทุกชั้นทุกสมัย ในชั้นต้นมวยไทยไม่ได้มีกติกา เป็นลายลักษณ์อักษร แต่นายสนามย่อมชี้แจงให้นักมวย คู่แข่งขันทราบถึงหลักเกณฑ์ในการแข่งขันนั้นๆ หลักเกณฑ์ต่างๆเหล่านี้เมื่อได้ใช้กันมากขึ้นก็กลายเป็น ประเพณี และใช้เป็นหลักเกณฑ์สาหรับการแข่งขันใน เวลาต่อมาฯ
  • 3.  ประวัติความเป็ นมาของมวยไทย  มวยไทยเริ่มขึ้นในสมัยไม่ปรากฏ และไม่มีหนังสือเล่มใดเขียนไว้ว่าจะเกิดขึ้นในสมัยใด แต่เท่าที่ ได้ปรากฏนั้นมวยไทยได้เกิดขึ้นมานานแล้วและอาจเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับชาติไทย เพราะมวย ไทยนั้นเป็นศิลปประจาชาติไทยเราจริงๆยากที่ชาติอื่นจะลอกเลียนแบบได้  มวยไทยในสมัยก่อนเท่าที่ทราบจะมีการฝึกฝนอยู่ในบรรดาหมู่ทหาร เพราะในสมัยก่อนไทยเรา ได้มีการรบพุ่งและสู้รบกันกับประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้ง การสู้รบในสมัยนั้นยังไม่มีปืนจะสู้กัน แต่ดาบสองมือและมือเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้การรบพุ่งก็มีการรบประชิดตัว คนไทยเห็นว่าในสมัย นั้นการรบด้วยดาบเป็นการรบพุ่งที่ประชิดตัวมากเกินไปบางครั้งคู่ต่อสู้อาจเข้ามาฟันเราได้ง่าย คนไทยจึงได้ฝึกหัดการถีบและเตะคู่ต่อสู้เอาไว้เพื่อคู่ต่อสู้จะได้เสียหลักแล้วเราจะได้เลือกฟันง่าย ขึ้นทาให้คู่ต่อสู้แพ้ได้  ต่อมาเมื่อในหมู่ทหารได้มีการฝึกถีบเตะแล้วก็เกิดมีผู้คิดว่าทาอย่างไรจึงจะใช้การถีบเตะนั้นมา เป็นศิลปสาหรับการต่อสู้ด้วยมือได้ จึงต้องให้มีผู้ที่จะคิดจะฝึกหัดการต่อสู้ป้องกันตัวสาหรับการ ใช้แสดงเวลามีงานเทศกาลต่างๆไว้อวดชาวบ้านและเป็นของแปลกสาหรับชาวบ้าน เมื่อเป็น เช่นนี้นานเข้า ชาวบ้านหรือคนไทยได้เห็นการถีบเตะแพร่หลายและบ่อยครั้งเข้า จึงทาให้ชาวบ้าน มีการฝึกหัดมวยไทยกันมากจนถึงกับตั้งเป็นสานักฝึกกันมากมาย แต่สาหรับที่ฝึกมวยไทยนั้นก็ ต้องเป็นสานักดาบที่มีชื่อดีมาก่อนและมีอาจารย์ดีไว้ฝึกสอน
  • 4. ดังนั้นมวยไทยในสมัยนั้นจึงฝึกเพื่อความหมาย ๒ อย่างคือ  ๑. เพื่อไว้สาหรับสู้รบกับข้าศึก  ๒. เพื่อไว้ต่อสู้ป้ องกันตัว
  • 5.  ในสมัยนั้นใครมีเพลงดาบดีและเก่งกาจทางรบพุ่งนั้นจะต้องเก่งทางมวย ไทยด้วย เพราะเวลารบพุ่งนั้นต้องอาศัยมวยไทยเข้าช่วย ดังนั้นวิชามวย ไทยในสมัยนั้นจึงมุ่งหมายที่จะฝึกฝนเพลงดาบและวิชามวยไทยไป พร้อมๆกันเพื่อที่จะรับใช้ประเทศชาติด้วยการเป็ นทหารได้เป็ นอย่างดี  แต่เมื่อพ้นจากหน้าสงครามก็จะมีการชกมวยกันเพื่อความสนุกสนาน และ มีการพนันขันต่อกันระหว่างนักมวยที่เก่งจากหมู่บ้านหนึ่งกับนักมวยที่เก่ง จากอีกหมู่บ้านหนึ่งมาชกกันในหน้าที่มีงานเทศกาล หรือเกิดมีการท้าทาย กันขึ้นและมีการพนันขันต่อ มวยในสมัยนั้นชกกันด้วยหมัดเปล่าๆยังไม่มี การคาดเชือก เช่น สมัยอยุธยาตอนต้น ในสมัยนั้นคนไทยที่ทาชื่อเสียง ให้กับประเทศในวิชามวยไทยมากที่สุดคือนายขนมต้ม ซึ่งได้ใช้วิชามวย ไทยต่อสู้พม่าถึง ๑๐ คนและพม่าก็ได้แพ้นายขนมต้มหมดทุกคน จนถึง กับกษัตริย์พม่าพูดว่า  "คนไทยถึงแม้ว่าจะไม่มีดาบ แม้แต่มือเปล่าก็ยังมีพิษสงรอบตัว"
