การสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต อบรมที่ เทศบาลชลบุรี 15-1-2556

1. สวัสดี (ภาษาประเทศสมาชิกอาเซียน)
ประเทศ คาอ่านภาษาอังกฤษ คาอ่านภาษาไทย
บรูไน Salamat Datang ซาลามัต ดาตัง
อินโดนีเซีย Salamat Siang ซาลามัต เซียง
มาเลเซีย Salamat Datang ซาลามัต ดาตัง
ฟิลิปปินส์ Kumusta กูมุสตา
สิงคโปร์ Ni Hao หนีห่าว
ไทย Sawadee สวัสดี
กัมพูชา Shuo Sa Dai ซัวสเด
ลาว Sabaidee สะบายดี
พม่า Mingalar Par มิงกาลาบา
เวียดนาม Xin Chao ซินจ่าว

2. เพราะแสวงหา มิใช่การรอคอย
เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส
เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย
ดังนี้แล้ว “ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน”
ขงเบ้ง

3. การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
โดย Pornthep Surawichai

4. การสืบค้นข้อมูล
• การนาความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต มาประยุกต์ใช้ใน
การศึกษาหาความรู้ ได้แก่ การสืบค้นข้อมูลทาง
อินเทอร์เน็ต โดยการใช้งานอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับ
การศึกษานี้จะสามารถแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ระดับ
ดังนี้
• 1. การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
2. การนาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน
3. การสร้างแหล่งข้อมูลด้วยตนเอง

5. การค้นคว้าด้วยการใช้ Search Engine
• การใช้งานงานอินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้กันอย่างมาก จะ
ได้แก่การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อหาความรู้ แต่
การเข้าเยี่ยมชมนั้น ในกรณีที่เรารู้ว่าเว็บไซต์เหล่านั้น
มีชื่อว่าอะไร เนื้อหาของเว็บ มุ่งเน้นเกี่ยวกับสิ่งใด เรา
สามารถที่จะเข้าเยี่ยมชมได้ทันที แต่ในกรณีที่เราไม่
ทราบชื่อเว็บเหล่านั้น แต่เรามีความต้องการที่จะค้นหา
เนื้อหาบางอย่าง มีวิธีการจะเข้าสืบค้นข้อมูลได้ โดย
การใช้ความสามารถของ Search Engine

6. • Search Engine จะมีหน้าที่รวบรวมรายชื่อ
เว็บไซต์ต่าง ๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่
ผู้ใช้งานเพียงแต่ทราบหัวข้อที่ต้องการค้นหาแล้วป้อน
คาหรือข้อความของหัวข้อนั้น ๆ ลงไปในช่องที่กาหนด
คลิกปุ่มค้นหา เท่านัน ข้อมูลอย่างย่อ ๆ และรายชื่อ
้
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจะปรากฏให้เราเข้าไปศึกษา
เพิ่มเติมได้ทันที

7. • Search Engine แต่ละแห่งมีวิธีการและการ
จัดเก็บฐานข้อมูลที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ
Search Engine ที่แต่ละเว็บไซต์นามาใช้
เก็บรวบรวมข้อมูล ดังนั้นการที่จะเข้าไปหาข้อโดย
วิธีการ Search นั้น อย่างน้อยเราจะต้องทราบว่า
เว็บไซต์ที่จะเข้าไปใช้บริการ ใช้วิธีการหรือ ประเภท
ของ Search Engine อะไร เนื่องจากแต่ละ
ประเภทมีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป

8. ประเภทของ Search Engine
• 1. Keyword Index
2. Subject Directories
3. Metasearch Engines

9. Keyword Index
• เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในเว็บเพจที่ได้ผ่านการ
สารวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล ประมาณ 200-300
ตัวอักษรแรกของเว็บเพจ วิธีการค้นหาของ Search
Engine ประเภทนี้จะให้ความสาคัญกับการเรียงลาดับข้อมูล
ก่อนหลัง การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่
มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย
เนื่องจากไม่ได้คานึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่ถ้าต้องการ
แนวทางด้านกว้างของข้อมูล การค้นหาแบบนี้จะเหมาะสมที่สุด เว็บที่
ให้บริการ Search Engine แบบ Keyword
Index ได้แก่เว็บ

11. Subject Directories
• การจาแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine
ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ของแต่
ละเว็บเพจ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่ง
แบบนี้จะใช้คนพิจารณาเว็บเพจ แต่ละเว็บ แล้วทาการ
จัดหมวดหมู่ โดยจะขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัด
หมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้น ๆ อยู่ในกลุ่ม
ของอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search
Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน
แล้วจึงนามาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป

13. Metasearch Engines
• จะเป็น Search Engine ที่ใช้ในการค้นหาเว็บ ด้วยตัวของ
Search Engine แบบ Metasearch
Engines เองแล้ว แต่ที่เด่นกว่านั้นคือ Search
Engine แบบ Metasearch Engines จะยัง
สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอืนๆ เพื่อ ่
เรียกดูข้อมูลที่ Search Engine อื่นๆ ค้นพบ โดยสังเกตได้
จากจะมีคาว่า [Found on Google, Yahoo!] ต่อ
ทางด้านท้าย นั้นก็หมายความว่าการค้นหาข้อความนั้นๆ มาการเชือม
่
โดยไปค้นข้อมูลจาก เว็บ Google และ Yahoo

14. • แต่การค้นหาด้วยวิธีนมีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะ
ี้
ไม่ให้ความสาคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร
และมักจะไม่ค้นหาคาประเภท Natural
Language (ภาษาพูด) และที่สาคัญ
Search Engine แบบ
Metasearch Engines ส่วนมาก
ไม่รองรับภาษาไทย

17. การสืบค้นข้อมูลแบบใช้คีย์เวิร์ด
• การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด ใช้ในกรณีที่ต้องการค้น
ข้อมูลโดยใช้คาที่มีความหมายตรงกับความต้องการ
โดยมากจะนิยมใช้คาที่มีความหมายใกล้เคียงกับเนื้อ
เรื่องที่จะสืบค้นข้อมูล
• การสืบค้นข้อมูล การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด มีวิธีการ
ค้นหาได้ดงนี้
ั

18. 1. เปิดเว็บเพจ ที่ให้บริการในการสืบค้นข้อมูล โดยพิมพ์ช่อง
เว็บที่ช่อง Address
www.mthai.com

19. • www.google.co.th เป็นเว็บที่ใช้สืบค้น
ข้อมูลของต่างประเทศ ข้อดีคือ ค้นหาง่าย เร็ว
• www.yahoo.com เป็นเว็บที่ใช้สืบค้นที่ดีตัว
หนึ่งซึ่งค้นหาข้อมูลง่าย
• www.sanook.com เป็นเว็บของคนไทย

20. • ในตัวอย่างจะเปิดเว็บ www.sanook.com
• 2. ที่ช่อง ค้นหา พิมพ์ข้อความต้องการจะค้นหา ใน
ตัวอย่างจะพิมพ์คาว่า การศึกษา
• 3. คลิกปุ่ม ค้น

21. ค้นหา

22. • 4. จากนั้นจะปรากฏรายชื่อของเว็บที่มี
ข้อมูล
• 5. คลิกเว็บที่จะเรียกดูข้อมูล

24. หลักการใช้คาในการค้นหาข้อมูล
• การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด เช่น ถ้าต้องการ
จะสืบค้นเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ความ
เป็นมาของเครื่องคอมพิวเตอร์ การค้นหาจึง
ต้องการเนื้อหาที่เจาะลึก การสร้างคา คีย์
เวิร์ด ต้องใช้คาที่เจาะลึกลงไปเพื่อให้ได้ข้อง
มูลที่เฉพาะคามากยิ่งขึ้น

25. • 1. การใช้คาที่คิดว่าจะมีในเว็บที่ต้องการจะค้นหา เช่น ต้องการ
จะหาข้อมูลเกี่ยวกับ บุคคล ที่ชื่อว่า นาย อุบล ถ้าเราพิมพ์ข้อมูลที่
ช่อง Search ว่า อุบล แล้วทาการค้นข้อมูล Search
Engine จะทาการค้นหาคา โดยจะค้นหารวมทั้งคาว่า
• จังหวัดอุบล อุบลราชธานี คนอุบล วิทยาลัยเกษตร
อุบล เทคโนโลยีอุบล
• ซึ่งเราจะเจอะ ข้อมูลจานวนมาก ดังนั้นการใช้คาในการค้นหา
ข้อมูลจึงต้องใช้คาเฉพาะเพื่อให้ได้ข้อมูลที่น้อยลง เช่น อาจจะ
พิมพ์คาว่า นาย อุบล พิมลวรรณ ซึ่งข้อมูลจะมีจานวนที่น้อยลง

