SlideShare a Scribd company logo
1 of 13
Download to read offline
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงาน 
ความหมายและคุณค่าของโครงงานคอมพิวเตอร์ 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มี การ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐาน เป็นสาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่ 
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ 
2 การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์ 
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น 
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ 
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน 
การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจใน วิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงาน คอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่ สาคัญประการหนึ่งของการเรียน 
การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือการที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่ง วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียน การสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆใน การแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็น ปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้ อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่ เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุ อุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับ ความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษาของ ผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ 
การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้ ผู้เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้วและยังมีคุณค่าอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้ 
· เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง 
· เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียน ในห้องตามปกติ 
· ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน 
· กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะ ประกอบอาชีพทางด้านนี้ 
· ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ 
· สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น 
· สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง 
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://ksitds55.blogspot.com/2012/11/blog-post.html
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและ ความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการ เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่าง เหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้คาแนะนา ความสามารถที่เกิดจากการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่ สาคัญ 5 ประการ ดังนี้ 
1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทาโครงงานต้อง นาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทา โครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้ง เลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ 
2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ 
1.การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจาก อะไร 
2.การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการ ค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน 
3.การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ 
4.การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและ ไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น 
5.การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการ พัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือ ประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมี ผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา 
ความสาคัญ
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหา ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไข ปัญหา 
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไป ใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการ พัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน การแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม 
ขอบคุณข้อมูลจาก http://krudarin.wordpress.com
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน 
ดาเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษามี องค์ประกอบดังนี้ 
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทาง ทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาค เรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเอง ตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงาน ผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้ง การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย 
โครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานดังนี้ 
- การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 
- การพัฒนาเครื่องมือ 
- การทดลองทฤษฎี 
- การประยุกต์ใช้งาน 
- การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ 
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.gotoknow.org/posts/314100
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการ สร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้ พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่า คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือก เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร เจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ ประเทศไทย เป็นต้น 
ตัวอย่างโครงงาน 
ตัวอย่างโครงงานที่ 1 
ชื่อโครงงาน ตะลุย !!! ปราสาทอัลมาเกส Go! Go! Almagest Castle โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน) ชื่อผู้ทาโครงงานนางสาว นมิตา ปิติพรวิวัฒน์ , นางสาว ชมภัสสร ผลธนะศักดิ์ , นางสาว ณัษฐ ชา เขมกวัฒน์ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์ สถาบันการศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซา เวียร์คอนแวนต์ ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทา โครงงาน 1/1/2541 บทคัดย่อ โครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทสื่อการเรียนการสอน เรื่อง “ตะลุยปราสาทอัล มาเกส” เป็นซอฟต์แวร์ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะทางด้านกระบวนการคิดในวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ตรีโกณมิติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ วิชาตรีโกณมิติมากขึ้น ภายในซอฟต์แวร์จะ ประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้ 1.นาเข้าสู่บทเรียน , 2.แบบทดสอบก่อนเรียน , 3.บทเรียน , 4.เกมส์ทบทวน ความรู้ , 5. แบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้โปรแกรมMacromedia Flash 8 , ภาษา Action Script 2.0 และ ภาษา XML ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยเน้นการนาเสนอบทเรียนในรูปแบบของการ์ตูนอนิเมชัน โครงการนี้ เป็นโครงการที่ได้รับทุนอุดหนุนโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรม คอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ 
Education software “Go! Go! Almagest Castle” is software for make learners have got accomplishment of Trigonometry and this program want learner have knowledge and more understand in Trigonometry. This software constitute with 1. Intro 2. Pretest 3. Lesson 4.Game 5. Posttest By Macromedia Flash8 , Acton Script 2.0 and XML Language .It’s accent about present lesson with Multimedia Animation . We use a lot of picture and animation to make learners understand and make the program beautiful to create mood for learners. We hope that this software will be useful for every learners.
ตัวอย่างโครงงาน 2 
ชื่อโครงงาน การ ประยุกต์ใช้แบบรูปการเคลื่อนที่ของดาวเปราะในแบบรูปการเคลื่อนที่ ของหุ่น ยนต์ The Application of Brittle Star Locomotion Patterns for Robotic Locomotion โปรแกรมเพื่อประยุกต์การใช้งาน (นักเรียน) ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสุพิชญา สุ จริยากุล , นายพิลิปดา เหลืองประเสริฐ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ดร.สโรช ไทร เมฆ สถาบันการศึกษา โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวด วิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541 บทคัดย่อ โปรแกรม นี้ เขียนขึ้นเพื่อใช้ใน การศึกษาการเคลื่อนที่ หรือการเคลื่อนไหวของวัตถุที่เราสนใจ (ซึ่งในที่นี้เน้นเรื่องหุ่นยนต์) โดยรับ ข้อมูลจากภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกจากกล้องที่อยู่นิ่ง มาวิเคราะห์ถึงข้อมูลต่างๆ อันได้แก่ ตาแหน่ง ตาแหน่งของส่วนต่างๆ ความเร็ว การหมุน ซึ่งในขณะนี้โปรแกรมกาลังถูกพัฒนาให้สามารถทางาน ได้ตามดังที่กล่าวไว้ข้าง ต้น โดยในขณะนี้สามารถตรวจจับความเปลี่ยนแปลงของภาพได้ แต่ยังไม่ สามารถระบุตาแหน่งที่ชัดเจนได้ เนื่องจากสิ่งที่เราสนใจไม่จาเป็นจะมีลักษณะเป็นก้อน อาจมีส่วน แขนยื่นออกมา และมีมากกว่า 1 ส่วนที่กาลังเคลื่อนที่ เช่น ส่วนหนึ่งเคลื่อนไปด้านหน้า อีกส่วน หนึ่งเคลื่อนไปด้านหลัง เป็นต้น This software is a work developed for study the movement of object by input video file from a standing video recorder. It will work by analyze position, coordinating system, velocity and rotation. We have developed this program until this program can detect the different in 2 or more images. But it is not totally work for detect a right position, because an object may have some part move freely from others, for example, some moves forward while the other moves backward. 
ตัวอย่างโครงงาน 3 
ชื่อโครงงาน โปรแกรมการจัดตารางการเรียนการสอน ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสุชานัน ม่วงไทย ชื่อ อาจารย์ที่ปรึกษา รศ.ดร.อัศนีย์ ก่อตระกูล สถาบันการศึกษา โรงเรียนศรีบุณยานนท์ ระดับชั้น มัธยม ปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน ไม่ระบุ บทคัดย่อ ปัจจุบันการจัดตารางการเรียนการ สอนของโรงเรียนต่าง ๆ นั้นมักจะใช้ตัวบุคคลในการจัดซึ่งทาให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของความผิดพลาดที่เกิดจากการจัดตารางสอนซ้าซ้อน ปัญหาขอวห้องเรียนที่จัดไม่ลงตัว เป็นต้น ซึ่งจะทาให้ การออกตารางสอนนั้นเกิดความล่าช้าไม่ทันต่อความต้องการ ดังนั้นจึงได้สร้างโปรแกรมนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการ จัดตารางการเรียนการสอน ซึ่งสามารถใช้กับการจัดตารางการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในชั้นต่าง ๆ ตั้งแต่
มัธยมศึกษาปีที่1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ TURBO PASCAL VERSION 7 ตัวโปรแกรมจะแบ่ง ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนฐานข้อมูลและส่วนประมวลผล ในส่วนของฐานข้อมูลผู้ใช้จะต้องเป็นผู้ป้อนข้อมูลลง ใน notepad ดังนี้ คือ ชื่อ นามสกุล ตาแหน่ง จานวนวิชาที่สอน จานวนคาบของรายวิชาที่สอน จานวนห้องที่ สอนและห้องที่เรียน จากนั้นโปรแกรมจะนาข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ได้มาการประมวลผล โดยมีลาดับการ ประมวลผล คือ ตัวโปรแกรมจะจัดรายวิชาที่แน่นอนก่อน โดยให้ผู้ใช้เป็นผู้กรอกข้อมูล เช่น การเรียนรด.ของม. ปลาย คาบกิจกรรม เป็นต้น จากนั้นจัดตารางการใช้ห้องของรายวิชาที่ต้องใช้ห้องปฏิบัติการ เช่น ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ ห้องปฏิบัติการเคมี ห้องปฏิบัติการชีววิทยา เป็นต้น และขั้นสุดท้ายจะจัด ตารางการเรียน การสอนของรายวิชาที่เหลือ และจะแสดงผลเป็นตารางเรียนของนักเรียนและตารางสอนของอาจารย์ออกมา ทางหน้าจอ คอมพิวเตอร์ 
ตัวอย่างโครงงาน 4 
ชื่อโครงงาน ความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุด โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ชื่อผู้ทาโครงงาน นายสุนิล ยาเดียว ชื่อ อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์นพดล อร่ามภัทรวงษ์ สถาบันการศึกษา โรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541บทคัดย่อ Endless Dreams (ความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุด) เป็นเกมประเภทเกมสวมบทบาท (RPG : Role Playing Game) หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ “เกมภาษา” ผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทตัวละครให้เดินทางไปสู่จุดหมาย พบเจอกับอุปสรรค ปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ตามเนื้อหาของเกม ระบบของเกมจะให้ผู้เล่นเลือกคาสั่งต่าง ๆ ซึ่งจะ แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ระบบการต่อสู้จะเป็นแบบเข้าฉากต่อสู้ เมื่อผู้เล่นบังคับตัวละครเดิน อยู่ในแผนที่ เกมจะสุ่มให้ผู้เล่นพบกับมอนสเตอร์ ส่วนมอนสเตอร์ที่จะได้พบนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละ พื้นที่ มีระดับความยาก-ง่าย ต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถบันทึกข้อมูล แล้วกลับมาเล่นต่อจากจุดเดิมได้ ตัว ละครแต่ละตัว จะมีความสามารถแตกต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถพัฒนาระดับและความสามารถของแต่ละ ตัวละครได้เรื่อย ๆ ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะเก่งแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับหลักการวางแผน การใช้ความคิดของผู้เล่น ส่วนใหญ่แล้ว เกมภาษาที่ผ่านมาของค่ายเกมต่าง ๆ ระบบของเกมมักจะให้ผู้เล่นทาการเลือกคาสั่งต่าง ๆ แล้ว รอดูผลของการกระทา โดยในโปรแกรมนี้ จะแทรกความแปลกใหม่ลงไปอย่างลงตัวเพื่อป้องกันความน่าเบื่อ จาเจเหมือนกับเกมอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดยจะใส่จุดเด่นต่าง ๆ ภายในเกม เช่น สถาปัตยกรรมภายในเกมจะเป็น อาคารบ้านเรือนแบบไทย ๆ วัฒนธรรมไทย และประเพณีไทย ระบบการต่อสู้ เมื่อผู้เล่นทาการโจมตีศัตรูระยะ ประชิด ในขณะที่ตัวละครกาลังทาการโจมตี จะมีหลอดวิ่ง ให้ผู้เล่นกดปุ่ม ถ้ากดทันในจุดที่กาหนด ตัวละครจะ โจมตีได้รุนแรง แม่นยา แต่ถ้าหากกดไม่ทันหรือกดก่อน ตัวละครจะโจมตีพลาด เมื่อผู้เล่นทาการโจมตีศัตรูโดย ใช้เวทย์มนต์ ในขณะที่ตัวละครทาท่าร่ายเวทย์ จะมีลูกศรเลื่อนให้กดตามที่กาหนด โดยความแรงของเวทย์จะ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจานวนลูกศรที่กดทัน เช่น ลูกศรเลื่อนมา 10 ตัว ผู้เล่นกดทัน 8 ตัว ความแรงของเวทย์ก็ จะเป็น 80 % ของความแรงสูงสุด เมื่อได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ ตัวละครจะแสดงท่าทางขอขมาเพื่อเป็นการไว้ อาลัยแก่คู่ต่อสู้ ตามความเชื่อของคนไทย เป็นต้น
It is a role play game or known as language Game. The player makes a role as actor and points him to the destination, on the way he meets the problems and follow the game details. For the game system, the player will choose the various instructions that are difference in situations. It will show the fighting scene. When the player controls the actor place on the map. The game will be chosen to meet the monster / there are different monster in each place and different fighting. The player can record data and replay in the same section. There are different actors. The player can develop or apply the actors’ ability. They will be smart according to making play and decision. Mostly of this game the Game System will be chosen and waited for action. By the way, There will be interesting in the game for the players, will not get bored, spectral the option, it will show the modern Thai architecture, culture and tradition and tradition. At Fighting, when the actor close to fighter and fight it will show the running button. If you fast press it, you will fight hard, in the other hand, for the slow press, you will lose the game. While the actor is playing magic it shows the arrow for press. The strongly press shows the percentage for number of arrows, for example the 10 arrows shows and you can press it, you will get 80% win. Lastly, the lose actor will forgive the winner as a Thai beliefs. 
ตัวอย่างโครงงาน 5 
ชื่อโครงงาน โปรแกรมแปลภาษา ชื่อผู้ทาโครงงาน ดร.สุพันธ์ เมฆนาวิน ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา นาย วรากร อึ้งวิเชียร สถาบันการศึกษา นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตประสาน มิตร ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541 บทคัดย่อ วัตถุประสงค์ของโปรแกรมนี้ เพื่อที่จะแปลข้อความภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลที่ใช้ทั่วโลกเป็น ภาษาไทย โดยศึกษาไวยากรณ์ของภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และนาหลักการที่ได้มาเขียนโปรแกรมโดย ใช้ Visual Basic และใช้ Microsoft Accress ทาข้อมูลในพจนานุกรมที่ใช้สาหรับแปล จากการทดลองแปล ประโยคที่เตรียมมาพบว่าสามารถแปลบางประโยคได้ถูกต้อง แปลบางประโยคผิด และบางประโยคไม่สามารถ แปลได้เลย (เพราะทาให้เกิดวงวน) จึงมีความคิดที่จะพยายามแก้ไขโปรแกรมให้สามารถแปลให้ได้โดยสมบูรณ์ ต่อไป
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะ อยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุใน มุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะ เป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับ ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกัน ด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก 
ตัวอย่างโครงงานพัฒนาเครื่องมือ เช่น โปรแกรมช่วยอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อย่าง ชาญฉลาด โปรแกรมไบรท์ไซต์ (Bright Sight) เป็นต้น
โครงงานทดลองทฤษฎี 
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลองการทดลองของสาขา ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะ เปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลอง ทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และ การทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น 
ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ CUVMiner : Volume Data Mining Software Using 3D Field Topology Analysis เป็นต้น
โครงงานประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งาน จริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้น ต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 
ตัวอย่างของโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivis 2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น 3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001 4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ 5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ 6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน 7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล 8. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต 9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง 10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง 11. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ 12. โฮมเพจส่วนบุคคล
โครงงานพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ 
โครงงานพัฒนาเกมเป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมทายคาศัพท์ และเกมการคานวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการ ใช้สมองเพื่อฝึกความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และ น่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ 
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์นั้น ผู้เรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ หลักการที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรม และการแทนข้อมูลใน คอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทาโครงงาน และใช้ความรู้ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ในโครงงาน คอมพิวเตอร์ โดยในการทาโครงงานผู้เรียนอาจจะมีโอกาสได้ทาความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การออกแบบฐานข้อมูล (Database Design) และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) เป็นต้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่ผู้เรียนเลือกทาโครงงาน 
ตัวอย่างโครงงานพัฒนาเกม เช่น เกมเพื่อการเรียนรู้สาหรับคนพิการ ด๊อกกี้ ด๊อก เว็บแคมเกมส์ โอ้ลัลล้า เวิร์ล เกมวีรบุรุษกู้แผ่นดินอโยธยา เป็นต้น 
ขอบคุณข้อมูลจาก 
http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit1/unit1-2.html 
http://toffykz.blogspot.com/?view=timeslide 
http://www.vcharkarn.com/project/article/56801 
http://oumsunipharuamsap.blogspot.com/2012/09/7-thanapongkiatsujja.html

