More Related Content
Similar to ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Similar to ความหมายและความสำคัญของโครงงาน (20)
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
- 1. 1. กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ทาการศึกษาค้นคว้า
และฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง ตามความสามารถ ความถนัด และความ
สนใจ
2. อาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการ
อื่นๆไปใช้ในการศึกษาหาคาตอบ
3. ครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียน
ตั้งแต่การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดาเนินงานตามแผน
กา หนดข้นัตอนการดา เนินงานและการนาเสนอ
- 2. เทคโนโลยี (Technology ) หมายถึง วิทยาการที่นาเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติ และอุตสาหกรรม
สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว
จนได้ ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้สามารถนา ไปใช้ประโยชน์ได้ตาม
ความต้องการ
เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology : IT )
หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้าง
รายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ รวมถึงเทคโนโลยีที่ทา ให้เกิดระบบการให้
บริการการใช้และการดูแลข้อมูล
- 4. 1.คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจทา
อาจไดจ้ากปัญหา คา ถามหรอความสนใจในเรื่องนั้นๆ การสังเกต
สิ่งต่างๆรอบตัว การอ่าน คน้ควา้การเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ การฟังบรรยาย
รายการวิทยุโทรทัศน์สนทนา อภิปราย กิจกรรมการเรียนการสอน งานอดิเรก
การเขา้ชมนิทรรศการ หรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอรแ์ต่ควรพจิารณา
องค์ประกอบสา คัญดังนี้ตอ้งมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวขอ้
เรื่องที่ทา โครงงาน สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวขอ้ง
ไดมี้แหล่งความรู้เพียงพอที่จะคน้ควา้หรือขอคา ปรึกษา มีเวลา/งบประมาณ
เพียงพอมีความปลอดภัย
- 5. 2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
รวมถึงจากการขอคา ปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่จะช่วยให้ได้แนวคิดในการกา หนดขอบเขต
ของเรื่อง รวมทั้งความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่ทา จนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนการดา เนินงานได้อย่าง
เหมาะสม โดยผู้เรียนควรบันทึกสาระสา คัญไว้ด้วยนอกจากนี้อาจศึกษาจากผลงานรุ่นพี่ จากเว็บไซต์เพื่อ
ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์รวมทั้งศึกษาพัฒนาจนเกิดเป็นแนวคิดใหม่ๆประเด็นที่ต้องพิจารณา ดังต่อไปนี้
- มูลเหตุจูงใจและเป้าหมายในการทา โครงงาน
- วัสดุอุปกรณ์ต่างๆซึ่งรวมถึงเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้
- ความต้องการของผู้ใช้งาน
- กลุ่มที่ทดลองใช้ และวิธีประเมินผล
- วิธีการพัฒนาโครงงานอย่างไร
- ข้อสรุปของโครงงาน
- ความแปลกใหม่ความคิดสร้างสรรค์
- แนวทางในการปรับปรุง หรือการขยายการทดลองจากงานเดิม
- 6. 3. จัดทา เค้าโครงของโครงงานที่จะทา
จา เป็นตอ้งกา หนดกรอบแนวคิดและวางแผนการพัฒนาล่วงหน้า
เพื่อคาดการณ์ความเป็นไปไดข้องโครงงาน ขนั้ตอนที่สา คัญ คือ
- ศึกษาคน้ควา้เอกสาร แหล่งขอ้มูลนามารวบรวม
- วิเคราะห์ขอ้มูลเพื่อกา หนดขอบเขตและลักษณะของโครงงาน
- ออกแบบพัฒนา
- เสนอเคา้โครงของโครงงานต่ออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อขอคา แนะนาและ
ปรับปรุงแกไ้ข
- 8. 5. การเขียนรายงาน
รายละเอียดของการเขียนรายงาน เป็นการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่น
เข้าใจแนวคิด วิธีดา เนินการศึกษาค้นคว้าข้อมูล ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะ
ต่างๆเกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนควรใช้ ภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย ชัดเจน
กระชับครอบคลุมหัวข้อต่างๆ
- 10. ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
1. กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษา
ปัญหาที่ตนสนใจ
2. อาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ ทางคอมพิวเตอร์
ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน
3. อาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งนักเรียน
จะต้องคิดออกแบบสร้างขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อใช้งานได้ตรงกับความ
ต้องการ4. การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและ
ให้คาปรึกษาของครูในสาขาวิชาคอมพิวเตอร์หรือต่างสาขาวิชา
รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ด้วย
- 11. 1. เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ และ/หรือ ฮาร์ดแวร์
2. ผู้เรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษา ค้นคว้า พัฒนา ด้วย
ตนเองตามความสนใจและระดับความรู้ความสามารถ
3. ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนการพัฒนา
เก็บรวบรวมข้อมูล หรือประดิษฐ์คิดค้น รวมทั้งการสรุปผล และการเสนอ
ผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
- 12. 1. ทา ให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทา งาน ประสานงาน การวางแผนการทา งาน
2. ทา ให้กล้าคิด กล้าแสดงออก ต่อที่ประชุมชนมากขึ้น
3. ทา ให้รู้จักหน้าที่ และมีความรับผิดชอบมากขึ้น
4. ทา ให้รู้จักการทา งานร่วมกันเป็นหมู่คณะ
5. ทา ให้รู้จักการเป็นผู้นา และผู้ตามที่ดี
6. ทา ให้เกิดการพัฒนาความคิด และรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
7. ทา ให้รู้จักการแบ่งเวลา และการตรงต่อเวลา
8. ทา ให้รู้จักการแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
9. ทา ให้รู้วิธีการทา งานต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการทา งาน
- 15. 1. สารานุกรมไทยฉบับมัลติมีเดีย
2. สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
3. พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
4. โปรแกรมช่วยสอนการถ่ายภาพ
5. 76 จังหวัดของไทย
6. คอมพิวเตอร์สอนพิมพ์ดีด
7.. ยาไทยและยาจีน
8. สูตรขนมไทยอร่อยทัว่โลก
- 20. 1. โปรแกรมการค้นหาคา ภาษาไทย
2. โปรแกรมอ่านอักษรไทย
3. โปรแกรมวาดภาพสามมิติ
4. โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล
5. โปรแกรมบีบอัดข้อมูล
6. โปรแกรมการออกแบบผังงาน
7. พอร์ตแบบขนานของไทย
8. การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- 24. 1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3. การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา
4. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
5. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
6. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
7. การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้มข้อมูล
8. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
9. โปรแกรมจาลองการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
- 29. 1. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
2. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
3. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
4. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง
5. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง
6. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
7. โฮมเพจส่วนบุคคล
8. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
9. โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
- 34. 1. เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี
2. เกมอักษรเขาวงกต
3. เกมเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
4. เกมผจญภัยกับภาษาอังกฤษ
5. เกมบวกลบเลขแสนสนุก
6. เกมอักษรไขว้
7. เกมศึกรามเกียรต์ิ
8. เกมมวยไทย
- 35. การตัดสินใจเลือกหัวข้อที่มาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
1. นักเรียนเป็นผู้เลือกศึกษาค้นคว้าตาม ความถนัด และ คา นึงความพร้อม
ความสนใจ ความสามารถความรู้ ของตนเองหรือของกลุ่ม
2. เลือกโครงงานที่มีคุณค่าและเป็นปัญหาใหม่ๆ
3. คา นึงถึงความปลอดภัย เวลา งบประมาณ และกา ลังของตน
4. สามารถวางแผนการดาเนินการตามข้นัตอนไว้ล่วงหน้า
เห็นลู่ทางที่จะทา ได้สา เร็จ
5. มีความต้งัใจที่จะทา โครงงานให้ประสบผลสา เร็จ ได้ผลงานที่นา ไปใช้ได้จริง
6. เป็นเรื่องที่มีอยู่จริงและเป็นไปได้ มีคุณค่าต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
7. สามารถนา ความรู้และทักษะที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการทา กิจกรรมอื่นๆ
- 36. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคา ปรึกษา
จากผู้ทรงคุณวุฒิจะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกา หนดขอบเขต
ของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติม
ในเรื่องที่จะศึกษา จนสามารถใช้ ออกแบบ และ วางแผนดา เนินการในการ
ทา โครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คา ตอบว่า
1. จะทา อะไร
2. ทา ไมต้องทา
3. ต้องการให้เกิดอะไร
4. ทา อย่างไร
5. ใช้ทรัพยากรอะไร
6. ทา กับใคร
7. เสนอผลอย่างไร