คุณค่าทางโภชนาการของกล้วย ต่อ 100 กรัม พลังงาน 89 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 22.84 กรัม น้ำตาล 12.23 กรัม เส้นใย 2.6 กรัม ไขมัน 0.33 กรัม โปรตีน 1.09 กรัม วิตามินบี1 0.031 มิลลิกรัม 3% วิตามินบี2 0.073 มิลลิกรัม 6% วิตามินบี3 0.665 มิลลิกรัม 4% วิตามินบี5 0.334 มิลลิกรัม 7% วิตามินบี6 0.4 มิลลิกรัม 31% วิตามินบี9 20 ไมโครกรัม 5% โคลีน 9.8 มิลลิกรัม 2% วิตามินซี 8.7 มิลลิกรัม 10% ธาตุเหล็ก 0.26 มิลลิกรัม 2% ธาตุแมกนีเซียม 27 มิลลิกรัม 8% ธาตุแมงกานีส 0.27 มิลลิกรัม 13% ธาตุฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม 3% โพแทสเซียม 358 มิลลิกรัม 8% ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0% ธาตุสังกะสี 0.15 มิลลิกรัม 2% ธาตุฟลูออไรด์ 2.2 ไมโครกรัม % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database) แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), USDA Nutrient database © Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2/

2. สาระย่อ
รายงานเรื่อง กล้วย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประโยชน์ของกล้วยและ
เพื่อวิเคราะห์ถึงสรรพคุณทางโภชนาการของกล้วย ขัน้ตอนการศึกษาค้นคว้า
ดาเนินการโดย กาหนดหัวเรื่องที่ต้องการจะศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่างๆ
โดยจัดเป็นรูปเล่มรายงานทางวิชาการแล้วนาเสนอเป็นความเรียง
ผลการศึกษาพบว่า กล้วยเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่าง
มาก ในกล้วยมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอุดมไปด้วยนา้ตาลจากธรรมชาติ
รวมอยู่ถึง 3 ชนิด คือ ซูโครส กลูโคส และ ฟรุกโตส ซงึ่มีส่วนช่วยเพิ่มพลังงาน
ให้แก่ร่างกายนัน้เอง

3. ความหมายของกล้วย
กล้วย เป็นพรรณไม้ล้มลุกในสกุล Musa มีหลายชนิดในสกุล บาง
ชนิดก็ออกหน่อแต่ว่าบางชนิดก็ไม่ออกหน่อ ใบแบนยาวใหญ่ ก้านใบตอนล่าง
เป็นกาบยาวหุ้มห่อซ้อนกันเป็นลาต้น ออกดอกที่ปลายลาต้นเป็น ปลี และมัก
ยาวเป็นงวง มีลูกเป็นหวี ๆ รวมเรียกว่า เครือ พืชบางชนิดมีลาต้นคล้ายปาล์ม
ออกใบเรียงกันเป็นแถวทานองพัดคลี่ คล้ายใบกล้วย เช่น กล้วยพัด
(Ravenala madagascariensis) ทว่าความจริงแล้วเป็นพืชในสกุล
อื่น ที่มิใช่ทัง้ปาล์มและกล้วย

4. ลักษณะ
กล้วย เป็นไม้ผล ลาต้น เกิดจากกาบหุ้มซ้อนกัน สูงประมาณ 2 - 5
เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยว เกิดกระจายส่วนปลายของลาต้นเวียนสลับซ้ายขวาต่าง
ระนาบกัน ก้านใบยาว แผ่นใบกว้าง เส้นของใบขนานกัน ปลายใบมน ผิวใบ
เรียบลื่น ใบมีสีเขียว ขนาดและความยาวของใบขึน้อยู่กับ แต่ละพันธ์ุ ดอก เป็น
ดอกห้อยลงมายาวประมาณ 60 -130 ซม. ซงึ่เรียกว่าหัวปลี ตามช่อจะมีกาบหุ้ม
สีแดงเป็นรูปกลมรี ยาว 15 - 30 ซม. ช่อดอกมีเจริญก็จะกลายเป็นผล ผล เป็น
ผลสดจะประกอบด้วยหวีกล้วย เครือละ 7 - 8 หวี แต่ละหวีมีกล้วยอยู่ประมาณ
10 กว่าลูก

5. ประโยชน์ของการกินกล้วย
1.ช่วยลดอัตราการเกิดตะคริวบริเวณมือ เท้า และน่องได้
2. ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องของมารดาลงได้
3.กล้วย สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการนิ่วในไตได้ในระดับหนึ่ง
4. อาการหงุดหงิดยามเช้า กล้วยก็ช่วยคุณได้เหมือนกัน
5. กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่สาคัญและจาเป็นต่อร่างกาย เช่น
ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาโบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ
วิตามินบี6 วิตามินบี12 และวิตามินซี

6. สรุป
จากการนาเสนอเรื่อง กล้วยมาทัง้หมด จึงสรุปผลเป็นแนวทางในเรื่องของ
กล้วย พบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลูกกล้วยมาเป็นเวลาช้านาน และนิยม
รับประทานกล้วย โดยเฉพาะเด็กไทยในสมัยก่อนก็เติบโตมาจากกล้วยเป็นหลัก
คุณประโยชน์ของกล้วยมีมากมาย เช่น ใช้ในการรับประทาน ใช้ในการทา
สิ่งประดิษฐ์ เป็นอาหารสัตว์และใช้เป็นยารักษาโรคชนิดต่าง ๆ ได้ด้วย กล้วยปลูก
กันมากทุกภาคของประเทศไทย และที่นิยมปลูกกันมาก ก็คือ กล้วยนา้ว้า และ
กล้วยไข่ เพราะมีผู้นิยมบริโภคมากที่สุด
กล้วยเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทารายได้ให้ทุกครัวเรือนอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน
โดยให้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

7. ข้อเสนอแนะ
นอกจากนีค้วรหาวิธีที่จะนา กล้วย มาแปรรูปใช้ในด้านอื่นๆ อีก เช่น การ
ทาครีมทาเท้าจากเปลือกกล้วย ในที่นี้ชื่อของมันอาจจะฟังดูทายาก แต่เรามี
ขัน้ตอนการทาง่ายๆ โดยการที่เรานาเปลือกของกล้วยมาถูบริเวณส้นเท้าที่แตก ถู
ไป - มา แล้วทงิ้ไว้ประมาณ 10-15 นาที และล้างออกด้วยนา้สะอาดเสร็จแล้วใช้
ผ้าเช็ดให้แห้ง วิธีนีค้วรทาอาทิตย์ละ 2- 3 ครัง้