SlideShare a Scribd company logo
1 of 174
Download to read offline
หนังสือ e-book : คู่มือ Inkscape
ผู้เขียน : วสันต์ คุณดิลกเศวต, wasankds@gmail.com,
www.facebook.com/wasankds
พิมพ์ครั้งที่ 1 : 5 กุมภาพันธ์ 2012
จัดทำาและเผยแพร่โดย : ชมรมสวรรค์บนดิน, www.poeclub.org
จัดทำาโดยใช้ซอฟต์แวร์ : Ubuntu, LibreOffice, Inkscape, Gimp, Shutter
หนังสือ e-book “คู่มือ Inkscape” อนุญาตให้แจกจ่าย ทำาสำาเนา โดยไม่คิด
มูลค่า แต่ห้ามจำาหน่าย ดัดแปลง หรือแก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใด นอกจากจะได้รับ
อนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
ชื่อและเครื่องหมายการค้าที่อ้างถึง เป็นของเจ้าของหรือบริษัทแต่ละราย นาย
วสันต์ คุณดิลกเศวต มิได้อ้างความเป็นเจ้าของ ตัวแทนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องแต่
อย่างใด
หนังสือ e-book นี้ ถูกออกแบบให้พิมพ์นกระดาษ A4 ทั้ง
ด้านหน้าและด้านหลัง
“ลดใช้กระดาษ ลดโลกร้อน”
คำำนำำจำกผู้เขียน
Inkscape เป็นซอฟต์แวร์วาดภาพแบบ Vector ที่มีลักษณะการใช้งานเหมือนกับ Adobe
Illustrator หรือ Corel Draw ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ Inkscape เป็นซอฟต์แวร์
โอเพ่นซอร์สที่เป็นของฟรี สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีๆ ถูกกฎหมาย 100% ตามทัศนะของผู้
เขียน Inkscape เป็นซอฟต์แวร์วาดภาพแบบ Vector ที่ดีที่สุด ในตระกูลโอเพ่นซอร์ส ตอบโจทย์
งานด้าน Graphic ได้อย่างลงตัว ไม่แพ้ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ชื่อดังทั้งหลาย
ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ที่เปิดเผย Source code ซึ่งอนุญาตให้นำาไปใช้ ทำา
สำาเนา แจกจ่าย และแก้ไขปรับปรุงได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่มีก็ได้ แต่ประเด็นสำาคัญก็คือ ต้อง
เปิดเผย Source code ที่ถือเป็นหัวใจสำาคัญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวนั้นๆ ซอฟต์แวร์
โอเพ่นซอร์สส่วนใหญ่เป็นของฟรี ตัวที่ใช้งานกันอย่างกว้างขวางที่เป็นของฟรี ก็เช่น Ubuntu
เทียบเท่ากับ MS Windows, LibreOffice เทียบเท่ากับ MS Office, Gimp เทียบเท่ากับ
Photoshop เป็นต้น
ทำำไมเรำต้องให้ควำมสนใจกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส? ประเด็นสำาคัญก็คือ เพราะราคาซอฟต์แวร์เชิง
พาณิชย์ มีราคาสูงถึงสูงมาก ผู้คนจำานวนมาก จึงหันไปใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน ซื้อแผ่นก๊อป ดาวน์โหลด
ของผิดกฎหมายมาใช้ หรือก็คือ เลือกที่จะใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์
ตัวเลขการละเมิดลิขสิทธิ์ทั่วโลกที่ผู้เขียนทราบมา มีบางอย่างสะกิดใจให้ต้องคิด อเมริกำ ซึ่งเรา
ทราบกันดีว่า เป็นผู้นำาด้านการพัฒนาซอร์ฟแวร์หมายเลข 1 ของโลก ที่นี่มีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์
20% ตำ่าที่สุดในโลก ญี่ปุ่น 21% โซนยุโรปอยู่ที่ 25-50% ประเทศไทย 73% โซนแอฟริกาเกิน
75% แปลกที่ตัวเลขเหล่านี้ สัมพันธ์กับความเจริญของประเทศด้วย ประเทศใดที่ตัวเลขการละเมิด
ลิขสิทธิ์ตำ่า เกือบจะฟันธงได้เลยว่า เป็นผู้นำาด้านความคิดด้วย ตัวเลขบ่งบอกลำาดับไล่ตามกันมาเลยที
เดียว ส่วนประเทศใดที่ตัวเลขสูง คล้ายกับว่า ต้องรอให้ประเทศอื่นคิดก่อน แล้วค่อยทำาตาม
ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ รากมันฝังลึกมาก มองเผินๆ เหมือนเราได้ประโยชน์ ได้ใช้ของฟรี
ประหยัดเงิน แต่จริงๆหากมองในภาพรวม เราเสียเอกราชทางความคิดไปแล้ว ผู้เขียนเชื่อว่าหลายๆ
คน ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่กับมันเลย(รวมทั้งผู้เขียนด้วย) ถูกปลูกนิสัย ถูกบ่มเพาะ ถูกสอนให้ใช้ของเถื่อน
มาตั้งแต่เด็ก จนไม่มีจิตสำำนึกว่ำ กำรใช้ของเถื่อนนั้นผิดอีกแล้ว จริงๆแล้ว นี่เป็นโครงสร้างที่ทำาให้
ประเทศไม่มีความคิดใหม่ๆ ต้องรอให้ต่างชาติคิดก่อนแล้วเราค่อยทำาตาม “ ใครจะไปคิด ในเมื่อมีคน
คิดให้ มีคนทำำให้ใช้ฟรีๆ” หรือ “ใครจะไปคิด คิดไป ขำยไป ก็สู้ของเถื่อนไม่ได้”
แท้จริงแล้ว องค์กรหรือใครก็ตามที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ท่านเพียงรอวันพิพากษาเท่านั้น
หากท่านยังเป็นองค์กรเล็ก ท่านก็เป็นเพียงปลาเล็กปลาน้อย แต่วันใดที่ท่านเติบโตเป็นปลาใหญ่
ท่านมีโอกาสสูงที่จะถูกจับไปขาย หรือมีโอกาสสูงที่จะถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์ ท่ำนจะไปรู้ได้อย่ำงไรว่ำ
พนักงำนในองค์กรไม่พอใจท่ำนอย่ำงไร? ท่ำนทำำให้ใครไม่พอใจไว้หรือเปล่ำ? เขำร้อนเงินอยู่หรือ
เปล่ำ? หากเมื่อใดมีการแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์ไปยังองค์กรที่ตรวจจับโดยเฉพาะ ผู้แจ้งมีสิทธิ์ได้รับรางวัล
สูงสุด 250,000 แต่สำาหรับองค์กรของท่าน ต้องเสียเงินเป็นจำานวนมาก ต้องว่ากันเป็นหลักล้านหลัก
สิบล้านเลยทีเดียว กรรมการองค์กรทุกท่าน ต้องถูกดำาเนินคดี เตรียมทนายไว้ได้เลย
จากประสบการณ์ในการรณรงค์ การเป็นวิทยากรอบรมให้กับองค์กรต่างๆ ผู้เขียนพบรูปแบบที่น่า
สนใจประการหนึ่ง องกรค์ใด ที่ให้ความสำาคัญกับลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ องกรค์นั้นมักมีระบบการ
ทำางานที่ดี และยังดูแลพนักงานได้ดีด้วย สังเกตุได้จากสวัสดิการต่างๆ หากใครทำางานในองค์กร
ลักษณะนี้ ผมเชื่อว่าคงมีความสุข และยังเป็นองค์กรที่มั่นคงด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม องกรค์ใดที่
ไม่สนใจเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ การทำางานมักไม่เป็นระบบ เต็มไปด้วยปัญหา เน้นรายรับ ประหยัด
ค่าใช้จ่าย โดยไม่สนใจคนรอบข้าง เฉพาะเรื่องคอมพิวเตอร์ ก็ต้องแก้ปัญหาเช้ายันคำ่า ไวรัสบ้าง
สปายแวร์บ้าง วันๆไม่ต้องทำาอะไรแก้ปัญหาภายในอย่างเดียว การดูแลพนักงานก็ไม่ดีตามไปด้วย
พนักงานลาออกบ่อย ทำางานไม่มีความสุข แห้งแล้งสวัสดิการ องกรค์ใดที่เถื่อนบ้าง แท้บ้าง ก็ครึ่งๆ
กลางไปด้วย นี่เป็นรูปแบบที่ผู้เขียนค้นพบ ไม่ได้แต่งเรื่องประการใด หากท่านใดค้นพบว่าไม่ได้เป็น
อย่างนี้ ก็ส่งความเห็นมาได้
ประเทศของเรายังต้องการความคิดและจินตาการอีกมากมายนัก หากเราเสียเอกราชทางความคิดไป
แล้ว ประเทศจะพัฒนาไปได้อย่างไร โลกนี้จะน่าเบื่อแค่ไหนหากมนุษย์ไม่ใช้จินตนาการ
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ส่งเสริมการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ผู้เขียนจึงเขียนคู่มือการใช้
งานซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สบางตัวเพื่อแจกฟรี ทั้งนี้หากมีข้อติชมประการใดกรุณาส่งมาความคิดเห็น
มาที่ wasankds@gmail.com
วสันต์ คุณดิลกเศวต
ผู้เขียนและวิทยำกรอบรมกำรใช้งำน
LibreOffice, Inkscape และ Gimp
หมำยเหตุ : เนื่องจำกไม่มีผู้ช่วยพิสูจน์อักษร หำกพบข้อผิดพลำดประกำรใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
สำรบัญ
บทที่ 1 : แนะนำำ Inkscape 1
1.1 : รู้จักกับ Inkscape............................................................................................1-1
1.2 : พื้นฐานการสร้างภาพแบบ Vector..................................................................1-2
บทที่ 2 : มุมมองในกำรทำำงำน 1
2.1 : หน้าจอ Inkscape (Interface)........................................................................2-1
2.2 : การย้ายตำาแหน่ง Toolbars.............................................................................2-3
2.3 : การเลื่อนหน้าจอ (Pan)....................................................................................2-3
2.4 : เครื่องมือใน Toolbox.....................................................................................2-4
2.5 : การ Zoom พื้นที่ทำางาน..................................................................................2-5
2.6 : Display mode...............................................................................................2-6
2.7 : Guides, Grids และ Snapping.......................................................................2-6
ก. Guildes.................................................................................................................. 2-6
ข. Grids....................................................................................................................... 2-7
ค. Snapping............................................................................................................... 2-9
บทที่ 3 : กำรทำำงำนกับไฟล์ 1
3.1 : การสร้าง การเปิด และการบันทึกไฟล์.............................................................3-1
3.2 : การ Import ภาพ Bitmap..............................................................................3-2
3.3 : เปลี่ยนจาก Embed เป็น Link หรือจาก Link เป็น Embed..........................3-4
3.4 : การ Export เป็นภาพ Bitmap ......................................................................3-5
3.5 : การ Slice ภาพ................................................................................................3-6
3.6 : การ Import จาก Open Clip Art Library.....................................................3-7
บทที่ 4 : วำดรูปร่ำงเรขำคณิต 1
4.1 : สีเหลี่ยมผืนผ้า(Rectangles)และสี่เหลี่ยมจตุรัส(Squares)..............................4-1
4.2 : วงรี(Ellipses), วงกลม(Circles) และส่วนของเส้นโค้ง(Arcs)............................4-2
4.3 : รูปหลายเหลี่ยม(Polygons)และรูปดาว(Stars)................................................4-3
4.4 : วาดรูปก้นหอย(Spirals)...................................................................................4-4
4.5 : แปลงโครงสร้างรูปร่างเรขาคณิต (Object to path).......................................4-6
4.6 : ตั้งค่าเริ่มต้นให้กับการวาดรูปร่างเรขาคณิต......................................................4-6
บทที่ 5 : กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น 1
5.1 : Undo และ Redo...........................................................................................5-1
5.2 : Copy, Cut, Paste, Duplicate และ Clone..................................................5-1
ก. การ Cut, Copy, Paste และ Duplicate...............................................................5-1
ข. การ Clone............................................................................................................. 5-2
ค. Copy และ Paste โดยการลากรูปร่าง.....................................................................5-2
5.3 : การเลือกรูปร่าง (Selecting objects).............................................................5-2
ก. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Mouse................................................................................5-2
ข. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Keyboard..........................................................................5-4
5.4 : Groups และ Ungroups ...............................................................................5-4
5.5 : Z-order (ลำาดับชั้นของรูปร่าง)........................................................................5-5
5.6 : Layers (ลำาดับชั้นของภาพ).............................................................................5-6
5.7 : การล็อค(Lock)และการซ่อน(Hide) รูปร่างทีละตัว..........................................5-9
บทที่ 6 : กำรตกแต่งพื้นและเส้นขอบ 1
6.1 : Color palette................................................................................................6-1
ก. การใส่สีโดยใช้ Color palette................................................................................6-1
ข. การเปลี่ยนชุดสีใน Color palette..........................................................................6-1
6.2 : ข้อสังเกตุ : ขนาดเส้นขอบและขนาดพื้นที่.......................................................6-2
6.3 : หน้าต่าง Fill and Stroke...............................................................................6-2
6.4 : ตัวบอกสถานะการใส่สี (Style Indicator).......................................................6-3
6.5 : การใส่สีแบบ Flat color(สีเดียว) โดยใช้หน้าต่าง Fill and Stroke................6-4
6.6 : ระบบสี (RGB, HSL, CMYK, Wheel)..............................................................6-4
6.7 : Dropper Tool................................................................................................6-6
6.8 : รูปแบบเส้นขอบ(Stroke style).......................................................................6-7
6.9 : การเปลี่ยนสี Markers ให้เป็นสีเดียวกับเส้น....................................................6-8
6.10 : การสร้าง Markers ใช้เอง..............................................................................6-9
6.11 : การใส่ Gradients..........................................................................................6-9
6.12 : การปรับแต่ง Gradients.............................................................................6-10
6.13 : Gradient editor........................................................................................6-11
6.14 : Option สำาหรับการ Tranform รูปร่างที่ใส่Gradient ...............................6-13
6.15 : การปรับแนวของ Gradient........................................................................6-13
6.16 : Pattern.......................................................................................................6-15
6.17 : Option สำาหรับการ Tranform รูปร่างที่ใส่ Pattern.................................6-17
6.18 : Fill rule (Even-odd VS Non-zero).........................................................6-17
บทที่ 7 : กำรแปรรูปร่ำง (Tranformation)1
7.1 : สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำา Tranformation..................................................................7-1
7.2 : การเคลื่อนย้ายรูปร่าง (Moving)......................................................................7-2
7.3 : การย่อหรือขยายรูปร่าง (Scaling)...................................................................7-4
7.4 : การหมุนรูปร่าง (Rotating)..............................................................................7-6
7.5 : การเฉือนรูปร่าง (Skewing).............................................................................7-8
7.6 : การกลับด้านรูปร่าง (Flipping)........................................................................7-8
บทที่ 8 : พำธ (Paths) 1
8.1 : พาธ( Paths) คืออะไร?....................................................................................8-1
8.2 : Bezier curves พื้นฐานสำาคัญของพาธ............................................................8-1
8.3 : Pencil tool.....................................................................................................8-2
8.4 : ลดจำานวน Node ด้วย Simplify.....................................................................8-3
8.5 : Bezier tool (หรือ Pen tool).........................................................................8-4
8.6 : Calligraphy tool............................................................................................8-6
8.7 : การใช้ Calligraphy tool วาดเส้นขนาน......................................................8-10
8.8 : การสร้างพาธ โดยใช้ Object to Path และ Stroke to Path......................8-10
บทที่ 9 : กำรปรับแต่งพำธ 1
9.1 : การใช้ Node tool ปรับแต่งพาธ....................................................................9-1
9.2 : การจัดเรียง Nodes โดยใช้หน้าต่าง Align and Distribute...........................9-7
9.3 : การปรับแต่ง Nodes จำานวนมาก ด้วยเทคนิค Sculting nodes....................9-7
9.4 : การสร้าง Offset path....................................................................................9-8
9.5 : การกลับทิศทางเส้นพาธ (Reverse path).......................................................9-9
บทที่ 10 : กำรผสมพำธ 1
10.1 : Combine และ Break Apart.....................................................................10-1
10.2 : Union.........................................................................................................10-2
10.3 : Difference.................................................................................................10-2
10.4 : Intersection...............................................................................................10-3
10.5 : Exclusion...................................................................................................10-3
10.6 : Division......................................................................................................10-4
10.7 : Cut Path....................................................................................................10-4
10.8 : Clipping and Masking.............................................................................10-5
บทที่ 11 : Live Path Effects (LPEs) 1
11.1 : Live Path Effects คืออะไร?......................................................................11-1
11.2 : Bend...........................................................................................................11-3
11.3 : Construct Grid..........................................................................................11-3
11.4 : Envelope Deformation..........................................................................11-4
11.5 : Gear............................................................................................................11-4
11.6 : Hatches (Rough)......................................................................................11-5
11.7 : Interpolate Sub-Paths ...........................................................................11-7
11.8 : Knot ..........................................................................................................11-8
11.9 : Pattern Along Path.................................................................................11-8
11.10 : Ruler .......................................................................................................11-9
11.11 : Sketch ..................................................................................................11-10
11.12 : Spiro Spline ........................................................................................11-10
11.13 : Stitch Sub-Paths ................................................................................11-11
11.14 : VonKoch................................................................................................11-13
บทที่ 12 : ข้อควำม (Text) 1
12.1 : การสร้างข้อความด้วย Text tool...............................................................12-1
12.2 : การพิมพ์อักขระพิเศษโดยใช้หน้าต่าง Glyphs ...........................................12-2
12.3 : การเลือกข้อความ........................................................................................12-2
12.4 : การจัดรูปแบบข้อความ...............................................................................12-3
12.5 : การวางข้อความบนพาธ...............................................................................12-7
12.6 : การวางข้อความในรูปร่าง............................................................................12-9
บทที่ 13 : กำรเรียงและกำรกระจำย 1
13.1 : Align and Distribute................................................................................13-1
13.2 : Rows and Columns.................................................................................13-2
บทที่ 14 : กำรสร้ำงตัว Clones แบบเรียงรำย 1
14.1 : หน้าต่าง Create Tiled Clones.................................................................14-1
ก. Symmetry tab....................................................................................................14-3
ข. Shift tab.............................................................................................................. 14-6
ค. Scale tab............................................................................................................ 14-8
ง. Rotation tab.......................................................................................................14-9
จ. Blur & opacity tab..........................................................................................14-10
ฉ. Color tab..........................................................................................................14-11
ช. Trace tab..........................................................................................................14-12
บทที่ 15 : Tool อื่นๆ 1
15.1 : Tweak tool................................................................................................15-1
ก. Tweaking Objects..............................................................................................15-2
ข. Tweaking Paths ................................................................................................15-3
ค. Tweaking Colors................................................................................................15-4
15.2 : Bucket fill tool.........................................................................................15-5
15.3 : 3D Box tool.............................................................................................15-8
15.4 : Spray tool...............................................................................................15-13
15.5 : Eraser tool..............................................................................................15-15
บทที่ 16 : กำรแปลงภำพ Bitmap เป็นภำพ Vector 1
16.1 : การทำา Trace bitmap................................................................................16-1
ก. Single scan........................................................................................................16-2
ข. Multiple scans..................................................................................................16-3
ค. TAB Options......................................................................................................16-7
บทที่ 1 : แนะนำำ Inkscape
1.1 รู้จักกับ Inkscape
ภาพ Digital หรือภาพที่สร้างด้วยโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ก็คือ
1.Raster(หรือ Bitmap) และ 2.Vector
Inkscape เป็นโปรแกรมวาดภาพแบบ Vector เป็นโปรแกรมในตระกูลเดียวกับ Adobe
Illustrator หรือ Corel Draw ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ Inkscape เป็น Open source ที่
สามารถนำามาใช้งานได้ฟรี
Raster (หรือ Bitmap) เป็นภาพที่ประกอบด้วยจุดเล็กๆ เรียงตัวกัน ซึ่งเรามักเรียกจุดเหล่านี้
ว่า Pixels ภาพแบบ Raster เช่น JPG, BMP,GIF หรือ PNG เป็นต้น คุณภาพของภาพถูก
กำาหนดโดยจำานวน Resolution หรือ ความละเอียดของจำานวน Pixels ต่อตารางนิ้ว มีหน่วย
เป็น PPI เช่น 72 PPI, 90 PPI (สำาหรับใช้งานบน Web ,จอคอมพิวเตอร์, TV) หรือ 300 PPI,
600 PPI (สำาหรับงานสิ่งพิมพ์)
Vector เป็นภาพที่สร้างด้วยการคำานวณทางคณิตศาสตร์ ข้อดีก็คือ สามารถขยายภาพมาก
เท่าไรก็ได้ โดยที่ภาพไม่แตก ภาพแบบ Vector เช่น SVG, EPS, PS, AI, หรือ CDR เป็นต้น
ไฟล์มาตราฐานของ Inkscape ก็คือ SVG (Scaleble Vector Graphics) SVG เก็บข้อมูล
ในรูปแบบของ XML และเป็นมาตราฐานที่กำาหนดโดย W3C ( Wolrd Wide Web
Consortium ) ดังนั้น SVG จึงเป็นมาตราฐานเปิดและเป็นมาตราฐานสากลด้วย
ภำพแบบ Vector สำมำรถขยำยได้ไม่จำำกัด
โดยภำพไม่แตก
ภำพแบบ Raster ยิ่งขยำย ภำพยิ่งแตก
บทที่ 1: แนะนำำ Inkscape [1-1]
1.2 พื้นฐำนกำรสร้ำงภำพแบบ Vector
พื้นฐานการวาดภาพแบบ Vector คือ การสร้างเส้น หรือ สร้างวงปิด แล้วนำามาประกอบกัน
เป็นภาพ เช่น วางเป็นชั้นๆ เป็นต้น โดยแต่ละหน่วยจะถูกเรียกว่า “รูปร่าง” บ้าง “Object”
บ้าง
[1-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
บทที่ 2 : มุมมองในกำรทำำงำน
2.1 หน้ำจอ Inkscape (Interface)
1. Menu Bar เมนูรวมคำาสั่งต่างๆที่ใช้ในโปรแกรม
2. Commands Bar แถบปุ่มคำาสั่งที่ใช้บ่อยๆ เช่น ปุ่มสร้างเอกสารใหม่, ปุ่มบันทึกไฟล์ เป็นต้น
3. Snap Controls Bar แถมปุ่มคำาสั่งควบคุมการปิด/เปิด Snap(แรงดึงดูด) แบบต่างๆ
4. Rulers ไม้บรรทัด มีทั้งแนวตั้งและแนวนอน สามารถเปลี่ยนหน่วยที่แสดงบน
ไม้บรรทัดได้ที่ File > Document Properties (Shift+CTRL+D) >
(TAB) Page เลือก Default units ที่ต้องการ
CTRL+R = ซ่อน/แสดงไม้บรรทัด (View > Show/Hide > Rulers)
บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-1]
5. Toolbox แถบปุ่มเครื่องมือ ที่ใช้ในการวาด ตกแต่ง หรือแก้ไขรูปร่าง
6. Tool Controls Bar (หรือ Controls Bar) แถบนี้ เปลี่ยนไปตามเครื่องมือบน Tool Box ที่กำาลัง
ถูกใช้งาน Controls Bar จะแสดงรายละเอียดต่างๆของเครื่องมือ เพื่อใช้ใน
การปรับแต่งการใช้งาน
7. Canvas พื้นที่ทำางาน เราสามารถทำางานหรือวาดภาพไว้ตรงไหนก็ได้บน Canvas
8. Page Page เป็นส่วนหนึ่งของ Canvas เมื่อสั่งพิมพ์จะพิมพ์เฉพาะส่วนที่อยู่ใน
Page เท่านั้น นอกจากนี้ การอ้างอิงตำาแหน่งต่างๆ จุดเริ่มต้นของ Page จะ
เป็นจุดหลักในการอ้างอิง
พิกัดจุดเริ่มต้น(0,0) ของ Page อยู่ที่มุมซ้ายล่าง
กำาหนดขนาดของ Page ได้ที่
File > Documents Properties... (Shift+Ctrl+D) > ที่ (TAB) Page
[2-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
9. Scrollbars มี Scrollbars อยู่ 2 อัน ที่ด้านขวาและด้านล่าง ใช้สำาหรับเลื่อนพื้นที่การ
ทำางานขึ้นหรือลง
CTRL+B = ซ่อน/แสดง Scroll Bars (View > Show/Hide > Scrollbars)
10. Color Palette จานสีสำาหรับใส่สีให้กับรูปร่างต่างๆได้อย่างรวดเร็ว จานสีมีให้เลือกใช้หลาย
ชุดสี ค่าปกติจะเป็น Inkscape default
การเปลี่ยนจานสี
Click ที่สำมเหลี่ยม ที่ปลำยของ Color Palette > เลือกชุดจำนสีที่ต้องกำร
การใช้งานจานสี
Click สีที่ต้องการบนจานสี → ใส่สีพื้น (Fill color)
Shift + Click สีที่ต้องการบนจานสี → ใส่สีขอบ (Stroke color)
11. Statusbar แถบแสดงสถานะการทำางาน มีรายละเอียดดังนี้ (จากซ้ายไปขวา)
• สีของรูปร่าง (Fill และ Stroke)
• Opacity (ค่าความโปร่งใส 0 ถึง 100%)
• Layer ( รูปตา : ซ่อน/แสดง, รูปกุญแจ : ล็อค Layer )
• ข้อความช่วยเหลือ
• พิกัด X,Y ของ Mouse Cursor
• % การ Zoom
2.2 กำรย้ำยตำำแหน่ง Toolbars
การย้ายตำาแหน่งของ Toolbars ใน Inkscape ทำาได้ค่อนข้างยาก แต่ทั้งนี้ Inkscape มี
Layout ตำาแหน่ง Toolbars มาให้แล้ว 3 รูปแบบ ก็คือ Default, Custom และ Wide
สามารถเลือกได้ที่ View > Default, View > Custom, View > Wide
2.3 กำรเลื่อนหน้ำจอ (Pan)
การเลื่อนหน้าจอ หรือการ Pan คือ การเลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา บนหรือล่าง
วิธีที่ 1 : Middle click ค้ำงไว้ > ลำก Mouse
วิธีที่ 2 : เลื่อนลูกกลิ้ง Mouse ขึ้นหรือลง
วิธีที่ 3 : กด Ctrl + Arrow keys
วิธีที่ 4 : ใช้ Scroll bar (กด CTRL + B เพื่อ ซ่อน/แสดง Scroll bar)
บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-3]
2.4 เครื่องมือใน Toolbox
Shortcut ชื่อ Tool
F1 หรือ Spacebar Select tool
กรณีใข้งาน Tool อื่นอยู่ กด Spacebar
จะสลับมาที่ Select tool ชั่วคราว
n หรือ F2 Node tool
w หรือ Shift+F2 Tweak tool
F3 Zoom tool
r หรือ F4 Rectangular tool
x หรือ Shift+F4 3D box tool
e หรือ F5 Ellipse tool
* หรือ Shift+F9 Star tool
i หรือ F9 Spiral tool
p หรือ F6 Pencil tool
b หรือ Shift+F6 Bezier tool (Pen tool)
c หรือ Ctrl+F6 Calligraphy tool
t หรือ F8 Text tool
a หรือ Shift+F3 Spray tool
Shift+E Eraser tool
Shift+F7 Bucket fill tool
g หรือ Ctrl+F1 Gradient tool
d หรือ F7 Dropper tool
o หรือ Ctrl+F2 Connector tool
[2-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
2.5 กำร Zoom พื้นที่ทำำงำน
การ Zoom พื้นที่ทำางาน ก็คือ การขยายการมองพื้นที่ทำางานเข้าหรือออก
Zoom เข้า (ภาพใหญ่ขึ้น) Zoom ออก (ภาพเล็กลง)
การ Zoom โดยใช้ Keyboard
+ , - : Zoom เข้าหรือออก ตามลำาดับ
Ctrl + เลื่อนลูกกลิ้งเข้าหรือออก : Zoom เข้าหรือออกตามลำาดับ
Ctrl + Right click : Zoom เข้า 1 Step
Ctrl + Click : Zoom ออก 1 Step
Shift + Middle click ค้าง > ลากเป็นกรอบสี่เหลี่ยม : Zoom บริเวณกรอบสี่เหลี่ยม
การ Zoom โดยใช้ Zoom tool
เลือก Zoom tool (F3) ที่ Toolbox
Click : Zoom เข้า 1 Step
Shift + Click : Zoom ออก 1 Step
Click ค้าง > ลากเป็นกรอบสี่เหลี่ยม : Zoom ตามกรอบสี่เหลี่ยม
Tool controls ของ Zoom tool
เมื่อเลือกที่ Zoom tool จะปรากฎตัวเลือกต่างๆ ของ Zoom tool อยู่ที่ Tool Controls
Bar โดยมีรายละเอียดดังนี้
Zoom เข้า
Zoom ออก
(1) Zoom แบบ 1:1 หรือ Zoom 100% (ขนำด Drawing pixel=Screen pixel)
(2) Zoom แบบ 1:2 หรือ Zoom 50%
Zoom แบบ 2:1 หรือ Zoom 200%
(3) Zoom พอดีกรอบที่ใช้ Mouse เลือก
(4) Zoom ดูทุกรูปร่างที่อยู่ในพื้นที่ทำางาน
(5) Zoom เต็มหน้ากระดาษ(Page) ทั้งขอบบนล่างและซ้ายขวา
(6) Zoom เต็มความกว้างของหน้ากระดาษ
ย้อนกลับไปการ Zoom ก่อนหน้านี้
ไปที่การ Zoom ถัดไป (กรณีมีการย้อนการ Zoom)
บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-5]
2.6 Display mode
Display mode ใช้กำาหนดการแสดงภาพบนหน้าจอ เพื่อความสะดวกในการทำางาน เช่น เพิ่ม
ความเร็ว หรือดูโครงสร้างของรูปร่าง เป็นต้น
การเลือก Display mode ให้ไปที่ View > Display Mode > (เลือก Mode ที่ต้องกำร)
มี 3 Mode ให้เลือก ก็คือ
1. Normal : เป็น Mode ปกติ วาดอะไรไป สร้างอะไรไป ก็แสดงออกมาแบบนั้น
2. No filters : หากภาพมีการใช้ Filters จะไม่แสดง Filters
3. Outline : แสดงเฉพาะโครงร่างของรูปร่าง
Normal mode ภำพที่ใช้ Filter
( ถ้ำเป็น No filers mode จะ
แสดงภำพเหมือนกับ Normal
mode ตัด Effect ของ Filters
ออกไป เพื่อเพิ่มควำมเร็วในกำร
แสดงผล )
Outline mode
2.7 Guides, Grids และ Snapping
ก. Guildes
Guildes คือ เส้นที่ใช้ช่วยในการจัดหน้ากระดาษ หรือช่วยวางตำาแหน่งของรูปร่าง เมื่อสั่ง
พิมพ์ เส้น Guides จะไม่ติดไปด้วย
การสร้างเส้น Guides
Click ค้ำง ที่ไม้บรรทัด > ลำกเส้น Guilde มำวำงยังตำำแหน่งที่ต้องกำร
การปรับแต่งเส้น Guides
Double click ที่เส้น Guilde จากนั้นจะปรากฎหน้าต่าง Guildline ให้ปรับแต่ง เช่น ย้าย
ตำาแหน่ง, ลบเส้น Guilde, หมุนเส้น Guilde เป็นต้น
[2-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
หน้ำต่ำง Guideline
ใช้ปรับแต่งเส้น Guides
ตัวอย่ำงเส้น Guides
การซ่อน/แสดงเส้น Guides
ให้ไปที่ View > Guides ( “|” - Pipe key) หรือ Shift +  )
การลบเส้น Guide
ลากเส้น Guide กลับไปยังไม้บรรทัด เส้น Guide จะหายไป
ข. Grids
Grids คือ เส้นตาราง ที่ใช้ช่วยในการจัดหน้ากระดาษ หรือช่วยวางตำาแหน่งของรูปร่าง เมื่อสั่ง
พิมพ์ เส้น Grids จะไม่ติดไปด้วย
Grids มีอยู่ 2 แบบก็คือ Rectangular grid (ตารางสี่เหลี่ยม) และ Axonometric grid
(ตารางสามเหลี่ยม)
การสร้างเส้น Grid
1. เปิดหน้าต่าง Document Properties (Shift+Ctrl+D)
2. ที่ (TAB) Grid > กรอบ Creation
เลือกประเภท Grid ที่ต้องการสร้าง (ตำมภำพ ก็คือ Rectangular grid)
3. กดปุ่ม New จะปรากฎแถบ Grid ที่พึ่งสร้างไป (ตำมภำพ ก็คือ grid3011)
4. กำาหนดรายละเอียดของ Grid (ให้สร้ำงขึ้นมำก่อน แล้วกำำหนดทีหลัง)
บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-7]
ตัวอย่ำง Rectangular grid หน้ำต่ำงสำำหรับสร้ำงและกำำหนดรำยละเอียดให้กับ Grid
การซ่อน/แสดง Grids
ไปที่ View > Grid ( “#”-Sharp key หรือ Shift+3 )
การลบ Grid
1. เปิดหน้าต่าง Document Properties (Shift+Ctrl+D)
2. ที่กรอบ Defined Grids เลือก Grid ที่จะลบ > กดปุ่ม Remove
[2-8] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
ค. Snapping
Snapping คือ คุณสมบัติในการเป็นแม่เหล็กของวัตถุต่างๆ เช่น Guildes, Grid หรือ รูปร่าง
เมื่อเคลื่อนวัตถุ อย่างเช่น เคลื่อนรูปร่าง เข้าไปใกล้วัตถุที่มีคุณสมบัติเป็น Snap รูปร่างก็จะ
กระโดดเข้าหาวัตถุนั้นโดยอัตโนมัติ
เมื่อย้ำยวงกลมเข้ำหำ จุดตัดของเส้น Guides
จุดศูนย์กลำงของวงกลม จะกระโดดเข้ำหำจุดตัดโดยอัตโนมัติ
การปิด/เปิด Snapping
วิธีที่ 1 : Click ที่ปุ่ม ที่ Snap Controls Bar
วิธีที่ 2 : ไปที่ View > Snap ( กด “%” - Percent key หรือ Shift + 5 )
Snap Controls Bar
เปิด/ปิด Snapping
เปิด/ปิด Snap bounding box Snap ขอบของ bounding box
Snap มุมของ bounding box Snap จุดกึ่งกลางของขอบ bounding box
Snap จุดศูนย์กลางของ bounding box *** Bounding box คือ กรอบสี่เหลี่ยมเส้นประเมื่อเลือก
รูปร่ำง
เปิด/ปิด Snap Nodes หรือ Handles Snap พาธ
Snap จุดตัดของพาธ Snap cusp nodes
Snap smooth nodes Snap จุดกึ่งกลางของพาธ Segment
Snap จุดกึ่งกลางของรูปร่าง Snap จุดหมุน
*** ดูเพิ่มเติมเรื่องพำธ
Snap ขอบของ Page ปิด/ปิด Snap to Grid
ปิด/ปิด Snap to Guide
บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-9]
การตั้งแรงดึงดูดของ Snap
1. เปิดหน้าต่าง Document Properties (Shift+CTRL+D)
2. ที่ (TAB) Snap กำาหนดค่าตามต้องการ
(ใช้งำนโดยทั่วไป จะไม่เข้ำมำปรับกำร Snap ที่หน้ำต่ำงนี้ เพรำะตั้งไว้ดีอยู่แล้ว)
[2-10] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
บทที่ 3 : กำรทำำงำนกับไฟล์
3.1 กำรสร้ำง กำรเปิด และกำรบันทึกไฟล์
การสร้างไฟล์ใหม่
วิธีที่ 1 : ไปที่ File > New > Default (สร้ำงเอกสำรจำกค่ำเริ่มต้น) (Ctrl+N)
วิธีที่ 2 : กดปุ่ม New Document บน Commands bar
การเปิดไฟล์
วิธีที่ 1 : ไปที่ File > Open... ( Ctrl+O) > เลือกไฟล์ที่ต้องกำรเปิด (.SVG)
วิธีที่ 2 : กดปุ่ม Open Document บน Commands bar > เลือกไฟล์ที่ต้องกำรเปิด
การบันทึกไฟล์
Save บันทึกไฟล์ที่กำาลังทำางานอยู่
วิธีที่ 1 : ไปที่ File > Save ( Ctrl+S )
วิธีที่ 2 : กดปุ่ม Save Document บน Commands bar
Save as... บันทึกเป็นไฟล์ใหม่ จากไฟล์ที่กำาลังทำางานอยู่
วิธีที่ 1 : ไปที่ File > Save as... (Shift+Ctrl+S) > ตั้งชื่อไฟล์
วิธีที่ 2 : กดปุ่ม Save as บน Commands bar > ตั้งชื่อไฟล์
Inkscape สามารถบันทึกเป็นไฟล์ได้หลายประเภท ไฟล์มาตราฐานของ Inkscape เป็นไฟล์
SVG (นามสกุล .SVG) แต่ SVG ที่มีให้เลือกบันทึก ก็มีอยู่หลายประเภท
หน้ำต่ำง Save file to....
Inkscape SVG
เป็นไฟล์มาตราฐานของ Inkscape
เหมาะสำาหรับสร้างและแก้ไขไฟล์
ใน Inkscape
Plain SVG
เป็นไฟล์ SVG ที่เหมาะกับการนำา
ไปใช้ภายนอก Inkscape เพราะ
จะสนับสนุนมาตราฐาน W3C เต็ม
รูปแบบ รูปร่างบางประเภทจะถูก
แปลงเป็นพาธ
.SVGZ(Compressed)
เป็นไฟล์ SVG ที่ถูกบีบอัดทำาให้
ไฟล์มีขนาดเล็กลงเหมาะสำาหรับ
นำาไปใช้บน Web
บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-1]
3.2 กำร Import ภำพ Bitmap
Inkscape รองรับการทำางานกับไฟล์หลายประเภท ทั้งที่เป็นไฟล์ Vector และ Bitmap
ไฟล์ Vector ที่รองรับเช่น .CDR (Corel Draw), .AI (Adobe Illustrator), .DXF (AutuCAD)
เป็นต้น เหล่านี้สามารถ Import เข้าสู่ Inkscape ได้
ไฟล์ Bitmap ที่รองรับ เช่น .BMP, .GIF, .JPG, .PNG, .TIFF, .TGA, .ICO, .PCX เป็นต้น
(รองรับไฟล์อะไรบ้ำง ให้เลือกดูประเภทไฟล์ ที่หน้ำต่ำง Select file to import )
การ Import ไฟล์ Bitmap
5. ไปที่ File > Import... (Ctrl+I) จะปรากฎ หน้าต่าง Select file to import จากนั้นให้
เลือกไฟล์ที่ต้องการจะ Import เข้ามา
หรืออีกวิธีหนึ่ง ให้ Click ค้ำงที่ไฟล์ภำพ Bitmap (ในหน้ำต่ำง File browser) > ลำกมำ
วำงใน Inkscape
6. ก่อนที่ภาพ จะถูก Import เข้ามา จะปรากฎหน้าต่างมาถามว่า “จะ Import ภำพเข้ำมำ
ในลักษณใด?” Embed? หรือ Link?
Embed ภาพจะฝังติดไปกับไฟล์ SVG สะดวกแก่การจัดการ แต่ไฟล์ SVG จะโตตามขนาด
ไฟล์ภาพไปด้วย การปรับแต่งภาพที่ภายนอกจะไม่มีผลต่อภาพที่อยู่ใน Inkscape
LInk ภาพจะเชื่อมโยงกับไฟล์ SVG เท่านั้น จึงไม่มีผลต่อขนาดไฟล์ SVG แต่จะบริหาร
จัดการยาก เพราะหากโยกย้ายหรือเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพ Link จะเสีย ทำาให้ภาพ
ไม่แสดง เพราะข้อมูลที่ Link กันอยู่มีการเปลี่ยนแปลง ข้อดีอีกประการ ก็คือ
การปรับแต่งภาพที่ภายนอกมีผลต่อภาพที่อยู่ใน Inkscape ภาพภายนอกเปลี่ยน
อย่างไร ภาพใน Inkscape ก็เป็นอย่างนั้น
หำก Link มีกำรเปลี่ยนแปลง เช่น ย้ำยไฟล์ เปลี่ยนชื่อไฟล์
ภำพจะไม่ปรำกฎแต่จะขึ้นว่ำ “Linked image not
found”
[3-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
วิธีแก้ Link เสีย
1. เลือกภาพที่ Link เสีย
2. เปิดหน้าต่าง XML Editor โดยไปที่ Edit > XML Editor... (Shift+Ctrl+X)
3. เมื่อเปิดหน้าต่าง XML ขึ้นมาแล้ว แถบสีจะขึ้นอยู่บนข้อมูลของภาพที่ Link เสียให้เลย
(เพราะได้เลือกที่ภาพในตอนต้น)
4. ที่กรอบขวาบน(Attribute และ Value) แสดงค่าต่างๆของภาพ Bitmap ที่ SVG เก็บ
ข้อมูลไว้ จากตัวอย่าง สาหตุที่ Link เสียก็เพราะ ได้มีการแก้ชื่อไฟล์จาก boy_02.jpg ไป
เป็น boy_03.jpg
5. ให้เลือกที่บรรทัดชื่อและ Path ของไฟล์ Bitmap จากนั้นจะปรากฎข้อมูลที่กรอบขวาล่าง
ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ให้แก้จาก boy_02.jpg ไปเป็น boy_03.jpg (แก้ให้
เหมือนชื่อใหม่) จากนั้น กดปุ่ม Set ภาพก็จะกลับมา
การตกแต่งภาพที่ถูก Link
ภาพที่ Import แบบ Link เมื่อตกแต่งภาพที่อยู่ภายนอก Inkscape เช่น ปรับขนาด, ปรับสี,
ปรับแสง, ตกแต่งรายละเอียดเพิ่มเติม เป็นต้น จะมีผลต่อภาพที่อยู่ใน Inkscape ด้วย
ในกรณีที่ ต้องการเปิดโปรแกรมตกแต่งภาพจาก Inkscape ให้ Click ขวำที่ภำพ > Edit
Externally... โปรแกรมตกแต่งภาพก็จะถูกเปิดขึ้นมา พร้อมเปิดไฟล์ภาพนั้นด้วย โปรแกรม
ที่จะเปิดขึ้นมานี้ ถูกกำาหนด ไว้ที่ Inkscape Preferences (Shift+Ctrl+P)
โปรแกรมตกแต่งภำพที่ตั้งให้เปิดเพื่อตกแต่งภำพ Bitmap ก็คือ Gimp สำมำรถเลือกเป็นตัวอื่นได้
บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-3]
3.3 เปลี่ยนจำก Embed เป็น Link หรือจำก Link เป็น Embed
ต่อจากข้อ 3.2 ในภายหลัง หลังจาก Import ภาพเข้ามาแล้ว หากต้องการแก้ไขการ Import
จาก Link ไฟล์ ไปเป็น Embed หรือจาก Embed ไปเป็น Link ก็สามารถทำาได้
เปลี่ยนจาก Link เป็น Embed
1. เลือกภาพ (Link)
2. ไปที่ Extensions > Images > Embed Images... จากนั้นจะปรากฎหน้าต่าง Embed
Images
(Option) Embed only selected images
ใช้สำาหรับ Embed เฉพาะภาพที่เลือกเท่านั้น
3. กด Apply เพื่อ Embed ภาพ
เปลี่ยนจาก Embed เป็น Link (Extract)
1. เลือกภาพ (Embed)
2. ไปที่ Extensions > Images > Extract Image... จากนั้นจะปรากฎหน้าต่าง Extract
Image (กำร Extract ภำพ เป็นกำรแยกภำพที่ Embed อยู่กับไฟล์ SVG ออกไปเป็นไฟล์
ภำพอื่น)
3. พิมพ์ชื่อไฟล์ลงในช่อง Path to save image : .... หากไม่ใส่ Path ลงไป ภาพจะถูก
บันทึกไว้ที่ Home folder ไม่ต้องใส่นามสกุลของภาพ เพราะจะขึ้นให้อัตโนมัติ
4. กด Apply เพื่อ Extract ภาพ จากนั้นจะปรากฎหน้าต่างเพื่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม
ภำพที่ถูก Extract อยู่ที่
/home/wasankds/none.jpg
(ใช้ระบบปฎิบัติกำร Ubuntu)
[3-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
3.4 กำร Export เป็นภำพ Bitmap
การ Export ภาพที่สร้างใน Inkscape ไปเป็นภาพ Bitmap Inkscape กำา หนดให้
Export เป็นไฟล์ PNG ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ถึงอย่างไรก็ดี PNG เป็นภาพที่ใช้กันอย่างกว้าง
ขวาง บน Website ก็ดี บนโปรแกรม Graphic อื่นๆก็ดี
การ Export เป็นภาพ Bitmap ให้ไปที่ File > Export Bitmap... (Shift+Ctrl+E) จากนั้น
จะปรากฎหน้าต่าง Export Bitmap
Export Area (พื้นที่ที่ต้องการจะ Export)
Page Export รูปร่างที่อยู่ในพื้นที่หน้ากระดาษเท่านั้น
Drawing Export รูปร่างทั้งหมดที่อยู่ใน Canvas แม้จะอยู่ภายนอกหน้ากระดาษก็ตาม
Selection Export รูปร่างที่ถูกเลือกเท่านั้น
Custom Export รูปร่างในพื้นที่ที่กำาหนดเอง ในกรอบ Width และ Height
xo, x1, y0, y1, Width และ Height คือขนาดและพิกัดของพื้นที่สี่เหลี่ยมที่จะทำาการ
Export
บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-5]
Bitmap size
คือ ขนาดภาพเมื่อ Export โดยโปรแกรมจะคำานวณให้อย่างอัตโนมัติ ตามพื้นที่ที่ต้องการจะ
Export และ Resolution ถึงอย่างไรก็ดี สามารถเปลี่ยนแปลงได้
สามารถตั้งค่า Resolution เริ่มต้นได้ที่หน้าต่าง Inkscape Preferences (Shift+Ctrl+P) >
Import/Export ค่าเริ่มต้นที่โปรแกรมตั้งไว้ให้ก็คือ 90 dpi (จากภาพ ได้แก้เป็น 150 dpi)
Filename
เป็นช่องสำาหรับใส่ตำาแหน่ง(Path)และชื่อไฟล์ที่ต้องการบันทึกหลังจาก Export แต่ไม่ว่าจะใส่
นามสกุลอะไร Inkscape จะบันทึกเป็น PNG อย่างเดียว (Option) Batch export all
