Recommended
More Related Content
Similar to เรียนการแพทย์ 2023.pdf
เรียนการแพทย์ 2023.pdf
- 1. Medical knowledge of beauty DR. SANTI VISITCHAICHAN More than 10 Years experience in Aesthetic field Owner of aesthetic clinic 10 Years
- 2. OUTLINE Anatomy and physiology กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา Healing process and wound care กระบวนการหายของบาดแผลและการดูแลรักษา Medical condition โรคและภาวะทางร่างกายที่ควรระวัง Medical and aesthetic treatment หัตถการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
- 3. Protection : (สําคัญที่สุด) • ป้องกันจากการบาดเจ็บ, การขีดข่วนเล็ก ๆ น้อยๆ Sensation : รับความรู้สึก • ร้อน หนาว , สัมผัส, แรงกดดัน, ความเจ็บปวด หนาที่ของผิวหนัง Function of Skin Excretion : การกําจัดของเสีย • หรือขับสารบางอย่าง Secretion : ผลิตไขมันให้กับชั้นใต้ผิว • เพื่อหล่อเลี้ยงเส้นผม ขน ให้เงางามอยู่เสมอ
- 4. Anatomy and Physiology - Skin กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - ผิวหนัง SKIN ผิวหนัง 1.Epidermis ชั้นหนังกําพรา 2.Dermis ชั้นหนังแท 3.Subcutaneous layer ชั้นไขมัน
- 5. 1.Thick skin คือ ผิวหนังที่มีชั้น epidermis (หนังกําพรา) หนา พบบริเวณฝามือฝาเทา (palms and soles) ผิว thick skin จะไมมีขน, รูขุมขน และกลามเนื้อ อยูในบริเวณเหลานี้ แตจะมีตอมเหงื่อ เปนจํานวนมาก ดังนั้น บริเวณฝามือฝาเทาของรางกาย จึงไมพบวามีเสนขนหรือนํ้ามันจากตอม ไขมัน (sebum) แตจะมีเหงื่อออกมากบริเวณฝามือฝาเทา 2. Thin skin คือ ผิวหนังที่มีชั้น epidermis(หนังกําพรา) บาง พบไดทั่วรางกาย ยกเวน บริเวณฝามือฝาเทา ซึ่งผิวหนัง ชนิดนี้ จะมี รูขุมขน ตอม ไขมัน ตอมเหงื่อ และตอม Apocrine sweat gland
- 6. แบงอีกเปน 5 ชั้นยอย เปนชั้นที่อยูนอกสุด ทําหนาที่ปกปองผิวจากสารพิษ, แบคทีเรีย และการสูญเสียนํ้า มีสวนในกระบวนการผลัดเซลลผิว เปนสวนที่อยูชั้นในสุด ที่ซึ่งเซลล keratinocyte ถูกผลิต และถือวาเปนชั้นที่เซลลยังมีชีวิต ชั้นนี้จะผลิตโปรตีนที่เรียกวา Keratin ซึ่งจะมีลักษณะเล็กเรียว มีการผลัดเซลล เปนชั้นที่อัดตัวกันอยูหนาแนนมีลักษณะแบนราบ เรียงขนานกับผิว ซึ่งเซลลที่ตายแลวจะหลุดรอนเปนขี้ไคล 01 ชั้นหนังกําพรา Epidemis
- 8. Dermis (ชั้นหนังแท้) 02 เปนชั้นของผิวหนังที่อยูใตหนังกําพรา ( Epidermis ) ลงมา หนาประมาณ 25 เทา ของหนังกําพรา นอกจากนี้ มีรยางคของผิวหนัง (Skin Appendages) ในชั้นหนังแทมีเสนเลือดและเสนประสาทมาเลี้ยงจํานวนมาก
- 10. Anatomy and Physiology Brow Anatomy คิ้ว คือผิวหนังบริเวณหนึ่ง ที่มีเสน ขนขึ้นในบริเวณเหนือดวงตา What is Eyebrow
