SlideShare a Scribd company logo
1 of 21
Download to read offline
อ้างอิงจาก....
http://www.thaigoodview.com/node/82878
http://suphawan.wordpress.com/2010/09/04/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A
1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87
%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-p/
โครงงานหรือProject หมายถึง วิธีทางานที่เป็ นระบบขั้นตอนเพื่อทางานชิ้นใดชิ้นหนึ่งให้สาเร็จ
โครงงานจาแนกเป็ นประเภทต่างๆ ดังนี้
• โครงงานประเภทศึกษาค้นคว้า ได้แก่โครงงานที่ทาการศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แล
นาเสนอข้อมูล
• โครงงานประเภทสืบค้นหาข้อเท็จจริง ได้แก่โครงงานที่มีการทดลอง ออกปฏิบัติภาคสนาม
หรืออกสารวจ
• โครงานประเภทออกแบบและผลิตชิ้นงาน ได้แก่โครงานที่มีการออกแบบและผลิตชิ้นงาน
สรุปจากหนังสือส่งเสริมการพัฒนาการทาโครงานวิทยาศาสตร์ระดับโรงเรียน “โครงงาน
วิทยาศาสตร์แบบวิจัย” ของ สวทช และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
1. โครงงานมีความสาคัญอย่างไร
• - ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่สนใจ
• - สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง
• - ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง
• - ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ
• - ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดี
ความหมายของโครงงาน
2. หลักการเขียนโครงงานมีอะไรบ้าง
= * การเขียนโครงงานมีหลักการเขียนแตกต่างกันไปตามประเภทของโครงงาน รวบรวม
ข้อมูล (Survey research
project) ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศมาก
โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูลเป็ นการศึกษารวบรวมข้อมูลจากที่มีอยู่
แล้วนามาจัดจาแนกออกเป็ นหมวดหมู่ และนาเสนอรูปแบบต่าง ๆ
• 1. ขั้นกาหนดปัญหา/อยากรู้
• 2. ขั้นตั้งสมมติฐาน
• 3. ขั้นการรวบรวมข้อมูล
• 4. ขั้นการวิเคราะห์
• 5. ขั้นการอภิปราย
• 3. การบริหารโครงงานมีวิธีการอย่างไร
=* การบริหารโครงงานและการแก้ปัญหา เป็ นบทบาทของผู้รับผิดชอบหลักในการทา
โครงงานหรือหัวหน้าโครงงาน ซึ่งจะต้องมีบทบาทสาคัญ ดังนี้
• 1. ต้องทาความเข้าใจกับทีมงานเกี่ยวกับโครงงานที่ทาอย่างชัดเจน
• 2. ต้องให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเลือกทางานหรือรับผิดชอบร่วมกันทุกคน
• 3. ต้องมีตารางการทางานและตรวจสอบความก้าวหน้าของงานอย่างสม่าเสมอ
• 4. หากมีปัญหาเกิดขึ้นต้องปรึกษากันและช่วยกันแก้ไข
• 5. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มโครงงานอื่น ๆ
• 6. ช่วยกันนาเสนอและสรุปผลของโครงงาน
• 4. การประเมินผลโครงงานมีหลักการอย่างไร
= การประเมินผลโครงงาน คือ การประเมินความสาเร็จของโครงงาน โดยเน้นไปที่
ความสาเร็จ 3 ด้านได้แก่
• 1. ด้านพุทธิพิสัย คือการแลกเปลี่ยนความคิด ภาคทฤษฎี ความรู้ ความจา
• 2. ด้านทักษะพิสัย คือการทางานเน้นที่การวางแผนการทางาน กระบวนการทางาน และ
ผลสาเร็จของงาน
• 3. ด้านจิตพิสัย คือ ความสนใจ เจตคติต่องานและคุณค่าด้านจิตใจอื่น ๆ
อ้างอิงจาก....
http://thanapongkiatsujja.blogspot.com/2012/07/3.html
ขอบข่ายของโครงงาน
• 1. เป็ นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการ
ทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็น
มากแล้ว
• 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็ นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ
เป็ นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
• 3. นักเรียนเป็ นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วย
ตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
• 4. นักเรียนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล
รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
• 5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา
รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงาน
• 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์
• 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็ นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญืจะอยู่ใน
รูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
• 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ
• 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวัน
• 5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”
อ้างอิงจาก....
http://yukariisan.blogspot.com/2012/09/4.html
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
• เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือ
หน่วยการเรียนซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยสอนนี้
ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็ น อุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็ นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้
ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ
สอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือก เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนา
สื่อเพื่อการศึกษา เช่น
• 1.การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ
ประเทศไทย
• 2. โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน
• 3.โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก
• 4.โปรแกรมความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
• 5.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก
• 6.โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
• 7.โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
แหล่งที่มา
https://sites.google.com/site/walaipornskb/khorng-ngan-khxmphiwtexr
http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7
www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html
“การพัฒนาเครื่องมือ”
• ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
• โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ หมายถึง โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ
ผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค
แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือ
รายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณ์การสอนซึ่ง
อาจเป็ นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน
ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือก
เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร
เจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทยและสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงาน
เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม
ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝากอ่านออกเสียง
ภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้ คณิตศาสตร์
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
ที่มา https://sites.google.com/site/walaipornskb/khorng-ngan-khxmphiwtexr
http://namkwanmay.wordpress.com
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
• โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็ น
งานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็ นต้น และเป็ นโครงงานที่ผู้ทาต้อง
ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้ว
เสนอเป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งาร
จาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา
ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ
เป็ นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง
พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้น
• ตัวอย่าง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
• 1.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
• 2.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
• 3.การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา
• 4.การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
• 5.ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
• 6.ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
• 7.การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้ มข้อมูล
• 8.โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
• 9.โปรแกรมจาลองการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
ที่มา : http://chalad.wordpress.com/subject/20209-2/20209-lesson-3/
http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8
%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87
ความหมายโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
• โครงงานประยุกต์ใช้งาน หมายถึง โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน
อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสีและซอฟต์แวร์สาหรับการระบุ
คนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็ นการคิด
สร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ
วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการ
ทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้
ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
• มีการนาเอามัลติมีเดียไปประยุกต์ใช้งานในหลายๆ ด้าน เช่น
• · ด้านการศึกษา
• - ด้านการศึกษานั้นได้นาเอามัลติมีเดียไปพัฒนาใช้และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้เกิดเครื่องมือช่วย สอนต่างๆ มากมาย
และเกิดสื่ออิเล็กทรอนิกส์ช่วยสอนในรูปแบบต่างๆ
• - สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา โดยเป็ นเครื่องมือช่วย รวบรวม วิเคราะห์ ออกแบบ สร้าง จัดการ ใช้งานและ
ประเมินผล
• - คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ลักษณะมัลติมีเดีย
• - เผยแพร่การเรียนบนเว็บ เช่น e-Learning เป็ นต้น
• - เกิดการเรียนรู้ทางไกล
• · ด้านการฝึกอบรม
• - มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยสอน เรียกว่า e-Training มีส่วนช่วยให้พัฒนาศักยภาพทาง บุคลากรเป็ นอย่างมาก
• - ปัจจุบัน มีการพัฒนาเว็บสาหรับอบรมของสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง เช่น สถาบันพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา
• - ปัจจุบัน มีการพัฒนาเว็บสาหรับอบรมของสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง เช่น สถาบันพัฒนา
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
• · ด้านความบันเทิง
• - มัลติมีเดียได้รับความแพร่หลายในวงการบันเทิงเป็ นอย่างมาก เช่น ภาพยนต์ คาราโอเกะ เกมส์
ข่าว ละคร เป็ นต้น
• - เว็บไซต์ทีวี
• - เกมส์ออนไลน์
• · ด้านธุรกิจ มีความสะดวกเป็ นอย่างมาก
• - นาเสนองาน นาเสนอสินค้า
• - ประชุมทางไกล ทาให้การดาเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• · ด้านการประชาสัมพันธ์ มัลติมีเดียได้เป็ นปัจจัยหลักสาคัญ
• - นาเสนอ และเผยแพร่ข่าวสาร
• - การโฆษณาและการถ่ายทอด
• - ตู้ประชาสัมพันธ์
• · ด้านความเป็ นจริงเสมือน
• - ความจริงเสมือนเป็ นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของวงการเทคโนโลยีมัลติมีเดีย สามารถเลียนแบบการเรียนรู้
และสัมผัสผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ในโลกแห่งความเป็ นจริงเสมือน
• · ด้านโมบายเทคโนโลยี ได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น
• - เทคโนโลยีมัลติมีเดียในโทรศัพท์เคลื่อนที่ รูปแบบการใช้โมบายเทคโนโลยี M-Billing M-
Commerce M-Banking M-Entertainment M-Messaging
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ที่มา http://tamyokbee.wordpress.com/2011/
โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ ”
• โครงงานพัฒนาเกมโครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ ้้ หรื
อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พฒนาควรจะเป็ นเกมที่ไม่รุนแรงเน้นการใช้สมองเพื่อฝึ กคิด
อย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้
น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและ
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้
เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆตัวอย่ างโครงงานการพัฒนาโปรแกรม
ประยุกต์เค้าโครงโครงงานกราฟประยุกต์เป็ นลายผ้าด้วยโปรแกรม GSP

