More Related Content
More from Thongkum Virut (20)
นายประเสริฐ ชี้แจง : ปัญหาการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น"ปัญหาหลักวิชา" ถ้าไม่ยึดถือ
- 5. มาเป็นรัฐแห่งชาติ (National state) เมื่อพ.ศ. 2435
ซึ่งเป็นปัญหาหลักวิชา
หัวใจของหลักวิชาในปัญหาในการเลือกตั้งผู้ว่าฯในประเทศที่โต้เ
ถียงกันอยู่ ก็คือปัญหาชาติรัฐเดียว (Unitary-state nation)
หรือชาติหลายรัฐ (Multi-state nation) นี่เอง ซึ่งครั้งก่อน
พล.อ.ชวลิต และนักวิชาการบางคนยกขึ้นมาพูดกันมาก
แต่ครั้งนี้ไม่ใคร่จะพูดถึง
จะมีการพูดถึงบ้างก็เป็นส่วนปลีกย่อยของปัญหาหลักวิชา เช่น
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า
"ไม่ได้ขัดแย้งกัน(กับพรรคพลังธรรม)เพียงแต่ไม่ได้พูดถึงความหม
ายของคาว่าผู้ว่าราชการจังหวัด
ซึ่งมีการตีความกันไปคนละความหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองส่วนภูมิภาคและจะเอาผู้ว่าฯไปปกครอ
งส่วนท้องถิ่นได้อย่างไร และการเลือกตั้งผู้ว่าฯ
จะเป็นการกระจายอานาจหรือไม่นั้น ก็ต้องตีความกันมิฉะนั้น
จะทาให้เกิดความเสียหาย("บ้านเมือง"24 ม.ค. 37)
- 6. นี่เป็นส่วนหนึ่งของหลักวิชา คือการกระจายอานาจคืออะไร?
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ เป็นการกระจายอานาจหรือไม่? ทั้ง 2
ปัญหานี้กระผมจะขอชี้แจงภายหลัง เพราะค่อนข้างยาว
นายแพทย์ เหวง กล่าวว่า
"ในนโยบายรัฐบาลแถลงต่อสภานั้นได้พูดไว้ชัดเจนว่า
จะให้มีการเลือกตั้งทุกระดับในส่วนการบริหารท้องถิ่น
ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯนั้นก็หมายถึงเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นในระดั
บจังหวัด
แต่มีการแปรไปว่าไม่ใช่เป็นการเลือกตั้งผู้บริหารส่วนท้องถิ่น
ขอให้เปิดดูนโยบายที่แถลงไว้เมื่อวันเข้ารับหน้าที่บริหารประเทศว่
า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการเลือกตั้งทุกระดับชั้น
ก็แสดงว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯก็เป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย"
("บ้านเมือง" 24 ม.ค.37)
นี่ก็เป็นปัญหาหลักวิชา คือว่า
นโยบายของรัฐบาลที่เขียนไว้ว่าจะให้มีการเลือกตั้งทุกระดับในส่ว
นการบริหารท้องถิ่นนั้น ถูกต้องตามหลักวิชา
แต่การถือเอาว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯหมายถึงการเลือกตั้งผู้บริหารท้อ
งถิ่นระดับจังหวัด
- 8. ซึ่งจริงๆแล้วการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเท่ากับผลักดันให้บ้าน
เมืองเจริญก้าวหน้า บ้านเมืองเราเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
คงไม่สามารถที่จะกลับไปปกครองแบบ เวียง วัง คลัง นา
หรือจตุสดมภ์เหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว
ซึ่งหากจะรักษาของเก่าตามที่ออกมาพูดกัน
ก็จะต้องกลับไปปกครองแบบนั้น เพราะฉะนั้น คนที่พูด
