More Related Content
Similar to รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาหนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุ
Similar to รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาหนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุ (20)
More from chaiwat vichianchai
More from chaiwat vichianchai (20)
รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาหนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุ
- 1. รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาหนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 เรื่อง ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
ที่มา : http://youtu.be/9rtRUWdo5-c
จัดทาโดย
1.นางสาว ขวัญทิพย์ แคนสี เลขที่ 22 ชั้น ม.6/1
2.นางสาวอันนา พงษ์จุมพล เลขที่ 28 ชั้น ม.6/1
3.นายสุทธิเกียรติ โคตรชมภู เลขที่ 8 ชั้น ม.6/1
4.นายธีรภัทร โยไทยเคลื่อน เลขที่ 1 ชั้น ม.6/1
5.นายรัฐพล ญาติพร้อม เลขที่ 3 ชั้น ม.6/1
6.นายอัมรินทร์ ทานา เลขที่ 6 ชั้น ม.6/1
นาเสนอ
คุณครูไชยวัฒน์ วิเชียรไชย
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา
วิชา โครงงานคอมพิวเตอร์ (ง33201)
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)
โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ ตาบลดงบัง อาเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
- 2. หัวข้อโครงงาน : การพัฒนาหนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์ ด้วย
โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 เรื่อง ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
ประเภทของโครงงาน : โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
ผู้เสนอโครงงาน
1.นางสาว ขวัญทิพย์ แคนสี เลขที่ 22 ชั้น ม.6/1
2.นางสาวอันนา พงษ์จุมพล เลขที่ 28 ชั้น ม.6/1
3.นายสุทธิเกียรติ โคตรชมภู เลขที่ 8 ชั้น ม.6/1
4.นายธีรภัทร โยไทยเคลื่อน เลขที่ 1 ชั้น ม.6/1
5.นายรัฐพล ญาติพร้อม เลขที่ 3 ชั้น ม.6/1
6.นายอัมรินทร์ ทานา เลขที่ 6 ชั้น ม.6/1
ครูที่ปรึกษาโครงงาน : นายไชยวัฒน์ วิเชียรไชย ตาแหน่ง ครูผู้ช่วย
ปีการศึกษา : 2556
- 3. ก
บทคัดย่อ
โครงงาน การพัฒนา ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือน
ไทยควรอนุรักษ์นี้ ผู้จัดทาได้เริ่มดาเนินงานตามขั้นตอนการดาเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว จากนั้น
ได้ส่งหนังสั้นที่ทาเสร็จให้คุณครูที่ปรึกษาตรวจสอบเพื่อความถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย ตรงตาม
จรรยบรรณของ พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จากนั้นคุณครูที่ปรึกษาก็จะนาผลงานหนังสั้นนาเสนอ
เผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นาเผยแพร่ที่เว็บไซต์
http://www.youtube.com ของคุณครูที่ปรึกษาโครงงานคอมพิวเตอร์และได้ทาการลิงค์มาเผยแพร่
ผลงานหนังสั้นผ่านเว็บบล็อก http:// chaiwat31.wordpress.com (ชื่อ webblog ของคุณครูที่
ปรึกษา) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ Facebook
ของผู้จัดทาที่ https://www.facebook.com/groups/293689347432096/ทั้งนี้เว็บ
http://www.youtube.comและ เว็บบล็อก http:// chaiwat31.wordpress.com ดังกล่าว
สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้
เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนาเสนออย่าง
หลากหลาย ซึ่งทาให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
- 4. ข
กิตติกรรมประกาศ
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ฉบับนี้ สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความเมตตาช่วยเหลือ
อย่างดียิ่งจากครูไชยวัฒน์ วิเชียรไชย ครูผู้สอนวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ (ง33201)ที่อนุมัติเห็นชอบ
