SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Download to read offline
แผนจัดกิจกรรมโฮมรูม
ชื่อกิจกรรม วิธีสู่การเป็นที่รัก
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/M ระยะเวลา 20 นาที (ตอนเช้าก่อนเรียนคาบแรก)
วันที่จัด 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562
...................................................................................................................................................
สาระการเรียนรู้
สังคมไทยในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเป็นที่รักเป็นเรื่องสาคัญ ไม่ว่าใครก็อยากเป็นที่รักแก่คน
รอบข้างเพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เราต้องเกี่ยวข้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และตราบใดที่ “มนุษย์
เป็นสัตว์สังคม” ตามคากล่าวของอริสโตเติลยังคงเป็นจริง เราก็ยังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างอยู่ และถ้า
เราอยากจะเป็นที่รักของคนรอบข้าง ตัวเราต้องน่ารักก่อนคนรอบข้างถึงจะรัก
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น
2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตนให้เป็นที่รักใคร่ของเพื่อน ครูอาจารย์ และคนรอบข้าง
เนื้อหา
การเป็นที่รักของคนรอบข้างเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สาหรับมนุษย์ เพราะทุกคนล้วนต้องการความรัก อยาก
เป็นที่สนใจของคนรอบข้าง การเป็นที่รักทาให้เรามีสังคม มีเพื่อนที่คอยให้คาปรึกษาคอยดูแลซึ่งกันและกัน
ช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยความยินดีและจริงใจ ทุกคนล้วนต้องมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน การที่เราจะปฏิบัติตนให้
เป็นที่รักและสร้างความประทับใจให้คนรอบข้างนั้นมีวิธีการง่ายๆ 4 วิธี ดังนี้
1. ทาตัวให้น่ารัก (Be good student)
2. มีอารมณ์ดี (Be in a good temper)
3. รู้จัก “ให้” และ “รับ” (Give and Get)
4. มองโลกในแง่ดี (Optimism)
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนา
1. ครูสนทนากับผู้เรียนโดยตั้งประเด็นให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นว่า
1.1 นักเรียนอยากมีเพื่อนเยอะๆ และเป็นที่รักของคนรอบข้างไหม?
1.2 นักเรียนคิดว่าการเป็นที่รักของคนรอบข้างสาคัญอย่างไร?
1.3 ถ้านักเรียนอยากมีเพื่อนเยอะๆ และเป็นที่รักของคนรอบข้างต้องทายังไง?
ขั้นดาเนินการ
1. ให้นักเรียนตอบแบบสารวจตนเองว่า ตนเองปฏิบัติตัวเป็นที่รักมากเพียงใด?
2. ครูสนทนากับนักเรียนหลังทาแบบสารวจตนเองและขอตัวแทนนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
ผลแบบสารวจของนักเรียนแต่ละคน
ขั้นสรุป
1. ครูให้คาแนะนา 4 วิธีสู่การเป็นที่รักแก่นักเรียนและอภิปรายร่วมกับนักเรียนว่าแต่ละวิธีจะทา
อย่างไรบ้าง
2. สรุปร่วมกันกับนักเรียนเกี่ยวกับ 4 วิธีสู่การเป็นที่รัก
การวัดและการประเมินผล
1. การถาม-ตอบนักเรียนในชั้นเรียน
2. สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นของนักเรียน