ขอให้กลับไปเรียนวิชารัฐศาสตร์เสียใหม่" ("บ้านเมือง" 24
ม.ค.37) และคุณถวิล กล่าวว่า
"ในเรื่องนี้ตนอยากจะถามกลับไปยังพวกมหาดไทยว่า
หากเป็นอย่างนี้ต้องกลับไปปกครองในระบบจตุสดมภ์ มีระบบ
เวียง วัง คลัง นา ซึ่งเป็นระบบเก่าเช่นเดียวกัน
และก็ในสมันก่อนเป็นการปกครองระดัยมีมณฑล
จนคิดว่าข้าราชการกระทรวงมหาดไทยคงจะไม่มีทางออกแล้วที่จ
ะมาโต้แย้งเรื่องนี้ จึงได้ไปเอาเรื่องนี้มา
เช่นการบอกว่าเป็นการล้างระบบเก่า" (จากฉบับเดียวกัน)
นี่คือปัญหาหลักวิชาอย่างหนึ่ง
ที่ว่าระบบจตุสดมภ์เป็นระบบเก่านั้นถูกแล้วซึ่งรัชกาลที่ ๕
ทรงยกเลิกและใช้ระบบใหม่แทน และใช้มาจนถึงปัจจุบัน
มีการเปลี่ยนแปลงบ้างในส่วนปลีกย่อยเท่านั้น เช่น ยกเลิกมณฑล
ขยายส่วนท้องถิ่นให้กว้างขวางออกไป และมีการเพิ่มเติมถ้อยคา
- 9. เช่นนาคาว่า ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น
มาใช้ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน เป็นต้น
ที่คุณอารีย์ กล่าวถึงระเบียบที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น
ก็คือระเบียบที่รัชกาลที่ ๕ ทรงสร้างนั่นเอง ซึ่งเป็นระบบใหม่
ไม่ใช่ระบบเก่า สมเด็จพระปกเกล้าทรงบันทึกไว้ว่า
"การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากแบบเดิม เป็นตั้งกระทรวงเป็น
12 กระทรวงนี้
ต้องนับว่าเป็นการเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
ซึ่งเรียกได้อย่างพูดกันธรรมดาว่า "พลิกแผ่นดิน"
ถ้าจะเรียกตามภาษาอังกฤษก็ต้องเรียกว่า "เรโวลูชั่น"
ก็เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงรัฐเจ้าครองนคร (feudal state)
ซึ่งเป็นรัฐแบบเก่า มาเป็นรัฐแห่งชาติ (National state)
ซึ่งเป็นรัฐแบบใหม่ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบันนั่นเอง
ระบบใหม่ซึ่งรัชกาลที่ ๕
ทรงสร้างขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างเรโวลูชั่น
และยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้
ถูกต้องตามหลักวิชารัฐศาสตร์ซึ่งจะต้องใช้ต่อไป
โดยไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงในหลักการสาคัญได้
- 11. บ้านเรามักมีการปะปนและสับสนระหว่างส่วนภูมิภาคกับส่วนท้องถิ่
น ดังเช่นคาของบางคนที่ยกมาข้างต้น.
ตามหลักทั่วไป การบริหารชาติรัฐเดียวแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเท่านั้น
คือส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น หรือ Central กับ Local
เพราะส่วนภูมิภาคหรือ Provincial
เป็นสาขาหรือตัวแทนของส่วนกลาง และส่วนท้องที่หรือ Rural
สังกัดอยู่มนส่วนภูมิภาค
ส่วนกลาง ไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะไม่มีอะไรสับสน
ก็คือกระทรวงนั่นเอง
ส่วนภูมิภาค แต่ก่อนระดับสูงสุดคือมณฑล เมื่อยกเลิกมณฑล
จังหวัดเป็นระดับสูงสุด ซึ่งเรียกในภาษาอังกฤษว่า Provence
