More Related Content
Similar to การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการแสดงความคิดเห็น
Similar to การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการแสดงความคิดเห็น (20)
More from Mareeyalosocity
More from Mareeyalosocity (13)
การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการแสดงความคิดเห็น
- 2. การแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเร็วของการสื่อสารข้อมูลด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้การเคลื่อนย้ายอิเล็กตรอนมีความเร็วมากอยู่แล้ว โดยปกติในการเคลื่อนย้ายกลุ่มอิเล็กตรอนมีความเร็วเกือบเท่าความเร็วแสง เราสามารถส่งข้อมูลข้ามซีกโลกได้ในชั่วเวลาพริบตาเดียว การทำงานหลายอย่างซึ่งต้องทราบและกระทำ ณ เวลาจริง เช่นการซื้อขายหลักทรัพย์ราคาหลักทรัพย์และรายการซื้อขายจะปรับตัวเปลี่ยนแปลงตามคำสั่งด้วยเวลาจริง การเบิกถอนเงินฝากผ่านตู้เอทีเอ็มก็เป็นการปรับปรุงรายการบัญชีด้วยเวลาจริง ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าก็ต้องการรู้ปริมาณสินค้าที่มีอยู่ ณ เวลาจริง การจัดการข้อมูลกับเวลาจริงจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องการ การประมวลผลข้อมูลและการส่งผ่านข้อมูลด้วยเวลาจริงเป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นระบบข้อมูลคือ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องมีการจัดเก็บรวบรวม ตรวจสอบหรือดำเนินการให้อยู่ในรูปสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยงานใดขาดข้อมูลเพื่อการตัดสินปัญหา ก็แสดงว่าระบบการดำเนินงานเกี่ยวกับข้อมูลของหน่วยงานนั้นยังไม่เป็นระบบ การจัดเก็บข้อมูลต้องเกี่ยวข้องกับระบบและผู้คน เพื่อให้ได้ข้อมูลในรูปอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถสับเปลี่ยนถึงกันได้ (Electronic Data Interchange : EDI) การสับเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จะเกิดขึ้นได้ เมื่อตัวข้อมูลมีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้รับรู้และแลกเปลี่ยนกันได้ มาตรฐานของข้อมูลจึงต้องได้รับการกำหนดขึ้น เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติ
- 3. ข้อมูลที่เกิดขึ้นในสนามแข่งขันจะได้รับการรายงานผลผ่านอุปกรณ์สื่อสารหลายอย่างเช่น โทรสาร วิทยุ โทรทัศน์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ข้อมูลเหล่านั้นจะเกิดขึ้นตามเวลาจริง และรายงานมายังศูนย์ข้อมูลเพื่อทำการสอบทานข้อมูลและปรับปรุงข้อมูลในระบบทันที ข้อมูลในฐานข้อมูลจึงถูกปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ผู้เรียกดูข้อมูลจะได้ข้อมูลที่ทันสมัยอยู่เสมอ การเรียกดูข้อมูลทุกขณะจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลตามความจริงที่เกิดขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบข้อมูลไม่ใช่ของใหม่อีกต่อไปแล้ว การใช้ข้อมูลมีบทบาทที่จะต้องดำเนินการแข่งกับเวลา ข้อมูลที่นักข่าวแสวงหา คือ ความจริงที่ต้องรีบนำมารายงาน แต่หากข่าวใดล้าสมัยแล้วอาจไม่มีความสำคัญที่จะต้องรายงานอีกต่อไป ระบบข้อมูล และการแลกเปลี่ยนผ่านระบบสื่อสารต่าง ๆ จึงได้พัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ บทบาทของการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ความสนใจในเรื่องข้อมูลและจัดระบบเพื่อให้บุคคลากรทุกระดับเข้าใจและประสานการทำงานร่วมกันจึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานของรัฐจะต้องเร่งดำเนินการ องค์กรของรัฐสามารถที่จะใช้ข้อมูล เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับประชาชนได้มาก การแก้ปัญหาทุกอย่างของรัฐบาลจะต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย ทันเวลา เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ องค์กรของรัฐจะต้องเร่งพัฒนาในเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้มากขึ้น เน้นการดำเนินการเป็นระบบ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องมีข้อมูลการผลิตพืชทางการเกษตรอย่างพร้อมมูล กระทรวงอุตสาหกรรมต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ต้องมีข้อมูลการตลาด กระทรวงศึกษาธิการและทบวงมหาวิทยาลัยต้องมีข้อมูลแผนกำลังคน จะเห็นว่าข้อมูลคือกลไกพื้นฐานของการพัฒนาประเทศ
- 4. วิธีแรกที่ระบบต้องมีคือ การตรวจสอบข้อมูลที่ติดต่อเข้ามาในระบบ ในระบบสื่อสารทั่วไปมีการส่งข้อมูลเป็นกลุ่ม (package) คือ นำข้อมูลกลุ่มหนึ่งมารวมกันมีการกำหนดรหัสพิเศษของการรับส่งข้อมูล การตรวจทานข้อมูล เช่น ข้อมูลทั้งกลุ่มส่งไปจะปิดท้ายด้วยรหัสตรวจสอบข้อมูลในรูปที่คำนวณได้ เช่น ตรวจสอบผลบวกของรหัสข้อมูลทั้งหมด ตรวจสอบด้วยส่วนซ้ำซ้อนแบบวนที่เรียกว่า ซีอาร์ซี (Cyclic Redundancy Check : CRC) เพื่อความแน่ใจว่า ข้อมูลกลุ่มนั้นมาถึงผู้รับโดยไม่มีข้อมูลใดเปลี่ยนแปลง หากพบข้อมูลผิดพลาดก็มีการทวงถามใหม่ได้ การตรวจสอบรหัสบุคคลเป็นวิธีหนึ่งที่ระบบต้องมี ดังจะเห็นได้จากการกำหนดรหัสผ่าน เช่น บัตรเอทีเอ็มทุกใบจะมีรหัสแถบแม่เหล็กและรหัสที่ให้ไว้กับเจ้าของ เมื่อผู้ใช้งานต้องติดต่อเข้าไปในระบบ คอมพิวเตอร์จะตรวจสอบรหัสทั้งสองนี้ว่าตรงกับที่กำหนดไว้หรือไม่ ถ้าตรงก็จะดำเนินการต่อไป การกำหนดรหัสผ่านนี้ถือว่าเป็นรหัสเฉพาะของแต่ละคน ระบบจะเป็นผู้สร้างให้ และเป็นความลับ ซึ่งพิมพ์ออกมาพร้อมผนึกซองโดยเครื่องไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดรู้
- 5. ความปลอดภัยของการแลกเปลี่ยนข้อมูล คำถามคงอยู่ในใจของคนทั่วไปว่าระบบรัษาความปลอดภัยของข้อมูลในปัจจุบันดีแล้ว หรือ ผู้ใช้เอทีเอ็มเบิกถอนเงินได้โดยไม่ต้องมีลายเซ็นมีความเชื่อได้เพียงไร การใช้บัตรเครดิตที่อยู่ห่างไกล หรือแม้แต่ฐานข้อมูลที่สำคัญ เช่น ฐานข้อมูลคะแนนในมหาวิทยาลัยมีความมั่นคงของข้อมูลเพียงใด ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่ต้องมีการวางมาตรการ และออกแบบในเรื่องการรักษาความปลอดภัยกันอย่างดี ความจำเป็นที่จะต้องดูแลและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเกี่ยวข้องกับฐานะการทำงานและเรื่องกฎหมาย เพราะข้อมูลที่เก็บอาจเป็นเรื่องความลับเฉพาะตัวหรือความลับทางการค้า ปัจจุบันจึงเริ่มมีอาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง เช่น การแอบใช้ข้อมูล การแก้ไขข้อมูล ตลอดจนการใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกวัตถุประสงค์ วิธีการป้องกันและรักษาความปลอดภัยจึงต้องมีการพัฒนาเทคนิคเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