สื่อ/วัสดุอุปกรณ์
แบบประเมิน “คุณปฏิบัติตนเป็นที่รักสาหรับคนอื่นมากแค่ไหน?”
แบบสารวจตนเอง
“คุณปฏิบัติตัวเป็นที่รักมากแค่ไหน?”
คาขีดเครื่องหมาย ในช่องที่ตนเองปฏิบัติ
เคยทา ไม่เคยทา
1. แบ่งขนมให้เพื่อนทาน
2. โมโหเมื่อเพื่อนขัดใจ
3. พูดจาเยาะเย้ยเมื่อเพื่อนสอบตก
4. ยอมรับผิดเมื่อตัวเองทาผิดโดยไม่โทษผู้อื่น
5. ขอบคุณเมื่อคนอื่นให้ความช่วยเหลือ
6. ช่วยเหลือเพื่อนด้วยความเต็มใจเมื่อเพื่อนเดือดร้อน
7. ยิ้มแย้ม ทักทายคนอื่นอยู่เสมอ
8. ให้เพื่อนลอกข้อสอบ ลอกการบ้าน
9. พูดจากับเพื่อนด้วยความจริงใจไม่เสแสร้ง ดูถูกเพื่อน
10. เคารพน้อมน้อมต่อผู้อาวุโส
Secret name ______________________
“Friendship is all about trusting each other,
helping each other, loving each other and
being crazy together.”
Furious when your friends offend.
Ridicule when your friends fall an exam.
Admitted wrong when you were wrong.
Have you ever help a friend in trouble?
Let your friends cheat on your homework?
Have you ever insults or say something bad on your friends?
Have you ever respected your teacher?
Pessimism การมองโลกในแง่ร้าย
Optimism can help you overlook petty issues.
การมองโลกในแง่ดีทาให้คุณมองข้ามปัญหาเล็กๆน้อยๆไปได้
Be optimism, be happy.มองโลกในแง่ดี แล้วจะมีความสุข
ถ้าคุณอยากที่จะเป็นคนน่ารัก ก็ต้องเพิ่มคุณค่าของตัวเองด้วยคุณงามความดี และมองเห็นคุณค่าของคนอื่นใน
สิ่งที่เป็นคุณงามความดีของเขา มีคาพูดที่ว่า ถ้าคุณสามารถรักตัวเองในสิ่งที่ตัวเองเป็น คุณก็สามารถรักคนอื่น
ในสิ่งที่คนอื่นเป็นและความรักก็จะกลับมาหาคุณ
ถ้าอยากจะได้ความรักจากใครก็จงให้ความรักแก่คนนั้นก่อน
แนวคิดนี้เปรียบได้กับชีวิตการทางาน ไม่ว่าคุณจะทางานในองค์กรไหนก็ตาม แน่นอนทุกคนล้วนแต่ต้องการ
ผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน โบนัส สวัสดิการต่างๆ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
กลับกันงานในความรับผิดชอบกลับอยากจะให้มีน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่ยังไม่นับรวม การหลบเลี่ยง หรือ
อู้งาน ฯลฯ ก็คือ อยากทางานน้อยๆ แต่ได้เงินมากผลตอบแทนสูงๆ
ซึ่งขัดกับความเป็นจริงในแง่ของการทาธุรกิจขององค์กร เพราะทุกองค์กรก็อยู่ได้ด้วย กาไรจากผลประกอบการ
ซึ่งกาไรนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจาก ความร่วมมือร่วมใจ จากพนักงานในบริษัท
"การให้" อย่างเต็มกาลังความสามารถจากพนักงานทุกคน จึงจะนามาซึ่งความสาเร็จของบริษัท แล้วจึงสะท้อน
ผล กลับมายังพนักงานแต่ละคน "ได้รับ" ในรูปของ เงินเดือน หรือ โบนัส คือ "ให้" ก่อนแล้วจึง "ได้รับ" เหมือน
ที่ Harvey Firestone กล่าวว่า
"you get the best out of others when you give the best of yourself"
แปลได้ว่า
"คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากผู้อื่น ก็ต่อเมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป"