- 11. โครงสรางกระดูก ใบหนา BONE ที่เปลี่ยนตามอายุ สง ผลตอคิ้ว ภาพนี้จะแสดงลักษณะของกระดูก จะเห็น วาเมื่อเราอายุมากขึ้น กระดูกจะเกิดการก รอนตัวลง โวลุมของกระดูกลดลง สงผลให ใบหนาของเราเปลี่ยนไป เชนเดียวกับ บริเวณคิ้ว ที่จะมีการกรอนตัวลงทั้งกระดูก และผิวหนัง ทําใหตัวคิ้วดูตกลง เมื่อเราอายุ มากขึ้นการสักคิ้วจึงเกิดขึ้นสูงกวารอยขน คิ้วเดิม เพื่อใหใบหนาของเราดูลดอายุลง
- 12. รอยไหมยกคิ้ว ยกคิ้วดวยโบท็อกซ ยกคิ้วดวยเอ็นโดไทล FOXY EYE BOTOX ENDOTINE นวัตกรรม การปรับ โครงสรางคิ้ว
- 14. การปลูกคิ้ว Eyebrow Transplantation การปลูกคิ้วถาวร คือการยายเซลลรากผมบริเวณ Donor Area (บริเวณที่ไมมีตอมรับสัญญาณฮอรโมน เพศ DHT) นํามาปลูกบริเวณคิ้วหรือเคราตามที่ ตองการ วิธีการนี้เปนวิธีการเดียวกับการปลูกผมถาวรเ ทคนิค FUE แตตางกันที่นําเสนผมที่เจาะมาปลูก บริเวณคิ้วแทน ENTER NAME
- 16. Anatomy and Physiology - Eye กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - ตา หนังตาเปนเนื้อเยื่อชนิดเดียวกับผิวหนัง แตเปนผิวหนังที่บาง กวาที่สุดในร่างกาย , มีเส้นเลือดฝอยอยู่ตื้น, บวมง่าย แผ่นหนังตา เปนเนื้อเยื่อแข็ง ทําหนาที่คงความแข็งแรงของหนังตา สวนประกอบของภายนอกตา •รูระบายนํ้าตา •ขอบหนังตาบน ที่เราใชในการสัก innerline •กลามเนื้อตา มีหนาที่ชวยประคองลูกตา •ขนตา มีหนาที่ปกปองดวงตาจากอันตรายที่จะเกิดกับดวงตา
- 18. Sub brow lift คือ การตัดยกชั้นตาใหดูชัดเจนขึ้น โดยการซอน แผลไวที่ใตคิ้ว เหมาะสําหรับคนที่อายุยังไมมาก มี ชั้นตาบางอยู แตเปลือกตาบนเริ่ม ตก เห็นชั้นตาไมชัดเจน ยังไมมีหนังตาตกหยอน ลงมามากนัก ยังไมจําเปนที่จะตองตัดหนังตาออก สามารถใชวิธี ยกชั้นตาใหชัดขึ้น ดูโตสดใสมาก ขึ้นและยังสงผลใหหนาแลดูออนเยาวขึ้นดวย
- 20. ศัลยกรรมตา 2 ชั้นแบบ เย็บกรีด
- 21. Anatomy and Physiology - Eye กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - ขนตา
- 22. LASIK
- 23. 📌 กาวที่ใชในการตอขน ตา เปนสารเคมี หากไหลเขาตา จะ เปนอันตรายมาก อาจทําให เกิดกระจกตาถลอก ตาอักเสบ รุนแรงได 📌ขนตาที่ตออาจหลุด รวง หลนเขาตาไปถูทําใหเกิด กระจกตาถลอกได 📌 ภาวะเปลือกตาอักเสบ สาวๆ มักจะไมกลาถูทําความ สะอาด บริเวณเปลือกตา ทําให เกิดไขมันอุดตันและเชื้อ แบคทีเรียสะสม สงผลใหเกิด อาการตาแหง และอาจเกิดการ ติดเชื้อที่เปลือกตา เกิดตากุงยิง หรืออาจติดเชื้อที่เยื่อบุตาและ กระจกตารุนแรงตามมาได ดวย. การตอขนตา มีความเสี่ยงตอแผลเลสิคอยู 3 อยาง
- 24. Anatomy and Physiology - Lip กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - ริมฝปาก
- 25. สีของ ริมฝปาก • สีผิวตามพันธุกรรมหรือเชื้อชาติ • การสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่ ทําให เสนเลือดฝอยหดตัว เปนผลใหเลือดไปเลี้ยง ริมฝปากไมเพียงพอจนสีริมฝปากดํา • แสงแดด โดนรังสี uv เปนผลใหสีผิวบริเวณ นั้นคลํ้าขึ้น • สารในลิปสติก หากผูใชมีอาการแพสารใน ลิปสติก จนเกิดการอักเสบ อาจทําใหริมฝปาก เปนสีนํ้าตาลเขม หรือสีดําได • โรคบางชนิดอาจสงผลตอเม็ดสีในรางกาย • ยาบางชนิด มีผลทําใหปริมาณเม็ดสีเมลานิน ในรายกายเพิ่มสูงขึ้น ทําใหปากคลํ้า
- 26. Anatomy and Physiology - Lip กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - ปาก
- 27. Filler lip
- 29. Anatomy and Physiology - Nail กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - เล็บ
- 30. Anatomy and Physiology - Nail กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - เล็บ จากการศึกษาพบวา 1.เล็บมือจะยาวกวาเล็บเทา 2.แรกเกิดเล็บจะยาวชา และยาวเร็ว 20-30 ป หลังจากนั้นจะยาวชาลง 3.การเจ็บปวย, ขาดอาหาร, โรคของระบบหลอดเลือด หรือเสน ประสาท การกินยา เคมีบําบัด และการติดเชื้อราที่เล็บ จะทําใหเล็บยาวชาลง 4.ภาวะที่กระตุนใหเล็บยาวเร็วขึ้นคือ การตั้งครรภ อุบัติเหตุบริเวณนิ้ว โรคสะเก็ดเงิน ,การรับประทานยา Retinoids และ Itraconazole
- 31. หนาที่ของเล็บ 1.ปองกัน อันตรายที่จะเกิดตอนิ้วสวนปลาย 2.รับความรูสึก 3.ทําใหนิ้วมือสามารถหยิบจับสิ่งของไดดี 4.เปนอาวุธของรางกายอยางหนึ่งตามธรรมชาติ 5.เล็บนิ้วเทาชวยใหการเคลื่อนไหวของเทาไดดี 6.เปนแหลงขอมูลตางๆ เชน 6.1 รางกายปวย เล็บก็จะหยุดการเจริญเติบโต 6.2ใชตรวจหายาหรือ ที่สะสมในรางกายได เนื่องจาก ยาหรือ สารพิษจะมาสะสมที่เล็บ 6.3การตรวจวิเคราะหเล็บ ชวยวินิจฉัยโรคได 6.4การตัดแผนเล็บไปตรวจหาหมูเลือด สกัด DNA จากแผนเล็บ, หรือตรวจ genotypic จากแผนเล็บ เปนตน
- 33. Anatomy and Physiology - Areola กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - ลาน นม
- 34. Anatomy and Physiology - Areola กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - ลานนม
- 36. Anatomy and Physiology – Genitalia กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา อวัยวะเพศ
- 37. Anatomy and Physiology – Genitalia กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - อวัยวะเพศ 🍑1. นอง ในอุดมคติ คือ ดูไดสัดสวน สมมาตร ทั้ง 2 ดาน แคมนอกขนาดใหญกวา แคมใน ⚡เปนหนาตาที่ทุกคนเห็นแลว เรียกวา แบบนี้แหละ “ปกติ” ⚡แตจริงๆแลว แบบนี้ เปนแบบที่พบไดนอยที่สุดเลยจา 🍑 2. นอง ยิ้มออน คือ แคมนอกขนาดพอๆกับแคมใน ทําใหมองเห็นแคมในไดตลอดแนว (โดยไมตองแหวก)
- 38. Anatomy and Physiology – Genitalia กายวิภาค โครงสราง สรีรวิทยา - อวัยวะเพศ 🍑 3. นอง ยิ้มกวาง คือ แคมในยาวกวาแคม นอก จนเห็นชัดวายื่นออก มา 🍑 4. นอง ยวย คือ แคมนอกยวยกวา ปกติโดยเฉพาะสวนลาง ดูคลายเกือกมากลับหัว จนบางทีอาจบังแคมใน จนแทบมองไมเห็น 🍑 5. นอง ตุยนุย คือ แคมนอกอวบอวน บัง แคมในจนมิด (แตจะไม ยอย หรือยวยเทาอีกแบบ) 🍑 7. นอง เอียง คือ แคมในที่เปนกลีบ ยื่น ออกมาไมเทากัน 2 ขาง ⚡นี่เปนสาเหตุที่คนสวน ใหญคิดวามันผิดปกติ แต จริงๆแลว นองแบบนี้พบได บอยมากๆเลย
