More Related Content
Similar to มหัศจรรย์โมเลกุล
Similar to มหัศจรรย์โมเลกุล (20)
มหัศจรรย์โมเลกุล
- 2. บทที่ 1
บทนา
แนวคิด ที่มาและความสาคัญ
โรงเรียนอำมำตย์พำนิชนุกูล กลุ่มสำระวิทยำศำสตร์ ได้มีกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ใน
รำยวิชำ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS) ในระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ปี
กำรศึกษำ 2557 แผนวิทย์-คณิต กำรที่นักเรียนแผนวิทย์-คณิต ได้มีกำรเรียนรู้ใน
รำยวิชำ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และ โลกดำรำศำสตร์ อวกำศ จึงมีผลทำให้กลุ่มของดิฉันมีควำม
สนใจในรำยวิชำเคมี ที่มีเนื้อหำเกี่ยวกับมหัศจรรย์โมเลกุล ในหัวข้อเรื่อง น้ำโมเลกุลเล็ก
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในกำรศึกษำของผู้ที่มีควำมสนใจในเรื่องนี้ต่อไป
วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อศึกษำและดำเนินกำรจัดทำรำยงำนเรื่อง น้ำโมเลกุลเล็ก
2. เพื่อรวบรวมและพัฒนำเนื้อหำเกี่ยวกับเรื่องน้ำโมเลกุลเล็ก
3. เพื่อสำมำรถนำควำมรู้เรื่องน้ำโมเลกุลเล็กไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
4. เพื่อเป็นแนวทำงกำรศึกษำให้กับผู้สนใจและพัฒนำเนื้อหำ เรื่อง น้ำโมเลกุลเล็ก
- 4. บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลการศึกษาค้นคว้า น้ำโมเลกุลเล็ก (Micro Cluster Water) หมำยถึงน้ำที่ไหล
ผ่ำนสนำมแม่เหล็กแรงสูง หรือไหลผ่ำนพลังงำนอันเกิดจำกรังสีอิฟำเรดลงไป แต่
คุณสมบัติทำงเคมียังคงเดิม โมเลกุลยังคงเป็น ไฮโดรเจน (Hydrogen) 2 อะตอม กับ
ออกซิเจน (Oxygen) 1 อะตอมเหมือนเดิม โครงสร้ำงทำงกำยภำพที่เปลี่ยนแปลงเกิด
จำกอำนำจของสนำมแม่เหล็กที่กระทำต่อ มุมพันธะไฮโดรเจน (Hydrogen Bonds)
ทำให้แรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงโมเลกุลของน้ำลดลงจำกเดิม 75 dynes / ตำรำง
เซนติเมตร (น้ำประปำ) เหลือ 30-45 dynes / ตำรำงเซนติเมตร กลุ่มโมเลกุลน้ำที่เคย
เกำะกันเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มละ 10-14 โมเลกุล จะลดลงเหลือเพียงกลุ่มละ 4-6
โมเลกุล (หรือที่เรียกว่ำน้ำ 6 เหลี่ยม) ซึ่งมีคุณประโยชน์สำคัญต่อกำรดำรงชีวิตของ
สิ่งมีชีวิต และน้ำโมเลกุลเล็กยังมีประโยชน์ ดังต่อไปนี้
- 5. 1. ป้องกันโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis): เพรำะคุณสมบัติที่มีควำมเป็นด่ำงทำให้
ร่ำงกำยไม่ต้องดึงแคลเซียม และแมกนีเซียมที่สะสมในกระดูกเพื่อกำรปรับสมดุลกับกรด
ในร่ำงกำย จนทำให้กระดูกสูญเสียแคลเซียม เกิดเป็นรูพรุน บำง มวลกระดูกลดลง
นอกจำกนี้ยังป้องกันไม่ให้ฟันผุอีกด้วยเพรำะผิวชั้นนอกของฟัน ไม่ต้องสูญเสียแคลเซียม
และแมกนีเซียมเช่นกัน
2. ป้องกันโรคหัวใจ (Heart Disease): เนื่องจำกในชีวิตประจำวัน ร่ำงกำยจะสร้ำงสภำวะ
ควำมเป็นกรดอยู่เกือบตลอดเวลำ จำกระบบเมตำบอลิซึ่ม จำกมลภำวะ และจำกอำหำรที่มี
โปรตีนสูง ทำให้ร่ำงกำยต้องปรับสมดุลตัวเองโดยกำรดึงแคลเซียม แมกนีเซียม จำก
กระดูก และบำงครั้งจำกกล้ำมเนื้อหัวใจ เพื่อกำรปรับสมดุลตลอดเวลำ และหำกไม่มีกำร
เสริมกลับเข้ำไปจนเมื่อถึงจุดหนึ่ง แมกนีเซียมซึ่งเป็นตัวสำคัญในกำรสร้ำงพลังงำนระดับ
เซลล์มีไม่เพียงพอ เซลลกล้ำมเนื้อหัวใจจะหยุดทำงำนเพรำะขำดเชื้อเพลิง และหัวใจจะ
หยุดเต้น จึงกล่ำวได้ว่ำแร่ธำตุแคลเซียมและแมกนีเซียม เป็นแร่ธำตุหลักที่จำเป็นอย่ำงยิ่ง
เพรำะเป็นตัวควบคุมกำรทำงำนของเอนไซในฐำนะ cofactor ซึ่งทั้งแคลเซียมและ
แมกนีเซียม มีปริมำณมำกพอในน้ำจำกแหล่งน้ำธรรมชำติ
- 6. 3. ป้ องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือด (Ischemia): โดยช่วยให้
ความเหนียวและความข้นของเลือดลดลง เพราะน้ากลุ่มโมเลกุลเล็ก
จะช่วยให้เลือดเคลื่อนไหว และไหลได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้น้าใน
เลือดที่มาหล่อเลี้ยงเซลล์ ยังมีสารอาหารเอนไซม์ และออกซิเจน
ละลายอยู่อย่างเพียงพอ จึงช่วยให้กระบวนการสร้างพลังงาน ATP
เป็นไปโดยสมบูรณ์ อวัยวะของร่างกายที่ต้องใช้พลังงานสูงสุดคือ
หัวใจและสมอง ดังนั้นปัญหาการขาดสารอาหาร และขาดพลังงา
ATในระดับเซลล์ จะกระทบต่อหัวใจและสมองเป็นอันดับแรก น้า
พลังแม่เหล็กนี้ในทางอุตสาหกรรม
ข้อเสนอแนะ ศึกษาหาข้อมุลเพิ่มเติมจากผู้รู้หรือแหล่งข้อมูลที่
หลากหลายเพิ่มเติม