ในการจัดทาโครงงานและให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาหนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควร
อนุรักษ์ ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 เรื่อง ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาในด้านวิชาการและการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอขอบพระคุณคณะครูโรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ทุกท่านที่มีส่วนช่วย
สนับสนุนให้การเรียนรู้ประสบผลสาเร็จ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่มีส่วนช่วยแนะนาการทาโครงงาน
คอมพิวเตอร์ การใช้อินเทอร์เน็ต และการช่วยเข้ามาคลิก “LIKE” ในกล่องแสดงความคิดเห็น
ขอบคุณกาลังใจดีๆ จาก “เพื่อนในกลุ่มเฟซบุ๊คโครงงานคอมพิวเตอร์ ม.ปลาย ครูไชยวัฒน์” ความดี
อันเกิดจากการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ ผู้จัดทาโครงงานขอมอบแด่บิดา มารดา ครูอาจารย์และผู้มี
พระคุณทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยผลักดันและเป็นกาลังใจ ซึ่งผู้จัดทาซาบซึ้งในความกรุณาอันยิ่งใหญ่จาก
ท่าน และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
ผู้เสนอโครงงาน
1.นางสาว ขวัญทิพย์ แคนสี เลขที่ 22 ชั้น ม.6/1
2.นางสาวอันนา พงษ์จุมพล เลขที่ 28 ชั้น ม.6/1
3.นายสุทธิเกียรติ โคตรชมภู เลขที่ 8 ชั้น ม.6/1
4.นายธีรภัทร โยไทยเคลื่อน เลขที่ 1 ชั้น ม.6/1
5.นายรัฐพล ญาติพร้อม เลขที่ 3 ชั้น ม.6/1
6.นายอัมรินทร์ ทานา เลขที่ 6 ชั้น ม.6/1
- 5. ค
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อ ก
กิตติกรรมประกาศ ข
สารบัญ ค
บทที่ 1 บทนา
1.1 แนวคิด ที่มา และความสาคัญ 1
1.2 วัตถุประสงค์ 1
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 2
1.4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.1 ความสาคัญและความหมายของหนังสั้น 3
2.2 ประเภทของหนังสั้น 4
2.3 ข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 4-5
บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงงาน
3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา 6
3.2 ขั้นตอนการดาเนินงาน 6
บทที่ 4 ผลการดาเนินงานโครงงาน
4.1 ผลการพัฒนาหนังสั้น 7
4.2 ตัวอย่างการนาเสนอหนังสั้นผ่านเว็บไซต์ YouTube และเว็บบล็อก 8-14
บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน และข้อเสนอแนะ
5.1 การดาเนินงานจัดทาโครงงาน 15
5.2 สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน 15-16
5.3 ข้อเสนอแนะ 16
บรรณานุกรม 17
ภาคผนวก 18-28
- 6. 1
บทที่ 1
บทนา
1.1 แนวคิด ที่มา และความสาคัญ
ปัจจุบันนี้สังคมเราได้มีการประยุกต์ นาเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจาวันเกือบจะทุกเรื่อง
ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นในด้านการศึกษา การงาน การรับข่าวสาร ซึ่งถือว่าเป็นการ
วิวัฒนาการในด้านบวกของเทคโนโลยีที่มนุษย์เราสามารถคิดค้นและพัฒนาจนสามารถนามาใช้อานวย
ความสะดวกให้กับมนุษย์เราได้ทั่วทุกมุมโลก และเทคโนโลยีปัจจุบันที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก
เป็นอันดับต้นๆเลยก็คือการใช้โปรแกรมตัดต่อ ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อภาพ วิดีโอ เพลง หนังสั้น
ภาพยนตร์ โดยเฉพาะการตัดต่อหนังสั้นซึ่งเราสามารถเห็นได้ในหลายรูปแบบและยังมีความสาคัญใน
การดาเนินชีวิตอย่างมากและเป็นสื่อที่ครอบคลุมและมีอิทธิพลต่อมนุษย์ทั้งในด้านดีและไม่ดีอีกด้วย
ดังนั้น กลุ่มของพวกเราจึงไดจัดทาโครงงานเรื่องการตัดต่อภาพยนตร์สั้นขึ้นเพื่อที่จะได้เป็นการพัฒนา
ศักยภาพในการตัดต่อ จัดทาผลงานที่มีคุณภาพขึ้นมาประดับโลกไอทีขึ้นอีกหนึ่งชิ้น และมีความ
ชานาญในการใช้เทคนิคการตัดต่อวดีโอไปประยุกต์ใช้ในอนาคต ทั้งใช้ในการเรียนต่อในระดับ
มหาวิทยาลัย การทางาน หรือบางคนก็นาความสามารถตรงนี้ไปประกอบเป็นอาชีพ ซึ่งเป็นประโยชน์