- 39. 🍑 6. นอง หอย คือ แคมนอกใหญกวาแคมใน แตยอย ลงมา เหมือนคนแกมตอบ(แตเหี่ยวนิด ๆ) สวนใหญแบบนี้จะพบในคนอายุมาก ขึ้น ที่ผิวเริ่มเหี่ยวยน จนดานอกอาจบัง แคมใน 🍑 8. นอง แลบลิ้น คือ แคมในดานใดดานนึงยื่นยาว ออกมามาก จนอาจคิดวามีติ่งผิด ปกติ ซึ่งบางครั้งอาจยาวมากถึงขั้น ยื่นออกมานอก กกน เลยก็ได 🍑 9. นอง อา คือ แคมนอกอยูหางกันไมมาปดปาก ชองคลอด จนทําใหเห็นแคมในเดน ชัดขึ้น ⚡เปนลักษณะที่พบได โดยไมเกี่ยว กับการมีเซ็กสบอยหรืออะไรแบบนั้น นะคา
- 43. แคมเล็ก หรือ เลเบีย (Labia minora)ตัดปก ผีเสื้อ
- 46. Factors Affecting wound healing ปจจัยที่มีผลตอการหายของบาดแผล
- 50. MEDICAL CONDITIONS 1.โรคเกี่ยวกับเลือด 2.โรคหัวใจ 3.โรคตับ – ไวรัสตับอักเสบ 4.ความดัน สูง ตํ่า 5.เบาหวาน 6.ตั้งครรภ 7.เอดส 8.เริม 9.ลมชัก 10.วัณโรค 11.มะเร็งผิวหนัง
- 52. Thrombocytopenia ภาวะเกล็ดเลือดตํ่า ภาวะเกล็ดเลือดตํา คือภาวะที่ เลือดมีจํานวนของเกล็ดเลือดน้อย กว่าปกติไม่นับว่าเป็นโรค แต่เป็น ภาวะที่เกิดจากโรค สาเหตุ 1. โรคที่มีความผิดปกติของ ไขกระดูก ได้แก่ กลุ่มโรค ไขกระดูกฝ่อทั้งเป็นตั้งแต่ กําเนิด เป็นภายหลัง 2. เกล็ดเลือดถูกทําลายหรือใช้ เกล็ดเลือดมากกว่าปกติ ได้แก่ โรคความผิดปกติของ ระบบภูมิคุ้มกัน เนื้องอก หลอดเลือดบางชนิด
- 54. ผูปวยโรคหัวใจ ควรระวังอาการ เจ็บหนาอก คลื่นไสอาเจียน เหงื่อออก หนามืด เวียนศีรษะ อาจจะเปนสัญญานของ ภาวะกลามเนื้อ หัวใจขาดเลือด ได ระวังการใชยาชา % สูงมากเกิน ขนาด ซึ่งอาจทําใหเกิดอาการช็อกได
- 55. คาความดันปกติคือ 90-120 / 60-80 - Hypertension ความดันสูง มักจะมีการ รับประทานยาละลายลิ่มเลือดมาดวย การทายาชาที่มี % ความเขมขนสูงๆ จะมีผลใหเกิดการหดตัวของ หลอดเลือดซึ่งสงผลตอความดันโลหิต ใหสุงขึ้นได - Baby Aspirin หยุด 7 วัน สงผลให เลือดออก ไดงายสามารถทําได - ยาละลายลิ่มเลือดหยุด 7 วัน สงผล ใหเลือดไหลไมหยุด แนะนําไมควรทํา เลย ถาไมไดหยุดยา - สําหรับความดันตํ่า ใหเราดูจากคา ปกติและอาการของคนที่จะทําการสัก เปนหลัก
- 56. อาการของโรคตับ •ตัวเหลืองตาเหลือง •อ่อนเพลีย ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้ และอาเจียน •เมื่อเป็นแผลเลือดจะออกง่าย เลือดแข็งตัวยาก •คันบริเวณผิวหนัง ขาและท้องบวมใหญ่ เลือดออกผิดปกติ ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ ร่างกายจะขับยาชาออกได้ช้า อาจส่งผลต่อภาวะของผู้ป่วยได้ ควรทายาชาให้ น้อยกว่าคนปกติทั่วไป
- 57. กลุ่มเสี่ยงโรคไวรัสตับอักเสบบี • ผู้สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ หรืออยู่ในพื้นที่ระบาด • การไม่ป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์ • ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน เช่น แปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ • การใช้เข็มฉีดยาซํ้า
