ปพ.
- 1. ปพ.
ปพ.1 คือ ระเบียนแสดงผลการเรียน ใช้แจกให้นักเรียนเมื่อนักเรียนเรียนจบแต่
ละช่วงชั้น หรือเมื่อนักเรียนย้ายโรงเรียน
ปพ.2 คือ ประกาศนียบัตร แจกให้เมื่อนักเรียนจบช่วงชั้นเท่านั้น
ปพ.3 คือ
แบบ รายงานผู้สาเร็จการศึกษา ให้โรงเรียนส่งสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาแ
ล้วเขต ส่งไปเก็บไว้ที่กระทรวงฯ
ปพ.4 คือ
แบบรายงาน ผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ออกให้เมื่อนักเรียนจบ
หลักสูตรแต่ละช่วงชั้น
ปพ.5 คือ ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน หรือ
เอกสารที่ครูทุกคนต้องทาในทุกรายวิชาที่สอน ทุกห้อง
ส่งเทอมละ 1 ครั้งเมื่อส่งเกรดนักเรียนที่ฝ่ายวิชาการ หากเป็นครูประถมฯ
ส่งทุกสิ้นปีการศึกษา
ปพ.6 คือ ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคล ครูประจา
ชั้นจะต้องออกให้นักเรียนในที่ปรึกษาของตนเองเทอมละ 1 ครั้งหรือปีละ 1 ครั้ง
แต่ปัจจุบันหากโรงเรียนใดใช้ โปรแกรมstudent2544 Version 2 Beta
4 เจ้าหน้าที่ GPA จะ print ให้ ครูประจาชั้นแค่ลงลายเซ็น แล้วเสนอให้
ผอ.ลงนาม และให้นักเรียน นาไปให้ผู้ปกครอง
รับทราบผลการเรียน เรียกง่ายๆว่า สมุดแจ้งเกรด ก็ได้
ปพ.7 คือ ใบรับรองผลการศึกษา โรงเรียนจะออกให้เมื่อนักเรียนมีความต้องกา
รใช้ เวลาใดๆก็ได้
- 2. หมายถึงเมื่อนักเรียนต้องการรับรองว่าตนเองเป็นนักเรียนโรงเรียนนั้นจริงๆ ห
รือ ใช้เป็นหลักฐานในการศึกษาต่อก่อนได้ปพ.1จริงๆ
ซึ่งปพ.1จะออกเมื่อ31 มีนาคม แต่ละปี
ปพ.8 คือ เอกสารระเบียนสะสม หมายถึง
เอกสารที่มีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการเรียน สุขภาพ ของนักเรียนทั้งหมด
หากรอกข้อมูลครบในโปรแกรมแล้ว จะprint ได้เลย
หรือซื้อจากร้านก็ได้ ใช้เมื่อนักเรียนย้าย
หรือเมื่อจบปีการศึกษาเพื่อให้ผู้ปกครองทราบเกี่ยวกับตัวนักเรียนทั้งหมด
ปพ.9 คือ สมุดบันทึกผลการเรียนรู้หมายถึง
สมุดที่ใช้ประกอบการย้ายโรงเรียน
เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าของการเรียนว่านักเรียนคนนี้เรียนแต่ละวิชาไปแล้ว
กี่จุดประสงค์ กี่หน่วยการเรียน ใช้เมื่อนักเรียนย้ายโรงเรียน
PISA
Programme for International Student Assessment หรือ PISA เป็น
โครงการประเมินผลการศึกษาของประเทศสมาชิก ที่ดาเนินการโดย
Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ
OECD
มีจุดประสงค์เพื่อสารวจระบบการศึกษาของนานาประเทศว่าได้เตรียมความพร้
อม สาหรับการใช้ชีวิตและการมีส่วนร่วมในสังคมในอนาคตเพียงพอหรือไม่
โดย PISA
เน้นการประเมินสมรรถนะของนักเรียนที่จะใช้ความรู้และทักษะเพื่อเผชิญกับโล
ก ในชีวิตจริงมากกว่าการเรียนรู้ตามหลักสูตรในโรงเรียน
โดยจัดให้มีการทดสอบสมรรถนะเด็กนักเรียนวัย 15 ปี
หรือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากทั่วโลก โดยเริ่มดาเนินโครงการ ตั้งแต่ ปี
2000 ในปีที่ผ่านมานักเรียนทั้งหมด 470,000 คน จากโรงเรียนต่างๆใน 65
ประเทศ เข้าร่วมการประเมินเชิงเปรียบเทียบนี้
- 3. โดยทุกประเทศจะใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน และมีการกาหนดพื้นที่
ขนาดโรงเรียนในการสอบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
โดยPISA มีการประเมินสมรรถนะที่เรียกว่า Literacy ใน 3 ด้านคือการอ่าน
(Reading Literacy) คณิตศาสตร์ (Mathematical Literacy) และวิทยาศาสตร์
(Scientific Literacy) ซึ่งจะวัดความรู้ทั้ง 3 ด้าน
แต่จะเน้นหนักในด้านใดด้านหนึ่งในการประเมินแต่ละระยะ
โดยแบ่งการประเมินเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 (Phase I: PISA 2000 PISA
2003 และ PISA 2006) และรอบที่ 2 (Phase II: PISA 2009 PISA 2012
และ PISA 2015) กล่าวคือ
การประเมินผลระยะที่ 1 (PISA 2000 และ PISA 2009) เน้นด้านการอ่าน
ให้น้าหนักข้อสอบด้านการอ่าน 60% และที่เหลือเป็นด้าน
คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์อย่างละ 20%
การประเมินผลระยะที่2 (PISA 2003 และ PISA 2012) เน้นด้านคณิตศาสตร์
ให้น้าหนักข้อสอบด้านคณิตศาสตร์ 60%
และด้านการอ่านและวิทยาศาสตร์อย่างละ 20%
การประเมินผลระยะที่ 3 (PISA 2006 และ PISA 2015) เน้นด้านวิทยาศาสตร์
ให้น้าหนักข้อสอบด้านวิทยาศาสตร์ 60%
และด้านการอ่านและคณิตศาสตร์อย่างละ 20%
ในแต่ละทักษะ ไม่ได้เน้นเรื่องของการการอ่านออกเขียนได้ การคิดเลขเป็น แต่
สิ่งที่ PISA เน้นคือความสามารถในการคิดวิเคราะห์
ความเข้าใจในเนื้อหาสาระของโจทย์ที่ซับซ้อนได้
ผลการสอบล่าสุด
เด็กนักเรียนเซี่ยงไฮ้ของจีนเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาดีที่สุดในโลก ตามด้วยเกาหลี
ฮ่องกง-จีน จีนไทเป ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ที่ล้วนมีคะแนนอยู่ในกลุ่ม 5 หรือ 10
ประเทศแรก ทุกวิชา ส่วนนักเรียนไทย
แสดงผลการประเมินต่ากว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติทุกวิชา
และมีแนวโน้มลดต่าลงทุกวิชาเมื่อเทียบกับการประเมินครั้งแรก (PISA 2000)
- 4. การสอบ LAS (Local Assessment System)
LAS คือ การประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับเขตพื้นที่
สาหรับนักเรียนระดับชั้น ป.1,ป.2, ป.4,ป.5, ม.2 และ
ม.5 ของทุกโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเดิมมีการกาหนดรายวิชาในการ
ทดสอบ ในแต่ละระดับ 5 รายวิชา คือ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
สังคมฯ วิทยาศาสตร์
แต่ปัจจุบันจะมีการทดสอบให้ ครบทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชา ได้แก่ สังคมศึกษา,
คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, วิทยาศาสตร์, สุขศึกษาและพลศึกษา,
ศิลปะ, และการงานอาชีพเทคโนโลยี
NT (National Test)
NT (National Test) คือ
การสอบประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภ
าพผู้เรียน ตรวจสอบกากับดูแล และพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน
ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
กระทรวงศึกษาธิการ สอบ ป.3 โดยประเมินใน 5 รายวิชา ได้แก่
- คณิตศาสตร์
- วิทยาศาสตร์
- ภาษาไทย
- ภาษาอังกฤษ
- สังคมศึกษา
O-NET (Ordinary National Education Test)
O-NET คืออะไร ? O-NET คือ การทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน
ซึ่งในภาษาฝรั่งก็คือ Ordinary National Education Test ที่จัดสอบโดย สทศ.
ชื่อเต็มๆ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ
- 5. ในชื่อภาษาอังกฤษ National Institute of Educational Testing Service
ตัวย่อ NIETS
ซึ่งการสอบ O-NET
นี้จะใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดต่างๆให้เป็นมาตรฐาน
เดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งก็จะใช้วัดความรู้และความคิดของนักเรียนในระดับ ป.6
ม.3 และ ม.6 โดย ที่ข้อสอบจะประกอบไปด้วยเนื้อหา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
ได้แก่
1. ภาษาไทย
2. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
3. ภาษาอังกฤษ
4. คณิตศาสตร์
5. วิทยาศาสตร์
6. สุขศึกษาและพลศึกษา
7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี
8. ศิลปะ
และนอกจาก O-NET จะใช้เป็นตัววัดระดับการศึกษาของเด็กไทยแล้ว
ยังเป็นคะแนนที่น้องๆระดับชั้นต่างๆต้องนาไปใช้ในการสมัครเข้าเรียนระดับชั้
นต่อไปด้วย ก็คือ น้องๆชั้น ป.6 และ ม.3 ต้องใช้คะแนน O-NET
สมัครเข้าเรียน ม.1 และ ม. 4 โดยให้น้าหนัก 20%
(โดยจะมีผลตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นไป) และสาหรับน้อง ม.6
ใช้คะแนน O-NET ในการสมัคร Admission 30%