More Related Content

Similar to Love of others กิจกรรมโฮมรูม

ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูก
ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูกใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูก
ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูกtassanee chaicharoen
 
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)sopa sangsuy
 
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)sopa sangsuy
 
ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1
ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1
ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1sopa sangsuy
 

Similar to Love of others กิจกรรมโฮมรูม (6)

ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูก
ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูกใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูก
ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องกรณีตัวอย่าง ม.3แท้งลูก
 
10447 com
10447 com10447 com
10447 com
 
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
 
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
001ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1(1)
 
ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1
ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1
ชุดการเรียนรู้ชุดที่ 1
 

More from khanidthakpt

สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6
สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6
สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6khanidthakpt
 
PPT ทำใบงาน Part of body
PPT ทำใบงาน Part of bodyPPT ทำใบงาน Part of body
PPT ทำใบงาน Part of bodykhanidthakpt
 
ใบงาน Part of body
ใบงาน Part of bodyใบงาน Part of body
ใบงาน Part of bodykhanidthakpt
 
ประเภทการวิจัย
ประเภทการวิจัยประเภทการวิจัย
ประเภทการวิจัยkhanidthakpt
 
แบบฝึกหัด Listening
แบบฝึกหัด Listeningแบบฝึกหัด Listening
แบบฝึกหัด Listeningkhanidthakpt
 
บทละครสั้น The merchant of Venice
บทละครสั้น The merchant of Veniceบทละครสั้น The merchant of Venice
บทละครสั้น The merchant of Venicekhanidthakpt
 
Chant Playway in Habit song
Chant Playway in Habit songChant Playway in Habit song
Chant Playway in Habit songkhanidthakpt
 
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัยแนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัยkhanidthakpt
 
วิเคราะห์บทแปล Twilight
วิเคราะห์บทแปล Twilight วิเคราะห์บทแปล Twilight
วิเคราะห์บทแปล Twilight khanidthakpt
 
The merchant of Venice
The merchant of VeniceThe merchant of Venice
The merchant of Venicekhanidthakpt
 
Sickness lesson plan
Sickness lesson planSickness lesson plan
Sickness lesson plankhanidthakpt
 
บทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษ
บทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษบทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษ
บทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษkhanidthakpt
 
แบบสอบถาม
แบบสอบถาม แบบสอบถาม
แบบสอบถาม khanidthakpt
 
แผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศร
แผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศรแผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศร
แผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศรkhanidthakpt
 
สรุปนิทาน Anna karenina
สรุปนิทาน Anna kareninaสรุปนิทาน Anna karenina
สรุปนิทาน Anna kareninakhanidthakpt
 
Short story - Past tense
Short story - Past tenseShort story - Past tense
Short story - Past tensekhanidthakpt
 
Homeroom games for children
Homeroom games for childrenHomeroom games for children
Homeroom games for childrenkhanidthakpt
 
Who is Christiane Amanpour?
Who is Christiane Amanpour?Who is Christiane Amanpour?
Who is Christiane Amanpour?khanidthakpt
 
What is leaf clovers?
What is leaf clovers?What is leaf clovers?
What is leaf clovers?khanidthakpt
 

More from khanidthakpt (20)

สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6
สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6
สื่อ PPT เรื่อง There is,There are ป.6
 
PPT ทำใบงาน Part of body
PPT ทำใบงาน Part of bodyPPT ทำใบงาน Part of body
PPT ทำใบงาน Part of body
 
ใบงาน Part of body
ใบงาน Part of bodyใบงาน Part of body
ใบงาน Part of body
 
ประเภทการวิจัย
ประเภทการวิจัยประเภทการวิจัย
ประเภทการวิจัย
 
แบบฝึกหัด Listening
แบบฝึกหัด Listeningแบบฝึกหัด Listening
แบบฝึกหัด Listening
 
บทละครสั้น The merchant of Venice
บทละครสั้น The merchant of Veniceบทละครสั้น The merchant of Venice
บทละครสั้น The merchant of Venice
 
Chant Playway in Habit song
Chant Playway in Habit songChant Playway in Habit song
Chant Playway in Habit song
 
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัยแนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
 
วิเคราะห์บทแปล Twilight
วิเคราะห์บทแปล Twilight วิเคราะห์บทแปล Twilight
วิเคราะห์บทแปล Twilight
 
The merchant of Venice
The merchant of VeniceThe merchant of Venice
The merchant of Venice
 
Sickness lesson plan
Sickness lesson planSickness lesson plan
Sickness lesson plan
 
บทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษ
บทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษบทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษ
บทละคร Mangita and larina สำหรับแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษ
 
