ยาเสพติด
- 4. ยาบ้า คือยากลุ่มแอมเฟทตามีน(Amphetamines)ซึ่งมีหลายตัว
เช่น Dextroamphetamine, Methamphetamine
เรียกกันแต่เดิมว่า “ยาม้า” ยานี้เคยใช้เป็นยารักษาโรคอยู่บ้างในอดีต
สาหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคผลอยหลับโดยไม่รู้ตัว (Narcolepsy) เด็ก
ที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ขาดความตั้งใจและสมาธิในการเรียน (Attention
Deficit Disorder) และผู้ที่ต้องการลดน้าหนัก แต่ปัจจุบันไม่
ค่อยนามาใช้กันแล้ว
ยาบ้ามีประวัติที่มายาวนาน โดยสังเคราะห์ได้กว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองใช้กระตุ้นความกล้าหาญและความ อดทน
ของทหารทั้งสองฝ่าย โดยประมาณกันว่ามีการใช้ยาบ้ากว่า 72 ล้านเม็ดระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง แม้กระทั่งฮิตเลอร์ ก็ฉีดยาบ้าแทบ
ทุกวัน หลังสงครามการใช้ยาบ้าจึงเริ่มแพร่ขยายออกไปสู่สังคม สาเหตุที่เคยเรียกว่า ยาม้า สันนิษฐานได้หลายแง่ บ้างว่าคงมาจากการที่เคย
นาไปใช้กระตุ้นม้าแข่งให้วิ่งเร็ว และอดทน บ้างว่าเนื่องจากทาให้ผู้ใช้ยาคึก คะนอง เหมือนม้า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาเรียกเป็นยาบ้า ก็
เพื่อจะเน้นความเป็นพิษของยา ซึ่งเมื่อใช้มากเกินขนาดหรือใช้ติดต่อกันนานๆ จะทา ให้ผู้ใช้ยามีลักษณะเหมือนคนบ้าและเนื่องจาก
กระบวนการสังเคราะห์สารนี้ไม่ ซับซ้อน ปัจจุบันจึงมีการลักลอบสังเคราะห์ กันอยู่ในประเทศไทย
- 5. แอมเฟตามีน มีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว ไม่มี
กลิ่น มีรสขมนิดๆโดยทั่วไปที่มีจาหน่ายมักจะมี
ลักษณะเป็นเม็ดเล็กเม็ดกลมแบน อาจพบ
ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม รูปหัวใจ มีสีขาว
เหลือง น้าตาล สีฟ้า หรือหลากสีในเม็ดเดียว และ
มักมีเครื่องหมายรูปหัวม้า หรือคาว่า
LONDON ปัจจุบัน ยาในกลุ่มนี้ที่แพร่หลาย
มากที่สุดเป็น
เมทแอมเฟตามีน (Metamphetamine) ซึ่งมีลักษณะที่
พบบ่อยเป็นเม็ดสีส้มมีตัวอักษรWY ในระยะหลังจะพบว่ามีการ
ผสมยากลุ่มแอมเฟตามีน โดยเฉพาะเมทแอมเฟตามีนร่วมกับเฮโร
อินและอื่นๆ ซึ่งมีผลทาให้เสพติดง่ายขึ้น เลิกจากการเสพติดได้
ยากมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เอ็กซ์ตาซีซึ่งมักพบในเมืองใหญ่ในกลุ่ม
วัยรุ่นที่มีฐานะ
- 6. ยาอี ซึ่งย่อมาจากเอคตาซี่ (Ectasy) เป็นสารอนุพันธุ์ ตัวหนึ่งของ
ยาบ้า (สารอนุพันธุ์หมายถึงสาร ที่มีสูตรโครงสร้างทางเคมี และฤทธิ์
คล้ายคลึงกัน) ยาอีเป็นสารที่ได้ จากการจงใจสังเคราะห์ทางเคมี โดยมี
ชื่อย่อ ทางเคมีเรียกว่า MDMA และไม่เคยใช้เป็นยาเลย
ในสมัยหนึ่งนักเคมี ทดลองสังเคราะห์ สารที่มีโครงสร้างคล้ายยาบ้า
มากมายหลายตัว โดยหวังว่าคงจะมีสักตัวที่ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
ได้ แต่กลับปรากฏว่าสารเหล่านั้น มักไม่ประโยชน์แต่กลับมีผลเสียต่อ
จิตอารมณ์แทบทุกตัว สารอนุพันธุ์เหล่านี้ปัจจุบันมีการ ลักลอบ
สังเคราะห์กันในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และเรียกกันรวมๆ ว่า
Designer Drugs ซึ่งหมายถึงสารที่พยายามดัดแปลงสูตร
โครงสร้าง ทางเคมีจากสารเดิม ที่ถูกควบคุมโดยกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อใช้
ทดแทนสารเดิมและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย
ส่วน ยาเค ซึ่งย่อมาจากเคตามีน (Ketamine) คือยาสลบชนิด
หนึ่งที่ทางสัตวแพทย์ ใช้ฉีดสลบสัตว์และแพทย์ใช้ฉีดผู้ป่วยเด็กก่อนทา
การผ่าตัดขนาดเล็ก ยานี้ไม่ทาให้หมดสติ แต่ทาให้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่