26. • 2. ใช้เครื่องหมาย คาพูด (“ _ ”) เพื่อกาหนดให้เป็น
กลุ่มคา เช่น จะค้นหาคา ชื่อหนังสื่อที่ชื่อว่า โปรแกรม
PhotoShop สังเกตว่าคาที่จะค้นหา จะเป็นคาที่ต้อง
เว้นวรรค แต่เมื่อมีการสืบค้นด้วย Search Engine
ระบบจะค้นหาคาแบ่งเป็นสองคา คือคาว่า โปรแกรม และคา
ว่า PhotoShop จึงทาให้ข้อมูลที่ได้ผิดพลาด ดังนั้น
การสร้างคา จึงต้องกาหนดคาด้วยเครื่องหมายคาพูด จึงใช้คา
ว่า “โปรแกรม PhotoShop” ในการค้นหาแทน

27. • 3. ใช้เครื่องหมาย ลบ (-) ไว้หน้าคาที่ไม่ต้องการจะให้
ปรากฏอยู่ในรายการแสดงผลของการค้นหา เช่น ต้องการหา
ชื่อโรงเรียน แต่ทราบแล้วว่าโรงเรียนที่จะค้นหาไม่ใช้
โรงเรียนอนุบาล จึงต้องยกเลิกคาว่าอนุบาล โดยพิมพ์คาว่า
โรงเรียน -อนุบาล ผลที่ได้จะทาให้มีเฉพาะคาว่า โรงเรียน
ทั้งหมดแต่จะค้นหาคาว่า อนุบาล (*การพิมพ์เครื่องหมาย
ลบกับคาที่จะยกเลิกต้องติดกัน มิฉะนั้นระบบจะเข้าใจว่าจะ
ค้นหาคา 3 คา คือ คาว่า โรงเรียน คาว่า + และคาว่า
อนุบาล*)

28. การสืบค้นข้อมูลภาพ
• ในกรณีที่ต้องการที่จะค้นหาข้อมูลที่เป็นภาพ เพื่อนามา
ประกอบกับรายงาน มีวิธีการค้นหาไฟล์ภาพได้ดังนี้
• 1. เปิดเว็บ www.google.co.th
• 2. คลิกตัวเลือก รูปภาพ
• 3. พิมพ์กลุ่มชื่อภาพที่ต้องการจะค้นหา (ตัวอย่าง
ทดลองหาภาพเกี่ยวกับ ชลบุรี)
• 4. คลิกปุ่ม ค้นหา

30. 5. ภาพที่ค้นหาพบ

31. 6. การนาภาพมาใช้งาน ให้คลิกเมาส์ด้านขวาที่ภาพ >
Save Image as..

32. 6. กาหนดตาแหน่งที่จะบันทึกที่ช่อง Save in
7. กาหนดชื่อที่ช่อง File Name
8. คลิกปุ่ม Save

33. • หลังจากที่มีการสืบค้นข้อมูล ในกรณีที่ถูกใจเนื้อหา
ของเว็บที่สืบค้น และต้องการจะเก็บบันทึกข้อมูลที่
ค้นพบเก็บไว้ มีวิธีการบันทึกข้อมูลได้หลายวิธี
ได้แก่ การบันทึกชื่อเว็บ (Bookmarks) การ
บันทึกภาพ (Save as Picture) การ
บันทึกเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร (Copy) การบันทึก
เว็บเก็บไว้ (Save as) การบันทึกชื่อเว็บ
(Bookmarks This page)

37. การบันทึกเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร (Copy)
• ในกรณีที่ต้องการจะบันทึกเนื้อในส่วนที่เป็น
ตัวอักษรเก็บไว้เพื่อนาไปประกอบกับ
รายงาน โดยมีวิธีการกาหนดได้ดังนี้

38. 1. เปิดเว็บที่ต้องการจะบันทึกเนื้อหา เช่น

39. 2. ป้ายดาเลือกข้อความที่จะบันทึกเก็บไว้
3. คลิกเมาส์ด้านขวาที่ตัวอักษร คลิกคาสั่ง Copy

40. 4.เปิดโปรแกรมที่ตองการนาข้อความไปวาง เช่น PowerPoint
้

41. 5. คลิ๊กขวา แล้ว Paste

42. 6. ผลลัพท์ที่ได้

43. The Best of 2012

44. ที่มา :
• http://www.thaigoodview.com/library/teacher
show/nakhonsithamrat/nittaya_c/meaow2/pa
ge04_2.htm