More Related Content

What's hot

ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2win_apitchaya
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8Aimie 'owo
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8Aimie 'owo
 
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญjjrrwnd
 

What's hot (8)

Work
WorkWork
Work
 
K02
K02K02
K02
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8
 
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 

Similar to ใบงานที่ 2 - 8

ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8PluemSupichaya
 
ใบงาน2-8
ใบงาน2-8ใบงาน2-8
ใบงาน2-8ApisitIce
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2Nontt' Panich
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์dream051
 
.ใบงานที่2
.ใบงานที่2.ใบงานที่2
.ใบงานที่2Yokyok' Nnp
 
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาNatnicha Nuanlaong
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2juice1414
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8Pornthip Nabnain
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้วThank Chiro
 
ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์Perm Ton
 
สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6Tanatchapan Jakmanee
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)Noot Ting Tong
 

Similar to ใบงานที่ 2 - 8 (20)

ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8
 
ใบงาน2-8
ใบงาน2-8ใบงาน2-8
ใบงาน2-8
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
K2
K2K2
K2
 
K2
K2K2
K2
 
K2
K2K2
K2
 
2
22
2
 
.ใบงานที่2
.ใบงานที่2.ใบงานที่2
.ใบงานที่2
 
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษาใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
ใบงานที่4 เรื่อง โครงงานประเภทการพัฒนาเพื่อการศึกษา
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
 
ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
5555
55555555
5555
 
สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
 

More from PluemSupichaya

โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่PluemSupichaya
 
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์PluemSupichaya
 
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษเฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษPluemSupichaya
 
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์PluemSupichaya
 
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6PluemSupichaya
 
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6PluemSupichaya
 
ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6PluemSupichaya
 
ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6PluemSupichaya
 
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6PluemSupichaya
 
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6PluemSupichaya
 
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์PluemSupichaya
 
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษเฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษPluemSupichaya
 
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์PluemSupichaya
 

More from PluemSupichaya (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเต้าใหม่
 
Cheva march 45
Cheva march 45Cheva march 45
Cheva march 45
 
Anscheva march 45
Anscheva march 45Anscheva march 45
Anscheva march 45
 
Pat5
Pat5Pat5
Pat5
 
Math
MathMath
Math
 
Pat5
Pat5Pat5
Pat5
 
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
 
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษเฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
 
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
 
เฉลยจีน
เฉลยจีนเฉลยจีน
เฉลยจีน
 
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
 
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
 
ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาอังกฤษ ม 6
 
ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 วิทยาศาสตร์ ม 6
 
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
ข้อสอบ O net 48 ภาษาไทย ม 6
 
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
ข้อสอบ O net 48 คณิตศาสตร์ ม 6
 
เฉลยจีน
เฉลยจีนเฉลยจีน
เฉลยจีน
 
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
เฉลย O net 48 วิทยาศาสตร์
 
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษเฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
เฉลย O net 48 ภาษาอังกฤษ
 