ร่างกายและจิตใจเหมือนแยกจากกัน ไม่รับรู้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
จากการผ่าตัด ยานี้มีแหล่งที่มาจากบริษัทผู้ผลิตยาซึ่งจาหน่ายเพื่อใช้
ในโรงพยาบาลและปศุสัตว์ และบางส่วนถูกลักลอบออกมา
ในปัจจุบันสารและยาเหล่า นี้ถูกนามาใช้ในทางที่ผิดกันมาก ทั้งโดย
เจตนาและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งทาให้เกิดปัญหาต่อตัวผู้ใช้เอง
และเกิดผลกระทบต่อสังคมอีกด้วย
- 7. ผลของยาบ้า ยาอี และยาเค
ยาบ้ามีคุณสมบัติกระตุ้น ระบบประสาทและ
กระตุ้นจิตอารมณ์อย่างรุนแรง โดยจะมีผลอยู่
ได้นานประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังจากใช้ยา
ผลเหล่านี้ได้แก่ ผลกระตุ้นต่อระบบประสาท
ทาให้นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร การหายใจเร็ว
และแรง หัวใจเต้นเร็วและแรง ความ ดันเลือด
สูงขึ้น รูม่านตาขยาย ตื่นเต้นง่าย อยู่ได้นานโดย
ไม่ต้องนอน อยู่ไม่สุข มือสั่น ตัวสั่น เหงื่อออก
มาก ท้องเสียหรือท้องผูก ปาก และ จมูกแห้ง
ริมฝีปากแตก ทางานเกินปกติ หงุดหงิด ชอบ
ทะเลาะวิวาท รูม่านตาเบิกกว้าง สูบบุหรี่จัด
มวนต่อมวน และอาจมีคลื่นไส้อาเจียน ผะอืด
ผะอมได้
- 8. ผลกระตุ้นต่อจิตอารมณ์
ส่วน ใหญ่เกิดในช่วงต้น หลังการใช้ยา ทาให้รู้สึก
กระชุ่มกระชวย กระฉับกระเฉง รู้สึกตื่นตัว มีพลัง
มากขึ้น เกิดความมั่นใจ ซึ่งมักเป็นสาเหตุให้เกิดการ
ใช้ยาในทางที่ผิด และติดยาโดยจิตใจ ผลทางด้าน
จิตใจจะเห็นได้ชัดเมื่อเสพเป็นจานวนมาก จะเกิด
อาการทาง จิตเฉียบพลัน หรือเป็นบ้าขึ้นได้ชั่วระยะ
หนึ่ง อาการจะคล้ายผู้ป่วยโรคจิตหวาดระแวงเกิด
อาการหลงผิด คิดว่ามีคนมาทาร้ายตนเอะอะคว้า
อาวุธมาป้องกันตัวเอง หรือพยายามจะหนีซุกซ่อน
ตัวเอง พูดไม่รู้เรื่อง มักเห็นภาพหลอน ต่างๆนานา
ซึ่งนาไปสู่อันตรายต่อตัวเองหรือผู้ อื่น เช่นตกใจกลัว
ปีนตึกหรือเสา ถูกรถชน หรือหลงผิดว่า มีคนมาทา
ร้าย จึงทาร้ายผู้อื่นก่อน บางรายที่ใช้ยามากๆอาจจะ
มีอาการไข้ขึ้น ความดันโลหิตสูงมาก ใจสั่น หายใจ
ไม่ออก กล้ามเนื้อกระตุก ชัก หมดสติถึงตายได้
- 9. มียาอื่นซึ่งมีคุณสมบัติ และการใช้คล้ายยาบ้า ยาอี และยาเคหรือไม่ ถ้ามีคือยา
อะไรบ้าง?
มียาและสารหลายตัว ที่มีคุณสมบัติ กระตุ้นระบบประสาท คล้ายกับยาบ้าและยาอี
ตัวอย่าง เช่น ยา Love (MDA) ซึ่งได้ชื่อมาจากผลของยาที่ทาให้ผู้ใช้มีความ
ขวยเขินและความอับอายลดลง รู้สึกอยากพูดคุย ปฏิสันถารกับคนอื่น
ส่วนยาและสารที่ทาให้เกิดภาวะประสาทหลอน คล้ายยาเค ได้แก่ PCP, LSD
สารในเห็ดขี้ควาย กัญชา
ยาเสพย์ติด ที่เริ่มเป็นปัญหาของสังคมอีกตัวคือโคเคน ซึ่งสะกัดแยกมาจากใบของต้น
โคคา มีฤทธิ์และผลต่อร่างกายและจิตใจคล้ายยาบ้ามาก แต่ก็มีข้อแตกต่างอยู่บ้างบาง
ประการ
ประการแรก โคเคนมีผลอยู่ได้สั้น เพียงประมาน 30 นาทีหลังจากใช้ยา ขณะที่ยา บ้า
มีผลอยู่ได้นานถึง 4-6 ชั่วโมง ซึ่งคุณสมบัตินี้ทาให้ในต่างประเทศ นิยมใช้โคเคน
ในหมู่นักกีฬาอาชีพและดารา เนื่องจากสามารถเลือกใช้ผลยาตามเวลาที่ต้องการได้
ประการที่สอง โคเคนเกิดการชินยา (Tolerance) ได้ช้าซึ่งทาให้ไม่จาเป็นต้อง
เพิ่มปริมาณยา ที่เสพย์มากขึ้นทุกครั้งในการใช้ยา ขณะที่ยาบ้าเกิดการชินยาได้เร็ว ทา
ให้ต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลกระตุ้น ระบบประสาทและจิต
อารมณ์เหมือนเดิม ในบางครั้งต้องใช้ยามากกว่าครั้งแรก 5-10 เท่า ซึ่งทาให้เสี่ยง
ต่อพิษของยามากขึ้น ประการ ที่สาม โคเคนนั้นมีทางเลือกในการเสพย์มากกว่ายาบ้า
สามารถเสพย์โดยการสูดหรือการนัตถุ์ยาได้ และประการสุดท้าย โคเคนมีราคาแพง
มากกว่ายาบ้า