เมื่อมีมณฑลเรียกมณฑลว่า Provence
เมื่อยกเลิกมณฑลก็เรียกจังหวัดว่า Provence คาว่า Provence
จึงแปลว่ามณฑลก็ได้ แปลว่าจังหวัดก็ได้
เพราะหมายถึงระดับสูงสุดของส่วนภูมิภาค
ระดับถัดลงมาคือาเภอ District
ถือว่าเป็นระดับล่างสุดของส่วนภูมิภาค
- 12. แต่อาเภอยังแบ่งซอยลงไปเป็นตาบลและหมู่บ้าน
ซึ่งรวมกันจัดเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก เรียกว่าส่วนท้องที่ Rural
ส่วนท้องที่ไม่ใช่ระดับล่างสุดของส่วนภูมิภาค แต่สังกัดส่วนภูมิภาค
ไม่ใช่สังกัดส่วนท้องถิ่นและถือว่าส่วนท้องที่เป็นการปกครองพื้นฐา
น
จึงเห็นได้ว่า ส่วนทั้งหมดเหล่านี้รวมกัน
กล่าวโดยหลักทั่วไปจัดเป็นส่วนหนึ่ง คือส่วนกลางหรือ Central
สาหรับส่วนท้องถิ่นหรือ Local นั้น เป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก
เดิมเรียกว่าสุขาภิบาลหรือ Municipality รัชกาลที่ ๗
ทรงเปลี่ยนชื่อเป็นเทศบาล
ขณะกาลังจะตราเป็นกฎหมายก็เกิดยึดอานาจ 24 มิถุนายน
เสียก่อน คณะราษฎรจึงตราเป็นกฎหมายเทศบาล
ส่วนสุขาภิบาลก็ยังมีอยู่ ถือเป็นระดับล่างของเทศบาล
และจัดระดับเทศบาลเป็น นคร เมือง และตาบล
ปัจจุบันเพิ่มระดับมหานครเป็นระดับสูงสุด คือกรุงเทพมหานคร
และตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดกับสภาตาบลเพิ่มขึ้นในส่วนท้อง
ถิ่นด้วย
และครั้งหนึ่งเคยตั้งองค์การบริหารส่วนตาบลขึ้นในส่วนท้องถิ่น
แต่ล้มเหลว
- 13. ส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่นนั้น เป็นคนละส่วนโดยสิ้นเชิง
จึงแตกต่างกันทั้งในลักษณะ ความมุ่งหมาย หน้าที่และภาระกิจ
เช่น ผู้บริหารส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นสาขาของส่วนกลาง
มาจากการแต่งตั้งผู้บริหารส่วนท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้ง
นี่เป็นหลักวิชา ไม่ใช่ทฤษฎีหรือนโยบาย
ฉะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงต้องแต่งตั้ง เลือกตั้งได้
และผู้ว่าราชการมหานครต้องเลือกตั้ง แต่งตั้งไม่ได้
(เว้นแต่ในสถานการณ์คับขัน)
เช่นเดียวกับผู้บริหารส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ต้องเลือกตั้งทั้งสิ้น
ดูเหมือนจะมีผู้สงสัยเป็นอันมากว่า ทาไมผู้บริหารส่วนภูมิภาค
โดยเฉพาะคือผู้ว่าราชการจังหวัด จึงเลือกตั้งไม่ได้
และทาไมผู้บริหารส่วนท้องถิ่น
เช่นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายกเทศมนตรีต่างๆจึงต้อง
เลือกตั้ง
ตาแหน่งแต่งตั้งกับตาแหน่งเลือกตั้งนั้น
แตกต่างกันในความเป็นผู้แทน
ว่าเป็นผู้แทนของส่วนกลางหรือเป็นผู้แทนของส่วนท้องถิ่น
ผู้แทนของส่วนกลางก็คือผู้แทนของรัฐบาล
ผู้แทนของส่วนท้องถิ่นถือกันว่าเป็นผู้แทนของประชาชน
เป็นผู้แทนของใครผู้นั้นก็เป็นผู้แต่งตั้ง เป็นผู้แทนของรัฐบาล
รัฐบาลก็แต่งตั้ง เป็นผู้แทนของประชาชน ประชาชนก็แต่งตั้ง
แต่ประชาชนแต่งตั้งนั้นเป็นการพร้อมใจกันแต่งตั้ง