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
เฉลย O net 48 คณิตศาสตร์
 

ใบงานที่ 2 - 8

  • 1. ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงาน ความหมายและคุณค่าของโครงงานคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มี การ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐาน เป็นสาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่ 1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ 2 การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์ 3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น 4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ 5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจใน วิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงาน คอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่ สาคัญประการหนึ่งของการเรียน การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือการที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่ง วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียน การสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆใน การแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
  • 2. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็น ปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้ อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่ เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุ อุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับ ความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษาของ ผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้ ผู้เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้วและยังมีคุณค่าอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้ · เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง · เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียน ในห้องตามปกติ · ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน · กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะ ประกอบอาชีพทางด้านนี้ · ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ · สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น · สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง ขอบคุณข้อมูลจาก : http://ksitds55.blogspot.com/2012/11/blog-post.html
  • 3. โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและ ความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการ เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่าง เหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้คาแนะนา ความสามารถที่เกิดจากการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่ สาคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทาโครงงานต้อง นาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทา โครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้ง เลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ 2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ 1.การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจาก อะไร 2.การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการ ค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน 3.การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ 4.การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและ ไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น 5.การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการ พัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือ ประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมี ผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา ความสาคัญ
  • 4. 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหา ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไข ปัญหา 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไป ใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการ พัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน การแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม ขอบคุณข้อมูลจาก http://krudarin.wordpress.com
  • 5. ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน ดาเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษามี องค์ประกอบดังนี้ 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทาง ทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาค เรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเอง ตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงาน ผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้ง การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย โครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานดังนี้ - การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา - การพัฒนาเครื่องมือ - การทดลองทฤษฎี - การประยุกต์ใช้งาน - การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.gotoknow.org/posts/314100
  • 6. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการ สร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้ พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่า คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือก เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร เจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ ประเทศไทย เป็นต้น ตัวอย่างโครงงาน ตัวอย่างโครงงานที่ 1 ชื่อโครงงาน ตะลุย !!! ปราสาทอัลมาเกส Go! Go! Almagest Castle โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน) ชื่อผู้ทาโครงงานนางสาว นมิตา ปิติพรวิวัฒน์ , นางสาว ชมภัสสร ผลธนะศักดิ์ , นางสาว ณัษฐ ชา เขมกวัฒน์ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์ สถาบันการศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซา เวียร์คอนแวนต์ ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทา โครงงาน 1/1/2541 บทคัดย่อ โครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทสื่อการเรียนการสอน เรื่อง “ตะลุยปราสาทอัล มาเกส” เป็นซอฟต์แวร์ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะทางด้านกระบวนการคิดในวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ตรีโกณมิติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ วิชาตรีโกณมิติมากขึ้น ภายในซอฟต์แวร์จะ ประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้ 1.นาเข้าสู่บทเรียน , 2.แบบทดสอบก่อนเรียน , 3.บทเรียน , 4.เกมส์ทบทวน ความรู้ , 5. แบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้โปรแกรมMacromedia Flash 8 , ภาษา Action Script 2.0 และ ภาษา XML ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยเน้นการนาเสนอบทเรียนในรูปแบบของการ์ตูนอนิเมชัน โครงการนี้ เป็นโครงการที่ได้รับทุนอุดหนุนโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรม คอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ Education software “Go! Go! Almagest Castle” is software for make learners have got accomplishment of Trigonometry and this program want learner have knowledge and more understand in Trigonometry. This software constitute with 1. Intro 2. Pretest 3. Lesson 4.Game 5. Posttest By Macromedia Flash8 , Acton Script 2.0 and XML Language .It’s accent about present lesson with Multimedia Animation . We use a lot of picture and animation to make learners understand and make the program beautiful to create mood for learners. We hope that this software will be useful for every learners.