selected objects ใช้ในกรณีเลือกรูปร่างมากกว่า 1 จะเป็นการ Export แบบ 1 รูปร่าง 1
ไฟล์ หลายรูปร่างก็หลายไฟล์ (Option) Hide all except selected ใช้ซ่อนรูปร่างอื่นๆที่
ไม่ได้ถูกเลือก ระหว่างการ Export
3.5 กำร Slice ภำพ
ในกรณีที่ต้องการ Slice ภาพออกเป็นชิ้นๆ ต้องใช้ตัวช่วย
ให้สร้างสี่เหลี่ยมไว้บนรูปร่างตามแนวที่ต้องการจะ Slice โดยสี่เหลี่ยมกลุ่มนี้ จะไม่ใส่สีเส้น
ขอบหรือใส่สีพื้น ฉะนั้นจึงมองไม่เห็นสี่เหลี่ยมกลุ่มนี้ ต้องสร้าง Layer ขึ้นมาชั้นหนึ่ง
สำาหรับเก็บสี่เหลี่ยมกลุ่มนี้โดยเฉพาะ (ดูเพิ่มเติมเรื่อง Layer)
สี่เหลี่ยม 3 ภำพ (ยังไม่ได้ซ่อนเส้นขอบและสี
พื้น) สร้ำงไว้บน รูปร่ำงที่ต้องกำรจะ Slice
หำกต้องกำรให้สี่เหลี่ยมชนกันที่ขอบพอดีให้ใช้
กำรกรอกตัวเลขขนำดหรือใช้เส้น Guides ช่วย
[3-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
เมื่อจะ Export ให้เลือก Layer ที่เก็บสี่เหลี่ยมไว้ จากนั้นกด Ctrl+A เพื่อเลือกรูปร่างทั้งหมด
รวมทั้งที่ซ่อนอยู่ด้วย
จากนั้นให้ Export แบบ Batch export (เลือก Batch export all selected objects )
<<< ผล ภำพที่ 1
<<< ผล ภำพที่ 2
<<< ผล ภำพที่ 3
3.6 กำร Import จำก Open Clip Art Library
Inkscape สามารถเชื่อมต่อกับ Open Clip Art Library บน Website เพื่อค้นหาภาพ Clip
Art แล้วแทรกลงสู่พื้นที่ทำางานได้
ให้ไปที่ File > Import From Open Clip Art Library จะปรากฎหน้าต่างตามภาพด้านล่าง
ซึ่งใช้ค้นหาภาพ Clip art จาก Website
เมื่อพบภาพที่ต้องการแล้ว ให้กด Open จะปรากฎภาพดังกล่าวบนพื้นที่ทำางาน
บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-7]
[3-8] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
บทที่ 4 : วำดรูปร่ำงเรขำคณิต
4.1 สีเหลี่ยมผืนผ้ำ(Rectangles)และสี่เหลี่ยมจตุรัส(Squares)
การวาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจตุรัส จะวาดด้วย Rectangular tool
การวาด
5. เลือก Rectangular tool (F4 หรือ r)
6. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop)
Shift+ลาก วาดสี่เหลี่ยมรอบจุดที่เริ่มต้น Click
Ctrl+ลาก วาดสี่เหลี่ยมจตุรัส
การปรับแต่งโดยใช้ Handles
ให้สังเกตุสี่เหลี่ยมที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยม และ วงกลม อยู่ตามมุม
Handles เหล่านี้มีไว้สำาหรับการปรับแต่งรูปร่าง
การปรับแต่ง Handles ให้ใช้ Node tool (F2) หรือ ใช้ Rectrangular Tool จับที่
Handles แล้วเลื่อน
Handles สี่เหลี่ยม ใช้ปรับขนำด
Handles วงกลมใช้ใส่ควำมโค้งที่มุม
Ry=5, Rx=0 Ry=5, Rx=16
Ctrl+ ลาก Handle วงกลม
ทำาให้มุมโค้งเท่ากันทั้งแกน X และ Y
Shift+Click ที่ Handle วงกลม
เอามุมโค้งออก
บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-1]
Tool Controls ของ Rectangular tool
ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำาในการปรับแต่ง สามารถทำาได้โดยใช้ Tool Controls เพราะ
สามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆลงไปได้
Click ที่รูปร่ำงสี่เหลี่ยม และ Click ที่ Rectangular tool จะปรำกฎ Tool Controls ของ
Rectangular tool
W ความกว้าง H ความสูง
Rx รัศมีมุมโค้งในแนวแกน X Ry รัศมีมุมโค้งในแนวแกน Y
ปุ่มเลือกหน่วยวัด เอามุมโค้งออก
4.2 วงรี(Ellipses), วงกลม(Circles) และส่วนของเส้นโค้ง(Arcs)
การวาดวงรี, วงกลม หรือส่วนของเส้นโค้ง(Arc) จะวาดด้วย Ellipse tool
การวาด
1. เลือก Ellipse tool (F5 หรือ e)
2. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop)
Shift+ลาก วาดวงกลมรอบจุดที่เริ่มต้น Click
(จุดศูนย์กลางอยู่ที่จุดที่เริ่มต้น Click)
Ctrl+ลาก วาดวงกลม
การปรับแต่งโดยใช้ Handles
วงกลมหรือวงรีที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยม และ วงกลม อยู่ที่ด้านบน
และด้านข้าง ให้จับ Handles ดังกล่าวเลื่อนไปมาเพื่อปรับรูปร่าง
Handles สี่เหลี่ยม ใช้ปรับขนำด
Handles วงกลมใช้สร้ำงส่วนของเส้นโค้งหรือสร้ำง Segment(รูป Pie)
Start =0, End=220 Arc
Shift+Click ที่ Handles วงกลม
ทำาให้กลับเป็นวงกลมเต็มใบ
Ctrl+ ลาก Handles วงกลม
Snap to angle (15 องศา)
[4-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
Tool Controls ของ Ellipse tool
การปรับแต่งโดยใช้ Tool Controls และ Handles มีลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ การใช้ Tool
Controls จะทำาได้แม่นยำากว่า เพราะสามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆได้
Click ที่รูปร่ำงวงรี วงกลม หรือส่วนของเส้นโค้ง และ Click ที่ Ellipse tool จะปรำกฎ Tool
Controls ของ Ellipse tool
Start มุมของ Hadle วงกลมจุดแรก End มุมของ Hadle วงกลมจุดที่ 2
สลับเป็นรูป Segment (รูปพาย) สลับเป็นรูป Arc
ทำาให้กลับเป็นวงกลม
4.3 รูปหลำยเหลี่ยม(Polygons)และรูปดำว(Stars)
การวาดรูปหลายเหลี่ยม เช่น 3 เหลี่ยม, 4 เหลี่ยม ไปจนถึงเป็นร้อยๆ เหลี่ยม และ การวาดรูป
ดาวตั้งแต่ 3 แฉก 4 แฉก ไปจนถึงเป็นร้อยๆแฉก จะวาดด้วย Star tool
การวาด
1. เลือก Star tool (Shift+F9 หรือ *)
2. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop)
Ctrl+ลาก Snap to angle (15 องศา)
การปรับแต่งโดยใช้ Handles
วงกลมหรือวงรีที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัด อยู่ 2 จุด ที่
ด้านในกับด้านนอก ให้จับ Handles ดังกล่าวเลื่อนไปมาเพื่อปรับรูปร่าง
Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนใน ใช้ปรับรัศมีวงใน
Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนนอก ใช้ปรับรัศมีวงนอก
Spoke ratio = 0.13 Spoke ratio = 0.84
Ctrl+ลาก Handle
ขยับ Handle แบบล็อคแกน (มี 2 แกน ก็คือ
จากจุดศูนย์กลาง ถึง Handles ทั้ง 2 จุด)
บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-3]
Rounded=0.5 Rounded=1.5
Shift+ลาก Handle ใส่มุมโค้งให้กับทุกมุม
Shift+Click ที่ Handle เอามุมโค้งออก
Rounded=0
Rounded=0.3
Rounded=0.5
Randomized=0.2
Alt+ลาก Handle Randomized จุดมุม
Tool Controls ของ Star tool
การปรับแต่งโดยใช้ Tool Controls และ Handles มีลักษณะเดียวกันเพียงแต่ การใช้ Tool
Controls จะทำาได้แม่นยำากว่า เพราะสามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆได้
Click ที่รูปดำวหรือรูปหลำยเหลี่ยม และ Click ที่ Star tool จะปรำกฎ Tool
Controls ของ Star tool
สลับเป็นรูปหลายเหลี่ยม (มี Handle 1 จุด) สลับเป็นรูปดาว (มี Handles 2 จุด)
Corners จำานวนด้าน/จำานวนแฉก Spoke ratio (Active เฉพำะรูปดำว มีค่ำ 0.01-1)
สัดส่วนความยาวของแกน ระหว่าง ระยะ
จากจุดศูนย์กลางถึง Handles ทั้งสองจุด
ถ้าเป็น 0.01 แฉกจะเป็นเส้น ถ้าเป็น 1 จะ
ไม่มีแฉก แต่กลายเป็นรูปหลายเหลี่ยม
Rounded ( -10 ถึง 10 ) รัศมีที่มุม Randomized ( -10 ถึง 10) สุ่มการวาดมุม
Reset (กลับเป็นเหมือนตอนวาดครั้งแรก)
4.4 วำดรูปก้นหอย(Spirals)
การวาดรูปก้นหอยหรือ Spiral จะวาดด้วย Spiral tool
การวาด
1. เลือก Spiral tool (F9 หรือ i)
2. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop)
[4-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
Ctrl+ลาก Snap to angle (15 องศา)
การปรับแต่งโดยใช้ Handles
ก้นหอยที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด อยู่ 2 จุด ที่ด้านใน
และด้านนอก ให้จับ Handles ดังกล่าวเลื่อนไปมาเพื่อปรับรูปร่าง
Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนใน ใช้ปรับควำมยำวด้ำนใน
Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนนอก ใช้ปรับควำมยำวด้ำนนอก
Inner radious = 0
Turns=1.9
Inner radious = 0.6
Turns=3
Ctrl+ลาก Handle(หมุนตามส่วนโค้ง)
Snap to angle (15 องศา)
Turns=12
Divergence=1
Turns=12
Divergence=0.6
Alt+ลาก Handle ด้านนอก(หมุนตามโค้ง)
เพิ่มเกลียวโดยรัศมีของก้นหอยยังเท่าเดิม
Alt+ลาก Handle ด้านใน(เข้า/ออก)
กระจายระยะห่างระหว่างเกลียว
Tool Controls ของ Spiral tool
ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำาในการปรับแต่ง สามารถทำาได้โดยใช้ Tool Controls เพราะ
สามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆลงไปได้
Click ที่รูปก้นหอย และ Click ที่ Spiral tool จะปรำกฎ Tool Controls ของ Spiral tool
Turn จำานวนรอบของเกลียว Reset
Divergence (0 ถึง 1) สัดส่วนการกระจาย
ระยะห่างระหว่างเกลียว ปกติมี
ค่าเป็น 1 (กระจายเท่ากันทุก
เกลียว) ถ้าเป็น 0 จะไม่มีเกลียว
แต่เป็นวงกลม
Inner radius (0 ถึง 0.999) สัดส่วนความยาว
ระหว่าง จุดศูนย์กลางถึง Handle
ด้านในที่หายไป ต่อ จุดศูนย์กลางถึง
Handle ด้านนอก ปกติมีค่าเป็น 0
(Handle ด้านในอยู่ที่ศูนย์กลาง) ถ้า
เป็น 0.999 เส้นเกลียวจะหายไป
บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-5]
4.5 แปลงโครงสร้ำงรูปร่ำงเรขำคณิต (Object to path)
รูปร่างเรขาคณิต เช่น วงกลม, สี่เหลี่ยม, ดาว หรือ ก้นหอย มีโครงสร้างเฉพาะ การปรับแต่ง
จึงต้องอยู่ภายใต้ข้อจำากัดที่กำากับโครงสร้างของรูปร่างนั้นๆ
หากจะปรับแต่งให้ได้อย่างอิสระ ต้องทำาการแปลงโครงสร้างของรูปร่างเสียก่อน
การแปลงโครงสร้างรูปร่างเรขาคณิตไปเป็นโครงสร้างแบบ Path
1. เลือกรูปร่างเรขาคณิต
2. Path > Object to path (Shift+Ctrl+C)
*** เมื่อแปลงแล้ว จะไม่สำมำรถแปลงกลับได้
เมื่อแปลงโครงสร้างแล้ว จะไม่สามารถปรับแต่งโดยใช้วิธีเดิมๆได้อีก เพราะโครงสร้างของรูป
ร่างเปลี่ยนไปเป็นแบบพาธแล้ว
โครงสร้างแบบพาธ เป็นโครงสร้างที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ (ดูวิธีกำรปรับแต่งรูปร่ำง
ได้ที่เรื่องของพำธ )
วงกลม ที่สร้ำงด้วย
Ellipse tool
วงกลม ที่แปลงโครงสร้ำง
ไปเป็นแบบพำธ
( Handles เปลี่ยนไป )
วงกลม ที่มีโครงสร้ำงแบบพำธ
ที่ถูกปรับแต่งโดยใช้ Node tool
รูปร่างเรขาคณิต ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะใช้ขึ้นรูปเพื่อปรับแต่งไปเป็นรูปร่างที่ซับซ้อนต่อไป
4.6 ตั้งค่ำเริ่มต้นให้กับกำรวำดรูปร่ำงเรขำคณิต
เมื่อวาดรูปร่างเรชาคณิต โปรแกรมจะใส่สีให้กับเส้นขอบและพื้นให้ก่อน ซึ่งตรงนี้เราสามารถ
กำาหนดได้เองว่า จะให้ค่าเริ่มต้นของรูปร่างเป็นอย่างไร
การตั้งค่าเริ่มต้นให้กับการวาดสีเหลี่ยม (ตัวอื่นมีวิธีเหมือนกัน)
1. เปิดหน้าต่าง Inkscape Preferences
File > Inkscape Preferences... (Shift+Ctrl+P)
[4-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
2. ที่หน้าต่าง Inkscape Preferences เลือก Tool > Shapes > Ractangle (ตามภาพด้าน
ล่าง)
3. เลือกรูปร่างต้นแบบบนพื้นที่ทำางาน จากนั้น เลือกที่ (Option) This tool's own style
และกดปุ่ม Take from selection (ใช้รูปร่างที่เลือกเป็นต้นแบบ) จากนั้นที่ Fill และ
Stroke จะปรากฎสีพื้นและเส้นขอบรูปแบบเดียวกับต้นแบบ
4. จากนั้นเมื่อวาดรูปสี่เหลี่ยมในครั้งต่อๆไป ก็จะมีรูปแบบเริ่มต้นตามที่ได้ตั้งไว้ (ตำมภำพ - สี
พื้นสีเหลือง เส้นขอบสีดำำขนำด 2.81)
5. *** หากเลือกที่ (Option) Last used style เมื่อวาดรูปร่างแล้วกำาหนดสีพื้นหรือเส้นขอบ
ไปเป็นอย่างอื่น หากวาดครั้งต่อไป สีพื้นหรือเส้นขอบก็จะเป็นไปตามครั้งล่าสุดที่ได้ปรับ
แต่งไป
บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-7]
[4-8] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
บทที่ 5 : กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น
5.1 Undo และ Redo
ระหว่างการทำางาน บ่อยครั้งมากที่เราจะทำาผิดพลาด หรือแค่อยากลอง เช่น อยากลองใส่สีนู้น
หรือสีนี้ เป็นต้น
เราสามารถยกเลิกสิ่งที่ได้ทำาไปแล้วย้อนหลังได้ โดยการทำา Undo และเมื่อ ทำา Undo(หรือ
ยกเลิก) ไปแล้ว ก็ยังสามารถเปลี่ยนใจทำาคำาสั่งที่ได้ยกเลิกไปแล้วก็ได้ โดยการทำา Redo
คำาสั่ง Undo
วิธีที่ 1 : กดที่ Icon ที่ Commands Bar
วิธีที่ 2 : ไปที่ Edit > Undo (Ctrl+Z หรือ Shift+Ctrl+Y)
คำาสั่ง Redo
วิธีที่ 1 : กดที่ Icon ที่ Commands Bar
วิธีที่ 2 : ไปที่ Edit > Redo (Ctrl+Y หรือ Shift+Ctrl+Z)
*** กดซำ้ำๆ จะทำำกำร Undo หรือ Redo ไปเรื่อยๆ (แต่มีจำำนวนครั้งจำำกัด)
5.2 Copy, Cut, Paste, Duplicate และ Clone
ก. การ Cut, Copy, Paste และ Duplicate
Edit > Cut (Ctrl+X) :
ตัดรูปร่างออกจากพื้นที่ทำางานเก็บไว้ใน Memory รอการวาง
Edit > Copy (Ctrl+C) :
คัดลอกรูปร่างเก็บไว้ใน Memory รอการวาง
Edit > Paste (Ctrl+V) :
วางรูปร่างที่เก็บไว้ใน Memory ลงบนพื้นที่ทำางาน ตำาแหน่งที่วางอยู่ที่ปลายของ Cursor
Edit > Paste Style (Ctrl+Shift+V):
วางเฉพาะรูปแบบเส้นขอบและสีพื้นให้กับรูปร่างตัวอื่น ( การ Paste Style จะต้องเลือกรูป
ร่างที่จะรับการ Paste Style ก่อน จึงใช้คำาสั่ง)
Edit > Duplicate (Ctrl+D) :
คัดลอกและวางรูปร่าง(ลงทับตำาแหน่งเดิม) ในขั้นตอนเดียว
บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-1]
ข. การ Clone
การ Clone คือการ Copy รูปร่างอีกวิธีหนึ่ง โดยการ Clone จะสร้างตัว Copy ที่ Link กับ
ตัวต้นแบบไว้ เรียกว่า ตัว Clone เมื่อต้นแบบเปลี่ยนแปลง ตัว Clone ก็จะเปลี่ยนแปลงด้วย
แต่ในทางตรงกันข้าม หากตัวโคลนเปลี่ยนแปลง ต้นแบบจะไม่เปลี่ยนแปลงตาม
การสร้างตัว Clone
6. เลือกรูปร่างต้นแบบ
7. Edit > Clone > Create Clone (Alt+D)
8. ตัว Clone จะวางทับตำาแหน่งเดิมของรูปร่างต้นแบบ
การยกเลิกการ Link
เมื่อไม่ต้องการให้ตัว Clone link กับรูปร่างต้นแบบอีกแล้ว สามารถยกเลิกการเป็นตัว Clone
ได้ (การยกเลิก Link ไม่ใช่การลบ)
1. เลือกที่ตัวโคลน
2. Edit > Clone > Unlink Clone (Shift+Alt+D)
ค. Copy และ Paste โดยการลากรูปร่าง
การ Copy และ Paste โดยการลากรูปร่าง
1. Click ที่รูปร่างค้างไว้
2. ลาก Mouse ไปยังตำาแหน่งต่างๆ ระหว่างที่ลาก Mouse เมื่อกด Spacebar จะเป็นการ
Copy และ Paste รูปร่างลงบนพื้นที่ทำางานทันที
3. กด Spacebar ไปเรื่อยๆ ก็จะทำาการ Copy และ Paste ไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่ลาก
Mouse ผ่านไป
5.3 กำรเลือกรูปร่ำง (Selecting objects)
การเลือกรูปร่าง ถือเป็นพื้นฐานที่สำาคัญที่สุด เพราะก่อนที่จะทำางานกับรูปร่างต่างๆได้ รูปร่าง
จะต้องถูกเลือกก่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะสำาคัญมากๆ หากงานมี รูปร่างเป็นจำานวน
มาก
ก. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Mouse
การเลือกรูปร่างโดยใช้ Mouse จะใช้ Select tool (F1 , s หรือ Spacebar)
การเลือกทีละ 1 รูปร่าง
ใช้ Select tool Click ที่ รูปร่ำง
[5-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
การเลือกรูปร่างโดยการสร้างกรอบ (Click-Drag-Drop)
ในกรณีที่ต้องการเลือกรูปร่างจำานวนมากในขั้นตอนเดียว
Click ที่พื้นที่ว่ำง > ลำก Mouse ให้ครอบคลุมรูปร่ำง > ปล่อย Mouse
การเลือกรูปร่างเพิ่มเติมหรือยกเลิกการเลือก
เลือกรูปร่างเพิ่ม Shift+Click ที่รูปร่าง ที่ต้องการเลือกเพิ่มเติม
ยกเลิกการเลือกรูปร่าง Shift+Click ที่รูปร่าง ที่เลือกไว้แล้ว
การเลือกรูปร่างที่อยู่ใต้รูปร่าง
ในกรณีที่รูปร่างอยู่ซ้อนกัน หากต้องการเลือก รูปร่าง
ที่อยู่ด้านล่าง
Alt+Click ที่รูปร่างตำาแหน่งที่ซ้อนทับกันอยู่
Alt+Click ไปเรื่อยๆ จะเป็นการวนเลือกรูปร่าง ที่
เรียงซ้อนกันอยู่
การเลือกรูปร่างโดยการลาก Mouse ผ่าน (Touch selection)
Alt+Click พื้นที่ว่าง > ลาก Mouse ผ่านรูปร่าง
(1) (2) Alt+Click > ลาก Mouse
เส้นทำงที่ลำกผ่ำนจะเป็นสีแดง
(3) (4)
บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-3]
ข. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Keyboard
Tab (Select next object) :
เลือกรูปร่างต่อไป (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น) หากรูปร่างซ้อนทับกันอยู่ จะเริ่ม
ต้นเลือกรูปร่างที่อยู่ล่างสุดก่อน จากนั้นจะวนเลือกรูปร่างชั้นต่อไป ก่อนจะกระโดดออกไป
เลือกรูปร่างอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ซ้อนทับกัน
Shift+Tab (Select previous object) :
เลือกรูปร่างก่อนหน้า (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น)
Ctrl+A (Select All) :
เลือกรูปร่างทั้งหมด (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น)
Ctrl+Alt+A (Select All in All Layers) :
เลือกรูปร่างในทุกๆ Layer (ที่ไม่ได้ถูกซ่อนหรือถูกล็อค)
! (Invert Seletcion) :
กลับการเลือก (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น)
Alt+! (Invert seletcion in all visible and unlocked layers) :
กลับการเลือก มีผลต่อทุกๆ Layers (ที่ไม่ได้ถูกซ่อนหรือถูกล็อค)
Esc (Deselect) :
ยกเลิกการเลือกทั้งหมด
5.4 Groups และ Ungroups
รูปร่างต่างๆสามารถนำามารวมกันและสร้างเป็นกลุ่ม เพื่อความสะดวกในการเลือก, เคลื่อน
ย้าย, การย่อ/ขยาย หรืออื่นๆ พร้อมๆกันทั้งกลุ่ม
การสร้าง Group
1. เลือกรูปร่างทั้งหมดที่ต้องการสร้างเป็นกลุ่ม
2. ไปที่ รูปร่ำง > Group (Ctrl+G) หรือ Click ที่ Icon บน Commands bar
การยกเลิก Groups
1. เลือก Groups ที่ต้องการยกเลิก
2. ไปที่ รูปร่ำง >Ungroup (Ctrl+U) หรือ Click ที่ Icon บน Commands bar หรือ
Double Click ที่ Group
[5-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
การแก้ไขสมาชิกใน Group โดยไม่ต้อง Ungroup
โดยปกติเมื่อทำาการย้าย ย่อ/ขยาย หมุน เติมสีหรืออื่นๆ ต่อ Group จะมีผลต่อสมาชิกทั้งหมด
ใน Group แต่ทั้งนี้ เราก็สามารถเลือกกระทำาดังกล่าวต่อสมาชิกใน Group ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้
Ctrl+Click สมาชิกใน Group จากนั้น จะสามารถปรับแต่งสมาชิกตัวนั้นได้ตามต้องการ
Ctrl+Alt+Click สมาชิกใน Group เลือกรูปร่างใน Group ที่อยู่ด้านล่าง
Ctrl+Shift+Alt+Click สมาชิกใน Group สลับการเลือกรูปร่างใน Group
5.5 Z-order (ลำำดับชั้นของรูปร่ำง)
Z-order หรือ ลำาดับชั้นของรูปร่างเป็นการอธิบายถึงการเรียงซ้อนกันของรูปร่างในแนวแกน
Z หรือแนวตั้งฉากกับระนาบของพื้นที่ทำางาน
การเปลี่ยนลำาดับชั้นของรูปร่าง
Object > Raise (PgUp) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างขึ้นไป 1 ขั้น
Object > Lower (PgDn) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างลงไป 1 ขั้น
Object > Raise on Top (Home) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างไปบนสุด
Object > Raise to Bottom (End) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างไปล่างสุด
( กรณีใช้กำร Click ที่ Icon ต้องเลือก Select tool ก่อน แล้ว Icon จะปรำกฎบน Tool Controls Bar)
แกน z ตั้งฉำกกับระนำบของ Canvas (1) รูปดำวอยู่บนสุด
(2) รูปดำวอยู่ลึกลงมำ 1 ชั้น (PgDn) (3) รูปดำวอยู่ด้ำนล่ำงสุด (End)
บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-5]
5.6 Layers (ลำำดับชั้นของภำพ)
Layers มีลักษณะคล้ายกับ Z-order ก็คือ ใช้ในการเรียงลำาดับชั้นของรูปร่าง แต่ Layers นั้น
มีนำ้าหนักมากกว่า Z-order เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Layers เป็นการเรียงลำาดับชั้น ของรูปร่าง
ภายใน Layer หนึ่งๆเท่านั้น ไม่สามารถทำา Z-order ข้าม Layers ได้
เมื่อสร้างรูปร่างโปรแกรมจะจัดลำาดับชั้น Z-order ให้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ สำาหรับ Layers
เมื่อเริ่มต้นใช้งาน โปรแกรมจะมีมาให้เพียง Layer เดียว
รูปร่ำงที่เรียงซ้อนกันมีกำรแบ่ง
Layers และเรียงลำำดับ
Z-order
มุมมองกำรเรียงลำำดับชั้นของรูปร่ำงด้วย Layers และ Z-order
Layers นอกจากนี้ ยังสามารถกำาหนดคุณสมบัติการมองเห็นและการล็อค Layers ได้ด้วย
รูปร่างที่มีจำานวนไม่มาก แค่เพียง Z-order ก็เพียงพอต่อการจัดลำาดับชั้น แต่.ถ้ารูปร่างมีเป็น
จำานวนมาก Layers จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการ รูปร่างได้เป็นอย่างดี
หน้าต่าง Layers (Shift+Ctrl+F)
หน้าต่าง Layers ใช้ในการบริหารจัดการ Layers
เพิ่ม Layer ใหม่ (Ctrl+Shift+N)
ย้าย Layer ที่เลือกไปไว้บนสุด (Shift+Ctrl+Home)
ย้าย Layer ที่เลือกขึ้นไป 1 ชั้น (Shift+Ctrl+PgUp)
ย้าย Layer ที่เลือกลงไป 1 ชั้น (Shift+Ctrl+PgDn)
ย้าย Layer ที่เลือกลงไปไว้ล่างสุด (Shift+Ctrl+End)
ลบ Layer
Opacity (0-100%) ความโปร่งใสของทั้ง Layer
ซ่อน/แสดง Layer (ซ่อน= )
ล็อค/ปลดล็อค Layer (ล็อค= )
[5-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
การสร้าง Layer ใหม่
Layer > Add layer... (Ctrl+Shift+N) จะปรากฏหน้าต่าง Add Layer ให้ตั้งชื่อของ
Layer
หน้ำต่ำง Add Layer
(Position) Below cerrent
สร้ำง Layer ให้อยู่ตำ่ำกว่ำ
ชั้นที่ทำำงำนอยู่ขณะนี้
ที่หน้ำต่ำง Layers มี Layer ใหม่เพิ่มเข้ำมำ
หน้ำต่ำง Add Layer
(Position) As sublayer of current
สร้ำงเป็น Sublayer(ชั้นย่อย)
ของ Layer ที่ทำำงำนอยู่ขณะนี้
*** Sublayer เป็นกำรซอยย่อย Layer ชั้นนั้นๆ ลงไปอีก ซึ่งจะช่วยให้ควบคุม Layers ได้
หลำยๆ Layers พร้อมๆกัน
การเลือกทำางานกับ Layer ใดๆ
วิธีที่ 1: .ใช้ Status bar
เมื่อทำางานอยู่ที่ Layer ใด ที่ Statusbar จะแสดงชื่อ Layer
นั้นอยู่
สามารถสลับไปทำางานยัง Layer อื่นๆ ได้ โดยใช้ Statusbar
โดย Click ที่ชื่อ Layer จากนั้นจะมีรายการให้เลือกว่า จะ
ย้ายไปทำางานกับ Layer ใด
วิธีที่ 2 : Click ที่ชื่อ Layer ในหน้าต่าง Layers
วิธีที่ 3 : Ctrl+PgUp ย้ายไปทำางานกับ Layer ด้านบนถัดไป
Ctrl+PgUp ย้ายไปทำางานกับ Layer ด้านล่างถัดไป
บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-7]
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8
Inkscape manual by_wk_r8