- 62. โรคเริม คืออะไร? เกิดจากเชื้อไวรัส ที่มีชื่อวา Herpe Simplex Virus (HSV) ซึ่งจะมีอยู 2ชนิดดวยกัน คือ HSV type1และ HSV type2 โดยเชื้อ HSV นั้นทําใหเกิด เริมไดที่ บริเวณผิวหนัง และ ในสวนชั้นเยื่อเมือกของ รางกาย โดยสามารถเกิดได กับทุกเพศ ทุกวัย
- 63. โรคเริม อาการ การปองกัน ยา การรักษา
- 65. วัณโรคเปนโรค ติดเชื้อทางอากาศ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ผูที่ติด เชื้อวัณโรคมักไมแสดงอาการใด ๆ แตตัวโรคจะดําเนินตอไป แบงเปนสามระยะ ไดแก - การติดเชื้อระยะแรก (Primary TB Infection) - การติดเชื้อระยะแฝง (Latent TB Infection) - ระยะแสดงอาการหรือระยะกําเริบ (Active Disease) ผูที่ติดเชื้อวัณโรคสวนใหญจะอยู ในระยะแฝง จะยังมีเชื้อวัณโรคอยูใน รางกาย ผูที่ติดเชื้อในระยะนี้จึงไมมี อาการใดๆ และไมแพรเชื้อไปยังผูอื่น
- 66. อาการนาสงสัยเเปนวัณโรค ปอด - มีอาการไขตํ่าๆ ในเวลาบาย หรือเย็น - ไอแหงๆ และเจ็บหนาอก - เหนื่อยงาย ออนเพลีย - ผิวหนังซีด เหลือง - เหงื่อออกตอนกลางคืน ถามีอาการอยางนอย 2 อาการ ขึ้นไป รีบตรวจหาวัณโรคที่สถาน พยาบาลใกลบาน
- 67. ไฝ (Nevus or Mole) ลักษณะไฝธรรมดา - สีนํ้าตาลหรือสีดํา(สีเดียวกันทั่วทั้ง ไฝ) มีลักษณะนูนหรือเรียบ - ส่วนใหญ่มักมีมาตั้งแต่เกิดหรืออาจ จะเกิดภายหลัง (ช่วงวัยกลางคน) - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสี ลักษณะ ของรูปทรงในช่วงเวลาสั้นๆ ลักษณะไฝมะเร็ง - มักมีมากกว่า 1 สี หรือ ความเข้มอ่อนไม่ เท่ากัน มักมีเส้นรอบวงตั้งแต่ 6 มิลลิเมตรขึ้นไป - มีลักษณะคล้ายไฝธรรมดามาก (มักเริ่ม ต้นจากไฝธรรมดาก่อนจะกลายเป็นไฝ มะเร็งอย่างรวดเร็ว) - รูปทรงไม่สมดุลกัน - มีไฝเม็ดเล็ก ๆ กระจายอยู่โดยรอบ - มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของรูปทรง เส้นขอบ สี และขนาดอย่างรวดเร็วใน เวลาอันสั้น *ไฝ ที่มีลักษณะไปทางมะเร็งผิดหนังทั้งหมดเราไมควรไปยุง*
- 68. จี้ไฝ มีกี่แบบ? 1. จี้ไฝดวยเลเซอรคารบอนไดออกไซด (CO2 Laser) การจี้ไฝดวยเลเซอรคารบอนไดออกไซด เปน เลเซอรที่มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร เปน คลื่นที่มีความแมนยําสูงไดรับความนิยมอยางมากใน ปจจุบัน 2. จี้ไฝดวยไฟฟา (Electrosurgery) เปนการใช กระแสไฟฟาความถี่สูงเขาไปทําลายเซลลไฝ เหมาะ สําหรับผูที่มีไฝไมใหญมาก สามารถกําจัดไฝหรือ ขี้แมลงวันไดถาวร มีประสิทธิภาพที่ดีกวาวิธีอื่นๆ 3. จี้ไฝดวยความเย็น (Liquid Nitrogen) เปนการ ใชไนโตรเจนเหลวที่มีความเย็นจัดอุณหภูมิ -196 องศาจี้หรือพนลงไปที่ไฝ ทําใหอุณหภูมิของผิวหนัง บริเวณนั้นลดลงอยางรวดเร็วและเกิดเปนนํ้าแข็งชวย ใหไฝฝอตัวและแหงเปนสะเก็ดหลุดออกไปได
- 71. 1. Botox 2.Filler 3.Thread lift 4.Endo tine 5. Hair Transplant 6. Eyelid surgery 7. Lasik 8.Lip surgery MEDICAL AND AESTHETIC TREATMENT
- 72. โบท็อก คืออะไร? - ทํางานอยางไร อาจสงผลอ ยางไรตองานสัก ควรเวนระยะ เทาไหรปลอดภัยที่สุด
- 76. รากผมอยูใน Dermis การสักใน ชั้น Dermis ก็ มีผลตอรากผมได