หนังสือพิมพ์

1. หนังสือพิมพ์

2. ความหมาย
หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ประเภทหนึ่งที่มีกาหนดตีพิมพ์เผยแพร่รายวัน รายสัปดาห์ หรือ
รายประจาตามระยะเวลาที่กาหนดอย่างสม่าเสมอและสิ่งพิมพ์ที่รายงานข้อเท็จจริงและเหตุการณ์
สาคัญที่เกิดขึ้น ไม่เย็บเล่มและไม่มีปก เนื้อหาส่วนใหญ่ มุ่งเสนอข่าวสารต่าง ๆ เช่น ข่าวสังคม
เศรษฐกิจ การเมือง อาชญากรรม อุบัติเหตุ การศึกษา กีฬา บันเทิง ทั้งในและต่างประเทศ และ
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เป็นต้น

3. ประเภทสารสนเทศได้เป็น 3 ประเภท
1. วัสดุตีพิมพ์ (printed materials)
2. วัสดุไม่ตีพิมพ์ (non-printed material)
3. ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (electronic database)

4. ประเภทของหนังสือพิมพ์

5. แบ่งตามลักษณะของเนื้อหาเป็นสาคัญแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.หนังสือพิมพ์แนวคุณภาพ (quality newspapers)
หมายถึง หนังสือพิมพ์ที่มุ่งเน้นการเสนอข่าวประเภทข่าวหนัก (hard news) เช่น ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ เป็นต้น ข่าวเหล่านี้มุ่งสนองความรู้
ความคิดของผู้อ่านเป็นสาคัญ การใช้ภาษา ในหนังสือพิมพ์ประเภทนี้ไม่หวือหวาเร้าอารมณ์มากนัก มีลักษณะค่อนข้างจริงจังมากกว่าเนื้อหาหนักไป
ทางรายละเอียดข้อเท็จจริง หนังสือพิมพ์ประเภทนี้มีจานวนจาหน่ายไม่สูงนัก ผู้อ่านหนังสือพิมพ์ประเภทนี้มักจะเป็นผู้บริหารหรือผู้มีการศึกษา
พอสมควร เช่น ข้าราชการ ครู อาจารย์ นิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ เป็นต้น

6. 2. หนังสือพิมพ์แนวประชานิยม (popular newspapers)
หรือ หนังสือพิมพ์ปริมาณหมายถึง หนังสือพิมพ์ที่มุ่งเน้นการเสนอข่าวประเภทเร้าอารมณ์ (sensational) หรือ ข่าวเบา (soft
news) เช่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวภัยพิบัติต่างๆ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเพศ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ข่าวแปลกประหลาด ข่าวความขัดแย้ง และ
ความรุนแรงต่าง ๆ เป็นต้น ข่าวเหล่านี้เป็นข่าวประเภทที่คนธรรมดาสามัญทั่วไปสนใจ สนองอารมณ์ของ คนส่วนใหญ่ในสังคมเหมาะกับผู้อ่าน
ทุกระดับชั้น
ลักษณะการเสนอเนื้อหาสาระประเภทนี้เต็มไปด้วยการเร้าอารมณ์ การใช้ภาษาในหนังสือพิมพ์ ประเภทนี้มักใช้ถ้อยคาที่หวือหวาเกินจริงเร้า
อารมณ์ของผู้อ่านมากดึงดูดความสนใจโดยการพาดหัวข่าวตัวโตๆ มีรูปภาพประกอบข่าวมากมาย

7. แบ่งตามวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของไทย คือ การแบ่งเป็น 3 ประเภท
1.หนังสือพิมพ์ประเภทข่าวทั่วไป (General Newspaper)
เช่นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หนังสือพิมพ์ข่าวสด หนังสือพิมพ์
แนวหน้า และหนังสือ
พิมพ์สยามรัฐ ซึ่งเน้นนาเสนอข่าวสารทั่วๆไป มีเนื้อหาที่หลากหลาย