  • 6.  นายขนมต้มจึงเปรียบเสมือนผู้เป็นบิดาของวิชามวยไทยเพราะทาให้คนไทยมีชื่อเสียง เกี่ยวกับวิชามวยไทยเป็นอันมากในสมัยนั้น และชื่อเสียงก็ได้เลื่องลือมาจนถึงกับปัจจุบัน นี้  ในสมัยต่อมามวยไทยก็ยังฝึกฝนคู่กับการฝึกเพลงดาบอยู่และยังฝึกและใช้เพื่อการทา สงครามและฝึกฝนเพื่อการต่อสู้ป้องกันตัว บางทีก็ฝึกเพื่อชกในงานเทศกาลต่างๆ ใน สมัยอยุธยาตอนปลายพระมหากษัตริย์ของไทยบางพระองค์มีฝีมือในทางมวยไทยอยู่มาก เช่น พระเจ้าเสือหรือขุนหลวงสรศักดิ์ ซึ่งได้หนีออกจากพระราชวังไปชกมวยกับชาวบ้าน และชกชนะด้วย ต่อมาประชาชนทราบและเห็นว่าพระองค์ก็เป็นผู้มีฝีมือในวิชามวยไทย อยู่ในขั้นดีเยี่ยม ในสมัยต่อมา ผู้ที่มีฝีมือในทางมวยไทยก็มีมาก เช่น พระเจ้าตากสิน  วิชามวยไทยได้ยั่งยืนมาจนถึงสมัยปัจจุบัน และในสมัยอยุธยาตอนปลายนี้ มวยไทยได้ชก กันด้วยการคาดเชือกคือใช้เชือกเป็นผ้าพันมือ บางครั้งการชกก็อาจถึงตายเพราะเชือกที่ คาดมือนั้นบางครั้งก็ใช้น้ามันชุบเศษแก้วละเอียดชกถูกตรงไหนก็เป็นแผลตรงนั้น จะเห็น ได้ว่ามวยไทยในสมัยนั้นมีอันตรายเป็นอันมาก
  • 7. สนามมวย  ที่เรียกกันว่าสนาม ครั้งก่อนๆนั้นเป็นสนามจริงๆ คือนายสนามเอาเชือกมากั้นพอเป็น บริเวณเข้า แล้วมวยก็คาดเชือกชกกันบนพื้นดิน ใช้จอกหรือกะลาเจาะรูลอยน้าเป็น มาตรากาหนดเวลา จมครั้งหนึ่งเรียกว่ายกหนึ่ง การต่อสู้ตามความรู้สึกในขณะนั้นเรียกว่า ตื่นเต้น แต่ถ้าหากให้ชกกันเดี๋ยวนี้ก็คงจะถูกผู้ดูให้ลงกรรมการไล่ลงหรือออกจากเวทีแน่ เพราะกว่าจะชกกันแต่ละครั้งนั้นนานจนเมื่อยตา แต่ก็น่าเห็นใจเนื่องจากหมัดที่ใช้ชกคาด ด้วยเชือกแทนสวมนวม อย่างไรก็ดีกีฬามวยเริ่มเข้าสู่ระเบียบอย่างจริงจังก็เมื่สร้างเวทีขึ้น กลางสนามฟุตบอลสวนกุหลาบ พื้นใช้ไม้กระดาน เสื่อเป็นแบบเสื่อกระจูดทับข้างบน มี การนับโดยจับเวลาเป็นนาที มีกรรมการขึ้นคอยห้าม ครั้งแรกเคยใช้กรรมการสองคน คน หนึ่งคอยกันจับฝ่ายแดงอีกคนหนึ่งคอยกันจับฝ่ายน้าเงิน ในสมัยก่อนมีกรรมการ ๒ คน คนหนึ่งคือพระยานนท์เสน อีกคนหนึ่งคือพระยานเรนทร์ราชา ที่เป็นกรรมการตัดสินที่ นิยมยกย่องแพร่หลายในระหว่างนักมวยและคณะหัวหน้านักมวยทั่วไป