ทั้งต่อตัวเราและผู้อื่นเป็นอย่างมาก นั้นเป็นความสนใจส่วนตัวที่อยากจะศึกษาเรื่องราวประวัติความ
เป็นมาของบ้านเรือนไทยซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นมาโดยมีผู้เชี่ยวชาญได้มาให้ความรู้ในการทา
หนังสั้น
ดังนั้น ผู้จัดทาจึงได้มีความคิดที่จะนาเอารูปแบบ การสร้างหนังสั้น ด้วยโปรแกรม Adobe
Premiere Pro CS3 มาใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควร
อนุรักษ์เผยแพร่ความรู้ดังกล่าวสู่ผู้สนใจต่อไป
1.2 วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาและพัฒนาหนังสั้น ด้วย โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 เรื่อง ภูมิ
ปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
2. เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์ เผยแพร่
ความรู้ดังกล่าวสู่ผู้สนใจต่อไป
3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของหนังสั้น และพัฒนาศักยภาพของสมาชิกในกลุ่ม
ให้มีความชานาญ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมได้
4. เพื่อเป็นการสร้างบุคลากรที่มีความสามารถในด้านโปรแกรมให้แก่สังคมไทย
- 7. 2
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1. จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาหนังสั้น ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro
CS3 เรื่อง ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่
2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์
2.2 โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3
2.3 ไมโครโฟน
2.4 กล้องถ่ายภาพ
1.4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. มีความรู้เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ หนังสั้น ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควร
อนุรักษ์
2. สามารถสร้างวิดีโอที่เป็นหนังสั้น มิวสิคเพลงและสารคดีต่างๆ ที่เป็นผลงานของเราเองได้
คือ หนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
3. มีความชานาญในการตัดต่อวิดีโอ มีการพัฒนาศักยภาพในการใช้โปรแกรมตัดต่อได้ดีขึ้น
4. มีบุคลากรหรือบุคคลที่มีความสามารถในการทางานด้านโปรแกรมตัดต่อเพิ่มขึ้น
- 8. 3
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนา หนังสั้นเกี่ยวกับภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทย
ควรอนุรักษ์ ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 เรื่อง ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควร
อนุรักษ์ ผู้จัดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
2.1 ความสาคัญและความหมายของหนังสั้น
หนังสั้น คือ หนังยาวที่สั้น ก็คือการเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียงที่มีประเด็นเดียวสั้น ๆ แต่ได้ใจความ
ศิลปะการเล่าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนิทาน นิยาย ละคร หรือภาพยนตร์ ล้วนแล้วแต่มีรากฐานแบบ
เดียวกัน นั่นคือ การเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นของมนุษย์หรือสัตว์ หรือแม้แต่อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นช่วงเวลา
หนึ่งเวลาใด ณ สถานที่ใดที่หนึ่งเสมอ ฉะนั้น องค์ประกอบที่สาคัญที่ขาดไม่ได้คือ ตัวละคร สถานที่
และเวลา
สิ่งที่สาคัญในการเขียนบทหนังสั้นก็คือ การเริ่มค้นหาวัตถุดิบหรือแรงบันดาลใจให้ได้ ว่าเราอยากจะ
พูด จะนาเสนอเรื่องเกี่ยวกับอะไร ตัวเราเองมีแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อย่างไร ซึ่งแรงบันดาล
ใจในการเขียนบทที่เราสามารถนามาใช้ได้ก็คือ ตัวละคร แนวความคิด และเหตุการณ์ และควรจะมอง
หาวัตถุดิบในการสร้างเรื่องให้แคบอยู่ในสิ่งที่เรารู้สึก รู้จริง เพราะคนทาหนังสั้นส่วนใหญ่ มักจะทา
เรื่องที่ไกลตัวหรือไม่ก็ไกลเกินไปจนทาให้เราไม่สามารถจากัดขอบเขตได้
เมื่อเราได้เรื่องที่จะเขียนแล้วเราก็ต้องนาเรื่องราวที่ได้มาเขียน Plot (โครงเรื่อง) ว่าใคร ทาอะไร กับ