8. 2.หนังสือพิมพ์ประเภทข่าวธุรกิจ (Business Newspaper)
จะเน้นนาเสนอข่าวสารด้านเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก เช่น หนังสือพิมพ์ธุรกิจ หนังสือพิมพ์
ผู้จัดการรายวัน หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เป็นต้น (สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย : 2542)
3.หนังสือพิมพ์ประเภทเฉพาะกลุ่ม (Specialized Newspaper)
หนังสือพิมพ์แนวนี้จะมุ่งเน้นนาเสนอเนื้อหาเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง มีกลุ่มผู้อ่าน
เป้าหมายจาเพาะเจาะจง เช่น หนังสือพิมพ์แนวข่าวกีฬา

9. จุดเด่นของหนังสือพิมพ์
1.เป็นสื่อที่มองเห็นมีภาพไว้ดึงดูดความสนใจผู้อ่านสามารถมองเห็นและเข้าใจลักษณะสินค้าได้อย่างชัดเจน
2.เข้าถึงกลุ่มคนได้ทั่วประเทศ ทั้งยังสามารถใช้หนังสือพิมพ์ระดับชาติและระดับท้องถิ่นเสริมกันได้บางกรณี
3.ทาให้ผู้วางแผนสามารถที่จะเน้นการโฆษณาบางเขตภูมิศาสตร์ได้
4.สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าได้ดีและไม่มีข้อจากัดเรื่องเวลา
5.สามารถเลือกหน้าและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้
6.มีความทันสมัยในแง่ข่าวสารเพราะมีการพิมพ์จาหน่ายทุกวัน ผู้โฆษณาจึงเปลี่ยนข้อความโฆษณาและความถี่ในการโฆษณาได้บ่อยๆ

10. 7.มีความยืดหยุ่นสูงในการจองเนื้อที่สามารถลงโฆษณาได้หลายขนาดและกี่ครั้งก็ได้
8.หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่เสนอข่าวที่น่าสนใจสม่าเสมอและรวดเร็ว จึงเป็นสื่อที่มวลชนยอมรับข่าวการเผยแพร่
9.มีความคงทนถาวรกว่าสื่อมวลชนประเภทอื่น เพราะเมื่อผู้อ่านไม่เข้าใจตอนใดก็ย้อนกลับมาอ่านทบทวนใหม่ได้
10. เสนอเรื่องราวข่าวสารหลายประเภท มีทั้งเรื่องราวข่าวสารที่ประชาชนเฉพาะกลุ่ม และประชาชนทั่วไป สนใจจึงสามารถเข้าถึง
ประชาชนได้หลายกลุ่มหลายอาชีพ
11.เสนอข่าวหรือเรื่องราวต่างๆครั้งละมากๆ ได้รวมทั้งเสนอข่าวประจาวันทุกวันเป็นประจา ทาให้ประชาชนสามารถติดตามข่าวสาร
เรื่องราวต่างๆได้อย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง
12.ราคาถูกหาซื้อได้ง่ายและมีหลายภาษา

11. ประโยชน์ของหนังสือพิมพ์
1.ทาให้มีความรู้ในวิชาการด้านต่าง ๆ
2.ทาให้รอบรู้ทันโลก ทันเหตุการณ์
3.ทาให้ค้นหาคาตอบที่ต้องการได้
4.ทาให้เกิดความเพลิดเพลิน
5.ทาให้เกิดทักษะและพัฒนาการในการอ่าน
6.ทาให้ชีวิตมีพัฒนาการเป็นชีวิตที่สมบูรณ์
7.ทาให้เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดีและเสริมสร้างบุคลิกภาพ

12. ลักษณะของหนังสือพิมพ์
1.หนังสือพิมพ์มีหน้าที่ในการแจ้งเรื่องราวให้มวลชนรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และติดตามสืบสวนเรื่อง
ราวเหตุการณ์สาคัญ สะเทือนขวัญ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ เป็นที่สนใจกล่าวถึงวิพากษ์วิจารณ์
เป็นต้น
2.หนังสือพิมพ์ทาหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนในการให้ความรู้ ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น โน้มน้าวชักชวน ชี้แนะแนวทางแก้ไข
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมหรือในประเทศ และเสนอเนื้อหาให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่านในรูปแบบต่างๆ