More Related Content

Similar to Worksheet 208 โครงงานคอมพิวเตอร์

ใบงานที่6
ใบงานที่6ใบงานที่6
ใบงานที่6Opp Phurinat
 
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงานใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงานTanyaporn Puttawan
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎีโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎีmcf_cnx1
 
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์miiztake
 
ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_
 ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_ ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_
ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_june41
 
โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3wipawanmmiiww
 
ใบงานที่6
ใบงานที่6ใบงานที่6
ใบงานที่6Mintra Han-kla
 

Similar to Worksheet 208 โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)

K6
K6K6
K6
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
K6
K6K6
K6
 
K6
K6K6
K6
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
ใบงานที่6
ใบงานที่6ใบงานที่6
ใบงานที่6
 
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงานใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎีโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
 
03
0303
03
 
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท การทดลองทฤษฎี
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท  การทดลองทฤษฎี ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท  การทดลองทฤษฎี
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท การทดลองทฤษฎี
 
ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_
 ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_ ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_
ประเภทของโครงงานคอมพ วเตอร_
 
โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3
 
ใบงานที่ 6 ทฤษฏี
ใบงานที่ 6 ทฤษฏีใบงานที่ 6 ทฤษฏี
ใบงานที่ 6 ทฤษฏี
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ใบงานที่6
ใบงานที่6ใบงานที่6
ใบงานที่6
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
K6222
K6222K6222
K6222
 
