12. คาสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if
คาสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if คาสั่งควบคุมแบบ if มี 3 ลักษณะคือ
แบบ if แบบ if – else และแบบ if – else if – else
3.1 กรณีใช้ประโยคคาสั่งแบบ if คาสั่ง if มีการทางานดังนี้ หากประโยค
เงื่อนไขเป็นจริงให้ไป ทางานตามคาสั่งต่อจากเงื่อนไข แล้วไปตาแหน่งคาสั่งชุดต่อไป
หากเงื่อนไขเป็นเท็จก็ไม่ต้องทาอะไร ให้ไปตาแหน่งคาสั่งชุด ต่อไป
13. คาสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if
3.1.1 รูปแบบการเขียนคาสั่งแบบ if
รูปแบบ 1
กรณีหลังเงื่อนไข if มี 1 คาสั่ง if
(เงื่อนไข)
คาส่ง ; (กรณีเงื่อนไขเป็นจริง)
คาสั่งชุดต่อไป ; (กรณีเงื่อนไขเป็นเท็จ)
14. คาสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if
รูปแบบ 2
กรณีหลังเงื่อนไข if มีมากกว่า 1 คาสั่ง
if (เงื่อนไข)
{ กลุ่มคาสั่ง ; (กรณีเงื่อนไขเป็นจริง) } ;
คาสั่งชุดต่อไป ; (กรณีเงื่อนไขเป็นเท็จ)
15. คาสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if
3.2 กรณีใช้ประโยคคาสั่งแบบ if – else
คาสั่ง if – else มีการทางานดังนี้หากเงื่อนไขเป็นจริง ให้ทางานตามคาสั่งชุดที่ 1
แล้วไปที่คาสั่งชุดต่อไป แต่หากเงื่อนไขเป็นเท็จ ให้ทางานตามคาสั่งชุดที่ 2 แล้วไปที่คาสั่งชุด
ต่อไป
3.2.1 รูปแบบการเขียนคาสั่งแบบ if – else รูปแบบ การใช้คาสั่งแบบ if – else
If (เงื่อนไข)
คาสั่งชุดที่ 1 (กรณีเงื่อนไขเป็นจริง) ; else
คาสั่งชุดที่ 2 (กรณีเงื่อนไขเป็นเท็จ) ;
คาสั่งชุดต่อไป ; ข้อควรจา หากแต่ละทางเลือกมีมากกว่า 1 คาสั่ง ต้องใช้
เครื่องหมาย { } กั้นขอบเขต