แบบสอบถาม
แบบสอบถาม แบบสอบถาม
แบบสอบถาม
 
แผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศร
แผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศรแผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศร
แผนการสอนระดับท้องถิ่น - ร.พ เจ้าพระยาอภับภูเบศร
 
สรุปนิทาน Anna karenina
สรุปนิทาน Anna kareninaสรุปนิทาน Anna karenina
สรุปนิทาน Anna karenina
 
Short story - Past tense
Short story - Past tenseShort story - Past tense
Short story - Past tense
 
Friends game
Friends gameFriends game
Friends game
 
Homeroom games for children
Homeroom games for childrenHomeroom games for children
Homeroom games for children
 
Who is Christiane Amanpour?
Who is Christiane Amanpour?Who is Christiane Amanpour?
Who is Christiane Amanpour?
 
What is leaf clovers?
What is leaf clovers?What is leaf clovers?
What is leaf clovers?
 

Love of others กิจกรรมโฮมรูม

  • 1. แผนจัดกิจกรรมโฮมรูม ชื่อกิจกรรม วิธีสู่การเป็นที่รัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/M ระยะเวลา 20 นาที (ตอนเช้าก่อนเรียนคาบแรก) วันที่จัด 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ................................................................................................................................................... สาระการเรียนรู้ สังคมไทยในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเป็นที่รักเป็นเรื่องสาคัญ ไม่ว่าใครก็อยากเป็นที่รักแก่คน รอบข้างเพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เราต้องเกี่ยวข้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และตราบใดที่ “มนุษย์ เป็นสัตว์สังคม” ตามคากล่าวของอริสโตเติลยังคงเป็นจริง เราก็ยังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างอยู่ และถ้า เราอยากจะเป็นที่รักของคนรอบข้าง ตัวเราต้องน่ารักก่อนคนรอบข้างถึงจะรัก จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น 2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตนให้เป็นที่รักใคร่ของเพื่อน ครูอาจารย์ และคนรอบข้าง เนื้อหา การเป็นที่รักของคนรอบข้างเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สาหรับมนุษย์ เพราะทุกคนล้วนต้องการความรัก อยาก เป็นที่สนใจของคนรอบข้าง การเป็นที่รักทาให้เรามีสังคม มีเพื่อนที่คอยให้คาปรึกษาคอยดูแลซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยความยินดีและจริงใจ ทุกคนล้วนต้องมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน การที่เราจะปฏิบัติตนให้ เป็นที่รักและสร้างความประทับใจให้คนรอบข้างนั้นมีวิธีการง่ายๆ 4 วิธี ดังนี้ 1. ทาตัวให้น่ารัก (Be good student) 2. มีอารมณ์ดี (Be in a good temper) 3. รู้จัก “ให้” และ “รับ” (Give and Get) 4. มองโลกในแง่ดี (Optimism) กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนา 1. ครูสนทนากับผู้เรียนโดยตั้งประเด็นให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นว่า 1.1 นักเรียนอยากมีเพื่อนเยอะๆ และเป็นที่รักของคนรอบข้างไหม? 1.2 นักเรียนคิดว่าการเป็นที่รักของคนรอบข้างสาคัญอย่างไร? 1.3 ถ้านักเรียนอยากมีเพื่อนเยอะๆ และเป็นที่รักของคนรอบข้างต้องทายังไง? ขั้นดาเนินการ 1. ให้นักเรียนตอบแบบสารวจตนเองว่า ตนเองปฏิบัติตัวเป็นที่รักมากเพียงใด? 2. ครูสนทนากับนักเรียนหลังทาแบบสารวจตนเองและขอตัวแทนนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ผลแบบสารวจของนักเรียนแต่ละคน