13. 3.หนังสือพิมพ์บรรจุเนื้อหาหลายประเภททั้งข่าว บทความ บทบรรณาธิการ บทวิเคราะห์ สารคดี คอลัมน์ประจาและบันเทิงคดีในรูปแบบต่างๆ เนื้อหา
ทั้งหมดที่นาเสนอต้องผ่านการคัดเลือก กลั่นกรองและความเห็นชอบจากบรรณาธิการให้ตีพิมพ์เผยแพร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบาย ของหนังสือพิมพ์
4.หนังสือพิมพ์มีรูปแบบเป็นแผ่นกระดาษขนาดใหญ่หลายแผ่นที่ผ่านการพิมพ์ ซ้อนกันและพับโดยไม่ทาเล่มหรือเย็บเล่ม และไม่มีแผ่นหุ้มปก หน้าแรก
ของหนังสือพิมพ์ทาหน้าที่ปกในตัว
5.หนังสือพิมพ์มี 2 ขนาด ได้แก่ขนาดมาตรฐานหรือขนาดใหญ่ แนวนอนกว้างประมาณ 15 นิ้ว แนวตั้งยาวประมาณ 21-23 นิ้ว และขนาดเล็กหรือ
ขนาดแทบลอยด์ มีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของขนาดใหญ่ทั้งด้านกว้างและยาว มักใช้เป็นฉบับแทรกในหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่หรือเป็นหนังสือพิมพ์ที่นาเสนอ
เนื้อหาเฉพาะด้าน
6.หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่เผยแพร่และจาหน่ายเป็นรายวันหรือทุกวัน บางฉบับเป็นรายสามวัน หรือรายสัปดาห์ หนังสือพิมพ์รายวันส่วนใหญ่นาเสนอ
ข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน บางฉบับออกหลายกรอบหรือหลายครั้งในหนึ่งวัน เนื้อหาแต่ลักรอบแตกต่างในด้านการจัดหน้า หน้าแรกและเนื้อหา
บางอย่าง
7.หนังสือพิมพ์หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่เสนอข่าวรายวัน จาหน่ายในราคาต่อฉบับไม่สูงนัก การผลิตจึงใช้กระดาษคุณภาพต่า ราคาไม่แพง เพื่อลดต้นทุน
และสามารถจาหน่ายในราคาไม่แพง
8. ผู้อ่านหนังสือพิมพ์มีการกระจายตามลักษณะทางประชากรศาสตร์ เช่น เพศ วัย การศึกษา อาชีพ ภูมิลาเนา ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น
ผู้อ่านหนังสือพิมพ์อาจมีเฉพาะกลุ่มตามลักษณะเนื้อหา เช่น เนื้อหาด้านเศรษฐกิจ ด้านกีฬา และอาชญากรรม เป็นต้น

14. บทบาทและหน้าที่ของหนังสือพิมพ์
ในระบอบประชาธิปไตย หนังสือพิมพ์เป็นผู้ให้ข่าวสารที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นเวทีการต่อสู้ทาง
อุดมการณ์ ของบุคคลกลุ่มต่างๆ หนังสือพิมพ์ไม่ได้เป็นสื่อของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นสื่อของมวลชนทั้งหมดในสังคม
ดังนั้น หนังสือพิมพ์ต้องมีเสรีภาพ ในการนาเสนอความจริงอย่างถูกต้องครบถ้วน และปราศจากอคติ
1. บทบาททางการเมือง
2. บทบาทในการให้การศึกษา
3. บทบาททางสังคมและวัฒนธรรม
4. บทบาทในการเป็นป้ายประกาศสาธารณะ

15. สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวฮัสมี ปิ รหัสนักศึกษา
406010036
นางสาวอัสมี ซาเระ รหัสนักศึกษา
406010040
นางสาวนาซีเราะห์ปิ นวาจิ รหัส
นักศึกษา 406010047
นางสาวซาร ์ซานา ดอรอเฮง รหัส
นักศึกษา 406010052

16. จบการนาเสนอ