More Related Content

What's hot

กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2
Anana Anana
 
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะบทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
Kittichai Pinlert
 
บทที่4 ผลการดำเนินการ
บทที่4 ผลการดำเนินการบทที่4 ผลการดำเนินการ
บทที่4 ผลการดำเนินการ
Beeiiz Gubee
 
โครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
โครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงโครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
โครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
Preeyaporn Wannamanee
 
ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72
ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72
ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72
Korrakot Intanon
 
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่านPpt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Amonrat Ratcharak
 
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
Champ Wachwittayakhang
 
Portfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดี
Portfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดีPortfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดี
Portfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดี
Tanchanok Pps
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
ศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 
สรุปผลการดำเนินโครงงาน
สรุปผลการดำเนินโครงงานสรุปผลการดำเนินโครงงาน
สรุปผลการดำเนินโครงงาน
Sirilag Maknaka
 
โครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส
โครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสโครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส
โครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส
Preeyaporn Wannamanee
 

What's hot (20)

สรุปเซลล์
สรุปเซลล์สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
 
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
 
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง2
 
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะบทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
 
บทที่4 ผลการดำเนินการ
บทที่4 ผลการดำเนินการบทที่4 ผลการดำเนินการ
บทที่4 ผลการดำเนินการ
 
โครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
โครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงโครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
โครงงานเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
 
ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72
ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72
ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) รหัสวิชา 72
 
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่านPpt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
 
Sentence
SentenceSentence
Sentence
 
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
 
Portfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดี
Portfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดีPortfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดี
Portfolio (แฟ้มผลงาน) ที่ดี
 
Astronomy 03
Astronomy 03Astronomy 03
Astronomy 03
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 
หนังสือพิมพ์
หนังสือพิมพ์หนังสือพิมพ์
หนังสือพิมพ์
 
โครงงานเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โครงงานเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโครงงานเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โครงงานเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 
สรุปผลการดำเนินโครงงาน
สรุปผลการดำเนินโครงงานสรุปผลการดำเนินโครงงาน
สรุปผลการดำเนินโครงงาน
 
โครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส
โครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสโครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส
โครงงาน ความพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัส
 
Java Programming [4/12] : Object Oriented Concept
Java Programming [4/12] : Object Oriented ConceptJava Programming [4/12] : Object Oriented Concept
Java Programming [4/12] : Object Oriented Concept
 
คิดแบบหมวก 6 ใบ six thinking hat
คิดแบบหมวก 6 ใบ six thinking hatคิดแบบหมวก 6 ใบ six thinking hat
คิดแบบหมวก 6 ใบ six thinking hat
 
โครงงานpowerpoint
โครงงานpowerpointโครงงานpowerpoint
โครงงานpowerpoint
 

More from Rose Banioki

Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุนSpm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Rose Banioki
 
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
Rose Banioki
 
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fundTechinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
Rose Banioki
 
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญาหนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญา
Rose Banioki
 
Nutritive values of foods
Nutritive values of foodsNutritive values of foods
Nutritive values of foods
Rose Banioki
 
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7
Rose Banioki
 
Iphone user guide th
Iphone user guide thIphone user guide th
Iphone user guide th
Rose Banioki
 
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greeceThe differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greece
Rose Banioki
 
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspeToilets pierre daspe
Toilets pierre daspe
Rose Banioki
 
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_beaPps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_bea
Rose Banioki
 
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobauPhotos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobau
Rose Banioki
 

More from Rose Banioki (20)

Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุนSpm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
 
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
 
Instant tax
Instant taxInstant tax
Instant tax
 
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fundTechinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
 
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญาหนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญา
 
Nutritive values of foods
Nutritive values of foodsNutritive values of foods
Nutritive values of foods
 
Thaifood table
Thaifood tableThaifood table
Thaifood table
 
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7
 
Iphone user guide th
Iphone user guide thIphone user guide th
Iphone user guide th
 
P4
P4P4
P4
 
P3
P3P3
P3
 
P1
P1P1
P1
 
To myfriends
To myfriendsTo myfriends
To myfriends
 
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greeceThe differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greece
 
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspeToilets pierre daspe
Toilets pierre daspe
 
Tibet
TibetTibet
Tibet
 
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_beaPps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_bea
 
Photosdutempspass
PhotosdutempspassPhotosdutempspass
Photosdutempspass
 
Photo mix7
Photo mix7Photo mix7
Photo mix7
 
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobauPhotos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobau
 

Inkscape manual by_wk_r8

  • 1.
  • 2.
  • 3. หนังสือ e-book : คู่มือ Inkscape ผู้เขียน : วสันต์ คุณดิลกเศวต, wasankds@gmail.com, www.facebook.com/wasankds พิมพ์ครั้งที่ 1 : 5 กุมภาพันธ์ 2012 จัดทำาและเผยแพร่โดย : ชมรมสวรรค์บนดิน, www.poeclub.org จัดทำาโดยใช้ซอฟต์แวร์ : Ubuntu, LibreOffice, Inkscape, Gimp, Shutter หนังสือ e-book “คู่มือ Inkscape” อนุญาตให้แจกจ่าย ทำาสำาเนา โดยไม่คิด มูลค่า แต่ห้ามจำาหน่าย ดัดแปลง หรือแก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใด นอกจากจะได้รับ อนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ชื่อและเครื่องหมายการค้าที่อ้างถึง เป็นของเจ้าของหรือบริษัทแต่ละราย นาย วสันต์ คุณดิลกเศวต มิได้อ้างความเป็นเจ้าของ ตัวแทนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องแต่ อย่างใด หนังสือ e-book นี้ ถูกออกแบบให้พิมพ์นกระดาษ A4 ทั้ง ด้านหน้าและด้านหลัง “ลดใช้กระดาษ ลดโลกร้อน”
  • 4. คำำนำำจำกผู้เขียน Inkscape เป็นซอฟต์แวร์วาดภาพแบบ Vector ที่มีลักษณะการใช้งานเหมือนกับ Adobe Illustrator หรือ Corel Draw ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ Inkscape เป็นซอฟต์แวร์ โอเพ่นซอร์สที่เป็นของฟรี สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีๆ ถูกกฎหมาย 100% ตามทัศนะของผู้ เขียน Inkscape เป็นซอฟต์แวร์วาดภาพแบบ Vector ที่ดีที่สุด ในตระกูลโอเพ่นซอร์ส ตอบโจทย์ งานด้าน Graphic ได้อย่างลงตัว ไม่แพ้ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ชื่อดังทั้งหลาย ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ที่เปิดเผย Source code ซึ่งอนุญาตให้นำาไปใช้ ทำา สำาเนา แจกจ่าย และแก้ไขปรับปรุงได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่มีก็ได้ แต่ประเด็นสำาคัญก็คือ ต้อง เปิดเผย Source code ที่ถือเป็นหัวใจสำาคัญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวนั้นๆ ซอฟต์แวร์ โอเพ่นซอร์สส่วนใหญ่เป็นของฟรี ตัวที่ใช้งานกันอย่างกว้างขวางที่เป็นของฟรี ก็เช่น Ubuntu เทียบเท่ากับ MS Windows, LibreOffice เทียบเท่ากับ MS Office, Gimp เทียบเท่ากับ Photoshop เป็นต้น ทำำไมเรำต้องให้ควำมสนใจกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส? ประเด็นสำาคัญก็คือ เพราะราคาซอฟต์แวร์เชิง พาณิชย์ มีราคาสูงถึงสูงมาก ผู้คนจำานวนมาก จึงหันไปใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน ซื้อแผ่นก๊อป ดาวน์โหลด ของผิดกฎหมายมาใช้ หรือก็คือ เลือกที่จะใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ตัวเลขการละเมิดลิขสิทธิ์ทั่วโลกที่ผู้เขียนทราบมา มีบางอย่างสะกิดใจให้ต้องคิด อเมริกำ ซึ่งเรา ทราบกันดีว่า เป็นผู้นำาด้านการพัฒนาซอร์ฟแวร์หมายเลข 1 ของโลก ที่นี่มีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ 20% ตำ่าที่สุดในโลก ญี่ปุ่น 21% โซนยุโรปอยู่ที่ 25-50% ประเทศไทย 73% โซนแอฟริกาเกิน 75% แปลกที่ตัวเลขเหล่านี้ สัมพันธ์กับความเจริญของประเทศด้วย ประเทศใดที่ตัวเลขการละเมิด ลิขสิทธิ์ตำ่า เกือบจะฟันธงได้เลยว่า เป็นผู้นำาด้านความคิดด้วย ตัวเลขบ่งบอกลำาดับไล่ตามกันมาเลยที เดียว ส่วนประเทศใดที่ตัวเลขสูง คล้ายกับว่า ต้องรอให้ประเทศอื่นคิดก่อน แล้วค่อยทำาตาม ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ รากมันฝังลึกมาก มองเผินๆ เหมือนเราได้ประโยชน์ ได้ใช้ของฟรี ประหยัดเงิน แต่จริงๆหากมองในภาพรวม เราเสียเอกราชทางความคิดไปแล้ว ผู้เขียนเชื่อว่าหลายๆ คน ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่กับมันเลย(รวมทั้งผู้เขียนด้วย) ถูกปลูกนิสัย ถูกบ่มเพาะ ถูกสอนให้ใช้ของเถื่อน มาตั้งแต่เด็ก จนไม่มีจิตสำำนึกว่ำ กำรใช้ของเถื่อนนั้นผิดอีกแล้ว จริงๆแล้ว นี่เป็นโครงสร้างที่ทำาให้ ประเทศไม่มีความคิดใหม่ๆ ต้องรอให้ต่างชาติคิดก่อนแล้วเราค่อยทำาตาม “ ใครจะไปคิด ในเมื่อมีคน คิดให้ มีคนทำำให้ใช้ฟรีๆ” หรือ “ใครจะไปคิด คิดไป ขำยไป ก็สู้ของเถื่อนไม่ได้”
  • 5. แท้จริงแล้ว องค์กรหรือใครก็ตามที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ท่านเพียงรอวันพิพากษาเท่านั้น หากท่านยังเป็นองค์กรเล็ก ท่านก็เป็นเพียงปลาเล็กปลาน้อย แต่วันใดที่ท่านเติบโตเป็นปลาใหญ่ ท่านมีโอกาสสูงที่จะถูกจับไปขาย หรือมีโอกาสสูงที่จะถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์ ท่ำนจะไปรู้ได้อย่ำงไรว่ำ พนักงำนในองค์กรไม่พอใจท่ำนอย่ำงไร? ท่ำนทำำให้ใครไม่พอใจไว้หรือเปล่ำ? เขำร้อนเงินอยู่หรือ เปล่ำ? หากเมื่อใดมีการแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์ไปยังองค์กรที่ตรวจจับโดยเฉพาะ ผู้แจ้งมีสิทธิ์ได้รับรางวัล สูงสุด 250,000 แต่สำาหรับองค์กรของท่าน ต้องเสียเงินเป็นจำานวนมาก ต้องว่ากันเป็นหลักล้านหลัก สิบล้านเลยทีเดียว กรรมการองค์กรทุกท่าน ต้องถูกดำาเนินคดี เตรียมทนายไว้ได้เลย จากประสบการณ์ในการรณรงค์ การเป็นวิทยากรอบรมให้กับองค์กรต่างๆ ผู้เขียนพบรูปแบบที่น่า สนใจประการหนึ่ง องกรค์ใด ที่ให้ความสำาคัญกับลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ องกรค์นั้นมักมีระบบการ ทำางานที่ดี และยังดูแลพนักงานได้ดีด้วย สังเกตุได้จากสวัสดิการต่างๆ หากใครทำางานในองค์กร ลักษณะนี้ ผมเชื่อว่าคงมีความสุข และยังเป็นองค์กรที่มั่นคงด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม องกรค์ใดที่ ไม่สนใจเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ การทำางานมักไม่เป็นระบบ เต็มไปด้วยปัญหา เน้นรายรับ ประหยัด ค่าใช้จ่าย โดยไม่สนใจคนรอบข้าง เฉพาะเรื่องคอมพิวเตอร์ ก็ต้องแก้ปัญหาเช้ายันคำ่า ไวรัสบ้าง สปายแวร์บ้าง วันๆไม่ต้องทำาอะไรแก้ปัญหาภายในอย่างเดียว การดูแลพนักงานก็ไม่ดีตามไปด้วย พนักงานลาออกบ่อย ทำางานไม่มีความสุข แห้งแล้งสวัสดิการ องกรค์ใดที่เถื่อนบ้าง แท้บ้าง ก็ครึ่งๆ กลางไปด้วย นี่เป็นรูปแบบที่ผู้เขียนค้นพบ ไม่ได้แต่งเรื่องประการใด หากท่านใดค้นพบว่าไม่ได้เป็น อย่างนี้ ก็ส่งความเห็นมาได้ ประเทศของเรายังต้องการความคิดและจินตาการอีกมากมายนัก หากเราเสียเอกราชทางความคิดไป แล้ว ประเทศจะพัฒนาไปได้อย่างไร โลกนี้จะน่าเบื่อแค่ไหนหากมนุษย์ไม่ใช้จินตนาการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ส่งเสริมการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ผู้เขียนจึงเขียนคู่มือการใช้ งานซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สบางตัวเพื่อแจกฟรี ทั้งนี้หากมีข้อติชมประการใดกรุณาส่งมาความคิดเห็น มาที่ wasankds@gmail.com วสันต์ คุณดิลกเศวต ผู้เขียนและวิทยำกรอบรมกำรใช้งำน LibreOffice, Inkscape และ Gimp หมำยเหตุ : เนื่องจำกไม่มีผู้ช่วยพิสูจน์อักษร หำกพบข้อผิดพลำดประกำรใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
  • 6. สำรบัญ บทที่ 1 : แนะนำำ Inkscape 1 1.1 : รู้จักกับ Inkscape............................................................................................1-1 1.2 : พื้นฐานการสร้างภาพแบบ Vector..................................................................1-2 บทที่ 2 : มุมมองในกำรทำำงำน 1 2.1 : หน้าจอ Inkscape (Interface)........................................................................2-1 2.2 : การย้ายตำาแหน่ง Toolbars.............................................................................2-3 2.3 : การเลื่อนหน้าจอ (Pan)....................................................................................2-3 2.4 : เครื่องมือใน Toolbox.....................................................................................2-4 2.5 : การ Zoom พื้นที่ทำางาน..................................................................................2-5 2.6 : Display mode...............................................................................................2-6 2.7 : Guides, Grids และ Snapping.......................................................................2-6 ก. Guildes.................................................................................................................. 2-6 ข. Grids....................................................................................................................... 2-7 ค. Snapping............................................................................................................... 2-9 บทที่ 3 : กำรทำำงำนกับไฟล์ 1 3.1 : การสร้าง การเปิด และการบันทึกไฟล์.............................................................3-1 3.2 : การ Import ภาพ Bitmap..............................................................................3-2 3.3 : เปลี่ยนจาก Embed เป็น Link หรือจาก Link เป็น Embed..........................3-4 3.4 : การ Export เป็นภาพ Bitmap ......................................................................3-5 3.5 : การ Slice ภาพ................................................................................................3-6 3.6 : การ Import จาก Open Clip Art Library.....................................................3-7
  • 7. บทที่ 4 : วำดรูปร่ำงเรขำคณิต 1 4.1 : สีเหลี่ยมผืนผ้า(Rectangles)และสี่เหลี่ยมจตุรัส(Squares)..............................4-1 4.2 : วงรี(Ellipses), วงกลม(Circles) และส่วนของเส้นโค้ง(Arcs)............................4-2 4.3 : รูปหลายเหลี่ยม(Polygons)และรูปดาว(Stars)................................................4-3 4.4 : วาดรูปก้นหอย(Spirals)...................................................................................4-4 4.5 : แปลงโครงสร้างรูปร่างเรขาคณิต (Object to path).......................................4-6 4.6 : ตั้งค่าเริ่มต้นให้กับการวาดรูปร่างเรขาคณิต......................................................4-6 บทที่ 5 : กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น 1 5.1 : Undo และ Redo...........................................................................................5-1 5.2 : Copy, Cut, Paste, Duplicate และ Clone..................................................5-1 ก. การ Cut, Copy, Paste และ Duplicate...............................................................5-1 ข. การ Clone............................................................................................................. 5-2 ค. Copy และ Paste โดยการลากรูปร่าง.....................................................................5-2 5.3 : การเลือกรูปร่าง (Selecting objects).............................................................5-2 ก. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Mouse................................................................................5-2 ข. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Keyboard..........................................................................5-4 5.4 : Groups และ Ungroups ...............................................................................5-4 5.5 : Z-order (ลำาดับชั้นของรูปร่าง)........................................................................5-5 5.6 : Layers (ลำาดับชั้นของภาพ).............................................................................5-6 5.7 : การล็อค(Lock)และการซ่อน(Hide) รูปร่างทีละตัว..........................................5-9 บทที่ 6 : กำรตกแต่งพื้นและเส้นขอบ 1 6.1 : Color palette................................................................................................6-1 ก. การใส่สีโดยใช้ Color palette................................................................................6-1 ข. การเปลี่ยนชุดสีใน Color palette..........................................................................6-1 6.2 : ข้อสังเกตุ : ขนาดเส้นขอบและขนาดพื้นที่.......................................................6-2 6.3 : หน้าต่าง Fill and Stroke...............................................................................6-2 6.4 : ตัวบอกสถานะการใส่สี (Style Indicator).......................................................6-3 6.5 : การใส่สีแบบ Flat color(สีเดียว) โดยใช้หน้าต่าง Fill and Stroke................6-4 6.6 : ระบบสี (RGB, HSL, CMYK, Wheel)..............................................................6-4 6.7 : Dropper Tool................................................................................................6-6 6.8 : รูปแบบเส้นขอบ(Stroke style).......................................................................6-7 6.9 : การเปลี่ยนสี Markers ให้เป็นสีเดียวกับเส้น....................................................6-8
  • 8. 6.10 : การสร้าง Markers ใช้เอง..............................................................................6-9 6.11 : การใส่ Gradients..........................................................................................6-9 6.12 : การปรับแต่ง Gradients.............................................................................6-10 6.13 : Gradient editor........................................................................................6-11 6.14 : Option สำาหรับการ Tranform รูปร่างที่ใส่Gradient ...............................6-13 6.15 : การปรับแนวของ Gradient........................................................................6-13 6.16 : Pattern.......................................................................................................6-15 6.17 : Option สำาหรับการ Tranform รูปร่างที่ใส่ Pattern.................................6-17 6.18 : Fill rule (Even-odd VS Non-zero).........................................................6-17 บทที่ 7 : กำรแปรรูปร่ำง (Tranformation)1 7.1 : สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำา Tranformation..................................................................7-1 7.2 : การเคลื่อนย้ายรูปร่าง (Moving)......................................................................7-2 7.3 : การย่อหรือขยายรูปร่าง (Scaling)...................................................................7-4 7.4 : การหมุนรูปร่าง (Rotating)..............................................................................7-6 7.5 : การเฉือนรูปร่าง (Skewing).............................................................................7-8 7.6 : การกลับด้านรูปร่าง (Flipping)........................................................................7-8 บทที่ 8 : พำธ (Paths) 1 8.1 : พาธ( Paths) คืออะไร?....................................................................................8-1 8.2 : Bezier curves พื้นฐานสำาคัญของพาธ............................................................8-1 8.3 : Pencil tool.....................................................................................................8-2 8.4 : ลดจำานวน Node ด้วย Simplify.....................................................................8-3 8.5 : Bezier tool (หรือ Pen tool).........................................................................8-4 8.6 : Calligraphy tool............................................................................................8-6 8.7 : การใช้ Calligraphy tool วาดเส้นขนาน......................................................8-10 8.8 : การสร้างพาธ โดยใช้ Object to Path และ Stroke to Path......................8-10 บทที่ 9 : กำรปรับแต่งพำธ 1 9.1 : การใช้ Node tool ปรับแต่งพาธ....................................................................9-1 9.2 : การจัดเรียง Nodes โดยใช้หน้าต่าง Align and Distribute...........................9-7 9.3 : การปรับแต่ง Nodes จำานวนมาก ด้วยเทคนิค Sculting nodes....................9-7 9.4 : การสร้าง Offset path....................................................................................9-8 9.5 : การกลับทิศทางเส้นพาธ (Reverse path).......................................................9-9
  • 9. บทที่ 10 : กำรผสมพำธ 1 10.1 : Combine และ Break Apart.....................................................................10-1 10.2 : Union.........................................................................................................10-2 10.3 : Difference.................................................................................................10-2 10.4 : Intersection...............................................................................................10-3 10.5 : Exclusion...................................................................................................10-3 10.6 : Division......................................................................................................10-4 10.7 : Cut Path....................................................................................................10-4 10.8 : Clipping and Masking.............................................................................10-5 บทที่ 11 : Live Path Effects (LPEs) 1 11.1 : Live Path Effects คืออะไร?......................................................................11-1 11.2 : Bend...........................................................................................................11-3 11.3 : Construct Grid..........................................................................................11-3 11.4 : Envelope Deformation..........................................................................11-4 11.5 : Gear............................................................................................................11-4 11.6 : Hatches (Rough)......................................................................................11-5 11.7 : Interpolate Sub-Paths ...........................................................................11-7 11.8 : Knot ..........................................................................................................11-8 11.9 : Pattern Along Path.................................................................................11-8 11.10 : Ruler .......................................................................................................11-9 11.11 : Sketch ..................................................................................................11-10 11.12 : Spiro Spline ........................................................................................11-10 11.13 : Stitch Sub-Paths ................................................................................11-11 11.14 : VonKoch................................................................................................11-13 บทที่ 12 : ข้อควำม (Text) 1 12.1 : การสร้างข้อความด้วย Text tool...............................................................12-1 12.2 : การพิมพ์อักขระพิเศษโดยใช้หน้าต่าง Glyphs ...........................................12-2 12.3 : การเลือกข้อความ........................................................................................12-2 12.4 : การจัดรูปแบบข้อความ...............................................................................12-3 12.5 : การวางข้อความบนพาธ...............................................................................12-7 12.6 : การวางข้อความในรูปร่าง............................................................................12-9