  • 2. ขั้นสรุป 1. ครูให้คาแนะนา 4 วิธีสู่การเป็นที่รักแก่นักเรียนและอภิปรายร่วมกับนักเรียนว่าแต่ละวิธีจะทา อย่างไรบ้าง 2. สรุปร่วมกันกับนักเรียนเกี่ยวกับ 4 วิธีสู่การเป็นที่รัก การวัดและการประเมินผล 1. การถาม-ตอบนักเรียนในชั้นเรียน 2. สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นของนักเรียน สื่อ/วัสดุอุปกรณ์ แบบประเมิน “คุณปฏิบัติตนเป็นที่รักสาหรับคนอื่นมากแค่ไหน?”
  • 3. แบบสารวจตนเอง “คุณปฏิบัติตัวเป็นที่รักมากแค่ไหน?” คาขีดเครื่องหมาย ในช่องที่ตนเองปฏิบัติ เคยทา ไม่เคยทา 1. แบ่งขนมให้เพื่อนทาน 2. โมโหเมื่อเพื่อนขัดใจ 3. พูดจาเยาะเย้ยเมื่อเพื่อนสอบตก 4. ยอมรับผิดเมื่อตัวเองทาผิดโดยไม่โทษผู้อื่น 5. ขอบคุณเมื่อคนอื่นให้ความช่วยเหลือ 6. ช่วยเหลือเพื่อนด้วยความเต็มใจเมื่อเพื่อนเดือดร้อน 7. ยิ้มแย้ม ทักทายคนอื่นอยู่เสมอ 8. ให้เพื่อนลอกข้อสอบ ลอกการบ้าน 9. พูดจากับเพื่อนด้วยความจริงใจไม่เสแสร้ง ดูถูกเพื่อน 10. เคารพน้อมน้อมต่อผู้อาวุโส Secret name ______________________ “Friendship is all about trusting each other, helping each other, loving each other and being crazy together.”
  • 4. Furious when your friends offend. Ridicule when your friends fall an exam. Admitted wrong when you were wrong. Have you ever help a friend in trouble? Let your friends cheat on your homework? Have you ever insults or say something bad on your friends? Have you ever respected your teacher? Pessimism การมองโลกในแง่ร้าย Optimism can help you overlook petty issues. การมองโลกในแง่ดีทาให้คุณมองข้ามปัญหาเล็กๆน้อยๆไปได้ Be optimism, be happy.มองโลกในแง่ดี แล้วจะมีความสุข ถ้าคุณอยากที่จะเป็นคนน่ารัก ก็ต้องเพิ่มคุณค่าของตัวเองด้วยคุณงามความดี และมองเห็นคุณค่าของคนอื่นใน สิ่งที่เป็นคุณงามความดีของเขา มีคาพูดที่ว่า ถ้าคุณสามารถรักตัวเองในสิ่งที่ตัวเองเป็น คุณก็สามารถรักคนอื่น ในสิ่งที่คนอื่นเป็นและความรักก็จะกลับมาหาคุณ ถ้าอยากจะได้ความรักจากใครก็จงให้ความรักแก่คนนั้นก่อน แนวคิดนี้เปรียบได้กับชีวิตการทางาน ไม่ว่าคุณจะทางานในองค์กรไหนก็ตาม แน่นอนทุกคนล้วนแต่ต้องการ ผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน โบนัส สวัสดิการต่างๆ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ กลับกันงานในความรับผิดชอบกลับอยากจะให้มีน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่ยังไม่นับรวม การหลบเลี่ยง หรือ อู้งาน ฯลฯ ก็คือ อยากทางานน้อยๆ แต่ได้เงินมากผลตอบแทนสูงๆ ซึ่งขัดกับความเป็นจริงในแง่ของการทาธุรกิจขององค์กร เพราะทุกองค์กรก็อยู่ได้ด้วย กาไรจากผลประกอบการ ซึ่งกาไรนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจาก ความร่วมมือร่วมใจ จากพนักงานในบริษัท "การให้" อย่างเต็มกาลังความสามารถจากพนักงานทุกคน จึงจะนามาซึ่งความสาเร็จของบริษัท แล้วจึงสะท้อน ผล กลับมายังพนักงานแต่ละคน "ได้รับ" ในรูปของ เงินเดือน หรือ โบนัส คือ "ให้" ก่อนแล้วจึง "ได้รับ" เหมือน ที่ Harvey Firestone กล่าวว่า "you get the best out of others when you give the best of yourself" แปลได้ว่า "คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากผู้อื่น ก็ต่อเมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป"