More Related Content
Similar to 12 feb b750 (7)
12 feb b750
- 2. ประวัต ศ าสตร์โ ดยสัง เขป
ิ
กรุงรัตนโกสินทร์หรือกรุงเทพฯสถาปนา
ขึ้นเป็นราชธานีเมื่อ พ.ศ. 2325 สมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงปราบดาภิเษกขึ้น
เป็นปฐมกษัตริย์ และได้ย้ายเมืองจากกรุงธนบุรี
ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่นำ้าเจ้าพระยามาสู่
ทางด้านตะวันออก
ในสมัยรัชกาลที่ 1 และ2 บ้านเมืองยังไม่
ค่อยสงบเรียบร้อย ยังต้องทำาการศึกกับพม่าอยู่
เนืองๆ ศิลปกรรมในช่วงระยะเวลานี้สวนใหญ่
่
จึงมีลักษณะที่สบทอดมาจากสมัยอยุธยาตอน
ื
ปลาย
สมัยรัชกาลที่ 3 บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
- 3. เมื่อเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา
วิทยาการตะวันตกได้เข้ามามีบทบาทต่อความ
คิด และโลกทัศน์ของคนไทยในสมัยนั้น ทำาให้
มีมุมมองที่เป็นวิทยาศาสตร์ มีเหตุมีผล ซึ่งส่งผล
ต่อศิลปกรรมด้วย โดยศิลปะตั้งแต่รัชกาลที่ 4
เป็นต้นไปจะมีความสมจริงตามแบบอย่างตะวัน
ตก
หลังจากนันกระแสวัฒนธรรมจากชาติ
้
ตะวันตกก็ได้เข้าสู่ประเทศไทยจนถึงปัจจุบน ั
- 4. ประติม ากรรม :
พระพุท ธรูป
พระพุทธรูปใน
สมัยรัชกาลที่ 1-2
ส่วนใหญ่มีพุทธ
ลักษณะที่สืบทอดมา
จากศิลปะอยุธยาตอน
ปลาย ที่สำาคัญมีอยู่
องค์หนึ่งคือพระพุทธ
รูปคันธารราฐปางขอ
ฝน หล่อขึป ที่ 1) พระพุท ธรูป คัน ธารราฐปางขอฝน
(รู ้นในสมัย
รัชกาลที่ 1 (รูปที่ 1)
- 5. ะพุท ธรูป ทรงเครื่อ งยัง เป็น ที่น ย มทำา กัน เรื่อ ยมา (รูป
ิ
ที่สำาคัญคือ
พระพุทธรูปที่มีชื่อว่า
พระพุทธยอดฟ้า
จุฬาโลกและ
พระพุทธเลิศหล้า
นภาลัย ซึ่งรัชกาลที่
3 โปรดให้หล่อขึ้น
(รูป ที่ 2)
- 6. ในสมัย รัช กาลที่ 3 มีก ารคิด ค้น ปางใหม่ๆ ของ
พระพุท ธเจ้า ขึ้น อีก รวมเป็น 40 ปาง
(รูป ที่ 3)
- 8. ตั้ง แต่ส มัย นีจ ะนิย มการทำา พระพุท ธรูป ทีค รอง
้ ่
จีว รลายดอกมากขึ้น แต่ก ็น ย มอยูเ ป็น เวลาสัน ๆ
ิ ่ ้
เท่า นัน
้
(รูป ที่ 5)
- 9. สมัยรัชกาลที่ 4
มุมมองแบบตะวันตก
ที่เน้นในเรื่องความ
สมจริงได้ปรากฏมาก
ขึ้น ทำาให้พระพุทธ
รูปในสมัยนี้ครอง
จีวรสมจริงตามแบบ
ธรรมชาติ และ
พระพุทธรูปจะไม่มี
อุษณีษะ (กระโหลก
(รูป ที่6)
ศีรษะส่วนที่นูนออก
- 10. ตัง แต่น เ ป็น ต้น ไปพระพุท ธรูป สมจริง ตาม
้ ี้
แนวทางตะวัน ตกจะเป็น ทีน ิย มสืบ เนือ งต่อ มา
่ ่
(รูป ที่ 7)
- 11. สถาปัต ยกรรม :
เจดีย ์
ในสมัยรัชกาล
ที่ 1-3 เจดีย์ในสมัยนี้
ยังคงสืบทอดรูปแบบ
มาจากเจดีย์ในสมัย
อยุธยาตอนปลาย
เช่น เจดีย์เพิ่มมุมหรือ
ย่อมุม (รูปที่ 8)