  • 10. บทที่ 13 : กำรเรียงและกำรกระจำย 1 13.1 : Align and Distribute................................................................................13-1 13.2 : Rows and Columns.................................................................................13-2 บทที่ 14 : กำรสร้ำงตัว Clones แบบเรียงรำย 1 14.1 : หน้าต่าง Create Tiled Clones.................................................................14-1 ก. Symmetry tab....................................................................................................14-3 ข. Shift tab.............................................................................................................. 14-6 ค. Scale tab............................................................................................................ 14-8 ง. Rotation tab.......................................................................................................14-9 จ. Blur & opacity tab..........................................................................................14-10 ฉ. Color tab..........................................................................................................14-11 ช. Trace tab..........................................................................................................14-12 บทที่ 15 : Tool อื่นๆ 1 15.1 : Tweak tool................................................................................................15-1 ก. Tweaking Objects..............................................................................................15-2 ข. Tweaking Paths ................................................................................................15-3 ค. Tweaking Colors................................................................................................15-4 15.2 : Bucket fill tool.........................................................................................15-5 15.3 : 3D Box tool.............................................................................................15-8 15.4 : Spray tool...............................................................................................15-13 15.5 : Eraser tool..............................................................................................15-15 บทที่ 16 : กำรแปลงภำพ Bitmap เป็นภำพ Vector 1 16.1 : การทำา Trace bitmap................................................................................16-1 ก. Single scan........................................................................................................16-2 ข. Multiple scans..................................................................................................16-3 ค. TAB Options......................................................................................................16-7
  • 11.
  • 12.
  • 13. บทที่ 1 : แนะนำำ Inkscape 1.1 รู้จักกับ Inkscape ภาพ Digital หรือภาพที่สร้างด้วยโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ก็คือ 1.Raster(หรือ Bitmap) และ 2.Vector Inkscape เป็นโปรแกรมวาดภาพแบบ Vector เป็นโปรแกรมในตระกูลเดียวกับ Adobe Illustrator หรือ Corel Draw ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ Inkscape เป็น Open source ที่ สามารถนำามาใช้งานได้ฟรี Raster (หรือ Bitmap) เป็นภาพที่ประกอบด้วยจุดเล็กๆ เรียงตัวกัน ซึ่งเรามักเรียกจุดเหล่านี้ ว่า Pixels ภาพแบบ Raster เช่น JPG, BMP,GIF หรือ PNG เป็นต้น คุณภาพของภาพถูก กำาหนดโดยจำานวน Resolution หรือ ความละเอียดของจำานวน Pixels ต่อตารางนิ้ว มีหน่วย เป็น PPI เช่น 72 PPI, 90 PPI (สำาหรับใช้งานบน Web ,จอคอมพิวเตอร์, TV) หรือ 300 PPI, 600 PPI (สำาหรับงานสิ่งพิมพ์) Vector เป็นภาพที่สร้างด้วยการคำานวณทางคณิตศาสตร์ ข้อดีก็คือ สามารถขยายภาพมาก เท่าไรก็ได้ โดยที่ภาพไม่แตก ภาพแบบ Vector เช่น SVG, EPS, PS, AI, หรือ CDR เป็นต้น ไฟล์มาตราฐานของ Inkscape ก็คือ SVG (Scaleble Vector Graphics) SVG เก็บข้อมูล ในรูปแบบของ XML และเป็นมาตราฐานที่กำาหนดโดย W3C ( Wolrd Wide Web Consortium ) ดังนั้น SVG จึงเป็นมาตราฐานเปิดและเป็นมาตราฐานสากลด้วย ภำพแบบ Vector สำมำรถขยำยได้ไม่จำำกัด โดยภำพไม่แตก ภำพแบบ Raster ยิ่งขยำย ภำพยิ่งแตก บทที่ 1: แนะนำำ Inkscape [1-1]
  • 14. 1.2 พื้นฐำนกำรสร้ำงภำพแบบ Vector พื้นฐานการวาดภาพแบบ Vector คือ การสร้างเส้น หรือ สร้างวงปิด แล้วนำามาประกอบกัน เป็นภาพ เช่น วางเป็นชั้นๆ เป็นต้น โดยแต่ละหน่วยจะถูกเรียกว่า “รูปร่าง” บ้าง “Object” บ้าง [1-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 15. บทที่ 2 : มุมมองในกำรทำำงำน 2.1 หน้ำจอ Inkscape (Interface) 1. Menu Bar เมนูรวมคำาสั่งต่างๆที่ใช้ในโปรแกรม 2. Commands Bar แถบปุ่มคำาสั่งที่ใช้บ่อยๆ เช่น ปุ่มสร้างเอกสารใหม่, ปุ่มบันทึกไฟล์ เป็นต้น 3. Snap Controls Bar แถมปุ่มคำาสั่งควบคุมการปิด/เปิด Snap(แรงดึงดูด) แบบต่างๆ 4. Rulers ไม้บรรทัด มีทั้งแนวตั้งและแนวนอน สามารถเปลี่ยนหน่วยที่แสดงบน ไม้บรรทัดได้ที่ File > Document Properties (Shift+CTRL+D) > (TAB) Page เลือก Default units ที่ต้องการ CTRL+R = ซ่อน/แสดงไม้บรรทัด (View > Show/Hide > Rulers) บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-1]
  • 16. 5. Toolbox แถบปุ่มเครื่องมือ ที่ใช้ในการวาด ตกแต่ง หรือแก้ไขรูปร่าง 6. Tool Controls Bar (หรือ Controls Bar) แถบนี้ เปลี่ยนไปตามเครื่องมือบน Tool Box ที่กำาลัง ถูกใช้งาน Controls Bar จะแสดงรายละเอียดต่างๆของเครื่องมือ เพื่อใช้ใน การปรับแต่งการใช้งาน 7. Canvas พื้นที่ทำางาน เราสามารถทำางานหรือวาดภาพไว้ตรงไหนก็ได้บน Canvas 8. Page Page เป็นส่วนหนึ่งของ Canvas เมื่อสั่งพิมพ์จะพิมพ์เฉพาะส่วนที่อยู่ใน Page เท่านั้น นอกจากนี้ การอ้างอิงตำาแหน่งต่างๆ จุดเริ่มต้นของ Page จะ เป็นจุดหลักในการอ้างอิง พิกัดจุดเริ่มต้น(0,0) ของ Page อยู่ที่มุมซ้ายล่าง กำาหนดขนาดของ Page ได้ที่ File > Documents Properties... (Shift+Ctrl+D) > ที่ (TAB) Page [2-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 17. 9. Scrollbars มี Scrollbars อยู่ 2 อัน ที่ด้านขวาและด้านล่าง ใช้สำาหรับเลื่อนพื้นที่การ ทำางานขึ้นหรือลง CTRL+B = ซ่อน/แสดง Scroll Bars (View > Show/Hide > Scrollbars) 10. Color Palette จานสีสำาหรับใส่สีให้กับรูปร่างต่างๆได้อย่างรวดเร็ว จานสีมีให้เลือกใช้หลาย ชุดสี ค่าปกติจะเป็น Inkscape default การเปลี่ยนจานสี Click ที่สำมเหลี่ยม ที่ปลำยของ Color Palette > เลือกชุดจำนสีที่ต้องกำร การใช้งานจานสี Click สีที่ต้องการบนจานสี → ใส่สีพื้น (Fill color) Shift + Click สีที่ต้องการบนจานสี → ใส่สีขอบ (Stroke color) 11. Statusbar แถบแสดงสถานะการทำางาน มีรายละเอียดดังนี้ (จากซ้ายไปขวา) • สีของรูปร่าง (Fill และ Stroke) • Opacity (ค่าความโปร่งใส 0 ถึง 100%) • Layer ( รูปตา : ซ่อน/แสดง, รูปกุญแจ : ล็อค Layer ) • ข้อความช่วยเหลือ • พิกัด X,Y ของ Mouse Cursor • % การ Zoom 2.2 กำรย้ำยตำำแหน่ง Toolbars การย้ายตำาแหน่งของ Toolbars ใน Inkscape ทำาได้ค่อนข้างยาก แต่ทั้งนี้ Inkscape มี Layout ตำาแหน่ง Toolbars มาให้แล้ว 3 รูปแบบ ก็คือ Default, Custom และ Wide สามารถเลือกได้ที่ View > Default, View > Custom, View > Wide 2.3 กำรเลื่อนหน้ำจอ (Pan) การเลื่อนหน้าจอ หรือการ Pan คือ การเลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา บนหรือล่าง วิธีที่ 1 : Middle click ค้ำงไว้ > ลำก Mouse วิธีที่ 2 : เลื่อนลูกกลิ้ง Mouse ขึ้นหรือลง วิธีที่ 3 : กด Ctrl + Arrow keys วิธีที่ 4 : ใช้ Scroll bar (กด CTRL + B เพื่อ ซ่อน/แสดง Scroll bar) บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-3]
  • 18. 2.4 เครื่องมือใน Toolbox Shortcut ชื่อ Tool F1 หรือ Spacebar Select tool กรณีใข้งาน Tool อื่นอยู่ กด Spacebar จะสลับมาที่ Select tool ชั่วคราว n หรือ F2 Node tool w หรือ Shift+F2 Tweak tool F3 Zoom tool r หรือ F4 Rectangular tool x หรือ Shift+F4 3D box tool e หรือ F5 Ellipse tool * หรือ Shift+F9 Star tool i หรือ F9 Spiral tool p หรือ F6 Pencil tool b หรือ Shift+F6 Bezier tool (Pen tool) c หรือ Ctrl+F6 Calligraphy tool t หรือ F8 Text tool a หรือ Shift+F3 Spray tool Shift+E Eraser tool Shift+F7 Bucket fill tool g หรือ Ctrl+F1 Gradient tool d หรือ F7 Dropper tool o หรือ Ctrl+F2 Connector tool [2-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 19. 2.5 กำร Zoom พื้นที่ทำำงำน การ Zoom พื้นที่ทำางาน ก็คือ การขยายการมองพื้นที่ทำางานเข้าหรือออก Zoom เข้า (ภาพใหญ่ขึ้น) Zoom ออก (ภาพเล็กลง) การ Zoom โดยใช้ Keyboard + , - : Zoom เข้าหรือออก ตามลำาดับ Ctrl + เลื่อนลูกกลิ้งเข้าหรือออก : Zoom เข้าหรือออกตามลำาดับ Ctrl + Right click : Zoom เข้า 1 Step Ctrl + Click : Zoom ออก 1 Step Shift + Middle click ค้าง > ลากเป็นกรอบสี่เหลี่ยม : Zoom บริเวณกรอบสี่เหลี่ยม การ Zoom โดยใช้ Zoom tool เลือก Zoom tool (F3) ที่ Toolbox Click : Zoom เข้า 1 Step Shift + Click : Zoom ออก 1 Step Click ค้าง > ลากเป็นกรอบสี่เหลี่ยม : Zoom ตามกรอบสี่เหลี่ยม Tool controls ของ Zoom tool เมื่อเลือกที่ Zoom tool จะปรากฎตัวเลือกต่างๆ ของ Zoom tool อยู่ที่ Tool Controls Bar โดยมีรายละเอียดดังนี้ Zoom เข้า Zoom ออก (1) Zoom แบบ 1:1 หรือ Zoom 100% (ขนำด Drawing pixel=Screen pixel) (2) Zoom แบบ 1:2 หรือ Zoom 50% Zoom แบบ 2:1 หรือ Zoom 200% (3) Zoom พอดีกรอบที่ใช้ Mouse เลือก (4) Zoom ดูทุกรูปร่างที่อยู่ในพื้นที่ทำางาน (5) Zoom เต็มหน้ากระดาษ(Page) ทั้งขอบบนล่างและซ้ายขวา (6) Zoom เต็มความกว้างของหน้ากระดาษ ย้อนกลับไปการ Zoom ก่อนหน้านี้ ไปที่การ Zoom ถัดไป (กรณีมีการย้อนการ Zoom) บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-5]
  • 20. 2.6 Display mode Display mode ใช้กำาหนดการแสดงภาพบนหน้าจอ เพื่อความสะดวกในการทำางาน เช่น เพิ่ม ความเร็ว หรือดูโครงสร้างของรูปร่าง เป็นต้น การเลือก Display mode ให้ไปที่ View > Display Mode > (เลือก Mode ที่ต้องกำร) มี 3 Mode ให้เลือก ก็คือ 1. Normal : เป็น Mode ปกติ วาดอะไรไป สร้างอะไรไป ก็แสดงออกมาแบบนั้น 2. No filters : หากภาพมีการใช้ Filters จะไม่แสดง Filters 3. Outline : แสดงเฉพาะโครงร่างของรูปร่าง Normal mode ภำพที่ใช้ Filter ( ถ้ำเป็น No filers mode จะ แสดงภำพเหมือนกับ Normal mode ตัด Effect ของ Filters ออกไป เพื่อเพิ่มควำมเร็วในกำร แสดงผล ) Outline mode 2.7 Guides, Grids และ Snapping ก. Guildes Guildes คือ เส้นที่ใช้ช่วยในการจัดหน้ากระดาษ หรือช่วยวางตำาแหน่งของรูปร่าง เมื่อสั่ง พิมพ์ เส้น Guides จะไม่ติดไปด้วย การสร้างเส้น Guides Click ค้ำง ที่ไม้บรรทัด > ลำกเส้น Guilde มำวำงยังตำำแหน่งที่ต้องกำร การปรับแต่งเส้น Guides Double click ที่เส้น Guilde จากนั้นจะปรากฎหน้าต่าง Guildline ให้ปรับแต่ง เช่น ย้าย ตำาแหน่ง, ลบเส้น Guilde, หมุนเส้น Guilde เป็นต้น [2-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 21. หน้ำต่ำง Guideline ใช้ปรับแต่งเส้น Guides ตัวอย่ำงเส้น Guides การซ่อน/แสดงเส้น Guides ให้ไปที่ View > Guides ( “|” - Pipe key) หรือ Shift + ) การลบเส้น Guide ลากเส้น Guide กลับไปยังไม้บรรทัด เส้น Guide จะหายไป ข. Grids Grids คือ เส้นตาราง ที่ใช้ช่วยในการจัดหน้ากระดาษ หรือช่วยวางตำาแหน่งของรูปร่าง เมื่อสั่ง พิมพ์ เส้น Grids จะไม่ติดไปด้วย Grids มีอยู่ 2 แบบก็คือ Rectangular grid (ตารางสี่เหลี่ยม) และ Axonometric grid (ตารางสามเหลี่ยม) การสร้างเส้น Grid 1. เปิดหน้าต่าง Document Properties (Shift+Ctrl+D) 2. ที่ (TAB) Grid > กรอบ Creation เลือกประเภท Grid ที่ต้องการสร้าง (ตำมภำพ ก็คือ Rectangular grid) 3. กดปุ่ม New จะปรากฎแถบ Grid ที่พึ่งสร้างไป (ตำมภำพ ก็คือ grid3011) 4. กำาหนดรายละเอียดของ Grid (ให้สร้ำงขึ้นมำก่อน แล้วกำำหนดทีหลัง) บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-7]
  • 22. ตัวอย่ำง Rectangular grid หน้ำต่ำงสำำหรับสร้ำงและกำำหนดรำยละเอียดให้กับ Grid การซ่อน/แสดง Grids ไปที่ View > Grid ( “#”-Sharp key หรือ Shift+3 ) การลบ Grid 1. เปิดหน้าต่าง Document Properties (Shift+Ctrl+D) 2. ที่กรอบ Defined Grids เลือก Grid ที่จะลบ > กดปุ่ม Remove [2-8] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 23. ค. Snapping Snapping คือ คุณสมบัติในการเป็นแม่เหล็กของวัตถุต่างๆ เช่น Guildes, Grid หรือ รูปร่าง เมื่อเคลื่อนวัตถุ อย่างเช่น เคลื่อนรูปร่าง เข้าไปใกล้วัตถุที่มีคุณสมบัติเป็น Snap รูปร่างก็จะ กระโดดเข้าหาวัตถุนั้นโดยอัตโนมัติ เมื่อย้ำยวงกลมเข้ำหำ จุดตัดของเส้น Guides จุดศูนย์กลำงของวงกลม จะกระโดดเข้ำหำจุดตัดโดยอัตโนมัติ การปิด/เปิด Snapping วิธีที่ 1 : Click ที่ปุ่ม ที่ Snap Controls Bar วิธีที่ 2 : ไปที่ View > Snap ( กด “%” - Percent key หรือ Shift + 5 ) Snap Controls Bar เปิด/ปิด Snapping เปิด/ปิด Snap bounding box Snap ขอบของ bounding box Snap มุมของ bounding box Snap จุดกึ่งกลางของขอบ bounding box Snap จุดศูนย์กลางของ bounding box *** Bounding box คือ กรอบสี่เหลี่ยมเส้นประเมื่อเลือก รูปร่ำง เปิด/ปิด Snap Nodes หรือ Handles Snap พาธ Snap จุดตัดของพาธ Snap cusp nodes Snap smooth nodes Snap จุดกึ่งกลางของพาธ Segment Snap จุดกึ่งกลางของรูปร่าง Snap จุดหมุน *** ดูเพิ่มเติมเรื่องพำธ Snap ขอบของ Page ปิด/ปิด Snap to Grid ปิด/ปิด Snap to Guide บทที่ 2: มุมมองในกำรทำำงำน [2-9]
  • 24. การตั้งแรงดึงดูดของ Snap 1. เปิดหน้าต่าง Document Properties (Shift+CTRL+D) 2. ที่ (TAB) Snap กำาหนดค่าตามต้องการ (ใช้งำนโดยทั่วไป จะไม่เข้ำมำปรับกำร Snap ที่หน้ำต่ำงนี้ เพรำะตั้งไว้ดีอยู่แล้ว) [2-10] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 25. บทที่ 3 : กำรทำำงำนกับไฟล์ 3.1 กำรสร้ำง กำรเปิด และกำรบันทึกไฟล์ การสร้างไฟล์ใหม่ วิธีที่ 1 : ไปที่ File > New > Default (สร้ำงเอกสำรจำกค่ำเริ่มต้น) (Ctrl+N) วิธีที่ 2 : กดปุ่ม New Document บน Commands bar การเปิดไฟล์ วิธีที่ 1 : ไปที่ File > Open... ( Ctrl+O) > เลือกไฟล์ที่ต้องกำรเปิด (.SVG) วิธีที่ 2 : กดปุ่ม Open Document บน Commands bar > เลือกไฟล์ที่ต้องกำรเปิด การบันทึกไฟล์ Save บันทึกไฟล์ที่กำาลังทำางานอยู่ วิธีที่ 1 : ไปที่ File > Save ( Ctrl+S ) วิธีที่ 2 : กดปุ่ม Save Document บน Commands bar Save as... บันทึกเป็นไฟล์ใหม่ จากไฟล์ที่กำาลังทำางานอยู่ วิธีที่ 1 : ไปที่ File > Save as... (Shift+Ctrl+S) > ตั้งชื่อไฟล์ วิธีที่ 2 : กดปุ่ม Save as บน Commands bar > ตั้งชื่อไฟล์ Inkscape สามารถบันทึกเป็นไฟล์ได้หลายประเภท ไฟล์มาตราฐานของ Inkscape เป็นไฟล์ SVG (นามสกุล .SVG) แต่ SVG ที่มีให้เลือกบันทึก ก็มีอยู่หลายประเภท หน้ำต่ำง Save file to.... Inkscape SVG เป็นไฟล์มาตราฐานของ Inkscape เหมาะสำาหรับสร้างและแก้ไขไฟล์ ใน Inkscape Plain SVG เป็นไฟล์ SVG ที่เหมาะกับการนำา ไปใช้ภายนอก Inkscape เพราะ จะสนับสนุนมาตราฐาน W3C เต็ม รูปแบบ รูปร่างบางประเภทจะถูก แปลงเป็นพาธ .SVGZ(Compressed) เป็นไฟล์ SVG ที่ถูกบีบอัดทำาให้ ไฟล์มีขนาดเล็กลงเหมาะสำาหรับ นำาไปใช้บน Web บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-1]
  • 26. 3.2 กำร Import ภำพ Bitmap Inkscape รองรับการทำางานกับไฟล์หลายประเภท ทั้งที่เป็นไฟล์ Vector และ Bitmap ไฟล์ Vector ที่รองรับเช่น .CDR (Corel Draw), .AI (Adobe Illustrator), .DXF (AutuCAD) เป็นต้น เหล่านี้สามารถ Import เข้าสู่ Inkscape ได้ ไฟล์ Bitmap ที่รองรับ เช่น .BMP, .GIF, .JPG, .PNG, .TIFF, .TGA, .ICO, .PCX เป็นต้น (รองรับไฟล์อะไรบ้ำง ให้เลือกดูประเภทไฟล์ ที่หน้ำต่ำง Select file to import ) การ Import ไฟล์ Bitmap 5. ไปที่ File > Import... (Ctrl+I) จะปรากฎ หน้าต่าง Select file to import จากนั้นให้ เลือกไฟล์ที่ต้องการจะ Import เข้ามา หรืออีกวิธีหนึ่ง ให้ Click ค้ำงที่ไฟล์ภำพ Bitmap (ในหน้ำต่ำง File browser) > ลำกมำ วำงใน Inkscape 6. ก่อนที่ภาพ จะถูก Import เข้ามา จะปรากฎหน้าต่างมาถามว่า “จะ Import ภำพเข้ำมำ ในลักษณใด?” Embed? หรือ Link? Embed ภาพจะฝังติดไปกับไฟล์ SVG สะดวกแก่การจัดการ แต่ไฟล์ SVG จะโตตามขนาด ไฟล์ภาพไปด้วย การปรับแต่งภาพที่ภายนอกจะไม่มีผลต่อภาพที่อยู่ใน Inkscape LInk ภาพจะเชื่อมโยงกับไฟล์ SVG เท่านั้น จึงไม่มีผลต่อขนาดไฟล์ SVG แต่จะบริหาร จัดการยาก เพราะหากโยกย้ายหรือเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพ Link จะเสีย ทำาให้ภาพ ไม่แสดง เพราะข้อมูลที่ Link กันอยู่มีการเปลี่ยนแปลง ข้อดีอีกประการ ก็คือ การปรับแต่งภาพที่ภายนอกมีผลต่อภาพที่อยู่ใน Inkscape ภาพภายนอกเปลี่ยน อย่างไร ภาพใน Inkscape ก็เป็นอย่างนั้น หำก Link มีกำรเปลี่ยนแปลง เช่น ย้ำยไฟล์ เปลี่ยนชื่อไฟล์ ภำพจะไม่ปรำกฎแต่จะขึ้นว่ำ “Linked image not found” [3-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 27. วิธีแก้ Link เสีย 1. เลือกภาพที่ Link เสีย 2. เปิดหน้าต่าง XML Editor โดยไปที่ Edit > XML Editor... (Shift+Ctrl+X) 3. เมื่อเปิดหน้าต่าง XML ขึ้นมาแล้ว แถบสีจะขึ้นอยู่บนข้อมูลของภาพที่ Link เสียให้เลย (เพราะได้เลือกที่ภาพในตอนต้น) 4. ที่กรอบขวาบน(Attribute และ Value) แสดงค่าต่างๆของภาพ Bitmap ที่ SVG เก็บ ข้อมูลไว้ จากตัวอย่าง สาหตุที่ Link เสียก็เพราะ ได้มีการแก้ชื่อไฟล์จาก boy_02.jpg ไป เป็น boy_03.jpg 5. ให้เลือกที่บรรทัดชื่อและ Path ของไฟล์ Bitmap จากนั้นจะปรากฎข้อมูลที่กรอบขวาล่าง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ให้แก้จาก boy_02.jpg ไปเป็น boy_03.jpg (แก้ให้ เหมือนชื่อใหม่) จากนั้น กดปุ่ม Set ภาพก็จะกลับมา การตกแต่งภาพที่ถูก Link ภาพที่ Import แบบ Link เมื่อตกแต่งภาพที่อยู่ภายนอก Inkscape เช่น ปรับขนาด, ปรับสี, ปรับแสง, ตกแต่งรายละเอียดเพิ่มเติม เป็นต้น จะมีผลต่อภาพที่อยู่ใน Inkscape ด้วย ในกรณีที่ ต้องการเปิดโปรแกรมตกแต่งภาพจาก Inkscape ให้ Click ขวำที่ภำพ > Edit Externally... โปรแกรมตกแต่งภาพก็จะถูกเปิดขึ้นมา พร้อมเปิดไฟล์ภาพนั้นด้วย โปรแกรม ที่จะเปิดขึ้นมานี้ ถูกกำาหนด ไว้ที่ Inkscape Preferences (Shift+Ctrl+P) โปรแกรมตกแต่งภำพที่ตั้งให้เปิดเพื่อตกแต่งภำพ Bitmap ก็คือ Gimp สำมำรถเลือกเป็นตัวอื่นได้ บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-3]
  • 28. 3.3 เปลี่ยนจำก Embed เป็น Link หรือจำก Link เป็น Embed ต่อจากข้อ 3.2 ในภายหลัง หลังจาก Import ภาพเข้ามาแล้ว หากต้องการแก้ไขการ Import จาก Link ไฟล์ ไปเป็น Embed หรือจาก Embed ไปเป็น Link ก็สามารถทำาได้ เปลี่ยนจาก Link เป็น Embed 1. เลือกภาพ (Link) 2. ไปที่ Extensions > Images > Embed Images... จากนั้นจะปรากฎหน้าต่าง Embed Images (Option) Embed only selected images ใช้สำาหรับ Embed เฉพาะภาพที่เลือกเท่านั้น 3. กด Apply เพื่อ Embed ภาพ เปลี่ยนจาก Embed เป็น Link (Extract) 1. เลือกภาพ (Embed) 2. ไปที่ Extensions > Images > Extract Image... จากนั้นจะปรากฎหน้าต่าง Extract Image (กำร Extract ภำพ เป็นกำรแยกภำพที่ Embed อยู่กับไฟล์ SVG ออกไปเป็นไฟล์ ภำพอื่น) 3. พิมพ์ชื่อไฟล์ลงในช่อง Path to save image : .... หากไม่ใส่ Path ลงไป ภาพจะถูก บันทึกไว้ที่ Home folder ไม่ต้องใส่นามสกุลของภาพ เพราะจะขึ้นให้อัตโนมัติ 4. กด Apply เพื่อ Extract ภาพ จากนั้นจะปรากฎหน้าต่างเพื่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม ภำพที่ถูก Extract อยู่ที่ /home/wasankds/none.jpg (ใช้ระบบปฎิบัติกำร Ubuntu) [3-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 29. 3.4 กำร Export เป็นภำพ Bitmap การ Export ภาพที่สร้างใน Inkscape ไปเป็นภาพ Bitmap Inkscape กำา หนดให้ Export เป็นไฟล์ PNG ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ถึงอย่างไรก็ดี PNG เป็นภาพที่ใช้กันอย่างกว้าง ขวาง บน Website ก็ดี บนโปรแกรม Graphic อื่นๆก็ดี การ Export เป็นภาพ Bitmap ให้ไปที่ File > Export Bitmap... (Shift+Ctrl+E) จากนั้น จะปรากฎหน้าต่าง Export Bitmap Export Area (พื้นที่ที่ต้องการจะ Export) Page Export รูปร่างที่อยู่ในพื้นที่หน้ากระดาษเท่านั้น Drawing Export รูปร่างทั้งหมดที่อยู่ใน Canvas แม้จะอยู่ภายนอกหน้ากระดาษก็ตาม Selection Export รูปร่างที่ถูกเลือกเท่านั้น Custom Export รูปร่างในพื้นที่ที่กำาหนดเอง ในกรอบ Width และ Height xo, x1, y0, y1, Width และ Height คือขนาดและพิกัดของพื้นที่สี่เหลี่ยมที่จะทำาการ Export บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-5]