ใคร อย่างไร ที่ไหน เมื่อไร เพราะอะไร และได้ผลลัพธ์อย่างไร ซึ่งสิ่งที่สาคัญที่สุดก็คือ ข้อมูล หรือ
วัตถุดิบที่เรามีอยู่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนว่ามีแนวคิดมุมมองต่อชีวิตคนอย่างไร
เพราะความเข้าใจในมนุษย์ ยิ่งเราเข้าใจมากเท่าไร เราก็ยิ่งทาหนังได้ลึกมากขึ้นเท่านั้น
และเมื่อเราได้เรื่อง ได้โครงเรื่องมาเรียบร้อยแล้ว เราก็นามาเป็นรายละเอียดของฉาก ว่ามีกี่ฉากในแต่
ละฉากมีรายละเอียดอะไรบ้าง เช่นมีใคร ทาอะไร ที่ไหน เมื่อไร ไปเรื่อย ๆ จนจบเรื่อง ซึ่งความจริง
แล้วขั้นตอนการเขียนบทไม่ได้มีอะไรยุ่งยากมากมาย เพราะมีการกาหนดเป็นแบบแผนไว้อยู่แล้ว แต่
สิ่งที่ยาก มาก ๆ ก็คือกระบวนการคิด ว่าคิดอย่างไรให้ลึกซึ้ง คิดอย่างไรให้สมเหตุสมผล ซึ่งวิธีคิด
เหล่านี้ไม่มีใครสอนกันได้ทุกคน ต้องค้นหาวิธีลองผิดลองถูก จนกระทั่ง ค้นพบวิธีคิดของตัวเอง
- 9. 4
2.2 ประเภทของหนั้งสั้น
หนังที่มีความยาวไม่เกิน 30 นาที ทั้งที่ใช้ในการเเสดงสดเเละเทคนิคอนิเมชั่น จัดเป็นหนังสั้น
เเบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
1. หนังอนิเมชั่นหรือหนังการ์ตูน เป็นส่วนหนึ่งของทัศน์ศิลปะ หลักสาคัญของการผลิต
หนังอนิ-เมชั่นคล้ายคลึงกับหนังที่เเสดงสด เเต่เเทนที่จะใช้คนเเสดงกลับใช้การเขียนภาพ เเละใช้วัตถุ
ต่างๆ สร้างให้เกิดการเคลื่อนไหว เช่น ดินน้ามัน หุ่น คัท-เอาท์ หรือการเเสดงสดที่ใช้เทคนิคการถ่าย
ทาต่างๆ ปัจจุบันการถ่ายทาหนังอนิเมชั่นมีการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทันสมัยเข้ามาช่วยในการ
เขียนภาพ สร้างภาพเคลื่อนไหว การทาภาพพิเศษต่างๆตลอดจนใช้การลาดับภาพตัดต่อเเละใส่เสียง
จึงทาให้เกิดกระบวนการผลิตหนังอนิเมชั่นง่ายขึ้น
2. หนังทดลอง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เเต่งขึ้น เช่น อาจเป็นเรื่องเดียวกับเเนววิทยาศาสตร์
โลกเเห่งจินตนาการ อวกาศ พัฒนาการทางวิทยาศาตร์สู่ความเป็นจริง เเนวเเฟนซี ทางจิต เเนวตลก
ล้อเลียน เเนวบันทึกความทรงจา เป็นเรื่องเกี่ยวกับความทรงจาของใครบางคนในเเง่มุมต่างๆ
3. หนังโฆษณา เป็นหนังที่สั้นมากโยทั่วไปมีความยาวเพียง 15 วินาที หรือ 30 วินาที เเต่ให้
พลังมหาศาลกับคนดู
4. มิวสิควีดีโอ เป็นหนังสั้น เเต่ใช้เพลง ดนตรี เเละทานองเป็นพลัง ไม่เน้นเนื้อเรื่องเเต่ใช้
ภาพ เป็นเพียงส่วนประกอบเติมเเต่งให้กับเพลงเเละดนตรี ทั้งหนังโฆษนาเเละมิวสิควีดีโอมัก
เป็นที่ฝึกฝนประสบการณ์ของผู้กากับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงมาเเล้วหลายราย
2.3 ข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3
โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อ ภาพและ วิดิโอ
การตัดต่อ หมายถึง การเปลี่ยนภาพและเสียงจากหนึ่งช็อต (Shot) ไปยังช็อต่อไปโดยให้มีความ
ต่อเนื่องและเรียงล้าดับเรื่องราว ไม่มีการกระโดดหรืออิริยาบถซ้าซ้อนกัน โดยรักษาคุณภาพของภาพ
และเสียงให้กลมกลืนกันโดยตลอด ความสาคัญของการตัดต่อวิดีโอ1. ช่วยเชื่อมต่อภาพ ในการถ่าย
วิดีโอนั้นไม่นิยมแช่กล้องจับภาพหรือฉากใดนิ่งนานๆ เพราะจะท้าให้ผู้ชมเบื่อหน่าย ดังนั้นจึงมีการถ่าย
เป็นช็อตสั้นๆ จับภาพในมุมต่างๆ กัน ถ้าเป็นการถ่ายท้าด้วยกล้องเดียวก็จะต้องน้าภาพทั้งหมด
เหล่านั้นมาเรียงล้าดับเข้าด้วยกันให้ถูกต้องตามเรื่องราวหรือตามบทวีดิโอ
2. ช่วยแก้ไขส่วนบกพร่อง ในการถ่ายวิดีโอบางครั้งมีการระมัดระวังและพิจารณากันอย่างรอบคอบ
แล้วก็ตาม ยังมักจะพบข้อบกพร่องอยู่เสมอ การตัดต่อสามารถช่วยได้โดยการตัดภาพที่ไม่ต้องการ
- 10. 5
ออกไปหรือแทรกภาพที่ดีเข้าไปแทนที่ หรือต้องการแต่ภาพที่ไม่ต้องการเสียงที่มากับภาพนั้นก็
สามารถเอาออกไปได้
3. ช่วยการจัดเวลา ในการถ่ายวิดีโอรายการต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นรายการสาหรับออกอากาศนั้น
เวลาเป็นเรื่องสาคัญมากจ้าเป็นที่จะต้องถ่ายให้ได้เวลาตามที่กาหนด แม้ว่าจะถ่ายภาพที่ดีๆ สวยๆ