(รูป ที่ 8)
- 12. ในสมัย รัช กาลที่ 3 ยัง มีก ารสร้า งเจดีย ท ส ำา คัญ
์ ี่
ทีส ด องค์ห นึง ในสมัย รัต นโกสิน ทร์ข ึ้น นั่น คือ พระ
่ ุ ่
ปรางค์ว ัด อรุณ ราชวราราม (รูป ที่ 9)
(รูป ที่ 9)
- 13. สมัย รัช กาลที่ 4 สืบ
เนื่องจากก่อนที่
พระองค์จะได้ขึ้น
ครองราชสมบัติได้
เคยเสด็จธุดงค์ทางหัว
เมืองฝ่ายเหนือ และ
ได้ประทับอยู่ ณ
พระราชวังที่กรุง
ศรีอยุธยา ทำาให้เกิด
พระราชนิยมส่วนตัว
(รูป ที่ 10)
ในการเลียนแบบ
- 14. สถาปัต ยกรรม : อาคารหลัง คาคลุม
อาคารศาสนสถานในสมัยรัชกาลที่ 1-2
ยังคงสืบทอดรูปแบบมาจากสมัยอยุธยาตอน
ปลาย พอมาถึงในสมัยรัชกาลที่ 3 เกิดอาคารที่
ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีนขึ้นกล่าวคือ หน้าบัน
ทำาด้วยปูน ไม่ประดับช่อฟ้า ใบระกา ่ หางหงส์
(รูป ที 12)
บางครั้งอาจประดับด้วยลายมงคลจีน เสารองรับ
หลังคาเป็นทรงสีเหลี่ยมทึบตัน ไม่มีบวหัวเสา
่ ั
(รูป ที่
11)
- 15. อิท ธิพ ลตะวัน ตกแพร่เ ข้า มามากในสมัย
รัช กาลที่ 4 เป็น ต้น ไป ทำา ให้เ กิด อาคารทีใ ช้ว ัส ดุ
่
แบบตะวัน ตก เช่น หิน อ่อ น (รูป ที่ 13)
(รูป ที่ 13)
- 16. สำา หรับ ปราสาทราชวัง ในช่ว งแรกยัง เป็น แบบ
อย่า ทีส ืบ ทอดมาจากสมัย อยุธ ยาตอนปลายคือ
่
ปราสาทแบบประเพณีไ ทยทีม ย อดแหลม (รูป
่ ี
ที่ 14)
(รูป ที่ 14)
- 17. เมือ อิท ธิพ ลตะวัน เข้า มาทำา ให้ป ราสาท
่
ราชวัง ของไทยได้เ ปลี่ย นไปเป็น แบบตะวัน ตก
ด้ว ย แต่ส ำา หรับ พระทีน ง จัก รีม หาปราสาทกลับ
่ ั่
มีย อดเป็น แบบไทย แต่ต ัว เรือ นเป็น แบบตะวัน
ตก(รูป ที่ 15)
(รูป ที่ 15)
- 18. จิต รกรรมฝาผนัง
จิตรกรรมฝาผนังในสมัยรัชกาลที่ 1-2 ยัง
สืบทอดทั้งเรื่องราวและรูปแบบมาจากสมัยอยุธยา
ตอนปลาย ได้แก่ นิยมทำาเรื่องเทพชุมนุม พุทธ
ประวัติ หรือทศชาติชาดก มีการทำาเส้นสินเทาแบ่ง
เรื่องราวต่างๆออกจากกัน (รูปที่ 16)
(รูป ที่ 16)
- 19. แต่พอมาถึงสมัย
รัชกาลที่ 3 เส้น
สินเทาได้หมด
ความนิยมลง หันมา
ใช้ต้นไม้หรือ
ทิวทัศน์ธรรมชาติ
คันเรื่องราวต่างๆ
่
ออกจากกัน
นอกจากนี้พื้นหลัง
ของภาพก็มีสีที่ทึบ (รูป ที่ 17)
เช่น สีนำ้าเงิน(รูปที่
- 20. ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นไป อิทธิพลจาก
ตะวันตกได้เข้ามามีบทบาทต่อจิตรกรรมมากขึ้น
มีผลต่อเรื่องราวที่ถ่ายทอดซึ่งบางครั้งทำาเป็น
เรื่องราวในประวัติศาสตร์ ส่วนในเรื่องของ
เทคนิคมีความสมจริงมากขึ้นโดยใช้หลักทัศนีย
วิทยา หรือเส้นนำาสายตา ลวงให้ดูเหมือนว่า
ภาพมีความลึกความนูนเป็น 3 มิติ (รูปที่
18-19)
(รูป ที่ (รูป ที่ 19)
18)