  • 7. ตัวอย่างโครงงาน 2 ชื่อโครงงาน การ ประยุกต์ใช้แบบรูปการเคลื่อนที่ของดาวเปราะในแบบรูปการเคลื่อนที่ ของหุ่น ยนต์ The Application of Brittle Star Locomotion Patterns for Robotic Locomotion โปรแกรมเพื่อประยุกต์การใช้งาน (นักเรียน) ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสุพิชญา สุ จริยากุล , นายพิลิปดา เหลืองประเสริฐ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ดร.สโรช ไทร เมฆ สถาบันการศึกษา โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวด วิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541 บทคัดย่อ โปรแกรม นี้ เขียนขึ้นเพื่อใช้ใน การศึกษาการเคลื่อนที่ หรือการเคลื่อนไหวของวัตถุที่เราสนใจ (ซึ่งในที่นี้เน้นเรื่องหุ่นยนต์) โดยรับ ข้อมูลจากภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกจากกล้องที่อยู่นิ่ง มาวิเคราะห์ถึงข้อมูลต่างๆ อันได้แก่ ตาแหน่ง ตาแหน่งของส่วนต่างๆ ความเร็ว การหมุน ซึ่งในขณะนี้โปรแกรมกาลังถูกพัฒนาให้สามารถทางาน ได้ตามดังที่กล่าวไว้ข้าง ต้น โดยในขณะนี้สามารถตรวจจับความเปลี่ยนแปลงของภาพได้ แต่ยังไม่ สามารถระบุตาแหน่งที่ชัดเจนได้ เนื่องจากสิ่งที่เราสนใจไม่จาเป็นจะมีลักษณะเป็นก้อน อาจมีส่วน แขนยื่นออกมา และมีมากกว่า 1 ส่วนที่กาลังเคลื่อนที่ เช่น ส่วนหนึ่งเคลื่อนไปด้านหน้า อีกส่วน หนึ่งเคลื่อนไปด้านหลัง เป็นต้น This software is a work developed for study the movement of object by input video file from a standing video recorder. It will work by analyze position, coordinating system, velocity and rotation. We have developed this program until this program can detect the different in 2 or more images. But it is not totally work for detect a right position, because an object may have some part move freely from others, for example, some moves forward while the other moves backward. ตัวอย่างโครงงาน 3 ชื่อโครงงาน โปรแกรมการจัดตารางการเรียนการสอน ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสุชานัน ม่วงไทย ชื่อ อาจารย์ที่ปรึกษา รศ.ดร.อัศนีย์ ก่อตระกูล สถาบันการศึกษา โรงเรียนศรีบุณยานนท์ ระดับชั้น มัธยม ปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน ไม่ระบุ บทคัดย่อ ปัจจุบันการจัดตารางการเรียนการ สอนของโรงเรียนต่าง ๆ นั้นมักจะใช้ตัวบุคคลในการจัดซึ่งทาให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของความผิดพลาดที่เกิดจากการจัดตารางสอนซ้าซ้อน ปัญหาขอวห้องเรียนที่จัดไม่ลงตัว เป็นต้น ซึ่งจะทาให้ การออกตารางสอนนั้นเกิดความล่าช้าไม่ทันต่อความต้องการ ดังนั้นจึงได้สร้างโปรแกรมนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการ จัดตารางการเรียนการสอน ซึ่งสามารถใช้กับการจัดตารางการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในชั้นต่าง ๆ ตั้งแต่
  • 8. มัธยมศึกษาปีที่1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ TURBO PASCAL VERSION 7 ตัวโปรแกรมจะแบ่ง ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนฐานข้อมูลและส่วนประมวลผล ในส่วนของฐานข้อมูลผู้ใช้จะต้องเป็นผู้ป้อนข้อมูลลง ใน notepad ดังนี้ คือ ชื่อ นามสกุล ตาแหน่ง จานวนวิชาที่สอน จานวนคาบของรายวิชาที่สอน จานวนห้องที่ สอนและห้องที่เรียน จากนั้นโปรแกรมจะนาข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ได้มาการประมวลผล โดยมีลาดับการ ประมวลผล คือ ตัวโปรแกรมจะจัดรายวิชาที่แน่นอนก่อน โดยให้ผู้ใช้เป็นผู้กรอกข้อมูล เช่น การเรียนรด.ของม. ปลาย คาบกิจกรรม เป็นต้น จากนั้นจัดตารางการใช้ห้องของรายวิชาที่ต้องใช้ห้องปฏิบัติการ เช่น ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ ห้องปฏิบัติการเคมี ห้องปฏิบัติการชีววิทยา เป็นต้น และขั้นสุดท้ายจะจัด ตารางการเรียน การสอนของรายวิชาที่เหลือ และจะแสดงผลเป็นตารางเรียนของนักเรียนและตารางสอนของอาจารย์ออกมา ทางหน้าจอ คอมพิวเตอร์ ตัวอย่างโครงงาน 4 ชื่อโครงงาน ความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุด โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ชื่อผู้ทาโครงงาน นายสุนิล ยาเดียว ชื่อ อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์นพดล อร่ามภัทรวงษ์ สถาบันการศึกษา โรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541บทคัดย่อ Endless Dreams (ความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุด) เป็นเกมประเภทเกมสวมบทบาท (RPG : Role Playing Game) หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ “เกมภาษา” ผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทตัวละครให้เดินทางไปสู่จุดหมาย พบเจอกับอุปสรรค ปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ตามเนื้อหาของเกม ระบบของเกมจะให้ผู้เล่นเลือกคาสั่งต่าง ๆ ซึ่งจะ แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ระบบการต่อสู้จะเป็นแบบเข้าฉากต่อสู้ เมื่อผู้เล่นบังคับตัวละครเดิน อยู่ในแผนที่ เกมจะสุ่มให้ผู้เล่นพบกับมอนสเตอร์ ส่วนมอนสเตอร์ที่จะได้พบนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละ พื้นที่ มีระดับความยาก-ง่าย ต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถบันทึกข้อมูล แล้วกลับมาเล่นต่อจากจุดเดิมได้ ตัว ละครแต่ละตัว จะมีความสามารถแตกต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถพัฒนาระดับและความสามารถของแต่ละ ตัวละครได้เรื่อย ๆ ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะเก่งแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับหลักการวางแผน การใช้ความคิดของผู้เล่น ส่วนใหญ่แล้ว เกมภาษาที่ผ่านมาของค่ายเกมต่าง ๆ ระบบของเกมมักจะให้ผู้เล่นทาการเลือกคาสั่งต่าง ๆ แล้ว รอดูผลของการกระทา โดยในโปรแกรมนี้ จะแทรกความแปลกใหม่ลงไปอย่างลงตัวเพื่อป้องกันความน่าเบื่อ จาเจเหมือนกับเกมอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดยจะใส่จุดเด่นต่าง ๆ ภายในเกม เช่น สถาปัตยกรรมภายในเกมจะเป็น อาคารบ้านเรือนแบบไทย ๆ วัฒนธรรมไทย และประเพณีไทย ระบบการต่อสู้ เมื่อผู้เล่นทาการโจมตีศัตรูระยะ ประชิด ในขณะที่ตัวละครกาลังทาการโจมตี จะมีหลอดวิ่ง ให้ผู้เล่นกดปุ่ม ถ้ากดทันในจุดที่กาหนด ตัวละครจะ โจมตีได้รุนแรง แม่นยา แต่ถ้าหากกดไม่ทันหรือกดก่อน ตัวละครจะโจมตีพลาด เมื่อผู้เล่นทาการโจมตีศัตรูโดย ใช้เวทย์มนต์ ในขณะที่ตัวละครทาท่าร่ายเวทย์ จะมีลูกศรเลื่อนให้กดตามที่กาหนด โดยความแรงของเวทย์จะ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจานวนลูกศรที่กดทัน เช่น ลูกศรเลื่อนมา 10 ตัว ผู้เล่นกดทัน 8 ตัว ความแรงของเวทย์ก็ จะเป็น 80 % ของความแรงสูงสุด เมื่อได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ ตัวละครจะแสดงท่าทางขอขมาเพื่อเป็นการไว้ อาลัยแก่คู่ต่อสู้ ตามความเชื่อของคนไทย เป็นต้น