และมีประโยชน์กับเรื่องที่จะเสนอมากเพียงไร ก็จ้าเป็นจะต้องเลือกภาพนั้นมาตัดต่อให้ได้ความยาว
พอเหมาะกับเวลาที่กาหนดเท่านั้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตัดต่อล้าดับภาพก็จะต้องใช้กระบวนการตัดต่อนี้
ปรับแต่งตัดภาพส่วนเกินออกไป หรือแทรกบางภาพเพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้เวลาที่พอดี
4. ช่วยสร้างเรื่องราวอย่างต่อเนื่อง การล้าดับภาพเป็นการน้าภาพแต่ละฉากแต่ละตอนมาเชื่อมต่อเข้า
ด้วยกัน ถ้าเป็นการต่อเชื่อมภาพอย่างมีศิลปะด้วยความคิดสร้างสรรค์ ผู้ชมจะรู้สึกต่อเนื่องในเรื่องราว
ที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นล้าดับนั้น ให้รายละเอียดมากพอเท่าที่ผู้ชมอยากจะรู้ ให้ความรู้สึกและอารมณ์
ตามที่ควรจะเป็น ทั้งนี้หมายถึงว่าในขั้นตอนการถ่ายท้านั้นต้องได้ภาพที่ดี มีรายละเอียดเพียงพอ มีทั้ง
ภาพขนาดไกล ขนาดกลาง ภาพถ่ายใกล้และภาพหลายๆ มุมของแต่ละฉากแต่ละตอน เจ้าหน้าที่ตัด
ต่อจึงจะสามารถเลือกภาพมาตัดต่อได้ตามต้องการ
ที่มา :
- ความหมายของการตัดต่อวิดีโอ
www.se-ed.com
- ความหมายของหนังสั้น และประเภทของหนังสั้น
www.thaigoodview.com
iloveshotfilm.blogspot.com
- ความหมายของโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3
www.learners.in.th
www.prcdd.cdd.go.th/knowledge
- 11. 6
บทที่ 3
วิธีดาเนินงานโครงงาน
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนา หนังสั้นภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควร
อนุรักษ์ ด้วย โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 นี้ ผู้จัดทาโครงงานมีวิธีดาเนินงานโครงงาน
ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
1. จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาหนังสั้น ด้วย โปรแกรม Adobe
Premiere Pro CS3 เรื่อง ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่
2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์
2.2 โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3
2.3 ไมโครโฟน
2.4 กล้องถ่ายภาพ
3.2 ขั้นตอนการดาเนินงาน
ที่ ขั้นตอนการดาเนินงาน
ระยะเวลาดาเนินงาน
เดือนมิถุนายน เดือนกรกฎาคม
สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่
1 2 3 4 1 2 3 4 5
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างเพื่อนาเสนอ
4 ปฏิบัติการจัดทาโครงงาน
5
นาเสนอรายงานความก้าวหน้า
ของโครงงานครั้งที่ 1
6
นาเสนอรายงานความก้าวหน้า
ของโครงงานครั้งที่ 2
7 ปรับปรุง ทดสอบ
8 จัดทาเอกสารรายงานโครงงาน
9 ประเมินผลงาน
10 นาเสนอโครงงานผ่านเว็บ blog
- 12. 7
บทที่ 4
ผลการดาเนินงานโครงงาน
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ด้วย โปรแกรม Adobe
Premiere Pro CS3 และค้นคว้าเรื่องที่สนใจภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์ผู้จัดทา
โครงงานสามารถนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถ
ติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลการดาเนินงานโครงงาน ดังนี้
4.1 ผลการพัฒนาหนังสั้น
การพัฒนา ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3 ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควร
อนุรักษ์นี้ ผู้จัดทาได้เริ่มดาเนินงานตามขั้นตอนการดาเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว จากนั้นได้ส่งหนัง
สั้นที่ทาเสร็จให้คุณครูที่ปรึกษาตรวจสอบเพื่อความถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย ตรงตามจรรย
บรรณของ พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จากนั้นคุณครูที่ปรึกษาก็จะนาผลงานหนังสั้นนาเสนอ
เผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นาเผยแพร่ที่เว็บไซต์
http://www.youtube.com ของคุณครูที่ปรึกษาโครงงานคอมพิวเตอร์และได้ทาการลิงค์มาเผยแพร่
ผลงานหนังสั้นผ่านเว็บบล็อก http:// chaiwat31.wordpress.com (ชื่อ webblog ของคุณครูที่