- 6. ในระบบใด ๆ จะมีการกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลแตกต่างกัน เช่น ในระบบฐานข้อมูลแห่งหนึ่ง มีการกำหนดสิทธิการเข้าถึงฐานข้อมูลไว้ 5 ระดับ ระดับแรกเป็นของผู้ใช้ซึ่งจะดูแลหรือปรับปรุงข้อมูลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องของตนเองเท่านั้น ในระดับที่สูงขึ้นไปจะมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลแตกต่างกันตามที่กำหนด ระดับสูงสุดอาจเข้าถึงข้อมูลได้หมด ผู้เกี่ยวข้องระดับสูงสุดจึงเป็นผู้รับผิดชอบข้อมูลทั้งหมด นอกจากการใช้ระบบตรวจสอบผู้ใช้และการตรวจสอบรหัสผ่านแล้ว ระบบในการตรวจสอบข้อมูลอย่างอัตโนมัติในบางเรื่องต้องทำด้วย ระบบนี้เรียกว่าระบบตรวจสอบ ทั้งนี้เพราะอาจมีผู้ทุจริตเข้าสู่ระบบโดยไม่ผ่านทางรหัสผ่าน เช่น ผู้ที่รู้เรื่องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี อาจเข้าถึงตัวข้อมูลโดยตรงได้ และแก้ไขข้อมูลในจานแม่เหล็กที่เก็บข้อมูลสำคัญ ระบบตรวจสอบนี้จึงเป็นตัวป้องกัน เช่น ในเรื่องบัญชีต้องมีการยืนยันยอดหรือสร้างสมดุลในหลายส่วนที่ตรวจสอบยืนยันกันได้ ระบบตรวจสอบอาจมีกลไกง่าย ๆ เช่น นำตัวเลขในบัญชีมาคำนวณตามสูตร ได้ผลลัพธ์เก็บซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่งที่เป็นความลับ ถ้ามีใครแก้ไขตัวเลขในบัญชีก็สามารถตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องจากการคำนวณค่าตัวเลขเปรียบเทียบกับของเดิม
- 7. เมื่อข้อมูลที่วิ่งไปมาตามช่องสื่อสารหรือนำมาเก็บไว้ในฐานข้อมูลในรูปสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โอกาสของการถูกดักฟัง หรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขในช่องสื่อสารจึงเป็นไปได้ง่าย ระบบฐานข้อมูลที่อยู่ในจานแม่เหล็ก ในระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ได้จากหลายคนหลายแห่ง ก็มีโอกาสที่ผู้ไม่หวังดีจะเข้าสู่ระบบโดยตรงได้ ถึงแม้ระบบจะมีวิธีการป้องกันที่ดีแล้ว ผู้รู้เรื่องทางเทคโนโลยีระดับสูงก็อาจหาวิธีเข้าถึงข้อมูลได้ ดังนั้นจึงมีการแปลงรหัสข้อมูล เป็นรหัสที่ผู้อื่นไม่ทราบ ถ้าการแปลรหัสไม่ตรงกัน ทำให้รู้ได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกิดขึ้นแล้ว ระบบอาจตรวจสอบได้ แม้กระทั่งว่าข้อมูลได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่ใด ระบบการตรวจสอบข้อมูลมีเทคนิคพิเศษหลายประการ เช่น ข้อมูลทั้งหมดจะมีการประมวลผลทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง มีการเก็บประวัติการเปลี่ยนแปลง โดยเก็บทั้งผู้เปลี่ยนแปลงและตัวข้อมูล ตำแหน่งข้อมูล การเปลี่ยนแปลงข้อมูลเหล่านี้จะมีระบบตรวจสอบ การดักฟังข้อมูลอาจทำได้ แต่ข้อมูลที่ได้ไปจะไม่มีความหมายใด เพราะแปลข้อมูลไม่ได้ ข้อมูลที่ส่งจากตู้เอทีเอ็มผ่านเครือข่ายสายโทรศัพท์เข้าสู่คอมพิวเตอร์กลางมีการแปลงรหัสข้อมูล การถอดรหัสข้อมูลเหล่านี้ ปลายทางจะรู้เท่านั้น สูตรการเปลี่ยนแปลงรหัสข้อมูลจะถูกเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ผู้ดักฟังหรือผู้ที่พยายามจะอ่านข้อมูลจากฐานข้อมูลโดยตรงจึงไม่สามารถแปลข้อมูลได้ การแก้ไขข้อมูลจึงทำได้ยากขึ้น การใช้งานข้อมูลในยุคนี้ จึงต้องต่อสู้กับวิธีการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะนำมาใช้ อาชญากรรมทางด้านข้อมูลหรือการโจรกรรมข้อมูล ซึ่งในยุคต่อไปจะมีมากขึ้น ข้อมูลที่ส่งไปมาผ่านเครือข่ายโทรคมนาคมสาธารณะที่หลายคนนึกว่าปลอดภัย แต่ความเป็นจริงแล้วโอกาสของการดักฟังมีได้เสมอ ผู้ที่ใช้วิทยุโทรศัพท์มือถือพูดกันนั้น คลื่นแพร่กระจายเป็นคลื่นวิทยุ สามารถดักฟังได้โดยง่าย ผู้ที่ใช้เครือข่ายทางสายก็มีผู้แอบอัดเทปและนำมาเปิดเผยให้เห็นกันแล้ว ข้อมูลในระบบจึงต้องพัฒนาใช้เทคนิคหลาย ๆ อย่างพร้อมกันเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล