Osi
- 4. Layer 6 : Presentation Layer เป็นเลเยอร์สำหรับจัดเตรียมการรับและจัดโครงสร้างข้อมูล เพื่อส่งต่อให้เลเยอร์ถัดไป โดยอาจมีการแปลข้อความที่ได้เป็นโค้ด หรือมีการเข้ารหัส / ถอดรหัสข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ โดยกำหนดรูปแบบของการสื่อสาร อย่างเช่น ASCII , Text , EBCDIC, Binary และ JPEG รวมถึงการเข้ารหัส (Encryption) ก็รวมอยู่ในเลเยอร์นี้ด้วย ตัวอย่างเช่น โปรแกรม FTP ต้องการรับส่งโอนย้ายไฟล์กับเครื่อง Server ปลายทาง โปรโตคอล FTP จะอนุญาตให้ผู้ใช้ระบุรูปแบบของข้อมูลที่โอนย้ายกันได้ว่าเป็นแบบ ASCII Text หรือแบบ Binary เป็นต้น ๒ . ในการออกแบบระบบเครือข่ายข้างต้น มีแบบอ้างอิง OSI ( OSI Reference model ) อยู่ในระดับใด เพราะเหตุใด พร้อมอธิบายเหตุผลอย่างละเอียด
- 5. Layer 5 : Session Layer เป็นเลเยอร์ที่ควบคุมเซสซั่น ( Session ) การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายจัดการการสื่อสารระหว่างกัน ทั้งแบบ Full – duplex, Half-duplex และ Simplex โดยมีกระบวนการสร้างจุดตรวจสอบ การเคลื่อนย้ายเซสซั่น การจัดการ และการเริ่มต้นเซสซั่นใหม่ เลเยอร์นี้มักไม่ได้ถูกใช้ในโปรโตคอลเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต แต่จะถูกนำไปใช้เป็นส่วนของแอพพลิเคชั่น ( Application ) เพื่อใช้งานเกี่ยวกับกระบวนการ Remote Procedure Calls (RPC) ๒ . ในการออกแบบระบบเครือข่ายข้างต้น มีแบบอ้างอิง OSI ( OSI Reference model ) อยู่ในระดับใด เพราะเหตุใด พร้อมอธิบายเหตุผลอย่างละเอียด
- 6. Layer 4 : Transport Layer เป็นเลเยอร์ที่ทำหน้าที่จัดเตรียมการส่งผ่านข้อมูลระหว่างผู้ใช้งาน จัดเตรียมข้อมูลที่เชื่อถือได้ให้กับเลเยอร์ถัดไป โดยควบคุมความถูกต้องในการเดินทางของข้อมูล และความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น สำหรับโปรโตคอลที่ทำงานอยู่บนเลเยอร์นี้ ก็เช่น TCP ( Transmission Control Protocol ) และ UDP (User Datagram Protocol) ๒ . ในการออกแบบระบบเครือข่ายข้างต้น มีแบบอ้างอิง OSI ( OSI Reference model ) อยู่ในระดับใด เพราะเหตุใด พร้อมอธิบายเหตุผลอย่างละเอียด