Cc
- 2. แนะนำให้รู้จัก Creative Common เพื่อนๆ อาจเห็น ตัวย่อ CC ตามเว็ปซ์ไซด์ สื่อสารสนเทศต่างๆ มากมาย แต่แล้วก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น แล้วมันคืออะไร ???
- 3. กล่าวนำกันก่อน ตามคำกล่าวที่ถกเถียงกันว่า โลกที่สมดุลระหว่าง " ลิขสิทธิ์ " และ " เสรีภาพการเผยแพร่ผลงาน " อยู่ตรงไหนบนโลกออนไลน์ ซึ่งอาจจะมีเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่แท้จริงได้ บนโลกออนไลน์ ........ เราจะกล่าวถึงลิขสิทธิ์ และ เสรีภาพการเผยแพร่ผลงาน บนโลกออนไลน์ ให้ดูกันก่อน >>>>>>
- 4. ทุกคนคงรู้จักคำว่าลิขสิทธิ์ดี งานทุกชิ้นที่สร้างขึ้นใน สาขาวรรณกรรม ศิลปะ จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นบล็อก หรือ แฟนฟิค กฏหมายได้รับประกันสิทธิของผู้สร้างสรรค์ไว้ ว่าเป็นผู้เดียวที่มีอำนาจในการจำหน่าย จ่ายแจก และทำสำเนา สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับงานที่ทำเพื่อการค้า พวกคุณสามารถยอมรับได้แค่ไหนกันว่า สำหรับการนำงานของคุณไปเผยแพร่ซึ่งมีบางคนบอกว่าห้าม copy ไปลงที่อื่นโดยเด็ดขาด แต่กลับมีบางคนบอกว่า เอาไปได้แต่ต้องลงเครดิตนะและห้ามแก้ไข ซี่งการพูดเหล่านี้เป็นเรื่องพูดปากเปล่า ไม่มีการเขียนสัญญาลายลักษณ์อักษรเลยสักนิดเดียว ดังนั้น >>> สัญญาแบบครีเอทีฟ คอมมอน ( CC ) จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง ลิขสิทธิ์ กับอนารยธรรมทางปัญญา
- 5. ซึ่งก็กล่าวต่อได้อีกว่า สมดุลระหว่าง " ลิขสิทธิ์ " และ " เสรีภาพการเผยแพร่ผลงาน " บนโลกออนไลน์ยังคงเป็นปัญหาถกเถียงกันจนถึงทุกวันนี้ กลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ผลงานสร้างสรรค์ที่มุ่งหวังรับใช้สังคมในบางรายการ ยังคงถูกจำกัดกรอบด้วยการสงวนสิทธิ และลงท้ายด้วยทางเลือก 2 ทางคือ ผู้ใช้จะต้องดำเนินการขออนุญาต หรือลักลอบใช้งานโดยไม่แจ้งเจ้าของสิทธิ และแล้ว จึงต้องมี Creative Common มาช่วยปลดล็อคปัญญาเหล่านี้นั้นเอง ซึ่งส่งผลหลายๆอย่างแก่วงการอินเตอร์เน็ตไทย
- 6. Creative Common ( CC ) กล่าวสั่นๆได้ว่าเป็น “ จุดเริ่มเสรีภาพโลกออนไลน์” ที่มา ครีเอทีฟคอมมอนส์ คือ องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรจัดตั้งขึ้นขยายขอบข่ายของการใช้สื่อต่างๆ ให้กว้างขึ้นโดยไม่จำกัดที่สัญญาอนุญาตของสื่อนั้นๆ จะเอื้อให้มีการใช้สื่อทั้งทางภาพ เสียง ข้อมูล โดยการแบ่งแยกสัญญาอนุญาตย่อยออกสำหรับการแจกจ่ายและการใช้ข้อมูล โดยการอ้างอิงถึงเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม ก่อตั้งโดย ลอว์เรนซ์ เลสสิก
- 7. กลไก ของ Creative Common License มีส่วนประกอบ 4 อย่าง 1.Attribution : ผู้ใช้จะต้องระบุที่มาของงานว่าต้นฉบับเป็นของใคร 2.Noncommercial : ห้ามใช้ทางการค้า 3.No Derivative works : ห้ามแก้ไขต้นฉบับ 4.Share Alike : ถ้ามีการแก้ไขต้นฉบับ ( a . k . a สร้าง derivative works ) ต้องเผยแพร่ด้วยสัญญาอนุญาตเดิม ข้อมูลจาก : http://www.kitty.in.th/index.php?room=article&id=266
- 8. Creative Common อื่นๆ ที่ใช้งานเฉพาะ 1.Developing Nations license เปิดโอกาสให้ใช้งานอย่างอิสระสำหรับประเทศกำลังพัฒนา 2.Sampling license สำหรับนำ ' บางส่วน ' ของงานไปทำต่อ เช่นตัดบางส่วนของเพลง วิดีโอ ไปใช้ 3.Founders' Copyright ใช้กำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการคุ้มครอง แทนที่จะให้คุ้มครองโดยกฏหมายลิขสิทธิ์ 4.CC - GPL กับ CC - LGPL GNU GPL และ LGPL ตามลำดับ มี common deed legal code และ digital code กำกับไว้ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวก ข้อมูลจาก : http://www.kitty.in.th/index.php?room=article&id=266
- 10. การเลือกใช้สัญญาอนุญาตแบบใดแบบนึงขึ้นกับเจตนาว่าเราต้องการเผยแพร่งานของ เราอย่างไร ????? ลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองงานโดยผูกขาดสิทธิ์ทุกอย่างกับเจ้าของงานเพียงผู้ เดียว ส่วนสัญญาอนุญาตที่นิยมใช้หลายๆ ตัวจะเน้นเรื่องการเผยแพร่ซอฟต์แวร์ Creative Common License มีความยืดหยุ่น อีกทั้งมีกลไกที่ช่วยให้เข้าใจและเข้าถึงงานได้ง่ายขึ้น จึงเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่อยากจะเผยแพร่ผลงานผ่านสื่อออนไลน์ สรุป ดังนั้น
- 11. จัดทำโดย นาย กษิดิศ นาคทรรพ ม .6/12 รร . สตรีวิทยา 2 แหล่งอ้างอิง http :// www . bangkokbiznews . com