ลอยกระทง
- 1. สมาชิก
1. นางสาวนารินทร์ หงษ์ศาลา
เลขที่ 19
2. นางสาวภาสินี ชาวกำาแพง เลขที่
20
3. นางสาวอาธีนา เอี่ยมวิจิตร
เลขที่ 25
4. นางสาวจุฑารัตน์ ฎิธิพิน เลขที่
26
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5
จัดทำาโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1
- 3. ลอยกระทง (Loi Krathong Day) เป็นประเพณี
ของไทยที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ งานลอยกระทงเริ่ม
ทำาตั้งแต่ กลางเดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 ซึ่งเป็นฤดูนำ้า
หลาก นำ้าจะเต็มสองฝั่งแม่นำ้า ที่นิยมมากคือ ช่วงวันเพ็ญ
เดือน 12 เพราะพระจันทร์เต็มดวง ทำาให้แม่นำ้าใสสะอาด
แสงจันทร์ส่องเวลากลางคืน เป็นบรรยากาศที่สวยงาม เหมาะ
แก่การลอยกระทงเดิมพิธีลอยกระทงเรียกว่า พระราชพิธีจอง
เปรียงชักโคมลอยโคม ซึ่งเป็นพิธีของพราหมณ์ เพื่อบูชาพระ
เป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม
ครั้นคนไทยรับนับถือพระพุทธศาสนา ก็ทำาพิธียกโคมเพื่อ
บูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระจุฬามณี ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ลอยโคมบูชาพระพุทธบาท ณ หาดทรายแม่นำ้านัมมทานที
จัดทำาโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1
- 5. 1. ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดย
ประมาณ
2. พับตามรูป จำานวน 3 กลีบ จากนั้นนำามาสวมแรียงกันให้มี
ระยะห่างพองามตามความชอบ เพื่อให้ผลงานออกมาดู
สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย ควรพับแต่ละกลีบให้ได้
ขนาดเท่ากันทุกจุด
3. ใช้ด้ายสีเขียวใกล้เคียงกับใบตอง หรือสีดำามาเย็บติดกัน
ด้วยด้นถอยหลังให้เป็นแนวตรงเสมอกันโดยตลอด
4. พับกลีบใบตองแล้วเย็บต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง
สามารถหุ้มขอบของฐานกระทงได้โดยรอบ ตรึงกลับ
ใบตองกับฐานของกระทงด้วยหมุด แล้วขลิบส่วนที่เลยพ้น
ฐานลงมาให้เรียบร้อยเสมอกับฐาน เมื่อทำาเสร็จแล้วจะมี
ลักษณะคล้ายอ่างนำ้า
จัดทำาโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1
- 7. วันลอยกระทงของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 คำ่า เดือน
12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย หรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้าน
นาจะตรงกับเดือนยี่ และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวเดือน
พฤศจิกายน ซึ่งเดือน 12 นี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึง
เย็นสบาย และอยู่ในช่วงฤดูนำ้าหลาก มีนำ้าขึ้นเต็มฝั่ง ทำาให้
เห็นสายนำ้าอย่างชัดเจน อีกทั้งวันขึ้น 15 คำ่า เป็นวันที่
พระจันทร์เต็มดวง ทำาให้สามารถเห็นแม่นำ้าที่มีแสงจันทร์ส่อง
กระทบลงมา เป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง
จัดทำาโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1
- 9. 1. เพื่อแสดงความสำานึกถึงบุญคุณของแม่นำ้าที่ให้เราได้
อาศัยนำ้ากิน นำ้าใช้ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อพระแม่
คงคา ที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงไปในนำ้า อันเป็นสาเหตุ
ให้แหล่งนำ้าไม่สะอาด
2. เพื่อ เป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที เมื่อ
คราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ
และได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนหาดทรายแม่นำ้านัมม
ทานที ซึ่งเป็นแม่นำ้าสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของ
ประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่าแม่นำ้าเนร
3. เพื่อ เป็นการสะเดาะเคราะห์ เพราะการลอยกระทงเปรียบ
เหมือนการลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า โรคภัยไข้เจ็บ
และสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ลอยตามแม่นำ้าไปกับกระทง คล้ายกับ
พิธีลอยบาปของพราหมณ์
จัดทำาโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1
- 10. 4. เพื่อเป็นการบูชาพระอุปคุต ที่ชาวไทยภาคเหนือให้ความ
เคารพ ซึ่งบำาเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึก
หรือสะดือทะเล โดยมีตำานานเล่า ว่าพระอุปคุตเป็นพระ
มหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามาร
ได้
5. เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตาม
กาลเวลา และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้น
ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
6. เพื่อความบันเทิงเริงใจ เนื่องจากการลอยกระทงเป็นการ
นัดพบปะสังสรรค์กันในหมู่ผู้ไปร่วมงาน
7. เพื่อ ส่งเสริมงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ เพราะเมื่อมี
เทศกาลลอยกระทง มักจะมีการประกวดกระทงแข่งกัน
ทำาให้ผู้เข้าร่วมได้เกิดความคิดแปลกใหม่ และยังรักษาภูมิ
จัดทำาโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1