  • 30. Bitmap size คือ ขนาดภาพเมื่อ Export โดยโปรแกรมจะคำานวณให้อย่างอัตโนมัติ ตามพื้นที่ที่ต้องการจะ Export และ Resolution ถึงอย่างไรก็ดี สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สามารถตั้งค่า Resolution เริ่มต้นได้ที่หน้าต่าง Inkscape Preferences (Shift+Ctrl+P) > Import/Export ค่าเริ่มต้นที่โปรแกรมตั้งไว้ให้ก็คือ 90 dpi (จากภาพ ได้แก้เป็น 150 dpi) Filename เป็นช่องสำาหรับใส่ตำาแหน่ง(Path)และชื่อไฟล์ที่ต้องการบันทึกหลังจาก Export แต่ไม่ว่าจะใส่ นามสกุลอะไร Inkscape จะบันทึกเป็น PNG อย่างเดียว (Option) Batch export all selected objects ใช้ในกรณีเลือกรูปร่างมากกว่า 1 จะเป็นการ Export แบบ 1 รูปร่าง 1 ไฟล์ หลายรูปร่างก็หลายไฟล์ (Option) Hide all except selected ใช้ซ่อนรูปร่างอื่นๆที่ ไม่ได้ถูกเลือก ระหว่างการ Export 3.5 กำร Slice ภำพ ในกรณีที่ต้องการ Slice ภาพออกเป็นชิ้นๆ ต้องใช้ตัวช่วย ให้สร้างสี่เหลี่ยมไว้บนรูปร่างตามแนวที่ต้องการจะ Slice โดยสี่เหลี่ยมกลุ่มนี้ จะไม่ใส่สีเส้น ขอบหรือใส่สีพื้น ฉะนั้นจึงมองไม่เห็นสี่เหลี่ยมกลุ่มนี้ ต้องสร้าง Layer ขึ้นมาชั้นหนึ่ง สำาหรับเก็บสี่เหลี่ยมกลุ่มนี้โดยเฉพาะ (ดูเพิ่มเติมเรื่อง Layer) สี่เหลี่ยม 3 ภำพ (ยังไม่ได้ซ่อนเส้นขอบและสี พื้น) สร้ำงไว้บน รูปร่ำงที่ต้องกำรจะ Slice หำกต้องกำรให้สี่เหลี่ยมชนกันที่ขอบพอดีให้ใช้ กำรกรอกตัวเลขขนำดหรือใช้เส้น Guides ช่วย [3-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 31. เมื่อจะ Export ให้เลือก Layer ที่เก็บสี่เหลี่ยมไว้ จากนั้นกด Ctrl+A เพื่อเลือกรูปร่างทั้งหมด รวมทั้งที่ซ่อนอยู่ด้วย จากนั้นให้ Export แบบ Batch export (เลือก Batch export all selected objects ) <<< ผล ภำพที่ 1 <<< ผล ภำพที่ 2 <<< ผล ภำพที่ 3 3.6 กำร Import จำก Open Clip Art Library Inkscape สามารถเชื่อมต่อกับ Open Clip Art Library บน Website เพื่อค้นหาภาพ Clip Art แล้วแทรกลงสู่พื้นที่ทำางานได้ ให้ไปที่ File > Import From Open Clip Art Library จะปรากฎหน้าต่างตามภาพด้านล่าง ซึ่งใช้ค้นหาภาพ Clip art จาก Website เมื่อพบภาพที่ต้องการแล้ว ให้กด Open จะปรากฎภาพดังกล่าวบนพื้นที่ทำางาน บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ [3-7]
  • 33. บทที่ 4 : วำดรูปร่ำงเรขำคณิต 4.1 สีเหลี่ยมผืนผ้ำ(Rectangles)และสี่เหลี่ยมจตุรัส(Squares) การวาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจตุรัส จะวาดด้วย Rectangular tool การวาด 5. เลือก Rectangular tool (F4 หรือ r) 6. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop) Shift+ลาก วาดสี่เหลี่ยมรอบจุดที่เริ่มต้น Click Ctrl+ลาก วาดสี่เหลี่ยมจตุรัส การปรับแต่งโดยใช้ Handles ให้สังเกตุสี่เหลี่ยมที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยม และ วงกลม อยู่ตามมุม Handles เหล่านี้มีไว้สำาหรับการปรับแต่งรูปร่าง การปรับแต่ง Handles ให้ใช้ Node tool (F2) หรือ ใช้ Rectrangular Tool จับที่ Handles แล้วเลื่อน Handles สี่เหลี่ยม ใช้ปรับขนำด Handles วงกลมใช้ใส่ควำมโค้งที่มุม Ry=5, Rx=0 Ry=5, Rx=16 Ctrl+ ลาก Handle วงกลม ทำาให้มุมโค้งเท่ากันทั้งแกน X และ Y Shift+Click ที่ Handle วงกลม เอามุมโค้งออก บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-1]
  • 34. Tool Controls ของ Rectangular tool ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำาในการปรับแต่ง สามารถทำาได้โดยใช้ Tool Controls เพราะ สามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆลงไปได้ Click ที่รูปร่ำงสี่เหลี่ยม และ Click ที่ Rectangular tool จะปรำกฎ Tool Controls ของ Rectangular tool W ความกว้าง H ความสูง Rx รัศมีมุมโค้งในแนวแกน X Ry รัศมีมุมโค้งในแนวแกน Y ปุ่มเลือกหน่วยวัด เอามุมโค้งออก 4.2 วงรี(Ellipses), วงกลม(Circles) และส่วนของเส้นโค้ง(Arcs) การวาดวงรี, วงกลม หรือส่วนของเส้นโค้ง(Arc) จะวาดด้วย Ellipse tool การวาด 1. เลือก Ellipse tool (F5 หรือ e) 2. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop) Shift+ลาก วาดวงกลมรอบจุดที่เริ่มต้น Click (จุดศูนย์กลางอยู่ที่จุดที่เริ่มต้น Click) Ctrl+ลาก วาดวงกลม การปรับแต่งโดยใช้ Handles วงกลมหรือวงรีที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยม และ วงกลม อยู่ที่ด้านบน และด้านข้าง ให้จับ Handles ดังกล่าวเลื่อนไปมาเพื่อปรับรูปร่าง Handles สี่เหลี่ยม ใช้ปรับขนำด Handles วงกลมใช้สร้ำงส่วนของเส้นโค้งหรือสร้ำง Segment(รูป Pie) Start =0, End=220 Arc Shift+Click ที่ Handles วงกลม ทำาให้กลับเป็นวงกลมเต็มใบ Ctrl+ ลาก Handles วงกลม Snap to angle (15 องศา) [4-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 35. Tool Controls ของ Ellipse tool การปรับแต่งโดยใช้ Tool Controls และ Handles มีลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ การใช้ Tool Controls จะทำาได้แม่นยำากว่า เพราะสามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆได้ Click ที่รูปร่ำงวงรี วงกลม หรือส่วนของเส้นโค้ง และ Click ที่ Ellipse tool จะปรำกฎ Tool Controls ของ Ellipse tool Start มุมของ Hadle วงกลมจุดแรก End มุมของ Hadle วงกลมจุดที่ 2 สลับเป็นรูป Segment (รูปพาย) สลับเป็นรูป Arc ทำาให้กลับเป็นวงกลม 4.3 รูปหลำยเหลี่ยม(Polygons)และรูปดำว(Stars) การวาดรูปหลายเหลี่ยม เช่น 3 เหลี่ยม, 4 เหลี่ยม ไปจนถึงเป็นร้อยๆ เหลี่ยม และ การวาดรูป ดาวตั้งแต่ 3 แฉก 4 แฉก ไปจนถึงเป็นร้อยๆแฉก จะวาดด้วย Star tool การวาด 1. เลือก Star tool (Shift+F9 หรือ *) 2. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop) Ctrl+ลาก Snap to angle (15 องศา) การปรับแต่งโดยใช้ Handles วงกลมหรือวงรีที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัด อยู่ 2 จุด ที่ ด้านในกับด้านนอก ให้จับ Handles ดังกล่าวเลื่อนไปมาเพื่อปรับรูปร่าง Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนใน ใช้ปรับรัศมีวงใน Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนนอก ใช้ปรับรัศมีวงนอก Spoke ratio = 0.13 Spoke ratio = 0.84 Ctrl+ลาก Handle ขยับ Handle แบบล็อคแกน (มี 2 แกน ก็คือ จากจุดศูนย์กลาง ถึง Handles ทั้ง 2 จุด) บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-3]
  • 36. Rounded=0.5 Rounded=1.5 Shift+ลาก Handle ใส่มุมโค้งให้กับทุกมุม Shift+Click ที่ Handle เอามุมโค้งออก Rounded=0 Rounded=0.3 Rounded=0.5 Randomized=0.2 Alt+ลาก Handle Randomized จุดมุม Tool Controls ของ Star tool การปรับแต่งโดยใช้ Tool Controls และ Handles มีลักษณะเดียวกันเพียงแต่ การใช้ Tool Controls จะทำาได้แม่นยำากว่า เพราะสามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆได้ Click ที่รูปดำวหรือรูปหลำยเหลี่ยม และ Click ที่ Star tool จะปรำกฎ Tool Controls ของ Star tool สลับเป็นรูปหลายเหลี่ยม (มี Handle 1 จุด) สลับเป็นรูปดาว (มี Handles 2 จุด) Corners จำานวนด้าน/จำานวนแฉก Spoke ratio (Active เฉพำะรูปดำว มีค่ำ 0.01-1) สัดส่วนความยาวของแกน ระหว่าง ระยะ จากจุดศูนย์กลางถึง Handles ทั้งสองจุด ถ้าเป็น 0.01 แฉกจะเป็นเส้น ถ้าเป็น 1 จะ ไม่มีแฉก แต่กลายเป็นรูปหลายเหลี่ยม Rounded ( -10 ถึง 10 ) รัศมีที่มุม Randomized ( -10 ถึง 10) สุ่มการวาดมุม Reset (กลับเป็นเหมือนตอนวาดครั้งแรก) 4.4 วำดรูปก้นหอย(Spirals) การวาดรูปก้นหอยหรือ Spiral จะวาดด้วย Spiral tool การวาด 1. เลือก Spiral tool (F9 หรือ i) 2. Click ค้ำงบนพื้นที่ทำำงำน > ลำก Mouse > ปล่อย Mouse (Click-Drag-Drop) [4-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 37. Ctrl+ลาก Snap to angle (15 องศา) การปรับแต่งโดยใช้ Handles ก้นหอยที่สร้างเสร็จแล้ว จะมี Handles(ที่จับ) รูป สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด อยู่ 2 จุด ที่ด้านใน และด้านนอก ให้จับ Handles ดังกล่าวเลื่อนไปมาเพื่อปรับรูปร่าง Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนใน ใช้ปรับควำมยำวด้ำนใน Handle สี่เหลี่ยมข้ำวหลำมตัดด้ำนนอก ใช้ปรับควำมยำวด้ำนนอก Inner radious = 0 Turns=1.9 Inner radious = 0.6 Turns=3 Ctrl+ลาก Handle(หมุนตามส่วนโค้ง) Snap to angle (15 องศา) Turns=12 Divergence=1 Turns=12 Divergence=0.6 Alt+ลาก Handle ด้านนอก(หมุนตามโค้ง) เพิ่มเกลียวโดยรัศมีของก้นหอยยังเท่าเดิม Alt+ลาก Handle ด้านใน(เข้า/ออก) กระจายระยะห่างระหว่างเกลียว Tool Controls ของ Spiral tool ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำาในการปรับแต่ง สามารถทำาได้โดยใช้ Tool Controls เพราะ สามารถกรอกตัวเลขเพื่อกำาหนดค่าต่างๆลงไปได้ Click ที่รูปก้นหอย และ Click ที่ Spiral tool จะปรำกฎ Tool Controls ของ Spiral tool Turn จำานวนรอบของเกลียว Reset Divergence (0 ถึง 1) สัดส่วนการกระจาย ระยะห่างระหว่างเกลียว ปกติมี ค่าเป็น 1 (กระจายเท่ากันทุก เกลียว) ถ้าเป็น 0 จะไม่มีเกลียว แต่เป็นวงกลม Inner radius (0 ถึง 0.999) สัดส่วนความยาว ระหว่าง จุดศูนย์กลางถึง Handle ด้านในที่หายไป ต่อ จุดศูนย์กลางถึง Handle ด้านนอก ปกติมีค่าเป็น 0 (Handle ด้านในอยู่ที่ศูนย์กลาง) ถ้า เป็น 0.999 เส้นเกลียวจะหายไป บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-5]
  • 38. 4.5 แปลงโครงสร้ำงรูปร่ำงเรขำคณิต (Object to path) รูปร่างเรขาคณิต เช่น วงกลม, สี่เหลี่ยม, ดาว หรือ ก้นหอย มีโครงสร้างเฉพาะ การปรับแต่ง จึงต้องอยู่ภายใต้ข้อจำากัดที่กำากับโครงสร้างของรูปร่างนั้นๆ หากจะปรับแต่งให้ได้อย่างอิสระ ต้องทำาการแปลงโครงสร้างของรูปร่างเสียก่อน การแปลงโครงสร้างรูปร่างเรขาคณิตไปเป็นโครงสร้างแบบ Path 1. เลือกรูปร่างเรขาคณิต 2. Path > Object to path (Shift+Ctrl+C) *** เมื่อแปลงแล้ว จะไม่สำมำรถแปลงกลับได้ เมื่อแปลงโครงสร้างแล้ว จะไม่สามารถปรับแต่งโดยใช้วิธีเดิมๆได้อีก เพราะโครงสร้างของรูป ร่างเปลี่ยนไปเป็นแบบพาธแล้ว โครงสร้างแบบพาธ เป็นโครงสร้างที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ (ดูวิธีกำรปรับแต่งรูปร่ำง ได้ที่เรื่องของพำธ ) วงกลม ที่สร้ำงด้วย Ellipse tool วงกลม ที่แปลงโครงสร้ำง ไปเป็นแบบพำธ ( Handles เปลี่ยนไป ) วงกลม ที่มีโครงสร้ำงแบบพำธ ที่ถูกปรับแต่งโดยใช้ Node tool รูปร่างเรขาคณิต ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะใช้ขึ้นรูปเพื่อปรับแต่งไปเป็นรูปร่างที่ซับซ้อนต่อไป 4.6 ตั้งค่ำเริ่มต้นให้กับกำรวำดรูปร่ำงเรขำคณิต เมื่อวาดรูปร่างเรชาคณิต โปรแกรมจะใส่สีให้กับเส้นขอบและพื้นให้ก่อน ซึ่งตรงนี้เราสามารถ กำาหนดได้เองว่า จะให้ค่าเริ่มต้นของรูปร่างเป็นอย่างไร การตั้งค่าเริ่มต้นให้กับการวาดสีเหลี่ยม (ตัวอื่นมีวิธีเหมือนกัน) 1. เปิดหน้าต่าง Inkscape Preferences File > Inkscape Preferences... (Shift+Ctrl+P) [4-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 39. 2. ที่หน้าต่าง Inkscape Preferences เลือก Tool > Shapes > Ractangle (ตามภาพด้าน ล่าง) 3. เลือกรูปร่างต้นแบบบนพื้นที่ทำางาน จากนั้น เลือกที่ (Option) This tool's own style และกดปุ่ม Take from selection (ใช้รูปร่างที่เลือกเป็นต้นแบบ) จากนั้นที่ Fill และ Stroke จะปรากฎสีพื้นและเส้นขอบรูปแบบเดียวกับต้นแบบ 4. จากนั้นเมื่อวาดรูปสี่เหลี่ยมในครั้งต่อๆไป ก็จะมีรูปแบบเริ่มต้นตามที่ได้ตั้งไว้ (ตำมภำพ - สี พื้นสีเหลือง เส้นขอบสีดำำขนำด 2.81) 5. *** หากเลือกที่ (Option) Last used style เมื่อวาดรูปร่างแล้วกำาหนดสีพื้นหรือเส้นขอบ ไปเป็นอย่างอื่น หากวาดครั้งต่อไป สีพื้นหรือเส้นขอบก็จะเป็นไปตามครั้งล่าสุดที่ได้ปรับ แต่งไป บทที่ 4: วำดรูปร่ำงเรขำคณิต [4-7]
  • 41. บทที่ 5 : กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น 5.1 Undo และ Redo ระหว่างการทำางาน บ่อยครั้งมากที่เราจะทำาผิดพลาด หรือแค่อยากลอง เช่น อยากลองใส่สีนู้น หรือสีนี้ เป็นต้น เราสามารถยกเลิกสิ่งที่ได้ทำาไปแล้วย้อนหลังได้ โดยการทำา Undo และเมื่อ ทำา Undo(หรือ ยกเลิก) ไปแล้ว ก็ยังสามารถเปลี่ยนใจทำาคำาสั่งที่ได้ยกเลิกไปแล้วก็ได้ โดยการทำา Redo คำาสั่ง Undo วิธีที่ 1 : กดที่ Icon ที่ Commands Bar วิธีที่ 2 : ไปที่ Edit > Undo (Ctrl+Z หรือ Shift+Ctrl+Y) คำาสั่ง Redo วิธีที่ 1 : กดที่ Icon ที่ Commands Bar วิธีที่ 2 : ไปที่ Edit > Redo (Ctrl+Y หรือ Shift+Ctrl+Z) *** กดซำ้ำๆ จะทำำกำร Undo หรือ Redo ไปเรื่อยๆ (แต่มีจำำนวนครั้งจำำกัด) 5.2 Copy, Cut, Paste, Duplicate และ Clone ก. การ Cut, Copy, Paste และ Duplicate Edit > Cut (Ctrl+X) : ตัดรูปร่างออกจากพื้นที่ทำางานเก็บไว้ใน Memory รอการวาง Edit > Copy (Ctrl+C) : คัดลอกรูปร่างเก็บไว้ใน Memory รอการวาง Edit > Paste (Ctrl+V) : วางรูปร่างที่เก็บไว้ใน Memory ลงบนพื้นที่ทำางาน ตำาแหน่งที่วางอยู่ที่ปลายของ Cursor Edit > Paste Style (Ctrl+Shift+V): วางเฉพาะรูปแบบเส้นขอบและสีพื้นให้กับรูปร่างตัวอื่น ( การ Paste Style จะต้องเลือกรูป ร่างที่จะรับการ Paste Style ก่อน จึงใช้คำาสั่ง) Edit > Duplicate (Ctrl+D) : คัดลอกและวางรูปร่าง(ลงทับตำาแหน่งเดิม) ในขั้นตอนเดียว บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-1]
  • 42. ข. การ Clone การ Clone คือการ Copy รูปร่างอีกวิธีหนึ่ง โดยการ Clone จะสร้างตัว Copy ที่ Link กับ ตัวต้นแบบไว้ เรียกว่า ตัว Clone เมื่อต้นแบบเปลี่ยนแปลง ตัว Clone ก็จะเปลี่ยนแปลงด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม หากตัวโคลนเปลี่ยนแปลง ต้นแบบจะไม่เปลี่ยนแปลงตาม การสร้างตัว Clone 6. เลือกรูปร่างต้นแบบ 7. Edit > Clone > Create Clone (Alt+D) 8. ตัว Clone จะวางทับตำาแหน่งเดิมของรูปร่างต้นแบบ การยกเลิกการ Link เมื่อไม่ต้องการให้ตัว Clone link กับรูปร่างต้นแบบอีกแล้ว สามารถยกเลิกการเป็นตัว Clone ได้ (การยกเลิก Link ไม่ใช่การลบ) 1. เลือกที่ตัวโคลน 2. Edit > Clone > Unlink Clone (Shift+Alt+D) ค. Copy และ Paste โดยการลากรูปร่าง การ Copy และ Paste โดยการลากรูปร่าง 1. Click ที่รูปร่างค้างไว้ 2. ลาก Mouse ไปยังตำาแหน่งต่างๆ ระหว่างที่ลาก Mouse เมื่อกด Spacebar จะเป็นการ Copy และ Paste รูปร่างลงบนพื้นที่ทำางานทันที 3. กด Spacebar ไปเรื่อยๆ ก็จะทำาการ Copy และ Paste ไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่ลาก Mouse ผ่านไป 5.3 กำรเลือกรูปร่ำง (Selecting objects) การเลือกรูปร่าง ถือเป็นพื้นฐานที่สำาคัญที่สุด เพราะก่อนที่จะทำางานกับรูปร่างต่างๆได้ รูปร่าง จะต้องถูกเลือกก่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะสำาคัญมากๆ หากงานมี รูปร่างเป็นจำานวน มาก ก. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Mouse การเลือกรูปร่างโดยใช้ Mouse จะใช้ Select tool (F1 , s หรือ Spacebar) การเลือกทีละ 1 รูปร่าง ใช้ Select tool Click ที่ รูปร่ำง [5-2] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 43. การเลือกรูปร่างโดยการสร้างกรอบ (Click-Drag-Drop) ในกรณีที่ต้องการเลือกรูปร่างจำานวนมากในขั้นตอนเดียว Click ที่พื้นที่ว่ำง > ลำก Mouse ให้ครอบคลุมรูปร่ำง > ปล่อย Mouse การเลือกรูปร่างเพิ่มเติมหรือยกเลิกการเลือก เลือกรูปร่างเพิ่ม Shift+Click ที่รูปร่าง ที่ต้องการเลือกเพิ่มเติม ยกเลิกการเลือกรูปร่าง Shift+Click ที่รูปร่าง ที่เลือกไว้แล้ว การเลือกรูปร่างที่อยู่ใต้รูปร่าง ในกรณีที่รูปร่างอยู่ซ้อนกัน หากต้องการเลือก รูปร่าง ที่อยู่ด้านล่าง Alt+Click ที่รูปร่างตำาแหน่งที่ซ้อนทับกันอยู่ Alt+Click ไปเรื่อยๆ จะเป็นการวนเลือกรูปร่าง ที่ เรียงซ้อนกันอยู่ การเลือกรูปร่างโดยการลาก Mouse ผ่าน (Touch selection) Alt+Click พื้นที่ว่าง > ลาก Mouse ผ่านรูปร่าง (1) (2) Alt+Click > ลาก Mouse เส้นทำงที่ลำกผ่ำนจะเป็นสีแดง (3) (4) บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-3]
  • 44. ข. การเลือกรูปร่างโดยใช้ Keyboard Tab (Select next object) : เลือกรูปร่างต่อไป (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น) หากรูปร่างซ้อนทับกันอยู่ จะเริ่ม ต้นเลือกรูปร่างที่อยู่ล่างสุดก่อน จากนั้นจะวนเลือกรูปร่างชั้นต่อไป ก่อนจะกระโดดออกไป เลือกรูปร่างอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ซ้อนทับกัน Shift+Tab (Select previous object) : เลือกรูปร่างก่อนหน้า (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น) Ctrl+A (Select All) : เลือกรูปร่างทั้งหมด (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น) Ctrl+Alt+A (Select All in All Layers) : เลือกรูปร่างในทุกๆ Layer (ที่ไม่ได้ถูกซ่อนหรือถูกล็อค) ! (Invert Seletcion) : กลับการเลือก (มีผลเฉพำะใน Layer เดียวกันเท่ำนั้น) Alt+! (Invert seletcion in all visible and unlocked layers) : กลับการเลือก มีผลต่อทุกๆ Layers (ที่ไม่ได้ถูกซ่อนหรือถูกล็อค) Esc (Deselect) : ยกเลิกการเลือกทั้งหมด 5.4 Groups และ Ungroups รูปร่างต่างๆสามารถนำามารวมกันและสร้างเป็นกลุ่ม เพื่อความสะดวกในการเลือก, เคลื่อน ย้าย, การย่อ/ขยาย หรืออื่นๆ พร้อมๆกันทั้งกลุ่ม การสร้าง Group 1. เลือกรูปร่างทั้งหมดที่ต้องการสร้างเป็นกลุ่ม 2. ไปที่ รูปร่ำง > Group (Ctrl+G) หรือ Click ที่ Icon บน Commands bar การยกเลิก Groups 1. เลือก Groups ที่ต้องการยกเลิก 2. ไปที่ รูปร่ำง >Ungroup (Ctrl+U) หรือ Click ที่ Icon บน Commands bar หรือ Double Click ที่ Group [5-4] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 45. การแก้ไขสมาชิกใน Group โดยไม่ต้อง Ungroup โดยปกติเมื่อทำาการย้าย ย่อ/ขยาย หมุน เติมสีหรืออื่นๆ ต่อ Group จะมีผลต่อสมาชิกทั้งหมด ใน Group แต่ทั้งนี้ เราก็สามารถเลือกกระทำาดังกล่าวต่อสมาชิกใน Group ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ Ctrl+Click สมาชิกใน Group จากนั้น จะสามารถปรับแต่งสมาชิกตัวนั้นได้ตามต้องการ Ctrl+Alt+Click สมาชิกใน Group เลือกรูปร่างใน Group ที่อยู่ด้านล่าง Ctrl+Shift+Alt+Click สมาชิกใน Group สลับการเลือกรูปร่างใน Group 5.5 Z-order (ลำำดับชั้นของรูปร่ำง) Z-order หรือ ลำาดับชั้นของรูปร่างเป็นการอธิบายถึงการเรียงซ้อนกันของรูปร่างในแนวแกน Z หรือแนวตั้งฉากกับระนาบของพื้นที่ทำางาน การเปลี่ยนลำาดับชั้นของรูปร่าง Object > Raise (PgUp) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างขึ้นไป 1 ขั้น Object > Lower (PgDn) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างลงไป 1 ขั้น Object > Raise on Top (Home) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างไปบนสุด Object > Raise to Bottom (End) หรือ Click ที่ Icon : ย้ายรูปร่างไปล่างสุด ( กรณีใช้กำร Click ที่ Icon ต้องเลือก Select tool ก่อน แล้ว Icon จะปรำกฎบน Tool Controls Bar) แกน z ตั้งฉำกกับระนำบของ Canvas (1) รูปดำวอยู่บนสุด (2) รูปดำวอยู่ลึกลงมำ 1 ชั้น (PgDn) (3) รูปดำวอยู่ด้ำนล่ำงสุด (End) บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-5]
  • 46. 5.6 Layers (ลำำดับชั้นของภำพ) Layers มีลักษณะคล้ายกับ Z-order ก็คือ ใช้ในการเรียงลำาดับชั้นของรูปร่าง แต่ Layers นั้น มีนำ้าหนักมากกว่า Z-order เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Layers เป็นการเรียงลำาดับชั้น ของรูปร่าง ภายใน Layer หนึ่งๆเท่านั้น ไม่สามารถทำา Z-order ข้าม Layers ได้ เมื่อสร้างรูปร่างโปรแกรมจะจัดลำาดับชั้น Z-order ให้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ สำาหรับ Layers เมื่อเริ่มต้นใช้งาน โปรแกรมจะมีมาให้เพียง Layer เดียว รูปร่ำงที่เรียงซ้อนกันมีกำรแบ่ง Layers และเรียงลำำดับ Z-order มุมมองกำรเรียงลำำดับชั้นของรูปร่ำงด้วย Layers และ Z-order Layers นอกจากนี้ ยังสามารถกำาหนดคุณสมบัติการมองเห็นและการล็อค Layers ได้ด้วย รูปร่างที่มีจำานวนไม่มาก แค่เพียง Z-order ก็เพียงพอต่อการจัดลำาดับชั้น แต่.ถ้ารูปร่างมีเป็น จำานวนมาก Layers จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการ รูปร่างได้เป็นอย่างดี หน้าต่าง Layers (Shift+Ctrl+F) หน้าต่าง Layers ใช้ในการบริหารจัดการ Layers เพิ่ม Layer ใหม่ (Ctrl+Shift+N) ย้าย Layer ที่เลือกไปไว้บนสุด (Shift+Ctrl+Home) ย้าย Layer ที่เลือกขึ้นไป 1 ชั้น (Shift+Ctrl+PgUp) ย้าย Layer ที่เลือกลงไป 1 ชั้น (Shift+Ctrl+PgDn) ย้าย Layer ที่เลือกลงไปไว้ล่างสุด (Shift+Ctrl+End) ลบ Layer Opacity (0-100%) ความโปร่งใสของทั้ง Layer ซ่อน/แสดง Layer (ซ่อน= ) ล็อค/ปลดล็อค Layer (ล็อค= ) [5-6] wasankds@gmail.com, www.poeclub.org
  • 47. การสร้าง Layer ใหม่ Layer > Add layer... (Ctrl+Shift+N) จะปรากฏหน้าต่าง Add Layer ให้ตั้งชื่อของ Layer หน้ำต่ำง Add Layer (Position) Below cerrent สร้ำง Layer ให้อยู่ตำ่ำกว่ำ ชั้นที่ทำำงำนอยู่ขณะนี้ ที่หน้ำต่ำง Layers มี Layer ใหม่เพิ่มเข้ำมำ หน้ำต่ำง Add Layer (Position) As sublayer of current สร้ำงเป็น Sublayer(ชั้นย่อย) ของ Layer ที่ทำำงำนอยู่ขณะนี้ *** Sublayer เป็นกำรซอยย่อย Layer ชั้นนั้นๆ ลงไปอีก ซึ่งจะช่วยให้ควบคุม Layers ได้ หลำยๆ Layers พร้อมๆกัน การเลือกทำางานกับ Layer ใดๆ วิธีที่ 1: .ใช้ Status bar เมื่อทำางานอยู่ที่ Layer ใด ที่ Statusbar จะแสดงชื่อ Layer นั้นอยู่ สามารถสลับไปทำางานยัง Layer อื่นๆ ได้ โดยใช้ Statusbar โดย Click ที่ชื่อ Layer จากนั้นจะมีรายการให้เลือกว่า จะ ย้ายไปทำางานกับ Layer ใด วิธีที่ 2 : Click ที่ชื่อ Layer ในหน้าต่าง Layers วิธีที่ 3 : Ctrl+PgUp ย้ายไปทำางานกับ Layer ด้านบนถัดไป Ctrl+PgUp ย้ายไปทำางานกับ Layer ด้านล่างถัดไป บทที่ 5: กำรทำำงำนกับรูปร่ำงเบื้องต้น [5-7]