  • 9. It is a role play game or known as language Game. The player makes a role as actor and points him to the destination, on the way he meets the problems and follow the game details. For the game system, the player will choose the various instructions that are difference in situations. It will show the fighting scene. When the player controls the actor place on the map. The game will be chosen to meet the monster / there are different monster in each place and different fighting. The player can record data and replay in the same section. There are different actors. The player can develop or apply the actors’ ability. They will be smart according to making play and decision. Mostly of this game the Game System will be chosen and waited for action. By the way, There will be interesting in the game for the players, will not get bored, spectral the option, it will show the modern Thai architecture, culture and tradition and tradition. At Fighting, when the actor close to fighter and fight it will show the running button. If you fast press it, you will fight hard, in the other hand, for the slow press, you will lose the game. While the actor is playing magic it shows the arrow for press. The strongly press shows the percentage for number of arrows, for example the 10 arrows shows and you can press it, you will get 80% win. Lastly, the lose actor will forgive the winner as a Thai beliefs. ตัวอย่างโครงงาน 5 ชื่อโครงงาน โปรแกรมแปลภาษา ชื่อผู้ทาโครงงาน ดร.สุพันธ์ เมฆนาวิน ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา นาย วรากร อึ้งวิเชียร สถาบันการศึกษา นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตประสาน มิตร ระดับชั้น มัธยมปลาย หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541 บทคัดย่อ วัตถุประสงค์ของโปรแกรมนี้ เพื่อที่จะแปลข้อความภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลที่ใช้ทั่วโลกเป็น ภาษาไทย โดยศึกษาไวยากรณ์ของภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และนาหลักการที่ได้มาเขียนโปรแกรมโดย ใช้ Visual Basic และใช้ Microsoft Accress ทาข้อมูลในพจนานุกรมที่ใช้สาหรับแปล จากการทดลองแปล ประโยคที่เตรียมมาพบว่าสามารถแปลบางประโยคได้ถูกต้อง แปลบางประโยคผิด และบางประโยคไม่สามารถ แปลได้เลย (เพราะทาให้เกิดวงวน) จึงมีความคิดที่จะพยายามแก้ไขโปรแกรมให้สามารถแปลให้ได้โดยสมบูรณ์ ต่อไป
  • 10. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะ อยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุใน มุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะ เป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับ ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกัน ด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก ตัวอย่างโครงงานพัฒนาเครื่องมือ เช่น โปรแกรมช่วยอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อย่าง ชาญฉลาด โปรแกรมไบรท์ไซต์ (Bright Sight) เป็นต้น
  • 11. โครงงานทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลองการทดลองของสาขา ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะ เปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลอง ทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และ การทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ CUVMiner : Volume Data Mining Software Using 3D Field Topology Analysis เป็นต้น
  • 12. โครงงานประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งาน จริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้น ต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างของโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivis 2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น 3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001 4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ 5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ 6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน 7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล 8. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต 9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง 10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง 11. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ 12. โฮมเพจส่วนบุคคล
  • 13. โครงงานพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานพัฒนาเกมเป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมทายคาศัพท์ และเกมการคานวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการ ใช้สมองเพื่อฝึกความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และ น่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์นั้น ผู้เรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ หลักการที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรม และการแทนข้อมูลใน คอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทาโครงงาน และใช้ความรู้ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ในโครงงาน คอมพิวเตอร์ โดยในการทาโครงงานผู้เรียนอาจจะมีโอกาสได้ทาความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การออกแบบฐานข้อมูล (Database Design) และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) เป็นต้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่ผู้เรียนเลือกทาโครงงาน ตัวอย่างโครงงานพัฒนาเกม เช่น เกมเพื่อการเรียนรู้สาหรับคนพิการ ด๊อกกี้ ด๊อก เว็บแคมเกมส์ โอ้ลัลล้า เวิร์ล เกมวีรบุรุษกู้แผ่นดินอโยธยา เป็นต้น ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit1/unit1-2.html http://toffykz.blogspot.com/?view=timeslide http://www.vcharkarn.com/project/article/56801 http://oumsunipharuamsap.blogspot.com/2012/09/7-thanapongkiatsujja.html