03
0303
03
 
Computer 3
Computer 3Computer 3
Computer 3
 

Worksheet 208 โครงงานคอมพิวเตอร์

  • 1.
  • 3. โครงงานหรือProject หมายถึง วิธีทางานที่เป็ นระบบขั้นตอนเพื่อทางานชิ้นใดชิ้นหนึ่งให้สาเร็จ โครงงานจาแนกเป็ นประเภทต่างๆ ดังนี้ • โครงงานประเภทศึกษาค้นคว้า ได้แก่โครงงานที่ทาการศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แล นาเสนอข้อมูล • โครงงานประเภทสืบค้นหาข้อเท็จจริง ได้แก่โครงงานที่มีการทดลอง ออกปฏิบัติภาคสนาม หรืออกสารวจ • โครงานประเภทออกแบบและผลิตชิ้นงาน ได้แก่โครงานที่มีการออกแบบและผลิตชิ้นงาน สรุปจากหนังสือส่งเสริมการพัฒนาการทาโครงานวิทยาศาสตร์ระดับโรงเรียน “โครงงาน วิทยาศาสตร์แบบวิจัย” ของ สวทช และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
  • 4. 1. โครงงานมีความสาคัญอย่างไร • - ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่สนใจ • - สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง • - ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง • - ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ • - ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดี ความหมายของโครงงาน
  • 5. 2. หลักการเขียนโครงงานมีอะไรบ้าง = * การเขียนโครงงานมีหลักการเขียนแตกต่างกันไปตามประเภทของโครงงาน รวบรวม ข้อมูล (Survey research project) ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศมาก โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูลเป็ นการศึกษารวบรวมข้อมูลจากที่มีอยู่ แล้วนามาจัดจาแนกออกเป็ นหมวดหมู่ และนาเสนอรูปแบบต่าง ๆ • 1. ขั้นกาหนดปัญหา/อยากรู้ • 2. ขั้นตั้งสมมติฐาน • 3. ขั้นการรวบรวมข้อมูล • 4. ขั้นการวิเคราะห์ • 5. ขั้นการอภิปราย
  • 6. • 3. การบริหารโครงงานมีวิธีการอย่างไร =* การบริหารโครงงานและการแก้ปัญหา เป็ นบทบาทของผู้รับผิดชอบหลักในการทา โครงงานหรือหัวหน้าโครงงาน ซึ่งจะต้องมีบทบาทสาคัญ ดังนี้ • 1. ต้องทาความเข้าใจกับทีมงานเกี่ยวกับโครงงานที่ทาอย่างชัดเจน • 2. ต้องให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเลือกทางานหรือรับผิดชอบร่วมกันทุกคน • 3. ต้องมีตารางการทางานและตรวจสอบความก้าวหน้าของงานอย่างสม่าเสมอ • 4. หากมีปัญหาเกิดขึ้นต้องปรึกษากันและช่วยกันแก้ไข • 5. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มโครงงานอื่น ๆ • 6. ช่วยกันนาเสนอและสรุปผลของโครงงาน
  • 7. • 4. การประเมินผลโครงงานมีหลักการอย่างไร = การประเมินผลโครงงาน คือ การประเมินความสาเร็จของโครงงาน โดยเน้นไปที่ ความสาเร็จ 3 ด้านได้แก่ • 1. ด้านพุทธิพิสัย คือการแลกเปลี่ยนความคิด ภาคทฤษฎี ความรู้ ความจา • 2. ด้านทักษะพิสัย คือการทางานเน้นที่การวางแผนการทางาน กระบวนการทางาน และ ผลสาเร็จของงาน • 3. ด้านจิตพิสัย คือ ความสนใจ เจตคติต่องานและคุณค่าด้านจิตใจอื่น ๆ
  • 9. ขอบข่ายของโครงงาน • 1. เป็ นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการ ทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็น มากแล้ว • 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็ นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็ นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ • 3. นักเรียนเป็ นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วย ตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม • 4. นักเรียนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ • 5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 10. ประเภทของโครงงาน • 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ การศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ • 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็ นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญืจะอยู่ใน รูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป • 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ ทดลองของสาขาต่างๆ • 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวัน • 5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
  • 11. ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา” อ้างอิงจาก.... http://yukariisan.blogspot.com/2012/09/4.html
  • 12. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา • เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือ หน่วยการเรียนซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็ น อุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็ นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ สอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือก เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนา สื่อเพื่อการศึกษา เช่น • 1.การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ ประเทศไทย • 2. โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน • 3.โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก • 4.โปรแกรมความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต • 5.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก • 6.โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ • 7.โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
  • 13. ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ” แหล่งที่มา https://sites.google.com/site/walaipornskb/khorng-ngan-khxmphiwtexr http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html