- 18. ก็คือยกเลิกส่วนภูมิภาคในกรุงเทพทาให้กรุงเทพเหลือแต่ส่วนท้อง
ถิ่น ฉะนั้น ผู้บริหารส่วนภูมิภาคในกรุงเทพจึงไม่มี
มีแต่ผู้บริหารส่วนท้องถิ่นในกรุงเทพเท่านั้น เรียกว่า
"ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร"
แต่ในนครศรีธรรมราช ในนนทบุรี ฯลฯ
เราไม่ได้ยกเลิกส่วนภูมิภาค จึงยังมีจังหวัด(province)
และมีเมือง(Town) ซึ่งเป็นส่วนท้องถิ่นอยู่กับส่วนภูมิภาค ฉะนั้น
จึงมีทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเทศมนตรีเมืองทั้ง 2'ตาแหน่ง
ในกรุงเทพ เราเอาคาว่า "ผู้ว่าราชการ"
มาใช้กับมหนครภายหลังที่ได้ยกเลิกจังหสัดไปแล้ว
แต่ผู้คนยังเคยชินอยู่กับคาว่า "ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนคร" หรือ
"ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหา นคร" จึงเกิดเข้าใจผิดว่า
"ผู้ว่าราชการมหาคร" กับ "ผู้ว่าราชการจังหวัด" เป็นสิ่งเดียวกัน
แต่ความจริงแล้ว ถึงแม้จะใช้คาว่า "ผู้ว่าราชการ" คาเดียวกัน
แต่ต่างกันในหลักการ "ผู้ว่าราชการจังหวัด"
เป็นผู้บริหารส่วนภูมิภาค "ผู้ว่าราชการมหานคร"
เป็นผู้บริหารส่วนท้องถิ่น บางที เรื่องมหญ่โตโต้เถียงกันเกือบตาย
เกิดจากความสับสนในถ้อยคาเพียงคาเดียวเท่านั้นเอง
- 20. เพราะถือว่าเหมาะสมกับประเทศของเขา
เช่นประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส
ญี่ปุ่นไม่มีส่วนภูมิภาค
เพราะนอกจากจะเป็นประเทศพัฒนาระดัยสูง 1 ใน 7
ประเทศที่รวยที่สุดในโลก ซึ่งความเจริญแผ่ไปทั่วประเทศ
นครและเมืองเป็นฝ่ายครอบงา ชนบทแทบจะไม่มีเหลือแล้ว
หัวเมืองต่างๆยังมีลักษณะการปกครองตนเองทางวัฒนธรรม
(Cultural automomous)
ซึ่งเป็นจารีตประเพณีสืบทอดมาจากสมัยเจ้าครองนคร (Feudal)
ตามที่กระผมเขียนไว้ "คาชี้แจง" ฉบับที่ 6 อีกด้วย
ซึ่งเป็นส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นเรียกว่า "ไคเมียว"
ไคเมียวนี้ เมื่อญี่ปุ่นร่างรัฐธรรมนูญใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
นายพลแมคอาเธอร์ ให้ใช้คาว่า Grvernor
เลียนแบบสหรัฐซึ่งมาตรงกับ Governor
ซึ่งใช้เรียกผู้ว่าราชการจังหวัด บ้านเรา ที่จริงตรงกันแต่เฉพาะคา
Governor เท่านั้น แต่ความหมายต่างกัน เพราะของสหรัฐคือ
State Governor หรือ้ ผู้ว่าการมณฑลรัฐ ของเราคือ Provincial
Governor หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ก็ทาให้หลายคนเอา
Governor ที่นายพลแมคอาเธอร์
นามาใช้ในญี่ปุ่นมาอ้างว่าญี่ปุ่นเป็นรัฐเดียวทาไมเลือกตั้ง
- 24. และว่าข้อเสนอของนักการเมืองเป็นคนละเรื่องกับของกระทรวงมห
าดไทย และคุณชูวงศ์กล่าวว่าอีก 100 ปี
ก็ไม่สมควรเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด
นอกจากนั้นยังมีข้าราชการการเมือง 2
คนเสนอเหตุผลทางหลักวิชา คือ พล.อ.ชวลิต ซึ่งตั้งปัญหาว่า
การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นการกระจายอานาจหรือไม่?
