More Related Content
More from Pannathat Champakul
More from Pannathat Champakul (20)
2 1
- 1. วัสดุประเภทโลหะ (Metals) คือ วัสดุที่ได้จากการถลุงสินแร่ต่าง ๆ อันได้แก่ เหล็ก ทองแดง อลูมิเนียม นิเกิล ดีบุก
สังกะสี ทองคา ตะกั่ว เป็นต้น โลหะเมื่อถลุงได้จากสินแร่ในตอนแรกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นโลหะเนื้อค่อนข้างบริสุทธิ์ โลหะ
เหล่านี้มักจะมีเนื้ออ่อนไม่แข็งแรงเพียงพอที่จะนามาใช้ในงานอุตสาหกรรมโดยตรง ส่วนมากจะนาไปปรับปรุงคุณสมบัติ
ก่อนการใช้งาน
คุณสมบัติของวัสดุประเภทโลหะที่ต้องการในงานอุตสาหกรรม
1. เป็นตัวนาความร้อนได้ดี
2. เป็นตัวนาไฟฟ้าที่ดี
3. มีความคงทนถาวรตามสภาพ
4. ไม่เสื่อมสลายหรือเปลี่ยนแปลงสถานะภาพง่าย
5. เป็นของแข็งที่อุณหภูมิปกติ ยกเว้นโลหะปรอท
6. มีความแข็งและความเหนียวสูง ยกเว้นโลหะปรอท
7. ผิวมันขาว
8. มีการขยายตัวที่อุณหภูมิสู
2.1 ประเภทวัสดุโลหะ วัสดุโลหะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.1 วัสดุโลหะประเภทเหล็ก (Ferous Metals) หมายถึง โลหะที่มีพื้นฐานเป็นเหล็กประกอบอยู่ ได้แก่ เหล็ก
เหนียว เหล็กหล่อ เหล็กกล้า ฯลฯ เป็นวัสดุโลหะที่ใช้กันมากที่สุดในวงการอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็น
วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง สามารถปรับปรุงคุณภาพและเปลี่ยนแปลงรูปทรงได้หลายวิธี เช่น การหล่อ
การกลึง การอัดรีดขึ้นรูป เป็นต้น
2.2 วัสดุโลหะประเภทไม่ใช่เหล็ก (Non-Ferous Metals) หมายถึง โลหะที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหล็กเลยใน
ขณะที่เป็นโลหะบริสุทธิ์ ได้แก่ ดีบุก อลูมิเนียม สังกะสี ตะกั่ว ทองแดง ทองคา เงิน ทองคาขาว
แมกนีเซียม พลวง เป็นต้น วัสดุโลหะประเภทที่ไม่ใช่เหล็กนี้ บางชนิดราคาสูงกว่าเหล็กมาก จึงต้อง
กาหนดใช้กับงานทางอุตสาหกรรมบางประเภทที่เหมาะสมเท่านั้น เช่น ทองแดงใช้กับงานไฟฟ้ า ดีบุก
ใช้กับงานที่ต้องการทนต่อการกัดกร่อนเป็นสนิม อลูมิเนียมใช้กับงานที่ต้องการน้าหนักเบา เป็นต้น
- 2. ความสาคัญของเหล็ก
แร่โลหะเป็นสิ่งที่เกิดในธรรมชาตินับล้านปี แต่มนุษย์ที่เพิ่งรู้จักแยกโลหะจากแร่เพื่อนามาใช้ประโยชน์เมื่อไม่นานมา
นี้เอง เพราะจากการสารวจของนักโบราณคดี ได้พบสิ่งของเครื่องใช้ภายในพีระมิดทาด้วยทองคา เงิน ทองแดง และบรอนซ์
มนุษย์ในสมัยนั้นยังไม่รู้จักเหล็ก เพราะเตาถลุงแรสมัยนั้นใช้สาหรับหลอมทองแดง และทองคา ซึ่งไม่ร้อนพอที่จะใช้หลอม
เหล็กให้ละลายได้มนุษย์เพิ่งค้นพบวิธีการหลอมละลายเหล็กได้ราย 2,000 B.C.2
ปัจจุบันมนุษย์ได้นาเอาเหล็กมาใช้ประโยชน์
ในกิจการต่าง ๆ อย่างมากมาย และรู้จักวิธีการผลิตเหล็กชนิดต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมแก่การนาไปใช้งานเหล็กที่ผลิตนั้นถลุง
จากสินแร่ทั้งสิ้น และนาไปผ่านกระบวนการผลิต (Manufacturing Process) จนจาไปผลิตเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์และสิ่งอานวยความ
สะดวกอื่น ๆ ที่เกิดประโยชน์ต่อไป
เหล็กเป็นวัสดุอีกอย่างที่สาคัญที่สุดเพราะถือว่าเป็นวัสดุพื้นฐานของอุตสาหกรรมทั้งหลายเพราะเรานาเหล็ก
นามาใช้งานทั้งทางตรง เช่น ยานพาหนะ หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจากเหล็กและนามาใช้งานทางอ้อม เช่น อาหาร สิ่งทอ
หรือสิ่งพิมพ์ซึ่งผลิตซึ่งจากเครี่องจักรที่สร้างขึ้นจากเหล็กแร่เหล็กที่พบในธรรมชาติเกิดเป็นสารประกอบของเหล็กกับธาตุ
อื่นๆ ผสมปนกันอยู่ในดินและหินแร่เหล็กที่ได้จากการทาเหมืองแร่นั้น จะต้องนามาผ่านกระบวนการในการถลุงเพื่อทาให้
บริสุทธิ์ขึ้นเพื่อนาไปใช้งานต่อไป
สินแร่เหล็กที่พบ แบ่งได้ 5 ชนิด คือ
1. สินแร่แมกนิไตท์ (Magnetite) มีปริมาณเหล็ก 45-70%
2. สินแร่เรดเฮมาไตท์ (Red Haematite) มีปริมาณเหล็ก 40-65%
3. สินแร่บราวด์เฮมาไตท์ (Brown Haematite) มีปริมาณเหล็ก 40-60%
4. สินแร่ซิเดอร์ไรต์ (Siderite) มีปริมาณเหล็ก 25-40%
5. สินแร่ไพไรต์ (Iron Pyrite) มีปริมาณเหล็ก 60-65%