  • 14. “การพัฒนาเครื่องมือ” • ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ • โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ หมายถึง โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ ผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือ รายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณ์การสอนซึ่ง อาจเป็ นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือก เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร เจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทยและสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงาน เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝากอ่านออกเสียง ภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้ คณิตศาสตร์
  • 15. ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี” ที่มา https://sites.google.com/site/walaipornskb/khorng-ngan-khxmphiwtexr http://namkwanmay.wordpress.com
  • 16. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี • โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็ น งานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็ นต้น และเป็ นโครงงานที่ผู้ทาต้อง ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้ว เสนอเป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งาร จาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้น • ตัวอย่าง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี” • 1.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์ • 2.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ • 3.การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา • 4.การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ • 5.ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน • 6.ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน • 7.การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้ มข้อมูล • 8.โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น • 9.โปรแกรมจาลองการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
  • 17. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน” ที่มา : http://chalad.wordpress.com/subject/20209-2/20209-lesson-3/ http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8 %97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87
  • 18. ความหมายโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน • โครงงานประยุกต์ใช้งาน หมายถึง โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสีและซอฟต์แวร์สาหรับการระบุ คนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็ นการคิด สร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการ ทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง • มีการนาเอามัลติมีเดียไปประยุกต์ใช้งานในหลายๆ ด้าน เช่น • · ด้านการศึกษา • - ด้านการศึกษานั้นได้นาเอามัลติมีเดียไปพัฒนาใช้และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้เกิดเครื่องมือช่วย สอนต่างๆ มากมาย และเกิดสื่ออิเล็กทรอนิกส์ช่วยสอนในรูปแบบต่างๆ • - สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา โดยเป็ นเครื่องมือช่วย รวบรวม วิเคราะห์ ออกแบบ สร้าง จัดการ ใช้งานและ ประเมินผล • - คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ลักษณะมัลติมีเดีย • - เผยแพร่การเรียนบนเว็บ เช่น e-Learning เป็ นต้น • - เกิดการเรียนรู้ทางไกล • · ด้านการฝึกอบรม • - มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยสอน เรียกว่า e-Training มีส่วนช่วยให้พัฒนาศักยภาพทาง บุคลากรเป็ นอย่างมาก • - ปัจจุบัน มีการพัฒนาเว็บสาหรับอบรมของสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง เช่น สถาบันพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา
  • 19. • - ปัจจุบัน มีการพัฒนาเว็บสาหรับอบรมของสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง เช่น สถาบันพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา • · ด้านความบันเทิง • - มัลติมีเดียได้รับความแพร่หลายในวงการบันเทิงเป็ นอย่างมาก เช่น ภาพยนต์ คาราโอเกะ เกมส์ ข่าว ละคร เป็ นต้น • - เว็บไซต์ทีวี • - เกมส์ออนไลน์ • · ด้านธุรกิจ มีความสะดวกเป็ นอย่างมาก • - นาเสนองาน นาเสนอสินค้า • - ประชุมทางไกล ทาให้การดาเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น • · ด้านการประชาสัมพันธ์ มัลติมีเดียได้เป็ นปัจจัยหลักสาคัญ • - นาเสนอ และเผยแพร่ข่าวสาร • - การโฆษณาและการถ่ายทอด • - ตู้ประชาสัมพันธ์ • · ด้านความเป็ นจริงเสมือน • - ความจริงเสมือนเป็ นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของวงการเทคโนโลยีมัลติมีเดีย สามารถเลียนแบบการเรียนรู้ และสัมผัสผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ในโลกแห่งความเป็ นจริงเสมือน • · ด้านโมบายเทคโนโลยี ได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น • - เทคโนโลยีมัลติมีเดียในโทรศัพท์เคลื่อนที่ รูปแบบการใช้โมบายเทคโนโลยี M-Billing M- Commerce M-Banking M-Entertainment M-Messaging
  • 20. ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์” ที่มา http://tamyokbee.wordpress.com/2011/
  • 21. โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ ” • โครงงานพัฒนาเกมโครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ ้้ หรื อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พฒนาควรจะเป็ นเกมที่ไม่รุนแรงเน้นการใช้สมองเพื่อฝึ กคิด อย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้ น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้ เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆตัวอย่ างโครงงานการพัฒนาโปรแกรม ประยุกต์เค้าโครงโครงงานกราฟประยุกต์เป็ นลายผ้าด้วยโปรแกรม GSP