  • 8.  สาหรับการชกนั้นชกกันสลับคู่ อาทิคู่ ๑ ชกครบ ๑ ยก แล้วก็ลงจากเวทีแล้ว ให้คุ่ที่ ๒ ขึ้นไปชกกันเพื่อมิให้คนดูเสียเวลา ถ้ายังไม่แพ้ชนะกันก็สลับไปถึงคู่ ๓ - ๔ - ๕ จนกว่าจะสิ้นแสงตะวัน หลักเกณฑ์และกติกาเบื้องต้นอนุญาตให้ซ้ากัน ได้ในเวลาล้ม นักมวยตอนนั้นจึงต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้รอบตัวทีเดียวเพราะฟาวล์ไม่ มี แม้กระทั่งกัดใบหูก็เคยปรากฏ อีกอย่างหนึ่ง สมัยนั้นนักเรียนพลศึกษามีมาก อยากจะขึ้นชกเป็นการแสดงฝีมือและสอบไล่มวยไทยไปในตัวเสร็จ แต่กลัวพวก นักมวยต่างจังหวัด จึงตกลงวางหลักกติกาให้กรรมการใช้ยูยิตสูช่วยด้วย จึงเป็น ของธรรมดาที่เราจะเห็นนักมวยต่างจังหวัดซึ่งไม่รู้ว่ายูยิตสูคืออะไร ถูกทุ่มถูก ล็อคจนออกปากส่งเสียงร้องเอ็ดตะโรยอมแพ้ให้ไป นอกจากบางรายที่ถูกเตะ เสียจนตั้งตัวไม่ติดและแพ้ไปก่อน
  • 9.  ประโยชน์ของมวยไทย  ผู้ที่ฝึกวิชามวยพอใช้การได้แล้วย่อมทาให้เกิดประโยชน์แก่ตน ดังนี้ (คนละส่วนกับการฝึกชกมวยเพื่อ เงิน)  ๑. มีความมั่นใจในตนเอง  ๒. ทาให้เกิดความกล้าหาญ  ๓. มีอานาจบังคับจิตใจดีขึ้น  ๔. มีความสุขุมเยือกเย็นไม่ดีใจเสียใจง่าย  ๕. มีความพินิจพิเคราะห์รู้จักหาเหตุผล  ๖. มีความมานะอดทนเพื่อสร้างสมรรถภาพ  ๗. มีเชาว์ไวไหวพริบทันเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วน  ๘. มีความเข้มแข็งอดทนไม่ท้อแท้และจานนต่อเหตุการณ์ง่าย ๆ  ๙. มีความรักสุจริตยุติธรรมโดยประมวลจากหัวข้อข้างต้น  เหล่านี้ย่อมเป็นที่สังเกตุว่าวิชามวยเป็นสิ่งที่สร้างสมรรถภาพให้ร่างกายและจิตใจโดยสมบูรณ์ ผู้มุ่ง ศึกษาวิชามวยพึงพยายามจนบรรลุผลที่มุ่งหมาย
  • 10.
  • 11.
  • 12.  ไหว้ครูรามวย เป็นการร่ายราในกีฬามวยไทยเพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณและ ความเคารพต่อครูมวย เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน เช่นเดียวกับวิชาการ หลายแขนงของไทย ที่มักทาการไหว้ครูก่อน[1] และให้มีการสวมมงคลขณะทาการร่าย ราไหว้ครู เนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์[2] ท่าที่นิยมทาการไหว้ครูมากที่สุดคือ พรหม สี่หน้า[1], หงส์เหิร, ยูงฟ้อนหาง, สอดสร้อยมาลา, พระรามแผลงศร, พยัคฆ์ตามกวาง , เสือลากหาง, สาวน้อยประแป้ง[2], ลับหอกโมกขศักดิ์ และกวางเหลียวหลัง ฯลฯ  การราไหว้ครูเริ่มจากนั่ง กราบเบญจางคประดิษฐ์ คุกเข่าถวายบังคม ขึ้นพรหมนั่ง- ยืน ท่ารามวย (อาจมีการเดินแปลง ย่างสามขุม การรูดเชือก การบริกรรมคาถา) เพื่อ สารวจ ทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละค่าย หรือสานัก โดยมีการ บรรเลงดนตรีให้จังหวะในการต่อสู้ซึ่งใช้ "เพลงสะหระหม่าแขก" ใช้ในการไหว้ครู "เพลงบุหลันชกมวย" และ "เพลงเชิด" ใช้ในการต่อสู้ ส่วนเครื่องดนตรีไทยที่ใช้ บรรเลงประกอบด้วย ปี่ชวา,กลองแขก และฉิ่ง