และผู้ว่าราชการจังหวัดหมายความว่าอะไร? และคุณบัญญัติ
แนะให้กลับไปใช้คาว่า "ข้าหลวงประจาจังหวัด" อย่างเดิม
("เดลินิวส์" 23 ม.ค.37)
ซึ่งนอกจากจะเป็นกาเสนอความเห็นทางหลักวิชาแล้ว
ยังเป็นการยุติปัญหาการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยวิธีง่ายๆอี
กด้วย เพราะ "ข้าหลวง" นั้น
ไม่ว่าจะเป็นข้าหลวงอะไรไม่เป็นตาแหน่งเลือกตั้ง
แต่เป็นตาแหน่งแต่งตั้งทั้งสิ้น
เหล่านี้คือตัวอย่างของการเสนอเหตุผลทางหลักวิชา
โดยข้าราชการ ทั้งข้าราชการประจาและข้าราชการการเมือง
ทฤษฎีและนโยบายการเมือง จะต้องไม่ขัดต่อหลักวิชา
สาหรับหลักวิชาทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural science)
นั้นขัดไม่ได้อยู่แล้ว
- 28. เพื่อให้การปกครองจังหวัดเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นเช่นในสห
รัฐอเมริกา เรื่องนี้มีข้อที่ควรจะพิจารณาว่า สหรัฐมิใช่รัฐเดียว
(United States) เช่นประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส
และประเทศต่างๆในยุโรป ผู้ว่าการมลรัฐ (State Governor)
ต่างในสหรัฐอเมริกา
มีฐานะเช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีของประเทศที่เป็นรัฐเดียว---"
(จากหนังสือ "อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพศาสตราจารย์ ทวี
แรงขา")
ซึ่งกระผมคัดลอกไปครั้งหนึ่งแล้วใน "คาชี้แจง" ฉบับที่ 6
บุคคลนั้นคือ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง คุณชานาญ ยุวบูรณ์
ในขณะนี้ ทัศนะของคุณอารีย์ ก็ดี ของคุณชูวงศ์ ก็ดี
ก็ยังคงรักษาท่วงทานองสืบทอดหลักวิชาได้เป็นอย่างดี
ทาให้ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินซึ่งบรรพบุรุษสร้างไว้
ยังคงมีประสิทธิภาพในการรักษาชาติไทยให้พ้นภัยอันตราย
ซึ่งยังจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้คุณสุพร ผู้ว่าฯอุดรธานี
กล่าวว่า "ผู้ว่าฯ ในภูมิภาคเป็นตัวแทนรัฐบาล
ถ้าเลือกตั้งผู้ว่าฯท้องถิ่นคือนายก
อบจ.ก็ไม่ขัดข้องโดยแบ่งปันอานาจให้ชัดเจน
- 32. งผู้ว่าราชการจังหวัด" (สยามโพสต์ 25 ม.ค.37) แต่หนังสือ
"สยามโพสต์" ฉบับเดียวกันเขียนไว้ว่า
พรรคความหวังใหม่ไม่มีนโยบายเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเพียง
แต่มีนโยบาย
"จะปรับปรุงการกระจายอานาจจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่นให้มากขึ้
น"
และฉบับเดียวกันนี้เขียนไว้ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายจะให้เ
ลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในระยะ 5 ปีแรก และ "สมาพันธ์
ปชต.ถล่มรัฐบาลยับ ตระบัดสัตย์" ("บ้านเมือง" 31 ม.ค.37) ฯลฯ
กระผมเห็นว่า พรรคและกลุ่มต่างๆ
ไม่ควรจะโต้เถียงกันว่าพรรคตนกลุ่มตนทีหรือไม่มีนโยบายเลือกตั้
งผู้ว่าราชการจังหวัด หรือโต้เถียงกันว่าในการเลือกตั้งคนั้งที่แล้ว
ใครใช้นโยบายการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดหาเสียงหรือไม่
เพราะถ้าพรรคใดกลุ่มใดมีนโยบายนี้หรือได้ใช้นโยบายนี้หาเสียง
ก็เป็นนโยบาบที่ขัดต่อหลักวิชาด้วยกันทั้งนั้น
และถ้าจะนาเอานโยบายที่ขัดกับหลักวิชามาโต้เถียงกันต่อไป
ก็จะนาไปสู่ความขัดแย้งทางทฤษฎีที่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรง
ฉะนั้น ที่คุณบัญญัติ
กล่าวว่าควรยุติการโต้เถียงเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกั
นได้แล้ว จึงเป็นการเริ่มต้นแก้ไขความขัดแย้งด้วยวิถีที่ถูกต้อง
- 40. ทรงตกลงพระราชหฤทัยเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยใช้วิธีรวมป
ระเทศแบบรัฐเดียว
ทรงเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนกลางจาก ๖ กรมเดิมตั้งเป็น ๑๒
กระทรวง ๖ กรมเดิมคือ กรมกลาโหม กรมมหาดไทย กรมเมือง
กรมคลัง และกรมนา ยกเป็นกระทรวง และเพิ่มอีก ๖ กระทรวง คือ
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุทธนาธิการ กระทรงยุติธรรม
กระทรวงโยธาธิการ และกระทรวงมุรธร เป็น ๑๒ กระทรวง
การปกครองส่วนกลางในหัวเมืองจัดจัดเป็นมณฑล
โดยรวบรวมหัวเมืองชายแดน ๕-๖ หัวเมือง ตั้งเป็นมณฑลหนึ่ง
โปรดเกล้าฯ ให้เชื้อพระวงศ์
และข้าราชการผู้ใหญ่ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยไปปกครองทลฑ
ล ต่อมาจักรูปมณฑลใหม่ เรียกว่ามณฑลเทศาพิบาล
โดยรวมหัวเมืองชั้นใน ๒-๓ หัวเมือง
ตั้งเป็นมณฑลหนึ่งทั่วราชอาณาจักร
มีสมหเทศาภิบาลแต่งตั้งจากส่วนกลางเป็นผู้ปกครอง
แบ่งมณฑลออกเป็นจังหวัด มีข้าหลวงจังหวัด(ผู้ว่าราชการจังหวัด)
เป็นผู้ปกครอง แบ่งจังหวัดเป็นอาเภอ
มีนายอาเภอเป็นผู้ปกครองแบ่งอาเภอเป็นตาบล
มีกานันเป็นผู้ปกครอง และแบ่งตาบลออกเป็นหมู่บ้าน
มีผู้ใหญ่บ้านปกครอง นี่คือการปกครองส่วนกลางในหังเมือง
- 41. ซึ่งเรียกว่าเทศาภิบาลหรือ Provincial administration
ต่อมาเรียกว่าการปกครองส่วนภูมิภาค และอาเภอ
ตาบลและหมู่บ้านรวมกันเรียกว่าการปกครองส่วนท้องที่ หรือ
Rural administration และถือเป็นการปกครองครองพื้นฐาน
ในขณะเดียวกันในท้องถิ่นที่เจริญ จัดให้มีการปกครองสุขาภิบาล
ซึ่งเป็นการปกครองท้องถิ่นหรือ Local administration
อย่างยุโรป
การปกครองท้องที่ในส่วนของกานัน ผู้ใหญ่บ้าน
และการปกครองท้องถิ่น มีความมุ่งหมายตรงกันอยู่อย่างหนึ่งคือ
เพื่อฝึกหัดทดลองประชาธิปไตยแก่ประชาชน กานัน
ผู้ใหญ่บ้านนั้น แม้ว่าจะอยู่ในการปกครองส่วนภูมิภาค
แต่กาหนดให้เป็นผู้แทนของประชาชนร่วมทากับข้าราชการระัดับ
อาเภอ ซึ่งเป็นผู้แทนของของรัฐบาล
และให้มีการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
เมื่อเลือกตั้งแล้วต้องได้รับการแต่งตั้งได้รับหมายตั้งจากผู้ว่าราชก
ารจังหวัด
และประชาชนถอดผู้ใหญ่บ้านได้ส่วนกานันเลือกตั้งโดยผู้ใหญ่บ้า
น
การปกครองท้องถิ่นคือการปกครองตนเองของประชาชนในขอบเ
ขตที่แน่นอนที่ปฏิบัตกันอยู่ในอารยะประเทศ
- 43. อังกฤษ ฝรั่งเศส สะแกนดิเนเวีย ใช้วิธีรัฐเดียว อย่างเช่น — กับ
วัจนาพร พันธุมะโน
แบบประชาธิปไตย
ทรงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปรับปรุงพระราชบัญญัติสุขาภิบาลให้ส
มบูรณ์ยิ่งขึ้น
และให้เปลี่ยนชื่อเป็นพระราชบัญญัติเทศบาลกาลังออกกฎหมายฉ
บับนี้อยู่แล้วก็เกิดการยึดอานาจ ๒๔ มิถุนายน เสียก่อน
และคณะราษฎรนามาแก้ไขเพิ่มเติมประกาศใช้
นี่คือสาระสาคัญของการเปลี่ยนแปลงการปกครองของพระบาทสม
เด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ ๑๐๐ ปีก่อน
ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงบ้างในส่วนปลีกย่อย
เช่นยกเลิกมณพลเทศาภิบาลใช้จังหวัดแทนมณฑล
ขยายการปกครองส่วนท้องถิ่นออกไปเป็นองค์การปกครองบริหาร
ส่วนจังหวัดและตั้งสภาตาบล เป็นต้น
แต่หลักการคงเดิมภายใต้หลักการพื้นฐานคือยกเลิกรัฐเจ้าครองน
ครหรือฟิวดัลสถาปณารัฐแห่งชาติในรูปรัฐเดียว
โดยเฉพาะใกล้เคียงที่สุดกับฝรั่งเศส