ปรึกษา) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ Facebook
ของผู้จัดทาที่ https://www.facebook.com/groups/293689347432096/ทั้งนี้เว็บ
http://www.youtube.comและ เว็บบล็อก http:// chaiwat31.wordpress.com ดังกล่าว
สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้
เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนาเสนออย่าง
หลากหลาย ซึ่งทาให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
- 20. 15
บทที่ 5
สรุปผลการดาเนินงาน และข้อเสนอแนะ
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์ ด้วย
โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3นี้ สามารถสรุปผลการดาเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้
5.1 การดาเนินงานจัดทาโครงงาน
5.1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
5.1.1.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาหนังสั้น ด้วย ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์
5.1.1.2 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ ภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควร
อนุรักษ์ 5.1.1.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของหนังสั้น และพัฒนาศักยภาพของ
สมาชิกในกลุ่มให้มีความชานาญ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมได้
5.1.1.4 เพื่อเป็นการสร้างบุคลากรที่มีความสามารถในด้านโปรแกรมให้แก่
สังคมไทย
5.2.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
5.2.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์
5.2.1.2 โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS3
5.2.1.3 ไมโครโฟน
5.2.2.4 กล้องถ่ายภาพ
5.2 สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน
การพัฒนาภูมิปัญญาไทยบ้านเรือนไทยควรอนุรักษ์ ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro
CS3 นี้ ผู้จัดทาได้เริ่มดาเนินงานตามขั้นตอนการดาเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว จากนั้นได้ส่งหนัง
สั้นที่ทาเสร็จให้คุณครูที่ปรึกษาตรวจสอบเพื่อความถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย ตรงตามจรรย
บรรณของ พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จากนั้นคุณครูที่ปรึกษาก็จะนาผลงานหนังสั้นนาเสนอ
เผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นาเผยแพร่ที่เว็บไซต์
http://www.youtube.com ของคุณครูที่ปรึกษาโครงงานคอมพิวเตอร์และได้ทาการลิงค์มาเผยแพร่
ผลงานหนังสั้นผ่านเว็บบล็อก http:// chaiwat31.wordpress.com (ชื่อ webblog ของคุณครูที่
ปรึกษา) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ Facebook
ของผู้จัดทาที่ชื่อ https://www.facebook.com/groups/293689347432096/ทั้งนี้เว็บ
- 21. 16
http://www.youtube.comและ เว็บบล็อก http:// chaiwat31.wordpress.com ดังกล่าว
สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้
เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนาเสนออย่าง
หลากหลาย ซึ่งทาให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
5.3 ข้อเสนอแนะ
5.3.1 ข้อเสนอแนะทั่วไป
จากการศึกษาโครงงานสามารถเรียนรู้การตัดต่อวิดีโอและมีความสามารถในการตัดต่อ
ภาพยนตร์สั้นได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างผลงานภาพยนตร์สั้นออกมาให้เป็นข้อคิดที่ดีแก่สังคมไทย
ได้
5.3.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
5.3.2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทาโครงงาน และบางครั้งอินเทอร์เน็ต
มีปัญหา เข้าพร้อมกันก็จะทาให้ช้า
5.3.2.2 เพื่อนนักเรียนบางคนเรียนรู้การพัฒนาหนังสั้นด้วย โปรแกรม Adobe
Premiere Pro CS3 ค่อนข้างช้า ทาให้ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ เพราะครูผู้สอนไม่สามารถสอน
เนื้อหาเพิ่มเติมได้